Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 8 : อย่าให้ยูมิโกะตกใจ!

Share

บทที่ 8 : อย่าให้ยูมิโกะตกใจ!

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-07 23:01:20

บนชั้น 4 ของอาคารสำนักงานใหญ่ Parallel นั้นแตกต่างไปจาก 3 ชั้นข้างล่างอยู่มากโข กล่าวคือ ไม่มีใครรู้ว่ารูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของมันเป็นยังไง มันเปรียบได้กับแดนสนธยาที่มีเพียงแพทย์หญิงเจ้าของชั้นอย่างยูมิโกะ กับบอสเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พื้นที่ทั้งชั้นถูกปกปิดไว้หมดด้วยม่านพลังงานที่เธอคิดค้นขึ้น แผ่นเจวบาง ๆ ขุ่นใสสีช้ำเลือดช้ำหนองฉาบไปทั่วทุกซอกทุกมุม ขึงพืดสร้างเป็นผนังกั้นห้องราวกับไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ความลับในโลกส่วนตัวของเธอ

.

แต่ถึงกระนั้นก็ยังเปิดพื้นที่ส่วนหน้าเอาไว้ เพื่อคอยคัดกรองบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน คนที่อาการหนักจะถูกนำตัวฝ่าแผ่นเจลเหนือดเหนียวเข้าไปภายใน ส่วนคนที่อาการไม่เท่าไหร่หมอยูมิโกะจะทำการรักษาแบบฉับไวอยู่ด้านนอก ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าอาการของพ่อหนุ่ม เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ นั้น จะอยู่ระดับไหนในสายตาเธอ

.

"ฮู้วววว.. เสร็จซะที เมื่อยจังเลยยูมิ ขอน้ำให้ฉันสักแก้วสิที่รัก"

.

"ไฮ้!..ได้ค่ะหมอ เชิญคุณหมอออกไปรอด้านนอกนะคะ เดี๋ยวยูมิตามออกไป"

.

ม่านเจลเหนียวหนืดจมบุ่มลึกลงไป หมอสาวพราวสเน่ห์สอดแขนเข้าไปก่อน ต่อด้วยการค่อย ๆ เอี้ยวตัวเบียดเสียดความยืดหยุ่นหยึกหยึ๋ยดังกล่าว จนดวงหน้าโผล่พรวดออกมาด้านนอก ผมสลวยของเธอถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำเมือก เสื้อผ้าชุดกาวน์เปรอะเปื้อนยืดเป็นยาง ไหนจะแขนขาที่เกาะกังไปด้วยก้อนวุ้นที่ไม่รู้สึกได้ถึงความมีประโยชน์ใด ๆ เลย

.

"ฮึบ.. ฮาาาา.. อากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่สุดเลย.. ย.. ย.."

"เคสยากระดับนี้ถ้ามันจะพลาดบ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก สงครามนิวเคลียร์ทำคนตายมากกว่าฉันตั้งเยอะ"

.

ร่างบางสืบเท้าเดินมาทิ้งตัวลงกับเก้าอี้หมุนหลังโต๊ะทำงาน เธอชูมือขึ้นสุดเหยียดบิดตัวไปมาบ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อันเกิดจากหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบ ตาหยีเล็กเรียวของเธอเร่ิมเคลื่อนตัวปิดสนิท ครานั้นหางตาก็ยังคงยกสูงด้วยสไตล์ของคนเอเชียที่หาดูได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน

.

"ดึ๋งงงง.. ดั๋งงงง.. ด๊วบบบ.. ด๊วบบบ!"

เสียงแหวกม่านเจลแบบเดียวกันดังตามมาติด ๆ หากแต่คราวนี้คนที่โผล่ออกมาไม่ใช่คุณยูมิผู้ช่วย หากแต่เป็นนาริตะพยาบาลสาวหน้าตาน่ารักอีกคนหนึ่ง

.

"ฮึบ.. อึบ!.. อ่า!.. น้ำได้แล้วค่ะคุณหมอ เหนื่อยแย่เลยนะคะ"

เธอวางแก้วลงบนโต๊ะ เสียงกระทบทำให้หมอยูมิโกะสะดุ้งตื่นขึ้นจากภวังค์

.

"อ่าว.. นาริตะจัง แล้วยูมิจังล่ะจ๊ะ?"

.

"อ๋อ! พี่ยูมิกำลังตระเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้คุณหมออยู่ค่ะ เห็นแกบอกว่าถ้าปล่อยให้คุณหมอตัวเปื้อนแบบนี้นาน ๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย"

.

ยูมิโกะมุ่ยหน้า เธอยืดตัวขึ้นจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาบ่องแบ้วของพยาบาลผู้ช่วย

.

"พวกเธอพี่น้องนี่ยังไงกัน? ชอบทำนอกเหนือคำสั่งหมออยู่เรื่อย บางทีหมอก็คิดเหมือนกันนะว่าทำอะไรพลาดไปรึเปล่า? ถ้างั้นขอลองอีกทีนะ"

.

กระดกแก้วน้ำยกขึ้นซดรวดเดียวหมด กระแอมในลำคอเล็กน้อยแล้วก็ออกคำสั่งใหม่

.

"นาริตะจังจ๊ะช่วยเตรียมเตียงผ่าตัดให้หน่อยสิ หมออยากนอนพักสักงีบก่อนเริ่มงานต่อใน section ที่ 2 ปลุกหมอตอนบ่ายสองสี่สิบห้านะ"

.

"ไฮ้! , ได้ค่ะ^^"

.

.

พื้นที่ส่วนหน้าบริเวณที่หมอยูมิโกะกับนาริตะจังอยู่ ณ ขณะนี้ กินพื้นที่ราว 30% ของชั้น 4 เห็นจะได้ มันถูกปูด้วยกระเบื้องโมเสคอย่างดี มีตู้ยาสามัญประจำบ้านขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง ค่อนไปทางขวาด้านในสุดเป็นมุมโต๊ะทำงานที่ยูมิโกะกำลังนั่งอยู่ตอนนี้ ส่วนม่านเจลตึ๋งหนืดนั้นอยู่เยื้องไปทางขวาห่างจากโต๊ะประมาณ 3 เมตร กินพื้นที่ฝาผนังไปหมดทั้งแถบ ซึ่งบอกตรง ๆ เลยว่าการเต้นยุบยับของมันมองกี่ครั้งก็สะอิดสะเอียนน่าขนลุก คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเหตุไฉนและเพราะอะไรหมอยูมิโกะสาวญี่ปุ่นผิวเนียนหุ่นบอบบางผู้นี้ ถึงได้มีรสนิยมประดิษฐ์ของแบบนี้ขึ้นมา

.

สรุปแล้วถ้าไม่นับเจ้าผนังม่านเจลชวนอ้วกดังกล่าว พื้นที่ส่วนหน้านี้ก็มีสภาพไม่่ต่างจากคลีนิครักษาคนไข้ของหมอทั่่วไป เครื่องไม้เครื่องมือครบ เว้นก็แต่เตียงผ่าตัดที่จะเคลื่อนตัวขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีคนกดปุ่มลับที่ซ่อนไว้เท่านั้น

.

นาริตะจังซอยเท้ายุกยิกยิ้มแป้นแล้นไปที่ด้านหลังตู้เก็บยา ทันทีที่เธอเอื้อมมือไปกดสวิทซ์ลับ กลุ่มกระเบื้องโมเสคตรงกลางห้องก็เลื่อนสลับที่ปรับตำแหน่งได้เองราวกับตัวต่อพาสเซิล แรงสั่นสะเทือนจากพื้นสำผัสได้โดยตรงจากฝ่าเท้า แก้วน้ำที่หมอกินหมดแล้วกระทบกับสันโต๊ะ ก๊อกแก๊ก ๆ ๆ จนเกือบจะร่วงหล่น แล้วทันใดนั้นเองพื้นที่ตรงกลางก็ค่อย ๆ ยุบตัวลงไป เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดหนังสีดำขลับเคลือบมันแวววับค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาทดแทนด้วยระบบไฮโดรลิค เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากลูกสูบบดอัดกันเสียดสีก้องดังกังวาน ควันเล็กน้อยที่โพยพุ่งออกมาช่วยให้ทุกอย่างดูอลังการมากยิ่งขึ้น

.

หมอยูมิโกะเท้าคางมองนวัตกรรมที่เธอสรรค์สร้างด้วยความภูมิใจ มันช่างเท่ถูกใจเหมาะกับลุคสาวฮาราจูกุตัวเปื้อนเมือกอย่างเธอเสียจริง ก่อนจะเหลือบตาขึ้นไปมองฝ้าเพดานข้างบนต่อ ให้ตายเถอะ! เพราะว่ามันแทบจะไม่ต่างกันเลย หลอดไฟนีออนบนเพดานย่นยู่เข้าหากันราวกับหลอดกาแฟ ต่อด้วยการพลิกสลับด้านคลี่ตัวออกคล้ายกับใบพัด แผ่สยายออกมาเป็นหลอดไฟผ่าตัดหลาย ๆ ดวงที่เรียงติด ๆ กันเป็นแพร สว่างไสวยิ่งกว่าสปอร์ตไลท์ในสนามโอแทรดฟอร์ด

.

"พอแล้วจ๊ะนาริตะ ไม่ต้องเปิดไฟหรอกหมอแค่จะนอนเฉย ๆ อย่าลืมปลุกด้วยนะ"

.

"แต่หมอคะนอนบนเตียงคนไข้แบบนี้มันจะดีเหรอคะ โบราณเขาถือ"

มือเรียวคว้าเอาชายเสื้อเปื้อนเมือกของหมอเอาไว้ เจตนารั้งให้เจ้านายฉุดคิด

.

"ไหนจะชุดที่เปื้อนอยู่นี่อีกล่ะคะ ไม่รอพี่ยูมิหน่อยหรอ? พวกเราพร้อมจะรับใช้หมออยู่แล้วไม่ต้องเกรงใจเลย"

.

"เฮ้อ.. หมอว่าพวกเธอน่าจะเสียจริง ๆ แล้วล่ะ! ไปเลยนะไปยืนเฝ้าหน้าประตูโน่นเลย! ฉันจะนอนพักสมองให้หายเครียดตื่นมาคงไม่ต้องทำแล้วล่ะงาน section 2 อะไรเนี่ยะ พวกเธอพี่น้องน่ีล่ะเคสเร่งด่วนเลย เฮ้อ!"

.

สงสารก็สงสารทำไมน้อทำไมถึงทำกับนาริตะจังได้ลงคอ? สาวน้อยคอตกเดินจิกเท้ายุกยิกกลับไปเฝ้าหน้าประตูตามที่คุณหมอสั่ง เธอก็แค่ปรารถนาดีทำไมคุณหมอถึงต้องตวาดเธอรุนแรงเช่นนี้ด้วย

.

"ก็นาริตะรักคุณหมอนี่นา หมอไม่เคยแอบรักใครหมอไม่รู้หรอก เช๊อะ!"

หน้างอเป็นห่อหมก แต่ต่อให้อยู่หน้าประตูสาวเจ้าก็ยังแอบอมยิ้มและชำเลืองมองคุณหมอคนเก่งของเธออยู่เป็นระยะ

.

"พี่ยูมิก็ช้าเหลือเกิน ถ้าคุณหมอไม่สบายขึ้นมาฉันโกรธพีี่จริง ๆ นะ"

.

ระหว่างที่คุณหมอยูมิโกะค่อย ๆ ซ่วงซึมหลับไป ตัดภาพมาที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามแขนพิการกับองคชาติใหญ่ยักษ์กันบ้าง เบอร์แบโต้ประคองเอาร่างอันหนักอึ้งของเจฟเฟอร์ขึ้นมาถึงชั้น 3 เป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่เรี่ยวแรงเองก็เริ่มจะร่อยหรอลงทุกที ไหนจะต้องมาถือแขนที่ขาดกับดอกไม้บ้าบอที่แสนจะพะรุงพะรังนี่อีก

.

"ถึงยังวะไอ้โต้! กูชักเริ่มหน้ามืดแล้วว่ะ ไม่น่าอวดเก่งเลยกูแม่งหายใจไม่ออก.. แค็ก ๆ แค็ก ๆ"

.

"ยังพี่เพิ่งชั้น 3 เองเพิ่งถึงฝ่ายการเงิน อดทนอีกนิดเดียวขึ้นบันไดนี้ไปก็ถึงแล้ว ว่าแต่ควยพี่นี่แม่งโคตรถึกเลยว่ะเดินลากมากับพื้นขนาดนี้ยังโด่ไม่รู้ล้มอยู่เลย พี่กินอะไรโด๊ปมารึเปล่าพี่เจฟ มีของดีอะไรบอกน้องบอกนุ่งบ้าง?"

.

"แดกน้ำหีแม่มึงมั้งไอ้สัด! ไม่มีเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ! ก็เพราะกูไม่รู้นี่ไงกูถึงให้มึงพามาหาหมอ บอกตรง ๆ นะแขนที่ขาดอ่ะกูไม่ห่วงเลยกูเคยโดนมาหนักกว่านี้ แต่ควยกูดิแม่งผิดปกติโคตร ๆ ! แข็งจนปวดระบมไปหมด ไป ๆ อย่าถามมากกูต้องใช้ออกซิเจนหายใจอีกเยอะ"

.

"ได้้พี่ได้ถึงพอดีเลย เลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงแล้ว"

.

ร่างหนาสองร่างตะกุยตะกายข้างฝา เซถลาตามทางเดินมาจนถึงห้องรับรองส่วนหน้าของหมอยูมิโกะ ด้วยเลือดที่หยดเป็นทางมาจากชั้นล่าง (ร้านดอกไม้) ถ้าจุดคัดกรองส่วนหน้าไม่ให้ผ่านก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เพราะเท่าที่ดูอาการโดยรวมของเจฟเฟอร์เขาน่าจะต้องถูกส่งตัวผ่านม่านเจลสนธยา เข้าไปรักษากันภายในอย่างไม่ต้องสงสัย

.

และทันทีที่สายลับรุ่นน้องสังเกตเห็นป้ายไฟฉุกเฉินหน้าห้องสว่างโพลงอยู่ เขาจึงเร่งใช้ไหล่กระแทกประตูเข้าไปโดยไม่ทันเคาะก่อน ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์! "ถ้าหมอยูมิโกะฆ่ากูตาย มึงช่วยเก็บศพให้กูด้วยนะ!" เบอร์แบร์โต้ลืมคำพูดประโยคนี้ในบทที่แล้วไปอย่างสิ้นเชิง

.

"หมอครับช่วยด้วยครับ มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัส!"

.

สองร่างแกร่งพุ่งพรวดเข้าไปในห้องรับรองส่วนหน้าพร้อมกับลิ่มเลือดหลากเป็นสายน้ำ ขณะที่อีกฟากของบานประตูคือสาวน้อยนาริตะที่ถูกออกคำสั่งให้ยืนเฝ้าประตูเอาไว้ไม่ให้มีใครรบกวน เรือนร่างอันบอบบางมีหรือจะสู้แรงชายฉกรรจ์ที่เพิ่งผ่านการรุมปี้ผู้หญิงได้ แรงอัดจากประตูจึงซัดเอาร่างบางกระเด็นล้มกลิ้งกองลงกับพื้น แล้วภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้นเองที่ทำให้นาริตะต้องตกอกตกใจ เธอหวาดกลัวมากจนกลั้นเสียงกรี๊ดไว้ไม่อยู่!

.

"โรคจิต!!! กรี๊ดดดดดด!!!"

.

เบอร์แบร์โต้น่ะไม่เท่าไหร่ แต่เจฟเฟอร์นี่สิที่ผ้าเช็ดตัวหลุดจากเอวไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้! แม้จะไม่ตั้งใจแต่ปลายควยก็ได้จ่ออยู่ตรงหน้านาริตะจังไปเป็นที่เรียบร้อย!

"กรี๊ดดดดดด! หมอคะมีโรคจิตบุกเข้ามาในคลีนิคเราค่ะ!"

.

"ฟิ้งงงงง~!"

ยูมิโกะไม่ได้ตื่น! แต่ที่ตื่นดันเป็นสัญชาติญาณนักฆ่าที่อยู่ในตัวเธอ! นัยน์ตาหยีหางตาชี้คู่เดิมเพิ่มเติมตรงความเหี้ยม! การเป็นคนเอเชียที่มีชีวิตรอดอยู่ในยุคนี้ย่อมพิสูจน์แล้วซึ่งหลายสิ่งหลายอย่าง เธอไม่ใช่หมอธรรมดาอย่างที่เจฟเฟอร์บอกจริง ๆ เพราะส่ิงที่เธอทำในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ ได้ทำให้ชายอเมริกันปากดีอย่างเบอร์แบร์โต้ ถึงกับวิ่งหนีหางจุกก้นไปเลย!

.

"เฟี้ยววว!" , "จึก!" , "จึก!"

.

"อั๊ก!"

.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่กิ๊บติดผมก็ฆ่าคนได้! ยูมิโกะไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ เธอแค่ดีดตัวขึ้นจากเตียงแล้วเหวี่ยงมันออกไปด้วยแรงสะบัดจากเส้นผม กิ๊บ 2 ตัวปักเข้าที่จุดตาย! ยังไม่พอ! ทักษะนักฆ่าชั้นสูงยังดำเนินต่อไปด้วยการม้วนตัวลงจากเตียงผ่าตัด เอื้อมมือไปหยิบดาบซามูไรที่ซ่อนไว้ข้างใต้ กระชากฝักทิ้งด้วยความแคล่วคล่อง แล้วปรี่เข้ามากระโดดฟันฉับ! ขาดสะพายแล่ง! (ภายในดาบเดียว)

.

ตัวเหยื่อขาดออกเป็นสองท่อน ไล่ไปตั้งแต่ไหปลาร้าซ้ายจรดสะโพกขวา เลือดฉีดขึ้นฟ้าพุ่งออกเป็นสายคล้ายน้ำพุ สยดสยองโคตร ๆ ความแดงฉานใหม่สดของมันกลบคราบเลือดเดิมจากแขนเจฟเฟอร์ชนิดไม่เห็นฝุ่น ปากสั่นพับ ๆ ฟันกรามกระทบกันกึกกัก ๆ ๆ ผู้ป่วยแขนขาดที่กำลังต้องการหมอหันมองไปทีี่ทางเดินด้านนอก พลันตะโกนออกมาด้วยซุ่มเสียงอันดังสนั่น

.

"ไอ้เบอร์แบร์โต้มึงทิ้งกูเลยนะ! ไหนมึงสัญญากับกูแล้วไง! ไอ้น้องเวร!"

.

"ผมต้องรีบเอาเช็คไปขึ้นเงินกับคุณเอ็มม่าชั้น 3 ก่อนพี่! ที่เหลือพี่ช่วยตัวเองล่ะกัน เหวอ ๆ ๆ โหดสมคำร่ำลือเลยหมอยูมิโกะ รอดมาได้ค่อยเจอกันนะพี่เจฟผมไปก่อนล่ะ!"

"ฮึบ.. ฮึบ.. ย๊ากกก!"

.

วิ่งตื๋อลงบันไดชนิดไม่มีวันหวนย้อนกลับ ในท่านั่งจุ่มก้นลงกับพื้นเจฟเฟอร์เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดควยโด่เด่ของเขาเอาไว้ พยายามมองหาช่อดอกลาเวนเดอร์ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ใต้เตียงที่ต้ังอยู่กลางห้อง ส่วนแขนที่ขาดเจ้ากรรมก็ดันกระเด็นไปตกอยู่ข้างกันกับเหยื่อ ผู้ซึ่งถูกหมอยูมิโกะฟันขาดสองท่อนไปเมื่อครู่!

.

"อีหมอเวรเอ๊ย! ถ้ามึงฟันแม่น ๆ กูจะไม่ว่าอะไรเลย"

.

"นี่ดาบซามูไรมึงฟันลูกน้องตัวเองขาดสะพายแล่ง มึงยังไม่รู้ตัวอีก!"

เจฟเฟอร์คิดในใจ นั่งนิ่งไปไหนต่อไม่ไหว แผลที่แขนเปิดมากจนเลือดแทบจะหมดตัวอยู่รอมร่อ

.

"หมอ! หมอ! อีหมอยูมิโกะ! นี่ผมเองเจฟเฟอร์ตื่นซะทีสิอีชะนีอะลิกาโต๊ะ! แม่งเอ๊ยได้ยินเสียงกรี๊ดทีไรสติสตังค์ไปหมด!"

ตะโกนด่าก็แล้ว

.

"คุณจะฆ่าผมไม่ได้นะ คุณเป็นหมอที่เก่งที่สุดของ Parallel คุณต้องรักษาคนสิไม่ใช่ฆ่าคน ผมไม่รู้ว่าคุณผ่านอะไรมาบ้างในช่วงสงคราม แต่ช่วยฟังผมหน่อยได้ไหมได้สติซะที!"

พูดดีด้วยก็แล้ว

.

แต่ดูเหมือนว่าหมอยูมิโกะนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอกลายสภาพเป็นนักฆ่ากระหายเลือดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คำเตือนที่เจฟเฟอร์บอกให้เบอร์แบร์โต้ช่วยเก็บศพให้หน่อย ก็เลยดูท่าว่าจะกลายเป็นจริงซะแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมเปรอะเปื้อนไปด้วยลิ่มเลือดที่โค้งลงมาใส่ราวกับห่าฝน ยูมิโกะแยกเขี้ยวเอียงคอจ้องจะฟันเจฟเฟอร์อีกสักฉับ! ด้วยความสัตย์จริง!

.

"โคตรแม่มเอ๊ย! ชีวิตกูจบแน่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง"

.

"เอาสิหมอ! ผมเตือนคุณแล้วนะคุณคิดว่าผมเป็นใคร สายลับเวลาจนตรอกน่ะมีอะไรใกล้ตัวก็เอามาใช้ได้หมด โลกต้องจดจำผมในฐานะของชายคนแรกที่ใช้ควยสู้กับดาบซามูไร!"

.

"มา!.. ยูมิโกะ! มา! มาสู้กันสักตั้ง!!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 82 : เจ้าหญิงวุ่นวาย

    พุ่งตรงดิ่งทะยานจากความสูงประมาณภูเขา 2 ลูกขี่คอกัน ด้วยความสูงที่ไม่มากเท่าไหร่เจฟเฟอร์เลยเหลือเวลาอยู่น้อยนิด แผ่นหลังองค์หญิงสยายกว้าง ในชุดหมีที่ห่อหุ้มเนื้อตัวไว้เพียงหลวม ๆ การสะบัดพือของมันรีบรัดจนเห็นสัดส่วนโค้งรัดตวัดร่องตูด อกเป็นอกเอวเป็นเอว ครั้นมีแต่จะลอยลับตาฉีกหนีทิ้งห่างออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งเจฟเฟอร์ไม่มีวันยอม.เป็นห่วงเธอจับใจเหมือนร่างกายมีแรงดึงดูด สายลับหนุ่มถวิลหาองค์หญิงนาตาชาโดยไม่ทราบสาเหตุ เขารีบม้วนตัวงอเข่าทำตัวเป็นก้อนกลม ก่อนจะพลิกเอาปมเชือกที่มัดแขนไว้ตวัดมาอยู่ด้านหน้า เจตนาใช้ฟันแก้ปมกลางอากาศแล้วก็ทำให้ร่างกายต้านลมให้น้อยที่สุด!."ฟู่~! , ฟิ้ววว~! , ฟู่~ ฟิ้ววว~!"สายลมเกรี้ยวกราดตรงเข้าเล่นงานจากทั่วทุกสารทิศ แต่เขาก็หาได้ใส่ใจ สายลับหนุ่มยังคงผงกหัวงึก ๆ ก้มปากลงกัดแทะเชือกออกจากข้อมือ ด้วยท่าทางละม้ายคล้ายกับคนป่วยโรคจิตที่คิดจะโม๊คควยตัวเองแต่เสือกหำสั้น.แล้วก็ไม่รู้ว่าอะไรดลใจหรือเพราะแพ้ฝุ่นผง PM 2.5 บนชั้นบรรยากาศก็มิอาจทราบ สมองถึงสั่งให้ฮัมเพลงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮัมไม่ฮัมเปล่าจาก "ฮัม" แปลงเป็น "หำ" แถมยังใส่ทำนองเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อันเป็

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 81 : หลบหนี!

    บนยานฟาลคอน ดีเซ็มเบอร์ (ลำสำรอง) ที่ไอ้มือมีดหัวไหมพรมเรียกมา องค์หญิงนาตาชาอกภูเขาไฟกับเจฟเฟอร์ถูกควบคุมตัวอยู่บนนั้น ทั้งสองถูกจับมัดมือหันหลังพิงกันบั้นท้ายแนบชิดสนิทพื้น ดีอย่างที่เชือกมันหมดก็เลยไม่เหลืออะไรเอาไว้มัดปาก เปิดโอกาสให้เจฟเฟอร์พร่ำเพ้อถึงโลกที่เจ้าตัวรู้ออกมา."โลกมีเนื้อที่ 510,100,000 ตร.กม. เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สามจากดวงอาทิตย์ กำเนิดเมื่อ 4,500 ล้านปีก่อน มีอันตรกิริยาเชิงโน้มถ่วงกับวัตถุอื่นในอวกาศโดยเฉพาะดวงจันทร์ ซึ่งเป็นดาวบริวารถาวรเพียงหนึ่งเดียว ปฏิกิรยาฟิชชั่นจากกัมมันตรังสีแผ้วถางทุกสรรพสิ่ง อันเป็นจุดจบของสงครามไปพร้อมกับวงศ์ทนงพงเผ่าชีวิต เพราะงั้นสิ่งที่หมอนั่นพูดถึง? อลาลัสอันเดอร์กราวน์? นอกจากยอร์คชินแล้ว.. หรือว่าโลกจะยังมีพื้นที่ให้มีชีวิตอยู่อีก! ตกลงมันไม่ใช่แค่ข่าวลือใช่ไหม? ".จัดเป็นการกระแอมกระซิบกระซาบที่ยืดยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ สายลับหนุุ่มนั่งบ่นด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นลุกลี้ลุกลนต่างจากทุกครั้ง เขาตื่นเต้นจริงจังซะยิ่งกว่าตอนโดนโรบ็อทซอมบี้บนกองขยะรุมทึ้งชิงอะไหล่ซะอีก พลางกระทุ้งข้อศอกตุบ ๆ ใส่เอวองค์หญิงไปสองสามทีให้เธอตอบกลับ.แต

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 80 : ปลายอุโมงค์ แสงแห่งอลาลัส

    แล้วเขาก็เร่ิมเล่าออกไม้ออกมือราวกับจราจรตำรวจ ผู้โบกรถหน้าโรงเรียนกลางแดดรุมร้อน ทุกถ้อยคำที่สื่อสารนำพาความสนใจให้ก่อเกิดในหมู่ผู้ฟังได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกคนต่างนิ่งงัน สงบ และตกใจหน้าถอดสี ขนมเค้กที่แบ่งไว้ในจานถึงกับร่วงหล่นออกจากมือเอ็มม่า แคทเธอรีนต้องเดินกลับเข้าไปเปิดไฟให้สว่างโพลง พลางปิดเพลงจิงเกอร์เบลลงด้วยเหตุผลที่ว่า แต่นี้ต่อไปคงไม่มีใครเหลืออารมณ์พอจะปาร์ตี้อีกแล้ว แม้กระทั่งบอสประมุขสาวแห่งองค์กรผู้อยู่ในจุดสูงสุด."คุณอย่าพูดเป็นเล่นน่ะ! เหตุการณ์ไม่น่าจะบานปลายขนาดนั้น แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์รึเปล่าเบอร์แบโต้ แหล่งข่าวอาจจะบิดเบือนก็ได้นะ?"บอสทำเสียงเข้มใส่ พลางยกตัวเองขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะจ้องเขม็งเข้าไปถึงลูกนัยน์ตาของสายลับฝึกหัด."ไม่ผิดแน่ครับผมจะโกหกทำไม! ป่านนี้พี่เจฟเฟอร์จะเป็นไงบ้างไม่รู้! แกเป็นคนกำชับให้รีบเอาเรื่องนี้มาบอกกับบอสก่อน แล้วผมก็ติดต่อพี่แกไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้น คือยังไม่เข้าใจหรอกครับว่าพวกมันจับองค์หญิงแห่งอลาลัสไปทำไม แต่ดูจากที่พวกมันฆ่าพี่ปิเก้กับทุกคนในงานจนเกลี้ยงแล้ว บางทีการที่ท่านนายกจัสตินหนีรอดมาได้ อาจจะเป็นความตั้งใจของมัน!"."เ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 79 : ปาร์ตี้ปีใหม่ กับ แผนการที่วางไว้

    ก้อนความคิดถูก Drain ด้วยฝ่ามือฉันใด ครั้นจะพุ่งกลับคืนเข้าไปย่อมทำได้ฉันนั้น ท่ามกลางมวลมหาประชากรอสุจินับพันล้าน เบอร์แบโต้แฝงตัวรวมอยู่ในนั้นอย่างแนบเนียน มันถึงเวลาแล้วที่ดวงจิตของเขาจะกลับเข้าร่าง ช่วงจังหวะที่ซอยยิกปู้ยี่ปู้ยำกลีบผงาของชะเอมซะจนขาดกระเจิง น้ำรักของเธอไหลเยิ้ม น้ำตาไหลพับพรากสิโรราบให้กับความเสียว สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว ว่าเบอร์แบโต้ได้ฉวยโอกาสพุ่งออกจากร่างพี่แฟรงค์ผ่านทางปลายควย!.โคตรอุบาทว์แต่แม่งเป็นเรื่องจริง! ในทิศบูรพา 32 องศา 70 ลิบดาตะวันออก ลำควยใหญ่โค้งชักออกจากร่องเสียวเด็กสาวอย่างรวดเร็ว พลันหักหัวไปทางหน้าต่างที่มีผ้าม่านโบกไสว ใช่แล้ว! นี่คือสิ่งที่เบอร์แบโต้วางแผนเอาไว้ทั้งหมด เขาใช้สองมือกระชับลำควย กัดฟันถลึงตามองไปที่เป้าหมาย แล้วก็.. ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก ๆ ๆ ชัก! ชัก! จนน้ำกามปริมาณ 1.25 ลิตรพุ่งเป็นสายสะบัดจากฟูกเตียงโผทะยานแหวกผ่านผ้าม่าน ไปเปรอะแหมะ! เข้ากับร่างเปล่าของตัวเอง ที่พาดคางไว้กับวงกบหน้าต่างหน้าห้องได้เป็นผลสำเร็จ.ในมุมมองที่เล็กพอ ๆ กับจุลินทรีย์ หากส่องกล้องลงไปจะเห็นเลยว่าในมวลอสุจิเหล่านั้น เบอร์แบโต้กำลังออกแรงจ้

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 78 : ม่านหมอยไฟลุก (13+)

    ความสงสัยใคร่รู้ทำให้เด็กสาวไฮสคูลเยื้องย่างลงจากเตียง แม้จะเขินอายอยู่บ้างแต่ก็ได้ฝ่ามือทั้งสองข้างปิดบังจุดสงวนทั้งส่วนบนและส่วนล่างเอาไว้ ชะเอมค่อย ๆ ย่องตามรอยอสุจิที่แห้งกรังอยู่กับพื้นไป จวบจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ตำแหน่งใกล้กันกับประตูทางออก ข้างกันคือหน้าต่างบานเกร็ดที่กระจกแตกละเอียด! ผ้าม่านกระพือ! มิหนำซ้ำบนพื้นก็ยังมีเศษกระจกแหลมคมหล่นอยู่เกลื่อนกลาดเต็มไปหมด ใจเธอถึงไพร่คิด."เอ๋.. เราลืมความรู้สึกแบบนี้ไปได้ยังไง? ความเคลือบแคงในใจนี้เคยเกิดขึ้นกับเรามาก่อนแล้วนี่ อย่างน้อยก็ก่อนที่พี่แฟรงค์จะอุ้มเราไปปล้ำ?".ว่าแล้วก็ผินหน้าหันกลับไปเช็คฝ่ายชายดูซะหน่อย เธอพบว่าพี่เขายังคงนอนตะแคงข้างหันหลังให้เธอ แล้วก็นิ่งอยู่แบบนั้นมานานมากแล้ว."ขออย่าให้เกิดเรื่องแย่ ๆ หรือมีคนเห็นเลย เราพลาดเองแหละที่กระสันเกินงาม หึ! พี่แฟรงค์นะพี่แฟรงค์ พี่เองก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ใช้กำลังกระชากตัวเอมไปที่เตียงแล้วล่ะก็?"."แล้วดูสิ! ยังทำเป็นนอนนิ่งแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกนะ! ได้เอมเป็นเมียแล้วแท้ ๆ ".แววตาสวยหรี่เล็กลงยู่ยี่ภาพลาง ๆ ของเขาจากระยะ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 77 : ดวงวิญญาณที่พุ่งออกมาพร้อมน้ำ (18+)

    ความเวิ้งว้างภายนอกเงียบเหงาวังเวง ทางเดินเปลี่ยวร้างไร้ซึ่งการสนทนาปราศรัย ณ คอนโดหรูกลางใจเมืองที่สูงมากกว่า 80 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ในห้อง ๆ หนึ่งที่กระจกบานเกร็ดแตกละเอียด ผ้าม่านยังคงโหมกระพือจากแรงลมอันเย็นเยือก กลับกันเมื่ออารมณ์เงี่ยนของเด็กสาวนั้นร้อนรุ่มประหนึ่งปล่องไฟซานตาคลอส กับท่อนควยใหญ่ยักษ์ที่เปรียบเหมือนของขวัญ เธอจึงลืมไปหมดแล้วว่าอาจมีใครหรือสิ่งใดซุ่มดูอยู่ภายนอก."เอมไม่สนแล้วค่ะพี่แฟรงค์ เอมต้องการสิ่งนี้มานานเหลือเกิน โอ๊ย! เจ็บแต่ทนไหว อืมม อื้อออ!""ใครจะเห็นก็ช่างเป็นไร ในเมื่อเอมหยุดเอวตัวเองไม่ได้แล้ว..ว..ว..ว อื้มมมม..ม..ม..ม""เยส! เยส! เยสสสสส! Oh my god!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , ซึบ! , ซึบ! , ซึบ! , ซึบ!""ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! ,ตับ! ".เหมือนคนงานโม่หินแห่งนิคมปูนซิเมนต์สระบุรี ชะเอมร่อนเอวเป็นจังหวะทั้งยังส่ายออกด้านข้างวนเป็นวง บี้บดกับท่อนควยจนจมมิดลงไปกับกลีบร่อง ต้องบอกว่าโคตรมันส์เพราะไม่งั้นน้ำรักคงไม่หล่อลื่นมากขนาดนี้ เบอร์แบโต้ในร่างแฟรงค์แทบไม่ต้องทำอะไร "มึงอยากทำอะไรก็ตามใจ ขย่ม , โขยก , โขกโป๊ก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status