เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มเคล่ือนเปิดกว้าง พรายแสงเจิดจ้าจากหลอดไฟเพดานคือสักขีพยานสำหรับการตื่นตัว บนเตียงผ่าตัดในห้องพยาบาลชั้น 4 ในที่สุดเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ก็วกกลับคืนสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พร้อมกับแขนและขาข้างใหม่ที่ทั้งสวยงามและวาววับ ไม่มีแล้วกับไอ้ด้วนแขนกุด นาทีนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมจะทำภารกิจทุกชนิด แบบใส่สุดไม่หยุดสุดสัปดาห์
.
แต่ก็แปลกตรงที่สิ่งแรกที่เจ้าตัวเลือกทำ กลับมิใช่การก้าวเท้าลงจากเตียงผ่าตัดแล้วขยับเขยื้อนยืดเส้นยืดสาย เหมือนกับที่ผู้ช่วยนาริตะทำกับร่างกายของออเจ้าดาวิกา เขากลับเลือกที่จะถามหมอยูมิโกะขึ้นว่า
.
"ดอกไม้ผมอยู่ไหน?"
พลางหันซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาลอกแลก
.
"ดอกไม้?! ดอกอะไรของคุณคะ หมอไม่เห็นรู้เรื่อง หรือว่าสมองคุณผิดปกติเพราะได้รับรังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันปวดตรงไหนรึเปล่าเอ่ย?"
.
"หืม..!"
"ก็ช่อดอกลาเวนเดอร์ไงหมอ! ผมถือเข้ามาช่อเบ้อเร่อกะว่าจะเอาไปให้บอสหลังรักษาตัวเสร็จ แต่ตอนนี้มันหายไปแล้ว ยิ่งเป็นของหายากราคาแพงซะด้วยสิ บัดโถ่!"
.
"เอ.. มันเป็นยังไงน้อทำไมหมอถึงจำไม่ได้เลย เด็ก ๆ มีใครเห็นของ ๆ คุณเจ้าหน้าที่เขาไหมจ๊ะ?"
.
อย่าว่าแต่หมอยูมิโกะเลยที่จำไม่ได้ แม้แต่คนอ่านเองก็ยังกดข้ามฉากพรรณนาพวกนี้ไปเป็นสิบ ๆ ตอน เพราะจ้องจะอ่านแต่ฉากโป๊วาบหวิว 18+ ท้ายที่สุดคนที่ต้องนั่งห้อยขาหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็เลยกลายเป็นเจฟเฟอร์ผู้น่าสงสารแทน มันน่าน้อยใจไหมล่ะที่ไม่มีใครจำสิ่งที่เขาแปรสภาพออกมาได้เลยสักคน
.
"ไม่เป็นไรหมอมันอยู่ในห้องพยาบาลชั้น 4 นี่แหละ ผมได้กลิ่นหอมของมันอยู่ เดี๋ยวผมจะโชว์ให้ดูนะว่าขาข้างใหม่ของผมทำอะไรได้บ้าง"
.
"เอาสิคะ! หมอเองก็อยากเช็คผลข้างเคียงอยู่เหมือนกัน"
.
ว่าแล้วเจฟเฟอร์ก็จัดแจงเรียกหน้าจอเมนูมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First- person) ขึ้นมา ก่อนจะกวาดสายตาเลือกไปที่ชุดคำสั่ง "search" พลางเผยอจมูกฟุดฟิดสูดดมกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์เข้ามาจนเต็มปอด เพื่อให้ระบบค้นหาได้ใช้เป็นชุดข้อมูลอ้างอิง ในการระบุตำแหน่งวัตถุที่หายสาปสูญไป
.
รอให้รันข้อมูลอยู่สักครู่ ชั่วเคี้ยวหมากแหลกแถบดาวน์โหลดก็เต็มหลอดครบร้อยเปอร์เซนต์ เจฟเฟอร์หันหน้าไปทางไหนคราวนี้ล่ะแม่เจ้าโว๊ย! เคอร์เซอร์สีน้ำเงินเข้มนี่วิ่งตื๋อ! ส่ายยึกยือแสกนผ่านทุกสิ่งอย่างไปทั่ว ตัวเลขค่าพิกัดต่าง ๆ วิ่งตึ๊ด ๆ ๆ จนท้ายที่สุดมันก็หยุดลงตรงบริเวณใต้ชั้นวางของข้าง ๆ ตู้ยา ซึ่งอยู่เยื้องกันกับหัวเตียงผ่าตัดไปเพียงนิดหน่อย
.
"จึกจัก! , จึกจัก! , ฟู่!!!"
.
หมอยูมิโกะถึงกับอึ้ง ยูมิจัง กับนาริตะจังยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกหล่อนแทบไม่อยากเชื่อในสายตาตัวเอง เมื่อเห็นจะ ๆ ว่าขาข้างใหม่ที่ทำขึ้นด้วยไทเทเทียมอัลลอยด์ มันยกทั้งเนื้อทั้งตัวของเจฟเฟอร์ให้ยืนขึ้นด้วยระบบกลไกที่คล้ายกับโช้คอัพ มีควันเป็นสายพุ่งออกมาเป็นไอพ่น ฟันเพืองกลไกต่าง ๆ หมุนเวียนเปลี่ยนสลับ รับส่งกันได้อย่างลงตัวมีความสมูท ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเจฟเฟอร์ไม่ได้สั่งการอะไรเลย
.
เขาหลับตาลงเป็นนัยว่าจะโชว์ให้พวกคุณหมอเห็นถึงศักยภาพ ซึ่งขาข้างใหม่ก็ไม่ได้พลาด เมื่อมันจ้วงเท้าจึกจัก ๆ ๆ ไปยังพิกัดทิศทางของดอกลาเวนเดอร์ได้ด้วยตัวของมันเอง ลืมตาขึ้นแล้วก้มลงไปเอื้อมเก็บ ไม่ช้าไม่นานช่อดอกลาเวนเดอร์ที่เจฟเฟอร์โหยหามานาน ก็ย้อนกลับมาเป็นของเขาแม้จะเหี่ยวลงไปบ้างก็ตามที
.
"โห.. คุณเจ้าหน้าที่คะ! ถ้าขาคุณทำได้ขนาดนี้คุณไปจากชั้น 4 นี้ซะเถอะค่ะ หมอไม่มีอะไรจะรักษาคุณแล้ว"
.
"นั่นสินะครับ เอาเป็นว่าผมขอบคุณ ๆ หมอมากละกันสำหรับทุกอย่าง อย่าว่าแต่ขาเลยแม้แต่แขนซ้ายที่เพิ่งต่อมาใหม่ ก็ใช้งานได้ดีเยี่ยมพอกัน"
จบประโยคมือซ้ายข้างใหม่ก็ได้ทำการโยนช่อดอกไม้ขึ้น ให้หมุนติ้ว ๆ 360 องศากลางอากาศ ก่อนจะสอดมือเข้ามารับไว้ได้โดยพลัน บ่งบอกว่ากระบวนการรักษาทั้งหมดนั้นได้เสร็จสิ้นลงแล้ว แล้วก็ถึงเวลาซะทีที่ชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
.
.
ณ บริเวณบานประตูหน้าห้องพยาบาลที่มีหมอยูมิโกะเป็นประมุข เจฟเฟอร์หันมาโบกมือลาเธอกับผู้ช่วยด้วยความอาลัยอันน้อยนิด ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีทั้งความสุขและความซวยปะปนกันไป แต่ยังไงซะหากเลือกได้จริง ๆ เจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราก็คงจะไม่ย้อนกลับมาที่นี่อีกถ้าไม่บาดเจ็บหนัก
.
ประตูหน้าถูกเลื่อนปิดเจฟเฟอร์ย่ำเท้าเดินต๊อกอ้อยอิ่งไปตามทางเดิน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ห้องของบอสใหญ่ ผู้ซึ่งเป็นดั่งประมุขที่แท้จริงขององค์กร ปลายเท้าจิกพื้นเขย่งโบยบินอย่างกับนักกีฬายิมนาสติก สายลับหนุ่มอารมณ์ดีจัด เพราะของที่เจ้าตัวตั้งใจจะเอามากำนัลแก่บอสนั้น เป็นสิ่งที่หาดูได้ยากเหลือเกินในโลกยุคปัจจุบัน
.
จากชั้น 4 เคลื่อนมา 5 ผ่านไป 6 แป๊บเดียวก็มาถึงชั้น 7 แต่ทว่าจู่ ๆ ระหว่างที่เขากำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ และจวนเจียนจะถึงห้องทำงานของบอสอยู่รอมร่อ ช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือก็เกือบจะร่วงหลุดมือ Oh my goodness! ใครก็ได้ช่วยบอกเขาทีว่าที่นี่คือสำนักงานขององค์กรลับพิทักษ์โลก หรือสตูดิโอถ่ายหนังโป๊ของค่าย Tokyo Hot กันแน่
.
แม่งแทบจะเย็ดกันอยู่ทุกมุมห้อง ลองจินตนาการถึงกล้องวงจรปิดตามมุมต่าง ๆ ดูสิ ถ้าในองค์กร Parallel แห่งนี้มีผู้กำกับมากความสามารถสักคน แล้วได้โอกาสตัดต่อเอาแต่ฉากสำคัญ ๆ ที่ได้จากกล้องมาทำเป็นหนังนะ รับประกันได้เลยว่าตัวเลข GDP ของพันทิพย์ประตูน้ำจะต้องขยับตัวสูงขึ้นเพราะแผ่น DVD อนาจารกันอีกหลายเปอร์เซ็นต์
.
"อืม.. บอสขา~! ไม่เอาค่ะในชุดทำงานอยู่เลยนะคะ"
.
"จ๊วบบบบบ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ ไม่มีใครรู้หรอกน่า มันตื่นเต้นดีออก อ่าาา ปากเธอหวานจัง "
.
ร่างบางในเงาตะคุ่มปรี่่ตัวขึ้นคร่อมร่างของชายร่างท้วมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหาร เธอโยนแฟ้มเอกสารให้ไปค้างเต่ิงอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะรีบซุกใบหน้าลงที่ซอกคอฝ่ายชาย
.
"ดูดคอฉันซิ! ไซร้ให้ฉันเสียวขึ้นหน่อย ให้สมกับที่ฉันเล็งเธอไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์ที เยสสสส~!"
.
"อ่ะ.. อืม.. ค่ะ"
.
"ด๊ววววววบ ซีดดดดดดด จ๊วบบบบบบ ๆ ๆ ๆ"
.
ประหนึ่งว่าจะยังไม่สาแก่ใจ มือหยาบกร้านของบอสก็เลยกดหัวเธอให้ขยี้ริมฝีปากลงมาอีก พลางใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปใต้กระโปรงทรงพลีสที่ทั้งบางแล้วก็ผ่าสูง
.
กางเกงในตัวจิ๋วลายลูกไม้โดนเกี่ยวออกมาด้วยความว่าง่าย มันร่นลงมาคล้องอยู่กับข้อเท้าห้อยต่องแต่งเอาไว้แบบนั้นด้วยเหตุผลของความจงใจ ก่อนที่ชายสูงวัยในเงามืดจะพาดขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้กับขอบโต๊ะ จัดแจงตำแหน่งบั้นท้ายเธอให้ตรงกับแท่งหรรษาของเขาในชุดยูนิฟอร์มบริษัท
.
"เฮือกกกกก! อ่าาาา บอสขาาาา ฉันไม่อยากทำเลย แบบนี้มันไม่เหมาะสม มันผิดจรรยาบรรณค่ะ เจ้านายกับลูกน้องไม่ควรจะ..!"
.
"อ่ะ.. อ่ะ.. อ่า.. อ่า.. อ้าาาาา.. อ๊ายยยย.. อ๊ายยยยย.. บอสขา อ๊ายยย บอสสสส.. อ่ะ.. อ่ะ อ๊ายยยย.. บอสสสส ซีดดดดด! "
.
ไม่ทันการณ์ซะแล้วเธอสู้แรงเขาไม่ไหวเลย มันออกจะคล้ายกับการขืนใจปลุกปล้ำอยู่หน่อย ๆ เมื่อลำควยอันใหญ่ยาว เริ่มประหัตประหารเยื่อพรหมจารีให้ขาดสะบั้น! ร่างบางในชุดเลขาฯ เด้งขึ้นเด้งลง! ด้วยฤทธาของการกระเด้าสวนทางจากด้านล่าง ในขณะที่สองมืออันแสนหยาบกร้าน ก็ได้คืบคลานขึ้นไปโอบรัดไว้ที่เอว กระชับตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน
.
"ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ , ตับ ๆ"
.
"อื้อออ.. บอสขา อ่ะ อะ่ อ่า ควยบอสใหญ่จังเลยค่ะ เมื่อวานตอนที่อม.. อื้อ...ยังไม่ใหญ่ขนาดนี้เลยนะคะ อ่า.. อ่ะ.. อ่ะ.. อ่ะ แน่นรูมากอ่ะ แน่นหีเหลือเกินค่ะบอสสสสส อ๊ายยยยยย!!!! บอสสสส!!!!"
.
ช่องประตูที่แคบแสนแคบอันเป็นผลพวงมาจากการปิดไม่สนิท กลายเป็นสเปรชสุดสยิวที่เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์เกิดอาการควยแข็ง ด้วยความสัตย์จริง ณ ตอนนี้ ในบริบทแบบนี้ เจฟเฟอร์ไม่รู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร มันมืดเกินกว่าที่แสงธรรมชาติจะส่องลอดมาถึง ประกอบกับพวกเขาเองก็ไม่ได้เปิดไฟในห้องมันก็เลยมืดมากจนยากจะคาดเดา รู้แต่เพียงว่าไอ้อ้วนที่แอ่นพุงกระเด้าสาวอยู่นั้น คือบอสแน่ ๆ เพราะเจฟเฟอร์จำได้แม่นว่า ท่า Woman on the Top เป็นท่าที่แกโคตรจะปรีชาชาญเป็นที่สุด
.
แต่แล้วพอเผลอละสายตาลงมามองที่ช่อดอกลาเวนเดอร์ เจฟเฟอร์ถึงเริ่มคิด
.
"คงต้องรอให้บอสเสร็จก่อนถึงจะเข้าไปได้ ไป ๆ มา ๆ ดูทรงแล้วดอกไม้ช่อนี้น่าจะเหมาะกับแม้สาวปริศนานั่นมากกว่าแฮะ ท่วงท่าลีลาเย่อร์ของเธอมันร่านซะยิ่งกว่าคำว่า "อีดอก" ซะอีก"
.
.
"หนึ่งช่อมีหลายดอกฉันใด! ไม่แน่บางทีเราอาจจะขอแจมด้วยสักดอกสองดอก! ฉันนั้น หวังว่าบอสคงจะอนุญาตนะ! หึ ๆ ๆ "
เปลือกตาหนักอึ้งเริ่มเคล่ือนเปิดกว้าง พรายแสงเจิดจ้าจากหลอดไฟเพดานคือสักขีพยานสำหรับการตื่นตัว บนเตียงผ่าตัดในห้องพยาบาลชั้น 4 ในที่สุดเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ก็วกกลับคืนสู่โลกภายนอกได้สำเร็จ พร้อมกับแขนและขาข้างใหม่ที่ทั้งสวยงามและวาววับ ไม่มีแล้วกับไอ้ด้วนแขนกุด นาทีนี้มีแต่เจ้าหน้าที่ภาคสนามที่พร้อมจะทำภารกิจทุกชนิด แบบใส่สุดไม่หยุดสุดสัปดาห์.แต่ก็แปลกตรงที่สิ่งแรกที่เจ้าตัวเลือกทำ กลับมิใช่การก้าวเท้าลงจากเตียงผ่าตัดแล้วขยับเขยื้อนยืดเส้นยืดสาย เหมือนกับที่ผู้ช่วยนาริตะทำกับร่างกายของออเจ้าดาวิกา เขากลับเลือกที่จะถามหมอยูมิโกะขึ้นว่า."ดอกไม้ผมอยู่ไหน?"พลางหันซ้ายแลขวา สอดส่ายสายตาลอกแลก."ดอกไม้?! ดอกอะไรของคุณคะ หมอไม่เห็นรู้เรื่อง หรือว่าสมองคุณผิดปกติเพราะได้รับรังสีจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มันปวดตรงไหนรึเปล่าเอ่ย?"
“งั้นเหรอคะ จริงสิเกือบลืมคุณไปเลยคุณเจ้าหน้าที่เจฟเฟอร์ หมอรักษาสัญญาอยู่แล้วน่าไม่ต้องห่วง เด็ก ๆ จ๊ะมาจับตัวเขาไว้ที!”สิ้นสุดเสียงสั่งสองพี่น้องผู้ช่วยพยาบาลก็ทำตาขวาง พลางถลันตัวเข้ามาจับเจฟเฟอร์ที่แขนขาดข้างหนึ่งเอาไว้.“เฮ้! เดี๋ยวสิออเจ้า นี่มันอะไรกันไม่เห็นจะต้องรุนแรงขนาดนี้ก็ได้นี่!”แน่นอนว่าไม่มีสัญญาณตอบรับใด ๆ กลับมา เพราะออเจ้าดาวิกาได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว.“คุณพูดอะไรของคุณ ฉันฟังไม่เห็นรู้เรื่อง..”.“ไม่ต้องสนใจหรอกน้องนาริตะ แค่พาเขาไปที่เครื่องแปลงมวลสารให้ได้ก็พอ ฮึบ!”.ยูมิจังแทรกขึ้นก่อนจะใช้พลังที่หลงเหลืออยู่ทั้งหมด ออกแรงดันช่วยกันกับน้อง ทำให้แขนกับขาเทียมข้างใหม่ของเจฟเฟอร์ร่วงหลุดจากมือ สายลับหนุ่มพลั้งพลาดเข้าให้แล้ว ร่างแกร่งถลันถลาเซแถด ๆ จนศีรษะมุดเข้าไปอยู่ในอุโมงค์ส่วนหน้าโดยไม่รู้ตัว.“เดี๋ยวก่อน! อธิบายกันก่อนสิหมอ ผมแขนขาดนะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสมองเลย ทำไมถึงต้อง?! เฮ้! เดี๋ยวก่อนเซ้!”.“ชู่ววว! อย่าเอ็ดตะโรไปสิคะคุณเจ้าหน้าที่ ก็ในเมื่อคุณรู้ความจริงหมดแล้ว ว่าทั้งหมดที่เห็นอยู่ก็แค่ของสมมติที่หมอฝังโปรแกรมไว้ในเลนส์ตาของคุณ ที่จริงคุณจะ Drai
การเรียนรู้ของเราสองคนคือความเข้าใจ เธอเข้าใจและฉันเข้าใจก็ทำให้เรามั่นใจ.. (ในสิ่งนั้น) ซะที่ไหนล่ะ! นาทีนี้แม้แต่ชาติ เดอะวอยซ์ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เจฟเฟอร์สายลับหนุ่มผู้อาภัพได้แต่พร่ำพรึงถึงความหลังที่ผ่านมา ว่าตลอดระยะเวลาหลาย 10 ชั่วโมงที่เข้ามาที่นี่ เขาต้องพจญภัยผ่านชะตากรรมอันหนักหน่วงอยู่คนเดียวเพื่ออะไรกัน แขนข้างใหม่ที่เหน็บอยู่ใต้รักแร้กับขาไทเทเนียมอัลลอยเงาวับนี่ล่ะ ทำไมถึงไม่มีใครสนใจใยดีเลย.มากไปกว่านั้น ยูมิจังผู้ช่วยยังมายึดเอาอุปกรณ์ชิ้นสำคัญของเขาไปอีก."คุณเจ้าหน้าที่คะ.. ขอหูฟังคืนด้วยค่ะ หมอให้มาทวง"."เอิ่ม.. ม.. ก็ได้เอ้านี่เอาไป! ชิ!".เจฟเฟอร์ถอดมันออกพลันสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า บรรดาหมู่มวลจุลชีพสีดำขลับนับล้านต่างพากันบินแตกฮือขึ้นไปกลางฟากฟ้า ดั่งได้รับการปลดปล่อย."อานีคาโหตุ.. จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขีอัตตานัง ปะริหารันตุ จงมีแต่ความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด.. สาธุ"ขึ้นเสียงสูงประชดประชันแกมหมั่นไส้ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าตนเป็นชาวคริสต์นิกายไหนกันแน่ ถึงได้แผ่เมตตาเข้าใส่ได้อ
"อูยยยย....บัดซบเอ๊ย! ให้ตายเถอะมันจะวินาศสันตะโรอะไรกันขนาดนี้ว่ะเนี่ยะ คุ้มกันไหมกับการสำเร็จความใคร่ใส่หุ่นยนต์แอนดรอยน์ ".ร่างอันล่อนจ้อนแต่สุดจะแข็งแกร่งค่อย ๆ ประคองตัวเองลุกขึ้นยืน ด้านบนคือผืนฟ้ากว้างสุดสายตา ส่วนด้านล่างเป็นพื้นทรายประสมกรวดหินและเศษวัสดุ."สัด! นี่กูกระเด็นมาไกลถึงนี่เลยเหรอวะ? ไม่ใช่ว่าแขนขากูขาดเพิ่มไปแล้วนะเฟ้ย! หึ๊ยยย! ออกไปให้พ้นมันหนักโว๊ยยย! ไอ้ก้อนหินสารเลว!"."เปร๊ีียงงง!".ชั่วเคี้ยวหมากแหลกเศษอิฐผนังที่กระเด็นปลิวทะลุตามมาด้วย ก็โดนเจฟเฟอร์หวดเข้าอย่างจัง มันพุ่งแหวกอากาศย้อนกลับไปทางเดิมด้วยความรุนแรงที่มากกว่าหลายเท่า ก่อนจะชนกระทบเข้ากับผนังโกดังเสียงดัง โครมมม! เพิ่มความเสียหายให้กระจายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น."เวร.. เวร.. เวรของกูแท้ ๆ"เจฟเฟอร์ส่ายหน้า พลางสะบัดขาเจ็บแปล๊บ ๆ.ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First - person) ตัวเลขความเสียหายวิ่งตื๋อขึ้นมามากมาย บ่งบอกว่าร่างกายของเขานั้นไม่อยู่ในสภาพที่จะใช้การอะไรได้อีกต่อไปแล้ว แขนขาด ขาหมดพลัง แม้แต่ควยกับไข่หำก็ยังแฟบลงเหี่ยวหยดย้อย คล้อยไปกับแสงแดด.นี่จึงเป็นสาเหตุให้เขาออกอาการเซ็งอย่างท
รวบขึงข้อมือคู่น้อยเข้าด้วยกันด้วยฝ่ามือหนาเพียงข้างเดียว! ชูขึ้นเหนือหัว! พลันซุกไซร้มุมปากสลับกับการลงลิ้นเลียกินวงแขนขาวจนหนำใจและพึงพอใจเป็นที่สุด ความคลั่งหื่นกระหายกำลังจะเปลี่ยนให้เจฟเฟอร์เป็นโปรดิวเซอร์หนังโป๊แนวพีเรียดกึ่งย้อนยุค ด้วยเหตุผลดังกล่าวลีลารักที่เขาร่ายรำ จึงไม่ต่างจากกิจกรรมในซ่องชำเลาบุรุษหลังกำแพงวังพระนครศรีฯ."อ๊ายยย! คนบ้าทำอะไรเนี่ยะ"."ก็เลียให้ไง นึกว่าชอบแบบเสียว ๆ ? ".ออเจ้าหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ด้วยความที่แขนทั้งสองข้างถูกรวบตรึงให้ชูขึ้นค้างเติ่ง ไอครั้นจะแสร้งเบี่ยงหน้าหลบก็ดูจะเป็นการใช้มุกเดิมซ้ำซากจนเกินไป."ก็ชอบอยู่... ก็จั๊กจี้ดี แต่ฉันอยาก.. ก.. ก เอิ่ม.. ม.. ม".".....?".
แผ่นหลังหนาแน่นโอบคลึงแทบไม่มิด มันแกร่งแน่นขนัดลูบไล้ป่ายปัดรับรู้ได้ถึงแก่นแท้แห่งความรุ่มร้อน หล่อนไม่รู้แม้แต่ชื่อ ไม่มีแม้แต่อุปกรณ์ไอทีให้เช็คประวัติติดต่อสื่อสาร แต่ทำไมนะ! ทำไมกัน? ทำไมดาวิกานวลนางถึงได้รู้สึกผูกพักับฝรั่งหุ่นล่ำคนนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ.กลิ่นกายเขาสาปชื่นอย่างแปลกประหลาด นวดเคราเล็กบางที่ซุกไซ้ใส่ซอกคอก็สุดแสนจะจั๊กจี้ มันทำให้แอนดรอยน์สาวถึงกับต้องเอียงหลบเปลี่ยนมุม เพราะมีผลต่อความเสียวกระสันที่พุ่งตรงลงไปถึงโพรงหี กลีบโหนกเกร็งเสียวสั่นสะท้าน แรงปะทะของลำควยอันมิดด้ามฉีกแคมเธอจนอ้ากว้างปริ่มฟองฟด.ไหนจะซุ่มเสียงสำเนียงร้องที่ทำให้ออเจ้าเริ่มจะอับอาย กุญแจซอล เขบ็ดแปดชั้น หรือจะสู้ท่อนฮุกอันเครือครางที่ต่ำร่านยิ่งกว่ากิรณีกระหรี่ไร้ซ่อง ขบฟันเม้มปากพยายามที่จะหยุด แต่ก็หยุดไม่ไหวเพราะมองปาดขึ้นไปทีไรก็เห็นแต่ใบหน้าที่คมสันของฝ่ายชายผู้แสนจะน่ารัก."อ่ะ.. อ่า.. อ่า.. อ่า.. อ่าาา.. คุณเป็นใครคะ? คะ.. คุณชื่ออะไรพ่อฮีโร่ของฉัน อือ.. อ่ะ.. อ่ะ.. อ่า".หญิงสาวสนทนาผ่านไปทางสายตาที่เว้าวอนกระจ่างจิต มันคลอเคล้าไปด้วยหยดน้ำตาอันแสนเจ็บปวด มิหนำซ้ำสันคิ้วที่เคยโ