LOGINหลอมรักครั้งที่ 3
1/3
Palin Palinthda Talk
“รอนานไหมจ๊ะยัยคนสวย” โบว์ทักทายเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ “โทษทีนะ เครื่องดีเลย์มาก”
“ไม่นานหรอก แต่กินรอหมดไปสองจานละ” ฉันว่าติดตลก ส่วนยัยองค์หญิงก็หัวเราะแห้ง ๆ ใส่ “กินเถอะ ท่าทางจะหิวโซมาเลยนะ”
“อือ อาหารบนเครื่องไม่ค่อยถูกใจ” เพื่อนสาวว่าแล้วก็ลงมือทานอาหารทันที
เพื่อนฉันพึ่งจะกลับจากงานที่ญี่ปุ่น โบว์น่ะน่าอิจฉานะ มีแพชชั่น มีความฝัน แถมเป็นคนเก่งเลยทำอะไร ๆ ออกมาได้ดี ตอนนี้ยัยองค์หญิงแม้จะเส้นทางความรักของเธอจะไม่ได้ดั่งใจแต่ว่าเส้นทางด้านอื่นของเธอเหมือนเส้นกราฟที่ค่อย ๆ พุ่งขึ้นอย่างไม่มีวันจะร่วงลงมา
เพื่อนเรียนจบทีหลังฉันสองปีแต่ว่าทำแบรนด์เพียงแค่สองปีก็รุ่งเอา ๆ ส่วนฉันไม่มีแพชชั่น ไม่มีความฝันอะไรเลย งานที่ทำแม้จะพยายามเต็มที่และทำออกมาได้ดีตามเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีความสุขอะไร เหมือนทำไปอย่างนั้นเพราะว่าไม่อยากให้คนอื่นมองว่าลูกสาวของพ่อไม่เอาอ่าว
ถ้าเทียบกันสามคนพี่น้องแล้วฉันดูเอื่อยเฉื่อยสุด ๆ แล้วมั้ง
พี่ธาวินพี่ชายของฉันเป็นอัจฉริยะด้านโปรแกรมเมอร์ เขาเรียนจบปอตรีไวกว่าคนอื่นมาก ก่อนจะเริ่มสร้างเกม ๆ หนึ่งขึ้นมาและดังเป็นพลุแตกได้ตอนอายุยี่สิบเอ็ด หลังจากนั้นก็มีเกมของเขาที่ดังอีกเรื่อย ๆ ไหนจะแอปพลิเคชันหลายอย่างที่ดูเหมือนจะไม่ตกรุ่นไปเลย
มูลค่าทรัพย์สินที่เขามีคงพอ ๆ กับพ่อเลยก็ว่าได้ แม้เขาจะไม่มีแฟนแต่ก็เหมือนจะประสบความสำเร็จไปมาก ๆ แล้ว เขาบอกฉันว่าชีวิตที่สมบูรณ์แบบไม่ได้หมายถึงการแต่งงาน
ญาณินน้องสาวของฉันแม้จะยังเรียนอยู่ แต่มีพรสวรรค์โดดเด่นมาก เธอเรียนออกแบบสิ่งทอเหมือนโบว์ มีพรสวรรค์และฝีไม้ลายมือที่เหมือน ๆ กัน แม้จะไปคนละแนว คนละสไตล์แต่ใคร ๆ เห็นก็บอกว่าญาณินเก่งมาก เส้นทางของน้องฉันดูจะไปได้สวยทีเดียว
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดญาณินจะใช้เวลาเรียนเพียงสามปีครึ่ง เทอมนี้เธออาจจะเรียนจบเลยก็ได้ ใคร ๆ ก็รู้ว่าญาณินฉลาดมากมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าญาณินจะได้รับการแสดงความรักของบุพการีเราน้อยกว่าฉันกับพี่วิน แต่ก็ไม่มีใครสามารถกังขามันสมองอันชาญฉลาดของเธอได้
ฉันรู้สึกว่าตัวเองคล้ายเป็ด ทำอะไรก็ไม่ดีที่สุดสักอย่าง เหมือนเป็ดที่ว่ายน้ำได้แต่จะดำน้ำก็ไม่ได้ หรือบินได้แต่ก็บินได้ไม่สูง ทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปหมดเลย
“ทำงานเป็นไงบ้าง” ฉันถามเพื่อนที่กำลังทานข้าวท่าทางเอร็ดอร่อย
“ดีกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ขายหมดเกลี้ยงตั้งแต่สองวันแรก แถมมียอดพรีฯเข้ามาเยอะกว่าที่คิดอีก” คำพูดของเพื่อนรักเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ของเธอ “ปิดจ็อบแล้วจะจัดปาร์ตี้ พาต้องไปนะ”
“ไม่พลาด” ฉันบอกเธอ “ลัคกี้อินเกมแล้ว เมื่อไหร่จะลัคกี้อินเลิฟจ๊ะ”
“ม่ายยยย” ยัยองค์หญิงโอดครวญ “ไม่เอาหรอก ยังไม่อยากมีใครตอนนี้”
“แน่ใจเหร๊อว่าไม่อยากมี” ฉันเสียงสูงพลางจิบไวน์แล้วเหล่ตามอง “รอน้องชายเอ็กซ์ก็บอกมา”
“ไม่ได้รอ แค่ใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ แล้วก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าคนที่เข้ามาจะถูกใจ” ฉันเบะปากน้อย ๆ เพราะรู้ทันว่าเธอกำลังคิดอะไรแต่ไม่อยากพูด “แต่พาเถอะ ทั้งลัคกี้อินเลิฟ ทั้งลัคกี้อินเกมเลยนี่”
“อะไร” ฉันมุ่นคิ้ว “เราไม่มีความรัก”
“เหรอ...ช่วงนี้เห็นอยู่กับเอ็กซ์บ่อยนะ เทโฮสต์ เทคนคุย เทกิ๊ก เทเด็ก เทเพื่อน หมดแล้วใช่ไหม” ยัยเพื่อนร่ายยาวมาก ๆ พลางยิ้มแววฉัน ทั้งนี้เพื่อนในความหมายของเธอคงไม่ได้หมายถึงเพื่อนจริง ๆ แบบฉันกับโบว์หรอกนะ แต่เธอหมายถึง FWB น่ะ
“ก็ว่างตรงกันเลยเจอกันบ่อย ส่วนคนอื่นก็เจอบ้างแค่ไม่บ่อยเพราะว่าเราทำงานไงจ๊ะ” ฉันอธิบายไปตามความจริง ฉันกับเอ็กซ์แค่บังเอิญว่าว่างตรงกัน
ส่วนฉันก็ไม่มีเวลาไปบาร์โฮสต์หรือนัดโฮสต์คนไหนเพราะว่าทำงานเยอะ ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานะเดียวกับเอ็กซ์ก็เจอบ้างนาน ๆ ที ไม่ก็แค่กินข้าวด้วยกันเฉย ๆ
“เด็กเจ๊พาไม่งอแงแล้วเหรอ”
“งอแงก็เทเลยสิ เราไม่ชอบคนพูดไม่รู้ความ” ยัยเพื่อนหัวเราะคิกคักใส่ฉัน
“แล้วกับเอ็กซ์อะ เป็นอะไรกัน”
“ก็เป็นเพื่อนกันไง เหมือนกับทุกคนนั่นแหละ” ฉันอธิบายไป แม้ฉันจะเจอเอ็กซ์บ่อยในช่วงนี้ แต่ก็เพราะว่าตอนที่ฉันอยากจะเจอใครสักคนเขาก็ว่างพอดี ฉันก็ถามหลายคนนะ แต่บางคนว่างไม่ตรงตอนที่ฉันอยากเจอไง อีกอย่างนะเอ็กซ์คุยง่าย หลายอย่างก็เข้าใจกันดี
“แล้วไม่อยากเป็นมากกว่าเพื่อนกันเหรอ เราว่าเคมีพากับเอ็กซ์ก็ดีออก” เพื่อนที่ปกติไม่เคยออกปากเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไหน ๆ เลยของฉันมากนักก็พูดมา แต่ฉันยังส่ายหน้าให้ “ถ้าเกิดว่าเปลี่ยนสถานะกันนะ ขอลงเรือเอ็กซ์พาขาดใจเลยล่ะ”
เพื่อนพูดเหมือนฉันตอนที่อยากให้เธอกลับมาคบกับแอมป์สมัยที่โบว์ยังเรียนมหาลัยเลยนะ
“เอ้อ ๆ ตอนออกจากเกตมาเจอพี่พัตด้วยล่ะ ลืมเล่าเลยมัวแต่หิว”
“เขาน่าจะพึ่งกลับจากบาหลีนะ” ฉันบอกไปอย่างที่รับรู้มาจากพี่พัตอีกที เพราะก่อนไปเขาได้บอกฉันน่ะ พี่พัตคือรุ่นพี่สมัยมหาลัย รู้จักเขาเพราะเรียนสาขาเดียวกัน แต่ตอนฉันเข้าเรียนปีหนึ่ง เขาอยู่ปีสี่แล้ว เราไม่ค่อยสนิทกันตอนเรียน แต่วนมาเจออีกทีต้นปีที่เพราะธุรกิจครอบครัวเขาทำประกันกับบริษัทฉัน
แม้จะรู้จักกันมากขึ้นกว่าสมัยเรียนได้ไม่นาน แต่ก็เริ่มรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาว่ากำลังคิดอะไรกับตัวเอง หมายถึงว่าฉันรู้ว่าเขาชอบฉันน่ะ
“กับพี่พัตนี่ยังไง คือคุย ๆ กันอยู่เหรอ”
“ไม่ได้คุย” ฉันตอบไปตามตรง และโบว์ก็เลิกถามเรื่องนี้ไป
หลังจากทานข้าวกับยัยองค์หญิงแล้วเราก็ไปเดินเล่นกันอีกนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายกัน เพื่อน ๆ สมัยมอปลายเรียกโบว์ว่าองค์หญิงเพราะเป็นคนที่เพียบพร้อมไปหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะหน้าตา รูปร่าง มันสมอง ครอบครัวก็มีหน้ามีตาในสังคม
แม้เมื่อก่อนเพื่อนจะถูกครอบครัวตีกรอบทางความคิดมากไป และเพื่อนฉันก็เป็นคนไม่ค่อยปฏิเสธทำให้เธอไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเท่าคนอื่น แต่พออะไร ๆ เปลี่ยนไปเพื่อนก็ถือว่าเติบโตมาได้อย่างดีมาก ๆ
ฉันกับโบว์เรียนด้วยกันตั้งแต่มอต้นลากยาวมาจนถึงมอปลาย แม้ฉันจะไม่ได้เก่งวิทย์คณิตมากเท่าเพื่อนแต่โบว์ก็ช่วยฉันมาตลอด และเธอเป็นคนที่ฉันสบายใจที่เล่าอะไรต่าง ๆ ให้ฟัง รวมถึงเป็นคนแรก ๆ ที่ฉันนึกถึงเสมอยามต้องการใครสักคนที่คอยรับฟัง
พอกลับถึงคอนโดฉันก็ลงมาพี่พัตข้างล่าง เขาแวะเอาของฝากจากบาหลีมาให้ แล้วฉันก็รอรับเอ็กซ์ด้วย วันนี้เอ็กซ์จะมาค้างด้วยน่ะนะ
“คนเมื่อกี้ ใครเหรอครับ” เอ็กซ์ถามฉันตอนที่เขาเดินเข้ามาหาฉัน จังหวะเดียวกันที่เอ็กซ์มาถึงตัวเขาโอบไหล่ฉันแล้วตอนนั้นพี่พัตที่เดินออกไปจากประตูคอนโดก็หันหน้าเขามา แล้วเห็นฉากนั้นพอดี
“รุ่นพี่สมัยมหาลัยน่ะ” ฉันตอบเรียบ ๆ และไม่ได้สนใจมองพี่พัตขนาดนั้น
“แต่เขาดูไม่ได้คิดกับคุณแค่รุ่นพี่นะครับ” เอ็กซ์แซวพลางกดเลขลิฟต์เมื่อเราเดินเข้ามา
“พี่เขาเหมือนจะจีบ ๆ เราอยู่น่ะ” ฉันก็ยอมรับไปตามที่รับรู้และสัมผัสได้
“แล้วเขาได้เป็นเหมือนเราไหม” ในความหมายของเอ็กซ์คงหมายถึงว่าฉันได้มีอะไรกับพี่พัตหรือเปล่านั่นแหละ ซึ่งคำตอบของฉันคือส่ายหัวให้ “พาไม่เคยมีอะไรกับเขาเหรอ”
“อื้อ” ฉันครางรับ “เพราะว่าเรารู้ว่าเขาชอบเราไง เราก็เลยไม่มีอะไรกับเขา”
“ทำไมล่ะ ถ้าลองมีอาจจะชอบเขาก็ได้นะ” ฉันส่ายหัวอีกครั้งไป
“เราไม่ชอบเขาหรอก แล้วก็คงไม่ชอบใครด้วย” ฉันตอบเสียงไม่ดังมาก “ถ้าเกิดว่าเรามีอะไรกับพี่พัตแล้วมันทำให้เขาคิดว่าเราก็ชอบเขาเหมือนกันก็คงแย่เลย เราไม่อยากให้ความหวังใคร แล้วตอนนี้เราก็ไม่ได้ให้ความหวังพี่เขาอยู่ด้วย เราคิดกับเขาแค่พี่น้องแล้วก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น”
“ถ้าพี่เขาได้ยินคงเสียใจแย่ เขาดูชอบพามากดูจากสายตา”
“เสียใจก็ต้องจัดการความรู้สึกตัวเอง เราไม่ได้ขอให้เขามาชอบเราสักหน่อย”
“ใจร้ายจังครับคุณ” ฉันหัวเรากับคำแซวของเอ็กซ์อีกครั้ง
“แต่ว่าเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคนอื่นดีกว่าเนอะ”
“ครับ พูดแค่เรื่องของเราก็พอแล้ว”
ชีวิตคู่น่ะใครบอกว่าแต่งงานแล้วจะจบ มันคือการเริ่มต้นต่างหาก และแม้จะแต่งงานกันมาหลายปีเราก็ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ต้องเรียนรู้ ปรับปรุงกันไปผมรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียคือการที่พยายามทำตัวเพอร์เฟคเพื่อให้ภรรยาและลูกรู้สึกมั่นคง จนลืมไปว่ามนุษย์คนหนึ่งไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคขนาดนั้น มนุษย์คนหนึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีช่วงเวลาที่เป็นคนแย่ ๆ หรือผิดพลาดกันได้ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยอยากยอมรับมันผมก็แค่อยากจะให้ภรรยากับลูกมองว่าผมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีน่ะอย่างที่พาลินบอก ผมมักจะบอกเธอเสมอว่ามีปัญหาอะไรให้บอกผมได้ทุกเรื่อง แต่กลับกลายเป็นผมเองที่ไม่ยอมเล่าปัญหาของตัวเองเพราะไม่อยากให้เธอกังวล ทั้งที่เราเป็นสามีภรรยากัน และมีอะไรควรจะคุยกันตรง ๆ แต่ผมก็ดันโกหกเพราะอยากให้เมียสบายใจซึ่งผลลัพธ์ของมันแม้ตอนแรกเมียจะสบายใจและเลิกระแคะระคาย แต่สุดท้ายกลับได้ปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมา ถ้าเกิดว่าวันนั้นผมไม่มั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยมว่าจัดการปัญหาได้ผมก็คงไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ บทเรียนครั้งนี้มันใหญ่มากเลยล่ะที่รักยังไม่หายโกรธอีกเหรอ ผมถามเมียรักหลังจากที่เมียมารับออกจากโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่ยอมคุยด้วยเท่าไหร่
“ว่าไงคะ ฉันจะถามอีกครั้งว่าได้นอนกับสามีฉันไหม” ฉันจ้องไปยังสองคนนั้น“เอ่อ...” ศิวัฒน์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ส่วนฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะมากเมื่อรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมื่อคืนสามีไม่ได้นอนกับคนอื่น แต่เด็กในท้องจะใช้ลูกของเขาอีกหรือเปล่าอันนั้นไม่แน่“คุณทำแบบนั้นทำไมคะคุณศิวัฒน์ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเอ็กซ์ไว้ใจคุณมาก ทำงานด้วยกันมานาน” ฉันมองไปยังฝ่ายชายก่อน เพราะภาพนั้นก็เห็นเต็มตาว่าเขาช่วยเธอถ่ายรูป “คุณวางยานอนหลับสามีฉันเหรอคะ สามีฉันเกือบจะตายคุณรู้ไหม”“ถ้าไม่สารภาพมาฉันแจ้งตำรวจจับแน่” พ่อเอ็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมและทรงพลัง“ก็นังนี่มันแบล็กเมล์ผมก่อนครับคุณพาลิน คุณท่าน” เมื่อถูกกดดันเขาก็สารภาพออกมา “มันขู่ว่าจะเอาคลิปที่ผมนอนกับมันไปให้เมียผมดู ไปบอกเมียผม”“อ้าว แกเองไม่ใช่เหรอที่เสนอว่าจะช่วยฉันจับคุณเอ็กซ์น่ะ” พอมิตรแตกคอกันก็กลายเป็นศัตรูกันได้ง่ายดายนัก “แกเองก็ไปข่มขู่เขา เอาเงินจากเขามาเหมือนกัน”“ว่าไงนะ!” ฉันตะเบ็งเสียงจนรู้สึกเหมือนว่าเส้นเลือดในกายมันเต้นตุบ ๆ“วันที่เลี้ยงลูกค้าจากฝรั่งเศสที่ฉันส่งอีเมลไปหาคุณพาลินไอ้นี่เป็นคนสั่งฉันค่ะ มันออกความคิดมอมเหล้า
พิเศษใส่ใจ 3วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 2ตอนนั้นคำพูดของเธอทำให้ฉันถึงกับหูดับไปครู่ใหญ่“พา เอ็กซ์ไม่ตื่น ชีพจรเต้นอ่อนมากเลยด้วย” คำพูดของโบว์ทำให้ฉันพึ่งได้สติขึ้นมา โบว์อาจจะรู้เพราะเธอเคยเรียนหมอมาก็ได้ แต่ฉันน่ะก็ไม่รู้จะตกใจกับอะไรก่อนดี“คุณพาคะ คุณพาลิน” คุณมัทนา ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย เดินมาจับแขนฉันไว้เธอคงเห็นว่าสีหน้าฉันไม่สู้ดี ก่อนจะหันไปสั่งคนอื่น “วัฒน์เรียกรถพยาบาลเร็ว”ฉันเหมือนคนสติหลุด แบลงค์ไปหมดทุกอย่าง แต่ดูเหมือนฉันจะคิดถูกมากที่พาโบว์มาด้วยเพราะเธอดูจะมีสติกว่าฉันมาก เธอจึงเป็นคนจัดการทุกอย่างแทนฉันได้ดี ในขณะที่ฉันคล้ายกับคนวิญญาณหลุดออกจากร่างเลยล่ะ“หนูพา หนูพาลูก” ผ่านไปราวสี่ห้าชั่วโมงแม่ของเอ็กซ์มาถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าเอ็กซ์ได้รับยานอนหลับมากจนเกินไป แต่หมอช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน แต่เขายังไม่ฟื้นเลย“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอหนูพาลิน” พ่อเอ็กซ์ถามฉัน แต่โบว์รู้ว่าฉันไม่อยากพูดถึงได้เป็นคนพูดให้ พ่อกับแม่เอ็กซ์พาลูกชายฉันมาด้วย เข้าใจว่าคงไม่ได้พาลูกไปโรงเรียนเพราะฉันโทรบอกตั้งแต่เช้า พอเห็นลูกฉันก็กอดลูกแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย“แม่ไม่อยากเชื่อว่าตาเอ็กซ์มันจะท
แม้ว่าวันนี้จะเป็นหนึ่งวันที่เราสองคนดูจะมีอิสระขึ้นมาเพราะไม่มีสามีกับลูกให้คอยห่วง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เหงาแปลก ๆ อยู่ดีล่ะ ฉันก็แอบห่วงลูกบ้างว่าคืนนี้ลูกจะนอนหลับสนิทไหม จะงอแงหรือเปล่านี่ล่ะนะที่บอกว่ามีลูกเหมือนมีห่วงมาผูกคอ พอมีลูกแล้วฉันก็จะนึกถึงลูกก่อนตัวเองเสมอเลย แต่มันเป็นห่วงที่สุขใจจริง ๆ นะ เพราะฉันรักลูกมากเลยล่ะNatacha1234555@gmail.com: เผื่อคิดถึงสามีเลยส่งรูปมาฝากค่ะแนบรูปภาพแนบรูปภาพเที่ยงคืนของวันที่เอ็กซ์ไปวันแรกฉันได้รับอีเมลอีกแล้ว ฉันยังไม่นอนเพราะว่าดูซีรีส์อยู่ แต่พอเปิดดูแล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อกเมื่อภาพที่เห็นข้างในคือรูปผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้กับสามีของฉัน ผู้หญิงในรูปปิดหน้าตัวเองไว้ แต่เห็นหน้าสามีฉันชัดเจนมากมือไม้ฉันสั่นเทาไปหมด ความโกรธเคืองผสมกับความไม่พอใจแล่นเข้ามาจนมีเหงื่อผุดออกมาตามตัว ตอนนั้นฉันโทรไปหาโบว์ ร้องไห้ระบายทุกอย่างออกไป และเพื่อนก็ตกใจมากเหมือนกันที่เห็นภาพที่ส่งไปให้ แต่ฉันมั่นใจแล้วนะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเพราะแม้จะเบลอหน้า แต่ว่าฉันจำสีผมได้ชัดเจนมาก“พา อย่าขับเร็วสิ” โบว์บอกฉันระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกัน หลังจ
“กลับมาแล้วเหรอคะ” วันนี้ฉันกลับมาบ้านและเห็นสามีกลับถึงก่อนแถมยังทักทายฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แถมเขาก็ยังเป็นคนไปรับลูกกลับมาด้วย“แม่ค้าบวันนี้พ่อไปรับพี่ด้วยนะ พาพี่ไปกินไอติมด้วย” ฉันยิ้มให้ลูก“ทำการบ้านหรือยังคะ” ฉันเบนความสนใจไปหาลูกชายแทนที่จะตอบรับคำถามแรกของสามี“ยังเลยครับ” ลูกชายตอบมา“พี่เอิร์ธขึ้นไปทำการบ้านไปลูกไป เสร็จแล้วจะได้ลงมาทานข้าวนะ” ลูกชายรับคำก่อนจะวิ่งไปหาพี่เลี้ยง ส่วนฉันวันนี้รู้สึกตึงกับสามีมาก ๆ ไม่อยากจะเข้าไปหาเขาเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“เหนื่อยไหม วันนี้ประชุมประจำไตรมาสไม่ใช่เหรอ” เขาถามแล้วขยับเข้ามาหาตอนฉันนั่งลงบนโซฟา ฉันส่ายหัวให้เป็นคำตอบว่าไม่เหนื่อยโดยที่ยังไม่ยอมพูดกับเขา เมื่อเช้าน่ะอาการของสามีชวนให้ฉันขุ่นเคืองใจไม่ใช่น้อยเลยล่ะ “พาขา โกรธอะไรเอ็กซ์เหรอ”“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วได้ล่ะ” ฉันถามประโยคนี้แทนที่จะโฟกัสประโยคอื่น“ก็กลับดึกหลายวันแล้วไง วันนี้ไม่มีงานอะไรค้างเลยกลับเร็วไงคะ” เขาขยับเข้ามาหาก่อนจะกอดฉันจากทางด้านข้างแล้วหอมแก้มหนึ่งที “เมื่อเช้าเอ็กซ์ขอโทษนะคะที่พูดไม่ดีกับพา เอ็กซ์แค่เครียด ๆ เรื่องงานที่มีปัญหาอยู่ เอ็กซ์ควบคุมไม่ไ
พิเศษใส่ใจ 2วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 1Palin Palinthida Talk“แม่ค้าบ ทำไมพ่อกลับบ้านช้าอีกแล้ว” ระหว่างที่ฉันกำลังเอานมอุ่นออกจากไมโครเวฟให้ลูกชายวัยห้าขวบเขาก็มองตาปริบ ๆ พ่อไม่ได้อ่านนิทานให้พี่ฟังหลายวันแล้วนะ“ช่วงนี้พ่อเขาทำงานหนักค่ะลูก เลยต้องเลิกงานดึก” ฉันอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ช่วงนี้สามีทำงานหนักเพราะว่าบริษัทที่ผลิตน้ำชาบริษัทใหม่ของเรากำลังจะเริ่มตีตลาดฝั่งยุโรปเอ็กซ์เลยต้องทำงานหนักเป็นพิเศษหลังจากก่อตั้งบริษัทมาเกือบห้าปีมียอดขายทะลุเป้าทุกปี“พี่คิดถึงพ่อ” ลูกชายบ่นส่วนฉันก็วางนมลง“อดทนนะครับ เพราะว่าพ่อทำงานหนักเพื่อพี่เอิร์ธไง” ฉันลูบหัวลูก “ดื่มนมให้หมดนะคะเดี๋ยววันนี้แม่ให้พี่เอิร์ธดูการ์ตูนสามสิบนาทีแล้วก็อ่านนิทานให้พี่เอิร์ธฟังสองเรื่องเลย โอเคไหมคะ”“โอเค” ลูกชายทำท่าโอเคให้ แต่ว่านะเอ็กซ์กลับบ้านดึกติด ๆ กันเกือบสองสัปดาห์แล้ว พี่เอิร์ธเป็นเด็กติดพ่อน่ะเลยงอแงอยากให้พ่อส่งเข้านอนเหมือนทุก ๆ วันปกติแล้วฉันกับเอ็กซ์จะแบ่งหน้าที่กันในการดูแลลูก เป็นอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่พี่เอิร์ธเป็นทารกฉันจะอยู่กับเขาตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่พอเอ็กซ์เลิกงานเขาก็จะมาดู







