"แน่ใจเหรอพี่.. เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวแคทโทรตามคุณหมอให้ ให้แกมาห้ามเลือดหรือสมานแผลอะไรให้ก่อนก็ยังดี เหน็บแขนตัวเองเดินโทง ๆ แบบนี้มันดิบเกินไป"
แคทเธอรีนรีบปรี่ตัดหน้าเจฟเฟอร์ไปยังเครื่องโทรศัพท์ที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ คิ้วย่นยับยู่ ตัวสั่นหวาดกลัว แถมยังลนลานอย่างเห็นได้ชัด
.
ทว่าเจฟเฟอร์กลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน มันก็เจ็บอยู่หรอกแต่ไมถึงกับต้องร้องโอดโอยโดยไม่จำเป็น นั่นก็เพราะในตัวเขาไม่ได้มีแต่กระดูกกับเนื้อนุ่ม ๆ มันยังมีโลหะ ไทเทเนียม กระสุน เศษตะปู สายไฟ บั้งดูดกัญชา ฯลฯ แล้วก็อะไรต่อมิอะไรอีกเพียบที่ดัดแปลงซุกซ่อนไว้
.
เจฟเฟอร์เดินตามเข้ามาติด ๆ ก่อนจะวางแขนซ้ายข้างที่ขาดลงบนเคาท์เตอร์่ตรงหน้าเธอ ตามติดมาด้วยช่อดอกลาเวนเดอร์ที่เกรงว่าจะกำพร้าเจ้าของ
.
"อย่าไปรบกวนคุณหมอยูมิโกะเขาเลยแคท ปกติงานแกก็ล้นมืออยู่แล้ว Parallel ภาคสนามก็งี้ทุกคนแหละ ยังไม่ชินอีกหรอ ขอแค่อะไรเย็น ๆ มาแช่เจ้าแขนนี้ไม่ให้เซลล์มันตายก็พอแล้ว^^ "
.
ด้วยความสัตย์จริงเจฟเฟอร์แทบไม่เหลือความกระหืดกระหายในรสชาติของกามอารมณ์อีกต่อไปแล้ว หลังได้เห็นสีหน้าท่าทางของแคทเธอรีน เธอช่างเป็นเด็กสาวที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ยิ่งดูยิ่งน่ารักท่วงท่าเงอะ ๆ ง่าน ๆ มือไม้สั่นเทาเป็นลูกนก หยิบจับอะไรก็พลอยหล่นร่วงไม่มีชิ้นดี
.
"ดะ.. ได้ค่ะพี่เจฟ เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะในตู้แช่ดอกไม้น่าจะมีน้ำแข็งเหลืออยู่ เดี๋ยวหนูไปหยิบมาให้ , ว๊ายยยย!"
.
"เพล้ง!!!"
.
ฝ่ามือพลาดไปปัดโดนจอคอมตกลงมาแตก! สมุดปากกาหล่นเกลื่อนกระจุยกระจาย!
.
"เอ้า! ใจเย็น ๆ สิน้องเอ๊ย! ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ พี่ไม่ตายหรอก! ดูซิเป็นอะไรรึเปล่า? เจ็บตรงไหนไหม?"
.
ยังอุตส่าห์มีหน้ามาถามคนอื่น ทั้งที่จากประตูจรดเคาท์เตอร์แม่งมีแต่เลือดของคุณพี่เจฟเฟอร์แดงฉานอยู่เต็มไปหมด
.
"ทำงานใหม่ ๆ ก็แบบนี้แหละพี่เองก็เป็น น่ีเราเข้ามาเป็นแอดมินตั้งแต่เมื่อไหร่นะพี่จำไม่ได้?"
.
"ประมาณปีที่แล้วค่ะ ช่วงเดือนมีนา ตอนนั้นหนูเพิ่งเรียนจบ.."
.
ในระหว่างที่แอดมินสาวกำลังย่อตัวเก็บกวาดข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่ จู่ ๆ เจฟเฟอร์ก็เริ่มคิดขึ้นมาได้ว่าเดี๋ยวเจ้าหล่อนก็ต้องเสียเวลาออกมาเช็ดถูคราบเลือดที่เขาทำเปื้อนเอาไว้ทั่วอีก ความเกรงใจในกมลสันดานก็เลยบังเกิดขึ้น เจ้าตัวก็เลยพยายามหาช่องลงด้วยคำพูดที่ละมุนละม่อมที่สุด
.
"โห.. ถ้างั้นก็ถือว่าเก่งมาก ๆ อ่ะ ทั้งคอยต้อนรับลูกค้า เช็คออร์เด้อส่งดอกไม้ จัดคิวงานพวกพี่ ๆ แล้วไหนจะต้องใช้เครื่องแปลงมวลสารเวอร์ชั่นออริจินอลอีก ตาย ๆ ๆ ! ขนาดพี่ใช้เครื่องรุ่นพกพาแขนพี่ยังขาดกระจุย! น้องเก่งมากเลยนะแคท^^ ถ้าไงพี่เจอบอสแล้วพี่จะบอกให้แกหาคนมาช่วยน้องละกัน ไปล่ะ! บับบาย^^ "
.
"อ่าวพี่เจฟ! แล้วน้ำแข็งล่ะคะไม่เอาแล้วหรอ?!"
.
"อืม.. ไม่เป็นไรหรอกมันอยู่ในตู้แช่ดอกไม้ด้านในสุดใช่ไหม? เดี๋ยวพี่จัดการเองแคททำงานตัวเองต่อไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับผู้ชายธรรมดา ๆ พิการแขนขาดอย่างพี่เลย ฮ่าฮาาา ๆ ๆ "
.
"อ้อ! แล้วก็อย่าลืมช่อดอกลาเวนเนอร์ตรงนี้ด้วยล่ะ ของพิเศษสำหรับคนพิเศษระวังเดี๋ยวมันจะน้อยใจเอา^^"
.
พูดเสร็จเจ้าตัวก็เดินหายลับเข้าไปด้านหลัง โดยไม่อยู่ดูหน้าตาอันเหรอหราของน้องสาวหุ่นสะบึม ที่แหงนหน้าขึ้นมาพบกับความว่างเปล่า
.
"เฮ้อ.. ไอ้เจฟเอ๊ย! เอ็งนี่มันจิตใจอกุศลเหลือเกิน กับน้องกับนุ่งกับเด็กอายุแค่นี้มึงก็ยังคิดจะจับน้องเขามาเย็ดได้ลงคอ ชาติชั่วชะมัด พี่ขอโทษนะแคทไว้หนูโตกว่านี้อีกสัก 3 - 4 ปี พี่จะเหลาควยไว้รอเลยพี่สัญญา ฮั่วฮ่าาา.. ฮ่าาาา ๆ "
.
ยิ้มหัวเราะคนเดียวราวกับคนบ้าอีกสักที ก็นะในเมื่อตูดใหญ่ยักษ์มันยั่วตาจองไว้ด้วยหางตาก็คงไม่เป็นไร ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะว่าตอนนี้แขนข้างที่ขาดออกมามันสำคัญกว่ามากน่ะสิ เจฟเฟอร์เดินตรงลิ่วเข้ามายังส่วนท้ายของอาคาร Parallel ชั้นหนึ่ง (ที่ยังคงเปิดเป็นร้านดอกไม้อยู่) บริเวณนี้ถูกกันไว้สำหรับใช้เป็นที่สต็อกสินค้า มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างดีและแน่นอนว่าต้องมีน้ำแข็งอยู่ เขามองเห็นมันแล้้วในวินาทีแรกที่เข้ามาถึง แต่ถังใส่นี่สิ? มันต้องมีภาชนะสักอย่างไว้ให้แขนที่ขาดจุ่มลงไปได้ด้วย
.
"เฮ้อ.. กรรมของกู ทุเรศตัวเองชะมัด นี่กูต้องเอารักแร้เหน็บแขนขาด ๆ เดินตามหาถังน้ำแข็งเนี่ยะนะ! คิดว่ากูเป็นพระถังซัมจั๋งรึไงฟะ? ระดับกูมันจันทร์ดาราโว่ย! "จันทร์เอาน้ำแข็งมาถูหลังฉันสิ" นี่มันต้องแบบนี้ถึงจะมีคลาส"
"เหี้ยสุด ๆ จะเดินย้อนกลับไปถามน้องแคทแม่งก็เกรงใจ ถังอยูไหน ถังอยู่ไส แวร์อายูมิสเตอร์ถัง? จุ๊กกรู๊วววว!"
.
แกว่งเท้าไปมาเดินผิวปากอารมณ์ดีสุนทรีย์หน่วงหนัก กระทั่งหลุดทะลุเข้ามาถึงส่วนหลังสุดของร้านดอกไม้ และแล้วเจฟเฟอร์ก็ได้เจอ มันไม่ใช่ถังหากแต่เป็น!
.
"เครื่องแปลงมวลสาร รุ่นออริจินอล!"
.
"โอ้แม่เจ้าโว๊ย! ใหญ่โตชิบเป๋ง ทำงานกับ Parallel มาหลายปีเพิ่งมีโอกาสได้เห็นของจริงเอาวันนี้ นี่แสดงว่าก้อนความจำต่าง ๆ ที่เราสูบมา สุดท้ายก็เป็นเจ้านี่ที่เป็นคนแปรสภาพ , บร๊ะ! "
.
ตบหน้าขาดังสนั่นจนแขนที่ขาดแทบหลุดจากรักแร้ ไม่แปลกที่่เจฟเฟอร์จะออกอาการตื่นเต้นเอามาก ๆ เพราะด้วยรูปลักษ์ของมันที่เหมือนกับเตาอบเครื่องปั้นดินเผา แผงวงจรกับปุ่มสั่งการต่าง ๆ เชื่อมต่อกันเนียนกริบล้ำอนาคต หนำซ้ำขนาดก็ใหญ่กว่าเครื่องที่เขาใช้บน Gravity bike เป็นสิบ ๆ เท่า ก็เลยทำให้คิดว่าน่าจะทำงานได้ดีกว่ามากโข แลกกับการที่สาวน้อยแคทเธอรีนเจ้าหน้าที่ Parallel ผู้รับผิดชอบเครื่อง ยังคงยิ้มกลุ้มกลิ่มก้นกระดกอยู่ได้แบบสวย ๆ ย่อมหมายความว่าเจ้าเครื่องนี่มีระดับความปลอดภัยที่สูงโคตร ๆ
.
ทีีนี้ตัดภาพมาที่แขนซ้ายของตัวเอง..
.
"เชี้ย! ไม่น่าโง่เลยกู"
ส่ายหัวง่อนแง่นยิ้มแห้ง ๆ ให้แก่ความเสนอหน้าหาเรื่องใส่ตัวของตนเอง ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะ ๆ บริเวณประตูอุโมงค์ด้านหน้าเครื่องดู แล้วก็สัมผัสได้ว่ามันยังคงมีความร้อนแบบอุ่น ๆ
.
"เอ๋.. แสดงว่าเพิ่งผ่านการใช้งานมาหยก ๆ รึเปล่าวะ"
.
"นี่อย่าบอกนะว่ามีพวกภาคสนามคนอื่นเข้ามาส่งงานก่อนเรา! สัด! เป็นไปไม่ได้! เสียหน้าชิบหาย! ฮึ่ย! ก้อนความทรงจำของกูแม่งแปรสภาพออกมาเป็นช่อดอกลาเวนเดอร์เชียวนะโว่ย! ใครวะที่บังอาจเร็วกว่ากู! "
.
"เฟอร์นันโด , ปิเก้ , หรือ เบอร์แบร์โต้ ต้องเป็นใครในสามคนนี้แน่ ไอ้เช็ดครกเอ๊ย! บอสยิ่งเอ็นดูเจ้าพวกนี้เป็นพิเศษอยู่ด้วย"
.
ความเดือดดานเข้าโจมตีจิตใต้สำนึก หูตาจมูกปากร้อนวูบวาบไม่ใช่แค่หัว ไม่หงไม่หามันแล้วถังใส่น้ำแข็ง เจฟเฟอร์รีบวิ่งตื๋อออกจากพื้นที่หลังร้านย้อนกลับมาหาแคทเธอรีนเพื่อถามเอาความจริงแบบไม่เกรงใจ ในชุดยูนิฟอร์มบางเบากับเสื้อเอี้ยมกันเปื้อนตัวโคร่ง ต่อให้นั่งคุกเข่าเห็นแต่ตูดกับสะโพกไซต์ยักษ์ด้านหลัง ครานั้นก็หยุดความโมโหโกธากลัวเสียหน้าของเจฟเฟอร์ไว้ไม่ได้
.
"แคท! ใครกันที่เข้ามาส่งงานก่อนพี่!? แล้วพวกมันแปรสภาพของออกมาเป็นอะไร!"
.
หญิงสาวผละมือออกจากผ้าถูพื้น! สะดุ้งเตะถังใส่น้ำแฟ๊บจนล้มคว่ำ! พาลให้ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกขั้น
.
"ว๊าย! พี่เจฟมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง!"
.
"เอ้อ! ช่างมันเถอะตอบพี่มาก่อนว่าใคร! ใครที่มันตัดหน้ามาส่งงานกับบอสได้ก่อน เฟอร์นันโด , ปิเก้ , หรือ เบอร์แบร์โต้ ต้องเป็นใครสักคนในนี้ใช่ไหมแคท! เร็วสิตอบพี่มา!"
.
"อ่ะ.. คะ.. ค่ะ ได้ค่ะพี่เจฟ รู้สึกว่าพี่จะมาถึงเป็นคนสุดท้าย"
.
"ห๊าาา..! จริงดิ!?"
.
"ค่ะ.. เท่าที่จำได้พี่เฟอร์นันโดน่าจะมาถึงเป็นคนแรกแต่กลับไม่ได้อะไรเลย ส่วนพี่ปิเก้ได้แค่เกสรดอกเยอบีร่าซึ่งไม่มีราคาค่างวดเท่าไหร่ ส่วนเจ้าเบอร์แบร์โต้ที่หนูไม่ค่อยชอบขี้หน้ามันนักได้เป็น..! อ่าวพี่เจฟ! หายไปไหนอีกแล้วล่ะ?"
.
แคทเธอรีนหันซ้ายแลขวาแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของพี่ชายที่เคารพ พลางถอนหายใจยาวด้วยความปลดปลง ไม่เข้าใจเหลือเกินว่าผู้ชายพวกนี้มันจะแก่งแย่งชิงดีกันไปเพื่อ! แล้วจู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงตอบของเจฟเฟอร์แว่วดังมาจากชานบันได ด้วยท่าทางการก้มโค้งสอดคอลอดราวจับบันไดลงมา
.
"ขอบใจมากแคท พวกนั้นอยู่ห้องบอสชั้นบนสุดใช่ไหม!?"
.
"ไม่พี่..! ตอนนี้น่าจะอยู่ชั้น 2 ในห้องอาบน้ำออนเซ็น เมื่อกี้หนูเพิ่งเอาผ้าเช็ดตัวไปถวายให้ไอ้เบอร์แบร์โต้มา! หนูล่ะเกลียดมันที่สุดเลย ถ้าพี่รู้ว่ามันแปรสภาพก้อนความทรงจำออกมาเป็นอะไรแล้วล่ะก็พี่จะเข้าใจหนู , "เช๊อะ! "
.
เขาไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้วน้องรัก! เจฟเฟอร์หนีบแขนขาด ๆ วิ่งตื๋อขึ้นไปบนห้องอาบน้ำชั้น 2 โดยพลัน ทิ้งให้แคทเธอรีนคนดีนั่งพูดคนเดียวกับถังแฟ๊บเป็นนาทีอย่างน่าสงสาร
"หยุดตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วางกำลังล้อมที่นี่ไว้หมดแล้ว!".เห็นจะจริงถ้าหากว่านี่เป็นหนังไทยสมัย "จารุณี" แสดงเป็นพจมาน ตรงกันข้ามเมื่อประโยคแสนเชยดังกล่าวคงจะใช้กับสถานการณ์จริงที่เป็นอยู่ ณ ขณะนี้ไม่ได้ ตำรวจห่าเหวอะไรล่ะ มองไปทางไหนก็มีแต่ซอมบี้เชียงกงล้อมหน้าล้อมหลังอยู่เต็มไปหมด เจฟเฟอร์กับกลุ่มคนใช้่มีดคงสุดจะต้านทานแล้ว สังเกตได้จากการถอยร่นเอาหลังพิงกันทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มิหนำซ้ำกางเกงผ้ายืดเจ้ากรรมก็ดันมาพันควยพันหำจนเกือบจะล้มคะมำเสียหลัก."โอ๊ย! เอ๊ย! อุ๊ย! เดี๋ยวก่อนเซ้! อย่าเพิ่งกูยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งบุกเข้ามาตอนนี้ไอ้พวกหุ่นสารเลว!"สายลับหนุ่มขึ้นเสียงพลางกระโดดเหยง ๆ เซถลาออกจากตำแหน่ง สีข้างเขาครูดเข้ากับเศษตัวถังยานที่ลักพาตัวองค์หญิงนาตาชามา โดยสันนิษฐานคร่าว ๆ ได้ว่า ยานลำนี้น่าจะโดนยิงร่วงก่อนหน้า Gravitybike ของเขาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น เพราะไอร้อนจากเครื่องยนต์ยังคงอุ่น ๆ อยู่ ทำให้เจฟเฟอร์เกิดปิ้งไอเดียบางอย่างขึ้นมา ก่อนจะหลุบสายตาลงมามองลำควยกับลำขาทีี่พันกันอิรุงตุงนังของตนเอง แล้วก็บ่นขมุบขมิบ."ชิ! ไอ้ควยระยำนี่ก็ช่างแข็งถึกแข็งทนเหลือเ
สอดท่อนแขนอันกำยำเข้าโอบเอว ตวัดดึงเอาร่างอันผอมเพรียวเข้ามาแนบไว้ในวงแขน พลันกระโดดม้วนตัวเอาส่วนหนารับกงเล็บของเครื่องจักรสังหาร!."เอือกกก!"เจฟเฟอร์ร้องอุทานลั่น เขากัดฟันเม้มมุมปากในเสี้ยววินาทีต่อมาเมื่อพบว่าองค์หญิงนาตาชากำลังจ้องมองอยู่ หน้าตาเธอบิดเบี้ยวขยะแขยง หัวคิ้วลู่เข้าหากันก่อนจะกลั้นใจซุกหน้าคมสวยที่คล้ายกับเทรเลอร์สวิฟ ลงมาซบเข้าที่ซอกคอของเจฟเฟอร์."ไม่ต้องกลัวนะครับผมมาช่วย ผมเป็นสุภาพบุรุษ ผมเกิดมาเพื่อคุณ""เอื้อกกก! อื้อหือ! อื้อออ! อ๊าาา!".แม่งแสบหลังก็แสบแต่แสบหูมากกว่าที่ต้องมาฟังอะไรแบบนี้ ระหว่างที่เจฟเฟอร์ได้ใช้ความพยายามในการปกป้ององค์หญิงอย่างเต็มความสามารถ พวกจักรกลซอมบี้ก็ทำอะไรองค์หญิงไม่ได้เลย มันทำได้เพียงตะปบกรงเล็บใส่หลังเขาแบบโหมกระหน่ำ และช่่วงเวลาที่เกร็งตัวป้องกันอยู่นั้น จู่ ๆ ริมฝีปากของนาตาชาก็ได้เผยอขึ้นเครือครางขมุบขมิบ เข้าใจว่าเธอคงจะกลัวมาก ยิ่งเป็นตอนที่เธอเผลอซีดปากและพ่นลมหายใจออกมา ยิ่งทำให้อารมณ์กำหนัดของเจฟเฟอร์พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น."กอดผมเอาไว้ครับ ผมจะไม่ให้องค์หญิงเป็นอะไรผมสัญญา"."อือ.. อืม.. แต่คุณคะ! ขืนเป็นแบบนี้".
ลมโชยโบยแก้มเจฟเฟอร์บึ่ง Gravitybike ทะยานฟ้าจนหนังหน้าชาไปเป็นแถบ ริมฝีปากเผยอตีนผมโบกพัดวือกระพือเสียทรง ให้ตายสิเขาทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นบอร์ดี้การ์ดของเธอยังไงยังงั้น ทั้งที่ความจริงแล้วดวงหน้าขององค์หญิงนาตาชาแบบใกล้ ๆ เขายังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง เจฟเฟอร์รู้แต่เพียงว่าเธอคือภารกิจ ขืนปล่อยให้รัชทายาทแห่งอลาลัสองค์นี้เป็นอะไรไป ข้อมูลการประชุมที่บอสอยากได้ก็คงจะล้มเหลว.มองไปตรง ๆ เห็นแต่ความสยดสยองบนท้องฟ้า ก้มลงด้านล่างก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องที่เล็กเท่ากับจิ๋มมดในเมืองยอร์คชิน กระทั่งลองมองที่หน้าปัดยานความซวยจึงบังเกิด."เชี้ยแล้ว! ไอ้สัดเอ๊ย! นี่จะขับพ้นขอบชายแดนแล้วเหรอวะเนี่ยะตั้งแต่เมื่อไหร่กัน""ตาย ๆ ๆ แคทเธอรีนไม่ได้เตรียมอาวุธใส่ Gravitybike มาซะด้วย ไหนจะพิกัดขององค์หญิงที่หายไปจากหน้าจออีก เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลยงานงอกแล้วไงกู!".โปรดอย่าสงสัยว่าทำไมเจฟเฟอร์ถึงออกอาการลนลานแปลก ๆ เพราะแม้ว่าในตัวเขานั้นจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำลายล้างมากมาย แต่ก็ยังเทียบไม่ได้อยู่ดีกับไอ้พวกที่อยู่ด้านล่าง เราพูดมาตลอดว่ายอร์คชินคือเมืองที่เปรียบเสมือนฐานที่มั่นสุดท้ายของโลก หลังเกิดส
แสงสว่างสองหย่อมเปล่งประกายออกมาตรงบริเวณแก้มก้น ภายใต้ชุดหนังรัดรูปอันเป็นเอกลักษณ์ของทีมงาน Parallel เจฟเฟอร์รับรู้ได้ถึงพลังงานความร้อนที่กำลังโรมรันผิวตูดของเขา มันอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ จนค่อนไปทางร้อน กระทั่งเจ้าตัวย่อขาลงแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างลงไปตะปบไว้นั่นแหละมันถึงได้หยุด! ก่อนจะได้ออกมาเป็นแผ่นกระดานบางใส 2 แผ่นที่เรียกว่า "Jumper board".ขนาดกับรูปร่างเหมือนกับจานร่อนพลาสติกที่คนรักหมาใช้ปาให้เจ้าตูบกระโดดงับ ต่างกันนิดตรงที่ "Jumper board" นั้นอยู่ในรูปของคลื่นพลังงานมากกว่า มันเรืองแสงตลอดเวลา บางเบาแต่แข็งแกร่ง มิหนำซ้ำบริเวณด้านล่างยังมองเห็นประกายไฟสปาร์คเป็นเส้น ๆ ราวกับสายฟ้าจากค้อนโยเนียร์ของธอร์เทพเจ้า."เอาล่ะพอถือไว้ในมือแล้วจากนั้นก็.. , ฮึบ!"."พลั๊ว! , พลั๊ว! , พลั๊ว!""ฟิ้ววววว~!".ประหนึ่งเคยได้เสียกับจาพนมมาก่อน เจฟเฟอร์ตีลังกาใส่เกลียวพลันปาเจ้าแผ่น jumper board ออกไปกลางอากาศ! ม้วนตัวทีก็ปาไปอันนึง หกคะเมนหกรอบก็ปาออกไปหกแผ่น มันแทบจะวาร์ปขึ้นมาบนก้นได้เองในทุก ๆ ครั้งที่เขาไพล่มือไปสัมผัสโดนเข้า แผ่นบอร์ดพุ่งแหวกอากากาศฟึบฟับ ๆ ๆ ! คล้ายกับดาวกระจาย ก่อ
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านสยายไกลมาถึงคนนอก เบอร์แบโต้กับเจฟเฟอร์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ รับรู้ได้เลยว่าปิเก้กำลังแบกรับความกดดันอยู่มากแค่ไหน พวกเขาเหงื่อแตกซิก หายใจติด ๆ ขัด ๆ ไม่อยากจะคิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง เพราะความจริงแล้วถ้าเขาไม่มัวเถลไถลหาแขนข้างใหม่อยู่ เหตุการณ์สุดสยองทำนองนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นกับปิเก้เป็นแน่."เชี้ยเอ๊ย! ถ้ากูใส่เกียร์หมาเร่งกระเด้าเย็ดผู้หญิงให้แตกเร็วกว่านี้นะมึงเอ๊ย ไอ้ปิเก้มึงคงไม่ตายกูพูดจริง ๆ กูขอโทษเพื่อน"ส่ายหน้าไปมาปลดปลง จนเจฟเฟอร์ลืมไปเลยว่าทุกอย่างที่ฉายอยู่นั้นพุ่งออกมาจากตาของเขา."เฮ๊ย! พี่เจฟ! ใจเย็นก่อนพี่! เส้นโฮโลแกรมมันแตกกระจายหมดแล้ว ผมเวียนหัวดูไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร แล้วพี่ก็อย่าโทษตัวเองไปเลย ความเสียใจของพี่ผมสิต้องเป็นคนแบกรับเอาไว้ ผมน่ะรับงานโดยตรงมาจากบอสเลยนะ"เบอร์แบโต้พยายามพูดปลอบใจ แล้วทันใดนั้นเองภาพเหตุการณ์จากเครื่องฉายในม่านตาก็กลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง เส้นลำแสงวูบไหวไปจังหวะหนึ่ง ตัดกลับมาหนนี้เจฟเฟอร์สังเกตเห็นเลยว่า ขณะนั่งคุกเข่าอยู่และกำลังจะถูกบ่วงเชือกไนล่อนกระชากคอขึ้นไป ปลายนิ้วชี้ของปิเก้ได้หักมุมลงมาแล้ว เขาเตร
"พี่ปิเก้กำลังบอกใบ้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นจากบนนั้นใช่ไหมครับ? พี่เขาต้องการให้เราขึ้นไปสืบข้างบนใช่ไหมพี่เจฟ?"เบอร์แบโต้ตวาดเสียงดุดัน ท่าทางเขาดูจริงจังจนออกนอกหน้า ซึ่งเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับสีหน้าสีตาของสายลับรุ่นพี่เป็นที่สุด."โอ่ย! โอ่ย! โอ่ย! ๆ ไอ้โต้เอ๊ย! ไอ้โต้! นี่ตอนเด็ก ๆ แม่มึงบดแกลบให้แดกกับกาบมะพร้าวเหรอ สมองมึงถึงอุ้มน้ำได้ถึงเพียงนี้! มันใช่ซะที่ไหนล่ะเจ้าทึ่ม! ตอนนั้นปิเก้มันนอนแหงนหน้าอยู่ใช่ไหม?"."ใช่ครับ.. พี่เขาหนุนตักผมอยู่?"."ถ้างั้นก็ไม่ผิดหรอก! เพราะที่มันชี้น่ะไม่ใช่รูแหว่งโบ๋บนหลังคา หากแต่เป็นของที่ขวางอยู่เบื้องหน้าอย่างหน้าผากแกต่างหากล่ะเจ้างั่ง!".ได้ยินเช่นนั้นมือหนาหยาบกร้านของเบอร์แบโต้ ก็รีบตะปบวนไปวนมาบนหน้าผากตัวเองทันที แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดสังเกต."หน้าผากผมมันมีอะไรเหรอครับพี่เจฟ ผมไม่เห็นจะเข้าใจในสิ่งที่พี่พูดเลย?"."เฮ้อ..! คืออย่างงี้สิ่งที่ฉันจะบอกก็คือ ธรรมชาติของหน่วยภาคสนามอย่างเราน่ะ มันต้องพร้อมที่จะตายตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างลับ ๆ ผ่านทางชิบที่ฝังไว้ในส