Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 4 : กว่าจะได้แก้ผ้า

Share

บทที่ 4 : กว่าจะได้แก้ผ้า

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-03 22:18:55

สังคมเมืองในปี ค.ศ. 2078 เป็นอะไรที่โคตรจะต่ำตมอมควยหมา! หลายคนคงคิดถึงความศิวิไลซ์กับอุปกรณ์ไฮเทคที่เข้ามาทำให้ชีวิตง่ายขึ้น คงจินตนาการไปถึงหุ่นยนต์รับใช้หน้าตาพลาสติกแบบในหนัง Sci-Fi ที่ "วิล สมิท" แสดง ซึ่งไม่ค่อยจะถูกต้องนัก! เพราะทุกอย่างกลับตาลปัตรหมดนับตั้งแต่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 4

.

ระเบิดนิวเคลียร์นับสิบ ๆ ลูกถล่มอารยธรรมน้อยใหญ่จนย่อยยับ บรรดาผู้นำชาติมหาอำนาจเรียกปฏิบัติการนี้ว่า “ไฟนรกในเพลิงแค้น” พวกเขาหลงไหลในอำนาจและเริ่มประหัตประหารผู้คนที่คิดต่างเหมือนเป็นผักปลา อุดมการณ์อันสูงลิ่วทำให้เกิดสภาวะการณ์ยอมหักไม่ยอมงอ นำมาสู่การใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกันเพื่อช่วงชิงทุกสิ่งอย่างที่ตนอยากได้

.

สงครามดำเนินอยู่นานนับ 10 ปีกระทั่งเริ่มสงบลงในปี 2050 รายงานจากสภากาชาดโลกสรุปตัวเลขผู้เสียชีิวิตออกมาว่า มีประมาณ 100 ล้านคน (ไม่รวมผู้พิการและทุพพลภาพ) ส่วนใหญ่อยู่ในซีกโลกพัฒนาและกาฬทวีป ชนชาติที่อ่อนแอไม่สามารถใช้การเจรจาเพื่อสันติหรือเลือกข้างอย่างที่เคยเป็นได้ ยิ่งเป็นชนพื้นเมืองตามป่าเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง

.

อานุภาพแห่งกัมมันตรังสีกวาดล้างทุกสรรพสิ่ง ชนิดที่ UN หรือองค์การสหประชาชาติในสมัยนั้น ทำได้แค่ส่งหนังสือขอโทษแบบโง่ ๆ เอเชียเหลือเพียงแผ่นดินที่ว่างเปล่ากับซากปรักหักพัง , แอฟฟริกาไม่มีแม้แต่สิ่งมีชีวิตหรือเงาต้นไม้ , ขั้วโลกเหนือ - ใต้กลายสภาพเป็นเศษน้ำแข็งที่ใช้การได้แค่ราดน้ำแดงกินกับถ้วยบิงซู เป็นเรื่องน่าเศร้าแต่พวกเขาไม่เข้าใจ จากปี ค.ศ. 2050 เป็นต้นมา โลกทั้งใบจึงเหลือชาติมหาอำนาจอยู่เพียงไม่กี่ชาติเท่านั้น และเกือบทั้งหมดล้วนแต่เป็นชาวยุโรปหรือไม่ก็อเมริกัน

.

เดชะบุญที่ยังมีกลุ่มคนเห็นต่างอยู่! เล่าย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีหลัง ตอนสงครามสงบใหม่ ๆ ทหารและพลเรือนต้องถูกเกณฑ์มาช่วยงานด้านการฟื้นฟูบ้านเมืองเป็นลำดับแรก ช่องโหว่ตรงนี้ทำให้พวกคนใหญ่คนโตไม่ทันระวัง ความหย่อนยานในการตรวจสอบข้อมูล ทำให้กลุ่มคนบางกลุ่มเริ่มมีความคิดปฏิวัติ! โดยเฉพาะพวกนักวิทยาศาสตร์หัวก้าวหน้าที่ยังมีชีวิตอยู่!

.

ปฏิเสธไม่ได้ว่าระเบิดนิวเคลียร์กับขีปนาวุธต่าง ๆ ล้วนเป็นผลงานสุดบรรเจิดของพวกเขา สมองอัจฉริยะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการทำให้โลกเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นการรวางแผนที่จะไถ่โทษจึงเกิดขึ้น.. แล้วองค์กรลับ Parallel ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าว!

.

ในยุคบุกเบิกมันคือหน่วยงานที่รวบรวมนักวิทยาศาสตร์ ที่มีแนวคิดแบบเดียวกันจากทั่วทุกมุมโลกเอาไว้ พวกเขารู้ดีว่าตนเองไม่ใช่นักสู้ที่ยิงปืนแม่น เป็นแค่ตาแก่หัวหงอกที่ไม่มีปัญญาจะใช้กำลังช่วงชิงอำนาจจากใคร ๆ เขา ซึ่งต่อให้มีก็ไม่ทำ! เพราะว่ามันไม่ใช่ทางออก! ลองคิดดูสิว่าถ้าใช้แต่กำลังเข้าห้ำหั่นกัน ทุกอย่างก็จะวนลูปอยู่เหมือนเดิมไม่มีวันจบ รบกันไปล้างแค้นกันมา ออกลูกออกหลานมาปลุกฝังความคิดชุดเดิมให้แล้วก็มารบกันใหม่ ทำอยู่แบบนี้ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เป็นวัฏจักร แล้วชาวโลกที่เป็นผู้บริสุทธิ์ก็ต้องมารับเคราะห์ ฉะนั้นสิ่งที่องค์กร Parallel ในยุคบุกเบิกทุ่มเทสร้างขึ้นมาก็คือ "อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนแปลงความทรงจำ"

.

พวกเขาไม่จำเป็นต้องฆ่าคนก็ได้.. แค่เปลี่ยนความคิดของเป้าหมายให้เป็นไปตามที่ต้องการ แค่นี้โลกก็สงบสุขแล้ว ซึ่งคอนเซ็ปตรงนี้ก็ได้ถูกต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ จากรุ่นสู่รุ่น นานวันเข้าการแทรกซึมขององค์กรก็ยิ่งครอบคลุมไปทั่วทุกหัวระแหง กล่าวคือไม่ใช่เฉพาะแค่การหยุดสงคราม แต่รวมไปถึงการหยุดอาชญากรรมต่าง ๆ ของพวกสันดานชั่วในสังคมด้วย

.

คดีฆาตกรรมลดลงฮวบฮาบ ปัญหาอาชญากรรมฉกชิงวิ่งราวแทบกลายเป็นศูนย์ อันเป็นผลพวงมาจากการสอดส่องดูแลของทีม Parallel ภาคสนาม ภารกิจหลักของพวกเขาคือการชิงตัดหน้าและดูดความคิดชั่วร้ายของเหยื่อออกไปก่อนที่จะก่อเรื่อง ดังที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เห็นกันไปแล้วกับสกิลส่วนตัวของเจฟเฟอร์ ถึงแม้ว่าเขาอาจจะดูเย่อหยิ่งก้าวร้าวในสายตาคนอื่น แต่เชื่อเถอะว่าเขาผู้นี้คือมือพิฆาตระดับพระกาฬ ที่ Parallel ยุคปัจจุบันแสนจะภาคภูมิใจ

.

.

ร่างหนาเบือนหน้าไปทางดอกลาเวนเดอร์มากมายที่ปักอยู่รอบส่วนพ่วงข้างของ Gravity bike กลิ่นของมันหอมฝุ้งยามต้องแรงลม ชวนให้เคลิบเคลิ้มจนลืมความเจ็บแปล๊บ ๆ ที่แขนข้างซ้ายลงไปได้มาก

.

“ดอกลาเวนเดอร์? นานแค่ไหนแล้วนะที่โลกไม่ได้เห็นเจ้านี่?”

เจฟเฟอร์เหม่อลอย พลางทอดสายตาไปยังตึกรามบ้านช่องในเมืองยอร์คชินที่บัดนี้อยู่ในสภาพกึ่งเก่ากึ่งใหม่ บางหลังก็สูงเสียดฟ้าสร้างจากโพลิเมอร์ไฟเบอร์กันแสง กันไฟ กันกัมมันตรังสี แต่บางหลังก็ยังสร้างจากคอนกรีตเสริมเหล็กธรรมดา ๆ อยู่ ทั้งที่ปีนี้ก็ปาเข้าไปปี ค.ศ. 2078 แล้วแท้ ๆ

.

สาเหตุก็อย่างที่บอกว่าโลกเพิ่งผ่านสงครามหนัก ๆ มาไม่กี่สิบปี อะไร ๆ มันก็เลยยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก ความเจริญทางด้านวัตถุก็เลยกระจุกตัวอยู่แค่บางส่วนของเมือง ไม่มีทางซะหรอกที่เราจะได้เห็นรถไฟลอยฟ้าวิ่งในหลอดแก้วสูญญากาศในแถบชานเมืองเช่นนี้ ภาพรวมของโลกยุคปัจจุบันก็เลยดูเป็นเมืองแบบไฮบริด กึ่งเก่ากึ่งใหม่ผสม ๆ กัน

.

ซึ่งก็ยังดีกว่าออฟฟิศสุดคลาสสิคของ Parallel ที่สภาพอย่างกับตึกร้างถ่ายรายการคนอวดผี! แทบจะเป็นตึกหลังเดียวในบล็อคถนนนี้เลยมั้งที่ทำจากอิฐมอนยุคก่อนสงครามโลก ด้านซ้ายติดกับร้านหนังสือบุ๊คคาเฟ่ที่ไม่มีหนังสือเป็นเนื้อกระดาษจริง ๆ เลยสักเล่ม ด้านขวาเป็นร้านอาหารแคปซูลอัดเม็ด วิทยาการรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีอาหารหมามาใช้กับคน ส่วนฟากตรงข้ามเป็นร้านกาแฟแบรนด์ดัง ที่หนึ่งแก้วนั้นแพงระยำมากกว่าพันเหรียญ!

.

และเพื่อให้สภาวะแวดล้อมทุกอย่างมีความกลมกลืนกับสังคมมากที่สุด ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันตึกทั้ง 7 ชั้น ขององค์กรลับ Parallel ก็เลยต้องเปิดชั้นล่างเป็นร้านดอกไม้เล็ก ๆ เอาไว้ตบตา แม้ว่าปัจจุบันดอกไม้จะเป็นของหายากแต่พวกเขาก็ยังต้องเปิดต่อไปเพื่อไม่ให้ใครผิดสังเกต หรือจับพิรุธได้ว่ากลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในนี้มีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่ ส่วนรายละเอียดจากชั้น 2 ถึงชั้น 7 นั้น ต้องขออนุญาตข้ามไปก่อน เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มเจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ของเรา จะนำยาน Gravity bike เข้ามาจอดในลานจอดด้านหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!

.

“วู้ววว.. ถึงสักที ปวดแขนชะมัด”

เจฟเฟอร์เอี้ยวตัวลงมาจากยาน พลางสะบัดแขนไปมาทั้งที่มันยังห้อยต่องแต่ง

.

“อันดับแรกเราต้องซ่อนบาดแผลไว้ด้านหลัง.. แบบนี้.. ชะแว๊บ แล้วก็เก็บดอกลาเวนเดอร์ที่เสียบอยู่มากำเป็นช่อ ๆ แบ่งเป็น 2 อัน อันหนึ่งให้บอสอีกอันก็ให้น้องแคท แบบนี้.. ฮึบ!”

.

ถึงสภาพจะดูทุกลักทุเลไปบ้าง แต่เรื่องเปย์สาวนี่ขอให้บอกเจฟเฟอร์สู้ตายไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ อยู่แล้ว หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้เดินไปที่ส่วนหน้าของตึก ณ จุดตรงนี้เจฟเฟอร์มองเห็นป้ายร้านดอกไม้ Parallel เด่นหลาอยู่เหนือหัว ถัดกันลงมาเป็นตู้ดิสเพลย์หน้าร้านขนาดใหญ่ที่จัดแสดงช่อดอกไม้หลากหลายรูปแบบเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าในนั้นไม่มีดอกลาเวนเดอร์อันทรงคุณค่ารวมอยู่เลย

.

“ติ๊งต่อง! , ติ๊งต่อง!”

เซ็นเซอร์กระดิ่งไฟฟ้าทำงานโดยอัตโนมัติ

.

“แคท! พี่เจฟเฟอร์เองเปิดประตูให้หน่อยสิ! พี่แวะเข้ามาบันทึกใบภารกิจน่ะ”

.

“อ่าว! ทำไมจ็อบนี้ปิดเร็วจังพี่เจฟ แป๊บนะเดี๋ยวหนูเปิดให้”

.

เสียงเด็กสาววัยใสตอบกลับมาผ่านทางลำโพงเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้เหนือบานประตู ไม่ช้าไม่นานล็อคประตูก็คลายออก พร้อม ๆ กันกับอากาศยาน Gravity bike ที่บัดนี้กำลังหมุนติ้ว ๆ อยู่บนพื้นลานจอด มันค่อย ๆ หมุนลดระดับลงไปเรื่อย ๆ ลึกลงไปยังโรงเก็บยานใต้ดิน ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกถึงการขึ้นลงของยานในหนังเรื่อง x-men ก็ได้ เพราะสถาปนิกที่ออกแบบโรงเรียนให้ ชาร์ล ซีเวียร์ ก็คือหนึ่งในทีมนักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิกของ Parallel

.

ออกแรงผลักบานประตูกระจกเข้ามา ท่ามกลางเหล่าพฤกษาดอกไม้และกลิ่นหอมแสนละมุน ที่ด้านหลังเคาต์เตอร์ต้อนรับยังมีเด็กสาวใส่แว่นหนาเตอะคนหนึ่งนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่

.

"ไงคะพี่เจฟ วันนี้ไป Drain อะไรของใครมาล่ะ?"

แคทเธอรีนถามทั้งที่ไม่มอง เธอยังคงก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับรายชื่อดอกไม้ที่ลูกค้าโทรมาสั่ง

.

ฝั่งเจฟเฟอร์เองก็เงียบ เพราะการแอบดูล่องนมของเด็กสาวยามพวกเธอเผลอนี่แม่งฟินเป็นไหน ๆ คอเสื้อที่ผ่าลึกโค้งเว้ากับเต้านมที่บี้บดกับขอบเคาท์เตอร์ตอนจรดปากกา ทำให้ภายในหัวของเขามีแต่ท่วงท่าลีลาการสืบพันธ์ุ ไม่ได้การณ์! อดใจไม่ไหวจนต้องเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ด้วยฝีเท้าที่เบาสุด ๆ แต่ท้ายที่สุดสาวเจ้าก็เอะใจและโพล่งคำขึ้นมา

.

"พี่เจฟ? ตกลงว่ายังไงคะ.. ไป Drain อะไรมา หนูจะได้เตรียมเครื่อง อย่าเงีย.. บ.. บ!"

.

"ว๊าย! ลาเวนเด้อ! นี่มันของจริงนี่นา ดอกลาเวนเด้อแท้จริง ๆ ด้วย ^O^ สวยจังเลย"

.

ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาคิดไว้แล้วเชียวว่าแคทเธอรีนต้องออกอาการแบบนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเว่อวังจนถึงขั้นโผตัวข้ามเคาท์เตอร์เข้ามากอด แล้วก็ดันมากอดในระหว่างที่เอ็นอุ่นใต้ท้องน้อยกำลังอวบอั๋นอยู่ด้วยนี่สิ

.

"เดี๋ยวแม่งก็จับเย็ดด้วยท่าด็อกกี้ซะหรอกอีเด็กนี่ เอามือเกาะเคาน์เตอร์ดูซิ แล้วกูจะเด้าตูดให้ร้องขอชีวิตเลย! คิดว่าสวยแล้วกูจะใจดีหรออีน้องแว่น.. ห๊า"

.

แค่คิดในใจไม่ถึงกับพูดออกมา เจฟเฟอร์หักห้ามใจด้วยการโก่งช่วงล่างถอยไปข้างหลังแล้วก็รีบคว้าเอาช่อลาเวนเดอร์ที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ มากั้นกลางระหว่างเขากับเธอเอาไว้ พลันโต้ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันแสนสุภาพ

.

"พี่มีมา 2 ช่อ อันหนึ่งสำหรับบอส ส่วนช่อนี้พี่ให้แคทคนเดียวเลย พี่ว่ามันเหมาะกับแคทมากเลยนะดูสดใสดี แคทอ่ะตัวเล็ก ๆ น่ารักเหมือนดอกลาเวนเดอร์^^"

.

"เอ้อ.. แล้วพี่ก็ต้องขอโทษเราด้วย เรื่องที่พี่แอบใช้เครื่องแปลงมวลสารโดยพลการ พอดีก้อนความทรงจำของเหยื่อมันระเหยเร็วมากอ่ะ กลัวว่าจะไม่ได้อะไรกลับมาก็เลย.."

.

"เลือด!!!"

แคทเธอลีนสวนขึ้นทันควัน! ราวกับเธอไม่ได้ยินคำหวานที่ฝ่ายชายป้อ

.

"เลือดมาจากไหน? ทำไมหยดมาเป็นทางเลยล่ะคะพี่เจฟ? เกิดอะไรขึ้นกับพี่รึเปล่า?! ไหนขอหนูดูหน่อยซิ พี่ซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง!?"

.

"เหวอ ๆ ๆ ปะ.. เปล่า! แคท! ไม่มีอะไร! อย่าก้มต่ำนักสิเดี๋ยวมันจะโดน! " , "อั๊ก!"

.

ในชุดยูนิฟอร์มของร้านขายดอกไม้ที่เน้นความสบายคล่องตัว เนื้อแนบเนื้อกายแนบกายชนิดที่ผืนผ้าบางเบาไม่อาจปิดป้อง แคทเทอรีนรุกหนักขึ้นใช้มือรูปคลำเขาไปทั่วตัว สติสตังค์หลุดกระเจิงเจฟเฟอร์กำหนัดหนักจนดุ้นมังกรแข็งกระเด้ง มันชูชันขึ้นเป็นลำนูนเด่นอยู่ใต้กางเกงรัดรูปที่สวมใส่อยู่

.

ครานั้นสาวเจ้าก็หาได้รู้ตัว เธอสวมกอดกับเขาเข้าคลุกวงในจนถึงขนาดลงทุนคุกเข่าเอียงหน้าเข้าหาเป้าตุง ๆ เพื่อจะดูให้ได้ว่าเจฟเฟอร์ซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง และในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จ

.

"กร๊ีดดดด!!! , พี่เจฟ!!!"

สะดุ้งโหยงสุดใจ กระเถิบถอยหนีสุดตัว

.

"แคทพี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจแค่อารมณ์มันพาไป อย่าโกรธพี่เลยนะพี่ขอโทษจริง ๆ "

เจฟเฟอร์หน้าถอดสีเพราะสิ่งที่เขาทำมันโคตรจะอุบาทถ์ เขารีบขยับกางเกงฟึบฟับจัดระเบียบดุ้นมังกรให้เข้าที่ ก่อนจะมารู้ตัวเอาทีหลังว่าที่สาวเจ้าร้องกรี๊ดน่ะไม่ใช่เรื่องนี้หากแต่เป็น..

.

"แขนพี่!.. พี่เจฟเฟอร์!.. แขนพี่มันขาดกองอยู่หน้าประตูโน่น!!!"

.

รีบหลุบสายตาก้มลงมองในทันทีทันใด ไม่รู้ว่ามันขาดไปตอนไหน เพราะเท่าที่เห็นในตอนนี้ถัดจากไหล่ซ้ายเลื่อนลงมาจรดสีข้างราดลงมาถึงหลังเท้าแม่งมีแต่เลือด!

.

"กรี๊ดดดดด!!! พี่รีบขึ้นไปหาหมอยูมิโกะบนชั้น 4 เดี๋ยวนี้เลย ก่อนที่เลือดจะหมดตัว! โอ๊ยไม่ไหว ๆ หน้ามืดหนูจะเป็นลม"

.

.

ช่างสมกับเป็นโคตรคนผู้ปฏิเสธโลกจริง ๆ เพราะนอกจากจะไม่รู้สึกรู้สา (เพราะสังหรณ์ใจไว้แล้ว) เจฟเฟอร์ยังเดินอาด ๆ ไปหยิบเอาแขนที่ขาดมาอุ้มเอาไว้ ต่อด้วยการยักคิ้วให้แคทเธอรีนแบบชิว ๆ ราวกับว่านี่เป็นเหตุการณ์ปกติ

.

"ใจเย็นแคทน้องรัก พี่เอาอยู่พี่คอนโทรลมันได้.."

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 28 : พายุสาปฝุ่นตลบหนี กระจัดกระจาย

    กระจัดกระจายจริง ๆ สมกับชื่อบท เพราะนอกจากจะบินเข้ามาโฉบเอาร่างของเจฟเฟอร์เอาไว้ไม่ให้หล่นลงไปตายแล้ว บนฟากฟ้ายังมีพวกมันอีกเป็นโขยง! ท้องฟ้าที่เคยสดใสแดดจัด ๆ บัดนี้กลับเต็มไปด้วยฝูงแมลงวันเป็นล้าน ๆ ตัว."อะไรกัน! พวกแกอีกแล้วหรอ!"."หึ่ง ๆ ๆ ๆ หึ่ง ๆ ๆ ๆ "."ฮู้ววว! ไม่รู้ยังไงเหมื่อนกันแต่ก็ขอบใจนะที่อุตส่าห์มาช่วย พาฉันลงไปข้างล่างที".กลุ่มก้อนแมลงวันดำขลับเป็นขยุยกระจายตัวไปเกาะตามแขนขาแล้วก็เสื้อผ้า ก่อจจะค่อย ๆ ลดระดับความสูงลงเรื่อย ๆ ตามที่ได้รับคำสั่ง พร้อมกันนั้นไฟสีเขียวในหูฟังก็เริ่มกระพริบปิ๊บ ๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หางตาของเจฟเฟอร์ดันชำเลืองไปเจอเข้า เขาก็เลยมีความคิดที่จะดึงมันออกมาเช็ดดู จะได้รู้ว่าเป็นเพราะเจ้านี่รึเปล่าที่เรียกพวกแมลงวันมา แต่ทว่ายังไม่ทันจะทำอะไรเลย! จู่ ๆ หมู่ภมรอีกกลุ่มซึ่งอยู่อีกด้านของฟากฟ้าก็ชิงตัดหน้าเขาซะงั้น! พวกมันบินโฉบลงมาเป็นก้อนสีดำขนาดเท่าลูกบาส พุ่งมาที่ใบหูแล้วก็ดึงเอาหูฟังออกให้.ซึ่งพอวัตถุเล็กจิ๋วนั่นถูกส่งถึงฝ่ามือเท่านั้นแหละ ความฉิบหายก็บังเกิดทันที! คุณพระคุณเจ้าเอ๊ย! หล่นกระแทกพื้นสิครับจะเหลือเหรอ."ฟึบบบ! ,

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 27 : พายุหมุนฝุ่นตลบ กลบแผ่นดินทันที

    ไหลพรืด ๆ อย่างกับบันไดเลื่อน ร่างอันอิดโรยของเจฟเฟอร์ไม่อาจต่อต้านเพราะดันเสร่อฝังตัวเองไว้ในทราย เป็นกรรมหรือความโง่ก็ไม่รู้แต่ที่รู้คือเจฟเฟอร์แม่งไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ชัวร์ ๆ ตัวเขาลอยปลิวไปพร้อมกับทราย โดยมีพิกัดเป้าหมายอยู่ที่อุ้งตีนของเจ้าแซนดี้."อั๊ก! โอ๊ก! อั๊ก! แค็ก ๆ ใครจะไปรู้ว่ะว่ามันทำแบบนี้ได้ด้วย.. อั๊กกก! อึกกก!"."อุตส่าห์คิดว่าหลบพ้นแล้วแท้ ๆ ที่ไหนได้ดันโดนดึงเข้าไปหา อ๊วกกก! อั๊กกก! ตายห่าแน่กู!".หลับตาปี๋พลางรอจังหวะสูดลมหายใจเข้าเป็นระยะ ร่างหนาของเจ้าหน้าที่หนุ่มดำผุดดำว่ายจอมจมอยู่ในกระแสธารแห่งชะตากรรม เขาคาดเดาไม่ได้ว่าแต่นี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เพราะลำพังแค่ประคองตัวไม่ให้สำลักทรายตายไปซะก่อนก็บุญแค่ไหนแล้ว.บางทีสาเหตุของเรื่องอาจเป็นเพราะเจ้าตัวนั้นชะล่าใจเกินไป ก่อนหน้านี้ตอนที่เจฟเฟอร์เพิ่งจะกลบทรายฝังตัวเองใหม่ ๆ เขาก็เอะใจอยู่แล้วเชียวว่าเจ้ายักษ์แซนดี้มันมีท่าทีแปลก ๆ เขาคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดว่ามันคงจะหาเขาไม่เจอ ก็เลยถอดใจก้มหน้าก้มตาเงินงกพลางเอาแขนจุ่มลงไปในพื้นทรายคล้ายกับว่าจะยอมแพ้แต่ที่ไหนได้เจฟเฟอร์ดันคิดผิด! เพราะชั่วพริบตาหลังจา

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 26 : เปรี้ยงปร้างสว่างไสว อันตรายไปทุกที่

    "ไม่ทันแล้วหมอ มันฟาดลงมาแล้ว อร๊ากกกกก!!!".เจฟเฟอร์ร้องลั่นเขายกมือขึ้นค้ำแม้จะรู้ดีว่าเป็นดั่งไม้ซีกงัดไม้ซุง แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพราะท่วงท่าแต๋วแตกดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้เจ้าตัวยังคงมีชีวิตรอด เมื่อหมอยูมิโกะที่อยู่อีกฟากหนึ่งของปลายสายได้ใช้ปฏิิภาณไหวพริบตะโกนสวนออกไปว่า."Drain!!!"มันดังซะจนเจฟเฟอร์คิดว่าแก้วหูตัวเองคงแตก มันดังจนลอดผ่านหูฟังออกมาแล้วก็ไปรันเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ภายในของเจ้าหน้าที่ภาคสนาม.เพียงเสี้ยวอึดใจวินาทีที่ฝ่ามือทรายใหญ่เบิ้มกำลังจะบดขยี้ร่างอยู่รอมร่อ ฝ่ามือของเจฟเฟอร์ก็จมบุ๋มลงไปเป็นหลุม แล้วพลังลมดูดอันเชี่ยวกราดก็เริ่มทำงาน มันดูดเอาเม็ดทรายมากมายเข้ามาเก็บไว้ในตัว กระบวนการทุกอย่างเหมือนกับตอนที่เจฟเฟอร์ทำกับก้อนความคิดผู้คนเป๊ะ ๆ ฝ่ามือเขาดูดด๊วบ ๆ สูบเอาทรายเป็นตัน ๆ เข้ามา ส่งผลให้อวัยวะของเจ้าปีศาจยักษ์เริ่มจะมีสภาพเว้าแหว่งเจียนอยู่เจียนไป ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่มือแต่รวมไปถึงขาด้วย การ Drain อันยอดเยื่ยมทำให้ขาของมันเสียการทรงตัว พลันล้มตรึงลงหงายท้องหงายไส้."ตรึมมมมมมมม!".แต่ทว่ากับแขนขวาของเจฟเฟอร์นี่สิ ที่ลักษณะดูไม่ดีเอาซะเลย เจ้า

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 25 : เสมือนท้องฟ้า วิปริตแปรปรวนทันใด!

    ร่างหนาค่อย ๆ กระเถิบตัวเองถอยห่างออกมาจากส้นตีนทรายเล็กน้อย พลางดึงหูฟังไร้สาย (ข้างเดียว) ที่หมอยูมิโกะให้มาตั้งแต่ตอนแรกออกมาเช็คดู เขาทั้งตบทั้งตีแล้วก็เคาะมันสลับกับการพูดขอความช่วยเหลือแบบกระซิบกระซาบ."ฮัลโหล! หมอ! ได้ยินผมไหมหมอ! ช่วยผมด้วย..".เงียบสนิทไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา มิหนำซ้ำการสั่นสะเทือนของคลื่นเสียงดังกล่าว ยังไปเรียกเอาบาทาของเจ้ายักษ์บิ๊กเบิ้มเอาเข้าให้."เหี้ยเอ๊ย! มันยกขาเตรียมจะกระทืบกูอีกดอกแล้ว! ย๊ากกกก!"."ฮึบ!!!".คราวนี้ไม่รอดลำตัวของเจฟเฟอร์โดนฝ่าเท้าทรายใหญ่ยักษ์อัดเข้าเต็มลำ ตัวเขากลิ้งหลุน ๆ คอพับไถลลากไปกับพื้นทราย กระอักเลือดแค๊ก ๆ เท่านั้นยังไม่พอเจ้าปีศาจทรายไจแอนท์ยังอุตส่าห์ตามมาเก็บงานของตน ด้วยการวิ่งปรี่เข้ามาใส่ง้างกำปั้นมาแต่ไกล หวังจะเผด็จศึกเขาด้วยหมัดขวาตรงไม่หลงติดยา!."ตรึมมม!!!".ชายหนุ่มวาร์ปตัวหลบหมัดดังกล่าวได้ราวกับปาฏิหาริย์ เขาโคตรจะงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถึงยังไงความสำคัญของการติดต่อหมอยูมิโกะให้ได้ ก็มีค่ามากกว่า จึงรีบวิ่งตื๋อหนีออกมาตั้งหลักให้ไกลขึ้นกว่าเก่า ในขณะที่อสูรกายจัมโบ้กำลังโงนเงนตั้งตัวเตรียมจะโจมตี

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 24 : บู้ล้างผลาญ คุณอาฉลอง ภักดีวิจิตร

    พื้นทรายรอบตัวทั้ง 360 องศาพุ่งทะยานขึ้นเป็นแท่งเสา มันโผล่พรวดเป็นลำ ๆ ขนาดสูงใหญ่ตระการตามากกว่าตึก 8 ชั้น เจฟเฟอร์ยืนขาแข็งทื่อแหงนมองมันจนคอเป็นเอ็น เขาตกตะลึงจนก้าวขาไม่ออก ไม่มีทางหนีไม่มีที่ซ่อน ทุกทิศทุกทางถูกล้อมไว้ด้วยแท่งทรายหลายสิบต้น การผุดขึ้นดังกล่าวทำให้เม็ดทรายบางส่วนกระเด็นหลุดออกมา ซึ่งกว่าจะหล่นลงสู่พื้นได้ก็ใช้เวลามากกว่า 10 วิบ่งบอกถึงความอลังการใหญ่ยักษ์ ด้วยสเกลที่เทียบได้กับภูเขากับเห็บหมา จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ชายพิการแขนขาดอย่างเจฟเฟอร์จะต่อกรกับมันได้."แสกนข้อมูลวิเคราะห์องค์ประกอบ"ชายหนุ่มสั่งการซุ่มเสียงสั่นเครือ.ทันใดนั้นภาพที่เห็นในมุมมองบุคคลที่หนึ่งก็ปรากฏเป็นเคอร์เซอร์กระพริบแป๊บ ๆ วิ่งไล่แสกนแท่งทรายต้นหนึ่งตั้งแต่บนยันล่าง ตัวเลขข้อมูลวิ่งยึกยืออยู่ริมจอรอการประมวลผล."เราอาจจะแค่กลัวไปเอง บางทีในแท่งทรายนั่นอาจจะมีตัวอะไรซ่อนอยู่ ตัวที่ใช้ทรายในการข่มขู่ศัตรูคล้ายกับหางของงูหางกระดิ่ง..".ชุดข้อมูลยังคงวิ่งต่อไป ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็สั่นรัวพอ ๆ กัน เขากำลังจะจมลงไปเรื่อย ๆ ด้วยผลพวงจากเม็ดทรายข้างบนที่หล่นลงมาทับถม."ติ๊ด! ๆ , ติ๊ด! ๆ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 23 : ปีศาจ

    ตัดภาพกลับมายังชั้น 4 ด้านหลังผนังเมือกเจลกันอีกที หลังจากที่ได้สร้างความวินาศสันตะโรให้แก่ชั้นล่างมาอย่างต่อเนื่อง บัดนี้เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ของเราก็เหมือนจะโดนเอาคืนบ้างซะแล้ว เพราะจู่ ๆ เจ้าโบกี้รถไฟอันเป็นยานพาหนะเพียงอย่างเดียวก็ชักจะเริ่มพยศ มันดันทะลึ่งทำความเร็วขึ้นเองโดยที่เขาไม่ได้สั่งหรือทำอะไร ความเร็วดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกือบทำให้ล้อกระเด็นตกจากราง ทั้ง ๆ ที่บริเวณนี้เป็นแค่ผืนทรายราบ ๆ ไม่ได้มีความสูงชันเหมือนตอนที่ปล่อยรถลงมาสักหน่อย"เฮ่ย! เฮ่ย! เร็วไปแล้ว! ชักไม่สนุกแล้วนะเพื่อน เหวอ ๆ ๆ ".เจ้าหน้าที่แขนพิการแหกปากร้องลั่นแข่งกับเสียงล้อเหล็ก ที่กระเด้งกระดอนครูดกับรางอย่างผิดวิสัย ครั้นพอลองชะโงกหน้าออกไปดูก็เห็นแต่ประกายไฟเป็นเส้น ๆ แฉลบออกมาจากใต้ท้องเสียงดังอี๊ดดดดด! น่าเสียวไส้!."หมอ! แม่งไม่โอเคแล้วหมอ! โบกี้มันจะคว่ำก่อนไปถึงแล้วหมอ! ว๊ากกกก! อ๊ากกกก!!!".โบกี้เหล็กยังคงบดล้อเข้ากับราง มันวิ่งส่ายยึกยือไปมาฉวัดเฉวียนคล้ายกำลังจะเสียศูนย์ การเหวี่ยงแต่ละครั้งก็แทบจะทำให้ตัวถังพลิกคว่ำอยู่รอมร่อ บางจังหวะก็ถึงกับยกล้อลอยพ้นพื้นเอียงกระเท่เร่ชวนให้ลุ้นร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status