LOGINหลอมรักครั้งที่ 4
1/3
หลายวันผ่านมาฉันไม่ค่อยได้เจอเอ็กซ์เลย เขาบอกว่าเขาไปมาเก๊าและเราก็ไม่ค่อยคุยอะไรกันอีก ส่วนฉันพอพ่อกลับมาก็ไม่ได้นัดเจอใครและเราใช้เวลากับครอบครัวกันที่บ้าน พ่อฉันอยู่แค่สัปดาห์เดียวก็กลับ แล้วพอพ่อกลับไปวันถัดมาฉันก็เลยนัดกินข้าวกับพี่บุ๊คที่บ้าน roof top ร้านหนึ่ง
ตอนที่ฉันกำลังเดินเข้าร้านไปฉันก็เห็นด้านหลังของคู่ชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังคุยกับพนักงานอยู่ก่อนแล้ว เหมือนพนักงานกำลังจะพาเขาไปที่โต๊ะ แต่มีจังหวะที่ผู้ชายคนนั้นหันมาฉันก็เห็นว่าคือเอ็กซ์
“อ้าว ไอ้เอ็กซ์” พี่บุ๊คเป็นคนเอ่ยทัก แต่ว่าเขารู้จักกันเหรอ....
“อ้าวพี่ หวัดดีครับ” เขายกมือไหว้ทำให้ผู้หญิงที่มาด้วยกันกับเขาหันมาและไหว้พี่บุ๊คตาม เอ็กซ์ไม่ได้มองฉันด้วยสายตาที่ทำให้คนอื่นคิดว่ารู้จักกัน
“ไม่ได้เจอนานเลยตั้งแต่ที่สวิตฯ คราวนั้น” พี่บุ๊คพูดคุยกันกับเอ็กซ์และฉันก็จับสังเกตได้ว่าเขาน่าจะรู้จักกันมานานแล้วจริง ๆ เอ็กซ์ดูเคารพพี่บุ๊ค “หมี่ก็ด้วยนะ”
“ค่ะ พี่บุ๊คสบายดีนะคะ หมี่ไปพักที่เซนแกรนด์เขาใหญ่วันนั้นไม่ได้เจอพี่เลยเห็นน้องใบเฟิร์นบอกว่าพี่ยังไม่กลับ” อ๋า ท่าทางรู้จักกันพอสมควรเลยล่ะเพราะว่าใบเฟิร์นคือน้องสาวของพี่บุ๊คนี่ แต่ฉันไม่สนิทกับใบเฟิร์นหรอกรู้จักกันผ่าน ๆ ตามงานเฉย ๆ “มาทานข้าวเหรอคะ”
“ครับ งั้นตามสบายนะ” พี่บุ๊คพาฉันแยกมานั่งที่โต๊ะที่เราจองไว้ ส่วนเอ็กซ์ก็แยกไปกับผู้หญิงที่เขามาด้วย แต่โต๊ะที่เขานั่งก็ดันเป็นโต๊ะแถวเดียวกับฉันและเอ็กซ์นั่งหันหน้ามาทางฉันพอดี
“ใครเหรอคะ” เมื่อมานั่งกันสองคนฉันก็ถามพี่บุ๊คบ้าง
“รุ่นน้องตอนมัธยมพี่น่ะ ครอบครัวมัดหมี่ขายที่ดินที่ทำเซนแกรนด์ภูเก็ตให้พี่ แล้วก็ขายที่ทำคลินิกให้พี่เบนซ์ พี่ชายพี่ด้วยเลยรู้จักกัน” แม้ว่าคำตอบที่รับรู้จะไม่ใช่คำตอบที่ต้องการแต่ฉันก็พยักหน้ารับ “ส่วนเอ็กซ์น่ะเป็นรุ่นน้องสมัยมัธยมเหมือนกัน รู้จักกันเพราะมันเคยคบกับเพื่อนพี่”
“อ๋า สนิทกันมากเหรอคะ” ฉันถามไปอีก
“ไม่ค่อยหรอก แค่เจอหน้ากันผ่าน ๆ หลายครั้งแล้วก็คุยงานกันบ้าง” ฉันพยักหน้ารับเบา ๆ
“แล้วสองคนนั้นเป็นแฟนกันเหรอคะ” เพราะว่าสงสัยก็เลยถามออกไปตรง ๆ
ฉันก็แค่กลัวว่าเอ็กซ์กับผู้หญิงที่มาด้วยจะเป็นแฟนกัน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นฉันว่าฉันคงไม่โอเคหรอกที่จะไปนอนกับแฟนของคนอื่น
“ใช่มั้ง ล่าสุดที่พี่เจอเอ็กซ์ที่สวิตฯ ก็เห็นไปกับมัดหมี่นะ เวลาเจอตามงานก็เห็นหมี่ไปกับเอ็กซ์บ่อย ๆ” ฉันยกน้ำขึ้นมาจิบตอนได้ฟัง “เพื่อนพี่เคยถามหมี่ หมี่ก็บอกว่าตอนนั้นกำลังคุย ๆ กับเอ็กซ์อยู่ ว่าแต่น้องลินถามทำไมเหรอ หรือว่ารู้จักกัน”
“ค่ะ พ่อพาทำธุรกิจกับพ่อเอ็กซ์ ก็เลยเคยเจอกันบ้างแต่ไม่สนิทหรอก” พี่บุ๊คผงกหัวเบา ๆ “แต่ว่าเราไม่คุยเรื่องของคนอื่นกันดีกว่านะคะ”
“ครับ คนอื่นไม่น่าสนใจเท่าน้องลินหรอก” ฉันยิ้มหวานให้กับคำพูดของพี่บุ๊ค
เราทานข้าวกันแล้วก็คุยกันไป คนที่ฉันรู้สึกว่าเข้ากันได้ดีรองลงมาจากเอ็กซ์ก็คงเป็นพี่บุ๊คแหละ แม้เขาจะเป็นคนละแบบคนละสไตล์กับเอ็กซ์ก็ตาม
พี่บุ๊คดูมาดเป็นหนุ่มนักธุรกิจ Gentle man อารมณ์คล้าย ๆ พี่โอห์ม พี่ชายคนโตของเอ็กซ์น่ะ จะดูซอฟต์กว่าเป็นหนุ่มละมุนกว่าเอ็กซ์มาก ในขณะที่เอ็กซ์จะเป็นคนที่ภาพลักษณ์ดูแข็งกว่าดิบ ๆ กว่า เด็ดขาดกว่าด้วย แต่เอ็กซ์ไม่ใช่คนโผงผาง นักเลงหัวไม้นะ แค่ภาพลักษณ์อาจจะแข็งกว่าเฉย ๆ
น้ำหอมที่พี่บุ๊คใช้จะเป็นกลิ่นโทนสุภาพ เบา ๆ สะอาดสะอ้าน แต่น้ำหอมที่เอ็กซ์ใช้จะออกแนวเซ็กซี่ ผสมสปอร์ตหน่อย ๆ แต่เขาก็เป็นคนที่เลือกใช้น้ำหอมให้เข้ากับช่วงเวลาได้ดีเหมือนกัน แต่เอ็กซ์ตัวหอมนะ หอมแบบที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าจะพูดยังไง คือฉันไม่ได้กลิ่นแบบนั้นจากผู้ชายคนไหนน่ะ
พอกินข้าวกับพี่บุ๊คเสร็จแล้วคืนนั้นฉันไปค้างที่โรงแรมของพี่บุ๊ค เขาไม่ได้พักอยู่ที่บ้านแต่พักอยู่โรงแรมของเขา ปกติคนที่มีกิจการโรงแรมก็แบบนี้แหละ มีห้องของตัวเองไว้สะดวกสบายดี
วันถัดมาฉันมีนัดกับญาติฝั่งแม่เพื่อช่วยเขาเลือกของขวัญวันเกิด แล้วก็กินข้าวกัน ซึ่งระหว่างที่เรากำลังทานมื้อเที่ยงกันอยู่นั้นฉันหันออกไปมองนอกกระจกร้านแล้วมองเห็นร้านฝั่งตรงข้ามถนนฉันก็จำได้ว่าผู้หญิงที่มากับเอ็กซ์เมื่อวานนั้นยืนอยู่ ท่าจะกำลังรอรถ
“เอ้านั่น พี่มัดหมี่นี่นา” แยม ญาติผู้น้องลูกสาวของน้าพูดมาและฉันก็พึ่งเห็นว่าเขาหันไปมองนอกร้านเหมือนกัน ฉันหันกลับมาแล้วแสร้งทำเป็นถาม
“ใครอะ คนรู้จักเหรอ” ระหว่างหั่นเนื้อฉันก็พูด
“เขาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับคนคุยแยมเองแหละค่ะ”
“กุมภ์น่ะเหรอ” น้องสาวพยักหน้าให้ ฉันรู้จักกุมภ์อยู่บ้างผ่านการบอกเล่าของน้องสาว และรู้ว่ากุมภ์อยู่คอนโดเดียวกับฉันเอง แล้วก็น่าจะเป็นเพื่อนกับเอ็กซ์ เพราะเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนโน้นที่ฉันไปทานข้าวเย็นกับพี่พัตแล้วก็ดื่มกันนิดหน่อยเอ็กซ์ก็ไปร้านนั้นแล้วก็เห็นเขาแชร์สตอรีมาจากกุมภ์อีกที
ฉันเคยเห็นไอจีกุมภ์สองสามครั้งผ่านการแท็กของแยม แต่ก็ไม่ได้ฟอลกัน
“มากับใครกันนะ มากับพี่เอ็กซ์หรือเปล่า” มัดหมี่มองอย่างสงสัยทำให้ฉันลอบมองไปยังฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ผู้หญิงที่ชื่อมัดหมี่ยังยืนอยู่ แต่อึดใจเดียวเท่านั้นก็มีรถมาจอดเทียบหน้าตรงที่เธอยืน
รถยนต์คันนั้นฉันจำมันได้ดีว่าเป็นของใคร เพราะฉันก็เคยนั่งมันอยู่บ่อย ๆ
“รถพี่เอ็กซ์จริงด้วย อย่างนี้ต้องถามพี่กุมภ์แล้วว่าสองคนนี้คบกันจริง ๆ ใช่ไหม” ตอนนั้นแยมก็เอามือถือขึ้นมากดยิก ๆ และเหมือนจะเม้าท์มอยกับคนคุยของเธอ
“ทำไมต้องเม้าท์ขนาดนั้นกันล่ะ” ฉันถามน้องอย่างเรียบ ๆ
“ก็แหม...หนูก็ไม่อยากจะเม้าท์หรอกค่ะพี่พา” แปลว่าอยากเม้าท์แน่ ๆ “แต่พี่พาก็น่าจะรู้จักพี่เอ็กซ์ใช่ไหมคะ พีรกานต์ อัครสิริกุล ลูกชายเจ้าสัวอรรถ หนูเห็นพี่พาทำงานกับเขานี่”
“รู้บ้าง” ฉันพยักหน้าน้อย ๆ “ทำไมล่ะ”
“ก็เวลาหนูไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนพี่กุมภ์ทีไรก็เห็นสองคนนี้มาด้วยกันบ้าง ไม่ก็บางทีแยกกันมาแต่กลับด้วยกันตลอด” ฉันแสร้งทำเป็นไม่มองว่าเรื่องที่น้องพูดเป็นอรรถรสขนาดนั้นแต่ก็ออกจะสนใจอยู่ “พี่กุมภ์ก็เคยพูด ๆ กับหนูว่าสองคนนี้อาจจะมีซัมติงกัน แล้วดู ๆ พี่มัดหมี่เขาก็แสดงออกอยู่นะ”
“.....” ฉันไม่ตอบอะไรนอกจากเป็นผู้ฟังที่ดี
“แต่เหมือนเคยได้ยินพี่มัดหมี่เขาหลุดบอกแฟนพี่หนึ่งเพื่อนพี่กุมภ์อีกคนว่ากำลังคุย ๆ อยู่กับพี่เอ็กซ์อะ” สองคนแล้วที่บอกกับฉันแบบนี้ “แต่ว่ามากินข้าวด้วยกันสองคนอย่างนี้คิดว่าคงคบกันแล้วชัวร์”
“ตั้งใจกินข้าวจ้ะ เดี๋ยวพี่ต้องแวะไปรับญาณินต่อนะ”
“แฮะ ๆ ลืมเลย แต่ว่าแยมฝากบอกน้องญาณินคนสวย น่ารัก และเลิศที่สุดในโลกใบนี้ด้วยนะว่าพี่แยมคิดถึงมาก ๆ” ก็อวยน้องเกินไปแหละบางที
หลังจากนั้นฉันกับแยมไม่ได้พูดอะไรกันมากเรื่องของคนอื่น และหันมาสนใจเรื่องของฝั่งครอบครัวเราบ้าง พอทานมื้อเที่ยงฉันก็ไปรับน้องสาวฉันที่มหาลัยแล้วก็จะกินข้าวกับพี่วินกันตอนดึก
EXA: ตกลงว่าพาลินจะไปฝรั่งเศสกับเราไหมครับ
ระหว่างที่กำลังรอญาณินเลิกเรียนฉันก็เล่นมือถือไปเรื่อย แล้วก็เห็นว่าข้อความของเอ็กซ์เด้งมาบนหน้าจอ แต่ฉันปัดมันขึ้นไปโดยไม่อ่านและไม่ตอบเขา ฉันก็แค่ยังไม่ตัดสินใจน่ะ แม้ว่าวันนี้จะวันที่สิบหกแล้วก็ตามที ไม่รู้สิแต่ประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของฉันตอนนี้อาจจะไม่ไป
“มาแล้วค้าบ ๆ” ญาณินเปิดประตูรถเข้ามาพร้อมกับยิ้มแฉ่งให้ฉัน “รอนานไหม ณินไปต่อแถวรอซื้อชาไข่มุกกับหนมปังม้าลายมาให้พี่พาด้วยนะ อะ กิน ๆ เดี๋ยวละลาย”
“น่ารักจังเลยน้องสาวใครกัน” ฉันรับชานมไข่มุกมาจากน้องสาว ดูดสองสามอึกแล้วก็พาเธอขับรถกลับมาที่คอนโดก่อน ญาณิไม่อยากใส่ชุดนิสิตไปกินข้าวน่ะแต่เมื่อเช้าเห็นว่ามากับเพื่อนแล้วก็งอแงให้ฉันมารับกลับ น้องฉันขี้อ้อนนะ ส่วนฉันก็สายแพ้ลูกอ้อน
ฉันพาน้องมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วก็จะไปดูหนังกันก่อนเพื่อรอพี่วินประชุมเสร็จ แล้วก็จะไปหาอะไรกินกัน เราสามคนพี่น้องมักจะมีกิจกรรมร่วมกันแบบนี้ตลอด
“พี่พารอแป๊บนะเดี๋ยวณินมา” ฉันหันหน้าไปมองน้องที่ยังไม่ได้แต่งหน้าด้วยซ้ำ “ณินเอารองเท้าลงไปให้เตก่อนเตจะกลับบ้าน เตมารอข้างล่างไม่กล้าขึ้นมา”
“แล้วกลัวอะไร พี่ไม่กัดหรอก” ฉันแซว เตคือแฟนของน้องที่พึ่งคบกันได้ไม่ถึงเดือน แต่เห็นว่าคุยกันนานแล้ว ฉันเคยเห็นในไอจีบ้างแต่ยังไม่เคยเจอตัวจริง
Rrrrrr Rrrrrr ระหว่างที่ญาณินลงไปสายมือถือฉันก็ถูกเรียกเข้า และคนที่โทรมาคือ ‘EXA’ ฉันมองอยู่อย่างนั้นค้างไว้จนนานสองนานในช่วงเวลาที่มันดังจนตัดไปเอง ฉันไม่ได้กดรับ แต่ก็ไม่อยากกดตัดสายเลยปล่อยให้มันหลุดไป ฉันก็แค่ไม่อยากจะคุยกับเขาตอนนี้เท่านั้น
“เป็นอะไรเอ่ย หน้ามุ่ย” ห้านาทีต่อมาญาณินกลับขึ้นมาบนห้องแล้วก็ทักฉัน
“เปล่าอะ พี่แค่เบื่อ ๆ มาพี่ทำผมให้จะได้ไปสักทีเดี๋ยวก็ไม่ทันรอบหนัง”
“วันนี้ญาณิณอยากทำลอนนะ”
“อือ เดี๋ยวพี่จะทำให้สวย ๆ เลย” น้องสาวยิ้มหน้าบาน ส่วนฉันปิดเสียงมือถือให้เข้าโหมดสั่นแล้วก็เปิดโหมดห้ามรบกวนด้วย ฉันอยากใช้เวลากับครอบครัวกับพี่ชายน้องสาวโดยไม่มีใครมารบกวน
ฉันก็เป็นอย่างนี้ ไม่แคร์ใครหรอก ไม่พอใจที่ฉันเป็นอย่างนี้ก็แค่ไป ฉันอยากคุยเมื่อไหร่ก็เดี๋ยวคุยเอง ถ้าพูดกันรู้เรื่องก็อยู่ยาว ๆ
ชีวิตคู่น่ะใครบอกว่าแต่งงานแล้วจะจบ มันคือการเริ่มต้นต่างหาก และแม้จะแต่งงานกันมาหลายปีเราก็ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ต้องเรียนรู้ ปรับปรุงกันไปผมรู้ว่าตัวเองมีข้อเสียคือการที่พยายามทำตัวเพอร์เฟคเพื่อให้ภรรยาและลูกรู้สึกมั่นคง จนลืมไปว่ามนุษย์คนหนึ่งไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคขนาดนั้น มนุษย์คนหนึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย มีช่วงเวลาที่เป็นคนแย่ ๆ หรือผิดพลาดกันได้ ซึ่งผมก็ไม่ค่อยอยากยอมรับมันผมก็แค่อยากจะให้ภรรยากับลูกมองว่าผมเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีน่ะอย่างที่พาลินบอก ผมมักจะบอกเธอเสมอว่ามีปัญหาอะไรให้บอกผมได้ทุกเรื่อง แต่กลับกลายเป็นผมเองที่ไม่ยอมเล่าปัญหาของตัวเองเพราะไม่อยากให้เธอกังวล ทั้งที่เราเป็นสามีภรรยากัน และมีอะไรควรจะคุยกันตรง ๆ แต่ผมก็ดันโกหกเพราะอยากให้เมียสบายใจซึ่งผลลัพธ์ของมันแม้ตอนแรกเมียจะสบายใจและเลิกระแคะระคาย แต่สุดท้ายกลับได้ปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมา ถ้าเกิดว่าวันนั้นผมไม่มั่นใจในตัวเองเต็มเปี่ยมว่าจัดการปัญหาได้ผมก็คงไม่ต้องเจออะไรแบบนี้ บทเรียนครั้งนี้มันใหญ่มากเลยล่ะที่รักยังไม่หายโกรธอีกเหรอ ผมถามเมียรักหลังจากที่เมียมารับออกจากโรงพยาบาลแต่ก็ยังไม่ยอมคุยด้วยเท่าไหร่
“ว่าไงคะ ฉันจะถามอีกครั้งว่าได้นอนกับสามีฉันไหม” ฉันจ้องไปยังสองคนนั้น“เอ่อ...” ศิวัฒน์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ส่วนฉันก็รู้สึกดีขึ้นมาเยอะมากเมื่อรู้ว่าจริง ๆ แล้วเมื่อคืนสามีไม่ได้นอนกับคนอื่น แต่เด็กในท้องจะใช้ลูกของเขาอีกหรือเปล่าอันนั้นไม่แน่“คุณทำแบบนั้นทำไมคะคุณศิวัฒน์ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเอ็กซ์ไว้ใจคุณมาก ทำงานด้วยกันมานาน” ฉันมองไปยังฝ่ายชายก่อน เพราะภาพนั้นก็เห็นเต็มตาว่าเขาช่วยเธอถ่ายรูป “คุณวางยานอนหลับสามีฉันเหรอคะ สามีฉันเกือบจะตายคุณรู้ไหม”“ถ้าไม่สารภาพมาฉันแจ้งตำรวจจับแน่” พ่อเอ็กซ์พูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมและทรงพลัง“ก็นังนี่มันแบล็กเมล์ผมก่อนครับคุณพาลิน คุณท่าน” เมื่อถูกกดดันเขาก็สารภาพออกมา “มันขู่ว่าจะเอาคลิปที่ผมนอนกับมันไปให้เมียผมดู ไปบอกเมียผม”“อ้าว แกเองไม่ใช่เหรอที่เสนอว่าจะช่วยฉันจับคุณเอ็กซ์น่ะ” พอมิตรแตกคอกันก็กลายเป็นศัตรูกันได้ง่ายดายนัก “แกเองก็ไปข่มขู่เขา เอาเงินจากเขามาเหมือนกัน”“ว่าไงนะ!” ฉันตะเบ็งเสียงจนรู้สึกเหมือนว่าเส้นเลือดในกายมันเต้นตุบ ๆ“วันที่เลี้ยงลูกค้าจากฝรั่งเศสที่ฉันส่งอีเมลไปหาคุณพาลินไอ้นี่เป็นคนสั่งฉันค่ะ มันออกความคิดมอมเหล้า
พิเศษใส่ใจ 3วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 2ตอนนั้นคำพูดของเธอทำให้ฉันถึงกับหูดับไปครู่ใหญ่“พา เอ็กซ์ไม่ตื่น ชีพจรเต้นอ่อนมากเลยด้วย” คำพูดของโบว์ทำให้ฉันพึ่งได้สติขึ้นมา โบว์อาจจะรู้เพราะเธอเคยเรียนหมอมาก็ได้ แต่ฉันน่ะก็ไม่รู้จะตกใจกับอะไรก่อนดี“คุณพาคะ คุณพาลิน” คุณมัทนา ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย เดินมาจับแขนฉันไว้เธอคงเห็นว่าสีหน้าฉันไม่สู้ดี ก่อนจะหันไปสั่งคนอื่น “วัฒน์เรียกรถพยาบาลเร็ว”ฉันเหมือนคนสติหลุด แบลงค์ไปหมดทุกอย่าง แต่ดูเหมือนฉันจะคิดถูกมากที่พาโบว์มาด้วยเพราะเธอดูจะมีสติกว่าฉันมาก เธอจึงเป็นคนจัดการทุกอย่างแทนฉันได้ดี ในขณะที่ฉันคล้ายกับคนวิญญาณหลุดออกจากร่างเลยล่ะ“หนูพา หนูพาลูก” ผ่านไปราวสี่ห้าชั่วโมงแม่ของเอ็กซ์มาถึงโรงพยาบาล หมอบอกว่าเอ็กซ์ได้รับยานอนหลับมากจนเกินไป แต่หมอช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทัน แต่เขายังไม่ฟื้นเลย“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอหนูพาลิน” พ่อเอ็กซ์ถามฉัน แต่โบว์รู้ว่าฉันไม่อยากพูดถึงได้เป็นคนพูดให้ พ่อกับแม่เอ็กซ์พาลูกชายฉันมาด้วย เข้าใจว่าคงไม่ได้พาลูกไปโรงเรียนเพราะฉันโทรบอกตั้งแต่เช้า พอเห็นลูกฉันก็กอดลูกแล้วก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย“แม่ไม่อยากเชื่อว่าตาเอ็กซ์มันจะท
แม้ว่าวันนี้จะเป็นหนึ่งวันที่เราสองคนดูจะมีอิสระขึ้นมาเพราะไม่มีสามีกับลูกให้คอยห่วง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เหงาแปลก ๆ อยู่ดีล่ะ ฉันก็แอบห่วงลูกบ้างว่าคืนนี้ลูกจะนอนหลับสนิทไหม จะงอแงหรือเปล่านี่ล่ะนะที่บอกว่ามีลูกเหมือนมีห่วงมาผูกคอ พอมีลูกแล้วฉันก็จะนึกถึงลูกก่อนตัวเองเสมอเลย แต่มันเป็นห่วงที่สุขใจจริง ๆ นะ เพราะฉันรักลูกมากเลยล่ะNatacha1234555@gmail.com: เผื่อคิดถึงสามีเลยส่งรูปมาฝากค่ะแนบรูปภาพแนบรูปภาพเที่ยงคืนของวันที่เอ็กซ์ไปวันแรกฉันได้รับอีเมลอีกแล้ว ฉันยังไม่นอนเพราะว่าดูซีรีส์อยู่ แต่พอเปิดดูแล้วก็ต้องตกใจจนแทบช็อกเมื่อภาพที่เห็นข้างในคือรูปผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้กับสามีของฉัน ผู้หญิงในรูปปิดหน้าตัวเองไว้ แต่เห็นหน้าสามีฉันชัดเจนมากมือไม้ฉันสั่นเทาไปหมด ความโกรธเคืองผสมกับความไม่พอใจแล่นเข้ามาจนมีเหงื่อผุดออกมาตามตัว ตอนนั้นฉันโทรไปหาโบว์ ร้องไห้ระบายทุกอย่างออกไป และเพื่อนก็ตกใจมากเหมือนกันที่เห็นภาพที่ส่งไปให้ แต่ฉันมั่นใจแล้วนะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครเพราะแม้จะเบลอหน้า แต่ว่าฉันจำสีผมได้ชัดเจนมาก“พา อย่าขับเร็วสิ” โบว์บอกฉันระหว่างที่นั่งรถไปด้วยกัน หลังจ
“กลับมาแล้วเหรอคะ” วันนี้ฉันกลับมาบ้านและเห็นสามีกลับถึงก่อนแถมยังทักทายฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แถมเขาก็ยังเป็นคนไปรับลูกกลับมาด้วย“แม่ค้าบวันนี้พ่อไปรับพี่ด้วยนะ พาพี่ไปกินไอติมด้วย” ฉันยิ้มให้ลูก“ทำการบ้านหรือยังคะ” ฉันเบนความสนใจไปหาลูกชายแทนที่จะตอบรับคำถามแรกของสามี“ยังเลยครับ” ลูกชายตอบมา“พี่เอิร์ธขึ้นไปทำการบ้านไปลูกไป เสร็จแล้วจะได้ลงมาทานข้าวนะ” ลูกชายรับคำก่อนจะวิ่งไปหาพี่เลี้ยง ส่วนฉันวันนี้รู้สึกตึงกับสามีมาก ๆ ไม่อยากจะเข้าไปหาเขาเหมือนทุกวันที่ผ่านมา“เหนื่อยไหม วันนี้ประชุมประจำไตรมาสไม่ใช่เหรอ” เขาถามแล้วขยับเข้ามาหาตอนฉันนั่งลงบนโซฟา ฉันส่ายหัวให้เป็นคำตอบว่าไม่เหนื่อยโดยที่ยังไม่ยอมพูดกับเขา เมื่อเช้าน่ะอาการของสามีชวนให้ฉันขุ่นเคืองใจไม่ใช่น้อยเลยล่ะ “พาขา โกรธอะไรเอ็กซ์เหรอ”“ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วได้ล่ะ” ฉันถามประโยคนี้แทนที่จะโฟกัสประโยคอื่น“ก็กลับดึกหลายวันแล้วไง วันนี้ไม่มีงานอะไรค้างเลยกลับเร็วไงคะ” เขาขยับเข้ามาหาก่อนจะกอดฉันจากทางด้านข้างแล้วหอมแก้มหนึ่งที “เมื่อเช้าเอ็กซ์ขอโทษนะคะที่พูดไม่ดีกับพา เอ็กซ์แค่เครียด ๆ เรื่องงานที่มีปัญหาอยู่ เอ็กซ์ควบคุมไม่ไ
พิเศษใส่ใจ 2วิกฤตการณ์ บ้านอัครสิริกุล 1Palin Palinthida Talk“แม่ค้าบ ทำไมพ่อกลับบ้านช้าอีกแล้ว” ระหว่างที่ฉันกำลังเอานมอุ่นออกจากไมโครเวฟให้ลูกชายวัยห้าขวบเขาก็มองตาปริบ ๆ พ่อไม่ได้อ่านนิทานให้พี่ฟังหลายวันแล้วนะ“ช่วงนี้พ่อเขาทำงานหนักค่ะลูก เลยต้องเลิกงานดึก” ฉันอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ให้ ช่วงนี้สามีทำงานหนักเพราะว่าบริษัทที่ผลิตน้ำชาบริษัทใหม่ของเรากำลังจะเริ่มตีตลาดฝั่งยุโรปเอ็กซ์เลยต้องทำงานหนักเป็นพิเศษหลังจากก่อตั้งบริษัทมาเกือบห้าปีมียอดขายทะลุเป้าทุกปี“พี่คิดถึงพ่อ” ลูกชายบ่นส่วนฉันก็วางนมลง“อดทนนะครับ เพราะว่าพ่อทำงานหนักเพื่อพี่เอิร์ธไง” ฉันลูบหัวลูก “ดื่มนมให้หมดนะคะเดี๋ยววันนี้แม่ให้พี่เอิร์ธดูการ์ตูนสามสิบนาทีแล้วก็อ่านนิทานให้พี่เอิร์ธฟังสองเรื่องเลย โอเคไหมคะ”“โอเค” ลูกชายทำท่าโอเคให้ แต่ว่านะเอ็กซ์กลับบ้านดึกติด ๆ กันเกือบสองสัปดาห์แล้ว พี่เอิร์ธเป็นเด็กติดพ่อน่ะเลยงอแงอยากให้พ่อส่งเข้านอนเหมือนทุก ๆ วันปกติแล้วฉันกับเอ็กซ์จะแบ่งหน้าที่กันในการดูแลลูก เป็นอย่างนี้แต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่พี่เอิร์ธเป็นทารกฉันจะอยู่กับเขาตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่พอเอ็กซ์เลิกงานเขาก็จะมาดู
![Evil Engineerร้ายรักวิศวะเลว [ไนต์]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






