Share

LAST LOVE : 02 (1/2)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-05 23:17:37

สิบกว่าปีก่อน…

@บ้านเหมบดินทร์

“เฮ้ย! ไอ้เฮียมึงล่ะ” ผมร้องถามลูกชายคนกลางของบ้าน กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดในชุดแสนสบายสำหรับการเล่นน้ำด้วยความเร่งรีบ หลังจากผมเพิ่งก้าวผ่านวงกบประตูบ้านเข้ามาได้ไม่เท่าไหร่

“ข้างบน” มันตอบแบบปัด ๆ โดยไม่หันมอง

“รีบห่าอะไรขนาดนั้นวะ” เสียงบ่นพึมพำไล่ตามหลังมัน ก่อนจะพาตัวเองขึ้นบันไดไปยังจุดหมายที่รู้จักเป็นอย่างดี

ประตูห้องเพื่อนรักถูกดันเข้าไปด้วยความมั่นใจ แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำผมชะงักนิ่ง คนที่อยู่บนเตียงไม่ใช่คนในความคิด แต่เป็นเด็กหญิงที่เพิ่งถูกรับเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเหมบดินทร์หมาด ๆ วันนี้เลย

ดูเหมือนผมจะทำให้เธอตกใจจากการพรวดพราดเข้ามาโดยไม่ส่งสัญญาณ ร่างเล็กขยับถอยไปชิดหัวเตียง หน้าตาตื่นตระหนก คว้าตุ๊กตาหมีขาวตัวใหญ่เข้าสู่อ้อมกอดแน่น ราวกับเธออยากใช้มันเพื่อเป็นเกราะกำบังตัวเองจากภัยอันตราย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ เด็กที่มาจากบ้านเด็กกำพร้าล้วนแต่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่าใครจะเจอในรูปแบบไหน

อีกอย่างอาจเป็นเพราะเธอยังไม่คุ้นชินสถานที่ และเรายังไม่เคยเจอกันสักครั้ง เพราะฉะนั้นตอนนี้เท่ากับผมเป็นคนแปลกหน้า

“โทษทีสาวน้อย” ผมค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้องและดึงประตูปิดอย่างใจเย็น ก่อนจะหยุดยืนทิ้งระยะห่างจากปลายเตียงพอสมควร “ฉันไม่ได้จะทำอะไร แค่จะมาหาพี่ชายเธอน่ะ คิดว่ามันอยู่ในห้องนี้”

หลังจากที่ผมอธิบายจบ สีหน้าคนตัวเล็กเริ่มปรับเป็นปกติ ก่อนจะขยับริมฝีปากพูด

“เฮียวาโย ย้ายไปห้องตรงกลางแล้วค่ะ”

“อือ” ผมครางรับ แต่ยังไม่มีการเคลื่อนย้าย เพราะแววตาเด็กน้อยยังมีความวิตกกังวลปะป่นอยู่หลายส่วน ไม่แน่ใจว่าผมเป็นต้นเหตุ หรือเธอยังตื่นสถานที่

พอถูกจับจ้องนานเกินความจำเป็น เกราะป้องกันไอ้หมีขาวก็เริ่มขยับทำงานอีกครั้ง เธอใช้มันเพื่อบังตัวเองให้พ้นจากสายตาผม

“มิเชล ใช่ไหม” ปลายเท้าขยับเข้าใกล้เรื่อยๆ ขณะเอ่ยถาม

“...” เจ้าของห้องคนใหม่ เลื่อนตุ๊กตาออกเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเชื่องช้า นั่นเป็นตอนที่ผมย่อตัวลงนั่งยอง ๆ ข้างเตียง

“เรามาทำความรู้จักกันหน่อยไหม” ผมเอื้อมไปจับแขนตุ๊กตาในอ้อมกอดของเธอ ออกแรงดึงเบาๆ เพื่อเผยให้เห็นใบหน้าหวานชัดเจนขึ้น

น่าแปลกที่ผมรู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้ หรืออาจเพราะการมีน้องสาวเป็นสิ่งที่ผมปรารถนามาตลอด

“...” เธอเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง พลางสั่นหน้าปฏิเสธ

“ทำไมละ กลัวฉันเหรอ”

“...” แต่คราวนี้ดันพยักหน้ารับอย่างไวซะงั้น

“เฮียไวน์” ผมเอ่ยชื่อตัวเอง

“...” คิ้วบางเลิกขึ้นเล็กน้อย ยังดีที่เธอมีการตอบสนองกลับมาบ้าง

“เรียกฉันว่าเฮียไวน์” สิ้นเสียงผม คนตัวเล็กนิ่งไป ความเงียบเข้าปกคลุมโดยรอบฉับพลัน เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าสาวน้อยขี้กลัวคนนี้กล้าจ้องตาผมนานเกินหนึ่งนาที แต่แปลกที่ผมไม่สามารถอ่านความรู้สึกของเธอผ่านแววตาได้เลย

เด็กอะไร… คาดเดาอารมณ์ยากชะมัด

“เฮียไวน์” เสียงเล็กเปล่งออกมาหลังจากเวลาถูกปล่อยทิ้งเกือบสามนาที

ผมคลี่ยิ้มบาง “อือ ทีนี้เราก็รู้จักกันแล้วนะ”

“...” คนตัวเล็กอมยิ้มเล็กน้อย แทนคำตอบ แต่ยังนั่งกอดตุ๊กตาอยู่ท่าเดิม

“ทำไมไม่ลงไปเล่นกับพวกพี่ๆ ข้างล่าง” ผมเริ่มชวนคุยในประเด็นใหม่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและสัมพันธไมตรีอันดี แต่ยังไม่ปล่อยมือจากแขนไอ้หมีขาวตัวยักษ์

“ไม่ชอบคนเยอะ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ซึ่งมันผิดวิสัยของเด็กในวัยนี้ เธอไม่ควรเริ่มเก็บตัวตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะมันจะส่งผลไปถึงอนาคตข้างหน้า

“งั้นให้เฮียอยู่เป็นเพื่อนไหม”

“ไม่ค่ะ” ข้อเสนอของผมถูกปัดทิ้งอย่างไม่ไยดี

“ใจร้ายจัง” ผมว่า ก่อนจะเหลือบไปเห็นกระดาษหลายใบวางเรียงอยู่บนที่ จึงถือวิสาสะเอื้อมหยิบมาดู

“วาดเองเหรอ ใช้ได้เลยนะเนี่ย” ภาพวาดที่ปรากฏบนกระดาษจากฝีมือเด็กน้อยวัยเพียงสิบขวบเศษโดยปราศจากการฝึกสอน ถือว่ามีพรสวรรค์ แม้ลายเส้นจะไม่ได้สวยมากแต่ถ้าได้เรียนรู้สักหน่อย คิดว่าไปได้ไกลกว่านี้แน่

“นี่ใคร” ผมชี้ไปที่ผู้หญิงในรูปวาด

“พี่มิณ”

“งั้นนี้ก็คงเป็นเฮียยูตะ?” ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้

“ค่ะ”

ผมก็พอรู้เรื่องราวคร่าวๆ มาจากไอ้วาโยบ้างแล้ว ว่าเด็กหญิงที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ มีความแตกต่างจากเด็กทั่วไปค่อนข้างมาก แต่ด้วยเหตุผลอะไร ไม่มีใครรู้ได้

มีเพียงคนเดียวที่เธอรักและไว้ใจ นั่นก็คือ มิณ มิณาริน หญิงสาวที่อยู่ในรูปวาด ด้วยความที่มิณได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบ้านเหมบดินทร์ ฐานะคู่หมั้นของไอ้ยูตะ นั่นเลยทำให้ทุกคนลงความเห็นว่าจะรับอุปการะมิเชลเป็นบุตรคนเล็ก และเธอจะถูกเลี้ยงดูอย่างดีจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุด

อีกใบที่อยู่ไม่ไกลถูกผมหยิบขึ้นมาซ้อนทับใบเดิม

“ซิสเตอร์เหรอ”

“...” เธอพยักหน้ารับ แววตาเริ่มหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด

แต่ผมเข้าใจเธอนะ อยู่ๆ ก็ถูกย้ายเข้ามาอยู่บ้านคนที่เพิ่งรู้จักเพียงวันเดียว คงจะรู้สึกกดดันไม่น้อย

ไหนจะต้องปรับตัว

ไหนจะต้องทำความรู้จักใครต่อใคร

“คิดถึงพวกเขาใช่ไหม”

“ค่ะ” เด็กน้อยตอบรับ พลางเลื่อนสายตามองรูปวาดของตัวเองในมือผม

มีแวบหนึ่งที่ผมคิดอยากปลอบโยนสาวน้อยด้วยการลูบหัว แต่ไม่รู้ว่าทำได้ไหม ผมกังวลว่าเธอจะตกใจ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 04 (1/2)

    พอถูกปฏิเสธบ่อยครั้ง เรื่องความเสี่ยงที่น้องสาวคนเดียวของกลุ่มร้องขอก็เงียบหายไปโดยปริยาย มิเชลไม่เคยพูดถึงสนามแข่งรถของพี่ชาย รวมถึงไม่รบเร้าให้ผมสอนขับรถด้วย จนการศึกษาในช่วงมัธยมปลายของเธอใกล้สิ้นสุดลงเต็มที และดูเหมือนนี่จะเป็นเหตุผลที่ช่วงหลัง ๆ มานี้ สาวน้อยเงียบหายไป คงจะกำลังเคร่งเครียดกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยและตอนนี้ผมเองกำลังเสียเวลาในการตามหาตัวสมาชิกในกลุ่ม ไม่รู้หายหัวไปไหนกันหมด ไลน์เงียบกริบ ที่ผับก็ไม่มี จนมาถึงห้องรวมตัว ณ สนามแข่งรถของเพื่อนรักก็ไม่เจอแม้แต่เงา ห้องทำงานมันก็ไร้วี่แววสุดท้ายผมเดินลงมายังขอบสนาม สมาร์ทโฟนที่อยู่ในมือซึ่งแสดงหน้ารายชื่อถูกกดล็อกและเก็บเข้ากระเป๋าตามเดิม เมื่อเห็นสมาชิกในกลุ่มยืนออกันเกือบครบองค์ประชุม น่าแปลกที่มีนัดสำคัญ แต่ผมกลับไม่รู้เรื่อง“ไอ้วา…”“เชี่ย!!” เจ้าของสถานที่สะดุ้งโหย่ง หันมาพร้อมกับใบหน้าตกใจสุดขีด หลังจากที่ผมแค่แตะไหล่เรียกเบาๆ ทำเอาผมสะดุ้งไปด้วยเลย“ตกใจเหี้ยอะไรขนาดนี้” ผมว่า พลางหรี่ตาไล่มองไอ้ยูตะ ไอ้แม็กซ์ ไอ้ดินและไอ้ธาม ตามลำดับ ที่หันมาโดยพร้อมเพรียงด้วยสีหน้าไม่แตกต่างกันทำไมต้องตกใจกับการปรา

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 03 (2/2)

    @ร้านไอศกรีม“เอาอันนี้ค่ะ” นิ้วเรียวเล็กจิ้มไปที่ไอศกรีมรสช็อกโกแลตมินต์สุดโปรดปรานในเมนู แต่ยังไล่มองบนแผ่นกระดาษเคลือบใส ก่อนจะปิดจบที่รสวานิลลา ซึ่งน่าจะเป็นของผม “แล้วก็นี่ด้วยค่ะ”เธอยื่นเมนูคืนให้พนักงานหญิง ก่อนจะหันกลับมาหาผม“เราสั่งให้เฮียแล้วนะ”“อือ” ผมครางรับ หลังจากนั้นก็เอื้อมไปคว้ามือเล็กข้างขวาที่วางอยู่บนโต๊ะมาสำรวจ แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดร่องรอยบาดเจ็บให้เห็นเด่นชัดจากภายนอก ผมจำเป็นจะต้องขยับข้อมือเธอเพื่อดูรีแอคชั่น แต่เธอยังเก็บอาการได้ดีเสมอเพราะไม่อยากให้ผมกังวล“มันไม่ค่อยเจ็บแล้ว” คนตัวเล็กรีบออกปาก“ได้ทายาที่เอาให้รึเปล่า”“ทาค่ะ คุณยูริ…”“มิเชล”เจ้าของชื่อหยุดพูดกะทันหัน ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นตามเสียงเรียก ผมเองก็เลื่อนสายตาไปโฟกัสผู้มาเยือนใหม่เช่นกัน ปรากฏร่างเด็กชายในชุดพละแบบเดียวกันกับคนตัวเล็กที่ยังนั่งนิ่งอยู่ตรงข้ามผม“...” ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากคนที่ถูกทักทาย แม้แต่รอยยิ้ม มิหนำซ้ำยังเบือนหน้าหนี ส่งผลให้คนเอ่ยทักหน้าเจื่อนไปทันที ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการหันมายกมือไหว้ผมแทน“สวัสดีครับคุณลุง”ผมตวัดตาคาดโทษไอ้เด็กนรกที่ใช้สรรพนามไม่เข้าหูด้วยความหงุดห

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 03 (1/2)

    เด็กหญิงมิเชลเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จากประถมเข้าสู่มัธยม ส่วนผมยังทำหน้าที่พี่ชายคนโปรดได้เป็นอย่างดี ไม่มีขาดตกบกพร่อง ในบรรดาเฮียๆ ทั้งหมด ผมเป็นคนที่เธอให้ความสนิทสนมและไว้ใจมากที่สุด นั่นคงเป็นเพราะผมตามใจและใช้เวลาอยู่กับเธอมากกว่าคนอื่นๆ ถึงงานจะรัดตัวแค่ไหน ก็สามารถละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาหาเธอได้เสมอครั้งนี้ก็ด้วย…ฝีเท้าผมหยุดชะงักทันทีที่เห็นร่างเล็กในชุดพละโรงเรียนเอกชนชื่อดัง นั่งฟุบหน้าลงกอดเข่าตัวเองอยู่บริเวณบันไดหน้าศูนย์วิชาการใจกลางเมือง แล้วก้าวไปหยุดยืนต่อหน้าเธอบนขั้นบันไดที่ต่ำกว่าหัวใจผมกระตุกวูบ เมื่อเด็กสาวเงยหน้าขึ้นพร้อมคราบน้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง เธอยกหลังมือขึ้นปาดเช็ดแบบลวก ๆ ขณะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แต่ก็ยังเทียบผมไม่ได้ หน้าผากมนเอนมาแอบอิงบนแผงอกข้างซ้ายของผม คล้ายกับเธออยากหาที่พักพิงในตอนที่กำลังหมดแรง“ฮะ…เฮีย เราทำไม่สำเร็จ ฮึก” น้ำเสียงสั่นปนสะอื้นที่พยายามเปล่งออกมาให้จับใจความได้นั้น ทำผมชาวาบไปทั้งตัว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นน้ำตาของเด็กหญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยแรกรุ่นไม่เข้าใจทำไมผมรู้สึกมีก้อนตีขึ้นจุกอยู่กลางอก บ้าฉิบ…เหมือนความเจ็บปวดทั้งห

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 02 (2/2)

    “เดี๋ยวไปโรงเรียน ก็เจอเพื่อนใหม่ เดี๋ยวก็ไม่เหงาแล้ว”“ไม่อยากมีเพื่อน” เธอสวนกลับด้วยประโยคที่เหนือความคาดหมาย“ทำไมละ” หัวคิ้วผมย่นเข้าหากันจนแนบชิด“เพื่อนไม่ชอบเรา…อุ๊บ”“เป็นอะไร” ผมตกใจ เอียงคอมองเด็กน้อยที่อยู่ๆ ก็ยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเธอเลื่อนมือออกแล้วอธิบาย “ขอโทษค่ะ พี่มิณบอกไม่ให้แทนตัวเองแบบนี้กับผู้ใหญ่ มันไม่น่ารัก”ผมหลุดยิ้ม “น่ารักดีออก ใช้กับเฮียได้ คิดซะว่าเฮียเป็นเพื่อนก็ได้”“ได้ไงคะ เฮียอายุมากกว่าตั้งเยอะ”อึก! รู้สึกเหมือนถูกทุบกลางหลังอย่างแรง จุกอยู่นะ นี่ผมไม่ได้กำลังโดนหลอกด่าอยู่ใช่ไหม เด็กน้อยไร้เดียงสาตรงหน้ากะพริบตามองผมปริบๆ“เหอะ…” ผมทำได้แค่ยิ้มแห้ง “เป็นเพื่อนไม่ได้จำกัดอายุสักหน่อย”“จริงเหรอคะ” นี่เป็นประโยคแรกที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำเสียง“อือ”“เฮียอยากเป็นเพื่อนกับเราเหรอ” เสียงสดใสและตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ“ใช่ เฮียอยากเป็นเพื่อนกับน้อง”“แล้วทำไมเรียกเราว่าน้องละ” ตุ๊กตาในอ้อมกอดเริ่มไม่จำเป็นอีกต่อไป เธอคลายมันออกโดยที่ไม่รู้ตัว“ก็น้องยังเรียกเราว่าเฮียเลย” ผมตอบริมฝีปากบางฉีกยิ้มหวานให้ผมเป็นครั้งแรก นี่สิถึงเหมาะสมกับใบหน้าอ่อนหวา

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 02 (1/2)

    สิบกว่าปีก่อน…@บ้านเหมบดินทร์“เฮ้ย! ไอ้เฮียมึงล่ะ” ผมร้องถามลูกชายคนกลางของบ้าน กึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันไดในชุดแสนสบายสำหรับการเล่นน้ำด้วยความเร่งรีบ หลังจากผมเพิ่งก้าวผ่านวงกบประตูบ้านเข้ามาได้ไม่เท่าไหร่“ข้างบน” มันตอบแบบปัด ๆ โดยไม่หันมอง“รีบห่าอะไรขนาดนั้นวะ” เสียงบ่นพึมพำไล่ตามหลังมัน ก่อนจะพาตัวเองขึ้นบันไดไปยังจุดหมายที่รู้จักเป็นอย่างดีประตูห้องเพื่อนรักถูกดันเข้าไปด้วยความมั่นใจ แต่ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำผมชะงักนิ่ง คนที่อยู่บนเตียงไม่ใช่คนในความคิด แต่เป็นเด็กหญิงที่เพิ่งถูกรับเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวเหมบดินทร์หมาด ๆ วันนี้เลยดูเหมือนผมจะทำให้เธอตกใจจากการพรวดพราดเข้ามาโดยไม่ส่งสัญญาณ ร่างเล็กขยับถอยไปชิดหัวเตียง หน้าตาตื่นตระหนก คว้าตุ๊กตาหมีขาวตัวใหญ่เข้าสู่อ้อมกอดแน่น ราวกับเธออยากใช้มันเพื่อเป็นเกราะกำบังตัวเองจากภัยอันตราย ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ เด็กที่มาจากบ้านเด็กกำพร้าล้วนแต่ไม่ได้อยู่ในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่าใครจะเจอในรูปแบบไหนอีกอย่างอาจเป็นเพราะเธอยังไม่คุ้นชินสถานที่ และเรายังไม่เคยเจอกันสักครั้ง เพราะฉะนั้นตอ

  • LAST LOVE รักสุดท้ายของนายหมอ   LAST LOVE : 01 (2/2)

    แก้วเปล่าถูกวางลงบนโต๊ะ ก่อนจะตัดสินใจตามผู้หญิงคนเดียวที่จะสามารถให้คำตอบผมได้ไปด้วยความที่ผมเข้าออกที่นี่ราวกับเป็นบ้านตัวเอง จึงไม่มีใครใส่ใจว่าผมจะไปไหนหรือทำอะไร แม้แต่การขึ้นมาถึงห้องหนังสือชั้นบนนี้ก็ด้วยประตูถูกเปิดและปิดลงในเวลาไล่เลี่ย ซึ่งผมยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน เจ้าของห้องตัวน้อยหันกลับมา รอยยิ้มที่มีในตอนแรกหายวับไปกับตา หัวคิ้วบางย่นขึ้นเล็กน้อย“เข้ามาทำไมคะ” คำถามที่เหมือนจะสุภาพ แต่น้ำเสียงแข็งกระด้าง ฟังไม่รื่นหูเลยสักนิด หนังสือที่กำลังจะหยิบออกมาถูกดันกลับเข้าที่เดิม จากจุดที่เธอยืนอยู่ตอนนี้ห่างจากผมประมาณสิบก้าว“ขอคุยด้วยหน่อยสิ” ผมเริ่มขยับปลายเท้าเข้าไปใกล้ขึ้น“เราไม่มีอะไรจะคุย” เจ้าของใบหน้าหงุดหงิดก้าวเดินเช่นกัน แต่ไม่ใช่เพื่อล้นระยะทาง ในขณะที่ผมหยุด แต่เธอยังเดินต่อ ดูเหมือนจุดหมายจะเป็นประตูบานใหญ่ที่ผมเพิ่งทิ้งห่างออกมา“แต่เฮียมี” ผมคว้าข้อมือเล็กในตอนที่กำลังจะผ่านผมไป หวังแค่จะให้เธอหยุดและรับฟัง“อย่ามาโดนตัวเรา” คำสั่งเสียงเครียดดังขึ้นพร้อมกับการสะบัดมือออก ก่อนจะหมุนตัวเดินต่อผมอาศัยช่วงขาที่ยาวกว่า ก้าวเพียงไม่เท่าไหร่ก็พาตัวเองไปขวางหน้าปร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status