แกร๊ก!
หลังจากเวิ่นเว้ออยู่นานฉันก็เปิดประตูออกมา เจอผู้หญิงคนหนึ่งจิกตามองแรงใส่ก่อนจะเบียดตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงมีน้ำลายแล้ว แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เร่งรีบในที่สาธารณะ
“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ”
เดินพ้นห้องน้ำไม่ทันไรก็ชนเข้ากับใครบางคนแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับแผงอกแข็งแกร่ง แม้มีเสื้อยืดสีดำกั้นกลางแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันคงจะแข็งและแน่นมากทีเดียว
คิดอะไรลามกอีกแล้ว!
“หึ ทีหลังก็มองทางบ้าง”
“ค่ะ”
เสียงหึในลำคอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองคนตรงหน้า แต่ไม่คาดว่าเขาก็กำลังก้มมองฉันอยู่ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ คนที่ภูมิต้านทานเสน่ห์และหน้าตาของผู้ชายต่ำอย่างฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้
ใบหน้าได้รูปคิ้วเข้มทรงกระบี่ นัยน์ตาสีดำคมดุรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีนู้ด สันกรามคมชัดเห็นแล้วอยากลองลูบ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก เขาหล่อเกินไปดูมีออร่าของความหล่อ ถ้าให้พูดแบบภาษาตัวแม่คือเขาโพผัวมาก
“มองแบบนี้ระวังน้ำลายหก”
“ฮ้า...”
ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่มุมปากยกยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันที่ทำสีหน้าช็อกกับความมั่นหน้าของเขา
คนอะไรมั่นขนาดนี้!
เมื่อกลับถึงโต๊ะไซซีก็ไม่ถามกันเลยนะว่าทำไมไปนาน ชวนชนแก้วอย่างเดียว ฉันก็ไม่เคยเมาด้วยแต่ดูจากท่าทางของไซซีแล้วน่าจะเมา ส่วนตัวฉันเจอแสงสีในผับเหมือนตาจะเริ่มเบลอ
สรุปเมาคู่!!
ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน เหล่าสาวสวยต่างวาดลวดลายแข่งกันราวกับผีเสื้อเต้นระบำ นัยน์ตากลมหวานซึ้งมองบรรยากาศไปรอบ ๆ
สายตาสะดุดเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่ง หญิงสาวในชุดเดรสสีแดง หน้าอกล้นทะลักกำลังโอบรอบคอของใครบางคน ที่แม้จะไกลแค่ไหนเธอก็จำได้
สายฟ้า…ทำไมเขาอยู่นี่
นัยน์ตาของเธอสั่นระริก หัวใจปวดหนึบและจุกแน่นในอกอย่างบอกไม่ถูก รู้ตัวอีกทีก็เดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนแล้ว
ไม่รู้ว่าตัวเองทำบ้าอะไรอยู่นอกจากยืนนิ่งตัวชาวาบ แม้จะเอ่ยปากพูดก็ยังพูดไม่ออก
“ใครคะ?” จนกระทั่งหญิงสาวเดรสแดงสังเกตได้ เธอเลยผละออกจากสายฟ้าและเอ่ยปากถามเขา
แวบแรกเธอคิดว่าเขาจะรีบดันตัวผู้หญิงคนนั้นออกแล้วเอ่ยทักทายเธอ แต่เปล่าเลยเขานิ่ง เมินหน้าหนีและไม่ยอมเปิดปากพูดกับเธอ จนผู้หญิงเดรสแดงถามเขาถึงตอบ
“เพื่อน”
อึก! ก็แค่เพื่อนจริง ๆ
“นึกว่าเด็กของคุณซะอีก” หญิงสาวคนนั้นเหยียดยิ้มก่อนจะกอดแขนแกร่งของสายฟ้าไว้แน่น พร้อมส่งสายตาท้าทายมาให้
“ไม่ใช่…แค่เพื่อน” เขายังคงย้ำและมองมาที่ซินเซียเช่นกัน วูบหนึ่งในแววตากลับอ่อนไหวแต่เพียงชั่วครู่เท่านั้น
“นาย…ไหนว่าจะนอน ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่” ซินเซียกัดฟันปรับสีหน้าก่อนจะเอ่ยออกมาให้ดูธรรมชาติที่สุด แม้ในใจจะแหลกสลายมากแค่ไหนก็ตาม
สายฟ้าที่ไม่เคยจะมองใครกลับมีผู้หญิงข้างกาย เธอไม่รู้ว่าเขากับผู้หญิงในชุดแดงมีสถานะยังไงกัน ไม่รู้และไม่เคยรู้เลย
“ต๊าย! เป็นแค่เพื่อนมีสิทธิ์สงสัยอะไร เขาบอกว่านอนจำเป็นต้องนอนเหรอ”
“ฉันไม่ได้ถามคุณ ไม่ต้องสอดปาก!”
“ซินเซีย!”
สายฟ้าตวาดเสียงเข้มเมื่อเพื่อนสาวคนสนิทด่าผู้หญิงของเขา ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งตกใจกับท่าทีของเขา เธอทั้งโกรธทั้งโมโหและน้อยใจ ทุกอย่างตีรวนอยู่ในใจจนอยากจะพุ่งไปจัดการคนที่เป็นต้นเหตุ
แต่รู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ มันเจ็บตรงนี้แหละ!
“คนของนายสอดปากก่อน”
“แต่เธอไม่ควรทำตัวไม่น่ารักแบบนี้นะ” เขายังเอ่ยต่อ เธออยากจะบอกเขาไปตามตรงเลยว่าเธอจะน่ารักแค่คนที่อยากน่ารักด้วยเท่านั้น คนอื่นอย่าหวัง!
“แปลกตรงไหนในเมื่อผู้หญิงของนายไม่มีมารยาท”
“แต่เธอเป็นแค่เพื่อน”
“ฉันรู้แล้วว่าฉันมันเป็นได้แค่เพื่อน แค่ถามดี ๆ เองนะว่าโกหกทำไม ไปเที่ยวก็บอกไปเที่ยว” ซินเซียมองหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบ แค่บอกมาว่าโกหกแค่นั้นเอง
“ใสซื่อจริง ๆ เลยนะ เขาโกหกแปลว่าเขาไม่ได้อยากให้เธอมายุ่งยังไงล่ะ” ผู้หญิงของสายฟ้าเอ่ยปากขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง ทำให้คนตัวเล็กที่กำลังโกรธตวัดสายตามองทันที
“นายโกหกทำไม”
“ไม่มีเหตุผล หรือถ้าคิดไม่ได้จะคิดตามที่มีอาบอกก็ได้...ฉันไม่ต้องการให้เธอมายุ่งวุ่นวายกับฉัน” ร่างสูงตอบเสียงเข้มด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก จนคนตัวเล็กกัดปากไว้แน่น พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเหมือนกับใจที่มันพังไปหมดแล้ว
“ได้ยินแล้วใช่ไหม…สายฟ้าตอบชัดแล้วนะ!” ซินเซียมองผู้หญิงของสายฟ้านิ่ง ก่อนจะเดินไปคว้าแก้วน้ำสีอำพันบนโต๊ะของพวกเขาและสาดเข้าที่หน้าของผู้หญิงของสายฟ้าอย่างจัง
“กรี๊ดยัยบ้า...” เสียงกรีดร้องทำให้ผู้คนรอบข้างหันมาสนใจ บ้างก็ยกมือถือขึ้นมาถ่าย บ้างก็หัวเราะกับสภาพของหญิงสาวชุดเดรสแดงที่โดนเหล้าสาดใส่ชุดจนแนบลู่ไปกับเรือนร่าง
“อีบ้า คิดว่าทำขนาดนี้ฉันจะปล่อยไปเหรอ” มีอาในสภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำมองซินเซียอย่างเคืองแค้น สายฟ้าก็ไม่ทำอะไรเลย มีอาถึงโมโหและเตรียมจะจัดการซินเซีย
หมับ!
“กรี๊ดดดดดดดด” มือที่กำลังจะคว้าแขนซินเซียโดนจับไว้แน่น และจับหมุนข้อมือแล้วผลักตัวเธอจนล้มลงกับพื้น
ซินเซียหันกลับมาเบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอไม่ได้ทำ ก่อนจะปรายตามองคนที่ผลักมีอาล้ม เขาคือคนที่เธอชนอยู่แถวหน้าห้องน้ำ
“ไม่ขอบคุณ?” เขาเลิกคิ้วมองซินเซีย
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ” ซินเซียจำต้องเอ่ยขอบคุณแม้ใจจะบอกว่าไม่มีเขาเธอก็หลบทัน
“ดูไม่ค่อยจริงใจเท่าไร...”
“แล้วต้องการอะไรคะ...ที่จริงหนูก็สะ”
“เลี้ยงเหล้าหน่อย”
“อ๋อ...ก็ดะ” ด้วยความหัวไวซินเซียเลยพยักหน้ารับเพราะมันแค่เหล้าเอง เลี้ยงแล้วก็จบไป
“เซียห้ามไป...”
“ทำไม?”
“เธอต้องขอโทษมีอา”
สายฟ้าที่ทำเป็นไม่สนใจเรื่องของผู้หญิงเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อเห็นรุ่นพี่ในมหา’ลัย เขารู้จักมันดีมันคือหนุ่มฮอตคนดังของ ม.แอล
เขาไม่ต้องการให้ซินเซียยุ่งกับมัน…
“ไม่ต้องขอโทษ” ซินเซียยังไม่ตอบอะไรผู้ชายที่ช่วยเธอก็เอ่ยขัด เขาเลื่อนนัยน์ตาคมไปเผชิญหน้ากับสายฟ้านิ่ง ก่อนจะคว้าข้อมือซินเซียและเดินแหวกผู้คนออกไปจากตรงนั้น
ท่ามกลางสายตาของทุกคนรวมถึงสายฟ้าที่มองทั้งคู่เดินจากไปด้วยใจที่ร้อนรุ่ม กรามแกร่งขบกันแน่นอย่างโกรธจัด แต่ใบหน้าเขายังคงนิ่งไม่แสดงอารมณ์
“เอาเหล้าอะไรดี” “อะไรก็ได้ที่แรง ๆ”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบาร์ ทำให้ไซซีที่นั่งข้างซินเซียชะโงกหน้ามาดูว่าใครที่เพื่อนพามาด้วย ก่อนนัยน์ตาคู่สวยของสาวฮอตจะเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาปิดปากและหันไปกระซิบกับเพื่อนเบา ๆ“หล่อมาก เอาเลย!” ซินเซียกลอกตามองบนทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซซีพูด“ชอบก็เอาเองสิ”“ไม่ใช่สเป็ก อีกอย่าง...เขาดูชอบแก”“รู้ได้ไง...”“จะกระซิบกันอีกนานไหม” เสือปรายตามองสองสาวที่เอาแต่คุยกันไม่สนใจเขา อีกคนเขาไม่สนหรอกแต่คนที่เขาเล็งไม่ควรเมินเขาขนาดนี้“ขอโทษทีค่ะ...พอดีไม่ถนัดคุยกับคนแปลกหน้า” ซินเซียฉีกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์ชงมาวางตรงหน้าเขา“ไม่ดื่ม?” ร่างสูงถามย้อนเมื่อเห็นเธอเอาแต่กอดอกทำหน้ามุ่ย“ดื่มค่ะดื่ม” เธอเลยจำต้องยกโดยที่ไม่รู้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันแรงขนาดไหน ผ่านไปไม่นานสมองก็เริ่มมึนเบลอและนิสัยบางส่วนเริ่มเปิดเผยออกมาไซซีแม้จะจิบไวน์เธอก็เมาเหมือนกัน ใบหน้าสวยแดงก่ำแต่ก็พยายามมองเพื่อนบ้าง มองบรรยากาศบ้าง จนมาสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ยืนกอดอกตรงต้นเสาหมับ!“จะไปไหน...” ซินเซียคว้าหมับเข้าที่แขนเพื่อนเมื่อเห็นไซซีกำลังจะเดิน
แกร๊ก!หลังจากเวิ่นเว้ออยู่นานฉันก็เปิดประตูออกมา เจอผู้หญิงคนหนึ่งจิกตามองแรงใส่ก่อนจะเบียดตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงมีน้ำลายแล้ว แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เร่งรีบในที่สาธารณะ“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ”เดินพ้นห้องน้ำไม่ทันไรก็ชนเข้ากับใครบางคนแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับแผงอกแข็งแกร่ง แม้มีเสื้อยืดสีดำกั้นกลางแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันคงจะแข็งและแน่นมากทีเดียวคิดอะไรลามกอีกแล้ว!“หึ ทีหลังก็มองทางบ้าง”“ค่ะ”เสียงหึในลำคอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองคนตรงหน้า แต่ไม่คาดว่าเขาก็กำลังก้มมองฉันอยู่ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ คนที่ภูมิต้านทานเสน่ห์และหน้าตาของผู้ชายต่ำอย่างฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้ใบหน้าได้รูปคิ้วเข้มทรงกระบี่ นัยน์ตาสีดำคมดุรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีนู้ด สันกรามคมชัดเห็นแล้วอยากลองลูบ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก เขาหล่อเกินไปดูมีออร่าของความหล่อ ถ้าให้พูดแบบภาษาตัวแม่คือเขาโพผัวมาก“มองแบบนี้ระวังน้ำลายหก”“ฮ้า...”ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่มุมปากยกยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันที่ทำสีหน้าช็อกกับความมั่นหน้าของเขาคนอะไรมั่นขนาดนี
(ต่อ)“อ่า...มันจะถอยรถใหม่เหรอ แล้วทำไมต้องไปกันสามคนพร้อมกันเลย” แม้แต่ไฟยังสงสัย เพราะวันนี้มีนัดกันทั้งกลุ่ม แต่พวกมันสามพี่น้องดันหายหัว ที่ต้องเรียกสามพี่น้องเพราะทั้งโซ่ ต้าร์ และนักรบเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน“กูไม่รู้ ค่อยถามพวกมัน” ไนต์เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปกติถ้าอยากได้รถใหม่ก็แค่สั่งจองไม่เคยเห็นพวกมันบินไปดูเองเลย“เสียเที่ยวเลยวันนี้ แทนที่กูจะได้ไปเดตกับน้องมินการบิน” เพทายบ่นอุบอิบเพราะอยากเจอเพื่อนเลยเทนัดสาว“มึงก็แค่เรียกเด็กมาข้างบน” ไฟเสนอทางออกให้คนเร้าหรืออยากไปกับสาว“มาผับขนาดนี้หาสาว ๆ สวย ๆ คนใหม่ดีกว่า กูจะเรียกเด็กเก่า ๆ มาทำไม”“งั้นก็อย่าบ่น!” เสือปรายตามองเพทายที่เอาแต่งอแงและบ่นสามพี่น้องที่ผิดนัด ไม่มีใครชอบแต่พวกมันก็ทักมาขอโทษแล้ว แม้จะยกเลิกนัดไม่ทันก็ตามนัยน์ตาคมดุยกแก้วขึ้นจิบด้วยท่าทีเรียบเฉย สายตามองเมินสาวสวยโต๊ะข้างเคียงไปจนเธอหน้าชา เพราะเพื่อนในกลุ่มอยากให้เธอลองจีบเขาดู ผู้ชายที่ดูดุร้ายแต่เร่าร้อน ทว่าเมินขนาดนี้เธอก็ไม่กล้าไปต่อแล้วกึก!เสือกระแทกแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนมองบรรยากาศคึกคักตรงระเบียงชั้นสอง สายตาราวเสือกำลังจ้องตะครุบ
Sky Pub 21.00 น.“คนเยอะมาก” ฉันกระซิบกับไซซี เราสองคนขับรถยนต์มาเอง คันนี้เป็นรถออดี้ของเฮียโซ่ เพราะฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่ป๊าสัญญาแล้วว่าเข้ามหา’ลัยจะซื้อคันใหม่ให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเหมือนกัน ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้“เยอะดิ นี่มาเที่ยวผับนะ”“เอ้า จะรู้ไหมไม่เคยมา ทำอย่างกับตัวเองเคยไป” ฉันค่อนขอด“ไม่เคยอะ ฮ่า ๆ” “เออ แล้วเจ๊แมนแกบอกให้เดินไปหาการ์ดที่ใส่กำไลข้อมือสีแดงแล้วยัดทิปให้” ฉันหันไปบอกไซซีก่อนจะควักเงินใบเทาออกมาจากกระเป๋าแบรนด์หรูของตัวเอง“แล้วใครจะยัด”“ฉันเอง...ไปกันเถอะ” มือบางคว้าแขนเพื่อนสาวเข้าไปกอด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังหน้าสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้คน และเป้าหมายของเธอก็คือการ์ดที่มีกำไลข้อมือตามที่เจ้าของร้านทำผมบอก“ขอบัตรด้วยครับ” “นี่ค่ะ...” ซินเซียยัดบัตรประชาชนของตัวเองและไซซีให้กับการ์ดพร้อมทิปที่พับเรียบร้อย ยัดเข้าด้านล่างบัตรไปอีกทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอฉีกยิ้มสดใสให้กับการ์ดที่เหลือบตามามอง เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างในอุ้งมือ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้สองสาวและพยักหน้าให้กับเพื่อนทั้งคู่เดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีสบายใจ เพียงก
สนามบินนานาชาติ หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบ ฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนน เพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลยการขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ...ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบินเจ็ตแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัด แต่อยากบอกซีมากว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากัน เพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย“ซี! ทางนี้ ๆ” เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวน ในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉัน พร้อมกางแขนออกกว้างหมับ!“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉัน แหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ พร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ“แม่ก็ห่วงเกินไง ฉันโตแล้วนะ”“ในสายตาผู้ใหญ่เร
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้นโฮก ~เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“กรี๊ดดดดดด” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก“อย่าเข้ามานะ” แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันทีโฮกกกกก ~“กรี๊ดดดดดด”ติ๊ด ติ๊ด“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาสายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะเขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคน