 Masuk
Masuk ญาตาวีมินทร์
ญาตาวีมินทร์อีพี่จับน้องกินไม่หยุดไม่หย่อน คือจับกินจนกว่าจะได้เป็นผัวอ่ะนะ แถมยังมีวิธีปราบพยศเมียดื้ออย่างได้ผลซะด้วย อื้อออ...อิจฉารินทร์อ้ะ แบบนี้ต้องดื้อมั่งละ เผื่อจะโดนปราบแบบนี้มั่ง อิอิ เป็นไงกันบ้างคะรี้ดดดดด เลือดหมดตัวกันยังงงงงง 555

เจซี่นางแบบสาวสวยในชุดว่ายน้ำทูพีซสีส้มสดกำลังแหวกว่ายอยู่ในสระว่ายน้ำหรูหรา ของโรงแรม SW ซึ่งเป็นโรงแรมสุดหรูในเครือมาร์ตินกรุ๊ป หลังจากได้รับการติดต่อจากแอลตัน ที่เป็นทั้งเพื่อนและเลขาคนสนิทของเซดริก ว่าเจ้านายหนุ่มเชิญให้มาทานดินเนอร์สุดหรูด้วยกัน ทำให้เจซี่อดกระหยิ่มยิ้มย่องในใจไม่ได้เพราะถ้าเขาไม่สนใจจะรู้ได้อย่างไรว่าเธอบินกลับมาจากต่างประเทศวันไหนวันนี้นางแบบสาวจึงเตรียมตัวเองมาเป็นอย่างดี ในเมื่อโอกาสในการทำคะแนนอยู่ในมือเธอจะไม่มีวันทำพลาดเด็ดขาด เพราะการปรนเปรอสวาทให้กับเขาถือเป็นหน้าที่หลักที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะครั้งนี้ต้องงัดกลเม็ดเด็ดพรายออกมาใช้ให้หมด เพื่อจะจับเขาให้อยู่หมัดและเขี่ยมาลารินทร์ออกไปให้พ้นทางหลังจากว่ายน้ำเสร็จเจซี่ก็กลับขึ้นมามาอาบน้ำขัดผิวกายเตรียมความพร้อมสำหรับดินเนอร์ในคืนนี้ หลังอาบน้ำก็ละเมียดละไมประทินผิวด้วยครีมฉ่ำก่อนจะเลือกชุดมินิเดรสสายเดี่ยวผ้าพลิ้วบางสีน้ำเงินเข้มซึ่งง่ายต่อการถอด วันนี้เธอยอมแต่งหน้าบางเบาตามไสตล์ที่เซดริกชอบแล้วพรมน้ำหอมบาง ๆ แล้วจะตรวจสอบความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะออกไปหาเขาตามนัดเจซี่มาถึงห้องอาหารหรูตามเวลาที่นัดไว
เซดริกเชยคางมนของมาลารินทร์ขึ้นมาสบตากันอีกครั้ง เขาจ้องมองดวงตากลมโตและใบหน้าจิ้มลิ้มเนิ่นนาน ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากลงที่เรียวปากกระจับสีหวาน ขบเม้มริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่งและดูดดุนเบา ๆ พลางสอดลิ้นอบอุ่นเข้าไปยังโพรงปากเล็กเพื่อลิ้มรสความหวาน ในขณะที่มาลารินทร์สอดลิ้นประสานกับคนตัวโต เกี่ยวกระหวัดพันพัวกันไปมาอย่างดูดดื่มวงแขนของเธอโอบรอบลำคอหนาของอีกฝ่ายและรั้งร่างหนาเขาหาจนสองร่างแนบชิดมอบไออุ่นให้กันและกัน ฝ่ามือร้อนของคนตัวสอดเข้าไปใต้เสื้อชุดนอนผ้าซาตินสีฟ้าอ่อน กอบกุมทรวงอกใหญ่ทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้อย่างหวงแหน ลูบไล้เคล้าคลึงและส่งนิ้วสะกิดยอดปทุมถันจนร่างบางอ่อนระทวยเซดริกถอดเสื้อมือเข้าไปที่ชายกระโปรงชุดนอนของเธอแล้วถอดออกทิ้งลงพื้น จนร่างอวบอัด เปล่าเปลือยยั่วยวนตาปรากฏต่อหน้า เขาย่อตัวลงอุ้มร่างเปลือยวางลงบนเตียงนอน แล้วถอดผ้าเช็ดตัวที่พันช่วงล่างออกจากร่างกาย เผยให้เห็นแท่งรักขนาดใหญ่ไชด์ยุโรปที่แข็งขึงเต็มที่เด่นผงาดอยู่กลางลำตัว มาลารินทร์จ้องมองรูปร่างสุดแสนเพอร์เฟกต์และท่อนลำขนาดใหญ่ด้วยความประหม่าจนเผลอกลืนน้ำลายฝืด ๆ ลงคออย่างยากลำบากร่างแกร่งขยับเข้ามาทาบ
“แม่คะ ทานข้าวเย็นกันดีกว่าค่ะ วันนี้มีข้าวต้มปลาของโปรดของแม่ด้วย รินทร์ทำสุดฝีมือเลยนะคะ” มาลารินทร์ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่เอ่ยเรียกมารดาให้มาทานอาหารเย็นด้วยกัน เป็นจังหวะเดียวกันกับปริณที่กลับจากมหาวิทยาลัยพอดี“โอ้โห...ลมอะไรหอบพี่สาวผมกลับมาบ้านได้เนี่ย พี่รินทร์เข้าครัวเองแบบนี้ก็ลาภปากผมเลยสิ คอยดูเถอะจะกินให้พุงกางเชียว” ปริณเข้าสวมกอดพี่สาวแล้วเอ่ยเย้า“แหม..ปริณ แกพูดอย่างกับพี่ไม่ได้มาที่นี่เลยทั้งที่เพิ่งมาเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เอง” คนเป็นพี่ส่งค้อนวงใหญ่ให้น้องชาย พลางตักข้าวต้มปลาเสริฟให้แม่กับปริณ“พี่มาบ่อยก็จริง แต่ปกติไม่เคยเห็นมาคนเดียวเลยนี่นา วันนี้ทำไมพี่เซดริกไม่มาด้วยล่ะครับ” ปริณเอ่ยถามถึงว่าที่พี่เขย เพราะปกติไม่เคยเห็นรายนั้นห่างพี่สาวตัวเองเลย“เขาก็มีธุระของเขาบ้างสิ พี่อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรแบบนี้นานเข้าก็เบื่อ เลยคิดว่าจะกลับมาอยู่ที่บ้านเราแล้วหางานทำดีกว่ารอพึ่งพาอาศัยคนอื่น วันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ไม่รู้ พี่ว่าเราควรพึ่งตัวเองให้ได้ตั้งแต่วันนี้จะดีกว่า” คำพูดของเธอดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ทั้งแม่และน้องชายต่างก็จับสังเกตได้ว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอ
หลังจากวันนั้นเซดริกก็พามาลารินทร์ไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลอีกหลายครั้ง จนกระทั่งล่าสุดคุณหมออนุญาตให้ท่านกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ ส่วนปริณตอนนี้มหาวิทยาลัยเปิดเทอมแล้ว และเขาก็สามารถไปเรียนได้โดยไม่ต้องห่วงนางวิมาลา เพราะเซดริกได้จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลให้เกือบสามเดือนแล้วที่มาลารินทร์ย้ายมาอยู่กับเซดริกที่เพนเฮาส์แห่งนี้ เวลาที่มีวันหนึ่ง ๆ หมดไปกับการดูแลเขาเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะจัดเตรียมเสื้อผ้าและอาหารให้ทั้งเช้าและเย็น หลังจากเขาออกไปทำงานแล้วเธอก็จะทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ทั้งที่ไม่ค่อยมีให้ทำเพราะเซดริกจ้างแม่บ้านให้มาทำงานบ้านให้ทุกอาทิตย์ เขาบอกว่าไม่อยากให้คนตัวเล็กเหนื่อย จนบางทีเธอก็บ่นว่าเหงาเพราะไม่มีอะไรจะทำ เขาเลยชวนให้เธอตามไปทำงานกับเขาแก้เบื่อ แต่เธอไม่อยากไปเพราะกลัวจะเป็นภาระของเขาเวลาทำงานมากกว่า“ติ๊ง...ต่องงง”เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มาลารินทร์นิ่วหน้าสงสัยเพราะเวลานี้เซดริกน่าจะยังทำงานอยู่ แล้วถ้าเขากลับมาจริงก็ต้องมีคีย์การ์ดจึงไม่จำเป็นจะต้องกดออด จะว่าเป็นสายป่านก็ไม่น่าจะใช่เพราะเมื่อครู่เพิ่งคุยโทรศัพท์กันเมื่อครู่ เพื่อนยังบอกเลยว่ากำลังจะเตรียมตัวไปทำงานแล
เช้าวันนี้เซดริกพามาลารินทร์มาเยี่ยมนางวิมาลาที่โรงพยาบาลตามที่ได้รับปากไว้ ก่อนถึงโรงพยาบาลเธอขอแวะซื้อผลไม้ที่แม่ชอบไปฝากท่านก่อนซึ่งชายหนุ่มก็ตามใจไม่ได้ขัด เมื่อถึงโรงพยาบาลมาลารินทร์ถึงกับอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงว่าโรงพยาบาลจะหรูหราอย่างกับโรงแรมแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยที่สายป่านบอกว่าค่ารักษาแพงหูฉี่มือหนาอบอุ่นจับมือเรียวเล็กให้ก้าวเดินไปตามเขาไปยังห้องพักฟื้นของนางวิมาลา เมื่อถึงหน้าประตูที่ติดชื่อของแม่ มาลารินทร์ก็เคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะเปิดเข้าไป เธอเห็นแม่นอนอยู่บนเตียงคนไข้โดยมีสายป่าน แอลตัน และปริณอยู่ในห้องด้วย สีหน้าของนางวิมาลาดูสดชื่นกว่าเดิมมาก คนตัวเล็กรีบเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง นางกอดตอบบุตรสาวพร้อมกับลูบศีรษะเล็กอย่างเอ็นดู“แม่เป็นอย่างไรบ้างคะ อาการดีขึ้นไหม ทานอะไรได้ปกติหรือเปล่าคะ รินทร์ขอโทษนะที่ไม่ได้อยู่ดูแลตอนที่แม่ผ่าตัด” หล่อนถามมารดาด้วยความเป็นห่วง น้ำตาคลอหน่วยตา นางวิมาลายิ้มบาง ๆ แล้วเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว“ไม่เป็นไรหรอกลูก เห็นสายป่านบอกว่าหนูกับแฟนไปงานด่วนที่ต่างประเทศกลับมาไม่ทัน แฟนหนูเลยให้คุณแอลตันกับสายป่านมาช่วยดูแลแม่แทนให้ ขอบใจแฟนหนูด้ว
หลังจากคนตัวโตปราบพยศเด็กดื้อเรียบร้อยแล้ว เขาก็ลุกไปทำอาหารเย็นเตรียมไว้ให้หญิงสาว ด้วยกลัวว่าหล่อนจะหิวเมื่อตื่นขึ้นมา ในขณะที่ร่างแกร่งกำลังสาละวนกับการทำอาหารอยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของใครบางคนเดินเข้ามาในครัว ซึ่งเขาจำเสียงฝีเท้านั้นได้ดี “ของที่กูสั่งได้ครบมั้ย ” แอลตันพยักหน้าพร้อมกับส่งถุงอาหารสดและอาหารแห้งให้เซดริก เขารับถุงอาหารมาจัดเก็บของสดใส่ตู้เย็นและเก็บของแห้งไว้ในตู้วางของแห้ง“แล้วเสื้อผ้าเมียกู่ล่ะ มึงไม่ได้ซื้อมาหรือไง?” เขาเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นถุงเสื้อผ้าตามที่สั่ง“มึงสั่งกูให้ซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในของผู้หญิง แต่เสือกไม่บอกไซส์มาแล้วกูจะไปซื้อถูกได้งัยวะ ” แอลตันพูดพลางส่ายหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน“เฮอะ..กูเพิ่งรู้ว่าเรื่องแค่นี้เพลย์บอยอันดับหนึ่งอย่างมึงก็ไม่มีปัญญาแก้ปัญหา” เซดริกพูดเน้นเสียงหนักแสดงอาการหงุดหงิด ในขณะที่แอลตันยักคิ้วให้อย่างยียวนก่อนจะตอบกลับเพื่อนสนิทออกไป“กูไม่ได้สิ้นคิดขนาดนั้นหรอกน่า คนอย่างกูสมองอัจฉริยะเรื่องแค่นี้ทำไมกูจะแก้ไม่ได้วะ” แอลตันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับหันหน้าไปทางประตูทางเข้า เซดริกได้ยินเสียงฝีเท้าเบา ๆ ของใครคนหนึ่ง








