ค่ำวันหนึ่งในห้องนอนที่เธอเคยนอนร้องไห้ เคยหัวเราะ และเคยหลบสายตาใครบางคนกวาง…นั่งอยู่เงียบๆ มือค่อยๆพับเสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ กล่องกระดาษและกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เปิดรออยู่ที่พื้นไม่มีเสียงเพลง ไม่มีคำพูด ไม่มีใครอีกคนในห้องแต่ความเงียบกำลังกลายเป็นเสียงดังที่สุดในใจเธอ“แค่ปีเดียว…แค่หนึ่งปี…ก็จะผ่านไป…” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆแต่ทุกพับของผ้าที่ใส่ลงกระเป๋าเหมือนกำลังซ่อนไว้ทั้ง “หัวใจที่ยังรู้สึก” และ “ความเจ็บที่ยังไม่หาย”อีกมุมสิงโตที่ไม่รู้…แต่ใจเริ่มสั่นดึกวันเดียวกันสิงโตนั่งอยู่คนเดียวตรงระเบียงสูบบุหรี่มวนสุดท้ายเหมือนพยายามหายใจในคืนที่อึดอัดที่สุดในชีวิต“มึงจะไปจริงๆใช่ไหม…” เขาพึมพำมือหยิบโทรศัพท์มาดูหน้าจอที่ยังค้างอยู่บนข้อความเก่า“อย่าเข้าใจผิดนะคะ กวางไม่ได้คิดอะไรเลย” เขาอ่านมันซ้ำๆทั้งที่อยากจะ “พูดทุกอย่าง” แต่ก็กลัวว่าเธอจะไม่เชื่ออีกแล้ว✈️ วันออกเดินทาง – สนามบินสุวรรณภูมิบ่ายวันนั้นผู้คนเดินขวักไขว่แต่ใจของกวางกลับว่างเปล่าเธอมากับแม่ไม่มีใครจากบ้านนั้นมาไม่แม้แต่ชื่อของเขาในสายโทรศัพท์แม่ลูบผมเธอเบาๆ แล้วกอดแน่น“ไปให้ถึงที่สุดนะลูก แม่เชื่อว่าหัวใจลูกจ
ในบ้านช่วงกลางคืนหลังจากความเงียบกินเวลานานนับชั่วโมงกวางนั่งอยู่ตรงโซฟาปลายนิ้วเรียวยกแก้วน้ำขึ้นจิบช้าๆเธอไม่ได้หันมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแต่เสียงในหัวกลับดังก้องจนอดพูดออกมาไม่ได้“พี่สิงโตเคยรักเขาใช่ไหมคะ…”สิงโตนิ่งเหมือนโลกหยุดหมุน เขาเงยหน้าขึ้นจากมือที่กุมขมับช้าๆดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยแรงปะทะกลับว่างเปล่าราวกับไม่มีคำตอบ“มันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่ง…ที่กูเคยอ่อนแอ”“แต่พี่สิงโตเคยรักเขาใช่ไหมคะ?” กวางถามซ้ำ ดวงตาเธอไม่ได้มีน้ำตาแต่มันสั่นไหวเกินกว่าจะเรียกว่าเข้มแข็ง“กูไม่รู้…” เสียงเขาแหบพร่า“แต่กูรู้ว่าตอนนี้ถ้ามึงเดินออกไปอีกครั้ง… กูคงไม่เหลืออะไรเลย”กวางเม้มปากแน่นเธอหันหน้าไปอีกทางเพื่อซ่อนดวงตาที่แดงก่ำแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นจากมือถือของกวางหน้าจอขึ้นชื่อว่า“ทุนแลกเปลี่ยนระดับปริญญาตรี ปี 4 ประกาศผล”เธอรับสายในความเงียบและเพียงไม่กี่นาทีต่อมาใบหน้าเธอก็เปลี่ยนไป“…กวางได้ทุนค่ะพี่สิงโต ทุนเต็มหนึ่งปี… ไปฝรั่งเศส”สิงโตเหมือนถูกกระแทกด้วยอะไรบางอย่างอย่างแรงหัวใจเขาเต้นช้าลงเจ็บลึกเข้าไปในอก“ไป…ฝรั่งเศสเหรอ”กวางพยักหน้าช้าๆ“ปีหน้ากวางต้องไปเรียนปี 4 ที่นั่นค่ะ
“ขอโทษที่มารบกวน แต่กูอยากคุยกับกวาง”เสียงของกระทิงราบเรียบทว่าแน่นหนักสิงโตไม่พูดอะไรทันทีเขายืนนิ่งสีหน้าราบเรียบเหมือนกำลังพยายามควบคุมไฟที่ลุกอยู่ในอก“กระทิง…” เสียงของกวางเบาหวิวแต่แววตาที่สบกับกระทิงมีทั้งความตกใจและลังเลปนอยู่สิงโตหันไปมองเธอทันทีคิ้วขมวดเข้าหากันมากขึ้น“พี่สิงโต…ให้กวางคุยกับเขาสักครู่ได้ไหมคะ?”สิงโตเม้มปากแน่นไม่มีคำตอบใดหลุดจากปากในทันทีเขาไม่ได้อนุญาต…แต่ก็ไม่ได้ขัดขวาง เขาเพียงเบี่ยงตัวออกเล็กน้อยอย่างไม่เต็มใจเหมือนคนที่จำใจต้องให้ใครบางคนเข้าใกล้สิ่งสำคัญในชีวิตทั้งที่ไม่เคยมีความกล้าพอจะยืนยันว่ามันสำคัญขนาดนั้นกระทิงพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงขอบคุณแล้วเดินเข้ามาในรั้วบ้านสิงโตเดินกลับเข้าไปในบ้านช้าๆโดยไม่หันกลับมาอีกแม้แต่นิดเดียว แต่แผ่นหลังของเขาแข็งเกร็ง…และเสียงฝีเท้าที่หนักขึ้นเรื่อยๆบอกว่าเขากำลัง “เก็บอารมณ์” ไว้จนแทบไม่ไหวสวนหลังบ้านกระทิงกับกวางมายืนอยู่ข้างม้านั่งไม้ใต้ต้นมะม่วงเงาแดดรำไรทาบลงมาบนใบหน้าของทั้งคู่“กวาง…เราขอโทษนะ ที่โผล่มาแบบนี้ แต่เราคิดถึงเธอจริงๆ เราไม่อยากให้เธอหายไปจากชีวิตเราแบบนี้อีกโดยที่เรายังไม่ได้พูดอะไรเลย”กว
บ้านเกียรติภูมิ บรรยากาศก่อนช่วงเปิดเทอมปี 3...หลังจากกลับมาจากต่างจังหวัด กวางไม่ได้ย้ายออกอีกเธอกลับมาอยู่ในบ้านหลังเดิมที่มีความทรงจำมากมายเพียงแต่วันนี้มันเงียบลงกว่าเดิม… และไม่เหมือนเดิมอีกแล้วเช้าในครัวสิงโตอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตพับแขนทำกาแฟให้ตัวเองเขาเหลือบมองไปที่ข้างๆเห็นแก้วกาแฟอีกใบวางเตรียมไว้แล้ว กวางเดินออกมาจากห้องเห็นสิงโตชะงักก็พูดขึ้นทันที“กลัวพี่ไม่มีอะไรตกถึงท้อง” กวางพูดเสียงเรียบ“มึงไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้” สิงโตพึมพำทั้งคู่ไม่ได้สบตากันแต่แค่การใช้ชีวิตในพื้นที่เดียวกันเริ่มมีจังหวะที่ “พอดี” ขึ้นเรื่อยๆตอนกลางคืนห้องรับแขกกวางนั่งกอดหมอนดูซีรีส์เรื่องเดิมที่เคยดูคนเดียว ตอนนี้มีสิงโตนั่งอีกฝั่งของโซฟาหยิบขนมจากถุงเธอไปเฉยๆ ไม่ได้ขอ ไม่ได้พูด“พี่ไม่รู้เหรอว่าควรถามก่อน?” กวางมองค้อน“ก็อยู่บ้านเดียวกัน จะหวงอะไรมาก…” สิงโตเคี้ยวแล้วมองเฉยๆ“แต่ฉันไม่ใช่ ‘น้องสาว’ พี่ไม่ใช่เหรอ?” กวางย้อนคำพูดนั้นทำให้สิงโตนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่พูดอะไรต่อเธอหันไปดูจอ เขาหันไปมองเธอเงียบๆแค่เสี้ยววินาทีวันถัดมากวางซื้อของกลับมาและเห็นว่าครัวสะอาดเรียบร้อยแถม
บ้านเกียรติภูมิสิงโตยืนเงียบในห้องมืด… โทรหาพ่อสิงโตเสียงแตกๆ“พ่อ… กูแม่ง… ไม่ไหวแล้วว่ะ กูไม่เคยขอให้ใครกลับมาอยู่บ้าน… แต่ช่วยพูดกับแม่ของกวางให้หน่อยได้มั้ย ให้เขากลับมาอยู่ที่นี่… ถึงเขาจะไม่มองหน้ากูก็ยังดี”เสียงในสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะมีเสียงถอนหายใจหนักๆภาคภูมิเสียงทุ้มเหนื่อยแต่จริงใจ“เออ… เอาให้สุดไปเลยสิงโต… กูรอมึงพูดคำนี้มานานแล้ว”ปิดเทอมปี 2หลังจากเรื่องราวมากมายที่โหมกระหน่ำจนใจแทบไม่เหลือที่ยืนกวางตัดสินใจกลับไปที่บ้านเกิด ในช่วงปิดเทอมปี 2 เพื่อ “พักหัวใจ” และ ถามตัวเองว่าเธอจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ทั้งหมดนี้ต่อไปเสียงลมผ่านทุ่งนา เสียงไก่ขันตอนเช้า และเสียงช้อนกระทบจานจากแม่ในครัว ทุกอย่างคือ ความอบอุ่นเดิมๆที่กวางเคยหนีมาในวันที่อยากโตแม่ (เสียงเรียกจากครัว):“ลูกตื่นยังลูก? แม่ทำไข่เจียวใส่หมูสับไว้ให้…”กวางเดินลงมาด้วยเสื้อยืดสีซีดผมรวบลวกๆ เธอเหมือนคนที่ใจยังลอยไม่แน่ใจว่าการกลับมานี่คือการพักหรือการหนีแม่ยิ้มให้เธอจากครัวก่อนจะพูดโดยไม่มอง“ถ้ากลับมาแค่มานอนเฉยๆไม่คุยกับใคร แม่จะคิดว่าเรามีแฟนแล้วอกหักเอานะ”“ไม่ได้อกหักหรอกค่ะแม่… แค่เหนื่อย” กวา
คืนหนึ่งหลังอาหารเย็นกวางนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะ สิงโตเงียบกว่าเดิม เบื่อความตึงเครียดแต่ก็ไม่กล้าทำอะไรให้ระเบิดอีกและเบอร์รี่… เริ่มยิ้มร้าย“สิงโต~ คืนนี้นอนห้องเบอร์รี่มั้ยจะได้คุยกันหลายๆเรื่อง… เหมือนเมื่อก่อน” เบอร์รี่เสียงใสเสียงจานในมือน้องกวางกระทบโต๊ะเบาๆเธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาแต่มือที่จับแก้วชา… สั่นเล็กน้อย“ไม่อะ… กูไม่อยากคุย” สิงโตพูดช้าไม่สบตาใคร“หรือกลัวคนที่ไม่ใช่แฟน… จะเข้าใจผิด?” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆบรรยากาศในบ้านเงียบลงทันทีจนได้ยินเสียงลมหายใจของกวางชัดเจน“กูเหนื่อย… ขอขึ้นห้องก่อน” สิงโตเสียงนิ่งเบอร์รี่ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่หันมายิ้มให้กวางแทน“ระวังนะกวาง… คนที่ลังเลนานๆมักจะเสียทุกอย่างไปพร้อมกันนั่นแหละ” เบอร์รี่เสียงเบาเช้าวันหนึ่งกวางส่งข้อความหากระทิง… แต่ไม่ได้รับคำตอบเลย วันสองวันแรกก็คิดว่าเขายุ่งจนวันหนึ่งมีรูปหนึ่งเด้งขึ้นมาในโซเชียลจากเพื่อนในกลุ่มรูปกระทิงอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งในคาเฟ่เล็กๆหญิงคนนั้นชื่อ “พลอย” เป็นคนจากคณะรัฐศาสตร์และกำลังเป็นดาวเด่นของมหาวิทยาลัยปลายทางของรูปคือกวางที่นั่งมองหน้าจออย่างนิ่งงันและคำตอบจากกระทิงก็มาหลังจากนั้นกระ