วันต่อมา
มหาวิทยาลัย ริมรั้วมหาวิทยาลัยหลังซ้อมดาวเดือนเสร็จ “นี่ ถ้าเราไม่ได้ประกวดด้วยกันนะ…เราอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยแบบนี้ก็ได้เนอะ” กระทิงพูด “เพื่อนในแก๊งยังไงก็ต้องเจออยู่แล้วมั้ยล่ะ~” กวางหันมายิ้มบางๆ “แต่สำหรับเรา…ไม่เหมือนกัน” กระทิงสูดลมหายใจลึกๆ เหมือนกำลังตัดสินใจครั้งสำคัญ “เราแอบชอบใครสักคน” “อยู่ใกล้เขาเกือบทุกวัน…แต่ไม่เคยกล้าบอก จนคิดว่าถ้าไม่บอกตอนนี้ เราอาจเสียเขาไปตลอดชีวิต” เธอชะงักมือที่ถือแฟ้มดาวเดือนแน่นขึ้นนิดหน่อย “เราชอบกวางนะ” “ไม่ใช่เพราะอยู่ทีมเดียวกัน ไม่ใช่เพราะบทซ้อมบนเวที…” “แต่เพราะกวางเป็นกวางของทุกวัน เป็นผู้หญิงที่น่ารักเวลาเถียง เป็นคนที่ตั้งใจทำอะไรทุกอย่าง…” “เป็นคนที่อยู่ตรงนี้ โดยที่เราไม่อยากให้หายไปไหนอีกเลย” บ้านเกียรติภูมิ กลางคืนในครัวบ้านหลังกลับจากซ้อม “มึงไปซ้อมหรือไปให้มันจีบ?” เสียงสิงโตเย็นเฉียบแต่ดวงตาแดงนิดๆ เหมือนเพิ่งกลับมาจากดื่ม “เขาแค่บอกว่าเป็นห่วง” “ห่วง? ห่วงเหี้ยไรนักหนา กูยังไม่เห็นใครมาห่วงกูขนาดนี้เลย!” กวางตะโกนกลับ “ก็เขาไม่เหมือนพี่ไง!! เขารู้ว่าอะไรคือคำว่ารู้สึก!” สิงโตเงียบ แค่สามก้าว เขาก็เดินมาชิดเธอแล้ว มือหนาคว้าต้นแขนกวางแน่นจนเจ้าตัวสะดุ้ง ริมฝีปากแนบลงมาทันที จูบแรง ชัดเจน…ไม่มีคำอธิบาย แค่รู้ว่า ห้ามไม่ได้อีกแล้ว เมื่อเขาผละออก “มึงจะคิดยังไงก็เรื่องของมึง กูเมา…” แล้วเดินหนีขึ้นห้อง ทิ้งกวางยืนอยู่กับหัวใจเต้นรัว และน้ำตาที่คลอ มหาวิทยาลัย ลานกลางมหาวิทยาลัย ก่อนงานคณะจะเริ่มซ้อม บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยบูธ เต้นท์ และเพื่อนๆ ที่ช่วยกันจัดเตรียม พระพายกำลังเซ็ตบอร์ดชื่อคณะ ปลากำลังซ้อมแนะนำตัวกับกวางและกระทิง “เอ้าๆ กระทิง ใส่เสน่ห์หน่อย! กวางยิ้มหวานให้เพื่อนด้วย” เสียงหัวเราะของกลุ่มเล็ดลอดออกมา จังหวะนั้นเอง…เสียงเครื่องยนต์ของมอเตอร์ไซค์ราคาแพงดังขึ้น สิงโตจอดรถแบบเบรกแรงๆใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงยีนส์ซีด ข้อมือมีนาฬิกาแพงระยับและแววตาคมดุที่มองตรงไปยัง กวางและกระทิง โดยไม่ปิดบัง “พวกมึงว่างมากหรอ?” เสียงของเขาเรียบ เย็น และเสียงเบากว่าปกติ…แต่มันทำให้ทั้งกลุ่มหันไปมอง “พี่สิงโต นี่มันงานคณะนะ พี่มาอะไรแต่เช้า…” กวางถามด้วยความตกใจ เขาไม่ตอบ มองข้ามเพื่อนทุกคนเดินเข้ามาหากระทิงตรงๆ “มึงว่างนัก? หรือคิดว่าพอได้จับมือกับมันบ่อยๆ บนเวทีแล้วมึงจะได้มากกว่านั้น?” บรรยากาศชะงัก ทุกคนเงียบ กวางเบิกตากว้าง “พี่พูดอะไรของพี่!” “มึงเงียบไปเลยกวาง!” เขาหันมามองกวางตรงๆ น้ำเสียงแข็งกร้าว รุนแรง…เหมือนไม่ใช่แค่โกรธ แต่มันคือ...ความกลัวจะเสียบางอย่าง พระพายคว้าข้อมือปลาแน่น ปลาอ้าปากจะพูด แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน “พี่สิงโต…ผมไม่เคยคิดอะไรไม่ดี ผมเคารพกวาง แล้วผม…” กระทิงกำหมัดแน่นแต่พยายามใจเย็น “หุบปาก!” เสียงเขาดังลั่นจนหลายคนหันมามอง แต่สิงโตไม่สน เขาเดินเข้ามาใกล้กวางมองต่ำลงมาจากความสูงที่ต่างกัน “มึงอยากลองของเหรอวะ?” “อยากรู้ใช่ไหมว่าการปล่อยให้คนอื่นเข้ามาในชีวิตมันเป็นยังไง?” “ได้สิ เดี๋ยวกูจะหายไปให้หมดเลย…มึงจะได้รู้ว่ามันรู้สึกยังไง” น้ำเสียงร้ายกาจ…แต่ในแววตามันสั่นไหวจนกวางเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง เธอยืนอึ้ง…เจ็บ…และโกรธ เย็นวันนั้นหลังเหตุการณ์วุ่นวายที่คณะ เพื่อนทุกคนแยกย้าย แต่กวางยังนั่งนิ่งอยู่ที่ม้านั่งหลังตึกคณะเธอกัดริมฝีปากแน่นสายตาเหม่อมองพื้นหญ้าภาพคำพูดของสิงโตซ้ำๆ “มึงอยากลองของเหรอวะ” / “เดี๋ยวกูจะหายไปให้หมดเลย…” มันทั้งบาดลึก ทั้งสับสน ทั้ง…เจ็บ เสียงรองเท้ากีฬาเดินเข้ามาใกล้กระทิงยื่นขวดน้ำเย็นให้ “กวาง…อย่าฝืนยิ้มก็ได้” เธอรับขวดไว้ ไม่พูดอะไรจนกระทิงนั่งลงข้างๆ ห่างแค่ศอกเดียวแล้วพูดเบาๆ เหมือนกลัวลมหายใจจะทำให้เธอร้องไห้ “เราเห็นหมดนะ ว่าเธอเจ็บแค่ไหนเวลาเขาพูดแบบนั้น” “เราไม่อยากให้กวางต้องอดทนกับอะไรที่ทำให้ร้องไห้” เธอหันมามองหน้าเขาช้าๆในแววตาของเขา ไม่มีคำถาม ไม่มีดึง ไม่มีรุก มีแต่ความเข้าใจ…และอ้อมแขนที่อุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ จังหวะนั้นเขายื่นมือมาให้ “อยากไปที่เงียบๆไหม? ไม่ต้องพูดอะไรเลยก็ได้ แค่ปล่อยให้ตัวเองหายใจบ้างก็พอ” คาเฟ่ลับริมถนนหลังมหาวิทยาลัย เสียงเพลงคลอเบาๆ แสงแดดตกกระทบแก้วมัทฉะลาเต้ตรงหน้ากระทิงยังไม่พูดอะไรเขาแค่…นั่งข้างเธอ ฟังทุกการถอนหายใจ และไม่เร่งให้เธออธิบายใดๆ “กระทิง…” “อืม?” “ถ้าเรากำลังรู้สึกกับใครสักคน…ที่ทำให้เราทั้งเจ็บ ทั้งหัวเราะ ทั้งเหนื่อย ทั้งใจเต้นในเวลาเดียวกัน…มันแปลว่าเรากำลังโง่ไหม?” เขายิ้มบางๆ “มันแปลว่าเธอเป็นคนจริงใจ…และรักได้ลึกมาก” “แต่คนที่เธอให้ความรู้สึกนั้นไป…เขา ‘เข้าใจ’ หรือยัง?” บ้านเกียรติภูมิ ห้องนอนสิงโต เพล้ง!!! ห้องของสิงโตมีเสียงแก้วแตก “แม่งเอ้ย!” เสียงสบถดังลั่นแก้วในมือถูกขว้างไปที่กำแพงอย่างแรงเขาทรุดตัวลงนั่งกับพื้นมือหนึ่งหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ผู้จัดการผับ “กูอยากรู้…ว่าไอ้กระทิงมันอยู่ที่ไหน ไปกับใคร กินข้าวกับใคร คุยกับใครบ้างหลังเลิกเรียน” เสียงปลายสายลังเล “มึงเงียบทำไม กูสั่ง!” สิ้นประโยคนั้น เขากดวางหน้าก้มต่ำ ปลายนิ้วขยี้ขมับแรงๆ ครืดด ครืดดด เสียงโทรศัพท์สั่น เป็นลูกน้องส่งรูป “กวางกับกระทิงนั่งร้านคาเฟ่ริมถนนหลังมอ” เขาเบิกตากว้าง หัวใจเหมือนถูกบีบนิ้วขยี้หน้าจอแน่น “หึ…มีเวลาระบายความในใจ แต่ไม่มีเวลาคุยกับกู?” “ดี…ดีมาก” เขาคำรามกับตัวเองก่อนจะคว้าเสื้อคลุมบึ่งรถออกไปทันที . . . ไฟหน้ารถสะท้อนเข้าตัวตึกจอดหน้าร้านแบบไม่สนสายตาใคร สิงโตผลักประตูเข้าไปจนเสียงกระดิ่งตก “สนุกกันดีไหมวะ?” กวางชะงัก กระทิงลุกขึ้นทันที “พี่ตามมาทำไม” กวางตกใจแรง กลัวจะมีปัญหาที่คาเฟ่อีกครั้ง “มึงนั่นแหละจะไปไหนกับใครก็บอกกูสักคำมั่งสิวะ! กูไม่ใช่คนในชีวิตมึงแล้วเหรอ?” คำพูดมันแรงพอจะเขย่าใจทั้งร้าน แต่เขายังไม่ยอมถอยยังเดินเข้าหากวางตรงๆน้ำเสียงสั่นอย่างที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว “หรือมึงจะให้กูหายไปจริงๆ?” เธอสบตาเขาในแววตานั้นแม้จะมีความโกรธแต่ลึกๆ มันคือความกลัว…และเศร้าอย่างไม่ยอมรับบ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ