(ต่อ)
“อ่า...มันจะถอยรถใหม่เหรอ แล้วทำไมต้องไปกันสามคนพร้อมกันเลย” แม้แต่ไฟยังสงสัย เพราะวันนี้มีนัดกันทั้งกลุ่ม แต่พวกมันสามพี่น้องดันหายหัว ที่ต้องเรียกสามพี่น้องเพราะทั้งโซ่ ต้าร์ และนักรบเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
“กูไม่รู้ ค่อยถามพวกมัน” ไนต์เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปกติถ้าอยากได้รถใหม่ก็แค่สั่งจองไม่เคยเห็นพวกมันบินไปดูเองเลย
“เสียเที่ยวเลยวันนี้ แทนที่กูจะได้ไปเดตกับน้องมินการบิน” เพทายบ่นอุบอิบเพราะอยากเจอเพื่อนเลยเทนัดสาว
“มึงก็แค่เรียกเด็กมาข้างบน” ไฟเสนอทางออกให้คนเร้าหรืออยากไปกับสาว
“มาผับขนาดนี้หาสาว ๆ สวย ๆ คนใหม่ดีกว่า กูจะเรียกเด็กเก่า ๆ มาทำไม”
“งั้นก็อย่าบ่น!” เสือปรายตามองเพทายที่เอาแต่งอแงและบ่นสามพี่น้องที่ผิดนัด ไม่มีใครชอบแต่พวกมันก็ทักมาขอโทษแล้ว แม้จะยกเลิกนัดไม่ทันก็ตาม
นัยน์ตาคมดุยกแก้วขึ้นจิบด้วยท่าทีเรียบเฉย สายตามองเมินสาวสวยโต๊ะข้างเคียงไปจนเธอหน้าชา เพราะเพื่อนในกลุ่มอยากให้เธอลองจีบเขาดู ผู้ชายที่ดูดุร้ายแต่เร่าร้อน ทว่าเมินขนาดนี้เธอก็ไม่กล้าไปต่อแล้ว
กึก!
เสือกระแทกแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนมองบรรยากาศคึกคักตรงระเบียงชั้นสอง สายตาราวเสือกำลังจ้องตะครุบเหยื่อ
ทั้งที่ปกติเขาไม่จำเป็นต้องเข้าหาใครก็มีคนมาเสนอให้ เหมือนผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ ที่ออกจะเซ็กซี่ แต่วันนี้รู้สึกไม่มีอารมณ์
“กูเห็นนะ”
ไนต์เดินมายืนขนาบข้างก่อนจะเอ่ยขึ้นมา เพราะเขาเห็นว่าสาวสวยคนนั้นส่งสายตาให้เสือ
“แล้วไง” เสือยักไหล่
“ไม่เอาเหรอ”
“มึงเอาไหม?”
“ไม่”
ไนต์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ตัวเขาไม่เอามันไม่แปลก แต่ไอ้เสือเนี่ยไม่ได้ดุแค่ชื่อ อย่างอื่นก็ดุ มันแค่ไม่ได้ทำตัวระริกระรี้เหมือนเพทาย อีกอย่างมันฮอตขนาดนี้ผู้หญิงเข้าหาไม่ขาดสาย จะเบื่อก็ไม่แปลก
“กูนึกว่ามึงชอบแบบเซ็กซี่ ผู้หญิงคนนั้นก็ดูตรงสเป็กมึงดี นึกว่าจะชอบ”
“กูเคยชอบด้วยเหรอ?”
“ไม่รู้ ก็เห็นแต่แนวนี้”
เสือยกยิ้มมุมปากก่อนจะส่ายหัวให้กับคำพูดของเพื่อน เขายังไม่เจอคนที่ถูกใจเลยสักคน แต่ถ้าเจอก็ไม่แน่
“สวยดี...มึงน่าจะชอบผมดำตรงบาร์” เสือมองตามมือไนต์ที่ชี้ไปตรงบาร์เครื่องดื่มชั้นหนึ่ง มีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ ไม่ปฏิเสธว่าคนผมดำสวยและเซ็กซี่ แต่...เขากลับสะดุดตากับอีกคนมากกว่า เรือนร่างบอบบางในเดรสสายเดี่ยวสีดำ ผมสีบลอนด์สว่างโดดเด่นมาก รวมถึงรอยยิ้มหวานตราตรึงใจ
เผลอแป๊บเดียวเขาก็ไม่อาจละสายตาจากเธอได้ เห็นทีว่าวันนี้เสืออย่างเขาจะตกหลุมกระต่ายขาวตรงหน้าแล้วแหละ คิดได้ดังนั้นมือก็หยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความหาใครบางคนทันที
เสือ : ส่งคนไปจับตาดูผู้หญิงสองคนที่บาร์ที อย่าให้ใครเข้าไปยุ่ง
ฉันนั่งคุยกับไซซีราวกับไม่เคยเจอกันมาก่อน เรามีเรื่องให้พูดคุยกันมากมาย ตั้งแต่เด็กจนโตเราตัวติดกันอย่างกับแฝด ถึงแม้เปิดเทอมจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ยังติดต่อหากันตลอด
“อยากไปเข้าห้องน้ำ” ฉันวางแก้วไวน์ลงก่อนจะบอกเพื่อนที่ใบหน้าแดงก่ำอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม?”
“ไม่ แต่แกน่ะไปกับฉันไหม ดูเหมือนจะเมาแล้วนะไม่อยากให้นั่งรอคนเดียว” ไม่ว่าเปล่ามือยังจับแก้มซีไว้แน่น เห็นคนสวยทำตาปรือแบบนี้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้
“งั้นขอนั่งรอตรงนี้”
“แน่นะ” ถามย้ำอีกครั้งซีก็พยักหน้า ฉันเลยปลีกตัวมาเข้าห้องน้ำเลย สงสัยเป็นช่วงดีเจห้องน้ำหญิงเลยโล่งมาก
ระหว่างเข้าห้องน้ำฉันก็หยิบมือถือออกมากดเล่นและเข้าแชตสายฟ้าด้วย วันนี้เห็นเขาเงียบ ๆ ทักไปหน่อยแล้วกัน
ที่จริงไม่ใช่แค่วันนี้หรอก หลายวันแล้วที่เขาแปลกไปทั้งที่ปกติเราคุยกันทุกวัน
ซินเซีย : ทำอะไร นอนยัง?
ก็เป็นคำถามปกติทั่วไป แต่เชื่อไหมว่าฉันใจเต้นแรงมากว่าเขาจะตอบทันทีไหมหรือยังไม่ตอบ แล้วทำอะไรอยู่ ความรู้สึกของฉันมันฟุ้งซ่านไปหมดแค่ทักหาคนที่ชอบ
ชอบมานานตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีสายตาก็คอยเอาแต่มองเขาแล้ว ต่างจากมองเรย์หรือฝาแฝดอิลแอลเลย
สายฟ้า : กำลังจะนอน
ฉันมองดูนาฬิกาที่หน้าจอมือถือตอนนี้ห้าทุ่มแล้ว ฉันยังไม่รู้สึกอะไรเลย อีกอย่างทำไมเขานอนเร็วจัง หรือไม่สบาย
ซินเซีย : นอนเร็วจัง ไม่สบายหรือเปล่า
สายฟ้า : อืม ปวดหัว
ซินเซีย : งั้นกินยานอน ฝันดีนะ
ฉันมองแชตที่ขึ้นอ่านแล้วรอสักพัก เขาไม่ตอบอะไรฉันเลยปิดหน้าจอและถอนหายใจออกมา ไม่รู้คิดไปเองไหมว่าหลายวันมานี้เขาดูเย็นชาแปลก ๆ ทั้งที่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
แปลกมาก...วันนั้นยังคุยกันดี ๆ
ใจร้อนรุ่มจนอยากจะถามเขาให้รู้เรื่องกันไปข้างว่าเป็นอะไร ในฐานะเพื่อนก็รู้สึกอึดอัดหัวใจมากที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด ทำไมโดนเมินหรือบางทีฉันจะคิดไปเอง
“บ้าชะมัด”
ฉันพึมพำอย่างหงุดหงิดที่ไม่สามารถทำอะไรได้ พยายามแสดงออกไปตั้งเท่าไรฟ้าก็เหมือนมองไม่เห็นหรือตั้งใจไม่มองมากกว่า เขาก็แบบนี้ ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งถอยห่าง ยิ่งล้ำเส้นเขายิ่งสร้างกำแพงหนาขึ้น
บางทีฉันคิดว่าตัวเองควรพอเพื่อรักษาความสัมพันธ์ แต่เจอหน้าเขาก็ทำไม่ได้ สายฟ้าใจดีกับฉันมากให้ฉันพิเศษมากกว่าใคร แล้วแบบนี้จะมูฟออนได้ยังไง
แกร๊ก!
“เอาเหล้าอะไรดี” “อะไรก็ได้ที่แรง ๆ”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงบาร์ ทำให้ไซซีที่นั่งข้างซินเซียชะโงกหน้ามาดูว่าใครที่เพื่อนพามาด้วย ก่อนนัยน์ตาคู่สวยของสาวฮอตจะเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาปิดปากและหันไปกระซิบกับเพื่อนเบา ๆ“หล่อมาก เอาเลย!” ซินเซียกลอกตามองบนทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ไซซีพูด“ชอบก็เอาเองสิ”“ไม่ใช่สเป็ก อีกอย่าง...เขาดูชอบแก”“รู้ได้ไง...”“จะกระซิบกันอีกนานไหม” เสือปรายตามองสองสาวที่เอาแต่คุยกันไม่สนใจเขา อีกคนเขาไม่สนหรอกแต่คนที่เขาเล็งไม่ควรเมินเขาขนาดนี้“ขอโทษทีค่ะ...พอดีไม่ถนัดคุยกับคนแปลกหน้า” ซินเซียฉีกยิ้มก่อนจะหยิบแก้วเหล้าที่บาร์เทนเดอร์ชงมาวางตรงหน้าเขา“ไม่ดื่ม?” ร่างสูงถามย้อนเมื่อเห็นเธอเอาแต่กอดอกทำหน้ามุ่ย“ดื่มค่ะดื่ม” เธอเลยจำต้องยกโดยที่ไม่รู้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันแรงขนาดไหน ผ่านไปไม่นานสมองก็เริ่มมึนเบลอและนิสัยบางส่วนเริ่มเปิดเผยออกมาไซซีแม้จะจิบไวน์เธอก็เมาเหมือนกัน ใบหน้าสวยแดงก่ำแต่ก็พยายามมองเพื่อนบ้าง มองบรรยากาศบ้าง จนมาสะดุดกับใครคนหนึ่งที่ยืนกอดอกตรงต้นเสาหมับ!“จะไปไหน...” ซินเซียคว้าหมับเข้าที่แขนเพื่อนเมื่อเห็นไซซีกำลังจะเดิน
แกร๊ก!หลังจากเวิ่นเว้ออยู่นานฉันก็เปิดประตูออกมา เจอผู้หญิงคนหนึ่งจิกตามองแรงใส่ก่อนจะเบียดตัวเพื่อเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติก็คงมีน้ำลายแล้ว แต่รู้ตัวดีว่าตัวเองผิดส่วนหนึ่งที่ไม่เร่งรีบในที่สาธารณะ“โอ๊ะ ขอโทษค่ะ”เดินพ้นห้องน้ำไม่ทันไรก็ชนเข้ากับใครบางคนแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบกับแผงอกแข็งแกร่ง แม้มีเสื้อยืดสีดำกั้นกลางแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่ามันคงจะแข็งและแน่นมากทีเดียวคิดอะไรลามกอีกแล้ว!“หึ ทีหลังก็มองทางบ้าง”“ค่ะ”เสียงหึในลำคอทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นเพื่อจะมองคนตรงหน้า แต่ไม่คาดว่าเขาก็กำลังก้มมองฉันอยู่ทำให้เราสบตากันโดยบังเอิญ คนที่ภูมิต้านทานเสน่ห์และหน้าตาของผู้ชายต่ำอย่างฉันอดกลืนน้ำลายไม่ได้ใบหน้าได้รูปคิ้วเข้มทรงกระบี่ นัยน์ตาสีดำคมดุรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางสีนู้ด สันกรามคมชัดเห็นแล้วอยากลองลูบ ผู้ชายคนนี้อันตรายมาก เขาหล่อเกินไปดูมีออร่าของความหล่อ ถ้าให้พูดแบบภาษาตัวแม่คือเขาโพผัวมาก“มองแบบนี้ระวังน้ำลายหก”“ฮ้า...”ใบหน้าของเขาเรียบเฉยแต่มุมปากยกยิ้มอย่างถือดี ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบเพื่อเดินไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งฉันที่ทำสีหน้าช็อกกับความมั่นหน้าของเขาคนอะไรมั่นขนาดนี
(ต่อ)“อ่า...มันจะถอยรถใหม่เหรอ แล้วทำไมต้องไปกันสามคนพร้อมกันเลย” แม้แต่ไฟยังสงสัย เพราะวันนี้มีนัดกันทั้งกลุ่ม แต่พวกมันสามพี่น้องดันหายหัว ที่ต้องเรียกสามพี่น้องเพราะทั้งโซ่ ต้าร์ และนักรบเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน“กูไม่รู้ ค่อยถามพวกมัน” ไนต์เองก็ไม่รู้ว่าทำไม ปกติถ้าอยากได้รถใหม่ก็แค่สั่งจองไม่เคยเห็นพวกมันบินไปดูเองเลย“เสียเที่ยวเลยวันนี้ แทนที่กูจะได้ไปเดตกับน้องมินการบิน” เพทายบ่นอุบอิบเพราะอยากเจอเพื่อนเลยเทนัดสาว“มึงก็แค่เรียกเด็กมาข้างบน” ไฟเสนอทางออกให้คนเร้าหรืออยากไปกับสาว“มาผับขนาดนี้หาสาว ๆ สวย ๆ คนใหม่ดีกว่า กูจะเรียกเด็กเก่า ๆ มาทำไม”“งั้นก็อย่าบ่น!” เสือปรายตามองเพทายที่เอาแต่งอแงและบ่นสามพี่น้องที่ผิดนัด ไม่มีใครชอบแต่พวกมันก็ทักมาขอโทษแล้ว แม้จะยกเลิกนัดไม่ทันก็ตามนัยน์ตาคมดุยกแก้วขึ้นจิบด้วยท่าทีเรียบเฉย สายตามองเมินสาวสวยโต๊ะข้างเคียงไปจนเธอหน้าชา เพราะเพื่อนในกลุ่มอยากให้เธอลองจีบเขาดู ผู้ชายที่ดูดุร้ายแต่เร่าร้อน ทว่าเมินขนาดนี้เธอก็ไม่กล้าไปต่อแล้วกึก!เสือกระแทกแก้วลงกับโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นเดินไปยืนมองบรรยากาศคึกคักตรงระเบียงชั้นสอง สายตาราวเสือกำลังจ้องตะครุบ
Sky Pub 21.00 น.“คนเยอะมาก” ฉันกระซิบกับไซซี เราสองคนขับรถยนต์มาเอง คันนี้เป็นรถออดี้ของเฮียโซ่ เพราะฉันยังไม่มีรถส่วนตัว แต่ป๊าสัญญาแล้วว่าเข้ามหา’ลัยจะซื้อคันใหม่ให้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ารุ่นไหนเหมือนกัน ฉันเป็นคนไม่เรื่องมาก อะไรก็ได้“เยอะดิ นี่มาเที่ยวผับนะ”“เอ้า จะรู้ไหมไม่เคยมา ทำอย่างกับตัวเองเคยไป” ฉันค่อนขอด“ไม่เคยอะ ฮ่า ๆ” “เออ แล้วเจ๊แมนแกบอกให้เดินไปหาการ์ดที่ใส่กำไลข้อมือสีแดงแล้วยัดทิปให้” ฉันหันไปบอกไซซีก่อนจะควักเงินใบเทาออกมาจากกระเป๋าแบรนด์หรูของตัวเอง“แล้วใครจะยัด”“ฉันเอง...ไปกันเถอะ” มือบางคว้าแขนเพื่อนสาวเข้าไปกอด ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปยังหน้าสถานบันเทิงที่เต็มไปด้วยผู้คน และเป้าหมายของเธอก็คือการ์ดที่มีกำไลข้อมือตามที่เจ้าของร้านทำผมบอก“ขอบัตรด้วยครับ” “นี่ค่ะ...” ซินเซียยัดบัตรประชาชนของตัวเองและไซซีให้กับการ์ดพร้อมทิปที่พับเรียบร้อย ยัดเข้าด้านล่างบัตรไปอีกทีโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เธอฉีกยิ้มสดใสให้กับการ์ดที่เหลือบตามามอง เมื่อสัมผัสถึงอะไรบางอย่างในอุ้งมือ ก่อนจะยื่นบัตรคืนให้สองสาวและพยักหน้าให้กับเพื่อนทั้งคู่เดินเข้ามาในผับด้วยท่าทีสบายใจ เพียงก
สนามบินนานาชาติ หลังจากแยกย้ายกับเฮียต้าร์ที่ทำท่าทางเร่งรีบ ฉันก็ขับรถมาที่สนามบินทันทีด้วยความเร็วตามมาตรฐานบนท้องถนน เพราะถ้าขับตามกฎหมายกำหนดมีหวังโดนคันหลังด่าตายเลยการขับขี่ที่ไทยจะขับช้าได้ไงเนอะ...ฉันมองซ้ายมองขวาหาจุดผู้โดยสารขาเข้าแล้วรีบเดินไปยังโซนนั้นเพื่อรอรับเพื่อนสาวคนสนิท ทั้งที่ที่บ้านมีเครื่องบินเจ็ตแต่เมื่อเพื่อนอยากมาเซอร์ไพรส์ฉันก็ไม่ขัด แต่อยากบอกซีมากว่าไม่รู้ใครจะโดนเซอร์ไพรส์มากกว่ากัน เพราะที่บ้านไม่มีคนอยู่เลย“ซี! ทางนี้ ๆ” เพียงไม่นานร่างบางสัดส่วนสุดเย้ายวน ในชุดกางเกงสีดำรัดรูปกับเสื้อครอปสีขาวก็เดินตรงมาที่ฉัน พร้อมกางแขนออกกว้างหมับ!“คิดถึงจัง” ฉันโถมตัวกอดไซซีเต็มแรงโดยที่คนตัวบางพอกันเซเล็กน้อย“คิดถึงเหมือนกันกว่าจะขอแม่ได้” ไซซีตอบเสียงอู้อี้พลางซบหน้ากับไหล่ของฉัน แหงแหละลูกสาวที่ดูแลมาอย่างดีจะขอย้ายมาเรียนที่ต่างประเทศ ถึงจะมาอยู่บ้านตัวเองก็อดห่วงไม่ได้หรอก“อาซาร่าคงเป็นห่วงแกแหละ” ฉันผละออกจากอ้อมกอดก่อนจะช่วยถือกระเป๋าสะพายหนึ่งใบ พร้อมกับสำรวจเพื่อนไปด้วยทั่วทั้งร่างมีกระเป๋ามาแค่สองใบ“แม่ก็ห่วงเกินไง ฉันโตแล้วนะ”“ในสายตาผู้ใหญ่เร
ตึก ตึก เสียงฝีเท้าวิ่งสะเปะสะปะไปมาอย่างไม่รู้ทิศรู้ทางว่าควรจะไปที่ไหน รู้แค่ว่าเธอต้องหนี ภายใต้ความมืดมิดมีเพียงแสงสีทองจากดวงจันทร์และหมู่ดาวคอยนำทางเท่านั้นโฮก ~เงาร่างดำทะมึนกำลังไล่ตามมาพร้อมเสียงคำรามดังลั่น ทำเอาร่างบางตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว“กรี๊ดดดดดด” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อเงาดำที่ไล่ตามมากระโดดข้ามหัวและดักทางเธอไว้ ลายพาดกลอนสีดำตลอดทั้งลำตัวที่ปกคลุมด้วยขนสีเหลืองส้ม ทำให้เธอหน้าซีดตัวชาและก้าวขาไม่ออก“อย่าเข้ามานะ” แม้จะกลัวแต่ก็ยังมองจ้องตาสัตว์ร้ายไว้ตลอด เพราะจะทำให้พวกมันไม่กล้าผลีผลามเข้ามาใกล้ แต่เธอก็ต้องขมวดคิ้วทันทีเมื่อมันมองจ้องกลับอย่างไม่ลดละ มันเดินเข้ามาใกล้และกระโดดเข้าใส่เธอทันทีโฮกกกกก ~“กรี๊ดดดดดด”ติ๊ด ติ๊ด“ฝันเหรอเนี่ย…ทำเอาใจหายใจคว่ำหมดเลย” ฉันพึมพำกับตัวเองหลังจากตื่นขึ้นมาในห้องนอนกว้าง เพราะเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือข้างเตียงเพื่อเข้าโซเชียล ก่อนจะพบข้อความของใครบางคนที่ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาสายฟ้า : ถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะเขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรัก แต่เราเป็นเพื่อนสนิทกัน รู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลายคน