/ โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

공유

ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

last update 최신 업데이트: 2025-06-14 11:22:18

ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย

“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”

“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”

“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น

“ตามใจเจ้าเถิด”

“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล

“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตรามัจฉาจะกลายเป็นราชินีองค์ต่อไปของเมืองนี้ หากทำสิ่งใดให้มีข้อกังขากับสัตว์หลายตนที่นี่จะมีปัญหาในตอนขึ้นรับตำแหน่งในภายภาคหน้า

“ข้าเข้าใจท่านแม่ แต่หากมิมีผู้ใดรู้ว่าพวกเราทำอันใด ก็มิเป็นไรใช่ฤาไม่”

ชมชีวันได้ยินเช่นนั้นก็ส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับมีนามัจฉา ดูท่าญาติผู้น้องของมนตรามัจฉาตนนี้จะมีนิสัยไม่ได้ต่างจากเธอเท่าไรนัก ทั้งยังพูดถูกใจเธออีกต่างหาก

“พวกเจ้านี่หนา” ชลามัจฉาส่ายหัวน้อยๆ เมื่อเห็นสายตาของลูกและหลานที่กำลังจ้องมองกัน

“ไปยกเครื่องพิธีมาเถิดมีนา ข้าจักต้องสอนพี่เจ้าแล้ว”

“เจ้าค่ะท่านแม่”

“ให้ข้าช่วยฤาไม่” ชลามัจฉาดึงมือของหลานสาวเอาไว้ไม่ให้เดินตามลูกสาวเธอไป

“เจ้าอยู่กับข้าที่นี่ ข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า”

“เรื่องอันใดฤาท่านน้า”

“ข้ารู้เรื่องของเจ้าทุกอย่าง ข้าสื่อสารกับท่านพ่อแลท่านแม่เจ้าได้ แม้นในร่างนี้จักมิใช่หลานของข้า แต่ข้าจักดูแลเจ้าอย่างดีที่สุด แลข้าจักช่วยเจ้าทุกวิถีทางเพื่อให้เจ้าได้กลับไปยังที่เจ้าจากมา”

“ท่านรู้ก็ดีแล้ว ท่านรู้ไหมว่าท่านเหมือนกับแม่ของข้ามากแค่ไหน”

“หากเจ้าอยากเคารพข้าเหมือนแม้ของเจ้า ข้าก็มิว่า ข้าพูดไปแล้วว่าอยู่ที่นี่ ข้าจักเป็นแม่ให้เจ้า เจ้าจงปรับตัวเข้ากับทุกตนที่นี่ให้ได้มากที่สุด แล้วเจ้าจักอยู่ได้อย่างสบาย”

ชมชีวันโผกอดชลามัจฉาอีกครั้ง ไม่เพียงรูปร่างหน้าตาของชลามัจฉาจะละม้ายคล้ายกับแม่ของเธอเท่านั้น อีกอย่างที่เหมือนกันมากก็คือความใจดีมีเมตตาต่อผู้อื่น จะว่าไปหากถึงวันที่เธอจะต้องจากที่นี่ไป คงมีความทุกข์ใจไม่น้อย เพราะตอนนี้เธอเหมือนได้แม่กลับคืนมา ทว่าวันที่ต้องกลับไปเธอก็ต้องเสียแม่ของเธอไปเหมือนเดิม

สองแม่ลูกจัดเตรียมตั้งโต๊ะพร้อมวางเครื่องเงินให้เหมือนของใช้ในวันงานพิธีมากที่สุด ชมชีวันมองไปยังเครื่องเงินที่รูปทรงคล้ายพวกชุดชงน้ำชาไม่ละสายตา ทั้งกังขาในใจว่าหรือพิธีแต่งงานของที่นี่จะมีพิธียกน้ำชาเหมือนพิธีของคนไทยเชื้อสายจีนทำกัน

“ของพวกนี้คือชุดชงชาใช่ฤาไม่เจ้าคะท่านน้า”

“ชุดชงชาคืออันใดข้ามิเข้าใจ แต่ของพวกนี้คือหม้อต้มน้ำว่านโชคดี ในวันอภิเสกสมรสเครื่องใช้พวกนี้จักเป็นชุดทองเหลือง เจ้าแลท่านปักษิณจักต้องเป็นผู้บรรจงลงว่านแห่งความโชคดีลงไปในหม้อต้มก่อนจักเริ่มทำพิธิอันเป็นมงคล แลหลังจบพิธี เจ้ากับท่านปักษิณก็จักต้องเป็นผู้มอบน้ำว่านโชคดีให้ทุกตนที่มาจากเผ่าต่างๆ ได้ดื่มกันครบ”

“หม้อนิดเดียว แสดงว่ามากันไม่เยอะใช่ฤาไม่เจ้าคะ”

“หม้อทองเหลืองจากการประทานขององค์อิศวร มิมีวันหมดจนกว่าจักถึงแขกตนสุดท้ายของงาน”

“ท่านพ่อเล่าให้ข้าฟังว่า วันอภิเสกของพวกท่านทั้งสองต้องยืนแจกจ่ายน้ำว่านกันร่วมสามวันสามคืนเลยหนาท่านพี่”

“ฮะ!” มือเรียวยกทาบอกก่อนจะทิ้งก้นลงไปกับม้านั่งตัวยาว แขกที่มาหาดื่มเองแบบบุฟเฟต์ไม่ได้หรือยังไงจึงต้องให้เธอและเจ้าบ่าวยืนแจก พิธีนี้ล้มเลิกไปได้ไหมเนี่ย

สองแม่ลูกยืนขบขันเงือกสาวที่กำลังแสดงอาการตกใจออกมาทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะพิธีการข้อนี้นี่แหละที่ทำให้มีนามัจฉาเองไม่อยากจะมีคู่ครองเช่นนกยักษ์ในรุ่นราวคราวเดียวกันที่ออกเรือนกันไปนักต่อนัก

วันทั้งวันชมชีวันถูกชลามัจฉาและมีนามัจฉาสอนให้เรียนรู้ถึงพิธีการอย่างละเอียดจนแทบจะไม่ได้นั่ง ทว่าดีอย่างหนึ่งที่เธอได้รับประทานเนื้อสัตว์และของหวานต่างจากวันอื่นที่มีแต่ผักลงไปในท้อง

ชมชีวันกลับมาถึงหอนอนก็ทิ้งตังลงบนฟูกแสนนุ่ม สายตาของเธอว่างเปล่าเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน ทว่าอย่างน้อยเธอก็พอจะโล่งใจได้ไปหนึ่งเปราะเรื่องงานพิธี ด้วยข้อที่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดเรื่องพิธีการมากหากปักษิณสิงขรเห็นตรงกับเธอ ทว่าเรื่องสำคัญที่ต้องระวังก็คือในระหว่างที่อยู่ในพิธี เธอห้ามถูกเนื้อต้องตัวของปักษิณสิงขรเด็ดขาด เพราะหากยังไม่เข้าหอ ก็เท่ากับว่าการแต่งงานของเธอกับปักษิณสิงขรยังไม่เป็นอันจบสิ้น

เมื่อความกังวลเรื่องงานพิธีจบลง บางเรื่องที่เธอลืมไปเสียสนิทก็ทำให้ต้องดีดตัวผึงลุกออกมาจากฟูกนอนแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง

“สามนยังไม่กลับมาอีกเหรอ” เธอลืมไปเสียสนิทเลยว่ามอบหน้าที่ให้สามนไปทำอะไรให้ ทว่าก็ต้องมีสีหน้าแปลกใจเมื่อพ้นหนึ่งชั่วยามมานานมากแล้ว เจ้านาคทะเลยังไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเลย

“แอบไปเที่ยวที่ไหนจนเพลินแล้วมั้งเนี่ย”

“ข้าอยู่นี่เจ้าหญิง”

ชมชีวันมองตามเสียงของสามนไม่กี่ลมหายใจองครักษ์รูปงามร่างสูงใหญ่ที่นุ่งเตี่ยวสีน้ำตาลเพียงตัวเดียวก็หิ้วคอเจ้านาคทะเลออกมาจากมุมมืดของหอนอน

“เอ่อ...” ชมชีวันพูดอะไรไม่ออกเพราะจำได้ว่าคนที่กำลังหิ้วสามนอยู่นั่นคือรณจักรปักษา องครักษ์คู่กายของปักษิณสิงขร เท่ากับว่าแผนของเธอแตกแล้วสินะ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่16 ความทรงจำเจ้าของร่าง

    เงือกสาวยืนปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่รู้ว่าวีรกรรมของเธอจะไปถึงหูองค์ราชาและราชินีผู้ปกครองเมืองนี้หรือยัง“ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้เลยเจ้าหญิง หากท่านยังคงทำเรื่องมิสมควร ข้าจักต้องรายงานท่านเจ้าเมือง”เมื่อความผิดถูกละเว้นเงือกสาวก็พอจะยิ้มออก จากนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับองครักษ์หนุ่มเป็นการขอบคุณ “ข้าขออภัย ข้าจักไม่ทำอีก”ร่างของรณจักรปักษาสลายหายไปกับอากาศ ตัวของเจ้านาคทะเลก็ลงมากองกับพื้นชมชีวันค่อยๆ เงยหน้าเปิดตาทีละข้างเมื่อรู้ว่ารณจักรปักษาไม่อยู่แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าโล่งใจ ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่เจ้านาคทะเลที่นอนหงออยู่ตรงหน้า“ไปทำยังไงให้จับได้ล่ะสามน”“ก็ข้ามิรู้ว่าท่านรณจักร จักเห็นข้าด้วย ข้ากลัวแทบตายเจ้าหญิงยังมิวายบ่นข้าอีกฤา” สามนสะบัดหน้าหนีเจ้านายตน เขากลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกรณจักรปักษาดึงหลังคอขณะที่กำลังปีนป่ายตามหาปักษิณสิงขร“ข้าปลอบเจ้าก็ได้” ชมชีวันอุ้มเจ้านาคทะเลตัวกลมมากอดปลอบ ด้วยรู้ว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนลืมใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนตัวน้อยไป“ชิ...”“อย่างอนข้านักเลยน่า ข้าขอโทษ แล้วได้เห็นว่าที่สวามีข้าฤาไม่”“แค่ข้าย่างกายเข

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

    ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น“ตามใจเจ้าเถิด”“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตราม

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

    “พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”“มีเหตุอันใดฤา”“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

    ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆาอาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่12 เรียกทุกอย่างว่าผี

    “ข้าเป็นเจ้าที่” ชายผู้มีหนวดเคราและเรือนผมสีดอกเลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม“ท่านศร เป็นเจ้าที่ที่นี่ก่อนที่ข้ามาอยู่ในต้นไม้นี้เสียอีก” สาลิกาเอ่ยชื่อของท่านเจ้าที่ที่แสนใจดีที่อนุญาตให้วิญญาณที่ไม่มีที่ไปอย่างเธอมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน“อย่าไปบอกคนอื่นว่าเห็นข้าล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักพาลกลัว” ท่านศรเอ่ยย้ำกับเงือกสาวเพราะเขาพอจะรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกลัวแค่ไหนเมื่อได้ยินมนตรามัจฉาบอกว่าคุยกับนางไม้ได้“ทำไมฤาท่าน” มนตรามัจฉายังคงมีสีหน้าฉงน สิ่งที่เธอเห็นและพูดออกไปเป็นความจริงทั้งนั้น ทำไมคนอื่นถึงต้องกลัว“สิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ผู้คนเหล่านั้นเรียกทุกอย่างว่าผี”“พวกท่านก็ถูกผู้คนเรียกเช่นนั้นฤา”“จะเรียกว่าเจ้าที่ นางไม้ หรือวิญญาณก็มิต่างจากความหมายนั้น”“มิน่า วีถึงได้มีอาการกลัว พี่ชบาก็เรียกสิ่งที่ข้าเห็นว่าผี พวกเขาทำเหมือนเข้าใจข้า แต่สุดท้ายก็มิใช่” พูดมาถึงตรงหน้าสีหน้าของหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลง“เจ้าอย่าถือโทษโกรธใครที่ไม่เชื่อเจ้าเลย โลกมนุษย์นี้ ผู้คนจักเชื่อทุกอย่างที่ตาของพวกเขามองเห็น ส่วนเจ้าที่มองเห็นพวกข้าก็เพราะพวกข้าอยากให้เห็นเท่านั้น เจ้าจงใช้ชี

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่11 เคสแปลก

    วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควรชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”“ค่ะ”“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”“ครับ”เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวันสีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล“อั

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status