LOGINNew meeting and new relationship. – I
3/4
“สรุปว่าหมอบอกว่าเป็นอะไรครับ” ผมถามย้ำและพ่อก็เดินมานั่งเก้าอี้อีกตัวราวกับว่ารู้อยู่แล้วว่าแม่ป่วยเป็นอะไร แม่มองไปยังน้าไลก่อนจะเอ่ยปากขอร้องให้น้าไลกลับบ้านไปก่อน ในนาทีนั้นความรู้สึกกังวลค่อย ๆ เริ่มเกาะกินผม
“แม่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว” ผมนิ่งไปอึดใจหนึ่งหลังจากที่แม่พูดมา ผมไม่ได้เตรียมใจมาก่อนว่าแม่จะเป็นโรคนี้ ผมคิดมาตลอดว่าแม่อาจจะแค่อ่อนแอตามวัยอายุที่เพิ่มขึ้นและจะรักษาหายได้ “แม่ตรวจเจอช่วงเดือนก่อนที่เตไปออกเรือ ระยะที่แม่เป็นอยู่คือระยะเฉียบพลัน หรือว่าระยะสุดท้ายของมะเร็ง”
“แม่ แล้วแม่ทำไมแม่ไม่เคยบอกผมเลยล่ะครับ” เมื่อตั้งสติได้ผมก็เริ่มถามทันที “แล้วหมอบอกว่ายังไง จะรักษาได้ไหมครับ”
“หมอบอกว่าระยะนี้การรักษาส่วนใหญ่ได้ผลไม่ดีนัก อาจจะอยู่ได้6-8 เดือน แต่ถ้าตอบสนองต่อการรักษาดีก็อาจจะนานกว่านั้น” พ่อเป็นคนอธิบายและผมก็รับรู้ถึงความรู้สึกว่าตกใจจนตัวชามันเป็นยังไง
แม่ผมพึ่งจะอายุห้าสิบแปดปี ตามหลักแล้วหากดูแลสุขภาพดี ๆ ไม่มีโรคภัยแม่อาจจะอยู่ได้ไปอีกสิบถึงยี่สิบปี แต่ตอนนี้ผมกับรับรู้ว่าแม่จะอยู่กับผมได้สูงสุดแค่แปดเดือนเองเหรอ มันตลกร้ายชะมัด ผมพึ่งได้เจอแม่ผมแค่ยี่สิบหกปีเองนะ ทำไมถึงจากไปไวนักล่ะ
“เพราะแบบนี้เองเหรอ แม่ถึงอยากให้ผมแต่งงาน” แม่พยักหน้ากับคำถามของผม “แม่จะต้องหายแม่จะได้อยู่กับผมไปอีกนาน เห็นผมมีหลานให้แม่ก่อน”
“ถ้าเตไม่อยากแต่งงาน ก็ไม่ต้องก็ได้ลูก แม่ไม่อยากบังคับเต” แม่บอกมาแบบนี้และผมเริ่มรู้สึกผิดเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยเพราะคิดว่าตัวเองอายุยังน้อย
แต่มิน่าล่ะ ช่วงนี้แม่ถึงได้พูดถึงเรื่องที่อยากให้ผมแต่งงานบ่อยจนผิดแปลกไป ก่อนหน้านี้แม่ไม่ค่อยสนใจการใช้ชีวิตส่วนตัวของผมมากนักจนกระทั่งหลังจากผมกลับมาจากออกเรือ
แม่ก็เริ่มพูดเรื่องให้ผมแต่งงาน และเริ่มพูดถึงลูกสาวของเพื่อนสนิทของท่านกับและสนิทกับพ่อที่ผมก็ไม่เคยเจอหน้า
“ผมอยากทำให้แม่มีความสุข แม่จะได้อยู่กับผมนาน ๆ” ผมมองแม่แล้วพยายามที่จะข่มความรู้สึกเครียดเอาไว้ในก่อนจะมองแม่ด้วยแววตาที่เหมือนไม่ได้คิดมาก
“แต่ถ้าเตแต่งกับคนที่เตไม่พอใจแม่ก็ไม่รู้ว่าจะมีความสุขไหมที่บังคับลูก” ผมดึงมือออกมาจากการเกาะกุมของผมแล้วลูบแก้มผมเบา ๆ “แม่อยากให้เตมีความสุขมากกว่านะ ที่แม่อยากให้เตแต่งงานไม่ใช่เพราะเพื่อแม่หรอก แต่แม่เห็นว่าอยากให้มีคนอยู่ด้วยในวันที่แม่ไม่อยู่”
“ไม่ครับ แม่จะต้องอยู่กับผมไปอีกนาน” ผมย้ำและพูดด้วยความรู้สึกหนักแน่นที่สุด
ในวันนั้นผมมาคุยกับหมอเกี่ยวกับอาการของแม่ หมอบอกว่าระยะนี้ยังรักษาได้แม้จะได้ผลน้อยแต่ก็มีโอกาสที่จะยื้อเวลาไปได้อีกถ้ามีปาฏิหาริย์ แต่โรคนี้จะประคองค่อนข้างยากเพราะถ้ามีแผลขึ้นมาก็จะเสี่ยงติดเชื้อง่าย แม้แต่แผลเล็กน้อยจากการแปรงฟัน
ต้องกินอาหารที่ทำให้ย่อยได้ง่ายเพื่อที่ให้ขับถ่ายสะดวก แล้วก็ต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงเสมอ ที่แม่เป็นโรคนี้อาจจะเพราะสิบปีก่อนแม่เคยได้รับการฉายรังสีรักษาตอนเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ และพอร่างกายอ่อนแอโรคก็แสดงออกมาได้เร็วขึ้น
เพราะหลายปีมานี้ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แม่ก็สุขภาพไม่แข็งแรงมาตลอด แต่แม่ตรวจเจอโรคนี้ช้าไป เพราะแม่แทบไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียวิงเวียนศีรษะ เป็นไข้ ท้องอืด หมอบอกว่าเคยมีเคสที่ไม่แสดงอาการอะไรเลยและตรวจพบโดยบังเอิญก็มี
ซึ่งดันมาเป็นแม่ของผมที่ตรวจเจอตอนโรคอยู่ในระยะที่รักษาได้ยาก
ในวันนั้นผมรู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับ รู้สึกว่าทุกอย่างมันเหมือนฝันไป เรื่องนี้ผมได้คุยกับพี่ต่อและพี่ตาล พี่สาวและพี่ชายของผมแล้ว ทั้งคู่รู้เรื่องก่อนหน้าผมไม่เท่าไหร่ และพี่ตาลกำลังจะย้ายกลับมาอยู่ไทยก่อนกำหนดที่วางเอาไว้ คือปลายเดือนหน้า และพี่ชายผมก็จะกลับบ้านบ่อยขึ้น
ในตอนนั้นผมก็คิดว่าอยากจะแต่งงานตามคำขอของแม่เพื่อให้แม่ของผมมีความสุข เพราะตั้งแต่เกิดมาผมก็เห็นว่าแม่ของผมเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากแค่ไหน
ท่านสนับสนุนพ่อ สนับสนุนผมกับพี่ ๆ ให้ไปในทางที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ไม่เคยขาดตกบกพร่องเลยสักครั้ง ไม่ว่าพวกเราอยากจะทำอะไรก็ขอแค่บอก แล้วพ่อกับแม่จะทำให้ให้พวกเราสมหวังแทบทุกเรื่อง มันทำให้ผมมาย้อนถามตัวเองว่ามีอะไรบ้างที่ผมทำให้แม่สมหวังดังใจ
ช่วงเวลาวันสองวันหลังจากรู้ว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายผมค่อนข้างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่นัก ก่อนไปทำงาน และหลังเลิกงานก็มักจะมาหาแม่ที่โรงพยาบาลเสมอ และวันนี้เย็นวันศุกร์ หลังจากเลิกงานผมก็มาหาแม่ทันที
ระหว่างที่ผมเดินตามทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารจอดรถมาที่ตึกพักฟื้นผมก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งเดินมาถึงช่วงสวนด้านข้างทางเดินที่อยู่กึ่งกลางระหว่างตึกพักและอาคารจอดรถ
สายตาผมก็มองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังเดินมาทางนี้
ท่าทางเธอดูคุ้นตาแปลก ๆ เธอเหมือนกับแฟนเก่าของผมเมื่อห้าปีก่อน เราห่างกันสักระยะสิบเมตรได้ สายตาผมยังมองเธอแต่เธอก้มมองมือถือ
จนกระทั่งเธอเงยหน้าขึ้นมาและสายตาเราก็ประสานกัน
เธอมองผม ผมหยุดเดิน ตอนนี้อยู่ในระยะที่ประมาณสักหกถึงเจ็ดเมตรได้ ผมเห็นแววตาว่างเปล่าของเธอ เธอเดินมาพร้อมแววตาที่ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรในขณะที่ผมอาจจะตกใจ ตื่นเต้น หรือหลาย ๆ อย่างแบบอธิบายไม่ถูก
ผมยังคงยืนอยู่ ส่วนเธอกำลังเดินใกล้เข้ามา วินาทีนี้เธอไม่ได้มองหน้าผม สายตาเธอมองผ่านผมไปราวกับผมเป็นอากาศ เป็นรูปปั้น หรือเป็นอะไรสักอย่างที่เธอไม่สามารถเรียกร้องความสนใจจากเธอไปได้เลยสักนิด ผมรู้สึกว่าใจผมเต้นแรงมากเมื่อเธอเดินใกล้เข้ามา
ผมค่อย ๆ พิจารณาใบหน้าเธอ มันไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมากมายนัก เธอยังสวยเหมือนเดิม และอาจจะสวยมากขึ้นกว่าที่ผมเคยจำได้ ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น สง่างามมากขึ้น หุ่นอาจจะดีขึ้นด้วย การแต่งตัวก็ออกแนวผู้ใหญ่กว่าครั้งสุดท้ายที่ผมเคยเห็น ผมสีน้ำตาลอ่อนนั้นช่างเข้ากันเธอเหลือเกิน
เพียงระยะหนึ่งเมตรที่เธอกำลังเดินเข้ามา เธอดูเหมือนจะเดินผ่านหน้าผมไปราวกับมองไม่เห็น
ตอนนั้นมีลมพัดอ่อน ๆ มา จังหวะที่เธอเดินมาขนานกับผมก่อนจะเดินผ่านไป ปลายผมเธอโดนลมพัดมาโดนแขนของผม กลิ่นน้ำหอมที่ละมุนชวนให้ผมต้องหันไปและคว้าข้อมือเธอ
“เธอ” สรรพนามที่เคยเรียกแทนตัวกันเมื่อครั้งเก่าก่อนที่เคยคบหาหลุดออกจากปากราวกับว่ามันไม่เคยจากไปจางเศษเสี้ยวความทรงจำของผม ราวกับว่าผมพึ่งใช้คำนี้เรียกเธออยู่เมื่อวาน
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III4/4“ณินรู้ว่าพ่อเกลียดณิน ไม่รักณิน แต่ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันให้หลังมือปาดน้ำตาออก และฉันก็เจ็บจนชาไปเลยล่ะ “เพราะแค่ที่ผ่านมาพ่อก็แสดงออกมันมากพอแล้ว”“เพราะแกเกิดมาแล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดในชีวิตต้องจากโลกนี้ไป” ฉันหลับตาลงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ “แกไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าที่แกเกิดมาเลยสักครั้ง แกเคยไหมที่จะทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า มีประโยชน์ที่แกเกิดมา มีสักครั้งไหมที่ทำให้ฉันภูมิใจ”น่าแปลกจริงเชียวที่ฉันเจอคำพูดรุนแรงขนาดนี้ใจฉันกลับรู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไรขึ้นมาเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเพิ่มได้อีก มันจุก ตื้อตันในคออย่างบอกไม่ถูกเลย“เกิดมาแกเคยมีอะไรดีไหม ถ้าแกอยากให้ฉันยอมรับแกในฐานะลูก แกก็ควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการแต่งงานกับเขาซะ”“พ่อไม่เคยภูมิใจ ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นประโยชน์ในตัวณินเพราะพ่อไม่เคยมองเลยต่างหาก” ฉันจ้องหน้าพ่อและรู้สึกว่านี่ก็เห็นครั้งแ
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III3/4เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง” ฉันพูดกับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเรียบเฉย คุณเป็นแฟนที่ดีให้ฉันไม่ได้ แล้วฉันจะไปเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะเป็นสามีที่ดีฉันกอดอก จ้องมองเขา และคิดว่าฉันเคยรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน และตอนนั้นฉันรักเขาลงไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรักเตมากแค่ไหน แต่มีคนสอบฉันว่าให้เปลี่ยนความรักที่มีเป็นความโกรธ ถ้าทำได้เราจะเกลียดชังเขามากกว่าที่เคยรักเป็นพันเท่า ๆ“ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อดี แต่ขอโอกาสให้ผมได้ทำให้ดูสักครั้งได้ไหม” ฉันไม่เคยเห็นเตพูดด้วยความจริงใจขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนตอนที่เตอยากเป็นแฟนกับฉัน และเหมือนตอนที่เขาอยากไปจากฉันด้วย พอคิดถึงความเก่าหนหลังมันก็ทำให้ฉัน...เบ้ปากเส
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III2/4“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้งพออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III1/4“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะบอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดูเราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II4/4ฉันได้แต่อดทนและคิดว่าฉันเองจะอดทนเอาไว้แล้วค่อยกลับไปคุยกันพ่อที่บ้านก็ได้ ฉันอยากจะรักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคนป่วยอย่างคุณอาไว้ เพราะฉันไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเตได้จริง ๆ อันที่จริงก็คงไม่ต้องพูดถึงขั้นแต่งงานหรอก แค่มองหน้ายังไม่อยากจะมองเลยที่ทนกลืนข้าวลงได้ทั้งที่นั่งข้างเขาฉันก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดชีวิตที่มีแล้ว“เต พาญาณินไปเดินเล่นหน่อยสิ เดินคุยกันจะได้ทำความรู้จักกันไว้” หลังจากทานผลไม้เป็นของหวานกันไปแล้วพ่อก็เป็นฝ่ายบอกกับเตไปเอาตรง ๆ วันนี้แทบจะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสออกบากเรื่องแต่งงานเลยสักครั้งเดียว ฉันจะได้แค่ตอบคำถามที่ผู้ใหญ่ถามหรือพูดเรื่องอื่นเท่านั้น“ได้ครับลุง” เตรับคำราวกับว่ารอโอกาสนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเตมากเกินไปกว่านี้ได้ฉันก็จำใจ เพราะฉันอยากจะบอกเตว่าฉันไม่มีวันนที่จะแต่งงานกับเขาเตพาฉันเดินมาที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำและมีดอกบัวอยู่หลายกอ ลายล้อมไปสวนพืชผักนานาพันธุ์ และสวนดอกไม้ด้วย อีกฝากฝั่งของสระน่าจะเป็นสวนผลไม้ซึ่งมองด้วยสายตาฉันก็เห็
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II3/4“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมาฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาคนเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจแต่ฉันตั้งสติและรู้ตัวได้ว่าฉันไม่อยากจะให้ใครตรงนี้รู้เรื่องอดีตของฉันกับเตจึงได้พยายามส่งสายตาให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่าฉันนั้นไม่อยากให้ใครรู้“มาแล้วเหรอเจ้าเต “คุณอาไตรทักลูกชายที่อยู่ในชุดวอร์มซึ่งน่าจะเป็นของหน่วยงาน “ลุงกับพี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วนะ ทำไมถึงพึ่งมา”“พึ่งจัดการงานเสร็จนะครับ” เขาพูดและรอบมองมายังฉันอยู่อีกหน แต่วันนี้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกตื่นตะลึง และเกลียดขี้หน้า “ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องงาน มา ๆ นั่งก่อน” พ่อฉันพูดแล้วก็บอกให้เขามานั่ง ซึ่งที่ว่างที่เหลือตอนนี้ก็คือโซฟาตัวเดียวกันกับฉัน และที่ว่างคือข้างแม่เขากลายเป็นว่าแม่ของเขาคั่นกลางระหว่างฉันกับเขาอยู่ ฉันควบคุมสีหน้าและอารมณ์เอาไว้แม้ว่าจะ







![NightZ [II] DANGER ZENIOR](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)