Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 4 : กว่าจะได้แก้ผ้า

Share

บทที่ 4 : กว่าจะได้แก้ผ้า

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-03 22:18:55

สังคมเมืองในปี ค.ศ. 2078 เป็นอะไรที่โคตรจะต่ำตมอมควยหมา! หลายคนคงคิดถึงความศิวิไลซ์กับอุปกรณ์ไฮเทคที่เข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น คงจินตนาการไปถึงหุ่นยนต์รับใช้หน้าตาพลาสติกแบบในหนัง Sci-Fi ที่ "วิล สมิท" แสดง ซึ่งไม่ค่อยจะถูกต้องนัก! เพราะทุกอย่างกลับตาลปัตรหมดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 4

.

ระเบิดนิวเคลียร์นับสิบ ๆ ลูกถล่มอารยธรรมน้อยใหญ่จนย่อยยับ บรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจเรียกปฏิบัติการนี้ว่า “ไฟนรกในเพลิงแค้น” พวกเขาหลงไหลในอำนาจและเริ่มประหัตประหารผู้คนที่คิดต่างเหมือนเป็นผักปลา อุดมการณ์อันสูงลิ่วทำให้เกิดสภาวะการณ์ยอมหักไม่ยอมงอ นำมาสู่การใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันเพื่อช่วงชิงทุกสิ่งอย่างที่ตนอยากได้

.

สงครามดำเนินอยู่นานนับ 10 ปีกระทั่งเริ่มสงบลงในปี 2050 รายงานจากสภากาชาดโลกสรุปตัวเลขผู้เสียชีิวิตออกมาว่า มีประมาณ 100 ล้านคน (ไม่รวมผู้พิการและทุพพลภาพ) ส่วนใหญ่อยู่ในซีกโลกพัฒนาและกาฬทวีป ชนชาติที่อ่อนแอไม่สามารถใช้การเจรจาเพื่อสันติหรือเลือกข้างอย่างที่เคยเป็นได้ ยิ่งเป็นชนพื้นเมืองตามป่าเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง

.

อานุภาพแห่งกัมมันตรังสีกวาดล้างทุกสรรพสิ่ง ชนิดที่ UN หรือองค์การสหประชาชาติในสมัยนั้น ทำได้แค่ส่งหนังสือขอโทษแบบโง่ ๆ เอเชียเหลือเพียงแผ่นดินที่ว่างเปล่ากับซากปรักหักพัง , แอฟฟริกาไม่มีแม้แต่สิ่งมีชีวิตหรือเงาต้นไม้ , ขั้วโลกเหนือ - ใต้กลายสภาพเป็นเศษน้ำแข็งที่ใช้การได้แค่ราดน้ำแดงกินกับถ้วยบิงซู เป็นเรื่องน่าเศร้าแต่พวกเขาไม่เข้าใจ จากปี ค.ศ. 2050 เป็นต้นมา โลกทั้งใบจึงเหลือชาติมหาอำนาจอยู่เพียงไม่กี่ชาติเท่านั้น และเกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นชาวยุโรปหรือไม่ก็อเมริกัน

.

เดชะบุญที่ยังมีกลุ่มคนเห็นต่างอยู่! เล่าย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีหลัง ตอนสงครามสงบใหม่ ๆ ทหารและพลเรือนต้องถูกเกณฑ์มาช่วยงานด้านการฟื้นฟูบ้านเมืองเป็นลำดับแรก ช่องโหว่ตรงนี้ทำให้พวกคนใหญ่คนโตไม่ทันระวัง ความหย่อนยานในการตรวจสอบข้อมูล ทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มเริ่มมีความคิดปฏิวัติ! โดยเฉพาะพวกนักวิทยาศาสตร์หัวก้าวหน้าที่ยังมีชีวิตอยู่!

.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าระเบิดนิวเคลียร์กับขีปนาวุธต่าง ๆ ล้วนเป็นผลงานสุดบรรเจิดของพวกเขา สมองอัจฉริยะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำให้โลกเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นการรวางแผนที่จะไถ่โทษจึงเกิดขึ้น.. แล้วองค์กรลับ Parallel ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าว!

.

ในยุคบุกเบิกมันคือหน่วยงานที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ ที่มีแนวคิดแบบเดียวกันจากทั่วทุกมุมโลกเอาไว้ พวกเขารู้ดีว่าตนเองไม่ใช่นักสู้ที่ยิงปืนแม่น เป็นแค่ตาแก่หัวหงอกที่ไม่มีปัญญาจะใช้กำลังช่วงชิงอำนาจจากใคร ๆ เขา ซึ่งต่อให้มีก็ไม่ทำ! เพราะว่ามันไม่ใช่ทางออก! ลองคิดดูสิว่าถ้าใช้แต่กำลังเข้าห้ำหั่นกัน ทุกอย่างก็จะวนลูปอยู่เหมือนเดิมไม่มีวันจบ รบกันไปล้างแค้นกันมา ออกลูกออกหลานมาปลุกฝังความคิดชุดเดิมให้แล้วก็มารบกันใหม่ ทำอยู่แบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เป็นวัฏจักร แล้วชาวโลกที่เป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องมารับเคราะห์ ฉะนั้นสิ่งที่องค์กร Parallel ในยุคบุกเบิกทุ่มเทสร้างขึ้นมาก็คือ "อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนแปลงความทรงจำ"

.

พวกเขาไม่จำเป็นต้องฆ่าคนก็ได้.. แค่เปลี่ยนความคิดของเป้าหมายให้เป็นไปตามที่ต้องการ แค่นี้โลกก็สงบสุขแล้ว ซึ่งคอนเซ็ปตรงนี้ก็ได้ถูกต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ จากรุ่นสู่รุ่น นานวันเข้าการแทรกซึมขององค์กรก็ยิ่งครอบคลุมไปทั่วทุกหัวระแหง กล่าวคือไม่ใช่เฉพาะแค่การหยุดสงคราม แต่รวมไปถึงการหยุดอาชญากรรมต่าง ๆ ของพวกสันดานชั่วในสังคมด้วย

.

คดีฆาตกรรมลดลงฮวบฮาบ ปัญหาอาชญากรรมฉกชิงวิ่งราวแทบกลายเป็นศูนย์ อันเป็นผลพวงมาจากการสอดส่องดูแลของทีม Parallel ภาคสนาม ภารกิจหลักของพวกเขาคือการชิงตัดหน้าและดูดความคิดชั่วร้ายของเหยื่อออกไปก่อนที่จะก่อเรื่อง ดังที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นกันไปแล้วกับสกิลส่วนตัวของเจฟเฟอร์ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะดูเย่อหยิ่งก้าวร้าวในสายตาคนอื่น แต่เชื่อเถอะว่าเขาผู้นี้คือมือพิฆาตระดับพระกาฬ ที่ Parallel ยุคปัจจุบันแสนจะภาคภูมิใจ

.

.

ร่างหนาเบือนหน้าไปทางดอกลาเวนเดอร์มากมายที่ปักอยู่รอบส่วนพ่วงข้างของ Gravity bike กลิ่นของมันหอมฝุ้งยามต้องแรงลม ชวนให้เคลิบเคลิ้มจนลืมความเจ็บแปล๊บ ๆ ที่แขนข้างซ้ายลงไปได้มาก

.

“ดอกลาเวนเดอร์? นานแค่ไหนแล้วนะที่โลกไม่ได้เห็นเจ้านี่?”

เจฟเฟอร์เหม่อลอย พลางทอดสายตาไปยังตึกรามบ้านช่องในเมืองยอร์คชินที่บัดนี้อยู่ในสภาพกึ่งเก่ากึ่งใหม่ บางหลังก็สูงเสียดฟ้าสร้างจากโพลิเมอร์ไฟเบอร์กันแสง กันไฟ กันกัมมันตรังสี แต่บางหลังก็ยังสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กธรรมดา ๆ อยู่ ทั้งที่ปีนี้ก็ปาเข้าไปปี ค.ศ. 2078 แล้วแท้ ๆ

.

สาเหตุก็อย่างที่บอกว่าโลกเพิ่งผ่านสงครามหนัก ๆ มาไม่กี่สิบปี อะไร ๆ มันก็เลยยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก ความเจริญทางด้านวัตถุก็เลยกระจุกตัวอยู่แค่บางส่วนของเมือง ไม่มีทางซะหรอกที่เราจะได้เห็นรถไฟลอยฟ้าวิ่งในหลอดแก้วสูญญากาศในแถบชานเมืองเช่นนี้ ภาพรวมของโลกยุคปัจจุบันก็เลยดูเป็นเมืองแบบไฮบริด กึ่งเก่ากึ่งใหม่ผสม ๆ กัน

.

ซึ่งก็ยังดีกว่าออฟฟิศสุดคลาสสิคของ Parallel ที่สภาพอย่างกับตึกร้างถ่ายรายการคนอวดผี! แทบจะเป็นตึกหลังเดียวในบล็อคถนนนี้เลยมั้งที่ทำจากอิฐมอนยุคก่อนสงครามโลก ด้านซ้ายติดกับร้านหนังสือบุ๊คคาเฟ่ที่ไม่มีหนังสือเป็นเนื้อกระดาษจริง ๆ เลยสักเล่ม ด้านขวาเป็นร้านอาหารแคปซูลอัดเม็ด วิทยาการรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีอาหารหมามาใช้กับคน ส่วนฟากตรงข้ามเป็นร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่หนึ่งแก้วนั้นแพงระยำมากกว่าพันเหรียญ!

.

และเพื่อให้สภาวะแวดล้อมทุกอย่างมีความกลมกลืนกับสังคมมากที่สุด ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันตึกทั้ง 7 ชั้น ขององค์กรลับ Parallel ก็เลยต้องเปิดชั้นล่างเป็นร้านดอกไม้เล็ก ๆ เอาไว้ตบตา แม้ว่าปัจจุบันดอกไม้จะเป็นของหายากแต่พวกเขาก็ยังต้องเปิดต่อไปเพื่อไม่ให้ใครผิดสังเกต หรือจับพิรุธได้ว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในนี้มีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่ ส่วนรายละเอียดจากชั้น 2 ถึงชั้น 7 นั้น ต้องขออนุญาตข้ามไปก่อน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มเจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ของเรา จะนำยาน Gravity bike เข้ามาจอดในลานจอดด้านหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

.

“วู้ววว.. ถึงสักที ปวดแขนชะมัด”

เจฟเฟอร์เอี้ยวตัวลงมาจากยาน พลางสะบัดแขนไปมาทั้งที่มันยังห้อยต่องแต่ง

.

“อันดับแรกเราต้องซ่อนบาดแผลไว้ด้านหลัง.. แบบนี้.. ชะแว๊บ แล้วก็เก็บดอกลาเวนเดอร์ที่เสียบอยู่มากำเป็นช่อ ๆ แบ่งเป็น 2 อัน อันหนึ่งให้บอสอีกอันก็ให้น้องแคท แบบนี้.. ฮึบ!”

.

ถึงสภาพจะดูทุกลักทุเลไปบ้าง แต่เรื่องเปย์สาวนี่ขอให้บอกเจฟเฟอร์สู้ตายไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ อยู่แล้ว หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้เดินไปที่ส่วนหน้าของตึก ณ จุดตรงนี้เจฟเฟอร์มองเห็นป้ายร้านดอกไม้ Parallel เด่นหลาอยู่เหนือหัว ถัดกันลงมาเป็นตู้ดิสเพลย์หน้าร้านขนาดใหญ่ที่จัดแสดงช่อดอกไม้หลากหลายรูปแบบเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าในนั้นไม่มีดอกลาเวนเดอร์อันทรงคุณค่ารวมอยู่เลย

.

“ติ๊งต่อง! , ติ๊งต่อง!”

เซ็นเซอร์กระดิ่งไฟฟ้าทำงานโดยอัตโนมัติ

.

“แคท! พี่เจฟเฟอร์เองเปิดประตูให้หน่อยสิ! พี่แวะเข้ามาบันทึกใบภารกิจน่ะ”

.

“อ่าว! ทำไมจ็อบนี้ปิดเร็วจังพี่เจฟ แป๊บนะเดี๋ยวหนูเปิดให้”

.

เสียงเด็กสาววัยใสตอบกลับมาผ่านทางลำโพงเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้เหนือบานประตู ไม่ช้าไม่นานล็อคประตูก็คลายออก พร้อม ๆ กันกับอากาศยาน Gravity bike ที่บัดนี้กำลังหมุนติ้ว ๆ อยู่บนพื้นลานจอด มันค่อย ๆ หมุนลดระดับลงไปเรื่อย ๆ ลึกลงไปยังโรงเก็บยานใต้ดิน ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงการขึ้นลงของยานในหนังเรื่อง x-men ก็ได้ เพราะสถาปนิกที่ออกแบบโรงเรียนให้ ชาร์ล ซีเวียร์ ก็คือหนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิกของ Parallel

.

ออกแรงผลักบานประตูกระจกเข้ามา ท่ามกลางเหล่าพฤกษาดอกไม้และกลิ่นหอมแสนละมุน ที่ด้านหลังเคาต์เตอร์ต้อนรับยังมีเด็กสาวใส่แว่นหนาเตอะคนหนึ่งนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่

.

"ไงคะพี่เจฟ วันนี้ไป Drain อะไรของใครมาล่ะ?"

แคทเธอรีนถามทั้งที่ไม่มอง เธอยังคงก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับรายชื่อดอกไม้ที่ลูกค้าโทรมาสั่ง

.

ฝั่งเจฟเฟอร์เองก็เงียบ เพราะการแอบดูล่องนมของเด็กสาวยามพวกเธอเผลอนี่แม่งฟินเป็นไหน ๆ คอเสื้อที่ผ่าลึกโค้งเว้ากับเต้านมที่บี้บดกับขอบเคาท์เตอร์ตอนจรดปากกา ทำให้ภายในหัวของเขามีแต่ท่วงท่าลีลาการสืบพันธ์ุ ไม่ได้การณ์! อดใจไม่ไหวจนต้องเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยฝีเท้าที่เบาสุด ๆ แต่ท้ายที่สุดสาวเจ้าก็เอะใจและโพล่งคำขึ้นมา

.

"พี่เจฟ? ตกลงว่ายังไงคะ.. ไป Drain อะไรมา หนูจะได้เตรียมเครื่อง อย่าเงีย.. บ.. บ!"

.

"ว๊าย! ลาเวนเด้อ! นี่มันของจริงนี่นา ดอกลาเวนเด้อแท้จริง ๆ ด้วย ^O^ สวยจังเลย"

.

ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาคิดไว้แล้วเชียวว่าแคทเธอรีนต้องออกอาการแบบนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเว่อวังจนถึงขั้นโผตัวข้ามเคาท์เตอร์เข้ามากอด แล้วก็ดันมากอดในระหว่างที่เอ็นอุ่นใต้ท้องน้อยกำลังอวบอั๋นอยู่ด้วยนี่สิ

.

"เดี๋ยวแม่งก็จับเย็ดด้วยท่าด็อกกี้ซะหรอกอีเด็กนี่ เอามือเกาะเคาน์เตอร์ดูซิ แล้วกูจะเด้าตูดให้ร้องขอชีวิตเลย! คิดว่าสวยแล้วกูจะใจดีหรออีน้องแว่น.. ห๊า"

.

แค่คิดในใจไม่ถึงกับพูดออกมา เจฟเฟอร์หักห้ามใจด้วยการโก่งช่วงล่างถอยไปข้างหลังแล้วก็รีบคว้าเอาช่อลาเวนเดอร์ที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ มากั้นกลางระหว่างเขากับเธอเอาไว้ พลันโต้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันแสนสุภาพ

.

"พี่มีมา 2 ช่อ อันหนึ่งสำหรับบอส ส่วนช่อนี้พี่ให้แคทคนเดียวเลย พี่ว่ามันเหมาะกับแคทมากเลยนะดูสดใสดี แคทอ่ะตัวเล็ก ๆ น่ารักเหมือนดอกลาเวนเดอร์^^"

.

"เอ้อ.. แล้วพี่ก็ต้องขอโทษเราด้วย เรื่องที่พี่แอบใช้เครื่องแปลงมวลสารโดยพลการ พอดีก้อนความทรงจำของเหยื่อมันระเหยเร็วมากอ่ะ กลัวว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาก็เลย.."

.

"เลือด!!!"

แคทเธอลีนสวนขึ้นทันควัน! ราวกับเธอไม่ได้ยินคำหวานที่ฝ่ายชายป้อ

.

"เลือดมาจากไหน? ทำไมหยดมาเป็นทางเลยล่ะคะพี่เจฟ? เกิดอะไรขึ้นกับพี่รึเปล่า?! ไหนขอหนูดูหน่อยซิ พี่ซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง!?"

.

"เหวอ ๆ ๆ ปะ.. เปล่า! แคท! ไม่มีอะไร! อย่าก้มต่ำนักสิเดี๋ยวมันจะโดน! " , "อั๊ก!"

.

ในชุดยูนิฟอร์มของร้านขายดอกไม้ที่เน้นความสบายคล่องตัว เนื้อแนบเนื้อกายแนบกายชนิดที่ผืนผ้าบางเบาไม่อาจปิดป้อง แคทเทอรีนรุกหนักขึ้นใช้มือรูปคลำเขาไปทั่วตัว สติสตังค์หลุดกระเจิงเจฟเฟอร์กำหนัดหนักจนดุ้นมังกรแข็งกระเด้ง มันชูชันขึ้นเป็นลำนูนเด่นอยู่ใต้กางเกงรัดรูปที่สวมใส่อยู่

.

ครานั้นสาวเจ้าก็หาได้รู้ตัว เธอสวมกอดกับเขาเข้าคลุกวงในจนถึงขนาดลงทุนคุกเข่าเอียงหน้าเข้าหาเป้าตุง ๆ เพื่อจะดูให้ได้ว่าเจฟเฟอร์ซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง และในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จ

.

"กร๊ีดดดด!!! , พี่เจฟ!!!"

สะดุ้งโหยงสุดใจ กระเถิบถอยหนีสุดตัว

.

"แคทพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจแค่อารมณ์มันพาไป อย่าโกรธพี่เลยนะพี่ขอโทษจริง ๆ "

เจฟเฟอร์หน้าถอดสีเพราะสิ่งที่เขาทำมันโคตรจะอุบาทถ์ เขารีบขยับกางเกงฟึบฟับจัดระเบียบดุ้นมังกรให้เข้าที่ ก่อนจะมารู้ตัวเอาทีหลังว่าที่สาวเจ้าร้องกรี๊ดน่ะไม่ใช่เรื่องนี้หากแต่เป็น..

.

"แขนพี่!.. พี่เจฟเฟอร์!.. แขนพี่มันขาดกองอยู่หน้าประตูโน่น!!!"

.

รีบหลุบสายตาก้มลงมองในทันทีทันใด ไม่รู้ว่ามันขาดไปตอนไหน เพราะเท่าที่เห็นในตอนนี้ถัดจากไหล่ซ้ายเลื่อนลงมาจรดสีข้างราดลงมาถึงหลังเท้าแม่งมีแต่เลือด!

.

"กรี๊ดดดดด!!! พี่รีบขึ้นไปหาหมอยูมิโกะบนชั้น 4 เดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่เลือดจะหมดตัว! โอ๊ยไม่ไหว ๆ หน้ามืดหนูจะเป็นลม"

.

.

ช่างสมกับเป็นโคตรคนผู้ปฏิเสธโลกจริง ๆ เพราะนอกจากจะไม่รู้สึกรู้สา (เพราะสังหรณ์ใจไว้แล้ว) เจฟเฟอร์ยังเดินอาด ๆ ไปหยิบเอาแขนที่ขาดมาอุ้มเอาไว้ ต่อด้วยการยักคิ้วให้แคทเธอรีนแบบชิว ๆ ราวกับว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติ

.

"ใจเย็นแคทน้องรัก พี่เอาอยู่พี่คอนโทรลมันได้.."

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 176 : เบอร์แบโต้โอ้เย่!

    ผนังนุ่มยืดหยุ่นสูงสีขาวโพลนสะอาดตา พื้นเป็นเบาะรองรับน้ำหนักได้มากเด้งดึ๋งดั๋ง ก่อนมันจะถูกจำลองเป็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ห้องเรียนของสถาบัน BPI ถูกกำหนดให้เป็นแบบนี้ทั้งหมด ครูแต่ละคนมีสิทธิ์เลือกวิชาที่ตัวเองถนัดเพื่อใช้สอน แล้วหลังจากนั้นสภาพห้องจึงค่อย ๆ ผันแปรไปเป็นสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เฉกเช่นกรณีของเฟอร์นันโดที่เป็นวิหารสอนศิลปะ.แล้วนี่คืออะไรกัน?! สารภาพบาปมาซะดี ๆ ใครตอบได้บ้าง?! เหตุไฉนห้องของครูเบอร์แบโต้ผิวหมึกถึงได้กระจอกงอกง่อยเช่นนี้ เขายังไม่ได้กดเลือกวิชาที่จะสอนเลยด้วยซ้ำ ผลบาปแห่งเวรกรรมก็ได้จัดพื้นซีเมนต์แข็ง ๆ ปูนหยาบ ๆ กับฝาผนังที่เป็นซี่ ๆ คล้ายตะแกรงลูกกรงมาให้ซะงั้น ขนาดกว้าง x ยาวของมันก็เท่ากับห้องของครูคนอื่น แต่สิ่งแวดล้อมภายในนี่สิเรียกได้ว่าต่างกันลิบลับ.ภาพเหตุการณ์ตัดข้ามมาฝั่งนี้แล้วโดยสมบูรณ์แบบ เบอร์แบโต้กำลังเผชิญอยู่กับทุกขเวทนาอย่างหาที่เปรียบมิได้ เมื่อจู่ ๆ ก็โดนลูกทีมตัวเองที่คัดสรรเองกับมือจ้องจะเอาชีวิต พวกเขาวิ่งปรื๋อประหนึ่งมีพี่วินมอไซต์เป็นไอดอล สเต็ปการจ้วงเท้าถี่รัวยิ่งกว่าการออกตัวของฮอนด้าเวป.โดยไม่ต้องง้อกระจกหลัง เพียงเบอร์แบโต้หัน

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 175 : นักเรียนเลว!

    การเรียนการสอนวิชาศิลปะศึกษาดำเนินไปอย่างเข้มข้น สรีระความเป็นมนุษย์ถูกถ่ายทอดผ่านฝีแปรงและการบอกเล่าอันเร้าใจ เฟอร์นันโดสอนเด็กแม้กระทั่งระบบอวัยวะภายใน เขาสอนให้อันธการ , เรนโบว์ , และสกายด์ รู้ด้วยว่าสิ่งใดคือ "หัวใจ" สิ่งใดคือ "สมอง" ปอดรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหน วัณโรคเกิดขึ้นที่ใดและเหตุไฉนมันถึงพรากชีวิตตลกดังแห่งยุคอย่างโรเบิร์ตสายควันไปจากสังคมสารขัณฑ์.เขาสอนหมดแบบละเอียดยิบ ผ่านการใช้จานสีและพู่กันที่เด้งออกมาจากออนิวแทร็ปของตนเอง ป่ายปัดมันกลางอากาศไม่กี่ 10 ครั้ง พลังแห่งห้องจำลองนี้ก็ได้สร้างวัตถุเสมือนจริงออกมาให้เด็ก ๆ ได้เห็น แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพากันอ้วกแตกอ้วกแตนไปกับความน่าสะอิดสะเอียนสังเวชของตับม้ามเครื่องใน ที่ถักทอกันขึ้นมาเป็นระบบกายวิภาคในร่างกายมนุษย์ก็ตามที.กระทั่งเวลาผ่านไปจนพลบค่ำเวลาแห่งการพักผ่อนก็มาถึง ณ จุดกึ่งกลางวิหารซึ่งมีรูปปั้นเทพกรีกโบราณองค์ต่าง ๆ ยืนเรียงรายเป็นฉากหลัง ที่ตรงนี้เตรียมจะกลายเป็นที่ซุกหัวนอนอ้ันเวิ้งว้างสุดหยั่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพดานสูงโปร่งกว้างกังวาน ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดมิดชิดกันคนนอกเข้า เศษเถาวัลย์ดอกไม้ใบหญ้าที่ขึ้นปก

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 174 : Avenger รวมตัว!

    สารพัดอาหารเสริมที่สวาปามเข้าไปพุ่งลงมาเปรอะเปื้อน จิตสัมผัสแรกแทบไม่ต้องคิดอะไรมาก เฟอร์นันโดสลัดลูกศิษย์ตัวจิ๋วลงจากบ่าในทันที เขาสะบัดข้อมือพรึบพรับโก่งตัวงอทำปากจู๋พลางแค่นสายตาจ้องเขม็งมาที่เรนโบว์แบบไม่ไว้หน้า ทำเอาสาวเจ้าถึงกับต้องก้มหน้าหลบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่."หนูเขอโทษค่ะครู.. หนูขอโทษ.. หนูผิดไปแล้ว..ว..ว..ว".พูดไม่พูดเปล่าด้วยความที่ตัวเองมีพลังฟรุ้งฟริ้งเป็นทุนเดิม หล่อนก็เลยจดจ้องกลับไปที่เนื้อตัวอันแปดเปื้อนไปด้วยอาหารเหลวของครู ก่อนจะกระพริบตาปิ๊ง ๆ กลับไปให้สองสามที."ปิ๊งงง! , ปิ๊งงง!"."ฟ้าววว~!".โคตรแม่มเอ๊ยนึกว่ายกพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ มาประดิษฐานจากท้องสนามหลวง พืชพรรณทักษาหารนี่เรียกได้ว่าถักทอขึ้นมายึกยือเต็มร่างกาย ผสานรวมเข้ากับสีสันซาวด์เอ็ฟเฟคที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน แป๊บเดียวครูเฟอร์์นันโดของเราก็ได้เสื้อคลุมตัวใหม่ ที่มีลักษณะเป็นชุดเดรสยาวคลุมเข่าคล้ายกับชุดคลุมท้องสีชมพูหวานแหวว แซมด้วยลายดอกไม้นานาพันธุ์กับดวงตะวันใส่แว่น.ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่ชอบใจนัก."อืม.. เรนโบว์! ครูจะพูดยังไงกับเธอดี!"."สกุนาหวานอื่นมีหมื่นแสน.. ไม่เหมือนแม้นพจม

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 173 : โคตรทีม! แห่งสมดุล

    เหมือนเอาผีในหนัง conjuring มาขี่ไม้กวาด เป็นการสมาสเอาความ horror มารวมเข้ากับแฟนตาซีได้อย่างพิลึกพิลั่น ด้วยความสัตย์จริงว่าคงไม่มีผู้กำกับคนไหนทำหนังแนวนี้ออกมาเป็นแน่ มันย้อนแย้งเกินไป คนบ้าอะไรร้องไห้ออกมาเป็นสีน้ำเงิน ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาได้ด้วย.เด็กน้อยยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลลงพื้นต่อไปอีกกว่าครึ่งนาที เขาหยุดมันไม่ได้และเท่าที่รู้คือสิ่งนี้น่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้บาเรียสลายตัวออกไป บาเรียของเรนโบว์ยังคงอยู่ บางเรียของเฟอร์นันโดก็เช่นกัน แล้วบาเรียอันไหนล่ะที่คลายพันธนาการออกไป คำตอบก็คืออันตรงกลาง!.รถเข็นเด็กทั้งคันที่เฟอร์นันโดเคยขย่มโครม ๆ นั่นแหละคืออาณาเขตอีกอันที่มันครอบคลุมอยู่ มันกักขังเงาสะท้อนของรถทั้งคันเอาไว้ ทั้งที่ความจริงแล้วในห้องนี้มีรถเข็นอยู่แค่คันเดียว ซึ่งเป็นคันที่จอดอยู่ห่างจากจุดตรงนี้ไปไกลกว่า 10 เมตร."แกร๊ก ๆ ๆ , แกร๊ก.. ก.. ก.. ก.. ก , แกร๊ก ๆ ๆ ".เสียงม่านบาเรียขยับเขยื้อน พวกมันทั้งหกด้านสั่นครือพลางยุบตัวลงจมหายไปใต้พื้น เช่นเดียวกันกับรถเข็นที่จอดอยู่ภายในที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนสีสันเป็นสีดำสนิท พลันยุบตัวลงมาเป็นเงาแบน ๆ แน

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 172 : "อาโออิ" แปลว่า สีฟ้า

    "หยุดนะครู.. อย่าทำแบบนั้น.. เขาจะเวียนหัวนะ!"เสียงใสแจ๋วของเรนโบว์ตะโกนดังลั่น เธอพยายามห้ามปรามมิให้เฟอร์นันโดขย่มตู้ เพราะพละกำลังช้างสารของเขาอาจจะทำร้ายเพื่อนของเธอได้.มวลน้ำวิตามินสีเหลืองยังคงกระเพื่อม มันกระฉอกซ้ายทีขวาทีราวกับถังซักผ้าพลังปั่นสูงที่ต้องหยอดเหรียญสิบถึง 4 เหรียญ แต่ครานั้นเด็กที่อยู่ภายในก็ยังไม่มีปฏิกิริยา ฟองอากาศเงียบสนิท อนุมานว่าอีกไม่นานหมอนี่คงต้องตายจริง ๆ ครูหนุ่มก็เลยต้องโต้ตอบกลับไป."ไม่ได้หรอกเรนโบว์! เราต้องเติมออกซิเจนให้แก่เขาแบบเดียวกับที่เกษตรกรทำกับฟาร์มกุ้ง หรือไม่ก็กังหันน้ำชัยพัฒนาที่เขาเอาไว้ใช้บำบัดน้ำเสีย ขอเวลาฉันหน่อยเถอะ! ฉันเป็นครูนะ! ฉันต้องรับผิดชอบชีวิตลูกศิษย์ทุกคนอยู่แล้ว!"."แต่ครูคะ.. ไม่ได้ค่ะ.. ยังไงก็ไม่ได้!".ความดื้อแพ่งเกาะกินหัวใจเหมือนเรนโบว์จะโชว์อารยะขัดขืน โดยการป้ายคำสั่งครูด้วยน้ำยาลบคำผิด เธอคิดว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง ประชาชนต้องมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันทุกคน ครั้นจะยอมให้ผู้ใหญ่ใช้ความรุนแรงโครม ๆ โตมาจะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง "ให้มันจบที่รุ่นเรา" คือสิ่งที่เธอคิด แล้วชั่วขณะจิตหลังจากนั้นเด็กหญิงก็ลงมือ.เธ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   ภาคสถาบัน BPI / บทที่ 171 : บาเรีย โอซาว่า

    คำพูดของอันธการเมื่อตอนก่อนหน้าวนเวียนเข้ามาในความคิดของเฟอร์์นันโด เขาจำได้ลาง ๆ ว่าเด็กพวกนี้แต่ละคนล้วนมีพลังจากยีนที่ไม่เหมือนกัน ต่างคนต่างมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป อัธการเป็นความมืดตัวแทนแห่งภูตผีวิญญาณ ส่วนเรนโบว์นั้นพลังที่แท้จริงของเธอยังคงเป็นปริศนา ซึ่งก็เป็นไปได้สูงเหลือเกินว่าสิ่งที่แสดงออกมา น่าจะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งที่กระฉอกล้นโดยที่เธอไม่รู้ตัว."คงต้องเป็นหน้าที่ครูอย่างเราสินะ ที่ต้องปลุกสิ่งนั้นขึ้นมาให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วก็ต้องสอนพวกเขาให้ใช้พลังในทางที่ถูกที่ควรด้วย เอาน่าอย่างน้อยเด็กผู้หญิงก็ยังดีกว่าไอ้มืดฝั่งโน้นล่ะวะ ของสวย ๆ งาม ๆ ยังไงก็เจริญหูเจริญตากว่าภูตผีปีศาจเป็นไหน ๆ บรึ๊ยยย!".มีการ Bully กันเกิดขึ้นโดยที่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเฟอร์นันโดสะกดคำว่า "อันธการ" เพี้ยนเป็น "อันตรธาน" ไปได้ยังไง ถึงได้รังเกียจเดียดฉันท์เขานัก เขากอดอกครุ่นคิดถึงประเด็นดังกล่าวอยู่นานสองนาน หัวคิ้วย่นยู่ขมับเต้นตุบ ๆ กลายเป็นความเครียดในชั่วขณะจิต ที่กัดกินมโนสำนึกแห่งความเป็นครูจนแหว่งวิ่น.แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นอีก คุณพระช่วย! ช่อมงกุฏดอกไม้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status