วันหยุดพักผ่อน
ในครัวตอนเย็นกลิ่นแกงจืดลอยฟุ้งไปทั่วห้องกวางใส่ผ้ากันเปื้อน ล้างผักอย่างมีความสุข เสียงเพลงเบา ๆดังจากมือถือวางข้างซิงก์ เธอกำลังฮัมเพลง… “เขาดีเกินไป…แต่ไม่ใช่ใจที่ฉันตามหา~” เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินผ่านประตู สิงโตแวะมาเปิดตู้เย็น กดน้ำ แล้วเหลือบมอง “มึงเปิดเพลงอะไรของมึงวะ รำคาญ” “เพลงโปรดหนูค่ะ ฟังแล้วอินดี~” “มึงนี่อินทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเรียน” “เอ้า ก็หนูได้ที่หนึ่งคะแนนสอบปลายภาคนะพี่…จะอะไรกับหนูนักหนา~” “ก็แค่ฟลุ๊ค” พูดจบเขาก็กระดกน้ำเสียงดังแล้วเดินไปทิ้งตัวบนโซฟาหน้าทีวีที่ห้องรับแขกเปิดบอลดูเสียงดังกลบเพลงเธอทันที หลังมื้อเย็น กวางยกแกงจืดขึ้นโต๊ะ พร้อมไข่เจียวฟูกรอบ เธอคีบใส่จานให้เขาก่อนใคร “กินเยอะๆ ค่ะ ผัวในละครเค้าบอกว่าผู้หญิงที่ทำกับข้าวให้…แปลว่ารักนะ~” “งั้นมึงอย่าทำให้ใครแดกเลย เดี๋ยวเค้าเข้าใจผิด”เสียงวางช้อนกระแทกเบาๆ “หนูทำให้พี่กินคนเดียวนั่นแหละน่า จะหวงอะไรนักหนา…” กวางพูดกวนพี่ชาย ทุกวันนี้ใจกล้าขึ้นเพราะอยู่ด้วยกันมาหลายเดือนแล้ว สิงโตไม่ตอบแต่จ้องเธอนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเบือนหน้าหนี หยิบมือถือมาไถ…แล้วหยุดกึกเมื่อเห็นโพสต์จากกระทิง “ขอบคุณน้องดาวที่อยู่ข้างๆ วันซ้อมทุกวัน ถึงเหนื่อยก็ยังยิ้มให้เสมอ 😊💙” โพสต์พร้อมภาพเซลฟี่กวางที่หลุดหัวเราะใส่กล้อง หน้าสด ผมยุ่ง แต่ตาเป็นประกาย “ใครอนุญาตให้มันถ่าย?” สิงโตเผลอพูดออกมาเบาๆ “หือ? ใครเหรอ?” กวางถามอย่างสงสัย “ไม่มีอะไร” เขาวางช้อนแรงขึ้นเล็กน้อยก่อนจะลุกออกจากโต๊ะ เดินขึ้นห้องโดยไม่พูดอะไรอีก ห้องนอนสิงโต สิงโตเปิดมือถือเข้าอินสตาแกรม ภาพเซลฟี่นั่นยังอยู่ เขากดเข้าไปดู…แต่ไม่กดไลก์ เขาเงียบ… มือเลื่อนไปกดดู Story ของกระทิง เห็นว่าโพสต์แคปชั่น “คืนนี้โทรหานะ” พร้อมอิโมจิหัวใจฟ้า สิงโตวางมือถือลงแรงกว่าเดิมเล็กน้อยนั่งพิงหัวเตียง…ถอนหายใจ “กูไม่ได้หึง…” “แต่กูโคตรรำคาญเลยว่ะ ทำไมมึงยิ้มให้มันง่ายจังวะ…” ห้องนอนกวาง กวางนั่งอยู่บนเตียงตัวเอง มือถือแนบหูสนทนาเบาๆ กับกระทิง เสียงหัวเราะใสๆ ทะลุกำแพงห้องข้างๆ ไปถึงหูใครบางคน… “แหม กระทิงพูดอย่างกับรู้ใจเลยนะ” “555 ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ถ้าให้เดากวางต้องชอบชานมไข่มุกหวาน 30%” “บ้า~ รู้ได้ไงเนี่ยย~” สิงโตที่นอนก่ายหน้าผากอยู่ห้องข้างๆ พลิกตัวกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบก่อนจะลุกพรวด เปิดประตูเดินออกจากห้องแล้วตรงไปเคาะห้องกวาง ปังๆ!!!! “โอ๊ย! ใครเคาะอะไรเนี่ยยย!” “เปิด” “จะนอนแล้ววว!” “กูบอกให้เปิด!” เสียงเครียดจัด กวางตกใจ รีบเปิดประตู สิงโตยืนพิงประตู กอดอก หน้าตึงตลอดแนวกราม “พูดกับใคร” “เพื่อนค่ะ…” “เพื่อนเหี้ยอะไรหัวเราะยั่วขนาดนั้น?” “พี่! พูดแบบนี้ได้ไง!” “แล้วมันใช่รึเปล่า?” เขาก้าวเข้ามาในห้องเธอหน้าตาเฉยหยิบมือถือบนเตียงเธอแล้วดูชื่อบนสายก่อนจะกดวางเอง “พี่สิงโต!!” “ซ้อมดาวเดือนไม่พอเหรอ ถึงต้องโทรคอลซ้อมบทคนคุยด้วย?” “พี่ไม่มีสิทธิ์มา—!” “กูมีสิทธิ์ทุกอย่าง ถ้ายังอยู่ในบ้านนี้!” เงียบ… เสียงหอบหายใจแรงๆของเขาทิ้งไว้ในห้องเธอก่อนจะเดินออกไปโดยไม่มองหน้าอีก “ถ้าจะคุยกับใคร…อย่าหัวเราะให้มันขนาดนั้น” งานเลี้ยงฉลองคณะ คืนวันเสาร์ ลานหน้าอาคารคณะนิติศาสตร์ถูกตกแต่งด้วยไฟสีทองและม่านผ้าผืนใหญ่ ทุกคนแต่งตัวเต็มยศกวางใส่เดรสสีขาวยาวระดับเข่า ผมดัดอ่อนๆ ติดกิ๊บน่ารักกระทิงอยู่ไม่ห่างร่วมโต๊ะเดียวกันกับพระพายและปลา ฝั่งตรงข้าม สิงโตยืนคุยกับกลุ่มอาจารย์และศิษย์เก่า ใครๆก็รู้ว่าเขาคือลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัย แต่สายตาเขากลับจับจ้องอยู่มุมโต๊ะกลุ่มดาวเดือน… “น้องกวางครับ~ ถ่ายรูปคู่กับพี่หน่อยนะ” “เอ๊ะ? ได้ค่ะ ^^” ชายหนุ่มจากรุ่นพี่ปีสามคณะอื่นมายืนข้างเธอจับไหล่เธอเบาๆ พร้อมยิ้มหวานใส่กล้อง “เฮ้ย พี่สิงโต…มองอะไรอะ?” เพื่อนศิษย์เก่าทัก “มองคนไม่มีมารยาท” สิงโตตอบน้ำเสียงเย็นชา “หืม? ใคร?” เพื่อนศิษย์เก่าถามต่อ “ไอ้พวกมือไว หน้าไม่อาย” สิงโตวางแก้วเหล้าในมือลงบนโต๊ะแล้วเดินตรงไปทางโต๊ะดาวเดือน… กวางหันมาเจอพี่ชายคนปากหมา สวมสูทดำ หน้าโคตรนิ่ง “กลับบ้าน” พี่ชายสั่งเสียงดุ หน้านึ่ง “หือ? หนูยังไม่ได้กินของหวานเลย” กวางทำหน้าตาเสียดายของหวานที่พึ่งตักมา “กูไม่ได้ถาม มึงแค่กลับ” น้ำเสียงดุขึ้นกว่าเดิม “แต่หนู!” กวางยังไม่ทันจะพูดอะไร แต่... “กูไม่อยากเห็นมึงอยู่ตรงนั้นกับไอ้พวกนั้นอีกวินาทีเดียว เข้าใจมั้ย” เขาหยิบแจ็คเก็ตของตัวเองคลุมไหล่เธอแล้วจับข้อมือเธอลากออกจากงานโดยไม่สนใจสายตาคนทั้งลาน ในรถ “พี่เป็นบ้าอะไร! คนทั้งงานมองหมดแล้วเนี่ย!” “ก็ให้มันรู้ไปเลยว่ามีใครเป็นเจ้าของแล้ว จะได้ไม่กล้าแตะอีก” เธอชะงัก หันขวับมามองเขา “พี่ว่าอะไรนะ?” “…กูหมายถึงเจ้าของบ้านที่มึงอยู่ไง” บ้านเกียรติภูมิ เสียงฝนตกพรำๆ อากาศเย็นขึ้นเมื่อกวางเปิดประตูบ้านเข้ามา สิงโตเดินนำเธอเข้ามาก่อนหน้าแต่ไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่เถียงกันบนรถ กวางถอดรองเท้า ปล่อยแจ็คเก็ตลงบนเก้าอี้ แล้วเดินตามหลังเขาเข้าครัว “กูไม่อยากให้ใครมองมึงแบบนั้น” “แบบที่มันมองจะจับมึงทั้งตัว!” “…” “กูทนไม่ได้ กู” เขาชะงัก หอบหายใจหนักขึ้นเรื่อยๆมือสองข้างกำแน่น “มึงไม่ใช่ของใคร กูไม่ให้ใครเอามึงไปจากสายตาได้ เข้าใจมั้ย” กวางอึ้ง ใจเต้นถี่ รู้ว่ากำลังจะได้ยินในสิ่งที่ไม่เคยได้ยินจากเขา “พี่สิงโต…” “…” เธอเดินเข้าไปใกล้เพียงคืบเสียงฝนด้านนอกกลบความเงียบภายในบ้าน “พี่…เป็นห่วงหนูเหรอ” สิงโตหันมา ดวงตาสั่นระริกเล็กน้อย ก่อนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันที “กูเมา…” “ถ้ามึงคิดมาก…กูก็ขอโทษ” เขากำลังจะเดินหนี แต่กวางคว้าแขนไว้แววตาเธอชัดเจน สั่นไหว…แต่ไม่ถอย “ถ้าพี่ไม่อยากให้ใครแตะหนู…แล้วพี่แตะหนูทำไม?” เงียบอีกครั้ง … แล้วทันใดนั้นมือหนาคว้าเข้าที่ต้นแขนเธอแน่นดึงร่างบางเข้าหาตัวแรงจนแทบจะเสียหลัก และในวินาทีนั้นริมฝีปากของสิงโตประทับลงบนริมฝีปากเธอ… ไม่ถาม ไม่พูด ไม่ให้เวลา ความเงียบแตกสลายด้วยเสียงหัวใจทั้งสองที่เต้นรัวเหมือนจะระเบิด กวางยืนนิ่งไม่ขัดขืน แต่ก็ไม่ได้ตอบสนอง… เขาคลายแรงจูบอย่างช้าๆห่างใบหน้าเพียงนิ้ว… “กูขอโทษ…” “…” “เมา…” เขาหลบตาแล้วหันหลังเดินขึ้นบันได ทิ้งทุกอย่างไว้กลางครัวที่มืดสลัวบ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ