Masuk...ความผิดพลาดแค่คืนเดียว เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีเลือดเนื้อเชื้อไข และกลายเป็นพ่อคนในวันที่เจอเธออีกครั้ง และเธอก็คลอดในวันนั้นพอดี....
Lihat lebih banyakภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ภาคอีสาน)
โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัด
“ธิดา!!!” เสียงเรียกชื่อพร้อมกับมือหนาของเขาที่กุมมือบางอันสั่นเทาของหญิงสาวท้องโตเอาไว้แน่นอย่างให้กำลังใจ ในขณะที่เธอกำลังถูกส่งตัวเข้าไปข้างในคลอด
วรากร พายุภัทร หรือ กร หนุ่มนักออกแบบกราฟิกฯ และรับถ่ายภาพอิสระตามงานหรือพิธีต่าง ๆ ด้วยวัยเพียง 24 ปี ทุนเดิมเป็นหนุ่มต่างจังหวัดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) ที่เข้ามาศึกษาต่อและทำงานอาศัยอยู่ในเมืองหลวงเป็นหลัก เพราะเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็ก...
“มะ ไม่ไหวแล้ว ฮือ...”
สุทธิดา นพวงศ์ หรือ ธิดา หญิงสาวนักศึกษาปีสอง อายุ 21 ปี เติบโตมากับบิดาในบ้านของนักธุรกิจด้วยการเลี้ยงดูจากบิดาเพียงแค่คนเดียว หญิงสาวยอมทิ้งอนาคตของตัวเพราะเธอมีอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะลืมตาดูโลกในเร็ววัน ต่อมาเจ้านายของบิดาธุรกิจล้มละลายเธอจึงตัดสินใจย้ายตามผู้เป็นพ่อไปอยู่ที่ต่างจังหวัดกับเจ้านายของบิดาด้วย
“อดทนนะธิดา เพื่อลูก...” เสียงทุ้มเอ่ยบอกกับคนที่นอนบนเตียง
สุทธิดาถูกส่งเข้าไปในห้องคลอด ชายหนุ่มสามคนที่เดินทางมาด้วยได้แต่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องคลอด เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในได้
“คนไหนเป็นสามีของคนไข้ค่ะ” พยาบาลถามขึ้น พร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มทั้งสาม
วรากรและชายหนุ่มอีกคน รีบปรี่เข้าไปหาพยาบาลหน้าห้องที่ถามขึ้นมาทันที ก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งจะขานขึ้นมาก่อน
“ผมเองครับ”
“...” พยาบาลสาวไม่ได้พูดอะไร แต่กลับมองหน้าชายหนุ่มทั้งสองอย่างพิจารณา ก่อนจะพยักหน้าให้กับคนที่บอกว่าตัวเองเป็นสามี
“นี่คุณ...” ชายหนุ่มอีกคนที่ตามมาด้วยกำลังจะเอ่ยขัด แต่กลับถูกคนที่มาด้วยปรามเอาไว้เสียก่อน ไม่ให้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาในตอนนี้
วรากรหันมองหน้าชายหนุ่มก่อนที่จะตามพยาบาลเข้าไปที่ห้องคลอดโดยไม่ได้พูดอะไร ท่าทีร้อนรนของชายหนุ่มคนนี้ก็พอจะเดาออกแล้ว ว่าชายหนุ่มคนนี้คิดเช่นไรกับสุทธิดา แม่ของลูกเขา
สุทธิดาได้ให้กำเนิดลูกสาวเขา ที่พึ่งจะรู้ว่าเขามีเลือดเนื้อเชื่อไขของตัวเอง และเป็นวันที่เพื่อนสนิทของเขาเข้าประตูวิวาห์อีกด้วย หากวันนี้เขาไม่มางานแต่งของเพื่อน เขาก็คงจะไม่รู้ว่าเขามีลูก
“เป็นยังไงบ้างว่ะ” เสียงของคนที่พึ่งเดินทางตามที่หลังถามเพื่อนขึ้นด้วยความห่วงใย
ศุภวัฒน์ หรือ เวย์ ประธานหนุ่มนักธุรกิจรุุ่นใหม่ไฟแรง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน และเดินทางมาร่วมงานแต่งกับเพื่อนสนิท พร้อมกันกับเขาด้วย
“ปลอดภัยดีทั้งแม่และลูก กูได้ลูกสาวว่ะไอ้เวย์” วรากรหันมาตอบเพื่อนด้วยความดีใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองได้เป็นพ่อคนแล้ว แถมยังได้ลูกสาวอีกใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มแห่งความปราบปลื้มดีใจจนไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
“ดีใจด้วยน่ะ แล้วจะเอายังไงต่อ” ศุภวัฒน์แตะลงที่ไหล่อย่างยินดีไปกับเพื่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสายตาปลื้มปีติมีความสุขของวรากร เพราะทราบดีว่าเพื่อนไม่มีครอบครัวหรือญาติพี่น้องเลย
“...” วรากรพยักหน้ารับอย่างยินดี แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบ เพราะเขาเองก็ไม่เตรียมตัวตั้งรับไว้ก่อนเลยจะได้เป็นพ่อคน
สายตาและปฏิกิริยาที่เขาแสดงออกในตอนนี้ ศุภวัฒน์คงจะมองออกว่าเขามีความรู้สึกเช่นไร แต่เขาก็ยังมีความกังวลว่าจะเอาเช่นไรต่อจากนี้ เพราะสถานะของเขากับแม่ของลูกที่ยังไม่รู้เลยว่าเธอจะให้เขาได้ใช้สถานะพ่อหรือเปล่า
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยได้ไหม” เสียงราบเรียบของชายหนุ่มที่นั่งรออยู่หน้าห้อง เดินเข้าไปหาแล้วเอ่ยขึ้นทันที ที่วรากรออกมาจากห้องคลอด
โกสินทร์ หรือ โก หนุ่มเจ้าถิ่นวัย 24 ปี เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมกับผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่เขยของสุทธิดา สามีของลูกสาวเจ้านายบิดาเธอนั่นเอง
วรากรหันไปมองหน้ากับชายหนุ่ม ก่อนที่จะเดินตามออกไป เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้มีเรื่องอะไรจะพูดคุยกับเขาและอีกอย่างก็ไม่รู้จักกันด้วย
“มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ” วรากรถามขึ้นมาทันที ที่อยู่กันสองคน
“ผมชื่อโกนะ เป็นเพื่อนกับไอ้วิชญ์มาตั้งแต่เด็ก”
“ผมก็เป็นเพื่อนกับไอ้วิชญ์เหมือนกัน ชื่อกร ว่าแต่คุณมีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ”
“คุณคงจะเป็นผู้ชายเฮงซวยคนนั้นของธิดาสินะ แล้วไปอยู่ไหนมาหรือครับ ทำไมปล่อยให้เธอลำบากแบบนี้มาตั้งนาน” โกสินทร์เข้าประเด็นทันที พร้อมกับจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเย้ยหยันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักที่เขาปรากฏตัว
“คือ...”
“กลับไปเถอะครับ กลับไปในที่ของคุณ อย่ามาให้ธิดากับลูกลำบากใจอีกเลย” โกสินทร์พูดขึ้นมาเชิงเป็นไปขับไล่เขาไปแบบส่ง ๆ
“ผมคงยังกลับไปไหนตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ เพราะลูกผมยังอยู่ที่นี่” วรากรกัดกรามกรอดยืนกรานตอบคนต้องหน้าไปทันที เรื่องอะไรจะยอมกลับไปในเมื่อลูก(เมีย)ยังอยู่ที่นี่ หากเขากลับไปตอนนี้ เขาคงเป็นผู้ชายที่เฮงซวยสุด ๆ
“มั่นใจจังเลยนะครับ ว่าเป็นลูกของคุณ” โกสินทร์พูดขึ้นมาอีก พร้อมด้วยสายตาที่มองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเย้ยหยัน
“ผมมั่นใจในตัวของธิดา ว่าแต่คุณพูดออกมาแบบนี้หมายความว่ายังไงเป็นอะไรกับธิดาอย่างนั้นหรือ...” เขาพูดออกมาด้วยความมั่นใจ เชื่อว่าสุทธิดาไม่มั่วนอนกับผู้ชายคนอื่นหลังจากที่เขาและเธอมีความสัมพันธ์กันแน่ เพราะเขาเป็นคนแรกของเธอ คนห่วงเนื้อห่วงตัวแบบเธอแค่เข้าใกล้ผู้ชายยังสั่นแบบนั้น คงไม่มีทางไปนอนกับใครแน่
“คุณลองคิดดูเองสิ”
“ฮึ...ผมเชื่อ ว่าลูกของธิดาเป็นลูกสาวของผมแน่นอน” วรากรแค่นขำในคำพูดของโกสินทร์ ก่อนที่จะตอบออกไปอย่างมั่นใจ ผู้ชายคนนี้คงอยากจะมาทำหน้าที่พ่อแทนเขาเพื่อทำคะแนนกับสุทธิดาสินะ
“คุณถามธิดาก่อนไหม ว่าเขาอยากให้คุณเป็นพ่อของลูกเขาหรือเปล่า”
“คุณเป็นใครหรือครับ ถึงเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของธิดา ถ้าให้ผมเดาก็คง...” วรากรจ้องมองหน้าคนตรงหน้า พร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว และคน ๆ นี้เป็นใครถึงเข้ายุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของแม่ลูกสาวเขาขนาดนี้ด้วย
“...” โกสินทร์ยืนนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร เพราะเขาเองก็ไม่มีสถานะอะไรกับสุทธิดาเช่นกัน
“แต่ดูแล้ว คุณก็เป็นคนนอกเหมือนกัน”
“ไอ้กร! หมอเรียกหามึง” ศุภวัฒน์พูดแทรกบทสนทนาของสองหนุ่มขึ้นมา
“ขอตัวนะครับ ต้องไปทำหน้าที่...พ่อ” วรากรหันมาพูดกับคนตรงหน้าด้วยเน้นคำว่า ‘พ่อ’ ให้อีกคนได้ยินอย่างชัด ๆ ราวกับว่าเขาอยู่เหนือกว่า ก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนี้
จุดเริ่มต้น NCNight Club“เฮ้ย คุณเป็นใคร แล้วเข้ามาในรถของผมทำไมกัน” วรากรร้องออกมาเสียงหลง เมื่อเปิดประตูเข้ามาในรถ ของตัวเองกลับพบอีกฝั่งข้างคนขับ มีหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในรถของเขาด้วยแล้ว“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย ไปส่งฉันหน่อย ฉันไหว้ละขอร้องนะคะ” ใบหน้าสวยเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อพร้อมกับน้ำเสียงกระหืดหอบเอ่ยบอกติด ๆ ขัด ๆ แล้วยกมือขึ้นไหว้อ้อนวอนร้องขอความเห็นใจจากเขา“นี่จะมาไม้ไหนอีกล่ะ บอกเลยว่าผมเจอผู้หญิงแบบคุณมาเยอะแล้ว” เขาจ้องมองเธอพร้อมกับเอ่ยคาดโทษเธอไว้ทันที“ฉัน...”“เฮ้ย...อย่าพึ่งถอดน่ะ อดทนเอาไว้ก่อน ก็ได้ผมจะไปส่งคุณ” วรากรรีบห้ามทันที เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังจะดึงเสื้อผ้าของเธอออกจากตัว“...” เธอได้แต่นั่งนิ่ง ๆ พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ให้ดูเป็นปกติที่สุด เมื่อเขาออกรถแล้วบอกว่าจะยอมไปส่งเธอ“บ้านอยู่ที่ไหน” เขาถามเธอออกไปอย่างใจเย็น เมื่อรถขับออกมาจากสถานบันเทิงแล้วเธอได้แต่ครุ่นคิดอยู่สักพัก แถมยังพยายามควบคุมอารมร์คุกรุ่นของตัวเองไม่ให้ตื่นเตลิดไปมากกว่านี้ เธอไม่อยากแสดงอาการต่อหน้าชายแปลกหน้าที่พึ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก“ไม่ได้ กลับบ้านไม่ได้เด็ดขาด”“ทำไม?” เขาถ
บทส่งท้าย(จบ)บ้านพายุภัทร“ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้านพายุภัทรอย่างเป็นทางการ ธิดาและวิวาห์ตัวน้อย” อภิเดชในฐานะเจ้าบ้านเอ่ยขึ้นมาทันที ที่ทุกคนเดินเข้ามาภายในบ้าน“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ คุณแม่” สุทธิดารีบไหว้ขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสองท่าน“ตามสบายเลยนะลูก ถือว่าที่นี่คือบ้านของหนูเลย” อภิเดชพูดกับเธออีกครั้ง ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงที่โซฟาห้องรับแขก“ตากร”“ครับแม่”“แกไปทำอีท่าไหน หลานสาวแม่ถึงถอดแบบแกมาสะแบบนี้” อรอนงค์เอ่ยขึ้นทันที เมื่อได้นั่งสำรวจมองพินิจใบหน้าของหลานสาวดูอย่างชัด ๆ“ก็...หลายท่าหลายน้ำอยู่ครับแม่” วรากรมองหน้าผู้เป็นภรรยาก่อนที่จะเอ่ยตอบกับมารดาสายตาที่ดูล้อเลียนหยอกเล่น“พี่กร!”สุทธิดาที่นั่งอยู่ข้างกัน เมื่อวราพูดออกมาเช่นนี้้ เธอเอื้อมมือไปหยิกที่ต้นขาของเขาทันทีอย่าแรง เพราะนึกหมั่นไส้ และเขินอายที่เขาพูดออกมาแบบนี้“โอ้ย...เมียจ๋าหยิกพี่ทำไม” วรากรได้แต่ลูบที่ทาหน้าขาปอย ๆ ของตัวเอง“ก็พี่ชอบพูด...”“ก็มันเรื่องจริงไม่เห็นจะหน้าอายตรงไหนเลย” วรากรตอบภรรยาแบบหน้าตาเฉย แต่ก็หาทางหนีที่ไล่ กลัวสุทธิดาจะโกรธเหมือนกัน“แต่ธิดาอาย...” ใบหน้าแดงก่ำงุดลง เพราะไม่กล้าสู้หน้าค
สู่ขออย่าง(ไม่)เป็นทางการ“พวกคุณมีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ” ศักดิ์ชัยนั่งลงแล้วถามขึ้นทันที ที่มาถึงบ้านของลูกสาวอรอนงค์จึงส่งหลานสาวที่อุ้มอยู่นั้นให้แก่สามีอุ้มต่อ ก่อนที่จะหันไปทางศักดิ์ชัยนั่ง แล้วพูดเข้าประเด็นทันที“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ คือพวกเราต้องพาลูกชายกลับกรุงเทพไปบริหารงานที่บริษัทต่อ เลยต้องเรียกคุณมาเพื่อจะแจ้งให้ทราบ”“เขาเป็นลูกชายของพวกคุณ ผมจะมีสิทธิ์ไปห้ามไปว่าอะไรได้ละครับ” ศักดิ์ชัยบอกออกไปตามความจริง เพราะถึงจะรู้ว่าวรากรอยู่ที่นี่กับลูกสาวในฐานะอะไร แต่ก็ไม่สิทธิ์อะไรที่จะห้าม หากว่าวรากรตัดสินใจที่จะกลับไปพร้อมกับบิดามารดา“แต่พวกเราต้องการให้หลานสาวไปอยู่ด้วยกันค่ะ” อรอนงค์พูดถึงจุดประสงค์ในตอนนี้ เพราะความต้องการลูกชาย“คุณแม่!” วรากรร้องเรียกมารดาเสียงหลงอีกครั้ง เพราะไม่คิดว่ามารดาของเขาจะพูดตรง ๆ ขอกันซึ่ง ๆ หน้า ออกมาแบบนี้กับพ่อตาของเขา“หุบปากของแกไปเลย เป็นลูกผู้ชายเสียเปล่า ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเอาเสียเลย” อรอนงค์ได้แต่เอ็ดลูกชายไม่ให้พูดอะไรออกมา“ที่คุณจะพูดคือต้องการให้หลานสาวไปอยู่ที่กรุงเทพด้วยกันแค่นี้ใช่ไหมครับ” ศักดิ์ชัยตัดสินใจถามออกไปอ
แม่มาตามสามเดือนต่อมา“คุณพ่อ คุณแม่”วรากรร้องทักขึ้นมาทันทีอย่างตกใจ เมื่อเปิดประตูบานไม้หน้าบ้านออกมาในตอนเช้า กลับเห็นผู้มีพระคุณทั้งสองท่านยืนอยู่ที่หน้าบ้านกันเสียแล้ว“เห็นหน้าแม่ทำไมต้องตกใจอะไรขนาดนั้นด้วย” อรอนงค์เดินเข้าไปหาแล้วพูดกับลูกชายที่กำลังตกใจขึ้นทันทีวันนี้ครบกำหนดสามเดือนแล้วที่วรากรมาพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ เมื่อเห็นว่าเลยกำหนดมาหลายวันแล้ว ผู้เป็นพ่อและแม่จึงมาตามเพราะลูกชายไม่ยอมติดต่อกลับบ้านเลยตั้งแต่ที่มาอยู่ที่นี่อรอนงค์พึ่งมาทราบว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับลูกชายนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนรวมหัวกันโกหกเพราะว่าลูกชายไม่อยากหมั้นได้ไม่นานมานี้เอง เพราะสามารถสารภาพบอกความจริงทุกอย่างแล้วตอนแรกก็นึกโกรธที่ทุกคนรวมหัวกันโกหก แต่พอได้เห็นธาตุแท้ของเพื่อนที่เกือบจะได้ดองกันแล้ว อรอนงค์จึงยอมให้อภัยความผิดครั้งนี้ของลูกชาย“เข้าไปนั่งข้างในดีกว่าครับ ข้างนอกอากาศมันร้อน” วรากรรีบยกมือขึ้นไหว้ท่านทั้งสอง แล้วเอ่ยบอกท่านทั้งสองให้เขาไปนั่งข้างในแทน“นั่งที่นี่แหละ แล้วหลานของแม่ละอยู่ไหน” อรอนงค์พูดพร้อมกับนั่งลงที่ระเบียงหน้าบ้านทันที แล้วถามหาหลานสาวขึ้นมาเมื่อกว





