"อุ๊ยแม่! ร่วง!"
.
"เพล้งงงงง!!!"
.
แก้วกาแฟร่วงหล่นลงพื้นแตกกระจาย ด้วยฝีมือของสาวนักจัดดอกไม้นามแคทเธอรีน เศษกระเบื้องพุ่งไปไกลเกินกว่าเมตรแถมยังแฉกกระจายออกทุกทิศทุกทาง ทำเอาทุกสายตาในร้านหันมาจับจ้องที่โต๊ะของเธอเป็นจุด ๆ เดียว
.
"ชิ! ซุ่มซ่ามชะมัดผู้หญิงอะไร ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาซะเลย! อายเขาไหมล่ะทีนี้! ดูดิเป็นคนแท้ ๆ ต้องมาโดนพวกหุ่นยนต์เหยียด!"
.
"ย่ะ! ก็ใครล่ะที่ดันสั่งกาแฟมาซะเต็มโต๊ะ 1.. 2.. 3.. 4.. 5.. 6.. 7 โอ้โห! สั่งเยอะขนาดนี้ไปซื้อยาบ้ามาเคี้ยวแทนเถอะพ่อคุณ! มือฉันแค่พลาดไปโดน มันเป็นอุบัติเหตุย่ะ!
.
"ไอ้คนใจดำ! ถ้าเป็นพี่เจฟเฟอร์นะพี่เขาต้องเข้ามาถามฉันแล้วว่าเป็นอะไรรึเปล่า แทนที่จะด่าฉอด ๆ อย่างแก.. หึ๊ย!"
.
เพื่อนชายมุ่ยหน้าใส่หนำซ้ำยังยกมือขึ้นกอดอกทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเพราะเบอร์แบร์โต้รู้ดีว่าขืนเอะอะโวยวายมากไป เดี๋ยวไอ้พวกหุ่นกระป๋องที่นั่งอยู่เต็มร้านก็จะเขม่นเอาอีก เขาล่ะไม่ถูกชะตากับเจ้าพวกนี้เอามาก ๆ ทั้งไม่อยากอยู่ใกล้ แล้วก็ไม่อยากจะใช้ไลฟ์สไตล์ร่วม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะปูมหลังของเจ้าตัวที่ต้องการจะปกปิดไว้เป็นความลับ
.
"เออรู้แล้วล่ะนะ.. ฉันขอโทษก็ได้ หลบมานั่งฝั่งฉันนี่มา ให้เจ้าหุ่นมันทำงานเธอกำลังขวางทางมันอยู่นะ"
.
"อุ๊ย! ขอโทษค่ะคุณลุง"
.
หล่อนสะดุ้งโหยงเมื่อพบว่าไม่กี่วินาทีให้หลัง หลังจากเกิดเหตุคุณลุงหุ่นยนต์เจ้าของร้านตัวปุ้มปุ้ยก็ได้เดินเอี๊ยดอ๊าด ๆ เข้ามาหาพร้อมกับอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ถืออยู่ในมือ
.
"ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด ๆ มิเป็นไรครับ ขอเวลาทำความสะอาดสักครู่ครับ"
.
จบประโยคใบหน้าที่เป็นหน้าจอสี่เหลี่ยมก็หมุนติ้ว ๆ เป็นตู้สล็อตแมชชีนอีกครั้ง ก่อนจะหยุดหมุนแล้วปรากฏเป็นภาพของไม้กวาดไขว้กับไม้ถูพื้นที่คล้ายกับกากบาทขึ้นมา แต่เดี๋ยวก่อน! โปรดอย่าคิดว่ามันจะเหมือนกับโฆษณาขายสินค้าตอนกลางดึกของจอร์จกับซาร่า ที่พรรณนาถึงการเอาม็อบมาถูเข้ากับพื้นแล้วบิดน้ำตากว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ เพราะนี่มันโลกปี ค.ศ. 2078 แล้ว
.
เจ้าของร้านร่างอ้วนเปิดช่องลับตรงฐานล่างของตัวเองออก จนเห็นลูกล้อและกลไกการเคลื่อนที่อันสลับซับซ้อน แต่นั่นไม่ใช้ประเด็นเพราะหลังจากที่แสงเซ็นเซอร์สีแดงถูกยิงออกมาจากช่องดังกล่าว พื้นกระเบื้องทั้งร้านก็กลายเป็นตารางหมากฮ็อต เส้นสีแดงสว่างโล่เป็นแนวไปตามร่องกระเบื้องเพื่อแสกนหาเศษแก้วทั้งหมดที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย อยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ
.
พอล็อคเป้าได้ทุกอย่างก็ง่ายล่ะ เพราะอุปกรณ์ที่ลุงแกถือมาหาใช่ไม้ถูพื้นอย่างที่พวกเราคิดไม่ แต่มันคือ "ก้านจับสำหรับคอนโทรล" แกใช้มันจุ่มเข้ากับพื้นกระเบื้องเพื่อเป็นการลิงค์สัญญาณ Rosen bridge อันเป็นสัญญาณปฏิภัทเวลาที่โลกเพิ่งค้นพบเจอเมื่อปี ค.ศ. 2048 และพัฒนาขึ้นใช้จริง ด้วยฝีมือของปัญญาประดิษฐ์ (Ai) ที่ไม่ใช่มนุษย์
.
ส่งผลให้คุณลุงแกย้อนเวลาได้ชั่วขณะหนึ่ง แล้วแกก็ก็เลือกที่จะโฟกัสเอาแต่แก้วกาแฟที่แคทรีนทำแตกเท่านั้น เพียงแค่เสี้ยวอึดใจทุกคนในร้านก็ได้เห็นว่าภาพมันเหมือนกับเทปวีดีโอตอนกรอถอยหลังในยุค 90's ไม่ผิดเพี้ยน เศษกระเบื้องชิ้นเล็กชิ้นน้อยวิ่งย้อนกลับเข้ามาหากัน มวลน้ำกาแฟที่ควันโขมงไหลย้อนสวนทางกลับหลังอย่างผิดธรรมชาติ แล้วก็วาร์ปเข้าไปอยู่ในแก้วตามเดิม
.
ก่อนที่สุดท้ายแล้วแก้วกาแฟกับจานรองทั้งหมดทั้งมวล จะวูบไหวฉึบฉับ! ขึ้นมาอยู่บนมือของหุ่นยนต์เจ้าของร้านอย่างหน้าตาเฉย!
.
"กริ๊ง!!!"
.
"ได้แล้วครับ.. เชิญทานให้อร่อยนะครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้เสมอ ตุ๊ด ๆ ตุ๊ด ๆ "
.
จัดแจงวางแก้วที่เคยแตกคืนลงบนโต๊ะ พลางยิ้มให้ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ แล้วก็กลับหลังหันเดินตุ้มตุ้ยกลับเข้าหลังร้านไป มนุษย์ที่มีอยู่เพียงแค่สองคนในร้านอย่างแคทรีนกับเบอร์แบร์โต้ก็เลยไม่แปลกใจนัก ว่าทำไมร้านกาแฟที่โด่งดังที่สุดในยอร์คชินถึงมีลุงแกเป็นพนักงานแค่คนเดียว แล้วก็ยังเชื่ออีกด้วยว่า อีกไม่นานมนุษย์อย่างพวกเขาก็คงจะหมดความจำเป็น
.
"ซูดดดดด! อึก ๆ อึก ๆ อึก ๆ "
"อ่าาาา~ หวานชิบเป๋ง!"
.
"อร๊ายยยยย! ไอ้ดำโต้นั่นมันแก้วกาแฟของฉันนะยะ แกถือสิทธิ์อะไรมาสวาปามของ ๆ ฉันมิทราบ คุณลุงเขาอุตส่าห์ช่วยเอากลับคืนมาให้ หน็อยยย! กรอดดดด!"
.
"ก็ฉันเกลียดมันนี่นา.. เห็นเธอทำตาลุกวาวปลื้มจิตปลื้มใจแบบนั้นแล้วยิ่งน่าขนลุกชะมัด ไม่รู้จะไปให้ค่าอะไรกับพวกมันนักหนา! หมั่นไส้! "
"ไป! ไปกันได้แล้ว! ไม่ทำงานทำการรึไง? ฉันต้องการ Gravity bike คันใหม่ด้วยต้องออกไปทำงานให้บอสอีก"
.
"บ่นอย่างกับตุ๊ด!"
"ช่างฉันเถอะน่า.. Bill , Please!"
.
"อ่าวแล้วไม่รอพี่เจฟเฟอร์แล้วหรอ!?"
.
"หมดอารมณ์จะรอแล้ว แกช้าเกินไปล่ะก็เลยว่าจะลองบุกเดี่ยวดูก่อน ไหวไม่ไหวยังไงค่อยว่ากันอีกที ขยับซิเธออ่ะ! ฉันจะจ่ายตังค์"
.
เบอร์แบร์โต้ลุกขึ้นยืนพลางสอดมือข้างที่ถนัดล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ระหว่างนั้นก็ใช้มืออีกข้างเขี่ยนิ้วหมุนเป็นวงกลมบนโต๊ะ ชั่วขณะจิตหน้าจอเมนูเรียกเก็บเงินแบบดิจิตอลก็ปรากฏขึ้นข้างบน ชายหนุ่มปัดมันทิ้งในทีแรก เพราะไม่ต้องการจ่ายเงินผ่านบัญชีด้วยบาร์โค้ด เขามีเงินที่แอบจิ๊กมาจากเอ็มม่าอยู่เต็มกระเป๋าก็เลยต้องการที่จะจ่ายเป็นเงินสดมากกว่า
.
ซึ่งทางร้านก็ไม่มีปัญหา หน้าจอถัดมาที่โผล่ขึ้นคือรูปแบบการจ่ายแบบเงินสด ด้านซ้ายสุดของโต๊ะมีเส้นสี่เหลี่ยมสีเขียวสว่างโล่ขึ้นเป็นกรอบสำหรับวางธนบัตร ทางขวาสุดก็มีเช่นกันแต่เป็นเส้นวงกลมสำหรับวางเหรียญ พอเบอร์แบร์โต้จัดแจงวางเงินตามกำหนดจนครบแตะปุ่ม Enter ปุ๊บ!แป๊บเดียว! ตัวเลขค่ากาแฟด้านบนก็หมุนติ้ว ๆ ลดลงฮวบฮาบจนกลายเป็นศูนย์ เช่นเดียวกันกับเหรียญและแบงค์ที่จมหายลงไปในเนื้อโต๊ะพร้อมกันไปด้วย
.
"โอเค.. เรียบร้อย"
.
แคทเธอรีนกลืนน้ำลายฝืดคอ ตั้งแต่รู้จักกันมาเธอเองก็เพิ่งรู้ว่าเบอร์แบร์โต้มีเงินมากขนาดนี้ เธออยากจะลองถามเขาดูแทบขาดใจแต่ก็รู้อยู่ดีว่ายังไงซะเจ้าเพื่อนคนนี้ ก็ต้องตอบคำถามแบบกวนบาทากลับมาอีก ก็เลยลองถามแบบเลี่ยง ๆ ดู
.
"โห.. ไหนบอกไม่ชอบหุ่นยนต์ไง นี่เล่นเลี้ยงเขาทั้งร้านแบบนี้ ไปรวยมาจากไหนมิทราบจ๊ะ"
.
"อย่าเสือก! รีบไปกันได้แล้ว ฉันบอกแล้วไงว่าฉันต้องการรถ ฉันยังต้องทำงานต่ออีก!"
.
ไม่ได้ต่างจากที่คิดไว้เท่าไหร่ พูดกับหมาหมาเลียปาก แคทเธอรีนถึงกับหน้าเสียเธอมองดูเพื่อนชายคนสนิทเดินอาด ๆ ออกจากร้านไม่รับไหว้หรือยิ้มตอบคุณลุงแอนดรอยน์เจ้าของร้านด้วยซ้ำ เขาเดินข้ามฟากถนนไปรอที่ลานจอดเท้าสะเอวพ้อยท์เท้ารออย่างกับนางแบบชุดชั้นในวิกตอเรียซีเคร็ท พลางกระดิกเท้าดุกดิก จ้องเขม็งมาทางเธอหมายจะเอา Gravity bike คันใหม่ให้ได้
.
"ย่ะ.. รอฉันแป๊บนึงนะจ๊ะไอ้ผู้ชายเอาแต่ใจ ฉันจะไปจัดการทำเรื่องเบิกให้เดี๋ยวนี้ล่ะย่ะ พ่อคุณชายผิวถ่าน.. เช๊อะ!"
.
.
15 นาทีผ่านไปทุกอย่างก็เรียบร้อย แคทเธอรีนกลับไปทำงานกะบ่ายในร้านดอกไม้ของเธอต่อ ซึ่งแน่นอนว่างานแรกที่ทำก็คือการสนองตอบ Demand ของเบอร์แบโต้
.
พื้นผิวคอนกรีตของลานจอดข้างตึก Parallel ยุบบุ๋มลงเป็นวงกลม ซึ่งมีรัศมีความกว้างมากกว่า 3 เมตร ฝุ่นละอองลอยคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ก่อนที่พื้นลานจอดเจ้ากรรมจะค่อย ๆ หมุนเป็นวงในทิศทวนเข็มนาฬิกา พร้อมกับยุบตัวลงช้า ๆ เป็นหลุมโบ๋ เบอร์แบโต้พยักหน้าถูกอกถูกใจ เขาสืบเท้าถอยหลังหลบฉากตั้งตารออย่างมีความหวังว่าจะได้ใช้ยานพาหนะลำใหม่ ในการทำภารกิจที่แสนจะยาก
.
สักพักหนึ่งเจ้า Gravity bike คันงามกับอุปกรณ์พร้อมสรรพก็โผล่ขึ้น มันหมุนติ้ว ๆ ขึ้นมาจากชั้นใต้ดินราวกับรถยนต์ Mitsubishi Triton ที่มีพี่ตูน บอร์ดี้แสลมเป็นพรีเซนต์เตอร์ในงานมอเตอร์โชว์ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ไม่มีคุณก้อย รัชวิน มาเป็นพริตตี้ แล้วไอ้ฐานหมุน ๆ ในงานของเขาเอง ก็ไม่ได้ทำจากแผ่นคอนกรีตราดยางมะตอยดังที่เป็นอยู่
.
"ฟู่~!!!"
.
พอทุกอย่างประจำที่แล้วควันรอบฐานรองก็พุ่งขึ้นเป็นสาย เบอร์แบโต้รีบกระโดดขึ้นไปนั่งค่อมในเสี้ยวอึดใจ งานนี้เป็นไงเป็นกันขืนรอแต่เจฟเฟอร์ ปิเก้ที่สัญญาณขาดหายไปก็อาจจะตายไปซะก่อน เพราะระหว่างเจฟเฟอร์ที่หายไปจากการรักษาตัว กับปิเก้ที่หายไปเพราะภารกิจ ใครสำคัญกว่าก็น่าจะรู้ ๆ กันอยู่
.
"โอเค! ได้รถคันใหม่เอี่ยมอ่องมาแล้วไม่เลวนี่ยัยแคท! ค่อยสมกับเป็นเพื่อนกันหน่อย แต่ก่อนอื่นเราต้องเชื่อมข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกันก่อน และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขับไปดาวน์โหลดไปน่าจะเข้าท่ากว่า ไปกันเลย! ไปทำภารกิจกัน!"
.
"บรึ๊นนนน! บรึ๊นนนน!"
.
เป็นจริงอย่างที่บอสว่าเพราะภารกิจนี้เป็นอะไรที่ยากระดับ 8 เป็นงานที่เด็กใหม่อย่างเบอร์แบร์โต้ไม่เคยทำมาก่อน เขาได้รับข้อมูลภารกิจในภาพรวมจากแผงหน้าปัดบนยาน Gravity bike คันนี้ ผนวกรวมเข้ากับการลิงค์สัญญาณจากยานของพี่ปิเก้ ที่จอดทิ้งไว้ในย่านกลางเมืองฝั่งตะวันตก อันเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจสำคัญของเมืองยอร์คชิน แล้วก็เป็นเขตของพวกผู้มีอิทธิพล
.
"สัด! นี่มันงานแฝงตัวหาข่าวนี่หว่า เรายิ่งไม่เคยทำซะด้วยแล้วกับการที่พี่ปิเก้หายเงียบไปแบบนี้ แม่ง! หรือว่า! ช่างเหอะลองติดต่อแกดูหน่อยดีกว่า"
.
หนุ่มผิวสีละสายตาออกจากถนนไปชั่วครู่ แล้วเข้าสู่โหมดมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ในโหมดติดตามตัว เขาเห็นชัดเจนเลยว่าสัญญาณ GPS ของพี่ปิเก้ระบุตำแหน่งพิกัดล่าสุดว่าอยู่บนถนน Begerry บล็อค 12 ห่างจากที่นี่ไปประมาณ 800 เมตร เลี้ยวซ้ายสองครั้ง
.
"ครืดดดด! ครืดดดด! ครืดดดด!"
.
"ฮัลโหล.. ฮัลโหล.. พี่ปิเก้ได้ยินผมไหม ผมกำลังจะตามไปสมทบนะ รายงานสถานการณ์หน่อยพี่ ฮัลโหล! เฮ้! พี่ปิเก้!"
.
"ครืดดดดด ครืดดดดด"
เงียบสนิทไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา
.
"ควยเอ๊ย! ทีตอนชวนมาเย็ดผู้หญิงนี่อย่างเร็ว พอเป็นเรื่องการเรื่องงานแม่งหายหัวเลยนะพี่! ผมว่าคนอย่่างพี่แม่งไม่ตายง่าย ๆ หรอก มันน่าจะมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นที่นั่นแหละ ซึ่งผมคงต้องเข้าไปดูเอง รู้สึกว่าจะเป็นสถานทูตหรือสถานกงศุลอะไรสักอย่างใช่ไหม?"
.
"ฮู้วววววว!"
.
"เวรเอ๊ย! แม่งโคตรไม่มั่นใจอ่ะ ในชีวิตไม่เคยไปงานไฮโซแบบนั้นซะด้วยสิ"
.
คิดมากไปก็เท่านั้นไอ้หนุ่มผิวหมึกบึ่ง Gravity Bike คันใหม่ของเขาต่อไปด้วยใจหวาดหวั่น พลันทำใจดีสู้เสือเข้าสู้ ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็มาถึง ยานยนต์ล้ำสมัยถูกนำมาซ่อนไว้ในซอกตึกแถว ๆ นั้นและทันทีที่ก้าวเท้าพ้นลงมา มือหนาก็รีบบิดหัวเข็มขัดเพื่อเลือกชุดเครื่องแบบที่ต้องการ ตามติดมาด้วยการกดปุ่มที่หัวเข็มขัดเสียงดังคลิก!
.
เพื่อให้เมือกเจลบาง ๆ พุ่งตัวออกมา มันกำลังจะตกลงสู่พื้นอยู่รอมร่อเบอร์แบร์โต้จึงต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปใส่ สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นชุททักซิโด้สุดเนี้ยบ ที่เหมาะกับงานเลี้ยงเต้นรำในสถานทูตตามที่ได้รับข้อมูลมา
.
ซึ่งก็นับว่าเป็นโชคดีอีกอย่างที่แคทเธอรีนนั้นละเอียดพอ หล่อนตั้งใจใส่ช่อดอกไม้มาในยาน Gravity bike ด้วย เพื่อความแนบเนียนว่านี่คือยานพาหนะสำหรับพนักงานส่งดอกไม้จริง ๆ แล้วเบอร์แบโต้ก็ได้ฉวยเอาช่อดอกไม้ดังกล่าวนั่นแหละมาใช้ เขาดัดแปลงมันทำเป็นหน้ากากเพื่อจะได้เดินเข้างานได้อย่างเนียน ๆ
.
เพียงแต่ว่า!
.
"เชี้ย! ไอ้สัด! แม่งลงทุนโคตร ๆ นั่นมันโดรนควบคุมสภาพอากาศนี่หว่า ต้องเป็นระดับอัครมหาเศรษฐีเท่านั้นอ่ะถึงจะใช้ของแบบนี้ได้ อึก..ก...ก กูจะรอดไหมว่ะเนี่ยะ กูก็แค่เด็กบ้านนอกที่บอสเก็บมาเลี้ยงเฮ๊ย.. ย. .ย ถึงว่าทำไมบอสแกถึงต้องโทรบอกเราให้เอาพี่เจฟเฟอร์มาด้วย"
.
แค่ปากทางเข้างานเด็กใหม่ของเราก็ปอดแหกซะแล้ว โดรนเจ้ากรรมที่พูดถึงเมื่อครู่คืออุปกรณ์สำหรับควบคุมดินฟ้าอากาศ มันคอนโทรลได้แม้กระทั่งการเปลี่ยนเวลาจากกลางวันให้เป็นกลางคืน หรือจะกำหนดอุณหภูมิต่าง ๆ ให้เป็นไปตามที่ต้องการก็ได้ นับว่าเป็นนวัตกรรมชั้นสูง เป็นอีกหนึ่งความหวังในพาร์ทของการป้องกันภัยคุกคามทางธรรมชาติที่มีต่อมนุษย์ ซึ่งทีมนักวิทยาศาสตร์เองก็กำลังพัฒนาให้สเกลมันใหญ่ขึ้น จนถึงขนาดมีข่าวลือออกมาว่าอีกไม่เกิน 10 ปีข้างหน้า เจ้าโดรนพวกนี้จะถูกส่งออกไปโคโจรนอกอวกาศ
.
แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนั้นเลย! กลับมาตรงนี้ที่หน้าสภานทูตก่อนดีกว่า เหนือศรีษะของเบอร์แบร์โต้คือโดรนพวกนี้จำนวน 4 ตัว มันลอยสูงจากพื้นราว ๆ 7 - 8 เมตร แต่ละตัวบินกินพื้นที่ห่างกันประมาณ 2,000 ฟุตเป็นมุมฉาก พูดง่าย ๆ คือขอบเขตการทำงานของพวกมันมีลักษณะเหมือนกับกล่อง 3 มิติ ที่ครอบคลุมบริเวณสถานทูตแห่งนี้เอาไว้ทั้งหมด ตั้งแต่หลังคา อาคาร ไปจนถึงสนามหญ้า
.
จำได้ว่าเบอร์แบร์โต้แยกจากแคทเธอรีนตอนบ่ายกว่า ๆ จากตึก Parallel มาถึงที่นี่ก็ใช้เวลาไม่น่าจะเกินชั่วโมง เพราะฉะนั้นจะเป็นจะตายยังไงตอนนี้ก็ต้องสว่างอยู่ ไม่มีทางที่จะมืดหรือพลบค่ำไปได้ แต่ทว่าทันทีที่สายลับน้องใหม่ผู้อ่อนประสบการณ์รายนี้ สืบเท้าเข้ามาในอาณาบริเวณของโดรนเท่านั้นแหละมึงเอ๊ย! ภาษาอีสานเรียกว่า "มืดตึ๊บ!!!"
.
"พรึบ!!!"
.
"Oh my goodness! มันอะไรกันว่ะเนี่ยะ มองอะไรไม่เห็นเลย คอมพิวเตอร์ใช้อินฟาเรด!"
.
สิ้นเสียงสั่งการเลนส์นัยน์ตาก็หมุนแกร็ก ๆ ปรับจากม่านตาธรรมดาเป็นเลนส์ชนิดพิเศษที่มองเห็นได้ในที่มืด แม้จะไม่ชัดนักแต่ก็ยังดีกว่าใช้ตาเปล่า
.
"เงียบไปรึเปล่าวะ? ในข้อมูลที่บลีฟมาเขาบอกว่าเป้าหมายในการทำภารกิจเป็นเจ้าพ่อ ที่จะมาดิลงานผิดกฏหมายกับผู้มีอิทธิพลในงานปาร์ตี้นี่นา แล้วนี่มันอะไรกันเงียบเป็นเป่าสาก อย่างน้อยก็ต้องเห็นเงาพวกบอร์ดี้การ์ด หรือพนักงานต้อนรับที่เข้ามาตรวจสอบเราบ้างสิ! แต่นี่ไม่มีเลย?"
.
"ไม่ได้การณ์แฮะ แม่งชักไม่ดีแล้ว ระวังตัวไว้หน่อยดีกว่า.."
.
"หมวดจู่โจม! Swith On!"
.
ถือเป็นการสั่งการด้วยน้ำเสียงที่เบาจนเกือบจะกลายเป็นการกระซิบ ปลายนิ้วชี้เบอร์แบโต้หักเตรียมไว้รอเผื่อฉุกเฉิน เขายิงไม่แม่นแบบเจฟเฟอร์เพราะงั้นกันไว้ก่อนย่อมดีกว่า ซึ่งจะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจก็มิอาจทราบเพราะทุกครั้งที่ใช้โหมดนี้จอ GPS ระบุตำแหน่งจะรันขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ทำให้เด็กหนุ่มทราบว่าพี่ปิเก้ที่หายตัวไปก็ดันมีสัญญาณอยู่ข้างหน้านี่เอง พี่แกน่าจะอยู่ในห้องโถงหลังบานประตูใหญ่
.
"กูเดินเข้าเขตโดรนมาตั้งไกลยังไม่เจอใครสักคน ถ้าผลักเข้าไปข้างในแล้วยังไม่มีใครอีกกูกลับจริง ๆ นะบอส ข้อมูลบอสอย่างมั่ว!"
.
ยังอุตส่าห์มีอารมณ์ตลกแบบไม่ดูเวล่ำเวลา ทว่าวินาทีที่ผลักบานประตูหน้าห้องโถงหลักเข้ามานี่สิใจมันดันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม ขาแทบก้าวไม่ออก เพราะกลิ่นคาวนนั้นเหม็นคละคลุ้งรุนแรงจนต้องยกมือขึ้นปิดจมูก นี่คือภาพอุจาดสุดเวทนาที่สุดแล้วเท่าที่ดวงตาของเขาเคยเห็นมา
.
"ศะ.. ศพ! ศพเป็นร้อย ๆ เลย! อะ.. อ่ะ.. อ๊ววกกกกก!!!"
.
สำรอกออกมาโดยไม่แคร์ราคาของคาปูชิโน่ ดวงตาอินฟาเรดของเขาทำให้เห็นทุกอย่างเป็นสีเขียว ๆ ดำๆ แต่ก็พอเดาออกได้ว่าทุกคนคือพวกผู้หลักผู้ใหญ่คือคนมีฐานะ ศพพวกนี้น่าจะเป็นแขกหรื่อที่มางานเต้นรำสวมหน้ากากอย่างที่ข้อมูลบอก
.
"แล้วมันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันวะเนี่ยะ ทำไมทุกคนตายหมด! ไม่สิพี่ปิเก้! สัญญาณพี่อยู่ในนี้นี่หว่า! "
.
"คอมพิวเตอร์แสกน!"
.
เรติน่าจากเลนส์ตาปรับตัวอีกครั้งหลังได้รับคำสั่ง มันถอดอินฟาเรดออกเพื่อที่จะแสกนหาเป้าหมาย แต่แล้วยังไม่ทันจะทำอะไรเลยเบอร์แบโต้ก็สั่งให้หยุด พลันทรุดเข่าลงสำรอกอาหารกลางวันออกมาอีกหน
.
"แฮก ๆ แฮก ๆ อ๊วกกกก! อ๊วกกกก! ไม่ไหว ๆ มีแต่เลือดเต็มไปหมดเลย เต็มมือ เต็มหน้ากูไปหมดแล้ว! อ๊วกกก! อ๊วกกก!"
.
สีแดงฉาดฉานของสายโลหิตเปรอะเปื้อนไปทั่วทุกสารทิศ กลิ่นคาวเหม็นคลุ้งจนเริ่มเวียนหัว สภาพศพของพวกเขาเหมือนจุดจบของนักรบสปาตันในหนัง 300 ไม่มีผิด ถ้วยโถโอชามแตกกระจัดกระจาย! กลองชุดเครื่องดนตรีพังไม่เป็นชิ้น! ชุดสูท , หน้ากาก , กับชุดราตรี ที่เคยเลิศหรูบัดนี้ไม่ต่างจากผ้าห่อศพ ทั้งหญิงทั้งชายนอนตายกลายเป็นศพสูงกองพะเนินชวนสยดสยองน่าขนลุก
.
สติเบอร์แบร์โต้เหมือนจะหลุด ครั้นจะลุกขึ้นวิ่งหนีออกไปตั้งหลักไกล ๆ ก็ดันทะลึ่งลื่นลิ่มเลือดที่นองอยู่เต็มพื้นจนล้มหัวฟาด!
.
"โป้ก!!!"
.
"โอ๊ย! โอยยย! อูยยย! พี่เจฟเฟอร์พี่อยู่ไหน ตอนนี้ผมต้องการความช่วยเหลือจากพี่จริง ๆ นะ อ่ะ.. อ๊วกกก.. เอือกกก.. อ๊วกกกก"
.
เบอร์แบโต้คิดในใจ แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกี่ยวไหมเพราะคิดถึงเรื่องชวนอ๊วกนี้ทีไร เหมือนเลือดมันจะไหลออกจากแผลที่แตกมากยิ่งขึ้น
.
.
ฝูงหมู่มวลแมลงวันบินแตกรังหนีขึ้นสู่โพ้นขอบฟ้า พวกมันมีเป็นล้าน ๆ ตัวแต่ไม่มีสักตัวเดียวที่อยู่เชื่อฟังคำสั่งของเจฟเฟอร์ อย่าว่าแต่จะให้ไปช่วยใครเลย ขนาดตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด!
.
"เหวอ! อ๊ากกกก! ดึงฉันไว้ที่ Emily! จับมือฉันไว้!"
.
"วืดดดดด! ควับ!!!"
.
ไม่ใช่จับไม่โดนแต่เนื้อตัวของ Ai สาวนั้นวาบหายไป ตัว Emily กระพริบเป็นเส้น ๆ ดับ ๆ ติด ๆ อันเป็นผลมาจากสภาพจิตใจของเจฟเฟอร์ที่ตื่นตระหนกหวาดผวา ทำให้เครื่องฉายภาพในม่านตาทำงานไม่เป็นปกติ จนแทบจะใช้การไม่ได้
.
"โคตรแม่มเอ๊ย! อะไรก็ได้! คริส! อย่าให้ฉันตกใส่ทรายเป็นอันขาดนะ อ๊าาาาา! "
.
ตีโพยตีพายแหวกว่ายป่ายปัดสารพัด เพราะรู้ว่าชีวิตตนจบเห่แน่ถ้าหล่นลงไปสัมผัสพื้นทรายด้านล่าง แล้วทันใดนั้นเอง!
.
"จึก!!!"
.
"อ่าาาาาาาาส์.. อื้อออ.. อืออ.. อือออ!"
.
เจฟเฟอร์ห้อยต่องแต่งแหงนหน้ามองข้างบน พยายามมองหาว่าความอบอุ่นที่ห่อหุ้มนิ้วที่งอเป็นตะขอของเขาไว้คืออะไร ก่อนจะพบว่ามันไม่ใช่อุ้งมือของสาวน้อยโฮโลแกรมหากแต่เป็นหี!
.
"ครีส.. นะ.. นี่เธอ!"
.
"เกี่ยวไว้นะคะที่รัก ครีสไม่รู้ว่าจะทนได้นานเท่าไหร่ นอกจากจิ๋มแล้วคริสแตะตัวที่รักไม่ได้เลย!"
.
ร่างกายเธอกระพริบวูบวาบ เส้นสัญญาณแตกซ่า ๆ เป็นช่วง ๆ ไม่ต่างจากพี่ Emily เลยสักนิด อย่างที่เธอบอกเพราะเจฟเฟอร์ผู้เป็นดั่งเจ้าชีวิตเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าครีสจะหายไปตอนไหน แต่ที่รู้แน่ ๆ ตอนนี้เลยก็คือ โน่น! ข้างหน้าโน่น! เจ้าอสูรกายทรายบิ๊กเบิ้ม!
.
"ไอ้แซนดี้มันเริ่มรู้ตัวแล้ว.. ว.. ว.. ว !!!"
.
"โคร่งงงงง! , โคร่งงงงง!"
หน้าอกจุกเสียดแน่นท้องหายใจก็ไม่ค่อยจะออก อย่าว่าแต่การเค้นพลังลมปราณจากอวัยวะสืบพันธุ์เลย โดนสิบล้อทับทั้งคันอยู่แบบนี้แม้แต่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอด เขาเจ็บแค่ไหนนาตาชาเจ็บกว่า เขาดิ้นทุรนทุรายนาตาชาชักเกร็งจะเป็นจะตายเหมือนจะขาดใจตายอยู่รอน ๆ.ร่างกายเธอกำลังขาดเลือด อาการที่เห็นคือสภาวะช็อคอันเกิดจากการมีปัญหาที่ระดับความดันโลหิต เมื่อรวมเข้ากับน้ำหนักตัวที่กดทับลงมาของโรบอทซอมบี้แล้วไซร้ อะไรต่อมิอะไรจึงดำเนินไปในแง่ลบ เธอได้ตายจริง ๆ แน่หากบุรุษหนุ่มผู้จมอยู่ใต้ดอกยางไม่ตระหง่านออกมาช่วย."อั๊ก.. อ๊ะ.. อั๊ก.. ก.. ก.. ฮึบ! ดีนะที่แขนยังพอขยับได้อยู่".เจฟเฟอร์พยายามอย่างสุดกำลังรวบรวมพลังไว้ที่ปลายนิ้ว เรียกได้ว่าเค้นออกมาทุกหยดจะลมตดหรือติ่งเล็บตีน ขอแค่เปลี่ยนเป็น Energy ได้เขาไม่เกี่ยง หน้าจอในมุมมองบุคคลที่หนึ่งมองเห็นเคอร์เซอร์วิ่งติ๊ก ๆ ๆ พลันล็อคเป้าหมายไว้ที่โรบอทซอมบี้ตัวที่กำลังง้างกงเล็บ เตรียมจะฟาดฟันใส่องค์หญิง."งับ!"."โอ๊ย! ไอ้เหี๊ยะเอ๊ย! ขากู! ยิ่งเพิ่งต่อมาใหม่ ๆ อยู่ พวกมึงก็ให้เวลากูหน่อยเป็นไร อ๊ากกก! เจ็บ ๆ เจ็บโว๊ย! อูยยย~!".โดยไม่ทันระวังตัว เพราะในระห
ปลายนิ้วชี้มือขวาควันขึ้นโขมง หงายฝ่ามือขึ้นดูเจฟเฟอร์เห็นแต่รอยเขม่าไหม้อันแสนดำขลับ ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือเขาได้ทำเต็มที่ขี้เต็มกางเกงแล้ว เลเซอร์สังหารจากปลายนิ้วคืออาวุธชิ้นเดียวที่เขามี แม้ว่าเจ้าตัวจะลองนั่งคุกเข่าลง แล้วก็เล็งยิงเข้าใส่เป้าหมายเดิมไปอีกหลายชุด ด้วยท่าเบสิคสัด ๆ ตัดท่ายากลีลาเยอะออกไปก็ยังไม่ได้ผล กระสุนเรืองแสงหลายสิบนัดกระทบชิ่งลำตัวของพวกมันออกไป ราวกับถูกปัดด้วยดาบไลซ์เซเบอร์ของอัศวินเจได."เป๊ง! , เป้ง! , เป๊ง! , เป้ง!".แน่นอนว่าพอไม่ได้ผลก็เหมือนเป็นการเปิดช่องให้จักรกลซอมบี้ทั้งกลุ่มเร่ิมรู้สึกตัว พวกมันไม่ได้แค่มองแล้วในตอนนี้ แต่มันเล่นทิ้งร่างเปลือยของนาตาชาไว้ในการดูแลของไอ้ตัวที่ควักเต้านมอยู่เพียงลำพังแบบโดด ๆ ที่เหลืออีกสาม ประกอบด้วยไอ้ตัวเบื้องซ้าย , เบื้องขวา , แล้วก็ไอ้ตัวที่ใหญ่ที่สุด ได้เริ่มลุกขึ้นยืนพลางสาวเท้าโทง ๆ วิ่งเข้าหาเจฟเฟอร์ในทันทีทันใด."ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! , ตุ๊ด! ๆ ๆ ".ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแปลว่าอะไร แค่เห็นการกระโจนพรวดเข้ามาพร้อมกันแบบนั้น เจฟเฟอร์ก็รู้แล้วล่ะว่าชะตาตัวเองกำลังจะขาด ดูเหมือนเจ้าตัวจะทำพลาดมหันต์
แพลนกล้องกลับมายังทิศใต้ ณ จุดที่ห่างออกไปจากจุดที่เกิดเหตุเซ็กส์อนาฏกรรม ของคนและเครื่องจักร เขายังคงยืนเด่นเป็นสง่าถ่างขาจังก้าอยู่แบนแผ่น jumper board ที่ลอยสูงเหนือหัวกลุ่มซอมบี้โลหะเป็นแสน ๆ พวกมันทำอะไรเขาไม่ได้ อย่างเก่งก็ได้แค่กระโดดเหยง ๆ ชูไม้ชูมือ ป่ายปัดโดนขอบ ๆ ริม ๆ ของแผ่น jumper board เท่านั้น."เออ.. น่ะ ใจเย็น ๆ ไม่ต้องคลั่งกูขนาดนั้นก็ได้ ไอ้พวกนี้เดี๋ยวบัด! เหวอ ๆ ฮึบ! เห็นไหมล่ะ! บอกแล้วว่าเดี๋ยวมันตก แผ่นบอร์ดคว่ำไปมีหวังศพไม่สวยแน่กู.. ฮู่วววว!"เจฟเฟอร์ตวาดเสียงดังพลางชะโงกหน้าลงมาดูการเคลื่อนไหวเบื้องล่าง ก่อนหน้านี้เจ้าตัวดันหมดเวลาไปกับการใช้ออฟติคอลซูมซะเยอะ สายตาก็เลยล้าไปหมด มิหนำซ้ำผลพวงจากการถ้ำมองที่ไกลที่สุดจนเป็นสถิติโลกครั้งนี้ ยังทำให้อวัยวะส่วนตัวของเขาผงาดง้ำขึ้นมาอีกหน.หลังจากจัดระเบียบสังคมให้กับน้องชายผู้ซุกซนของตัวเองเสร็จ เจฟเฟอร์ก็กลับมามีสมาธิิอีกครั้ง เขาทิ้งฝูงซอมบี้สนิมเขรอะไว้เบื้องหลัง แล้วหันมาโฟกัสที่ภารกิจของตัวเองแทน ภารกิจติดตามองค์หญิงแห่งอลาลัสงั้นเหรอ หึ! ภารกิจช่วยให้นาตาชาหนีรอดจากการถูกข่มขืน? รึก็ไม่! เพราะแท้จริงแล้ว ส
ร่างเปลือยนอนชูขาอ่อนล้าเรี่ยวแรง นาตาชาไม่เหลือแม้แต่กำลังจะดีดดิ้นพลิกตัวหลบหนีจากการย่ำยีทางเพศ เอาจริง ๆ แล้วหล่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกมันเป็นตัวอะไร เพราะเสื้อเกาะอกที่เคยอำพรางพวงเต้าให้อูมกระชับได้รูปนั้น บัดนี้ก็ได้ถูกถลกขึ้นมาปิดตาเอาไว้จนมองอะไรไม่เห็นซะแล้ว สิ่งเดียวที่สาวเจ้ารับรู้จึงมีเพียงสัมผัสอันแปลกประหลาด ที่สากราวกับกระดาษทราย.อย่าเรียกว่าไซ้เพราะแม่งคือการแสครชเห็น ๆ นาตาชาแสบซอกคอไปหมด หลังจากโดนโรบอทตัวหนึ่งดอมดมด้วยความรุนแรง เสียงอืดดด.. อ๊าดดด กึกกัก ๆ ๆ ที่มันเปล่งออกมา ประดุจว่าแม่เทพธิดากำลังจะได้ผัวเป็นเครื่องถ่ายเอกสาร รับประกันได้เลยมันจะไม่แค่ "ก็อป" เพราะมันจะ "ปี้" เธอแน่ ๆ หากยังยอมนอนให้กดอยู่เช่นนี้."อ๊อย! เจ็บจังเลย.. อื้อ! อื้อ! ขยับตัวก็ไม่ได้! อย่านะ อย่าทำแบบนั้นตรงหูมัน.. อร๊อยยย~!".ธิดาแห่งอลาลัสผู้โฉมหน้าคร่าตาคล้ายกับเทย์เลอร์ สวิฟต์ เบี่ยงหน้าหลบแบบสุดแรงเกิด แม้จะทำได้เพียงน้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้จุดที่เสียวที่สุดถูกไอ้หุ่นสนิมเขรอะตัวนี้ล่วงล้ำเอาชัย แพรผมสีบลอนด์ทองถึงกับแตกกระพือ มันคลี่ตัวออกคลุกกับเศษดินขุยขยะจนไม่เหลือเค้า
"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเก
สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".