เช้าวันต่อมา
หน้าบ้าน กวางยืนอยู่หน้าบ้านในชุดเรียบง่าย เสื้อยืดกางเกงยีนส์ มีกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ กระเป๋าสะพาย และกล่องพัสดุขนาดกลางวางกองอยู่หน้าประตู เธอก้มหน้าลากของทีละชิ้นไปไว้ริมถนนเหมือนตั้งใจจะไม่ให้ใครเห็น แต่ไม่ทัน…เสียงฝีเท้าหนักๆเดินลงบันไดมา “…มึงทำอะไร” กวางชะงักมือทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นเธอไม่กล้าหันไปมองแต่ตอบออกมาเสียงเรียบ “กวางจะย้ายออก” เงียบ… ก่อนเสียงหัวเราะเยาะเย็นจะดังขึ้นจากข้างหลังสิงโตยืนเท้ากำแพงแขนไขว้หน้าอกสายตาหยันเจ็บ “จะไปอยู่กับมันเหรอ? ไอ้กระทิงนั่นน่ะ?” “ไม่ค่ะ กวางหาหอใหม่ไกลหน่อย เพราะแถวนี้มีแต่หอของพี่ กวางไม่อยากอยู่ในที่ที่พี่เป็นเจ้าของ” ประโยคสุดท้ายนั้นแทงใจดำสิงโตเต็มๆจนเขาเงียบไป “ดี… ไปให้พ้นเลย” แต่ไม่ทันไรเขาก็โต้กลับด้วยคำพูดสุดปากแข็ง “ยิ่งไกลยิ่งดี จะได้ไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก” กวางเม้มปากแน่นพยายามกลั้นน้ำตา เธอก้มเก็บกล่องใบสุดท้ายขึ้นลากไปริมฟุตบาท สิงโตยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ ไม่ช่วย ไม่ห้าม แค่จ้องเธอจากด้านหลังเหมือนจะฝังภาพนี้ไว้ในหัว “มึงเกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ…” เขาพึมพำเบาๆกับตัวเอง หลังประตูบ้านปิดลง เธอไม่ได้ยินและเขาไม่เคยพูดให้เธอได้ยิน . . . เวลาบ่ายแก่ๆ เสียงทีวีเปิดอยู่แต่ไม่มีใครสนใจสิงโตนั่งพิงโซฟาตาเหม่อมองหน้าจอที่ไม่รู้แม้แต่ว่ารายการอะไร ในมือมีเบียร์เปิดขวดหนึ่งกับโทรศัพท์ที่หน้าจอว่างเปล่า ไม่มีข้อความ ไม่มีสาย ไม่มีเสียงเรียก “พี่สิงโต” แบบที่เคยมีทุกวัน เขาพลิกตัวบนโซฟา ล้มตัวนอนหันหลังให้แสงแดดที่สาดเข้ามา “แม่งเงียบเป็นบ้า…” เขาเคยบ่นว่าเธอเสียงดัง แต่ตอนนี้เสียงที่เงียบต่างหากที่ทำให้เขาแทบบ้า หอพักใหม่ของกวาง เย็นวันแรกของการย้ายเข้าหอพักเก่าๆแห่งหนึ่งไกลจากมหาวิทยาลัย กวางลากกระเป๋าเข้าห้องด้วยตัวเองหอบเหนื่อยหลังขึ้นบันไดชั้น 4 ทันใดนั้น...กระทิงก็โผล่พรวดเข้ามา “กวาง! ย้ายมานี่จริงๆเหรอ? ทำไมไม่บอกเลย เดี๋ยวช่วยถือของ!” กระทิงไม่ถามเยอะ ไม่รุกเร้า แค่เดินเข้าไปช่วยยกกล่องโดยไม่พูดอะไรเพิ่ม ในห้องเล็กๆที่แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์เขาก็ยกน้ำเปล่า 2 ขวดมาให้และนั่งลงข้างๆอย่างเงียบๆ “ถ้าเหนื่อย… ร้องไห้ก็ได้นะ” แค่ประโยคนั้น...กวางก็หลุดน้ำตา ห้องนอนสิงโต เขานั่งกดมือถือเลื่อนฟีดไม่ได้ตั้งใจจะเปิดดู แต่เจอสตอรี่เพื่อนในคณะแท็กกวางกับกระทิง [ภาพกวางกับกระทิงนั่งกินข้าวแกงใกล้หอพัก] แคปชั่น: “เพื่อนใหม่เพิ่งย้ายมาใกล้ๆกันเยยย 🤍” ( กระทิงย้ายตามมาอยู่ใกล้ๆกวาง เพื่ออยู่เป็นเพื่อนกวาง และเขาก็ไม่อยากอยู่หอที่สิงโตเป็นเจ้าของแล้วเหมือนกัน ) เสียงขวดเบียร์ในมือเขาหล่นกระแทกพื้นจนแตกแต่เขาไม่สนใจนิ้วที่สั่นเครือยังค้างอยู่บนจอ “ไอ้เหี้ยกระทิง…” เขาโยนโทรศัพท์ลงพื้นดังปัง แล้วหายใจแรงเหมือนจะขาดอากาศก่อนจะฟาดหมอนลงกับผนัง ลุกพรวดขึ้นมาเตะเก้าอี้อย่างบ้าคลั่ง “จะเอากันให้ได้เลยใช่มั้ย?! มึงสองคน!” . . . บรรยากาศค่ำคืน – ด้านหน้าหอพัก “ขอบใจนะกระทิง…ที่อยู่ข้างๆ ทุกคนก็ถามกันเยอะว่ากวางทำไมย้ายออก…” “ไม่ต้องบอกใครก็ได้ เรารู้แค่ว่ากวางเจ็บพอแล้วพอ…อยู่ตรงนี้เสมอนะ ไม่ว่าเธอจะอยากให้เราอยู่ฐานะไหนก็ตาม” กระทิงไม่พูดเยอะแต่เอื้อมมือไปลูบหัวเธอเบาๆ รอยยิ้มของเขาอบอุ่นและสายตาก็จริงใจอย่างที่สุด . . . คืนวันศุกร์ – ผับราชสีห์ เสียงเพลงดังกระหึ่มแต่ทุกอย่างหยุดชะงักเมื่อสิงโตเดินชนไหล่กระทิงที่เพิ่งเข้ามากับเพื่อนกลุ่มดาวเดือน “มึงมาอะไรที่นี่วะหรือจะมาเช็กสาขาผัวน้องสาวกู?” เพื่อนๆรอบตัวชะงักรวมถึงมิกซ์และเม้าท์ที่อยู่ข้างสิงโต “พี่พูดแบบนี้ทำไมวะพี่สิงโต” กระทิงถามอย่างโมโห “ก็จริงไม่ใช่เหรอ ไอ้เหี้ยนี่แม่งตามแจน้องกูทุกที่…หรืออยากได้ของที่กูเคยมี?” เสียงตะโกนสุดท้าย ทำเอาทั้งกลุ่มดาวเดือนในผับเงียบสนิท กระทิงกำมือแน่นแต่ไม่ตอบโต้เพียงเดินออกไปเงียบๆ หน้าหอพักกวาง หลังเลิกเรียนเสร็จ กระทิงขับรถมาส่งกวางและลงจากรถเดินมาส่งกวางเหมือนเคย เขาถือถุงของกินไว้ในมือและยังพกขนมที่กวางชอบติดมือมาเผื่อด้วย เหมือนรู้ว่าเธอจะลืมกินข้าว… เหมือนรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับเธอ “รู้มั้ย… ตอนนี้ถ้ามีคนทำให้เราร้องไห้กับคนทำให้เราหัวเราะอยู่ตรงหน้า…ใจเราเริ่มเลือกคนที่ทำให้หัวเราะมากกว่าแล้ว…” กวางพูดแล้วยิ้มให้กระทิง กระทิงยิ้มบางๆ ไม่พูดอะไร แค่ยื่นนิ้วก้อยให้เธอเกี่ยวไว้ กวางลังเล… แต่สุดท้ายก็เกี่ยว ห้องทำงานส่วนตัวของสิงโต แสงจากจอคอมพิวเตอร์สะท้อนเข้าตา สิงโตเปิดระบบฐานข้อมูลหอพักรอบมหาวิทยาลัย เขาไม่ได้ควบคุมทุกตึก… แต่มีสิทธิ์เข้าดูระบบได้ทั้งหมด “มึงชื่อกวาง… มึงต้องไปอยู่ที่ไหน…” นิ้วกดค้นหาจากชื่อจริงของเธอ เมื่อเจอชื่อเธอขึ้นในระบบเขานิ่งไปนานมาก “ไกลฉิบหาย… หอเฮงซวยนี่…” เลื่อนดูรายละเอียดห้องพัก ขนาดเล็ก ไม่มีแอร์ ไม่มีที่จอดรถ “มึงอยู่ในที่แบบนี้ได้ยังไง” เขานั่งเงียบอยู่อย่างนั้นทั้งคืน ไม่โทรหา ไม่ทักไป ไม่ปรากฏตัว แต่วันถัดมา หอพักนั้นได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนผ้าม่านใหม่ และส่งของใช้จำเป็นฟรีถึงหน้าห้อง โดยไม่รู้ว่า… “คนสั่ง” คือใคร สองวันก่อนวันเกิดกวาง บ้านเกียรติภูมิ บ้านเงียบ ไม่มีเสียงอ้อน ไม่มีเสียงงอแง ไม่มีเสียงเปิดเตาไฟตอนกลางคืน ไม่มีรองเท้าผ้าใบเล็กๆวางอยู่ตรงชั้นล่าง ไม่มีอะไรเลย… สิงโตเดินลงมาจากห้องในมือถือกล่องเล็กๆ สีชมพูซีด ภายในกล่องคือสร้อยคอเงินเรียบๆกับจี้รูปเครื่องหมาย “∞” เขาวางกล่องนั้นไว้บนโต๊ะ… แล้วหยิบมันออกไปข้างนอก เช้าวันเกิดกวาง หน้าหอพัก กระทิงซื้อดอกไม้มาให้กวางเองกับมือ เขายืนรออยู่หน้าหอพร้อมกับของขวัญเล็กๆเป็น “ตุ๊กตาเป็ด” ที่เธอเคยแอบบ่นว่าชอบ “สุขสันต์วันเกิดนะ… ขอให้หัวใจเธอหายเจ็บเร็วๆนะกวาง” เธอรับของขวัญไว้ อ้อมแอ้มตอบเบาๆ “ขอบใจนะ… แต่เรายังไม่พร้อม…” กระทิงพยักหน้าแล้วเอ่ยเบาๆ “เรารอได้… แต่อย่าฝืนตัวเองเลยนะ แค่ยิ้มก็พอ” อีกฝั่งถนน หน้าหอพักกวาง สิงโตยืนพิงรถคันหรูของตัวเอง สูบบุหรี่เงียบๆเขาเห็นทุกอย่าง ทั้งตอนกระทิงยื่นดอกไม้ ทั้งตอนเธอยิ้ม ทั้งตอนเขาแตะไหล่เธอเบาๆ มือเขากำแน่น จนบุหรี่หัก ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นและไม่มีใครรู้ว่า...กล่องของขวัญที่ควรจะมอบให้ในวันเกิดของเธอ ตอนนี้… ถูกวางทิ้งไว้ที่เบาะหลังของรถที่ไม่มีใครได้นั่งอีกเลยบ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ