นัยน์ตาดำขลับหม่นมืด ยูมิโกะจ้วงเท้าโผทะยานเข้าใส่! พลางเหวี่ยงดาบขึ้นสูงจนสุดแขน! เป็นคนอื่นคงหมดสิ้นแล้วซึ่งความเป็นชาย แต่หาใช่กับคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่ถูกดัดแปลงมาอย่างเจฟเฟอร์
.
"เป้ง!!!"
เสียงโลหะกระทบกันดังก้องกังวาน แรงสะเทือนตีกลับจนด้ามจับหลุดออกจากมืออันเรียวสวย ดาบคะตะนะน้ำดีหมุนเคว้งกลางอากาศ.. ก่อนจะปักปลายลงกับพื้นเสียบตั้งตะหง่านอยู่กลางห้อง! , ฉึก!
.
"อ๊ากกกก! เจ็บชิบเป๋งเลยแม่งเอ๊ย! ควยกู!"
.
ขณะที่หมอยูมิโกะเลือกที่จะวิ่งย้อนกลับไปหยิบดาบขึ้นมาใหม่ เจฟเฟอร์กลับเพ่งความสนใจมาที่เอ็นอุ่นของตนเองแทน แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งจากส่วนผสมของอะลูมิเนียมคาไบต์ในร่างกายของเขา แต่ความเสียหายเมื่อครู่ก็นับว่ามากอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มจึงรีบเอาไหล่อิงกับกำแพงกระเสือกกระสนดันตัวเองขึ้นยืนอีกครั้ง จะได้กลั้นใจก้มลงเช็คสภาพของลับของตัวเองได้อย่างถนัดถนี่ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ การส่ายหน้า เบ้ปาก และน้ำตาหยดติ๋ง ๆ
.
"นี่กูบ้าหรือปัญญาอ่อนกันแน่วะ ที่เอาควยไปรับคมดาบระยำแท้ ๆ !"
.
ฝ่ามือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวชุ่มโชกไปด้วยเลือด แค่ปล่อยมันออกท่อนเอ็นที่เคยค้ำได้แม้กระทั่งพื้นก็เกิดการสปาร์ค รอยฟันเบ้อเร่อสร้างบาดแผลฉกรรจ์ตรงส่วนหัว สายไฟยึกยือภายในขาดสะบั้น มันสะบัดไปมาราวกับการเต้นระบำของพลุไฟในวันปีใหม่
.
"ช่วยชีวิตไว้ได้แล้วไงวะ? มันคุ้มกันไหมกับการเอาผู้หญิงไม่ได้อีกเลยไปตลอดชีวิต ไอ้โง่เจฟเอ๊ย! ไอ้ควาย! มึงมันไร้สมอง! สารเลว! ถุยชีวิต!"
"นี่ถ้าไม่ติดว่าผมกำลังจะเสียเลือดจนตายนะ ผมเอาหมอแน่ผมจะเย็ดหมอด้วยควยพิการ ๆ นี่แหละ! จะเย็ดให้หมอครางหาแต่ชื่อผมทั้งวันทั้งคืนเลยหมอยูมิโกะ! , ฮึ่ยยยย!"
.
"โอ๊ย! , อั๊กกก , อ๊ากกก!"
.
เหมือนยิ่งโกรธเลือดยิ่งสูบฉีด ยิ่งคิดถึงเรื่องใต้สะดือควยก็ยิ่งแข็ง แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะกับร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ เลือดก็พุ่งสิครับถามได้! แผลขาดที่แขนเลือดพุ่งออกมาเป็นน้ำตก ในขณะที่แกนแข็งนั้นแม้จะยังเซ็ตตัวขึ้นเป็นลำค้างไว้ได้อยู่ แต่ก็เกิดอาการบิดไปบิดมาชักขึ้นชักลงได้เอง! รวนสุด ๆ รวนจนควบคุมไม่ได้! แม้แต่ม่านตาของเจฟเฟอร์ก็เร่ิมติด ๆ ดับ ๆ ในมุมมองแบบ First - person ระบบสั่งการอาวุธ โหมดฟังชันค์พิเศษต่าง ๆ ขึ้นสถานะ Error! แดงเถือกไปทั้งหน้า! ซึ่งถ้าหากพูดกันตรง ๆ แล้วล่ะก็ ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองนั่นแหละ ที่กำลังทำให้ตัวเองต้องตาย!
ความบอบช้ำที่ตรงเข้าเล่นงานทำให้สายลับหนุ่ม มิอาจทรงตัวให้ยืนอยู่ได้อีกต่อไป ขาที่ไร้เรี่ยวแรงพับยวบลงทิ้งร่างหนาที่เคยแข็งแกร่งให้ล้มพับใส่ตักนุ่ม ๆ ของผู้ช่วยนาริตะ ซึ่งบัดนี้ไม่มีแม้แต่เงาหัว! น้ำพุเลือดที่พุ่งขึ้นจากตัวเธอเริ่มลดระดับลงแล้วก็จริง แต่ก็ยังนับว่ามากพออยู่ดีที่จะย้อมให้ร่างล่อนจ้อนของเจฟเฟอร์กลายเป็นสีแดงฉาน กลิ่นคาวเหม็นคละคลุ้ง เต็มที่เจฟเฟอร์ทำได้เพียงกระพริบตา
"เอาเลยสิ หมอยูมิโกะ ฆ่าผมซะ!"
เขาคิด! คนอีโก้หนาอย่างเขามือวางอันดับหนึ่งที่ไม่เคยทำงานพลาดเลยสักครั้ง แลกกับการต้องมาตกอยู่ในสภาพอนาถาเช่นนี้ให้ตายซะยังดีกว่า
.
แล้วยูมิโกะก็จัดให้ตามนั้นจริง ๆ เธอชักดาบขึ้นจากพื้นก่อนจะชำเลืองสายตาเล็กหยีที่โคตรจะดุ มาที่ปอยผมที่แหว่งเว้าของตนเอง เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เศษผมแสนสวยของเธอต้องหล่นกองอยู่กับพื้นเช่นนี้ รู้แต่ว่าคนที่ทำต้องเป็นชายประหลาดที่ใช้อวัยวะสืบพันธุ์เป็นอาวุธผู้นี้เป็นแน่
.
"ดาบคะตะนะที่หลุดมือ คือศักดิ์ศรีที่โดนหมิ่น!"
พอนึกคำพูดนี้ขึ้นได้ ยูมิโกะก็เดินย่างสามขุมกวัดแกว่งดาบตรงเข้าไปหาร่างอันแน่นิ่งของเจฟเฟอร์ในทันที ต่อด้วยการใช้ปลายเท้าเขี่ยเอาศพขาดสะพายแล่งของนาริตะจังออกไปให้พ้น ๆ ทาง ศพของสาวน้อยครูดไปกับพื้น มันสไลด์ลากยาวจนไปหยุดอยู่ที่ผนังอีกด้าน อันเป็นที่อยู่ของเจลยางตึ๋งหนืดที่ใช้กั้นห้องอีก 70% เอาไว้เป็นความลับ
.
แม้จะเบาแสนเบาแต่แรงสัมผัสดังกล่าวก็ส่งผลโดยตรงกับม่านเจลนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปฏิกิริยารีเฟล็กซ์ทำให้สีแดงช้ำเลือดช้ำหนองของมันเรืองแสงวูบวาบขึ้น! การเต้นตุบตับ ๆ ถี่รัวขึ้นมาก มองผ่าน ๆ ไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ตื่นขึ้นจากการจำศิลเลย
.
"หืม?"
ยูมิโกะชำเลืองหางตาไปมองอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งถ้าหากเป็นสถานการณ์ปกติแล้วล่ะก็ ช่องว่างตรงนี้เจฟเฟอร์คงชิงลงมือโต้กลับได้ไม่ยาก ทว่าตอนนี้กลับไม่ใกล้เคียง! แค่แบ่งสัมปะชัญญะออกมาคิดวิเคราะห์ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำหมอสาวเองก็เหมือนจะไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เธอปล่อยเลยตามเลย จิตใจเธอยังคงดำดิ่งอยู่ในห้วงยามของความมืด ผีห่าซาตานตนใดกันที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ไปได้
.
เอียงคอไปมาก็อกแก๊ก พลิกกลับด้านดาบซามูไรเสียใหม่ โดยการหันด้ามจับขึ้นข้างบนแล้วปักคมลงด้านล่าง ตาสองตาประสานกันชายหญิง เจฟเฟอร์ไม่มีทีท่าว่าตื่นกลัวแต่อย่างใด เพราะที่จริงแล้วเขาเองก็ได้สั่งเสียกับเบอร์แบร์โต้ไว้แล้ว ว่าเหตุกาณ์ทำนองนี้อาจจะเกิดขึ้น
.
"อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เอาเลยสิหมอ.."
.
สายลับหนุ่มหลับตาลงไพร่คิด เกร็งตัวแข็งเตรียมรับแรงปะทะ คราวนี้ไม่มีเอ็นอุ่นลำแกร่งคอยป้องกันให้อีกแล้ว ประกอบกับตัวหมอยูมิโกะเองก็เลือกที่จะใช้การแทงปักจากด้านบน แทนที่จะเป็นการฟันฉับ! เหมือนครั้งก่อน!
.
คมดาบแวววาวยามต้องแสง ด้วยท่าง้างแขนกว้างสุดเหยียด หมอสาวรับประกันเลยว่าไม่พลาดแน่! เธอออกแรงจากช่วงไหล่ชนิดสุดแรงเกิด! กัดฟันแน่นจิกตาถมึงทึง! เจตนาปักคมดาบลงมาที่กลางหัวใจของเจฟเฟอร์แบบตรงเผงไม่พลาดเป้า!
.
"ย๊ากกกก! , ฮึบ!!!"
.
.
"หมับ!"
ทว่าเสี้ยวอึดใจต่อมาหล่อนก็ต้องหยุด! ปลายดาบแหลมคมยังคงจ่ออยู่ที่กลางอกข้างซ้ายของยอดชายนายสายลับ หัวใจที่เต้นรัวยิ่งเร่งเร้าให้เลือดลมสูบฉีด ภายใต้ทัศนวิสัยที่พล่ามัวสติสตางค์เลือนลางหนัก เจฟเฟอร์ค่อย ๆ เผยอเปลือกตาขึ้น ทำให้เจ้าตัวได้เห็นเรือนร่างอันงดงามภู่ระหงษ์ของนางพยาบาลอีกคนหนึ่ง ผู้ที่โอบกอดหมอยูมิโกะเอาไว้จากทางด้านหลัง!
.
เป็นเธอแท้ ๆ ที่ทำให้เขายังมีชีวิตรอด ไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นใครแต่รู้ว่าสาวน้อยหน้าหมวยรายนี้ โผล่พรวดออกมาจากผนังเจลเหนียวหนืดบนฝาผนังอีกฟาก และคลับคล้ายคลับคลาว่าที่กองอยู่แทบเท้าเธอก็คือไม้แขวนเสื้อ กับชุดหนังสีเหลืองรัดรูปที่ดูเซ็กซี่สัด ๆ
.
"คะ.. ใครอ่ะ.. เฮือออด.. ฮาาาาดดดด.. เฮืออออด.. ฮาาาาด"
เจ้าหน้าที่หนุ่มถอนหายใจยาว พลางกระแอมถามออกไป ซึ่งมันก็คงจะเบามากล่ะมั้งเพราะดูลักษณะแล้วสาวเจ้าคงจะไม่ได้ยิน
.
พริบตาต่อมาปลายดาบคะตะนะในมือหมอยูมิโกะเองก็ค่อย ๆ ลดระดับลงเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดมันก็หลุดออกจากมือทิ้งดิ่งลงกับพื้นเสียงดัง "กริ๊งงง!" อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
.
ช่างเป็นภาพที่งดงามจนเจฟเฟอร์รู้สึกเสียดาย เขากำลังจะหมดสติอยู่รอมร่อ ภาพมุมมองบุคคลที่หนึ่งในสายตาเขาส่งสัญญาณเตือน Warning! กระพริบวูบวาบต่อเนื่อง มันเป็นดั่งสัญญาณเตือนสุดท้ายว่าสัญญาณชีพของเขากำลังจะดับลง! เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
.
"นี่น่ะหรือวิธีการที่จะทำให้คนดี ๆ อย่างหมอยูมิโกะได้สติกลับมา บัดโถ่เอ๊ย.. รู้งี้!"
.
"ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ได้โปรดอย่าเพิ่งพรากชีวิตลูกไปตอนนี้ได้รึไม่? โปรดเมตตาให้ข้าได้ซึบซับฉากรักอันเร่าร้อนนี้ด้วยสองตาตนเองด้วยเถิด.. อาเมน"
.
ใครจะเชื่อ! ว่าถึงกับต้องอ้อนวอนร้องขอต่อพระเจ้ากันเลย ด้วยลมหายใจอันแผ่วเบาเจฟเฟอร์หันหลังพิงข้างฝา แขนซ้ายขาด อวัยวะตรงหว่างขาเกิดแผลฉกรรจ์ มันไม่สำคัญแล้วล่ะว่าต่อจากนี้ไปจะใช้การได้รึเปล่า เพราะถ้าหากนี่คือภาพสุดท้ายของชีวิตแล้วล่ะก็ ต่อให้ต้องขาดใจตายอยู่ตรงนี้ยังไงแม่งก็คุ้ม!
.
"หมับ! , หมึบ! , หมับ! , หมึบ!"
.
"ชู่วววว.. ใจเย็นก่อนสิคะหมอ ถ้าโกรธเดี๋ยวอาการจะกำเริบอีกนะคะ ฮึ.. อืมมมม.. ช่ายแบบนี้ล่ะค่ะกำลังดี นมหมอใหญ่จังเลย ยูมิบีบได้ไม่เต็มมือเลย~"
"ซอกคอหมอก็ห๊อมหอม ขอยูมิชิมหน่อยนะ~!"
.
"แพล็บ!"
.
"อ่ะ.. อ่าาาาา.."
.
ยูมิจังเข้าประกบหมอยูมิโกะจากทางด้านหลัง เธอสอดแขนเรียวของตนเข้าที่ใต้ราวนมพลางลงมือเคล้าคลึงหน้าอกของหมอสาวจนป่นปี้ ความใหญ่ซ่อนรูปนั่นเล่นเอามือเล็กเรียวหุ้มไว้ไม่มิด มิหนำซ้ำบางจังหวะยูมิจังยังฉวยโอกาสตวัดลิ้นลงบนซอกคอของหมอจนตัวสั่นเท้ิม เธอจูบเก่งมากชนิดที่สามารถลากเลื้อยขึ้นไปขบได้ถึงติ่งหู สอดลิ้นเข้าไปเวียนวนสลับกับการกระซิบคำพูดหวาน ๆ ที่สั่งอะไรก็ยอมแต่โดยดี
.
"หมออยากจับตูดยูมิไหม?"
.
"อยากสิ.."
.
"งั้นหลับตาก่อน แล้วส่งมือมา.."
เพียงเท่านี้ก็ปลดเปลื้องเอาดาบคะตะนะออกจากมือหมอยูมิโกะได้แต่โดยดี ยูมิจังถลกกระโปรงพยายาบาลของเธอขึ้นพลันใช้นิ้วชี้ช้อนเอาอันเดอแวร์ลายลูกไม้ให้ร่นลงไปกองที่ตาตุ่ม เธอจับเอามือที่ว่างเปล่าแล้วของคุณหมอ มาลูบไล้ไต่ลงไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งข้างลำตัวเธอ ไล่ไปจากแผ่นหลังนุ่มเนียน ลูบผ่านมาคลึงที่สะโพกอันผายกว้าง แล้วเธอก็ย่อตัวลงส่ายไหวไปมา ราวกับอสรพิษระเริงราตรี
.
"อืม.. รู้สึกดีจังเลยยูมิจัง"
.
"ค่ะหมอ ยูมิก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว หมออย่าเปิดตานะเดี๋ยวยูมิเขิน"
.
"อื้อ.."
.
"ที่นี้ก็เอื้อมมาจับที่ก้นแบบนี้!" , "หมับ!"
.
"ใช่ค่ะหมอแบบนั้นแหละ ยูมิรักหมอยูมิโกะที่สุดเลย บีบเลยค่ะ เค้นอีก เน้น ๆ แรง ๆ เลยค่ะ จะแยงนิ้วเข้ามาในรูด้วยก็ได้ถ้าหมอต้องการ.. อ่าาาา.."
"โอ๊ะ.. โอ๊ะ.. โอ๊ยยยย เสียวววว ซีดดดดด!"
ยูมิเสียวมากเสียจนต้องแอ่นโหนกหี มาถูเข้ากับแก้มก้นของหมอยูมิโกะเพื่อทุเลาอาการ
.
"เจ็บหรอ? เจ็บรึเปล่า!"
.
เธอเลือกที่จะไม่ตอบเป็นคำพูด แต่เลือกที่จะตอบสนองการกระทำด้วยการเขี่ยที่หัวนมหมอแทน เสื้อกาวน์เปื้อนเมือกแบบนี้แหละได้อารมณ์ดีนัก
.
"เล่นอะไรอ่ะยูมิ หมอจั๊กจี้นะแบบนี้"
.
เธอยังคงเงียบยิ่งหมอยูมิโกะบีบแก้มก้นเธอแรงเท่าไหร่ เธอก็จะตอบโต้กลับไปด้วยการบีบหัวนมแล้วดูดด๊วบ ๆ ที่ซอกคอแรงเท่านั้น
.
"หนูไม่ไหวแล้วอ่ะหมอ หันหน้ามาเร็ว!"
.
ร่างบางสองร่างหันมาปะทะกัน ตาประสานตาแล้วจังหวะนั้นเองที่ทำให้ยูมิจังรู้ว่าหมอยูมิโกะคนเดิมเวอร์ชั่นปกติได้กลับคืนมาแล้ว แต่เธอไม่อยากหยุด! มือเรียวรีบปลดกระดุมเสื้อกาวน์ของหมอยูมิโกะออกด้วยความแคล่่วคล่อง! กระตุกเพียงเล็กน้อย เนื้อหนังเปลือยเปล่าที่ขาวกระจ่างใสก็สว่างโพลงอยู่ตรงหน้า
.
"ยูมิเงี่ยนค่ะหมอ.. อุ๊บ!"
.
"จ๊วบจ๊าบ! , ด๊วบด๊าบ!"
.
"ฮึ!.. ไม่ต้องพูดไรมากแล้ว หมอก็เงี่ยนเหมือนกัน ไปเอากันต่อที่เตียงดีกว่าเน๊าะ"
.
.
แล้วถาพก็ตัดไปแค่นั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบค้าง ๆ คา ๆ ต่อหน้าต่อตาผู้ชายกระดอพังอย่างเจฟเฟอร์ หุ่นอย่างกับนางเอก AV อย่างหมอยูมิโกะใครไม่เสียดายก็บ้าแล้ว แต่ก็นะ! โชคชะตามักเล่นตลก! เมื่อระบบภายในของเจฟเฟอร์มันรั้งไว้ไม่ไหวจริง ๆ สัญญาณชีพห้วงสุดท้ายของเขาจึงดับวูบลง พร้อมกับชิพประมวลผลเซ็ตสุดท้าย ที่บันทึกร่างเปลือยในชุดบราเซียสีชมพูของหมอยูมิโกะไว้ได้ทันท่วงที นอกเหนือไปจากนั้นก่อนที่จอภาพจะดับดำไปตลอดกาล ความรู้สึกสุดท้ายที่เจฟเฟอร์รับรู้ได้ก็คือ ความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ว่า..
.
"ต่อให้ควยกูจะถูกฟัน! แต่มันก็ยังตั้งอยู่ได้นะเฟ้ย!"
.
"ฟึบบบบบ---! "
.
"ซู่.. ซ่าาาาา!!!" , "No-signal"
สายลับบางคนเก่งเรื่องข้อมูลบางคนเก่งเรื่องความขยัน แต่สำหรับเจฟเฟอร์นั้นแม่ง "พรสวรรค์ล้วน ๆ " ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้สัก 30 ตอน หากยังจำกันได้เกี่ยวกับเหตุการณ์นองเลือดในเมืองยอร์คชิน ที่สถานที่การประชุมพรบ. ฟรีเซ็กส์ถูกโจมตีจนเละเทะ ในครั้งนั้นมีบุคคลระดับ V.I.P ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก แม้แต่ปิเก้เพื่อนสายลับที่สนิทที่สุดในองค์กรก็ยังเอาตัวไม่รอด แต่เจฟเฟอร์ของเรากลับใช้พรสวรรค์ของตัวเองแกะรอยตามหาองค์หญิงนาตาชาจนเจอด้วยการดมกลิ่น.ยีนเด่นในร่างกายทำให้จมูกเขาดีกว่าคนปกติ มันน่าจะดีกว่าสุนัข K - 9 ของตำรวจหลายสิบเท่า แถมยังสามารถบันทึกข้อมูลรูปพรรณสัณฐานเอาไว้ในคลังความจำได้อีกต่างหาก เสียอย่างเดียวตรงที่ค่อนข้างมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ กล่าวคือเจฟเฟอร์ไม่ชอบที่จะใช้มันนัก มันทำให้บุคลิกเขาดูแย่ ปีกจมูกจะต้องเผยอฟุดฟิด ๆ หัวก็ต้องสั่นดุ๊กดิ๊ก ๆ ไม่ต่างจากหมาน้อยตัวหนึ่ง ใช้โหมดนี้ทีไรจึงมักหลงคิดว่าตัวเองเป็น "ไอ้หน้าหมา" ทั้งที่ความจริงแล้วเขาคือ "ไอ้หน้าม่อ" ผู้ชอบจัดช่อสาว ๆ คราวละหลาย ๆ ดอกซะมากกว่า.แต่ก็อีกนั่นแหละในเมื่อความจริงก็คือความจริง พอหมดหนทางไปต่อ ๆ ให้ไม่หล่อยังไงฟังค์
"อยากไปที่ไหน? หมายความว่าไง? ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเปิดออกไปมันคือหุบเหวนรก!".เด็กหนุ่มหัวไหมพรมส่ายหน้า เขาก้มลงมองสมุดปกหนังที่ถืออยู่ในมือพลางคลี่มันออกช้า ๆ เผยให้เห็นแผ่นสไลด์สีน้ำตาลหลายแผ่นสอดอยู่ข้างใน ลักษณะมันคล้ายกับอัลบั้มรูปภาพที่เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นกันแล้ว.ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่เจฟเฟอร์เริ่มนึกย้อนถึงความหลัง ก่อนหน้านี้ราว 1 - 2 ชั่วโมง เขาจำได้แม่นว่าองค์หญิงนาตาชาเองก็เคยใช้ประตูลักษณะนี้มาก่อน ใช่แล้วประตูห้องส้วมสาธารณะนั่นไงเล่า! มันคือประตูแบบเดียวกันที่พาเขาวาร์ปลงมายังฐานที่มั่นของกลุ่มอันเดอร์กราวน์ที่อยู่เบื้องล่างตรงนี้."เอาสิครับรีบบอกมาเร็วเข้าผมจะได้แสดงให้ดู คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกนะถ้าใช้ประตูไม่เป็น จะได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับแม่ให้ผมซะที ยิ่งต้องมาสอนคุณแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกผิดต่อคุณไนฟ์"."พรึบ! , พรึบ! , พรึบ!".เสียงหน้าอัลบั้มแผ่นแล้วแผ่นเล่าพลิกตัวผ่านไปขณะรอฟังคำตอบ ทำเอาเจฟเฟอร์ถึงกับเหงื่อตกต้องเกร็งคอตวาดเสียงดัง เพราะรำคาญท่าทางยียวนของไอ้หนุ่มอันเดอร์กราวน์รายนี้เต็มที."ชิ! เวรเอ๊ยกดดันกูชะมัด!""ไปทะเลเอ้า! กูเลือกได้แล้วไป
หากเป็นเมื่อก่อนฉากนี้คงต้องพรรณนาว่า เกิดลมหมุนมหาศาลดูดสารพัดสิ่งอย่างเข้ามาในฝ่ามือ แต่ครั้งนี้ไม่เจฟเฟอร์ไม่ต้องการใช้มุกเดิมอีกแล้ว ประกอบกับเขาเองก็ต้องการที่จะแสดงกล้ามดาก ให้ไอ้หนุ่มข้างหลังเห็นว่าเขาคือของจริง กระบวนท่าทำลายล้างแบบใหม่จึงถูกสถาปนาขึ้น.เริ่มจากสอดแขนขวาที่ถนัดทะลุช่องว่างลูกกรงออกไป กัดฟันกลั้นใจอยู่ชั่วอึดใจหนึ่งสักพักท่อนแขนส่วนล่างไล่จากข้อศอกลงไปถึงข้อมือ ก็เริ่มส่งเสียงสนั่นดัง เปรี๊ยะ ๆ เปรี๊ยะ ๆ มันแตกร้าวลงมาเป็นแถบตรงราว 7 - 8 เส้น อ้อมท่อนแขนจรดข้อมือ มิหนำซ้ำยังแพลมแสงสีขาวพุ่งออกมาเป็นริ้ว ๆ ราวกับหุ่นยนต์ที่กำลังเปลี่ยนร่าง."เฮือกกก.. นี่คุณจะทำอะไรน่ะ? คุณเป็นตัวอะไรกันแน่? ผมแสบตาไปหมดแล้ว! , อ๊าาาา!"หรี่ตาเหยเกพิงหลังใส่กำแพง ถามไปก็เท่านั้นในเมื่อเจฟเฟอร์เลือกที่จะไม่ตอบ.สายลับหนุ่มแค่หันมาพยักหน้าให้ แล้วทันใดนั้นเองเนื้อแขนของเขาก็ฉีกตัวออก มันเด้งง้างขึ้นตามแนวขอบแสงเป็นซี่ ๆ ทีละชิ้น ๆ จากหนึ่งเป็นสอง , จากสองเป็นสาม , จากสามเป็นสี่ , ไล่ไปจนครบรอบวงแขน จนมีลักษณะคล้ายกับก้านร่มที่ไม่มีผ้าใบ ซี่ชิ้นส่วนที่ง้างตัวขึ้นมาเหล่านั้นคลี่ต
ดวงหน้าแปดเปื้อนพรายน้ำตาเละเทะ สวนทางกับเจฟเฟอร์ที่อยากฟังต่อใจจะขาด เขาไม่อยากทรยศการแข็งตัวของควยตัวเองเลย เพราะอุตส่าห์ได้รับโหวตจากอารมณ์เงี่ยนในร่างกายให้ชูชันขึ้นมาแล้วแท้ ๆ จะมาถูกเชิญออกจากหว่างขาเหมือน สส. บางคนในสภาฯ มันก็น่าเสียดาย."ไม่เป็นไรครับคุณผมยังไหวอยู่ ผมขอเล่าต่อเลยนะ"."อืม.. เอ้อ!"."แม่คุกเข่าลงที่เตียงพลางโน้มตัวลงมาคร่อมร่างผม ในจังหวะนั้นผมรับรู้ได้ถึงน้ำหนักของแม่ที่กดเตียงนอนให้จมลงเป็นหลุม ด้วยความสัตย์จริงผมขยับไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนร่างกายนั้นแหวกว่ายอยู่ในบ่ออารมณ์เสพสมบ่มีสมที่แม่สถาปนาขึ้น เอวผม , สะโพกผม , แล้วก็ตูด จมยุบลงไป มิหนำซ้ำแผ่นหลังยังโค้งเป็นคันศรด้วยฤทธาจากที่นอนซึ่งต่างระดับ"."โดนขนาดนี้แต่คุณรู้อะไรไหมว่าไอ้นั่นของผม ยังคงโด่ต่อหน้าแม่ได้อย่างไม่สะทบสะท้าน ที่ใต้ผ้าห่มซุ่มเสียงจากสาวคนรักยังคงรุกเร้าผมด้วยความเร้าใจ หล่อนไม่เปิดช่องให้ผมได้อธิบายอะไรเลย แท่งควยป้อม ๆ ในวัย 17 ก็เลยเสยเนื้อผ้าในองศาที่สูงขึ้น ให้ตายเถอะผมกำลังมีอารมณ์อยู่กับสาวที่ไม่เห็นหน้าทางโทรศัพท์แท้ ๆ แต่ไอ้จ้อนใต้ผ้ามันดันโก่งขึ้น! โก่งขึ้น! แล้วก็
ได้ยินแบบนั้นเจฟเฟอร์ก็อึ้งกิมกี่พลันรีบนึกย้อนกลับไปยังภาพทรงจำ ที่ตัวเองเพิ่งหลุดพ้นออกมา."ผู้หญิงผมยาวท่าทางใจดีคนนั้นอ่ะนะ.. ที่คิดจะทำมิดีมิร้ายมึง! เหอะ! กูเชื่อมึงกูก็ปัญญาอ่อนแล้วล่ะ!"."ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ครับเพราะฟังดูแล้วมันก็ยากที่จะเชื่อจริง ๆ แม่เวอร์ชั่นปกติน่ะใช่! แต่ถ้าเป็นแม่ที่สวาปามยาอลาลัสเปี้ยนส์เข้าไปแล้วล่ะก็ มันก็คนล่ะเรื่อง!""แล้วผมก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าผมยินยอม.. ผมดิ้นสุดกู่ผมสู้สุดใจ แต่เป็นแม่ต่างหากที่ "ข่มขืน" ผม! ย้ำว่าแม่ "ข่มขืน" ผม!".อารมณ์มาคุเกาะกินหัวใจ เด็กหนุ่มกระชับฝ่ามือกำลูกกรงแน่น พลันเขย่า ๆ ๆ จนฝ่ามือช้ำเป็นเปื้อน ๆ."บัดโถ่เอ๊ย! ตอนนั้นผมอายุ 17 เองผมยังซิงอยู่เลย! คนเหี้ยอะไรเสียซิงให้แม่ตัวเอง! เหี้ย! ทุเรศชะมัด! คิดขึ้นมาทีไรผมล่ะแค้นใจชิบหาย ราชาเด็มบ้าบาเพราะท่านแท้ ๆ ที่ทำให้ผมต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ , หึ๊ยยย!".เห็นท่าไม่ดีจึงรีบปรี่เข้าไปขวาง สายลับหนุ่มขยุ้มคอเสื้อกระชากเขาเอาไว้."เฮ๊ย! ใจเย็นก่อนไอ้หนุ่ม สงบจิตสงบใจลงหน่อยเถอะวะ สนิมมันจะซึมเข้ามือมึงเอานะมึงนั่งลงก่อน เหมือนอยากจะระบายอะไรใช่ไหมกูรู้สึกได้?".เจฟเฟ
"แม่ครับแม่! แม่จะพาผมไปไหนเหรอครับ ขาผมสั้นผมก้าวไม่ทัน".จู่ ๆ ซุ่มเสียงของเจฟเฟอร์ก็เปลี่ยนคีย์ไปในบัดดล ไม่เฉพาะแค่รูปร่างบุคลิกแล้วที่เปลี่ยน มาตอนนี้สายลับอย่างเขารับรู้ได้เลยว่าทุกอย่างรอบตัว แม้แต่ชีวิตจิตใจก็คงเข้ามาสิงสู่อยู่ในร่างของเจ้าของเรื่องแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ เขาคอนโทรลตัวเองไม่ได้ ใจจะเลี้ยวไปทางขวาขามันก็ก้าวไปทางซ้าย พอตั้งใจจะหยุดก็โดนหญิงวัยกลางคนที่เรียกตนเองว่าแม่ยื้อยุดฉุดกระชาก แม้แต่คำพูดคำจาที่ตั้งใจจะพูดอีกอย่างก็กลายเป็นอีกอย่าง.เหมือนกับว่าสิ่งเดียวที่อนุญาตให้เจฟเฟอร์ทำได้ ในโลกแห่งความทรงจำนี้คือการมองเห็น เขากำลังเห็นในสิ่งเดียวกับที่หนูน้อยวัย 10 ขวบเห็น มันคือประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของอลาลัสที่ไม่ได้โชกชุ่มไปด้วยน้ำกาม แต่อิ่มพลีไปด้วยคาวเลือด แอ่งโลหิตแห่งความอัปรีย์ของสตรีผู้อยู่ในฐานันดรสูงสุด."ก็ไปดูองค์ราชินีเสด็จไงลูก พระองค์กับบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมดจะเสด็จเยี่ยมราษฎรณ์พร้อมกันเชียวนะ นาน ๆ จะมีโอกาสแบบนี้สักครั้ง ไม่งั้นคนไม่เต็มถนนแบบนี้หรอกลูกรัก รู้สึกจะขาดแค่ราชาองค์เดียว"."ราชาเด็มบ้าบา! เอ๋? ทำไมท่านไม่มาล่ะครับ?"ขยับปากถามไปเอง