หน้าหลัก / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

แชร์

ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-14 11:21:59

“พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม

“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”

“มีเหตุอันใดฤา”

“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”

“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่

ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับสีของไม้สีน้ำตาลเข้มสวยงามเป็นที่ดึงดูดสายตาของเธอไม่น้อย ไม่รู้ว่าพวกนกยักษ์เอาผ้าผืนงามพวกนี้มาจากไหน ทั้งที่ในตำหนักของเธอมีเพียงผ้าฝ้ายสีขาวตกแต่งที่อยู่เท่านั้น

ราชินีแห่งเมืองปักษิณพาราปรากฎตัวอยู่กลางโถงใหญ่ ทายาทพยัคฆาอาวุโสที่ยังดูสวยสดงดงาม มีเรือนผมสีแดงเข้มสีเดียวกับดวงตาหยิกยาวสยายดูน่าเกรงขามกำลังมองจ้องไปยังว่าที่สะใภ้ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยยินดีนัก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะไม่คิดว่าธิดาของเงือกจะมีกิริยาปานไม่มีใครสั่งสอนมาขนาดนี้ เมื่อเห็นเธอยืนตรงหน้ายังไม่คิดแม้แต่จะย่อเข่าคำนับ หากไม่ใช่ว่าโอรสของเธอจะกลับมามองเห็นได้เพราะเงือกสาวตรงหน้า เธอไม่คิดที่จะให้ผู้ที่กิริยาหยาบคายเข้ามาเหยียบบ้านเมืองของเธอเป็นอันขาด

ชมชีวันเห็นดวงตาสีเหลืองทองอันทรงพลังของราชินีที่กำลังจับจ้องมายังเธอก็ต้องยืนแน่นิ่งก่อนจะอ้อมแอ้มถามอีกฝ่ายออกไปถึงธุระที่ให้นางรับใช้ไปตามเธอมาถึงที่นี่

“ท่านมีอันใจจักคุยกับข้าฤา” หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ภาวนาว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่เธอแต่งตั้วสามนเป็นนากสายลับไปสอดแนมตำหนักของปักษิณสิงขรเลย

“ก่อนถึงวันอภิเษกสมรส ข้าจักต้องสอนให้เจ้ารู้จักระเบียบพิธีการ กิริยาเช่นเจ้า ข้ามิอาจละเลยการอบรมได้” ในฐานะที่กำลังจะเป็นแม่สามีและหลีกเลี่ยงการรับสะใภ้ตนนี้ไม่ได้ อชินีพาราจำเป็นต้องทำหน้าที่แม่เมืองเพื่อทำให้สมาชิกใหม่ในเผ่ารู้ขนบธรรมเนียมของสรรพสัตว์ที่นี่ให้ได้

ชมชีวันยืนถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอย่างที่เธอกังวล “บอกข้ามาตอนนี้เลย ข้าจักจำให้ได้ทุกอย่าง”

“แค่บอกคงมิได้ เจ้าต้องมีผู้สั่งสอนแลให้เจ้าทำตาม มิเช่นนั้นข้าคงกังวลมากในงานพิธี”

“มิไว้ใจข้าฤา ข้าสามารถเข้าใจได้ทุกอย่างนะองค์ราชินี” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น จากนั้นก็ยกมือชี้หน้าตัวเอง เพราะคิดว่าแค่พูดให้ฟังถึงพิธีการเธอก็เข้าใจได้ ไม่เห็นจะต้องฝึกซ้อมให้เสียเวลา

อชินีพารานยกมือทาบอก สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความตกใจกับกิริยาวาจาของเงือกสาวไม่ได้ต่างจากคราที่เงือกสาวมาถึงที่นี่แม้แต่น้อย

“กิริยาเช่นนี้ให้ข้าไว้ใจได้เยี่ยงไร ชลามัจฉาแลมีนามัจฉาจักเป็นผู้สอนเจ้า กิริยาเช่นนี้ข้ามิเคยพบเคยเห็น ให้คนเผ่าของเจ้าสอนกันเองก็แล้วกัน” อชินีพาราหันหลังให้ว่าที่สะใภ้หลังจากเอ่ยธุระจบ จากนั้นร่างของเธอก็ค่อยๆ อันตรธานหายไปพร้อมกับนางรับใช้ทั้งสองที่แปลงกายเป็นนกตัวเล็กบินออกไปจากโถงใหญ่ ทิ้งให้เงือกสาวยืนหน้าฉงนอยู่ตนเดียว

“อ้าว ทิ้งกันเลยเหรอ”

“มนตรามัจฉา”

เสียงที่คุ้นหูเรียกให้ชมชีวันรีบหมุนตัวหันกลับไปตามเสียง เมื่อหญิงงามในชุดสีขาวเรือนผมสีทองปรากฎตรงหน้า ดวงตากลมโตก็เบิกโพลง ริมฝีปากบางอ้าค้าง รอยยิ้มหวานตรึงใจนั้นทำให้ขอบตาของชมชีวันเริ่มร้อนผ่าวก่อนจะมีไข่มุกเม็ดเล็กไหลกลิ้งลงมาที่พวงแก้มก่อนจะตกไปยังพื้น

“แม่...แม่จริงๆ ด้วย” ชมชีวันวิ่งเข้าไปโผกอดคนเป็นแม่อย่างไม่คิดลังเล ตั้งแต่แม่ของเธอจากไปเธอก็เฝ้าคิดถึงอ้อมกอดของแม่ทุกวัน ยิ่งวันไหนที่เธอทุกข์ใจเธอก็ยิ่งโหยหาอ้อมกอดนี้มากที่สุด แล้ววันนี้เธอก็ได้อ้อมกอดนั้นคืนมาแล้ว

“แม่รู้ไหมว่าชมพูคิดถึงแม่แค่ไหน”

“ท่านพี่ ท่านจำมิได้ฤาว่านี่ท่านแม่ข้า” มีนามัจฉามองญาติผู้พี่ด้วยแววตาฉงนหนัก ไม่รู้ว่ามนตรามัจฉาจำแม่ของเธอไม่ได้หรือมีอาการเช่นนี้เพราะคิดถึงท่านแม่ของตนกันแน่

“เจ้าคะนึงหาแม่เจ้าฤา ข้าเข้าใจ อยู่ที่แห่งนี้ ข้าจักเป็นแม่ให้เจ้า” ชลามัจฉากอดปลอบหลานรักที่เพิ่งจากบ้านจากเมืองด้วยความไม่เต็มใจ เธอรู้ดีว่าการจากเมืองเกิดก็ไม่ได้ต่างจากการเกิดใหม่และมีความกังวลสับสนเพียงใด ด้วยต้องเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและการเป็นอยู่ทุกอย่างของที่ใหม่ทั้งหมด เธอในฐานะที่เป็นน้าก็จะดูแลหลานตนนี้ให้ดีเสมือนบุตรีของตน

ชมชีวันยังไม่ยอมผละออกจากอ้อมอกของชลามัจฉา แม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าที่เธอกำลังกอดไม่ใช่แม่ แต่เป็นชลามัจฉาน้องของบุหลันมัจฉาที่มาแต่งงานกับวารัตน์คีรี น้องชายของเจ้าเมืองแห่งนี้เมื่อนานมาแล้ว ทว่าการมาที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอได้คิดเอาไว้ แค่ได้อยู่ใกล้ผู้ที่มีหน้าตาเหมือนแม่ แค่นี้เธอก็มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อมากแล้ว

“ท่านพี่ ยังมีพิธีการอีกมากที่ท่านต้องเรียนรู้ เราไปที่ตำหนักท่านแม่ข้ากันเถิด” มีนามัจฉาดึงมือญาติผู้พี่ให้ออกไปจากโถงแห่งนี้ เพราะเธออยากให้มนตรามัจฉาได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมของที่นี่และการพิธีให้มากและเร็วที่สุด สัตว์หลายตนในเมืองจะได้เลิกติฉินนินทาถึงกิริยาและวาจาของญาติผู้พี่ของเธอเสียที แม้เธอจะเป็นครึ่งนกยักษ์ครึ่งเงือก ทว่าก็ไม่อยากให้ใครมาว่าเผ่าพันธุ์ของแม่เธอเสียๆ หายๆ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่179 ตอนจบ

    “พวกท่านจักรักข้าเหมือนลูกแท้ๆ จริงฤา”“เหตุใดจักมิจริงกันเล่า” เพลิงพันจักรรวบตัวพสุนทราขึ้นมาอุ้มเอาไว้ในอ้อมอก“ใช่แล้ว ข้านั้นก็เติบโตมากับท่านพ่อท่านแม่บุญธรรม แลพวกท่านนั้นรักแลหวังดีกับข้ามิได้ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ แลเหตุใดพวกข้าจักรักเจ้าจริงๆ มิได้เล่า”“เจ้าอยู่ที่นี่เถิดหนาอย่าหนีไปไหน ย่าเจ้า ตัวข้า แลแม่เจ้านั้นจักดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”“ข้า ข้าจักอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่...ข้ามีท่านแม่เพียงตนเดียว” พสุนทราเอ่ยจบก็ก้มหน้างุดซุกไปที่อกกว้างของผู้เป็นพ่ออัญญาภานารีหน้าเจื่อนเช่นเดียวกับเพลิงพันจักรเมื่อได้ยินพญานาคตัวน้อยเอ่ยออกมาแบบนั้น“ข้าเข้าใจเจ้าหนาพสุนทรา เจ้ายังมิต้องยอมรับข้าตอนนี้ก็ได้ แต่ข้าก็จักดูแลเจ้าให้ดีที่สุด ข้าสัญญา”เพลิงพันจักรอมยิ้มให้กับอัญญาภานารี คราแรกคิดว่าชายาตนนั้นจะเสียใจกับคำพูดของพสุนทราเสียอีก โล่งใจที่ชายาตนนั้นมีเมตตาต่อพสุนทราที่กำลังไร้เดียงสา“จักมิหนีไปอีกใช่ฤาไม่เจ้าคะ” อัญญาภานารีเอ่ยถามเพลิงพันจักรหลังจากส่งพสุนทราให้สิงหลพาไปนอนแล้ว“ข้าคิดว่ามิหนีไปแล้วล่ะ แลเจ้าจักทำอย่างไรให้พสุนทรายอมรับเจ้าให้เป็นแม่”“ข้ามิคิดจักแทนที่แม่ของพสุนทราดอกเ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่178 เรื่องใหญ่

    “หากข้ามิหนีมาเรื่องเช่นนี้คงมิเกิด หากข้ารอฟังตอนที่ท่านฟื้น ท่านพี่แลอิรวดีคงมิต้องจากไป” อัญญาภานารียังคงร้องห่มร้องให้อยู่ในอ้อมอกของเพลิงพันจักร แม้นจะออกจากท้องพระโรงมาพักที่ตำหนักของตน ทว่าความรู้สึกตกใจและภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นก็ยังติดตาของเธอไม่หายที่เสียใจไปกว่านั้นก็เพราะรับรู้ว่าอย่างไรบูรพกันต์ก็ต้องถูกประหาร เพราะคิดจะฆ่าเธอและเขาก็เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของอิรวดี“เจ้าอย่าโทษตนเองเลยหนา เป็นข้าเองที่มิบอกเรื่องของอิรวดีแลพสุนทรากับเจ้า แลหากมิใช่แผนร้ายของบูรพกันต์ฤา เจ้าจึงได้เสียใจจนหนีไป”“ข้าเสียใจเหลือเกิน ข้าเสียใจเหลือเกินเจ้าค่ะ” เสียใจไปกับการสูญเสียแค่นั้นไม่พอ ตอนนี้สิ่งที่ห่วงที่สุดคือพสุนทรา พญานาคตัวน้อยจะรู้สึกเช่นไรหากได้รู้ว่าเสียผู้เป็นแม่แล้ว ไม่ว่าเพลิงพันจักรจะเอ่ยถึงสาเหตุของเรื่องว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่อย่างไรเธอก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เหตุการณ์เลวร้ายขึ้น“ข้ามิคิดว่าเรื่องการกลั่นแกล้งใส่ความกันจักเป็นบ่อเกิดของเรื่องร้ายแรงเพียงนี้เลยขอรับ” รณจักรปักษาคิดว่าจะไม่พูดเรื่องราวเลวร้ายขึ้นมาอีกแล้ว ทว่าความหดหู่หัวใจก็มีมากเกินเสีนจนอดระบายออก

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่177 คุ้มคลั่ง

    “ท่านเพลิงพันจักร” ปักษิณสิงขรรีบดึงให้เพลิงพันจักรนั่งลง หากปล่อยให้มีเรื่องมีราวกันการไต่สวนอาจจะไม่จบ และเขาก็เชื่อไม่มีผู้ใดเชื่อคำของบูรพกันต์อยู่แล้ว ดีเสียอีกที่ครุฑหนุ่มนั่นเผยสันดานที่แท้จริงออกมา ผู้อื่นจะได้เลิกเคารพเสียที“มิจริงหนาท่านแม่ ข้ามิเคยถูกท่านพี่ล่วงเกิน” อัญญาภานารีคิดว่าจะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ทว่าเธอก็อดส่งเสียงท้วงไม่ได้ ถึงจะถูกบูรพกันต์จับไปขังอยู่หลายเพลา ทว่าเขาก็ไม่ได้ทำล่วงเกินอันใดกับเธออย่างที่กล่าวออกมา“หากอยากจักเอาชนะข้าด้วยวิธีอื่นข้ามิว่า แต่อย่าหยามเกียรติชายาของข้าโดยการพูดพล่อยๆ” เพลิงพันจักรรู้ทันบูรพกันต์ หรือแม้แต่เรื่องที่ครุฑหนุ่มพูดจะเป็นความจริงเขาก็ไม่สนใจอยู่แล้ว“ทำไม เจ้ายอมรับความจริงมิได้ฤา” บูรพกันต์ยังคงตีสีหน้ายียวนขณะหันไปพูดกับเพลิงพันจักรเพียะ ศีตกาลที่ทนเห็นพฤติกรรมไม่สะทกสะท้านของหลานชายไม่ได้ เธอจึงต้องเดินเข้าไปสั่งสอนบูรพกันต์ให้ได้สติโดยการยกมือฟาดไปที่แก้มสากจนบูรพกันต์หน้าหัน“ทำไมเป็นเช่นนี้หนาหลานข้า หากเจ้าพูดสิ่งใดข้าย่อมเอนเอียงไปทางเจ้าเสียหมดหนาบูรพกันต์ แต่เรื่องที่เจ้าเอ่ยว่าหยามเกียรติของอัญญาภานารีข้าว่ามั

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่176 หนีไป

    “หากเป็นเช่นนั้น ถ้าเราไปถามก็คงจักมิบอก ทางเดียวที่ข้าคิดได้ตอนนี้ก็คือการติดตามบูรพกันต์อยู่ห่างๆ” ปักษิณสิงขรเห็นว่ามันน่าจะเป็นวิธีเดียวที่ทำให้ได้เจอกับอัญญาภานารีได้เร็วที่สุด“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น แลทำอย่างไรพวกเราจึงจักอยู่ที่นี่ได้ต่อ หากเป็นเรื่องตามหาอัญญาภานารีก็มิเจอนางแล้ว”“หากบูรพกันต์รู้ว่าอัญญาภานารีอยู่ที่ใดคงมิปล่อยให้ห่างแน่ ป่านนี้ต้องกระวนกระวายเพราะถูกขังอยู่ในตำหนัก มิแน่คืนนี้เขาอาจจักกำลังหาทางออกไปจากตำหนักอีกก็เป็นได้”“เช่นนั้นเราต้องทำให้บูรพกันต์ได้ถูกปล่อยตัวในคืนนี้ ข้าเห็นว่าเป็นหน้าที่ของท่าน”“อย่างไรฤา” ปักษิณสิงขรยังไม่ค่อยเข้าใจที่เพลิงพันจักรพูดเท่าไรนักวิเวก องครักษ์ผู้ที่สนิทกับบูรพกันต์รีบเดินเข้ามาขวางหน้าเมื่อเห็นปักษิณสิงขรและรณจักรปักษากำลังตรงเข้ามายังตำหนักของบูรพกันต์“ท่านปักษิณสิงขรมาที่นี่ด้วยเหตุอันใดขอรับ”“ข้าอยากคุยกับท่านบูรพกันต์”“ตอนนี้ท่านทศยันต์สั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปหาท่านบูรพกันต์ขอรับ”“ข้าเป็นผู้ใดเจ้าลืมไปแล้วฤา หากข้ามิขออนุญาตท่านพ่อของข้าแลข้าจักมาที่นี่ได้ฤา ถอยออกไปหากมิอยากถูกขังลืม”“ข้าให้เข้าไปมิได้ขอรับ”“

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่175 ไม่ยอมรับผิด

    “ท่านพี่ที่แสนสุขุมแลให้เกียรติผู้อื่นบัดนี้อยู่ที่ใดเจ้าคะ”“ข้าก็ให้เกียรติเฉพาะผู้ที่ข้าอยากให้เกียรติ เจ้าอยู่ที่นี่ให้สบายเถิด” บูรพกันต์วางถาดอาหารแลน้ำไว้ได้เขาก็หมุนแหวนครุฑของตนเพื่อเปิดประตูมิติ หลังจากที่ครุฑหนุ่มหายไป ประตูและหน้าต่างที่เคยเปิดก็ปิดสนิทก็มีกำแพงแก้วเข้ามาปิดกั้นไม่ให้นกยักษ์สาวนั้นหนีไปไหนได้“เหตุใดเป็นเยี่ยงนี้ไปได้” อัญญาภานารีน้ำเสียงสั่นเครือ พลางคิดย้อนเวลา เธอไม่น่าใช้แขวนครุฑกลับไปยังตำหนักของบูรพกันต์ตั้งแต่คราแรกเลย แล้วตอนนี้แหวนนั้นเขาก็เอาคืนไปแล้ว แล้วเมื่อไรเขาจะมาปลดปล่อยเธอออกไปจากที่นี่กันทางด้านเพลิงพันจักร เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงสวรรค์ชั้นกลางก็รีบลากอิรวดีไปเข้าเฝ้าองค์ราชาพญาทศยันต์และองค์ราชินีศีตกาลโดยมีปักษิณสิงขรและรณจักรปักษาตามหลังติดๆ ทั้งสี่ได้พยายามเล่าเรื่องที่มันเกิดขึ้นให้กับองค์ราชาและราชินีพญาครุฑทั้งสองอย่างละเอียดครู่ใหญ่เรื่องราวอันน่าปวดหัวนั้นสร้างความหนักใจให้กับพญาทศยันต์และศีตกาลไม่น้อย เพราะบูรพกันต์นั้นถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท อีกทั้งพวกเขาทั้งสองก็ไม่ทราบได้จริงๆ ว่าอัญญาภานีหนีมาที่นี่หรือไม่“เรื่องทั้งห

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่174 มิมีเหตุผลแล้วหนา

    “ข้าจักเป็นลมเสียให้ได้ ใยเจ้ามิคิดบอกเรื่องนี้กับแม่บ้าง” อังกาบแทบจะล้มพับในขณะที่กำลังนั่ง ดีที่โสภิณนั้นช่วยประคองเอาไว้“ข้ากลัวว่าท่านแม่จักมิอยากให้ข้ารับบุตรผู้อื่นเป็นบุตรของตนขอรับ แลตอนนี้ข้านั้นรักพสุนทราเหมือนลูกจริงๆ ข้าเองก็หาเพลาจักบอกท่านแม่กับอัญญาภานารีเช่นกัน แต่ก็มีเรื่องของเมืองศิคาลเข้ามาก่อนขอรับ”“แล้วพวกเจ้าจักทำอย่างไร ตอนนี้อัญญาภานารีหนีไปไหนมิรู้ได้ อีกทั้งพสุนทราจักต้องรับรู้เรื่องท่านพ่อกับท่านแม่ของตนเช่นไรหากเจ้าจักพรากแม่พรากลูกเช่นนี้”“เรื่องอัญญาภานารีข้าจักตามหาน้องข้าเอง ท่านก็สะสางเรื่องตรงนี้ให้จบเถิดท่านเพลิงพันจักร” ปักษิณสิงขรเอ่ยจบก็ยืนส่ายหัวน้อยๆ กับเรื่องอันน่าปวดหัวที่เกิดจากความรักแบบผิดๆ ของอิรวดีและบูรพกันต์ แม้นจะไม่มีใครบอกเขาว่าบูรพกันต์รู้สึกอย่างไรกับอัญญาภานารี แต่เขานั้นมองออกตั้งแต่งานอภิเษกของอัญญาภานารีและเพลิงพันจักรแล้ว“ข้าจักตามหาอัญญาภานารีด้วย แลหลังจากนั้นข้าจักไปสะสางกับบูรพกันต์ด้วยตัวเอง” เอ่ยกับปักษิณสิงขรจบก็หันมาจ้องหน้าอิรวดี “แลเจ้าก็ต้องไปเป็นพยานให้ข้าว่าบูรพกันต์นั้นคิดชั่วแค่ไหนกับท่านพญาทศยันต์”อิรวดีไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status