Home / เมือง / Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+) / บทที่ 8 : อย่าให้ยูมิโกะตกใจ!

Share

บทที่ 8 : อย่าให้ยูมิโกะตกใจ!

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-05-07 23:01:20

บนชั้น 4 ของอาคารสำนักงานใหญ่ Parallel นั้นแตกต่างไปจาก 3 ชั้นข้างล่างอยู่มากโข กล่าวคือ ไม่มีใครรู้ว่ารูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของมันเป็นยังไง มันเปรียบได้กับแดนสนธยาที่มีเพียงแพทย์หญิงเจ้าของชั้นอย่างยูมิโกะ กับบอสเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร พื้นที่ทั้งชั้นถูกปกปิดไว้หมดด้วยม่านพลังงานที่เธอคิดค้นขึ้น แผ่นเจวบาง ๆ ขุ่นใสสีช้ำเลือดช้ำหนองฉาบไปทั่วทุกซอกทุกมุม ขึงพืดสร้างเป็นผนังกั้นห้องราวกับไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ความลับในโลกส่วนตัวของเธอ

.

แต่ถึงกระนั้นก็ยังเปิดพื้นที่ส่วนหน้าเอาไว้ เพื่อคอยคัดกรองบรรดาเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติงาน คนที่อาการหนักจะถูกนำตัวฝ่าแผ่นเจลเหนือดเหนียวเข้าไปภายใน ส่วนคนที่อาการไม่เท่าไหร่หมอยูมิโกะจะทำการรักษาแบบฉับไวอยู่ด้านนอก ซึ่งก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีว่าอาการของพ่อหนุ่ม เจฟเฟอร์ บัตเจนแลนด์ นั้น จะอยู่ระดับไหนในสายตาเธอ

.

"ฮู้วววว.. เสร็จซะที เมื่อยจังเลยยูมิ ขอน้ำให้ฉันสักแก้วสิที่รัก"

.

"ไฮ้!..ได้ค่ะหมอ เชิญคุณหมอออกไปรอด้านนอกนะคะ เดี๋ยวยูมิตามออกไป"

.

ม่านเจลเหนียวหนืดจมบุ่มลึกลงไป หมอสาวพราวสเน่ห์สอดแขนเข้าไปก่อน ต่อด้วยการค่อย ๆ เอี้ยวตัวเบียดเสียดความยืดหยุ่นหยึกหยึ๋ยดังกล่าว จนดวงหน้าโผล่พรวดออกมาด้านนอก ผมสลวยของเธอถูกเคลือบไว้ด้วยน้ำเมือก เสื้อผ้าชุดกาวน์เปรอะเปื้อนยืดเป็นยาง ไหนจะแขนขาที่เกาะกังไปด้วยก้อนวุ้นที่ไม่รู้สึกได้ถึงความมีประโยชน์ใด ๆ เลย

.

"ฮึบ.. ฮาาาา.. อากาศบริสุทธิ์สดชื่นที่สุดเลย.. ย.. ย.."

"เคสยากระดับนี้ถ้ามันจะพลาดบ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก สงครามนิวเคลียร์ทำคนตายมากกว่าฉันตั้งเยอะ"

.

ร่างบางสืบเท้าเดินมาทิ้งตัวลงกับเก้าอี้หมุนหลังโต๊ะทำงาน เธอชูมือขึ้นสุดเหยียดบิดตัวไปมาบ่งบอกถึงความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า อันเกิดจากหน้าที่ ๆ ต้องรับผิดชอบ ตาหยีเล็กเรียวของเธอเร่ิมเคลื่อนตัวปิดสนิท ครานั้นหางตาก็ยังคงยกสูงด้วยสไตล์ของคนเอเชียที่หาดูได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน

.

"ดึ๋งงงง.. ดั๋งงงง.. ด๊วบบบ.. ด๊วบบบ!"

เสียงแหวกม่านเจลแบบเดียวกันดังตามมาติด ๆ หากแต่คราวนี้คนที่โผล่ออกมาไม่ใช่คุณยูมิผู้ช่วย หากแต่เป็นนาริตะพยาบาลสาวหน้าตาน่ารักอีกคนหนึ่ง

.

"ฮึบ.. อึบ!.. อ่า!.. น้ำได้แล้วค่ะคุณหมอ เหนื่อยแย่เลยนะคะ"

เธอวางแก้วลงบนโต๊ะ เสียงกระทบทำให้หมอยูมิโกะสะดุ้งตื่นขึ้นจากภวังค์

.

"อ่าว.. นาริตะจัง แล้วยูมิจังล่ะจ๊ะ?"

.

"อ๋อ! พี่ยูมิกำลังตระเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้คุณหมออยู่ค่ะ เห็นแกบอกว่าถ้าปล่อยให้คุณหมอตัวเปื้อนแบบนี้นาน ๆ เดี๋ยวจะไม่สบาย"

.

ยูมิโกะมุ่ยหน้า เธอยืดตัวขึ้นจ้องเขม็งเข้าไปในแววตาบ่องแบ้วของพยาบาลผู้ช่วย

.

"พวกเธอพี่น้องนี่ยังไงกัน? ชอบทำนอกเหนือคำสั่งหมออยู่เรื่อย บางทีหมอก็คิดเหมือนกันนะว่าทำอะไรพลาดไปรึเปล่า? ถ้างั้นขอลองอีกทีนะ"

.

กระดกแก้วน้ำยกขึ้นซดรวดเดียวหมด กระแอมในลำคอเล็กน้อยแล้วก็ออกคำสั่งใหม่

.

"นาริตะจังจ๊ะช่วยเตรียมเตียงผ่าตัดให้หน่อยสิ หมออยากนอนพักสักงีบก่อนเริ่มงานต่อใน section ที่ 2 ปลุกหมอตอนบ่ายสองสี่สิบห้านะ"

.

"ไฮ้! , ได้ค่ะ^^"

.

.

พื้นที่ส่วนหน้าบริเวณที่หมอยูมิโกะกับนาริตะจังอยู่ ณ ขณะนี้ กินพื้นที่ราว 30% ของชั้น 4 เห็นจะได้ มันถูกปูด้วยกระเบื้องโมเสคอย่างดี มีตู้ยาสามัญประจำบ้านขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง ค่อนไปทางขวาด้านในสุดเป็นมุมโต๊ะทำงานที่ยูมิโกะกำลังนั่งอยู่ตอนนี้ ส่วนม่านเจลตึ๋งหนืดนั้นอยู่เยื้องไปทางขวาห่างจากโต๊ะประมาณ 3 เมตร กินพื้นที่ฝาผนังไปหมดทั้งแถบ ซึ่งบอกตรง ๆ เลยว่าการเต้นยุบยับของมันมองกี่ครั้งก็สะอิดสะเอียนน่าขนลุก คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเหตุไฉนและเพราะอะไรหมอยูมิโกะสาวญี่ปุ่นผิวเนียนหุ่นบอบบางผู้นี้ ถึงได้มีรสนิยมประดิษฐ์ของแบบนี้ขึ้นมา

.

สรุปแล้วถ้าไม่นับเจ้าผนังม่านเจลชวนอ้วกดังกล่าว พื้นที่ส่วนหน้านี้ก็มีสภาพไม่่ต่างจากคลีนิครักษาคนไข้ของหมอทั่่วไป เครื่องไม้เครื่องมือครบ เว้นก็แต่เตียงผ่าตัดที่จะเคลื่อนตัวขึ้นมาก็ต่อเมื่อมีคนกดปุ่มลับที่ซ่อนไว้เท่านั้น

.

นาริตะจังซอยเท้ายุกยิกยิ้มแป้นแล้นไปที่ด้านหลังตู้เก็บยา ทันทีที่เธอเอื้อมมือไปกดสวิทซ์ลับ กลุ่มกระเบื้องโมเสคตรงกลางห้องก็เลื่อนสลับที่ปรับตำแหน่งได้เองราวกับตัวต่อพาสเซิล แรงสั่นสะเทือนจากพื้นสำผัสได้โดยตรงจากฝ่าเท้า แก้วน้ำที่หมอกินหมดแล้วกระทบกับสันโต๊ะ ก๊อกแก๊ก ๆ ๆ จนเกือบจะร่วงหล่น แล้วทันใดนั้นเองพื้นที่ตรงกลางก็ค่อย ๆ ยุบตัวลงไป เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดหนังสีดำขลับเคลือบมันแวววับค่อย ๆ เคลื่อนตัวขึ้นมาทดแทนด้วยระบบไฮโดรลิค เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากลูกสูบบดอัดกันเสียดสีก้องดังกังวาน ควันเล็กน้อยที่โพยพุ่งออกมาช่วยให้ทุกอย่างดูอลังการมากยิ่งขึ้น

.

หมอยูมิโกะเท้าคางมองนวัตกรรมที่เธอสรรค์สร้างด้วยความภูมิใจ มันช่างเท่ถูกใจเหมาะกับลุคสาวฮาราจูกุตัวเปื้อนเมือกอย่างเธอเสียจริง ก่อนจะเหลือบตาขึ้นไปมองฝ้าเพดานข้างบนต่อ ให้ตายเถอะ! เพราะว่ามันแทบจะไม่ต่างกันเลย หลอดไฟนีออนบนเพดานย่นยู่เข้าหากันราวกับหลอดกาแฟ ต่อด้วยการพลิกสลับด้านคลี่ตัวออกคล้ายกับใบพัด แผ่สยายออกมาเป็นหลอดไฟผ่าตัดหลาย ๆ ดวงที่เรียงติด ๆ กันเป็นแพร สว่างไสวยิ่งกว่าสปอร์ตไลท์ในสนามโอแทรดฟอร์ด

.

"พอแล้วจ๊ะนาริตะ ไม่ต้องเปิดไฟหรอกหมอแค่จะนอนเฉย ๆ อย่าลืมปลุกด้วยนะ"

.

"แต่หมอคะนอนบนเตียงคนไข้แบบนี้มันจะดีเหรอคะ โบราณเขาถือ"

มือเรียวคว้าเอาชายเสื้อเปื้อนเมือกของหมอเอาไว้ เจตนารั้งให้เจ้านายฉุดคิด

.

"ไหนจะชุดที่เปื้อนอยู่นี่อีกล่ะคะ ไม่รอพี่ยูมิหน่อยหรอ? พวกเราพร้อมจะรับใช้หมออยู่แล้วไม่ต้องเกรงใจเลย"

.

"เฮ้อ.. หมอว่าพวกเธอน่าจะเสียจริง ๆ แล้วล่ะ! ไปเลยนะไปยืนเฝ้าหน้าประตูโน่นเลย! ฉันจะนอนพักสมองให้หายเครียดตื่นมาคงไม่ต้องทำแล้วล่ะงาน section 2 อะไรเนี่ยะ พวกเธอพี่น้องน่ีล่ะเคสเร่งด่วนเลย เฮ้อ!"

.

สงสารก็สงสารทำไมน้อทำไมถึงทำกับนาริตะจังได้ลงคอ? สาวน้อยคอตกเดินจิกเท้ายุกยิกกลับไปเฝ้าหน้าประตูตามที่คุณหมอสั่ง เธอก็แค่ปรารถนาดีทำไมคุณหมอถึงต้องตวาดเธอรุนแรงเช่นนี้ด้วย

.

"ก็นาริตะรักคุณหมอนี่นา หมอไม่เคยแอบรักใครหมอไม่รู้หรอก เช๊อะ!"

หน้างอเป็นห่อหมก แต่ต่อให้อยู่หน้าประตูสาวเจ้าก็ยังแอบอมยิ้มและชำเลืองมองคุณหมอคนเก่งของเธออยู่เป็นระยะ

.

"พี่ยูมิก็ช้าเหลือเกิน ถ้าคุณหมอไม่สบายขึ้นมาฉันโกรธพีี่จริง ๆ นะ"

.

ระหว่างที่คุณหมอยูมิโกะค่อย ๆ ซ่วงซึมหลับไป ตัดภาพมาที่เจ้าหน้าที่ภาคสนามแขนพิการกับองคชาติใหญ่ยักษ์กันบ้าง เบอร์แบโต้ประคองเอาร่างอันหนักอึ้งของเจฟเฟอร์ขึ้นมาถึงชั้น 3 เป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่เรี่ยวแรงเองก็เริ่มจะร่อยหรอลงทุกที ไหนจะต้องมาถือแขนที่ขาดกับดอกไม้บ้าบอที่แสนจะพะรุงพะรังนี่อีก

.

"ถึงยังวะไอ้โต้! กูชักเริ่มหน้ามืดแล้วว่ะ ไม่น่าอวดเก่งเลยกูแม่งหายใจไม่ออก.. แค็ก ๆ แค็ก ๆ"

.

"ยังพี่เพิ่งชั้น 3 เองเพิ่งถึงฝ่ายการเงิน อดทนอีกนิดเดียวขึ้นบันไดนี้ไปก็ถึงแล้ว ว่าแต่ควยพี่นี่แม่งโคตรถึกเลยว่ะเดินลากมากับพื้นขนาดนี้ยังโด่ไม่รู้ล้มอยู่เลย พี่กินอะไรโด๊ปมารึเปล่าพี่เจฟ มีของดีอะไรบอกน้องบอกนุ่งบ้าง?"

.

"แดกน้ำหีแม่มึงมั้งไอ้สัด! ไม่มีเหี้ยไรทั้งนั้นแหละ! ก็เพราะกูไม่รู้นี่ไงกูถึงให้มึงพามาหาหมอ บอกตรง ๆ นะแขนที่ขาดอ่ะกูไม่ห่วงเลยกูเคยโดนมาหนักกว่านี้ แต่ควยกูดิแม่งผิดปกติโคตร ๆ ! แข็งจนปวดระบมไปหมด ไป ๆ อย่าถามมากกูต้องใช้ออกซิเจนหายใจอีกเยอะ"

.

"ได้้พี่ได้ถึงพอดีเลย เลี้ยวซ้ายข้างหน้าก็ถึงแล้ว"

.

ร่างหนาสองร่างตะกุยตะกายข้างฝา เซถลาตามทางเดินมาจนถึงห้องรับรองส่วนหน้าของหมอยูมิโกะ ด้วยเลือดที่หยดเป็นทางมาจากชั้นล่าง (ร้านดอกไม้) ถ้าจุดคัดกรองส่วนหน้าไม่ให้ผ่านก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว เพราะเท่าที่ดูอาการโดยรวมของเจฟเฟอร์เขาน่าจะต้องถูกส่งตัวผ่านม่านเจลสนธยา เข้าไปรักษากันภายในอย่างไม่ต้องสงสัย

.

และทันทีที่สายลับรุ่นน้องสังเกตเห็นป้ายไฟฉุกเฉินหน้าห้องสว่างโพลงอยู่ เขาจึงเร่งใช้ไหล่กระแทกประตูเข้าไปโดยไม่ทันเคาะก่อน ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์! "ถ้าหมอยูมิโกะฆ่ากูตาย มึงช่วยเก็บศพให้กูด้วยนะ!" เบอร์แบร์โต้ลืมคำพูดประโยคนี้ในบทที่แล้วไปอย่างสิ้นเชิง

.

"หมอครับช่วยด้วยครับ มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บสาหัส!"

.

สองร่างแกร่งพุ่งพรวดเข้าไปในห้องรับรองส่วนหน้าพร้อมกับลิ่มเลือดหลากเป็นสายน้ำ ขณะที่อีกฟากของบานประตูคือสาวน้อยนาริตะที่ถูกออกคำสั่งให้ยืนเฝ้าประตูเอาไว้ไม่ให้มีใครรบกวน เรือนร่างอันบอบบางมีหรือจะสู้แรงชายฉกรรจ์ที่เพิ่งผ่านการรุมปี้ผู้หญิงได้ แรงอัดจากประตูจึงซัดเอาร่างบางกระเด็นล้มกลิ้งกองลงกับพื้น แล้วภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้านั้นเองที่ทำให้นาริตะต้องตกอกตกใจ เธอหวาดกลัวมากจนกลั้นเสียงกรี๊ดไว้ไม่อยู่!

.

"โรคจิต!!! กรี๊ดดดดดด!!!"

.

เบอร์แบร์โต้น่ะไม่เท่าไหร่ แต่เจฟเฟอร์นี่สิที่ผ้าเช็ดตัวหลุดจากเอวไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้! แม้จะไม่ตั้งใจแต่ปลายควยก็ได้จ่ออยู่ตรงหน้านาริตะจังไปเป็นที่เรียบร้อย!

"กรี๊ดดดดดด! หมอคะมีโรคจิตบุกเข้ามาในคลีนิคเราค่ะ!"

.

"ฟิ้งงงงง~!"

ยูมิโกะไม่ได้ตื่น! แต่ที่ตื่นดันเป็นสัญชาติญาณนักฆ่าที่อยู่ในตัวเธอ! นัยน์ตาหยีหางตาชี้คู่เดิมเพิ่มเติมตรงความเหี้ยม! การเป็นคนเอเชียที่มีชีวิตรอดอยู่ในยุคนี้ย่อมพิสูจน์แล้วซึ่งหลายสิ่งหลายอย่าง เธอไม่ใช่หมอธรรมดาอย่างที่เจฟเฟอร์บอกจริง ๆ เพราะส่ิงที่เธอทำในเสี้ยววินาทีสั้น ๆ ได้ทำให้ชายอเมริกันปากดีอย่างเบอร์แบร์โต้ ถึงกับวิ่งหนีหางจุกก้นไปเลย!

.

"เฟี้ยววว!" , "จึก!" , "จึก!"

.

"อั๊ก!"

.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าแค่กิ๊บติดผมก็ฆ่าคนได้! ยูมิโกะไม่ได้ลืมตาด้วยซ้ำ เธอแค่ดีดตัวขึ้นจากเตียงแล้วเหวี่ยงมันออกไปด้วยแรงสะบัดจากเส้นผม กิ๊บ 2 ตัวปักเข้าที่จุดตาย! ยังไม่พอ! ทักษะนักฆ่าชั้นสูงยังดำเนินต่อไปด้วยการม้วนตัวลงจากเตียงผ่าตัด เอื้อมมือไปหยิบดาบซามูไรที่ซ่อนไว้ข้างใต้ กระชากฝักทิ้งด้วยความแคล่วคล่อง แล้วปรี่เข้ามากระโดดฟันฉับ! ขาดสะพายแล่ง! (ภายในดาบเดียว)

.

ตัวเหยื่อขาดออกเป็นสองท่อน ไล่ไปตั้งแต่ไหปลาร้าซ้ายจรดสะโพกขวา เลือดฉีดขึ้นฟ้าพุ่งออกเป็นสายคล้ายน้ำพุ สยดสยองโคตร ๆ ความแดงฉานใหม่สดของมันกลบคราบเลือดเดิมจากแขนเจฟเฟอร์ชนิดไม่เห็นฝุ่น ปากสั่นพับ ๆ ฟันกรามกระทบกันกึกกัก ๆ ๆ ผู้ป่วยแขนขาดที่กำลังต้องการหมอหันมองไปทีี่ทางเดินด้านนอก พลันตะโกนออกมาด้วยซุ่มเสียงอันดังสนั่น

.

"ไอ้เบอร์แบร์โต้มึงทิ้งกูเลยนะ! ไหนมึงสัญญากับกูแล้วไง! ไอ้น้องเวร!"

.

"ผมต้องรีบเอาเช็คไปขึ้นเงินกับคุณเอ็มม่าชั้น 3 ก่อนพี่! ที่เหลือพี่ช่วยตัวเองล่ะกัน เหวอ ๆ ๆ โหดสมคำร่ำลือเลยหมอยูมิโกะ รอดมาได้ค่อยเจอกันนะพี่เจฟผมไปก่อนล่ะ!"

"ฮึบ.. ฮึบ.. ย๊ากกก!"

.

วิ่งตื๋อลงบันไดชนิดไม่มีวันหวนย้อนกลับ ในท่านั่งจุ่มก้นลงกับพื้นเจฟเฟอร์เอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาปิดควยโด่เด่ของเขาเอาไว้ พยายามมองหาช่อดอกลาเวนเดอร์ก่อนจะพบว่ามันตกอยู่ใต้เตียงที่ต้ังอยู่กลางห้อง ส่วนแขนที่ขาดเจ้ากรรมก็ดันกระเด็นไปตกอยู่ข้างกันกับเหยื่อ ผู้ซึ่งถูกหมอยูมิโกะฟันขาดสองท่อนไปเมื่อครู่!

.

"อีหมอเวรเอ๊ย! ถ้ามึงฟันแม่น ๆ กูจะไม่ว่าอะไรเลย"

.

"นี่ดาบซามูไรมึงฟันลูกน้องตัวเองขาดสะพายแล่ง มึงยังไม่รู้ตัวอีก!"

เจฟเฟอร์คิดในใจ นั่งนิ่งไปไหนต่อไม่ไหว แผลที่แขนเปิดมากจนเลือดแทบจะหมดตัวอยู่รอมร่อ

.

"หมอ! หมอ! อีหมอยูมิโกะ! นี่ผมเองเจฟเฟอร์ตื่นซะทีสิอีชะนีอะลิกาโต๊ะ! แม่งเอ๊ยได้ยินเสียงกรี๊ดทีไรสติสตังค์ไปหมด!"

ตะโกนด่าก็แล้ว

.

"คุณจะฆ่าผมไม่ได้นะ คุณเป็นหมอที่เก่งที่สุดของ Parallel คุณต้องรักษาคนสิไม่ใช่ฆ่าคน ผมไม่รู้ว่าคุณผ่านอะไรมาบ้างในช่วงสงคราม แต่ช่วยฟังผมหน่อยได้ไหมได้สติซะที!"

พูดดีด้วยก็แล้ว

.

แต่ดูเหมือนว่าหมอยูมิโกะนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอกลายสภาพเป็นนักฆ่ากระหายเลือดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย คำเตือนที่เจฟเฟอร์บอกให้เบอร์แบร์โต้ช่วยเก็บศพให้หน่อย ก็เลยดูท่าว่าจะกลายเป็นจริงซะแล้ว เสื้อผ้าหน้าผมเปรอะเปื้อนไปด้วยลิ่มเลือดที่โค้งลงมาใส่ราวกับห่าฝน ยูมิโกะแยกเขี้ยวเอียงคอจ้องจะฟันเจฟเฟอร์อีกสักฉับ! ด้วยความสัตย์จริง!

.

"โคตรแม่มเอ๊ย! ชีวิตกูจบแน่ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง"

.

"เอาสิหมอ! ผมเตือนคุณแล้วนะคุณคิดว่าผมเป็นใคร สายลับเวลาจนตรอกน่ะมีอะไรใกล้ตัวก็เอามาใช้ได้หมด โลกต้องจดจำผมในฐานะของชายคนแรกที่ใช้ควยสู้กับดาบซามูไร!"

.

"มา!.. ยูมิโกะ! มา! มาสู้กันสักตั้ง!!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 135 : He's come back (18+)

    ตะแคงแหย่เย็ดกลีบผกาอยู่ร่วมนาทีนารีก็รับสภาพ หนังหีตรงหลืบถ้ำขององค์หญิงโดนดุ้นมังกรลำเขื่องปลุกปล้ำจนช้ำแดงเป็นปื้น ไนฟ์ขยำรัดเต้านมนวลน้อยของเธอชอกช้ำเป็นรอยฝ่ามือ ไหนจะคมเขี้ยวที่ฝากเอาไว้บนไหล่ซึ่งเต็มไปด้วยการแทะเล็มโลมเลียนั่นอีก มันไม่นุ่มนวลเอาซะเลย มันไม่ใช่การทำรักที่เธอชอบ เธอไม่พร้อมและจนป่านนี้น้ำหล่อลื่นก็ไม่ฟดออกจากรูฉี่แม้แต่หยดเดียว!.นาตาชายังคงครางร้องเรียกชื่อเจฟเฟอร์อยู่ตลอดเวลา ถึงมันจะขาดห้วงจากการกระหน่ำอันบ้าระห่ำไปบ้าง แต่ก็สาสมแล้วที่เธอจะออกอาการดังกล่าว หญิงสาวเจ็บจนต้องหลับตาเอาไว้ ครั้นพอจะยกมือป่ายปัดไปทางไหน ก็ถูกไนฟ์ไล่แขนล็อคเอาไว้หมด กระทั่งอีกสามนาทีให้หลังท่าเย็ดแบบใหม่จึงถูกสภาปนา."เปลี่ยนท่านะ.."เขากระซิบบอก.ทำเป็นอ่อนโยนแต่ไอเหี้ยนี่คือโจรแห่งจุดซ่อนเร้น มันลักพาเยื้อพรหมจรรย์ที่เหลือติดอยู่นิดหน่อยไปโดยสิ้นเชิง ผ่านการพลิกตัวขององค์หญิงขึ้นสู่ด้านบน."พี่ไนฟ์.. พอเถอะ.. ไม่เอาอ่ะพี่.. ช่าเจ็บ..บ..บ.. โอ๊ยยย!"."ไม่เป็นไรหรอกน่านิดเดียวเอง.. เจ็บนิดเดียวแต่เสียวซาบซ่านไง.. เยสสสส!".ยอมฟังซะที่ไหนเสี้ยววินาทีที่ร่างบางนอนหลาอยู่ข้างบน

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 134 : ดื้อ (18+)

    ร้องจนเสียงหลง กัดริมฝีปากครวญเสียงซีดจากในลำคอกึ่งสุขกึ่งสับสนอยู่ในภวังค์โลกีย์ องค์หญิงหลับตาเหยเก รอยย่นบนใบหน้าบ่งบอกว่าเธอกำลังเจ็บ! เธอเสียว! และเธอก็แสบ! แต่นั่นก็ยังไม่สู้คุณเจฟที่ป่านนี้คงจะสุกกลายเป็นส่วนผสมอันโอชะ อยู่ในหม้อต้มครีมใบเขื่องไปแล้ว.ในหัวเธอคิดถึงแต่เขาแต่ร่างกายกลับปฏิเสธ มันบอกกับเธอว่าเจฟเฟอร์ก็ห่วง แต่ดุ้นควยที่หน่วงหีอยู่ทางนี้ก็ฟินอยู่พอกัน ไนฟ์ที่เปลื้องผ้าล่อนจ้อนหมดแล้วนั้น ก็เลยถือวิสาสะแห่งการลังเลกระชากเธอซะสุดแรง มวลกายนวลนุ่มพลิกกลับด้านราวกับก้อนสำลีก้อนหนึ่ง หล่อนชันเข่าฟุบหน้าคาอยู่กับพนักโซฟา โดยมีแท่งควยอันเดิมปักคาอยู่ในร่อง."ซวบบบ!"."อ๊อยยย~!".แล้วไนฟ์ก็เย็ดต่อ!."ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! , ตับ! "."โอ๊ยยย.. ย.. ย.. ย.. อึ.. อึ.. อึ.. พี่ไนฟ์.. ช่าขอร้องล่ะ.. โอ๊ยยย!.. โอ๊ยยย!.. อ๊อยยย!""หยุด..ก่อน..น..น..น.. ได้ไหม.. ซีดดดดด.. ตอนนี้""คุณเจฟ.. เค้า..า..า..".นับเป็นการขอร้องที่โคตรจะผิดเวลา กับชั่วยามนี้ที่หัวหน้ากลุ่มอันเดอร์กราวน์ได้ถูกความเงี่ยนเข้าครอบงำจนหมดสิ้น พลังด้านมืดเขาเต็มเปี่ยม จะดาร์คไซต์ห

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 133 : เหมือนองค์หญิงจะโดน (18+)

    ซวยสุดซอยสะเทือนใจสุดขีด เมื่อองค์หญิงนาตาชามาถึงช้าเกินไป และคนที่มาถึงก่อนคือไนฟ์กับพรรคพวก ลับหลังจากการปรากฏตัวสุดอุบาทว์ เหล่าลูกสมุนบริวารก็ต่างพากันวาร์ปออกมาจากกระจกหน้าร้านอีกเป็นโขยง! มิหนำซ้ำแต่ละคนยังถือมีดสีม่วงเป็นอาวุธประจำกายไว้ติดมือตลอดเวลา เจอแบบนี้เข้าไปใครจะกล้าแหยม! องค์หญิงก็เลยต้องหลบฉากถอยออกมาตั้งหลักก่อน.เปิดทางให้ไนฟ์ตบเกียร์ห้าเดินหน้าทำตามแผนต่อไป ซึ่งเป้าหมายของเขาก็คือเชื้อพระวงศ์ลำดับที่สองอย่างองค์หญิงเจส เขาตั้งใจจะคาดคั้นเอาความให้ได้ว่า "ณ ปัจจุบันราชาเด็มบ้าบาไปมุดหัวอยู่ที่ไหน?" ทำไมเขากับพวกพลิกแผ่นดินหายังไงก็หาไม่เจอสักที พอถามใครก็ไม่มีใครรู้ใครเห็นหรือยอมปริปาก.กวัดแกว่งปลายมีดขยิบตาหน่อยเดียว ประตูกระจกใสแจ๋วก็ถูกเดินผ่านไปได้โดยสะดวกโยธิน อิทธิฤทธิ์ของแร่มหัศจรรย์ได้เนรมิตม่านควันกลุ่มใหญ่ให้บดบังสายตาของพวกน้องหมาทั้งหลายเอาไว้ ทำให้ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงเห่า กลุ่มอันเดอร์กราวน์คนแล้วคนเล่าจึงสามารถทะลุผ่านโซนกงขัง ที่เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือด ระหว่างเจฟเฟอร์กับทหารจากรั้วพระราชวังไปได้แบบไม่ยี่หระอะไร.แล้วคิดเหรอว่าสีผมแดงแจ๋กับดวงห

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 132 : สปีดเร็วกว่านรก (13+)

    คลื่นอารมณ์โถมจิตใจ ร่างลอยลมชันฟ้าห้วงมหานภา พลพรรคกองกำลังติดอาวุธจากพื้นพสุธาผงาดง้ำยึดครองฟากฟ้า ม่วงมหากาฬเต็มไปหมด จะมองไปมุมไหนเมฆหมอกก็เจือจางความโอหังนี้ไว้ไม่ได้ จบลงแล้วกับการปิดบังตัวเอง ความโกลาหลเช่นนี้แหละที่พวกมันรอคอย การป้องกันอาณาจักรที่ลดทอนลง บวกกับพลเมืองที่สูญเสียกำลังใจหลงใหลในความเงี่ยน ก็เลยไม่มีเวลาไหนที่จะเหมาะแก่การบุกขึ้นไปช่วงชิงอำนาจไปมากกว่านี้อีกแล้ว!.คนตัวเท่ามดด้วยรูปลักษณ์ของกลุ่มควันมวลเมฆ มองปราดเดียวนาตาชาก็รู้ในทันทีว่านี่คือกลุ่มกบฎอันเดอร์กราวน์มิผิดเพี้ยน จังหวะการกระโจนโบยบินบนฟากฟ้า กลุ่มควันสีม่วงจากอาวุธมีด Pussy Recon วิบวาวตระการตา ก็มีแต่กลุ่มคนเหล่านี้เท่านั้นแหละที่จะทำได้.แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ประตูหน้าต่างของบ้านพลเรือน กลายเป็นประตูมิติอันสมบูรณ์แบบ เสี้ยวอึดใจจากที่ลอยอยู่บนฟ้าอยู่ดี ๆ จู่ ๆ พวกมันก็พากันวาร์ปลงมาโผล่ยังภาคพื้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ซะอย่างงั้น! นั่นอาจจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของอุปกรณ์พิเศษเฉกเช่นแผ่นการ์ดตัวอย่างดิน กับประตูโดเรม่อนที่พกพากันอยู่คนละอันสองอันก็เป็นได้.1 คนวาร์ป! 2 คนวาร์ป! 3 คนวาร์ป! , 4...! , 5...!

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 131 : ขอความช่วยเหลือ

    ตัดภาพกลับออกมาที่ฟากฝั่งขององค์หญิงนาตาชา เธอหย่อนตัวลงบนพื้นพรมด้านล่างผ่านทางตะแกรงท่อระบายอากาศ ที่เธอใช้ฝ่าตีนกระทุ้งถีบ ใจจริงอยากจะจ้วงเท้าออกวิ่งแทบขาดใจแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเกรงว่าพวกทหารหญิงจะไหวตัวทัน ก็เลยทำได้เพียงกระหยิบย่องแบบช้า ๆ ไปพลางก่อน ซ้ำร้ายเมื่อออกไปทางประตูปกติก็ไม่ได้! กลับไปห้องพี่โซเฟียก็ไม่เข้าท่า! เนื่องจากปากท่อโดยสารอันเก่ามันเชื่อมต่อกับแนวท่อตรงตีนเขาศาลเจ้า ซึ่งไม่ตรงกับพิกัดที่เธอต้องการจะไป.ย่องไปคิดไปก้านสมองนี่ระบมพอ ๆ กับส้นตีนที่รองรับน้ำหนักตัว กระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหัวมุมห้องโถง ณ ที่ตรงนี้ยังมีร่างของทหารหญิงคนหนึ่งนอนพิงกำแพงอยู่ เธอคือผู้โชคร้ายที่โดนเจฟเฟอร์สับท้ายทอยจนสลบไปเมื่อหลายตอนก่อน เพียงแต่ว่าหนนี้กลับดูแปลกตาไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด.องค์หญิงมองเห็นแอ่งเลือดที่ซึมเปรอะอยู่บนพรม พอโผตัวเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้วสัมผัสเนื้อตัวอีกเล็กน้อย ศีรษะของศพก็หักพับลงไปด้านหลังอย่างสยดสยอง! เหลือไว้แต่ละอองเลือดที่แผดพุ่งเฉียดหน้าไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด! บาดแผลลึกฉกรรจ์มาก! แค่ดูโดยไม่ต้องสันนิษฐานก็รู้แล้วว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของเจฟเฟอร์ที่ทำไว้ แล้วก็ไ

  • Just Say Nothing : โคตรคนปฏิเสธโลก (NC 18+)   บทที่ 130 : ชอยด์ที่ต้องเลือก (13+)

    ข้างล่างวิ่งกันโกลาหล ต่างคนต่างลุกออกจากเตียงตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น นั่นมันสัตว์ประหลาดรึยังไง? กลับหัวห้อยอาจจะใช่ แต่สิ่งที่ยึดไว้ไม่ใช่ใยแต่เป็นควย! ทอดสายตาลงไปนาตาชามองเห็นพ่อตัวเองชี้ไม้ชี้มือสั่งคนนั้นคนนี้ให้จัดการกับเจฟเฟอร์ ซึ่งเธอไม่มีวันยอมเป็นอันขาด เธอก็เลยออกแรงกำลำควยของเขาด้วยสองมือน้อย ๆ ที่แรงกว่าเก่า!."งึด! , งึด! , งึด! , งึด!"."อ๊ากกก!".เจ็บสิถึงร้องลั่นเก่งแค่ไหนอุปกรณ์อาวุธครบมือยังไง ขึ้นชื่อว่าผู้ชายแล้วอะไหล่ตรงเป้ากางเกงนี่แหละแพงที่สุด จริงอยู่ว่าถ้าอ่านมาแต่แรกจะรู้ว่าควยอันนี้เคยถูกหมอยูมิโกะโมดิฟายด์มาแล้วหนหนึ่ง มันถูกผสมทังสเตนคาร์ไบน์ , เหล็ก , และแมงกานิส จนสามารถใช้รับมือกับดาบ "คาตานะ" ประจำกายของหมอมาแล้ว.แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนกัน ม่านไหมลุกชันเกรียวเข้าไปถึงรูตูด จวนจะได้จูบกันอยู่แล้วอารมณ์ก็เลยค้าง น็อตนับพันขันดุ้นกับไข่ให้ชิดติดกันแนบสนิท มันดูดีสุด ๆ โคตรเท่โคตรคูล แต่กลับเป็นความสมมาตรในพาร์ทของการขยายออกข้างนี่แหละที่มีปัญหา เมื่ออำนาจแห่งรักทำให้น้ำเมือกหล่อลื่นซึมออกมาจากปลายควยมากกว่าปกติ มันรินรดเปรอะใส่มือองค์หญิงจนทำให้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status