ดวงตะวันส่องแสงทอสว่างเข้ามาในห้องนอนแสนกว้าง วันสุขนอนสลบหมดเรี่ยวแรงหลังกิจกรรมรักอันเร่าร้อนจบลง เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เธอหลับไป ลืมตามองรอบด้านพบเพียงความว่างเปล่า ไร้เงาของคนที่ก่อนหน้าทำร้ายร่างกายและจิตใจเธอ
“คุณตื่นแล้วเหรอคะ ป้าเอาข้าวมาให้ค่ะ” ยังไม่ทันได้เหยียบสัมผัสกับพื้น หญิงมีอายุคนหนึ่งก็เปิดประตูเข้ามาทันที เป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
“คุณเป็นใครคะ?” วันสุขเอ่ยถาม
“ป้าเป็นแม่บ้าน ดูแลที่นี่มาได้สักพักแล้วค่ะชื่อนาง”
“ป้านาง”
“ทานข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”
คนมาใหม่วางถาดอาหารลงบนโต๊ะ พลางมองมายังเธอด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้พิษภัย วันสุขก้มมองตัวเองก่อนจะกำชับเสื้อให้ปิดมิดชิด เธอรู้สึกอายกับร่อยรอยช้ำที่คนป่าเถื่อนกระทำกับเธออย่างไม่ออมมือ เขาทิ้งรอยจูบเอาไว้จนทั่วร่างกาย
“ป้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกคุณ แต่ป้าอยากให้คุณอดทนและเข้มแข็ง” หญิงมีอายุเอ่ยให้กำลังใจ เธอเห็นวันสุขแล้วอดสงสารไม่ได้
“หนูไม่รู้จะทนได้แค่ไหน” วันสุขกล่าวอย่างคนหมดหวัง
“จากที่ป้าอยู่ที่นี่มาคุณกวินเป็นคนใจดีนะคะ”
“เขาชื่อกวินเหรอคะ?”
“ค่ะ”
“แล้วตอนนี้เขาไปไหนเหรอคะ?”
“ป้าก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นออกไปแต่เช้าตรู่...คุณทานข้าวไปนะ สักพักป้าจะมาเก็บจานไปล้าง”
“ขอบคุณค่ะป้านาง”
“ต้องการอะไรก็เขียนใส่กระดาษ แล้วสอดผ่านประตูนะคะ แล้วเดี๋ยวป้าจะจัดการให้...ขอโทษนะพอดีคุณกวินสั่งไว้ไม่ให้คุณออกจากห้องนี้น่ะค่ะ”
ในที่สุดเธอก็รู้ชื่อของเขาเสียที ชื่อดีแต่สันดานต่ำทราม วันสุขมองอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ เธอไม่กล้ากินมันลงท้อง เพราะหวาดระแวงกลัวโดนวางยา ตอนนี้เธอไม่อาจจะเชื่อใจใครได้ ในเมื่อทุกคนในที่แห่งนี้ ล้วนเป็นคนของเขาทั้งนั้น
“ไอ้คนใจร้าย...กะขังฉันไว้ในนี้ตลอดเลยหรือไง ตกลงนายเป็นใครกันแน่!?” วันสุขครุ่นคิดอยู่เพียงลำพังหลังจากที่เธอเดินเข้ามาจัดการตัวเองในห้องน้ำ ร่องรอยที่อยู่บนตัวทำให้วันสุขเจ็บปวดและเสียใจ เธอเดินไปทำความสะอาดขจัดคราบรักที่กวินทิ้งเอาไว้ด้วยความเจ็บช้ำ จากนั้นจึงเคลื่อนร่างอันบอบบางนอนบนเตียงอีกครา ความอ่อนล้าทำให้เธอผล็อยหลับไป
เวลาเคลื่อนคล้อยไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้ วันสุขลุกจากเตียงนอนแล้วเดินไปยังหน้าต่าง เพื่อหาช่องทางในการหลบหนี ทว่ามันกลับถูกล็อกปิดตาย เป็นแบบนี้แล้วเธอจะหนีเขาไปได้อย่างไร? หรือเธอต้องคอยรองรับอารมณ์ป่าเถื่อนของเขาอยู่ที่นี่อย่างกับนางบำเรอ
ความว่างเปล่าในห้องทำให้วันสุขรู้สึกเดียวดาย การที่ไม่ได้ทำอะไร ทำให้เธอหวนคิดถึงผู้เป็นพ่อแม่ รอยยิ้มแห่งสุขในอดีต ความโหยหาทำให้น้ำตาของวันสุขไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างพรั่งพรู
เธอค่อย ๆ ลุกอย่างเชื่องช้าลงจากเตียงนอน ใช้มือปาดน้ำตาที่มันไหลอาบสองแก้มเนียน อากาศที่เย็นในระดับพอดี กลับรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นทันที เมื่อตอนนี้เธอเหมือนต้องอยู่ตัวคนเดียว เผชิญหน้ากับความโหดร้ายเพียงลำพัง
สองขาค่อย ๆ อ่อนยวบจนก้นของเธอนั่งลงกับพื้น วันสุขยกสองแขนกอดตัวเอง แล้วฟุบหน้าร้องไห้โฮ ตอนนี้เธอเหมือนเจอทางตัน ไม่รู้ว่านับจากนี้จะหาทางออกยังไง การกลับบ้านเกิดกลับกลายเป็นความเลวร้ายที่เริ่มหลอมทำลายเธอ
“ฉันเกลียดน้ำตาของผู้หญิง”
เสียงประตูเปิดออก พร้อมกับคนที่เข้ามาใหม่ ใบหน้านิ่งเย็นชามองเธออย่างคนไร้ความรู้สึก วันสุขยกมือปาดน้ำตา เงยหน้ามองคนที่ยืนสูงท่วมหัวเธอ ก่อนจะหยัดตัวลุกแล้วขยับตัวห่างจากเขา แล้วเอ่ย...
“ฉันเกลียดขี้หน้านาย ออกไป!”
“ที่นี่คือที่ของฉัน เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่” เขาพูดพร้อมกับก้าวขาอย่างช้า ๆ เข้าประจันหน้ากับเธอ
“ไอ้คนเฮงซวย!” เธอตอบโต้แล้วถ่มน้ำลายใส่หน้าของกวินอย่างท้าทาย
“กล้ามากนะที่ถ่มน้ำลายใส่หน้าฉัน” กวินเดือดดาล การกระทำของวันสุขเหมือนหยามศักดิ์ศรีของเขา
“อ๊ะ! เจ็บนะ” กวินกระชากแขนของเธออย่างแรง กระดูกเธอเหมือนจะแตกอยู่ในกำมือของเขา
“ฉันจะสั่งสอนเธอให้หลาบจำ ควรสำนึกด้วยว่าฉันเป็นใคร แล้วเธอเป็นใคร ไม่ใช่อยากทำอะไรก็ทำ...อย่ามาอวดดีกับฉัน จำไว้!” เขาไม่ปรานี ผลักเธอเต็มแรงจนก้นกระแทกกับพื้นแข็ง แรงชายชาตรี ทำให้หัวของวันสุขพลาดโดนขอบเตียง
เธอยกมือขึ้นสัมผัสหน้าผากที่มันเริ่มรู้สึกเจ็บ ก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายใจร้ายด้วยความรู้สึกเกลียดชัง เขารุนแรงและใจร้ายกับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเธอได้ลงคอ
“นายมันเลว...ไอ้ชั่ว” เธอตราหน้าเขาด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธ
“ชั่วยังไงสุดท้ายก็ผัวของเธอ”
“ฉันไม่มีวันยอมรับ”
“ต้องให้ย้ำ!?”
วันสุขค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนประจันหน้า เธอจ้องมองเขาอย่างท้าทาย ต่อปากอย่างไม่นึกกลัว
“ไอ้ฆาตกร!”
กวินสะดุ้งในคำด่าของเธอ แม้ก่อนหน้าจะได้ยิน มันก็ยังกระแทกใจเขาอยู่ดี คำ ๆ นี้มันทำให้เขานึกถึงหลายเหตุการณ์ก่อนหน้า กับการที่ต้องแย่งชิงจนเขามีอิทธิพล ที่แลกมากับการสูญเสียคนสำคัญในชีวิตของเขาไป
“ถ้าเธอไม่หยุดพูดคำนี้ ฉันจะฟาดเธอให้หนัก”
“ฉันไม่ใช่ทาส ที่นายจะใช้ความรุนแรง ไอ้ชั่ว ไอ้เลว นายมันฆาตกร!”
เพียะ สิ้นคำด่าฝ่ามือหนาก็ประทับลงแก้มของวันสุขจนหันไปตามแรงสัมผัส รอยนิ้วทั้งห้าเห่อแดงจนเห็นได้ชัด มันทำให้วันสุขเจ็บแสบไปทั้งแก้ม น้ำตาของเธอไหลอาบแก้ม แต่ไร้เสียงสะอื้น ตั้งแต่เติบโตมาเธอไม่เคยโดนทำร้ายแบบนี้สักครั้ง มันช่างเจ็บปวดเสียเหลือเกิน
“คนที่ไม่เชื่อง มันต้องได้รับการสั่งสอน!”
“ปล่อยฉัน!”
กวินฉุดกระชากแขนของวันสุขออกจากห้อง ลากเธอไปตามทางเดิน แม้เธอจะล้มเข่าเป็นแผลเขาก็ไม่ได้ไยดี ต่อให้วันสุขเอ่ยร้องขอแค่ไหนเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ลากเธอมายังลานกว้าง
“จับมัด!” กวินออกคำสั่งกับลูกน้อง ที่ยืนลืมดูแลความปลอดภัย
“นะ นายจะทำอะไรฉัน”
สองมือกำปืนแน่น สายตาเล็งไปยังเป้ามีชีวิตซึ่งอยู่ห่างออกไป รอยยิ้มพิมพ์ใจที่กำลังกลายเป็นรอยยิ้มแสนร้ายกาจ ทำให้คนที่ถูกมัดถึงกับตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว หากเขายิงพลาดขึ้นมานั่นหมายถึงชีวิตของเธอต้องตายโหงอย่างน่าเวทนา...
บ้านหลังงามสุดหรูเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเสียง...“เฮ้ย! ชั้นวางขวดนมวางตรงนี้ก่อน มึงจะเอาไปเก็บที่อื่นทำไมวะคีย์!?”“เพราะมึงวางขวางทางเดิน! เดี๋ยวกูเหยียบลื่นล้มหัวแตก ใครจะอุ้มหลาน!?”“อุ้มหลาน? นี่ลูกกู!!”เสียงปะทะของสองคุณพ่อและคุณอาผู้เห่อหลานสนั่นไปทั้งบ้าน จนแม่บ้านต้องเดินอ้อมไปอีกทาง เพราะไม่อยากถูกลูกหลงจากสงครามของสองชายวัยสามสิบกว่า ๆวันสุขที่เพิ่งลงจากชั้นบน มาพร้อมลูกน้อยในอ้อมแขน ส่งสายตามองสองท่านผู้ใหญ่ ที่เถียงกันเรื่องขวดนมกับผ้าเช็ดตัวแบบไม่มีใครยอมใครเธอวางลูกเบา ๆ บนเบาะเด็ก แล้วกอดอกมอง แล้วเอ่ยเสียงนิ่งแต่ฟาดหัวใจ“นี่พวกคุณไม่คิดจะไปทำงานกันบ้างเหรอ?”ห้องทั้งห้องเงียบลงในพริบตา คีย์ยักไหล่ก่อนตอบเสียงเรียบ“มีลูกน้องดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่”กวินพยักหน้ารับตามทันที“ใช่ ผมเซ็นมอบอำนาจรองผู้บริหารไว้หมดแล้วครับที่รักไม่ต้องกลัวเลย มีแม็กดูแลบัญชี มีบอดี้การ์ดชุดเต็มรับมือทุกสถานการณ์”“แล้วฉันล่ะ?” วันสุขถามนิ่ง ๆ“คุณเป็นแม่ของลูกผม เป็นวีไอพีของบ้านนี้” กวินตอบพร้อมส่งยิ้มละมุนวันสุขถอนหายใจยาว “งั้นแม่ของลูกจะไปจัดตารางงานต่อ ฝากเลี้ยงลูกด้วยนะ
เสียงรถสปอร์ตหรูจอดสนิทหน้าบ้าน พร้อมกับกวินที่เดินลงจากรถในชุดลำลอง แต่ความขึงขังยังเต็มพิกัด เขาไม่ใช่แค่มาเฟียระดับโลกอีกต่อไป...แต่เป็นคุณพ่อมือใหม่ ที่เตรียมทุกอย่างไว้ละเอียดยิ่งกว่าแผนลอบสังหารศัตรูระดับประเทศ"ชุดเด็กพร้อม""เปลไฮเทคสั่งตรงจากเยอรมันติดเซ็นเซอร์ตรวจจับลมหายใจ""กล้องวงจรปิดในห้องนอนลูกมีระบบเอไอจับอารมณ์""หุ่นยนต์ป้อนนมอัตโนมัติสำรอง 2 ตัว""ยามรักษาความปลอดภัยรอบบ้านเพิ่มอีกหนึ่งทีม"คีย์ที่เดินมาด้วยถึงกับยกมือทาบอก"มึงแน่ใจนะว่านี่ลูก ไม่ใช่ผู้นำประเทศ"กวินปรายตามองเพื่อนอย่างนิ่งขรึม “ลูกกูเกิดมาทั้งที ต้องปลอดภัยที่สุดในโลก”วันสุขที่พุงโตมาก ๆ เดินออกมาช้า ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มละมุน“กวินคะ บางอย่างมันเกินไปแล้วค่ะ ขนาดตู้เสื้อผ้าเด็กยังมีระบบสแกนฝุ่น PM 2.5 ก่อนเปิด”กวินรีบเข้ามาประคองเธอทันที “อย่าเดินเร็วแบบนั้นสิครับเดี๋ยวลื่น”“จะลื่นได้ไงคะ พื้นบ้านคุณมันสะอาดกว่าห้องผ่าตัดโรงพยาบาลอีก...” เธอยิ้มขำ ๆกวินจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธออย่างแสนรัก “ผมไม่เสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว คุณกับลูกคือทั้งชีวิตของผม”กลางดึกที่มีเพียงแสงจันทร์อ่อน ลอดผ่านกระจกหน้าต่างเ
เสียงล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติประเทศไทย พร้อมกับเสียงถอนหายใจของคีย์ ผู้ที่เป็นมือขวาคู่ใจและเพื่อนรักเพื่อนตายของกวิน ในวันนี้ไม่ได้กลับมาเพื่อเคลียร์ศัตรู ไม่ได้กลับมาเพื่อคุมธุรกิจ... แต่กลับมาเพราะจะตั้งชื่อลูกให้เพื่อน“บอส! คุณคีย์กลับมาแล้วครับ!” แม็ก คนสนิทของกวิน รายงานอย่างขึงขัง แต่พอเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าล้อลาก และตุ๊กตาหมีสีฟ้ายักษ์ บรรยากาศก็เปลี่ยนทันที“อ้าว... พวกแกไม่ยืนตั้งแถวต้อนรับหลานฉันเหรอ!” คีย์ตะโกนลั่น“ลูก! กู! ไอ้คีย์” เสียงกวินดังมาจากด้านหลังด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ตึงเป๊ะ“เอ้า กวิน! กูรีบกลับมาเพราะเรื่องนี้เลยนะ ไหนหลานอยู่ไหน กูจะตั้งชื่อให้ว่าลีโอดีไหม หรือคาเรน ถ้าเป็นผู้หญิงชื่อนี้ความหมายดีนะ”กวินยกคิ้ว “สรุปมึงจะตั้งชื่อลูกกู?”คีย์ยักไหล่ “ก็หลานกูปะวะ”“คุณคีย์จะเห่อเกินไปแล้ว” แม็กพึมพำเบา ๆ จนวันสุขที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลุดหัวเราะ“นี่! อย่าคิดว่ากูจะไม่หาของเล่น นี่ซื้อมาครึ่งชั้นวางของในห้างแล้ว!” คีย์พูดอย่างภาคภูมิใจ พลางหยิบของเล่นเด็กอ่อนขึ้นมาโชว์เป็นชิ้น ๆวันสุขส่ายหัวพลางยิ้มกริ่ม“คุณคีย์คะ หลานยังไม่คลอดนะคะ อีก
คฤหาสน์ธาราพิพัฒน์หนึ่งเดือนหลังพิธีเปิด Phoenix Sovereign V.2ช่วงเย็นอบอุ่น แสงอาทิตย์สาดลอดผ้าม่านผืนบาง วันสุขเดินลงบันไดอย่างสบาย ๆ แต่กลับไม่เจอใครเลยในบ้าน แม้แต่แม่ของเธอก็หายตัวไปเงียบ ๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายสวนด้านหลังคฤหาสน์ เส้นทางไม้เรียงด้วยกลีบดอกกุหลาบ เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาลอยมา วันสุขเดินตามกลิ่นหอมบาง ๆ ของลาเวนเดอร์ จนถึงศาลากลางสวน ที่ถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับ ภายในศาลามีโต๊ะอาหารสำหรับสองที่ ไวน์แดง แชนเดอเลียร์คริสตัล และแม่ของเธอ ยืนยิ้มอยู่ข้างประตู “แม่?” วันสุขงงจนแทบหลุดยิ้ม แม่ของเธอยิ้มแล้วเดินมากุมมือเธอ“แม่เคยเห็นแววตาผู้ชายแบบเดียวกับพ่อของลูกครั้งหนึ่ง ในดวงตาของกวิน และวันนี้แม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะแม่ของลูกสาวที่กำลังจะถูกรักตลอดไป”เสียงเท้าคนเดินเข้ามาเงียบ ๆ กวินในชุดสูทเรียบหรู ก้าวออกมาจากเงาไม้ ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีปืน ไม่มีอำนาจ มีแค่แหวนในกล่องเล็ก ๆ และแววตาที่อ่อนโยน เหมือนพระจันทร์กลางคืนที่ไม่มีเมฆ“วันสุข ผมเคยสัญญากับพ่อคุณว่าจะดูแลคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากดูแลคุณเพราะสัญญาอีกแล้ว…”เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ยื่นกล่องแหวนออกมา มือข้างหนึ
กรุงเทพฯ สำนักงาน Phoenix Sovereign แห่งใหม่วันสุขในชุดสูทสีครีมเข้ม กวินอยู่ข้างกายในลุคมาดนิ่ง และคีย์เดินตามในมาดเงียบขรึม บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยพันธมิตร นักลงทุนระดับโลกและสื่อชั้นนำ“ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ค่ะ...” วันสุขเปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงเบื้องหน้าจอขนาดใหญ่ฉายสไลด์เปิดเผยโครงการลับ D-CHAIN พร้อมภาพของ เลิศศักดิ์ ณัฐพงศ์ ที่ถูกจับกุมแล้ว สร้างเสียงฮือฮาจนดังทั่วห้อง!“ผู้ชายคนนี้เคยพยายามเปลี่ยน Phoenix ให้กลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ ใช้เพื่อควบคุมระบบการเงินในโลกมืด วันนี้เขาถูกปลดจากทุกอำนาจอย่างถาวร”เสียงปรบมือเริ่มดัง แต่วันสุขยกมือขึ้นห้ามเบา ๆ“ยังไม่จบค่ะ…เพราะคนที่ร่วมมือกับเขายังมีชีวิตอยู่ และกำลังเตรียมแผนใหม่”บรัสเซลส์ ฐานลับของ Oblivion Techเซเลน่ากำแฟ้มข่าวเลิศศักดิ์แน่น หน้าเธอนิ่งสนิท...แต่นัยน์ตาแดงก่ำ“พวกเขารวมพันธมิตรแล้ว งั้นเราจะสร้างฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาเองบ้าง”เธอสั่งเปิดโปรเจกต์ใหม่ในระบบลับของบริษัทชื่อว่า Oblivion Mind AI แบบไม่ผ่านคณะกรรมการควบคุม แต่ถูกออกแบบให้ตัดสินใจได้ในระดับรัฐบาล“ถ้า Phoenix จะควบคุมโลกด้วยความสมดุล Obli
แฟรงก์เฟิร์ต เวลา 09:18 น.วันสุขเปิดโน้ตบุ๊กขึ้น หน้าจอแสดงข้อมูลชุดใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนชื่อไฟล์คือ Phoenix.Layer.2 Blackroom เอกสารภายในคือแผนขยายอิทธิพล Phoenix ที่ไม่เคยเปิดใช้พ่อของวันสุขเคยร่วมออกแบบโครงสร้างนี้ร่วมกับสามนักวิจัยเอไอระดับโลก แต่มันถูกแช่แข็งไว้ เพราะมันควบคุมได้มากเกินไปกวินเดินเข้ามา พร้อมถือถ้วยกาแฟสองใบ“คุณเปิดหมากแล้วใช่ไหม?”วันสุขหันมายิ้ม“อืม…ถึงเวลาทำให้เซเลน่ารู้ว่า ฉันไม่ได้มีแค่สิทธิ์บน Phoenix แต่มีทางเลือกใหม่ที่เธอไม่มี”เซเลน่าอยู่ตรงโถงล็อบบี้ตึกประชุมหลัก เธอได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจาก WS.DP-Corp รหัสที่เธอจำได้ดีว่าคือวันสุข หัวข้ออีเมล:Let’s make it global. But on my terms. (เรามาทำให้มันเป็นระดับโลกกัน...แต่ต้องตามเงื่อนไขของฉัน)เธอเปิดเมล สิ่งที่แนบมาคือแผนของ Phoenix Layer 2 ที่วันสุขเป็นคนถือลิขสิทธิ์ร่วมโดยสมบูรณ์ พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า…“คุณเสนอ Phoenix Oblivion…ฉันเสนอ Phoenix Sovereign มาร่วมโต๊ะใหม่ ที่ฉันเป็นเจ้าภาพสิ”เซเลน่ากำแก้วกาแฟแน่นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ“เธอเริ่มเดินเกมของตัวเองแล้วสินะ…”@ห้องของวันสุ