Home / วาย / [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ / ตอนที่ ๗ ข้าคิดถึงเจ้าเยี่ยนเอ๋อร์

Share

ตอนที่ ๗ ข้าคิดถึงเจ้าเยี่ยนเอ๋อร์

last update Last Updated: 2025-12-09 18:40:55

ตอนที่ ๗ ข้าคิดถึงเจ้าเยี่ยนเอ๋อร์

จ้าวอู่ฉีสัมผัสอย่างนุ่มนวล เขาค่อย ๆ ละเลียดฉกชิมความหวาน สอดปลายลิ้นเข้าไปสัมผัสไล่ต้อนเสียจนซูเยี่ยนจนมุม มือแกร่งลูบไล้ไปตามลำตัวที่ไร้อาภรณ์ขวางกั้น สะท้านเสียจนคนใต้ร่างบิดตัว ใบหน้าหล่อเหลาผละจูบออกแล้วจึงซุกไซ้ไปตามลำคอขาว สัมผัสร่างกายของซูเยี่ยนทุกสัดส่วนด้วยความคุ้นชิน

“ข้าคิดถึงเจ้า..เยี่ยนเอ๋อร์” กล่าวจบก็สัมผัสยอดเกสรดอกเหมยด้วยปลายลิ้น จ้าวอู่ฉีตวัดรัวเร็วเสียจนคนใต้ร่างสั่นสะท้าน

“อื้อ” เสียงหวานหลุดครางเบา ๆ ก่อนจะโดนบดจูบเร่าร้อนอีกครา เรียวขาขาวถูกแยกจากกันทีละน้อย ความชื้นกยดซึมเป็นด่างดวงบนผ้าคลุมเตียง บ่งบอกว่าร่างกายของซูเยี่ยนก็คิดถึงจ้าวอู่ฉีไม่ต่างกัน

ปลายนิ้วเรียวแทรกผ่านส่วนอ่อนไหวทีละน้อย ซูเยี่ยนเสียวซ่านเสียจนต้องฝังปลายนิ้วลงที่ท่อนแขน สิ่งนั้นหาได้ทำให้เขาเจ็บแต่อย่างใด หากแต่ทำให้เขารู้สึกดี จ้าวอู่ฉีขยับปลายนิ้วเข้าออกทีละนิด ส่วนมืออีกข้างก็ชักรูดส่วนแข็งขืนที่อยู่กึ่งกลางลำตัว

ร่างบางช่างตอบสนองได้ดี ภายในอ่อนนุ่มโอบรัดปลายนิ้วของจ้าวอู่ฉีแน่น ทั้งยังตอดรัดเป็นจังหวะเดียวกัน

“ท่านพี่ข้า…อ๊า” เสียงครางหวานกล่าวได้เพียงเท่านั้นเพราะไม่อาจทานทนไหว ซูเยี่ยนเสร็จสมปลดปล่อยออกมา

“เสียงเจ้าหวานนักเยี่ยนเอ๋อร์” ท่านอ๋องกล่าวชมเสียงกระเส่า เขาดึงร่างของซูเยี่ยนขึ้นนั่งทาบทับบนท่อนขาแกร่ง ฝ่ามือร้อนเริ่มสัมผัสแผ่วเบาไปตามแผ่นหลังอีกครั้ง

ซูเยี่ยนเชิดใบหน้าขึ้น ปล่อยให้จ้าวอู่ฉีซุกไซ้ใบหน้าหล่อเหลาไปตามลำคอขาว มือทั้งสองข้างของเขาก็วางบนลาดไหล่หนา ท่านอ๋องยกยิ้มชอบใจ ก่อนจะใช้ริมฝีปากกดจูบไปตามแผงอก ส่งปลายลิ้นเลียเบา ๆ ไปตามเม็ดทับทิมทั้งสองข้าง สัมผัสเร่าร้อนชวนให้คนด้านบนจิตใจเตลิด เผลอไผลบดเบียดบั้นท้ายขาวลงบนตักแกร่ง

“เยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าเป็นจิ้งจอกน้อยหรือไรกัน” เสียงจ้าวอู่ฉีกล่าวหยอกเย้า การกระทำไม่ประสีประสาของซูเยี่ยนทำเอาจ้าวอู่ฉีร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาใช้ฝ่ามือลูบไล้ไปตามต้นขาขาว เลื่อนไปจนถึงเอวบางแล้วจึงยกขึ้นเพียงนิด

อาภรณ์ของจ้าวอู่ฉียังอยู่ครบ ไม่ได้มีชิ้นใดหลุดพ้นจากร่างเลยสักชิ้น หากแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา ไม่มีสิ่งใดหยุดเขาได้แล้วในตอนนี้ กายแกร่งแข็งขืนไม่อาจจะทานทนได้อีก มือแกร่งข้างหนึ่งจัดการปลดชายผ้าเพื่อนำสิ่งนั้นออกมา ส่วนอีกข้างจับขาขาวให้อ้าออกกว้างกว่าเดิม เขาดุนดันร่างกายเข้าใส่ส่วนอ่อนไหวซูเยี่ยนอย่างนุ่มนวล

ซูเยี่ยนจิกปลายนิ้วที่ลาดไหล่ทันที ริมฝีปากบางเม้มแน่น พยายามเก็บกักเสียงน่าอายไม่ให้หลุดลอด

“ปล่อยเสียงหวานของเจ้าให้ข้าได้ฟังเถิด ข้าอยากฟังเสียงเจ้า”

“ข้า…ข้ารู้สึกอึดอัด” ซูเยี่ยนพูดเสียงแหบพร่า ไม่อาจจะเปล่งให้ดังกว่านี้ได้

“ขยับได้หรือไม่” จ้าวอู่ฉีเองก็ไม่ต่างกัน

“พ่ะย่ะค่ะ”

สิ้นเสียงของซูเยี่ยน มือแกร่งจึงรั้งเอวบางให้ขยับ ขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบเร่าร้อน จ้าวอู่ฉีดูดดุนปลายลิ้นเล็กอย่างรุนแรง เสียงหยาบโลนดังลั่นหากแต่ไม่ดังมากนัก เพราะเกรงว่าบุตรชายที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนักจะตื่นขึ้นมากลางคัน

ใช้เวลาไม่นานนักในการเรียนรู้ ซูเยี่ยนก็สามารถขยับเองได้ เขาทำไปตามสัญชาตญาณ หากแต่นั่นเกือบทำให้จ้าวอู่ฉีสำลักตาย มือแกร่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง สัมผัสวาบหวิวเบา ๆ ไปตามสีข้าง ริมฝีปากก็ดูดดึงยอดอกของซูเยี่ยนไม่ขาด

“หากเจ้าทำเช่นนั้น ข้าจะตายแล้ว” ท่านอ๋องกล่าวเสียงทุ้ม เพราะคนด้านบนขยับตัว อาจเพราะอยู่ท่าเดิมนานเกินไปจึงเมื่อยขบ ซูเยี่ยนยกขาขาวเหยียบบนเตียงเตา แล้วจึงขยับตัวอีกครา

“อ๊า เยี่ยนเอ๋อร์ของข้า” จ้าวอู่ฉีเท้าแขนไปทางด้านหลัง สายตาคมมองดูใบหน้าชื้นเหงื่อของซูเยี่ยที่นแดงซ่านชวนมอง

“ท่านพี่ ข้า อื้อ รู้สึกแปลก ๆ” เสียงหวานหลุดกระเส่าขณะขยับตัวถูไถอยู่ด้านบน

“รู้สึกดีหรือไม่”

“ข้า...อื้อ” หากไม่ทันจะได้ตอบ จ้าวอู่ฉีก็ขยับร่างกายขึ้น ก่อนจะดันตัวของซูเยี่ยนนอนลงแทน

“ข้าจะพาเจ้าสู่ขอบสวรรค์” กล่าวจบก็ค่อย ๆ โถมร่างกายเข้าใส่ จ้าวอู่ฉีไม่ได้ทำอุกอาจ หากแต่ค่อยเป็นค่อยไปและนุ่มนวล ใบหน้าหล่อเหลามองคนใต้ร่างด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะก้มลงบดจูบที่ริมฝีปาก

ซูเยี่ยนจูบตอบเร่าร้อน ใช้มือลูบไปตามแผ่นหลังผ่านอาภรณ์ ก่อนจะยกคล้องลำคอแล้วจึงปล่อยตัวปล่อยใจให้จ้าวอู่ฉีนำพา

มือแกร่งข้างหนึ่งของท่านอ๋องสัมผัสส่วนแข็งขืนของเยี่ยนเอ๋อร์ พร้อมกับถาโถมเข้าใส่รุนแรง

“ท่านพี่ ข้า…”

ท่านอ๋องยกยิ้มเมื่อรู้สึกได้ถึงร่างกายที่โอบรัดแน่น จึงขยับสะโพกเข้าใส่รัวเร็ว เขาแทบจะสกัดกั้นความปรารถนาเอาไว้ไม่ไหว จ้าวอู่ฉีพยายามอย่างยิ่งที่จะอดกลั้น ทว่าก็ไม่อาจทานทน ซูเยี่ยนก็เช่นเดียวกัน ในหัวของเขาขาวโพลน มองเห็นขอบสวรรค์รำไร จ้าวอู่ฉีจึงถาโถมกายเข้าใส่บดเบียดแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยความปรารถนาให้ไหลทะลักออกมา

“อ๊า” เสียงทุ้มหลุดลอดขณะขยับเอวกระแทกเข้าใส่กดลึก เพราะอยากให้แน่ใจว่าเชื้อพันธุ์ได้เข้าไปภายในร่างกายของซูเยี่ยนทุกหยาดหยด

ริมฝีปากร้อนก้มลงบดจูบปลอบใจ ก่อนจะผละออกแล้วแตะไปที่หน้าผากขาว เลื่อนลงตรงเปลือกตาที่กำลังหลับ ไล่ลงไปจนถึงปลายจมูกโด่งรั้น

“ข้ารักเจ้าเยี่ยนเอ๋อร์”

กล่าวจบก็ถอดถอนสิ่งแข็งขืนออก เผยให้เห็นน้ำสีขาวขุ่นไหลตามออกมาบางส่วน จ้าวอู่ฉีมองหน้าซูเยี่ยนที่กำลังปรือตาจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่

“พักผ่อนเสีย” หากพอรู้ว่าซูเยี่ยนผู้นี้เหนื่อยยิ่งนัก ทั้งตัวเขานั้นก็ไม่ได้ช่วยแบ่งเบา

ซูเยี่ยนไม่อาจจะดื้อดึง เขาทานทนความง่วงงุนไม่ไหวอีกต่อไป เปลือกตาสีอ่อนปิดลงไปพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ จ้าวอู่ฉีมองคนหลับใหล แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึก มือแกร่งควานหาผ้าห่มผืนบางปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าให้ซูเยี่ยน แล้วจึงลุกขึ้นไปดูบุตรชาย

ในเช้าวันต่อมาจ้าวอู่ฉีควบม้าเข้าเมืองหลวง เขาไม่ได้ตรงไปยังท้องพระโรงของพระราชวัง เพราะการมาในครานี้เป็นการเข้าเฝ้าส่วนพระองค์ ร่างสูงเดินตรงไปยังพระตำหนักกล่าวจุดประสงค์กับขันทีในทันทีที่ไปถึง เพราะหยวนกงกงผู้นี้รู้ล่วงหน้าถึงการพบปะอยู่แล้ว จึงเข้าไปรายงานต่อฮ่องเต้อย่างง่ายดาย

จ้าวอู่ฉีเดินเข้าไปด้านใน หลังจากที่ฮ่องเต้ทรงอนุญาต ขันทีผู้นั้นเคารพอย่างนอบน้อมแล้วจึงเดินออกไป

“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ” จ้าวอู่ฉีคุกเข่าลงพลางเอ่ยปากกับหลี่เซียวเหอที่กำลังทรงพระอักษร

“ไม่ต้องมากพิธี” เสียงทุ้มตอบกลับมา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสุรเสียงทรงพลัง “ได้ความอย่างไรบ้าง”

“เป็นอย่างที่พระองค์เคยตรัสเอาไว้ไม่ผิดพ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพหยางคิดก่อการกบฏ”

“เจ้าว่ามีคนอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่”

“กระหม่อมสงสัยใต้เท้าจางยิ่งนักพ่ะย่ะค่ะ”

“เหตุใดเจ้าถึงสงสัยคนผู้นั้นกันเล่า”

“กระหม่อมสืบทราบมาว่า เมื่อหลายเดือนก่อนอัครมหาเสนาบดีได้เคลื่อนไหวรวบรวมพรรคพวกที่ชายแดนเป่ย”

“ที่หลี่ชิงเจี๋ยอยู่อย่างนั้นรึ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ได้ความอะไรอีกหรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ หรงอ๋องแอบลักลอบหารือกับพวกแมนจูลับ ๆ หากเวลาต่อมาพวกแมนจูก็ยกพลเข้ามารุกรานทางทิศใต้ กระหม่อมจึงคิดว่าบางทีเขาอาจกำลังคิดการใหญ่”

“จับตาดูคนผู้นั้นอย่าให้คลาดสายตา”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“มีเรื่องอะไรอีกหรือไม่”

“ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลขอประทานอนุญาต”

“ว่ามา”

“กระหม่อมจะขอให้ซูเยี่ยนขึ้นเป็นหรูเหรินพ่ะย่ะค่ะ” หลังจากที่จ้าวอู่ฉีกล่าวจบ พระโอษฐ์ของหลี่เซียวเหอทรงแย้มสรวล ก่อนจะกล่าวด้วยสุรเสียงร่าเริง

“ซูเยี่ยนผู้นั้นที่เจ้าขอพระราชทานสมรสครั้งก่อนใช่หรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“คนผู้นั้นเป็นถึงบุตรชายของแม่ทัพซูเสวียน หนึ่งในแม่ทัพจตุรทิศ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับเกียรติ เช่นนั้นข้าจะอนุญาตก็แล้วกัน...หยวนกงกงเข้ามาพบข้า”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”

“ถ่ายทอดราชโองการของข้าลงไป ให้เลื่อนขั้นซูเยี่ยน จากเดิมอิ้งซื่อให้ขึ้นเป็นหรูเหริน”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”

หยวนกงกงออกไปจากพระตำหนักทันทีที่ได้รับคำสั่ง นั่นจึงทำให้จ้าวอู่ฉีหันกลับมาที่ฮ่องเต้อีกครั้ง

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

หลังจากที่จ้าวอู่ฉีกลับจากวังหลวง เขาก็ต้องไปยังค่ายฝึกทหารในทันที ไม่ได้กลับมาที่จวน ดีหน่อยที่ช่วงนี้ยังอยู่ในสารทฤดู นั่นจึงทำให้ไม่ร้อนอบอ้าวจนเหงื่อเปียกชุ่มเหนอะหนะ แต่ก็ใช่ว่าจะสบาย เพราะสายลมที่พัดไอความเย็นมาเป็นระยะ ทำเอามือที่จับดาบแข็งเป็นก้อนหิน

เสียงของนายกองดังกำลังสั่งเหล่าทหารกล้าอย่างหนักแน่น จ้าวอู่ฉียืนจับสังเกตอย่างเข้มงวด หลังกลับจากการทำศึกครั้งล่าสุด แม่ทัพจ้าวอู่ฉีเสียกำลังไปมาก นั่นจึงทำให้ครานี้เหล่าพลทหารจะต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและเข้มงวดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ใบหน้าหล่อเหลาขยับเล็กน้อยเป็นสัญญาณของความพอใจ จ้าวอู่ฉียืนนิ่งอยู่บนเนินหิมะ มองลงไปยังเหล่าทหารที่กำลังฝึกซ้อมกันอย่างเข้มแข็ง การเคลื่อนไหวพร้อมเพรียง ทุกย่างก้าวเงียบเชียบจนไร้เสียงฝีเท้าย่ำลงบนผืนหิมะ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดหวัง

“ท่านแม่ทัพ”

เสียงเรียกจากด้านหลังดึงสายตาคมกริบให้ละจากภาพเบื้องหน้า จ้าวอู่ฉีหมุนตัวกลับมามอง คนที่เข้ามาคือสายสืบภายใต้หน้ากากดำที่เขาไว้ใจ

“ว่ามา” น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูทรงอำนาจ

“เมื่อคืนมีรายงานว่าหรงอ๋องนัดแนะกับท่านอัครมหาเสนาบดีขอรับ” สายสืบรายงานด้วยน้ำเสียงมั่นคง

จ้าวอู่ฉีหรี่ตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากยกขึ้นเพียงนิด

“ที่ใด?”

“หอโคมแดงขอรับ...อีกสองเดือนนับจากนี้”

ดวงตาคมกริบของแม่ทัพใหญ่พลันวาวโรจน์เมื่อได้ยิน

“หึ...คนผู้นั้นเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งแล้วสินะ” เสียงของเขาแฝงความเย็นชา ราวกับคาดเดาถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

เขาหันกลับไปมองเหล่าทหารเบื้องล่างอีกครั้ง ก่อนเอ่ยคำสั่งหนักแน่น

“สั่งเตรียมความพร้อมทุกเมื่อ อย่าได้ประมาท”

“ขอรับ!” สายสืบค้อมศีรษะรับคำ ก่อนจะถอยออกไปอย่างเงียบงัน

จ้าวอู่ฉียืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ความคิดมากมายวนเวียนในหัวความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแผนการใหญ่ เขายกมือขึ้นแตะคางเบา ๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหันกลับไปมองสนามฝึกต่อ

หลังจากที่กลับจากการฝึก จ้าวอู่ฉีเข้ามาในจวนของตนเอง จัดการเขียนรายงานไปยังเหล่าแม่ทัพใหญ่ทั้งสองเพื่อแจ้งข่าว ทว่ายังไม่ทันที่จะเสร็จสิ้นดีเยียนชิงก็เข้ามาเสียก่อน

“ท่านอ๋อง…”

“มีเรื่องอะไร”

“พระชายาเอกเชิญท่านไปที่เรือนขอรับ”

“ปฏิเสธไป”

“ขอรับ”

หลังจากอยู่ในห้องเขียนหนังสือเสียจนดึกดื่น จ้าวอู่ฉีจึงวางพู่กันลงแล้วเดินออกห้อง เป้าหมายของเขาก็คือเรือนหลันฮวา

“ท่านอ๋อง” สวี่เฟิงเห็นเขาเดินเข้ามา จึงรีบเข้าไปรับหน้าทันที

“เจ้ามีอะไรไปทำก็ไปทำเถิด” เขากล่าวขณะใช้มือข้างหนึ่งโบกไล่

“ขอรับ” สวี่เฟิงโค้งให้อย่างเต็มใจ ใบหน้าของบ่าวหนุ่มประดับไปด้วยรอยยิ้ม

ซูเยี่ยนกำลังอยู่ในห้วงนิทรา โดยหารู้ไม่ว่ามีคนผู้หนึ่งกำลังก้าวเข้ามาใกล้ หลังจากที่ท่านอ๋องมาที่เรือนหลันฮวาเมื่อหลายคืนก่อน เช้าวันต่อมาพ่อบ้านหม่าก็มาแจ้งข่าวว่าได้จัดเตรียมเรือนหลังใหม่ให้บุตรชายของตนแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดี ด้วยเหตุนี้เองสวี่เฟิงดูจะชอบใจอยู่มาก แต่บ่าวหนุ่มคงไม่รู้เลยว่านั่นเป็นเพียง ‘ค่าอุ่นเตียง’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้

    ตอนที่ ๒๖ เคียงกันนับจากนี้ยามค่ำคืนในจวนอ๋องเงียบสงัด แต่ในใจของจ้าวอู่ฉีกลับเหมือนมีพายุโหมกระหน่ำ ร่างสูงเดินไปเดินมาหน้าห้องคลอดไม่หยุด เสียงฝีเท้ากระทบกับพื้นหินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ทว่าในหัวกลับวุ่นวายเสียจนแทบฟังเสียงตนเองไม่ได้ เขาเงยหน้ามองประตูที่ปิดสนิท ใจจดจ่อกับเสียงที่เล็ดลอดออกมาเป็นระยะ ๆ“ท่านอ๋องโปรดวางใจ กระหม่อมเชื่อว่าชายารองจะต้องปลอดภัยพ่ะย่ะค่ะ” เยียนชิงเอ่ยปลอบเจ้านายของตนขณะยืนรออยู่ไม่ห่าง จ้าวอู่ฉีเพียงพยักหน้ารับเล็กน้อย ทว่าแววตายังคงจับจ้องไปยังประตูด้วยความร้อนใจเสียงร้องเบา ๆ ของทารกดังลอดออกมาในที่สุด บรรยากาศที่เงียบงันเมื่อครู่พลันถูกทำลาย จ้าวอู่ฉีหยุดเดินในทันใด เขาขยับเข้าไปใกล้ประตูด้วยความตื่นเต้น เสียงของหมอตำแยดังแว่วออกมา“เป็นเด็กผู้หญิงเพคะ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก”ร่างสูงถอนหายใจออกมายาว ๆ ราวกับปลดปล่อยความกังวลที่กักเก็บไว้ก่อนหน้านี้ เขาหันมองเยียนชิงที่ยกยิ้มเล็กน้อยให้“ข้าจะเข้าไป”กลิ่นสมุนไพรและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องคลอดโชยออกมา จ้าวอู่ฉีก้าวเท้าเข้าไปด้วยท่าทีสุขุม ทว่าดวงตากลับเผยความอ่อนโยนที่หาได้ยาก มองซูเยี่ยนเอนตัวพิงหมอนอย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๕ ลาจาก

    ตอนที่ ๒๕ ลาจากในพระราชวังหลวง หลังการปราบปรามกบฏที่เมืองหลวงสำเร็จลง จ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินในชุดแม่ทัพเต็มยศเดินเข้าสู่ท้องพระโรง ใบหน้าของทั้งสองยังคงแสดงถึงความเหนื่อยล้าจากการศึกที่เพิ่งสิ้นสุด“กระหม่อมจ้าวอู่ฉีและหลี่ตงจวินน้อมถวายบังคมฝ่าบาท” ทั้งสองคุกเข่าลงพร้อมกัน ขณะที่ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงประทับบนบัลลังก์ทอง ดวงเนตรคมจับจ้องไปยังสองผู้ภักดี“ลุกขึ้นเถิด” สุรเสียงทรงพลังเอ่ยสั่ง แต่ยังคงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่น “การศึกครั้งนี้จบลงแล้วหรือไม่?”“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท” หลี่ตงจวินรายงานพลางก้าวออกมาก้าวหนึ่ง “หลี่ชิงเจี๋ยและผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดถูกจับกุมแล้ว พร้อมหลักฐานที่พบระหว่างการปราบปราม”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ก่อนจะหันไปยังจ้าวอู่ฉี “แล้วผู้ที่เหลือเล่า?”“ฝ่าบาท กบฏที่เหลืออยู่ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ไม่มีหลงเหลือที่จะก่อความวุ่นวายได้อีก” จ้าวอู่ฉีกล่าวเสียงเรียบแต่หนักแน่น “กระหม่อมได้ส่งตัวจางเหม่ยอิงให้คุกหลวงเพื่อใช้เป็นพยานตามพระบัญชา และได้ส่งมอบหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายสินบนของกบฏแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หลี่เซียวเหอทรงนิ่งไปครู่หนึ่ง พระเนตรทอดมองไปยังทั

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๔ กลับคืน

    ตอนที่ ๒๔ กลับคืนในเช้าวันต่อมาหลังจากการสอบสวนที่คุกหลวง จ้าวอู่ฉีเร่งมุ่งหน้าไปยังพระราชวังด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาก้าวเท้าผ่านประตูวังหลวงอันยิ่งใหญ่ ขันทีในพระราชวังนำทางเขาไปยังพระตำหนักที่เงียบสงบที่ห้องด้านใน หลี่เซียวเหอกำลังตรวจฎีกา หยวนกงกงเข้ามารายงานว่าจ้าวอู่ฉีมาขอเข้าเฝ้า เขาจึงพยักหน้าอนุญาตให้อีกฝ่ายเข้ามา“ถวายบังคมฝ่าบาท” จ้าวอู่ฉีคุกเข่าลงเบื้องหน้าบัลลังก์ทอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ลุกขึ้นเถิด เจี้ยนอ๋อง” หลี่เซียวเหอเอ่ยโดยไม่เงยหน้าขึ้นจากฎีกาในพระหัตถ์จ้าวอู่ฉียืนขึ้นอย่างนอบน้อม ก่อนจะรายงานถึงความคืบหน้าของการสอบสวน “กระหม่อมได้นำตัวจางเหม่ยอิงและเว่ยจงเข้าสอบสวนเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ แม้ได้ข้อมูลบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่กระจ่าง หากกระหม่อมขอพระบรมราชานุญาตให้เพิ่มแรงกดดันเพื่อขยายผล”หลี่เซียวเหอเงยพระพักตร์ขึ้น สายพระเนตรคมกริบจ้องตรงมาที่เขา “เจ้าคิดว่ายังมีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือ”“กระหม่อมเชื่อว่ามีพ่ะย่ะค่ะ หลันซิงเฉินไม่อาจทำเรื่องใหญ่เช่นนี้เพียงลำพังได้”“ดี เช่นนั้นข้าจะให้ราชองครักษ์เสื้อแพรเพิ่มกำลังสนับสนุนเจ้าสำหรับเรื่องนี้”“ข

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตี

    ตอนที่ ๒๓ ลอบโจมตีทางด้านหลี่ตงจวินหลังจากมื้ออาหารค่ำเสร็จสิ้น เขาเอ่ยชวนไป๋ซือเฟิงไปเดินเล่นในลานสวนด้านหลังเรือนใหญ่ แสงจันทร์ส่องกระทบใบหน้าเรียวของไป๋ซือเฟิงที่เต็มไปด้วยความสงบนิ่ง แต่ฝีเท้าของเขากลับเชื่องช้าลงอย่างเห็นได้ชัด หลี่ตงจวินชะลอฝีเท้าตาม สายตามองหน้าท้องที่นูนใหญ่ของอีกฝ่ายด้วยความเป็นห่วง“เดินไหวหรือไม่” หลี่ตงจวินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไหวขอรับ ข้าเพียงแค่...แปลกใจ ทำไมที่นี่ถึงได้ใหญ่โตนัก” เขาเงยหน้ามองไปรอบ ๆ ลานสวนที่ตกแต่งอย่างประณีต มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายหลี่ตงจวินหยุดเดินก่อนจะหันมามองไป๋ซือเฟิงด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย “ความจริง...ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด ข้าขอโทษที่ต้องโกหก”“ท่านหมายความว่าอย่างไร” ไป๋ซือเฟิงชะงักเท้า สายตาจับจ้องหลี่ตงจวิน“ข้าไม่ใช่เพียงชาวบ้านธรรมดาอย่างที่เคยบอกเจ้า” หลี่ตงจวินสูดลมหายใจลึก ก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าชื่อหลี่ตงจวิน ข้าเป็นชินอ๋อง”ไป๋ซือเฟิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เช่นนั้นเอง คิดไว้แล้วว่าท่านต้องไม่ธรรมดา กระหม่อมเสียมารยาทกับท่านแล้ว”“ไม่ต้องมากพิธี เจ้าไม่โกรธข้าก็ดีแล้ว เจ้ารู้เมื่อไรหรือ”

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไร

    ตอนที่ ๒๒ แสงจันทร์รำไรกลางดึกยามฟ้ามืดสนิท จ้าวอู่ฉีลืมตาตื่นขึ้นมาในกระโจมที่เงียบสงัดมีเพียงเสียงลมพัดผ่าน เขารู้สึกอึดอัดจากความคิดมากมายที่วนเวียนอยู่ในหัว จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อสงบจิตใจหมู่ดาวส่องประกายเหนือท้องฟ้า แต่ใจของเขากลับหนักอึ้ง เสียงใบไม้เสียดสีกันในความมืดช่างเงียบงันราวกับปิดบังบางสิ่ง จ้าวอู่ฉีเดินเรื่อยเปื่อยไปยังแนวป่าริมค่าย ทว่าก้าวเท้าไปไม่กี่ก้าว เขาก็ต้องหยุดชะงักร่างในชุดเรียบง่ายของชายคนหนึ่งปรากฏอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ เส้นผมยาวสยายพลิ้วไหวในสายลม เมื่อเดินไปมองใกล้ ๆ จ้าวอู่ฉีแทบจะหยุดหายใจ ดวงตาของเขาเบิกโพลง“ซูเยี่ยน...” เสียงเรียกนั้นหลุดออกมาโดยไม่ทันคิดบุรุษผู้นั้นหันมาพลางยกมือลูบหน้าท้องของตนเอง แววตาที่มองกลับมานั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยความระแวงทว่าจ้าวอู่ฉีไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนีไป เขาพุ่งเข้าไปหาพร้อมกับโอบกอดร่างนั้นไว้แน่น ความอบอุ่นจากอ้อมกอดทำให้เขาแทบจะหลั่งน้ำตาออกมา “ซูเยี่ยน... เจ้ากลับมาแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรอด ข้ารู้ว่าเจ้ายังไม่จากไป...”“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” เสียงตะโกนของอีกฝ่ายดังขึ้น เขาพย

  • [Mpreg] เร้นรักพันธนาการหัวใจ   ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้า

    ตอนที่ ๒๑ ภรรยาข้าไป๋หลี่จวินซึ่งได้รับคำสั่งให้สืบสวนความเคลื่อนไหวในเหลียวหนิง เดินทางมาถึงท่าเรือตระกูลหม่าในยามสาย ท่ามกลางความคึกคักของพ่อค้าและคนงานที่ขนส่งสินค้า ไม่มีใครทันสังเกตว่ามีคนผู้หนึ่งเฝ้ามองด้วยสายตาเฉียบคม“ข่าวว่าตระกูลหม่าเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนสินค้าต้องห้าม เจ้าแน่ใจหรือ” ไป๋หลี่จวินถามคนสนิท ขณะยืนมองกิจกรรมที่เกิดขึ้น“ขอรับนายท่าน ข้าได้รับรายงานจากหน่วยสืบข่าวลับ ว่า ตระกูลหม่านอกจากจะทำการค้าถูกต้อง ยังใช้ท่าเรือนี้เพื่อส่งสินค้าที่มิได้แจ้งแก่ทางการอีกด้วย”ไป๋หลี่จวินพยักหน้าเล็กน้อย “เช่นนั้น เจ้านำกำลังบางส่วนล้อมทางออกท่าเรือไว้ อย่าให้มีผู้ใดหลบหนีได้ ข้าจะเข้าไปดูด้วยตนเอง”เมื่อเดินเข้าไปยังท่าเรือ ไป๋หลี่จวินแสร้งทำทีเป็นพ่อค้าผู้หนึ่งปะปนไปกับฝูงชน ทว่าดวงตาของเขากลับมองไปยังหมู่ตึกที่ตั้งอยู่ด้านใน“นายท่าน นั่นคือที่เก็บของของตระกูลหม่าขอรับ” คนสนิทกระซิบเบา ๆไป๋หลี่จวินพยักหน้า เขาก้าวเข้าไปใกล้หมู่ตึกโดยมิได้แสดงตน ทันใดนั้น เขาก็เห็นชายสองคนกำลังลากเกวียนบรรทุกหีบไม้ขนาดใหญ่ที่ปิดผนึกแน่นหนา“หยุด!” เสียงของไป๋หลี่จวินดังขึ้น ทำให้ชายทั้งส

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status