Share

บทที่ 3 : ในซอกตึก

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-03 03:31:16

คล้ายกับมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างแต่ไม่ใช่! พวกเขาเรียกยานพาหนะชนิดนี้ว่า Gravitybike เพราะว่ามันไม่มีล้อ! เจ้ายวดยานคันนี้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ด้วยการลอยตัว อันเป็นผลพวงมาจากการกลับข้างสมการแรงโน้มถ่วงของเซอร์ไอแซกนิวตัน พอทีมนักพัฒนาจาก Parallel ได้ค้นพบความลับข้อนี้เข้า แรงดึงดูดของโลกจึงกลายเป็นแรงผลักหนีศูนย์ (Vortex finder) ไปโดยปริยาย พวกเขานำมันมาติดตั้งเข้ากับส่วนล่างของตัวรถ ทำให้การบินสูงบินต่ำนั้นง่ายเพียงแค่กดปุ่ม ยังมีลูกเล่นซ่อนไว้ใน Gravitybike อีกเพียบ แต่น่าเสียดายที่มันต้องได้รับการอนุมัติซะก่อนด้วยเหตุผลในการปิดบังตัวตน

.

ขณะบิดคันเร่งอยู่ เจฟเฟอร์วิทยุติดต่อไปที่ออฟฟิศเพื่อรายงานว่าเขากำลังจะเอาของที่ได้มาไปส่งให้

.

“ซู่ซ่าาาา.. ซู่ซ่าาาา แคท!.. เฮ้! ได้ยินพี่ไหม.. สัญญาณไม่ดีเลย พี่ว่าพี่จะขอ.. แปลง.. ง.. ง”

“ซู่ซ่า.. ซ่าาาา!”

ไร้ซึ่งสัญญาณตอบรับ ดูท่าแอดมินประจำออฟฟิศอย่างสาวน้อยแคทเทอรีนคงยังไม่ได้รับข้อความอะไรทั้งสิ้น ลมพัดตีเข้าหน้าทำเอาผมเผ้าที่อุตส่าห์เซ็ตใหม่มาเป๋สะบัด

.

“เวรเอ๊ย! ให้ตายเถอะแคท! หัดปรับปรุงช่องสัญญาณบ้างสิ แบบนี้จะติดต่อกันได้ไง? สบายเกินไประวังโดนบอสเฉ่งเอานะ เพราะจริง ๆ แล้วการแปลงมวลสารจากก้อนความทรงจำน่ะ มันเป็นงานของพวกเธอไม่ใช่พวกฉัน!”

ชายหนุ่มมุ่ยหน้าหลับตานึกย้อนไปถึงเด็กสาวชะเอม เจ้าของความเงี่ยนที่เขาเพิ่งสูบออกมาเมื่อครู่ ก่อนจะเริ่มชะลอความเร็วของ Gravitybike ลง

.

“นั่นสินะ.. พวกเธอคงวัยไล่เลี่ยกัน จะไปคาดหวังอะไรกับเด็กเล่าไอ้เจฟเอ๊ย! มีแต่นึกสนุกไปวัน ๆ งานการไม่ทำ ความรับผิดชอบอะไรก็ไม่รู้จัก ฉันน่ะแค่ต้องการคำสั่งอนุมัติใช้เครื่องแปลงมวลสารแบบเร่งด่วนก็แค่นั้น ความเงี่ยนมันค่อนข้างพิเศษ มันเก็บไว้ไม่ได้นานเข้าใจไหม!"

.

"เย็ดเข้! อะไร ๆ ก็ไม่พ้นมือกูสักอย่างสิวะเฮ่ย!”

.

บ่นพึมพำกับตัวเองเสร็จปุ๊บ หางตาก็เหลือบมองมายังแผนที่ดิจิตอลบนหน้าปัดคอนโซล เขากวาดสายตาไปมามองหาพื้นที่รกร้างใกล้ ๆ กับออฟฟิศ ผ่านไปสักพักถึงได้เลี้ยวรถเข้ามาในซอกตึกโทรม ๆ ตรงนี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารสูงสองหลังประกับติดกัน ข้างในเป็นซอยตันและด้านหน้ามีถังขยะเหล็กใบใหญ่ขวางกั้นอยู่ ซึ่งเป็นอะไรที่เหมาะมากสำหรับการฆ่าข่มขืน

.

“ติ๊ด!”

“พรึบบ! , ฟู่..!”

.

กดปุ่มดับเครื่องลงจอดแตะพื้น เศษฝุ่นตีฟุ้งขึ้นเล็กน้อยแต่ยังดีที่ไม่มีใครเห็น เจฟเฟอร์เริ่มออกอาการลับล่อ ๆ เขากระโดดคร่อมไปอีกด้านของยานพลางดึงเอาหน้าจอมอนิเตอร์บนคอนโซลออกมาใช้ ราวกับมันเป็นกระดานแท็ปเล็ต

.

“พื้นที่ ๆ เราอยู่ตรงนี้คือถนนยอร์คชินฝั่งตะวันตก ห่างจากออฟฟิศ Parallel ไป 4 บล็อคถนน อืม.. ใช้ได้! ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นพวกนั้นคงเก็บกวาดได้ทัน โอเค! มาลงมือกันเลยดีกว่า!”

ชะเง้อคอมองไปทั่ว ๆ อีกที เช็คความชัวร์เป็นครั้งสุดท้ายว่าปลอดคน

.

“ก่อนอื่นต้องขอวกกลับไปเช็คเหยื่อซะหน่อยว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

.

“ติ๊ด!”

จอแท็ปเล็ตโหลดบัฟเฟอริ่งอยู่สักพัก เพื่อทำการแฮ็คภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแถวนั้น แล้วสิ่งที่เจฟเฟอร์ได้ยินและเห็นก็คือบทสนทนาบางช่วงบางตอนของหนูชะเอมจอมหื่น กับพวกอาสามูลนิธิ

.

“พวกแกเป็นใคร! แกทำอะไรฉัน? มาแกะกระดุมฉันทำไม.. อย่านะอย่าทำอะไรฉัน! ”

ชะเอมยกมือป่ายป้องปกปิด ถดตัวถอยหนีออกห่างกลุ่มชายฉกรรจ์ที่กำลังจ้องมองนมกลมสวย แสดงถึงความได้ผลของการดูดก้อนความคิด ดูทรงแล้วเหมือนว่าชะเอมจะจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง

.

“ก็น้องจมน้ำแล้วพวกพี่ก็กำลังปั้มหัวใจให้เนี่ยะ ไม่มีอะไรเลย! อย่าพูดไปทั่วสิคนอื่นเขาเสียหาย ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ ใจเย็น ๆ ตั้งสติก่อน!”

หัวหน้าหน่วยขึ้นเสียงสูงตอบโต้

.

“ไม่ใช่อ่ะ! หนูจำอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย หนูว่ายน้ำไม่เป็นแล้วหนูจะกระโดดลงไปในน้ำทำเพื่อ! มันไม่เมคเซนต์เลยพวกลุงโกหก ไม่จริง.. ถอยไปหนูจะกลับบ้าน! , อ๊ะ!”

.

“อุ๊ย!”

.

“อื้อ.. เสียวหีจัง อยู่ ๆ ก็.. อื้อ.. อ.. อ..”

.

ชะเอมคิดในใจแต่ไม่ปริปาก เธอโก่งตัวโค้งเอามือปิดที่หว่างขา แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็จำอะไรไม่ได้อยู่ดี สิ่งเดียวที่รู้คือการตวัดรัดของติ่งเสียวที่ตอดตุ๊บ ๆ ๆ ! อยู่ตลอดเวลาราวกับเพิ่งผ่านการถูกกระตุ้น

.

“เป็นอะไรไปอีกล่ะคราวนี้ พวกพี่ยืนห่างเป็นกิโลเลยนะ? ไปโรงบาลดีกว่าไหมให้หมอเขาเช็ค?”

.

ใบหน้าที่แดงก่ำ สะโพกส่ายโยกเย้าเร้าอารมณ์

.

“อะ.. อือ ก็ดีค่ะ.. มีน้ำอะไรก็ไม่รู้ไหลเปื้อนเกงในเต็มไปหมดเลย ขาหนูสั่นไปหมดแล้ว.. ว.. ว”

.

"ฟึบ!!!"

.

.

ตัดภาพกลับมาที่เจฟเฟอร์ในซอกตึก เขาพยักหน้าลูบคางพออกพอใจเพราะอย่างน้อยก็ยังภูมิใจที่ได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่ง

.

“ดีแล้วล่ะให้หมอช่วยอีกแรงก็เวิร์คอยู่เหมือนกัน หายาแดกสักเม็ดสองเม็ดน่าจะดีขึ้น ถึงจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แต่สิ่งที่เราทำก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติแล้ว เด็กคนแรกจบไปยังเหลือเด็กอีกคนที่ต้องช่วยสินะ.. หึ ๆ ”

.

“บอกตรง ๆ นะแคท ถ้าไม่ใช่เพราะก้นงอน ๆ ของน้องกับสะโพกดินระเบิดบึ้มบ้ำ ฉันจะไม่ช่วยเลย ฉันแค่ไม่อยากเห็นเธอโดนไล่ออก แค่อยากทำงานกับเธอไปนาน ๆ แค่นั้นจริง ๆ ”

.

เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ บรรจงสอดแท็ปเล็ตคืนไว้บนคอนโซลตามเดิม เขาเดินอ้อมมาที่อีกด้านของ Gravity bike แต่ด้วยความที่รูปร่างของมันถูกอำพรางไว้ให้เหมือนกับมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างตามตลาดสด พื้นที่ต่อพ่วงตรงนี้เลยสามารถบรรทุกอะไรต่อมิอะไรลงไปได้เยอะ แม้กระทั่งเครื่องแปลงมวลสาร

.

“เดี๋ยวนะขอฉันทวนแป๊บ.. น่าจะปุ่มนี้ล่ะมั้ง..?”

.

“ติ๊ด!”

.

คุณพระช่วยกล้วยหักมุก! แม้ว่าเจฟเฟอร์จะเคยเห็นอะไรแบบนี้มาบ้าง แต่สาบานได้ว่าเจอทีไรก็ตื่นตาตื่นใจไปซะทุกที เมื่อจู่ ๆ ส่วนพ่วงข้างที่เหมือนเป็นโลหะธรรมดา ๆ ของ Gravity bike ก็เกิดสภาวะการหมุนเวียนเปลี่ยนสลับ! ชิ้นส่วนจักรกลมากมายเคลื่อนที่ขึ้นลงอย่างกับทรานซ์ฟอร์เมอร์! เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการขัดสีกันดังกึกก้อง! ชั่วเสี้ยวอึดใจทุกอย่างก็จบลง และได้ออกมาเป็นเครื่องมือรูปร่างประหลาดที่ลักษณะคล้ายกับอุโมงค์ขนาดเล็ก

.

มันยังคงเชื่อมติดอยู่กับตัวรถตามเดิม เป็นนัยว่าสามารถใช้ระหว่างเคลื่อนที่ได้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น ทว่าตอนนี้คงยังก่อนเจฟเฟอร์มีเวลาเหลือเฟือแล้วก็ไม่รีบมาก ก็เลยค่อย ๆ สอดแขนข้างซ้ายที่เพิ่งดูดเอาก้อนความทรงจำสุดเงี่ยนของชะเอมใส่เข้าไปในอุโมงค์

.

“วู้ววว.. เย็นเจี๊ยบเลย ขอออกมาสวย ๆ หน่อยนะ ให้สมกับที่ฉันลงทุนลงแรงหน่อย”

.

แม้ต้องยืนเอียงกระเท่เร่เพื่อสอดแขน แต่เจฟเฟอร์ก็ยังคงปากมากอยู่เช่นเคย เขาเอื้อมมือขวาที่ว่างไปแตะที่หน้าจอต่อด้วยการออกคำสั่งให้เครื่องแปลงมวลสารเร่ิมต้นเดินเครื่อง

.

“สวิทซ์ออน!”

.

พื้นดินสั่นพับ ๆ ๆ ! ภายในอุโมงค์เปล่งแสงสีทองเหลืองอำพัน! ความสว่างเจิดจ้าของมันทำเอาเจฟเฟอร์ต้องเบี่ยงหน้าหลบ พลางงัดเอาฟังค์ชันจากเลนส์เรติน่าขึ้นมาปกป้องดวงตา ลูกนัยน์ตาคลี่ตัวออกเป็นใบพัดทำให้ทุกอย่างรอบตัวกลายเป็นสีเขียว ด้วยมุมมองแบบ First- person เจฟเฟอร์สามารถเหลือบดูแถบดาวน์โหลดบอกสถานะบนอุโมงค์ได้อย่างสบาย

.

- ที่ตัวเลข 40% เขามองเห็นอะตอมพลังงานลอยตุ๊บ ๆ ออกมาจากรูขุมขน มันถูกดูดขึ้นไปข้างบนเพดานอุโมงค์แล้วค่อย ๆ ไหลไปตามท่อคดเคี้ยวที่อยู่ส่วนล่างของเครื่อง

.

- ที่ตัวเลข 60% ควันชักเริ่มขึ้น! ได้ยินเสียงดังซู่.. แว่วออกมาจากผิวหนัง ทั้งยังเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาตะหงิด ๆ

.

“เอาแล้วไงมึง?! มันเจ๊งรึเปล่าวะเนี่ยะไม่ใช่ครบ 100% ได้ของออกมา แล้วกูแขนขาดนะเฮ่ย! หวังว่ายัยแคทเทอรีนตูดงอนจะเช็คสภาพเครื่องก่อนให้เราเอาออกมาใช้นะ? ”

.

- ที่ตัวเลข 80% ดันดูดเข้าไปทั้งไหล่! คุณพระช่วย! เมื่อเจฟเฟอร์ดันถลันถลาไปตามแรง! เขาพยายามใช้มือข้างขวาออกแรงผลักสุดชีวิต! กัดกรามแน่นเหงื่อแตกซิก ๆ

.

“เชี้ยเอ๊ย! เมื่อกี้กูประชดโว๊ย! อ๊ากกกกหนังกูหลุดหมดแล้ว ร้อน ๆ ๆ ๆ !!! ”

.

“ไอส้นตีนกูไม่ยอมเสียแขนไปแน่ ไม่ต้องแปลงแม่งแล้วมวลสารห่าเหวอะไรเนี่ยะ! ต้องยิงมันทิ้ง! ต้องทำลายมันทิ้ง! ในตอนนี้เลย! , ฮึบ!”

.

ภายใต้สถานการณ์วิกฤตอันเกิดจากการหาเรื่องใส่ตัว เจ้าหน้าที่ภาคสนามตัดสินใจประชิดตัวติดกับตัวเครื่องที่ทั้งสั่น! ร้อน! และจวนเจียนจะลุกเป็นไฟ! เขาไม่มีเวลาให้พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไปแล้ว จึงหักข้อพับตรงนิ้วชี้ลง เปลี่ยนมันเป็นกระบอกปืน เตรียมจะยิงกระสุนพลังงานเพื่อทำลายวิทยาการอันล้ำค่าขององค์กรตัวเองทิ้ง

.

- ที่ตัวเลข 90% และแถบสีเขียวกำลังจะเต็มหลอดอยู่รอมร่อ! เจฟเฟอร์สังเกตเห็นแล้วว่าที่ปลายอุโมงค์มีละอองอะตอมเล็ก ๆ จำนวนมากกำลังเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างของพืชชนิดหนึ่ง

.

“เหลืออีก 10 วินาทีจะสมบูรณ์ อีก 10.... 9…. 8…. 7”

.

“โอ๊ยอีดอกเอ๊ย! ยังจะมีคอมพิวเตอร์มานับถอยหลังอีกเหรอ แขนกูจะละลายกลายเป็นน้ำหมดแล้วแม่มเอ๊ย! อ๊ากกกก อึกกกก อ๊ากกกก กูทนไม่ไหวแล้วโว๊ย! ยะ.. ยิง.. ง.. ง”

.

เดชะบุญที่กว่าจะยิงกระสุนพลังงานได้มันต้องชาร์จประจุซะก่อน กว่าแสงสว่างที่ปลายนิ้วจะรวมตัวกันจนพร้อมก็กินเวลามากกว่า 7 วิ ก็เลยทำให้เครื่องแปลงมวลสารทำงานได้เสร็จก่อน! แล้วก็เป็นมันอีกนั่นแหละที่เหมือนจะรู้ว่าเจฟเฟอร์กำลังคิดอะไร แขนข้างซ้ายของเขาที่สอดอยู่ในอุโมงค์จึงถูกดีดออกมาอย่างรวดเร็ว! ทำเอาเจ้าตัวเสียหลักล้มหงายท้องหงายไส้หลังคลุกฝุ่น!

.

เนื้อหายไปแถบหนึ่ง โลหะไทเทเนียมคาไบต์ที่ใช้แทนกระดูกหลอมละลายผิดรูป ระบบการยิงกระสุนรวมไปถึงสายไฟต่าง ๆ เสียหายหนัก คือสภาพแขนของเขาหลังจากตรวจเช็ค ทว่าเจฟเฟอร์กลับกำลังยิ้ม เขาประคองตัวเองลุกขึ้นยืนจัดแจงกดปุ่มสั่งการให้ Gravity bike พับกลับมาใช้โหมดปกติ จดจ้องดูการทรานซ์ฟอมร์มคืนรูปยานสลับกับการหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า

.

“ฮั่ว.. ฮ่า ๆ ๆ มันต้องแบบนี้สิวะถึงจะคุ้มค่ากับแขนที่เสียไปหน่อย”

.

“อืม.. สวยเชียว เป็นช่อดอกลาเวนเดอร์สีม่วงที่ดูมีเสน่ห์มากเหลือเกิน บอสน่าจะชอบ”

.

แขนซ้ายห้อยต่องแต่ง แต่ยังคงใช้มือขวาก้มลงไปที่พื้นเพื่อหยิบเอาเหล่าดอกไม้ที่เพิ่งแปรสภาพออกมาใหม่ ๆ มาปักไว้บนส่วนพ่วงข้างของรถ ควันหอมฉุย

.

“เอาเป็นว่าฉันจะแบ่งไว้ให้เธอด้วยล่ะกันนะแคทเธอรีน ของแท้แรร์ไอเท็มระดับนี้ถ้าได้ไปประดับหน้าร้านลูกค้าต้องเพียบแน่ เธออาจมองฉันว่าหล่อขึ้น ไม่แน่เราอาจจะได้สานสัมพันธ์กันหลังจากนั้น.. หึ ๆ ”

.

แล้วเจฟเฟอร์ก็กระโจนขึ้นยานพาหนะบึ่งออกไป เป้าหมายคือออฟฟิศ Parallel ที่อยู่ใกล้ ๆ โดยไม่ลืมที่จะเก็บพลังความเงี่ยนของชะเอมไว้ในความทรงจำ

.

เพราะหลังจากเอาเข้าเครื่องแปลงมวลสารออกมาแล้วนั้น.. มันกลับกลายเป็นอะไรที่มีค่ามากมายเหลือเกิน!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 28 : พายุสาปฝุ่นตลบหนี กระจัดกระจาย

    กระจัดกระจายจริง ๆ สมกับชื่อบท เพราะนอกจากจะบินเข้ามาโฉบเอาร่างของเจฟเฟอร์เอาไว้ไม่ให้หล่นลงไปตายแล้ว บนฟากฟ้ายังมีพวกมันอีกเป็นโขยง! ท้องฟ้าที่เคยสดใสแดดจัด ๆ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันเป็นล้าน ๆ ตัว."อะไรกัน! พวกแกอีกแล้วหรอ!"."หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "."ฮู้ววว! ไม่รู้ยังไงเหมื่อนกันแต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาช่วย พาฉันลงไปข้างล่างที".กลุ่มก้อนแมลงวันดำขลับเป็นขยุยกระจายตัวไปเกาะตามแขนขาแล้วก็เสื้อผ้า ก่อจจะค่อย ๆ ลดระดับความสูงลงเรื่อย ๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง พร้อมกันนั้นไฟสีเขียวในหูฟังก็เริ่มกระพริบปิ๊บ ๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หางตาของเจฟเฟอร์ดันชำเลืองไปเจอเข้า เขาก็เลยมีความคิดที่จะดึงมันออกมาเช็ดดู จะได้รู้ว่าเป็นเพราะเจ้านี่รึเปล่าที่เรียกพวกแมลงวันมา แต่ทว่ายังไม่ทันจะทำอะไรเลย! จู่ ๆ หมู่ภมรอีกกลุ่มซึ่งอยู่อีกด้านของฟากฟ้าก็ชิงตัดหน้าเขาซะงั้น! พวกมันบินโฉบลงมาเป็นก้อนสีดำขนาดเท่าลูกบาส พุ่งมาที่ใบหูแล้วก็ดึงเอาหูฟังออกให้.ซึ่งพอวัตถุเล็กจิ๋วนั่นถูกส่งถึงฝ่ามือเท่านั้นแหละ ความฉิบหายก็บังเกิดทันที! คุณพระคุณเจ้าเอ๊ย! หล่นกระแทกพื้นสิครับจะเหลือเหรอ."ฟึบบบ! ,

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 27 : พายุหมุนฝุ่นตลบ กลบแผ่นดินทันที

    ไหลพรืด ๆ อย่างกับบันไดเลื่อน ร่างอันอิดโรยของเจฟเฟอร์ไม่อาจต่อต้านเพราะดันเสร่อฝังตัวเองไว้ในทราย เป็นกรรมหรือความโง่ก็ไม่รู้แต่ที่รู้คือเจฟเฟอร์แม่งไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ชัวร์ ๆ ตัวเขาลอยปลิวไปพร้อมกับทราย โดยมีพิกัดเป้าหมายอยู่ที่อุ้งตีนของเจ้าแซนดี้."อั๊ก! โอ๊ก! อั๊ก! แค็ก ๆ ใครจะไปรู้ว่ะว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย.. อั๊กกก! อึกกก!"."อุตส่าห์คิดว่าหลบพ้นแล้วแท้ ๆ ที่ไหนได้ดันโดนดึงเข้าไปหา อ๊วกกก! อั๊กกก! ตายห่าแน่กู!".หลับตาปี๋พลางรอจังหวะสูดลมหายใจเข้าเป็นระยะ ร่างหนาของเจ้าหน้าที่หนุ่มดำผุดดำว่ายจอมจมอยู่ในกระแสธารแห่งชะตากรรม เขาคาดเดาไม่ได้ว่าแต่นี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะลำพังแค่ประคองตัวไม่ให้สำลักทรายตายไปซะก่อนก็บุญแค่ไหนแล้ว.บางทีสาเหตุของเรื่องอาจเป็นเพราะเจ้าตัวนั้นชะล่าใจเกินไป ก่อนหน้านี้ตอนที่เจฟเฟอร์เพิ่งจะกลบทรายฝังตัวเองใหม่ ๆ เขาก็เอะใจอยู่แล้วเชียวว่าเจ้ายักษ์แซนดี้มันมีท่าทีแปลก ๆ เขาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่ามันคงจะหาเขาไม่เจอ ก็เลยถอดใจก้มหน้าก้มตาเงินงกพลางเอาแขนจุ่มลงไปในพื้นทรายคล้ายกับว่าจะยอมแพ้แต่ที่ไหนได้เจฟเฟอร์ดันคิดผิด! เพราะชั่วพริบตาหลังจา

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 26 : เปรี้ยงปร้างสว่างไสว อันตรายไปทุกที่

    "ไม่ทันแล้วหมอ มันฟาดลงมาแล้ว อร๊ากกกกก!!!".เจฟเฟอร์ร้องลั่นเขายกมือขึ้นค้ำแม้จะรู้ดีว่าเป็นดั่งไม้ซีกงัดไม้ซุง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพราะท่วงท่าแต๋วแตกดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้เจ้าตัวยังคงมีชีวิตรอด เมื่อหมอยูมิโกะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของปลายสายได้ใช้ปฏิิภาณไหวพริบตะโกนสวนออกไปว่า."Drain!!!"มันดังซะจนเจฟเฟอร์คิดว่าแก้วหูตัวเองคงแตก มันดังจนลอดผ่านหูฟังออกมาแล้วก็ไปรันเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ภายในของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม.เพียงเสี้ยวอึดใจวินาทีที่ฝ่ามือทรายใหญ่เบิ้มกำลังจะบดขยี้ร่างอยู่รอมร่อ ฝ่ามือของเจฟเฟอร์ก็จมบุ๋มลงไปเป็นหลุม แล้วพลังลมดูดอันเชี่ยวกราดก็เริ่มทำงาน มันดูดเอาเม็ดทรายมากมายเข้ามาเก็บไว้ในตัว กระบวนการทุกอย่างเหมือนกับตอนที่เจฟเฟอร์ทำกับก้อนความคิดผู้คนเป๊ะ ๆ ฝ่ามือเขาดูดด๊วบ ๆ สูบเอาทรายเป็นตัน ๆ เข้ามา ส่งผลให้อวัยวะของเจ้าปีศาจยักษ์เริ่มจะมีสภาพเว้าแหว่งเจียนอยู่เจียนไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่มือแต่รวมไปถึงขาด้วย การ Drain อันยอดเยื่ยมทำให้ขาของมันเสียการทรงตัว พลันล้มตรึงลงหงายท้องหงายไส้."ตรึมมมมมมมม!".แต่ทว่ากับแขนขวาของเจฟเฟอร์นี่สิ ที่ลักษณะดูไม่ดีเอาซะเลย เจ้า

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 25 : เสมือนท้องฟ้า วิปริตแปรปรวนทันใด!

    ร่างหนาค่อย ๆ กระเถิบตัวเองถอยห่างออกมาจากส้นตีนทรายเล็กน้อย พลางดึงหูฟังไร้สาย (ข้างเดียว) ที่หมอยูมิโกะให้มาตั้งแต่ตอนแรกออกมาเช็คดู เขาทั้งตบทั้งตีแล้วก็เคาะมันสลับกับการพูดขอความช่วยเหลือแบบกระซิบกระซาบ."ฮัลโหล! หมอ! ได้ยินผมไหมหมอ! ช่วยผมด้วย..".เงียบสนิทไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา มิหนำซ้ำการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงดังกล่าว ยังไปเรียกเอาบาทาของเจ้ายักษ์บิ๊กเบิ้มเอาเข้าให้."เหี้ยเอ๊ย! มันยกขาเตรียมจะกระทืบกูอีกดอกแล้ว! ย๊ากกกก!"."ฮึบ!!!".คราวนี้ไม่รอดลำตัวของเจฟเฟอร์โดนฝ่าเท้าทรายใหญ่ยักษ์อัดเข้าเต็มลำ ตัวเขากลิ้งหลุน ๆ คอพับไถลลากไปกับพื้นทราย กระอักเลือดแค๊ก ๆ เท่านั้นยังไม่พอเจ้าปีศาจทรายไจแอนท์ยังอุตส่าห์ตามมาเก็บงานของตน ด้วยการวิ่งปรี่เข้ามาใส่ง้างกำปั้นมาแต่ไกล หวังจะเผด็จศึกเขาด้วยหมัดขวาตรงไม่หลงติดยา!."ตรึมมม!!!".ชายหนุ่มวาร์ปตัวหลบหมัดดังกล่าวได้ราวกับปาฏิหาริย์ เขาโคตรจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงยังไงความสำคัญของการติดต่อหมอยูมิโกะให้ได้ ก็มีค่ามากกว่า จึงรีบวิ่งตื๋อหนีออกมาตั้งหลักให้ไกลขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่อสูรกายจัมโบ้กำลังโงนเงนตั้งตัวเตรียมจะโจมตี

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 24 : บู้ล้างผลาญ คุณอาฉลอง ภักดีวิจิตร

    พื้นทรายรอบตัวทั้ง 360 องศาพุ่งทะยานขึ้นเป็นแท่งเสา มันโผล่พรวดเป็นลำ ๆ ขนาดสูงใหญ่ตระการตามากกว่าตึก 8 ชั้น เจฟเฟอร์ยืนขาแข็งทื่อแหงนมองมันจนคอเป็นเอ็น เขาตกตะลึงจนก้าวขาไม่ออก ไม่มีทางหนีไม่มีที่ซ่อน ทุกทิศทุกทางถูกล้อมไว้ด้วยแท่งทรายหลายสิบต้น การผุดขึ้นดังกล่าวทำให้เม็ดทรายบางส่วนกระเด็นหลุดออกมา ซึ่งกว่าจะหล่นลงสู่พื้นได้ก็ใช้เวลามากกว่า 10 วิบ่งบอกถึงความอลังการใหญ่ยักษ์ ด้วยสเกลที่เทียบได้กับภูเขากับเห็บหมา จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายพิการแขนขาดอย่างเจฟเฟอร์จะต่อกรกับมันได้."แสกนข้อมูลวิเคราะห์องค์ประกอบ"ชายหนุ่มสั่งการซุ่มเสียงสั่นเครือ.ทันใดนั้นภาพที่เห็นในมุมมองบุคคลที่หนึ่งก็ปรากฏเป็นเคอร์เซอร์กระพริบแป๊บ ๆ วิ่งไล่แสกนแท่งทรายต้นหนึ่งตั้งแต่บนยันล่าง ตัวเลขข้อมูลวิ่งยึกยืออยู่ริมจอรอการประมวลผล."เราอาจจะแค่กลัวไปเอง บางทีในแท่งทรายนั่นอาจจะมีตัวอะไรซ่อนอยู่ ตัวที่ใช้ทรายในการข่มขู่ศัตรูคล้ายกับหางของงูหางกระดิ่ง..".ชุดข้อมูลยังคงวิ่งต่อไป ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็สั่นรัวพอ ๆ กัน เขากำลังจะจมลงไปเรื่อย ๆ ด้วยผลพวงจากเม็ดทรายข้างบนที่หล่นลงมาทับถม."ติ๊ด! ๆ , ติ๊ด! ๆ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 23 : ปีศาจ

    ตัดภาพกลับมายังชั้น 4 ด้านหลังผนังเมือกเจลกันอีกที หลังจากที่ได้สร้างความวินาศสันตะโรให้แก่ชั้นล่างมาอย่างต่อเนื่อง บัดนี้เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ของเราก็เหมือนจะโดนเอาคืนบ้างซะแล้ว เพราะจู่ ๆ เจ้าโบกี้รถไฟอันเป็นยานพาหนะเพียงอย่างเดียวก็ชักจะเริ่มพยศ มันดันทะลึ่งทำความเร็วขึ้นเองโดยที่เขาไม่ได้สั่งหรือทำอะไร ความเร็วดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบทำให้ล้อกระเด็นตกจากราง ทั้ง ๆ ที่บริเวณนี้เป็นแค่ผืนทรายราบ ๆ ไม่ได้มีความสูงชันเหมือนตอนที่ปล่อยรถลงมาสักหน่อย"เฮ่ย! เฮ่ย! เร็วไปแล้ว! ชักไม่สนุกแล้วนะเพื่อน เหวอ ๆ ๆ ".เจ้าหน้าที่แขนพิการแหกปากร้องลั่นแข่งกับเสียงล้อเหล็ก ที่กระเด้งกระดอนครูดกับรางอย่างผิดวิสัย ครั้นพอลองชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นแต่ประกายไฟเป็นเส้น ๆ แฉลบออกมาจากใต้ท้องเสียงดังอี๊ดดดดด! น่าเสียวไส้!."หมอ! แม่งไม่โอเคแล้วหมอ! โบกี้มันจะคว่ำก่อนไปถึงแล้วหมอ! ว๊ากกกก! อ๊ากกกก!!!".โบกี้เหล็กยังคงบดล้อเข้ากับราง มันวิ่งส่ายยึกยือไปมาฉวัดเฉวียนคล้ายกำลังจะเสียศูนย์ การเหวี่ยงแต่ละครั้งก็แทบจะทำให้ตัวถังพลิกคว่ำอยู่รอมร่อ บางจังหวะก็ถึงกับยกล้อลอยพ้นพื้นเอียงกระเท่เร่ชวนให้ลุ้นร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status