หลังคืนนั้น…
ติดต่อพี่สิงโตไม่ได้เลย ไลน์ไม่อ่าน โทรไม่รับ แม้แต่ผู้จัดการผับก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน กวางนั่งเงียบในห้องเรียนจ้องสมุดเลกเชอร์โดยไม่จดอะไรเลยเสียงอาจารย์กลายเป็นเสียงเบลอๆ มือจับโทรศัพท์แน่น…เลื่อนขึ้นเลื่อนลงในแชทที่ไม่มีการตอบกลับ ข้อความสุดท้ายยังค้างไว้แบบนั้น: “พี่อยู่ไหน…” “กลับมาสักทีได้ไหม” เย็นวันนั้น… หลังซ้อมดาวเดือนเสร็จ กระทิงเดินมาหากวางหน้าคณะนิติศาสตร์แล้วส่งกระเป๋าที่กวางฝากกระทิงไว้แล้วยื่นให้กับเธอ เพราะรอบที่แล้วเป็นการฝึกซ้อมเดือน รอบถัดไปเป็นการฝึกซ้อมดาว พอกวางฝึกเสร็จการซ้อมวันนี้ก็จบลง “เขายังไม่กลับมาเหรอ” กระทิงถามเสียงเบา กวางส่ายหน้า น้ำตาไหลช้าๆ โดยไม่รู้ตัวและไม่พูดอะไรสักคำกระทิงไม่ถามเพิ่มแค่ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แล้วพาเธอเดินช้าๆ ผ่านลานคณะในยามเย็น…โดยไม่มีคำพูดใด . . . 3 วันถัดไป หน้าผับหรือร้านเหล้าราชสีห์ รถ BMW ดำด้านคันใหญ่ขับเข้าจอดเงียบ ไฟหน้ารถดับ และประตูเปิดออก…รองเท้าหนังราคาแพงเหยียบลงบนพื้นเปียกฝน เจ้าของผับกลับมาแล้ว สิงโตในเสื้อเชิ้ตดำยับๆ เคราเริ่มขึ้นตอๆ ใต้คางแววตาคล้ายไม่ได้หลับมาสามวัน “มึง…ไปไหนมาเนี่ย!” เสือ ตะโกนถามจากหน้าผับ เสือ พยัคฆ์ เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถม “กูไม่ได้เป็นไร” เสียงสิงโตพูดขรึมๆหลังจากวอดไปสองช็อตเต็มๆ “แล้วหน้ามึงคืออะไร หน้าคนไม่ได้เป็นอะไรเหรอ?” เสือยกแก้วขึ้นก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงกวนส้นตีน มิกซ์ วางมือถือจากไลฟ์ดนตรีสด หันมามองเพื่อน เม้าท์ เทเหล้าให้แบบไม่ถาม นิ่งๆ แต่รู้ว่าอารมณ์คืนนี้ “ไม่ธรรมดา” “มึงเคย…เห็นใครบางคนแม่งยิ้มให้คนอื่น แล้วรู้สึกเหมือนจะระเบิดมั้ยวะ แต่แม่งยิ่งเห็น กูกลับยิ่งอยากผลักเขาให้ไกลๆ เพราะกูกลัว…ว่ากูมันไม่พอจะอยู่ข้างเขาอะ แล้วกูควรทำไงวะ?” เสียงในโต๊ะเงียบ “มึงนี่แม่ง…ตกหลุมรักเด็กแล้วไม่รู้ตัวเลยเหรอวะ สิงโต?” เสือทำหน้าขึงขังแบบจริงจังขึ้นมาทันที “หรือว่ามึงรู้…แต่แกล้งไม่รู้ ” มิกซ์พูด “หรือมึงกลัวว่าถ้าเธอรู้…แล้วเขาจะหนีไป” เม้าท์พูดน้ำเสียงนิ่งลึก สิงโตยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด น้ำตาไม่ไหล แต่ตาแดง สิงโตหัวเราะแห้งๆแล้วล้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะในมือยังถือแก้วเปล่าอยู่แน่น “เด็กนั่น…เขาดีเกินไปสำหรับกูว่ะ” 3 วันที่แล้ว สถานที่ : ชั้นบนสุดของโรงแรมหรูในเครือตัวเอง / กลางคืน ไฟไม่เปิด ม่านปิดสนิท เหล้าเกลื่อนโต๊ะ โทรศัพท์ปิดเสียงตลอดเวลา สิงโตนอนบนโซฟาหนังสีดำเสื้อเชิ้ตยับคาอก เปียกเหงื่อจากการหลับๆ ตื่นๆ ตลอด 72 ชั่วโมงที่ผ่านมา เขาเปิดมือถือไม่ได้เพราะถ้าเปิด…เขากลัวว่าตัวเองจะเผลอโทรหาเธอ...น้องสาวไม่แท้ “…เด็กเวรเอ๊ย มึงจะเข้ามาในหัวกูทำไมขนาดนี้วะ แค่เห็นยิ้มให้มัน…มึงรู้มั้ยว่ากูอยากพังกำแพงทิ้งทั้งคณะ” สิงโตไม่ได้กินข้าวนอนหลับเป็นพักๆ ฝันร้ายบ้าง ฝันถึงรอยยิ้มของกวางบ้าง ฝันว่าเธอกอดกระทิงฝันว่าเธอร้องไห้ ฝันว่าเธอมองเขาด้วยแววตา “ผิดหวัง” จนในที่สุด…เขาลุกขึ้นมาจ้องตัวเองในกระจกบานใหญ่ดวงตาแดงก่ำ แก้มมีเครารกๆ ขึ้นจางๆ “กูแม่งไม่ใช่พี่ชาย…กูก็ไม่ใช่ใครของเขาด้วยซ้ำ” บ้านเกียรติภูมิ กวางนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมที่เธอมักนั่งรอ ดวงตาบวมเล็กน้อยเพราะร้องไห้เมื่อคืนจากที่ไม่ได้ข่าวคราวของสิงโตเลย 3 วัน เธอพยายามไม่คิดมาก…แต่หัวใจมันก็ร้อนรนจนหยุดไม่ได้ เสียงประตูบ้านเปิดอย่างแรง กวาง หันขวับขึ้นมาด้วยสีหน้าตื่น “พี่สิงโต!” ชายหนุ่มในชุดดำ เสื้อยืดธรรมดา กางเกงยีนส์ซีด เดินเข้ามาพร้อมแว่นดำบนหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ…แค่ถอนหายใจแรงๆแล้วโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะกระจก “พี่หายไปไหนมา…หนูเป็นห่วงมากเลยนะรู้มั้ย? โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ก็ไม่อ่าน คนอื่นก็ไม่รู้ พี่” กวางลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เดินเข้าไปหาด้วยแววตากังวล “พอ…อย่าพูดเยอะ น่ารำคาญ” เสียงสิงโตขัดขึ้นมาแบบเฉียบขาด “พี่รู้มั้ยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน ที่อยู่ดีๆ คนในบ้านหายไปสามวัน…ไม่ติดต่อ ไม่บอก ไม่อะไรเลย…” กวางนิ่งค้าง สีหน้าเหวอไปชั่ววูบ ดวงตาเริ่มแดงขึ้นมาทันที แต่เธอยังยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ยอมถอย “มึงจะเดือดร้อนทำไมหนักหนา กูก็แค่ไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นมา…มันเรื่องของกู ไม่ใช่เรื่องของมึง” สิงโตปรายตามองอย่างหงุดหงิด ราวกับความเป็นห่วงของเธอเป็นแค่เสียงรบกวน แววตากวางสั่นไหวอย่างรุนแรง เธอกัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาแต่สิ่งที่สิงโตพูดต่อมา มันเหมือนกระแทกใจเธออย่างแรงยิ่งกว่าเดิม “แล้วก็จำไว้ให้ดีนะกวาง…มึงไม่ใช่น้องกู กูน่ะมีน้องสาวแค่คนเดียว ชื่อ ‘สาลี่’ เรียนอยู่เมืองนอก มึงแค่มาอาศัยบ้านกูอยู่ อย่าทำตัวเหมือนคนมีสิทธิ์ หัดรู้ที่ของตัวเองซะบ้าง” คำพูดทุกคำเหมือนค้อนทุบซ้ำที่ใจของเธอ น้ำตากวางไหลเงียบๆ เธอยืนนิ่ง ไม่พูดอะไรอีก ไม่ตอบโต้ ไม่ถามอะไรแล้ว แค่ถอยหลังออกมาเงียบๆ…เหมือนคนหมดแรงจะยืน เธอหมุนตัวจะเดินกลับขึ้นห้องแต่สิงโตกลับพูดออกมาประโยคสุดท้าย…แบบเจ็บที่สุด “ถ้าอยู่กับกูแล้วมันอึดอัดนัก…จะย้ายออกไปอยู่กับ ‘กระทิง’ ก็เชิญเลย” เสียงประตูห้องของกวางปิดลงเบาๆ ไม่มีเสียงอะไรอีก นอกจากลมหายใจหอบสั่นของคนที่เพิ่งทำร้ายหัวใจใครบางคนโดยไม่รู้ตัว ห้องนอนของกวาง ไฟในห้องดับไปแล้วเหลือเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียง เสียงสะอื้นเบาๆดังขึ้นใต้ผ้าห่ม กวางนอนขดตัวอยู่บนเตียง น้ำตาไหลไม่หยุด เธอไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สิงโต หรือเธอ…ทำผิดอะไร? คำพูดพวกนั้นยังวนเวียนในหัว “มึงไม่ใช่น้องกู” “ไปอยู่กับกระทิงก็ได้” มือเล็กควานหามือถือใต้หมอนแต่ไม่กล้าโทรหาใคร…ไม่กล้าแม้แต่จะส่งข้อความ ทันใดนั้น…หน้าจอสว่างขึ้น — กระทิงโทรมา เธอรีบปาดน้ำตา หอบลมหายใจแรงๆกลั้นเสียงสะอื้นก่อนจะกดรับสายด้วยน้ำเสียงที่ฝืนอย่างสุดกำลัง กวาง (เสียงเบา): “ฮะ…ฮัลโหล…” กระทิง (น้ำเสียงอบอุ่นและนุ่มลึก): “ร้องไห้อยู่อะดิ…” กวางเงียบ ไม่ตอบ…เพราะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เสียงสะอื้นดังออกมาเบาๆ กระทิง: “อย่าร้องนะกวาง…ไม่ร้องนะ เดี๋ยวตาบวมหมดเลย อยากให้กอดมั้ย? กอดแน่นๆแบบที่คนรักกันเขาทำ” เงียบ… กวาง (เสียงสั่น): “…กระทิง…เราเจ็บจังเลย” กระทิง (เสียงแผ่วลง): “รู้…รู้ว่ามันเจ็บ แต่กวางไม่ได้อยู่คนเดียวนะ…ยังมีเราอยู่ตรงนี้” กระทิงปลอบโดยไม่ได้ถามอะไรเธอสักคำว่าเธอไปเจอเรื่องอะไรมาบ้านเกียรติภูมิช่วงค่ำเสียงออดดังขึ้นกวางเดินลงไปเปิดประตู“ไง กวาง~” เบอร์รี่ยืนถือร่มส่งยิ้มหวานที่ดูจริงใจเกินไป“ขอโทษนะ พอดีฝนตกแล้วฉันมีนัดแถวนี้แต่โดนเทเลยคิดว่า…ขอค้างที่นี่สักคืนได้ไหม?”กวางชะงักหันไปมองสิงโตที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว สิงโตหยุดเดินไปทันทีที่เห็นเบอร์รี่บรรยากาศเงียบชั่วขณะ กวางเหลือบมองไปที่สิงโต ดวงตาอ่านไม่ออก แต่ในอกกลับเต้นผิดจังหวะไปหมด“จะนอนก็เอาสิ ห้องว่างเยอะแยะ” สิงโตพูดโดยไม่หันมากลางดึกบรรยากาศบ้านที่เย็นยะเยือกกวางนอนพลิกตัวไปมาเสียงฝนยังตกใจเธอไม่สงบเลยสักวินาทีห้องฝั่งตรงข้ามมีแสงลอดออกมาจากใต้ประตูเสียงเบอร์รี่หัวเราะเบาๆกับสิงโตดังลอดออกมา…หรือมันดังขึ้นในหัวเธอเอง?เสียงบางอย่างในใจของกวางกำลังถามว่า“…ถ้าไม่รู้สึกกับเขาแล้วจริงๆจะหวงขนาดนี้ทำไม?”...เวลาเช้าบ้านเงียบๆ มีเพียงเสียงจานกระทบกันเบาๆในครัว กวางเดินลงมาในชุดลำลองธรรมดาแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า…ทำให้เธอชะงักเบอร์รี่กำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่หน้าผากของสิงโตขณะที่สิงโตนั่งพิงโต๊ะอาหารหน้าตาไม่แสดงความรำคาญใดๆ“ก็แค่เช็ดเหงื่อ แกจะทำท่าจะฆ่าฉันทำไมอะ สิงโต~” เบอร์รี่หัว
มหาวิทยาลัยกวางเดินถือแฟ้มเอกสารอยู่ที่โถงคณะนิติศาสตร์ แสงไฟสีขาวนวลส่องลงบนพื้นเงาสะท้อน เสียงรองเท้าส้นสูงดังกังวานเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เบอร์รี่หยุดตรงหน้าเธอยิ้มบางๆ ในมือของเธอมีดอกกุหลาบสีดำช่อเดียวกับที่เคยถือวันแรกที่กลับมา“เธอคือ…กวาง ใช่ไหม? ฉันชื่อเบอร์รี่นะ… ยินดีที่ได้เจอกันสักที”“ฉันรู้จักคุณค่ะ… คุณเป็นเพื่อนเก่าสิงโต” กวางยิ้มตอบด้วยมารยาทแต่แววตาสงสัย“แค่เพื่อนเก่าเหรอ… ถ้าเธอหมายถึงช่วงที่เรานอนห้องเดียวกัน แชร์ทุกเรื่องในชีวิต กอดกันทุกคืนเวลาฝันร้าย…เธออาจต้องใช้คำอื่นแล้วล่ะ” เบอร์รี่หัวเราะเบาๆ“พี่สิงโตไม่เคยเล่าเรื่องคุณให้ฉันฟังเลยค่ะ” กวางนิ่ง เธอเริ่มรู้สึกเหมือนหายใจไม่ทันแต่ยังพยายามเก็บอารมณ์“นั่นสินะ คนที่พยายามลืม บางทีมันอาจไม่ใช่เพราะลืมได้…แต่อาจเป็นเพราะลืมไม่ได้ต่างหากล่ะ” เบอร์รี่ตอบเรียบๆเบอร์รี่เดินจากไปทิ้งกลิ่นน้ำหอมจางๆไว้ในอากาศกวางยืนแน่นิ่งอยู่ที่เดิมมือกำเอกสารแน่น ริมฝีปากเม้มสนิทแต่สายตาเธอ…เริ่มสั่นไหวอย่างปิดไม่มิดลานเปลี่ยวหลังคณะนิติศาสตร์ เวลาหัวค่ำฝนเพิ่งหยุดตกหยดน้ำยังเกาะตามใบไม้ไฟริมทางสลัวสะท้อนแสงสีทองบนใบหน้าของกวางที
ห้องทำงานของ “ภาคภูมิ” พ่อของสิงโต เวลาประมาณ 10 โมงเช้า สิงโตในเสื้อเชิ้ตตัวเก่า กางเกงยีนส์ขาดเข่านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมในห้องทำงานของพ่อมือหนึ่งจับบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดอีกมือถือโทรศัพท์แนบหูด้วยสีหน้าที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน“ฮัลโหล… พ่ออยู่มั้ย กูจะคุย” เสียงปลายสายเงียบไปนิดก่อนตอบรับภาคภูมิอยู่ในห้องอ่านหนังสือเก่าๆติดกับห้องทำงานทันทีที่ได้ยินเสียงลูกชายเขาก็เดินออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่ง“มีอะไร ไอ้ราชสีห์? ปกติไม่โทรหาพ่อเลยนี่”สิงโตเงียบ… ก่อนพูดเสียงนิ่งๆ“พ่อ… ถ้ากูบอกว่า กูทำให้กวางย้ายออกไปเอง…มึงจะเกลียดกูปะ”ภาคภูมิชะงัก สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนอย่างจับจ้อง เขาเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามลูกชาย โดยไม่พูดขัดเลยแม้แต่นิดเดียว“พ่อ… กูไม่รู้ว่าทำไมกูต้องทำตัวเหี้ยๆแบบนั้นกับเขา แต่กูแค่… กลับบ้านแล้วมันเงียบจนทนไม่ไหว” เสียงของสิงโตเริ่มแผ่วลงแต่ไม่ได้สั่น ไม่ใช่เพราะเขาไม่เจ็บ แต่เพราะเขา “ไม่ยอมให้เสียงสั่น”“กูไม่อยากให้เขาอยู่กับกูเพราะความรักหรืออะไรไร้สาระทั้งนั้น…กูแค่…อยากให้เขากลับบ้าน…”ภาคภูมิมองลูกชายที่มักหยิ่งทะนงในทุกเรื่องวันนี้กลับนั่งตรงหน้าในสภาพเหมือนคนพ่ายแพ้และพู
เสียงของเสือฟังดูเหนื่อยและหนัก“กวาง… ไอ้สิงโตโตมัน… รถชนเมื่อคืน”“ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล BMC ห้องฉุกเฉิน…”“ยังไม่ฟื้น แต่ปลอดภัยแล้ว… แค่… เขาไม่ได้บอกใครเลยนอกจากพวกพี่”กวางเงียบไป“เขาเมาหนักมากเลยนะ… ก่อนจะขับรถออกไปคนเดียว เมื่อคืนมันเรียกชื่อเธอตอนเมา… ทั้งคืนเลยว่ะ”กวางยังคงเงียบ น้ำตาคลอ… แต่ยังไม่หล่น“ขอบคุณที่บอกนะคะพี่เสือ…แต่กวาง… คงไม่ไปค่ะ”เสือเงียบ“แน่ใจนะกวาง…มันไม่มีใครเลยตอนนี้นะ”“เขาเคยมีค่ะ…แต่เขาเป็นคนผลักทุกคนออกไปเอง… โดยเฉพาะกวาง กวาง… ไม่ใช่น้องสาวเขา ไม่ใช่ใครในชีวิตเขาเลยด้วยซ้ำ เขาเองก็พูดไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอคะ…”เสียงในสายเงียบก่อนที่กวางจะพูดเบาๆจบสายด้วยน้ำเสียงสั่นไหวที่สุด“ขอให้เขาหายดีค่ะ… เท่านี้”ติ๊ดกวางวางสาย หันหน้าไปทางหน้าต่าง แสงเช้าอ่อนๆสาดเข้ามาทางม่านบาง เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกช้าๆเหมือนคนที่กำลังฝืนเดินต่อทั้งที่หัวใจยังบอบช้ำ“พอแล้ว… กวางต้องหยุดเจ็บเองให้ได้…”โรงพยาบาลเสียงเครื่องวัดชีพจรยังดังเป็นจังหวะสิงโตนอนอยู่บนเตียงริมฝีปากขยับเบาๆเหมือนละเมอ“…กวาง… อย่าไปนะ…”แต่ไม่มีใครได้ยินและไม่มีใครตอบกลับเขา…...ช่วงบ่ายวันอ
บนดาดฟ้าบ้านสิงโตกลับมาถึงบ้านที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขาขึ้นไปบนดาดฟ้า จุดบุหรี่ สูดลมกลางคืนแรงๆ มือหนึ่งสั่น มือหนึ่งถือมือถือที่ไม่กดโทรหาใครแต่เปิดรูปถ่ายกวางตอนที่แอบถ่ายไว้ในมือถือตัวเองรูปเธอนั่งกินข้าว ยิ้มเงียบๆข้างเตาในครัว“มึงมีคนดูแลแล้วใช่มั้ย…ดีแล้ว… ดีแล้วเว้ย…”แต่เสียงที่พูดออกมามันสั่นจนไม่เหลือความแน่ใจน้ำตาหนึ่งหยดไหลลงบนมุมปากก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นหัวเราะฝืนๆ“มึงแม่งเก่งว่ะกวาง…ไปจากกูได้จริงๆ…”…“แต่กูแม่ง… ไปจากมึงไม่ได้เลย…”วันถัดไปข่าวลือกระฉ่อนในกลุ่มไลน์คณะมีคนแอบถ่ายรูปกระทิงซื้อดอกไม้ให้กวาง โพสต์พร้อมแคปชัน “หวานจนแสบตา”คอมเมนต์ถล่มว่า “รักวัยมหาวิทยาลัยคู่ใหม่กำลังมา”สิงโตนั่งในรถมองโพสต์นั้นผ่านมือถือเงียบๆ มือเขาสั่นเล็กน้อยก่อนจะโยนมือถือกระแทกเบาะข้างแล้วทุบพวงมาลัยรถเต็มแรง!“กูแม่ง… มึงจะไปจริงๆใช่มั้ยวะ…” เสียงคำรามจากในอกเหมือนสัตว์ที่รู้ตัวว่า มันแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้...ผับราชสีห์ในค่ำคืนที่ฝนตกสิงโตนั่งอยู่ในผับของตัวเอง โต๊ะ VIP ชั้นล่างที่ไม่เคยนั่ง รอบกายไม่มีใคร มีแค่เสียงฝนข้างนอก กับเหล้าเข้มในมือเขาไม่ชวนใคร ไม่ให้
ผับราชสีห์ห้อง VIP หลังผับปิดเสือ มิกซ์ และเม้าท์มานั่งกินเหล้าด้วยกัน เสียงเพลงเบาลงเหล้าเข้าขวดที่สามแล้ว สิงโตนั่งพิงโซฟา หน้าตาไม่ไหว เสื้อยับ แววตาแดงเหมือนอดนอนมาเป็นวันๆ“มึงเงียบเป็นบ้าเลยช่วงนี้นะไอ้ราชสีห์ หรือเพราะน้อง…” เสือเอ่ยขึ้นอย่างห่วงๆ“กวาง…” ชื่อหลุดจากปากสิงโตเอง เบาแผ่ว แต่ชัดเจนพอให้ทั้งโต๊ะเงียบ“เหี้ยอะไร กูแค่พูดชื่อคน…แม่งมีคนชื่อกวางเยอะจะตาย” เขาชะงักตัวเองไปเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะวางแก้วดังปังแล้วหัวเราะในลำคอแต่เพื่อนทั้งโต๊ะมองหน้ากันเงียบ มิกซ์กับเม้าท์ไม่พูดอะไรแต่สีหน้าชัดว่ารู้แล้วเสือถามอีกคำ… “แล้วมันเกี่ยวมั้ยวะ กับที่หายหัวไปสามวันก่อนหน้านั้น?”“กูไปนอนกับผู้หญิงมาเว้ย! มึงอย่ามาทำเป็นรู้ดี!” สิงโตตะคอกแต่แววตากลับเปล่าเปลี่ยวจนเจ็บแทนจากนั้นเขาก็ก้มหน้าเงียบแล้วพูดเบาๆเหมือนพูดกับใครสักคนที่ไม่อยู่ตรงนั้น“มึงจะหายไปนานแค่ไหนวะกวาง…หายไปจากบ้านก็พอแล้ว อย่าหายจากตรงนี้อีกเลย…”ไม่มีใครตอบ.....มีแค่เสียงเหล้าไหลลงแก้วต่ออีกคืนคืนฝนตก หอพักของกวางกวางนั่งกอดหมอนอยู่ริมหน้าต่าง ข้างนอกฝนโปรย กวางเผลอเปิดแชตเก่าของตัวเองกับสิงโต… แต่เขาไ