Главная / โรแมนติก / My destiny ร่างนี้ของใคร / ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

Share

ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

last update Последнее обновление: 2025-06-14 11:21:59

“พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม

“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”

“มีเหตุอันใดฤา”

“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”

“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่

ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับสีของไม้สีน้ำตาลเข้มสวยงามเป็นที่ดึงดูดสายตาของเธอไม่น้อย ไม่รู้ว่าพวกนกยักษ์เอาผ้าผืนงามพวกนี้มาจากไหน ทั้งที่ในตำหนักของเธอมีเพียงผ้าฝ้ายสีขาวตกแต่งที่อยู่เท่านั้น

ราชินีแห่งเมืองปักษิณพาราปรากฎตัวอยู่กลางโถงใหญ่ ทายาทพยัคฆาอาวุโสที่ยังดูสวยสดงดงาม มีเรือนผมสีเดียวกับดวงตาหยิกยาวสยายดูน่าเกรงขามกำลังมองจ้องไปยังว่าที่สะใภ้ด้วยสายตาที่ไม่ค่อยยินดีนัก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะไม่คิดว่าธิดาของเงือกจะมีกิริยาปานไม่มีใครสั่งสอนมาขนาดนี้ เมื่อเห็นเธอยืนตรงหน้ายังไม่คิดแม้แต่จะย่อเข่าคำนับ หากไม่ใช่ว่าโอรสของเธอจะกลับมามองเห็นได้เพราะเงือกสาวตรงหน้า เธอไม่คิดที่จะให้ผู้ที่กิริยาหยาบคายเข้ามาเหยียบบ้านเมืองของเธอเป็นอันขาด

ชมชีวันเห็นดวงตาสีเหลืองทองอันทรงพลังของราชินีที่กำลังจับจ้องมายังเธอก็ต้องยืนแน่นิ่งก่อนจะอ้อมแอ้มถามอีกฝ่ายออกไปถึงธุระที่ให้นางรับใช้ไปตามเธอมาถึงที่นี่

“ท่านมีอันใจจักคุยกับข้าฤา” หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ภาวนาว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่เธอแต่งตั้วสามนเป็นนาคสายลับไปสอดแนมตำหนักของปักษิณสิงขรเลย

“ก่อนถึงวันอภิเษกสมรส ข้าจักต้องสอนให้เจ้ารู้จักระเบียบพิธีการ กิริยาเช่นเจ้า ข้ามิอาจละเลยการอบรมได้” ในฐานะที่กำลังจะเป็นแม่สามีและหลีกเลี่ยงการรับสะใภ้ตนนี้ไม่ได้ อชินีพาราจำเป็นต้องทำหน้าที่แม่เมืองเพื่อทำให้สมาชิกใหม่ในเผ่ารู้ขนบธรรมเนียมของสรรพสัตว์ที่นี่ให้ได้

ชมชีวันยืนถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอย่างที่เธอกังวล “บอกข้ามาตอนนี้เลย ข้าจักจำให้ได้ทุกอย่าง”

“แค่บอกคงมิได้ เจ้าต้องมีผู้สั่งสอนแลให้เจ้าทำตาม มิเช่นนั้นข้าคงกังวลมากในงานพิธี”

“มิไว้ใจข้าฤา ข้าสามารถเข้าใจได้ทุกอย่างนะองค์ราชินี” คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น จากนั้นก็ยกมือชี้หน้าตัวเอง เพราะคิดว่าแค่พูดให้ฟังถึงพิธีการเธอก็เข้าใจได้ ไม่เห็นจะต้องฝึกซ้อมให้เสียเวลา

อชินีพารานยกมือทาบอก สีหน้าของเธอแสดงออกถึงความตกใจกับกิริยาวาจาของเงือกสาวไม่ได้ต่างจากคราที่เงือกสาวมาถึงที่นี่แม้แต่น้อย

“กิริยาเช่นนี้ให้ข้าไว้ใจได้เยี่ยงไร ชลามัจฉาแลมีนามัจฉาจักเป็นผู้สอนเจ้า กิริยาเช่นนี้ข้ามิเคยพบเคยเห็น ให้คนเผ่าของเจ้าสอนกันเองก็แล้วกัน” อชินีพาราหันหลังให้ว่าที่สะใภ้หลังจากเอ่ยธุระจบ จากนั้นร่างของเธอก็ค่อยๆ อันตรธานหายไปพร้อมกับนางรับใช้ทั้งสองที่แปลงกายเป็นนกตัวเล็กบินออกไปจากโถงใหญ่ ทิ้งให้เงือกสาวยืนหน้าฉงนอยู่ตนเดียว

“อ้าว ทิ้งกันเลยเหรอ”

“มนตรามัจฉา”

เสียงที่คุ้นหูเรียกให้ชมชีวันรีบหมุนตัวหันกลับไปตามเสียง เมื่อหญิงงามในชุดสีขาวเรือนผมสีทองปรากฎตรงหน้า ดวงตากลมโตก็เบิกโพลง ริมฝีปากบางอ้าค้าง รอยยิ้มหวานตรึงใจนั้นทำให้ขอบตาของชมชีวันเริ่มร้อนผ่าวก่อนจะมีไข่มุกเม็ดเล็กไหลกลิ้งลงมาที่พวงแก้มก่อนจะตกไปยังพื้น

“แม่...แม่จริงๆ ด้วย” ชมชีวันวิ่งเข้าไปโผกอดคนเป็นแม่อย่างไม่คิดลังเล ตั้งแต่แม่ของเธอจากไปเธอก็เฝ้าคิดถึงอ้อมกอดของแม่ทุกวัน ยิ่งวันไหนที่เธอทุกข์ใจเธอก็ยิ่งโหยหาอ้อมกอดนี้มากที่สุด แล้ววันนี้เธอก็ได้อ้อมกอดนั้นคืนมาแล้ว

“แม่รู้ไหมว่าชมพูคิดถึงแม่แค่ไหน”

“ท่านพี่ ท่านจำมิได้ฤาว่านี่ท่านแม่ข้า” มีนามัจฉามองญาติผู้พี่ด้วยแววตาฉงนหนัก ไม่รู้ว่ามนตรามัจฉาจำแม่ของเธอไม่ได้หรือมีอาการเช่นนี้เพราะคิดถึงท่านแม่ของตนกันแน่

“เจ้าคะนึงหาแม่เจ้าฤา ข้าเข้าใจ อยู่ที่แห่งนี้ ข้าจักเป็นแม่ให้เจ้า” ชลามัจฉากอดปลอบหลานรักที่เพิ่งจากบ้านจากเมืองด้วยความไม่เต็มใจ เธอรู้ดีว่าการจากเมืองเกิดก็ไม่ได้ต่างจากการเกิดใหม่และมีความกังวลสับสนเพียงใด ด้วยต้องเรียนรู้ขนบธรรมเนียมและการเป็นอยู่ทุกอย่างของที่ใหม่ทั้งหมด เธอในฐานะที่เป็นน้าก็จะดูแลหลานตนนี้ให้ดีเสมือนบุตรีของตน

ชมชีวันยังไม่ยอมผละออกจากอ้อมอกของชลามัจฉา แม้ตอนนี้จะรู้แล้วว่าที่เธอกำลังกอดไม่ใช่แม่ แต่เป็นชลามัจฉาน้องของบุหลันมัจฉาที่มาแต่งงานกับวารัตน์คีรี น้องชายของเจ้าเมืองแห่งนี้เมื่อนานมาแล้ว ทว่าการมาที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เธอได้คิดเอาไว้ แค่ได้อยู่ใกล้ผู้ที่มีหน้าตาเหมือนแม่ แค่นี้เธอก็มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อมากแล้ว

“ท่านพี่ ยังมีพิธีการอีกมากที่ท่านต้องเรียนรู้ เราไปที่ตำหนักท่านแม่ข้ากันเถิด” มีนามัจฉาดึงมือญาติผู้พี่ให้ออกไปจากโถงแห่งนี้ เพราะเธออยากให้มนตรามัจฉาได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมของที่นี่และการพิธีให้มากและเร็วที่สุด สัตว์หลายตนในเมืองจะได้เลิกติฉินนินทาถึงกิริยาและวาจาของญาติผู้พี่ของเธอเสียที แม้เธอจะเป็นครึ่งนกยักษ์ครึ่งเงือก ทว่าก็ไม่อยากให้ใครมาว่าเผ่าพันธุ์ของแม่เธอเสียๆ หายๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่16 ความทรงจำเจ้าของร่าง

    เงือกสาวยืนปั้นหน้าให้น่าสงสารที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่รู้ว่าวีรกรรมของเธอจะไปถึงหูองค์ราชาและราชินีผู้ปกครองเมืองนี้หรือยัง“ท่านมิควรทำเยี่ยงนี้เลยเจ้าหญิง หากท่านยังคงทำเรื่องมิสมควร ข้าจักต้องรายงานท่านเจ้าเมือง”เมื่อความผิดถูกละเว้นเงือกสาวก็พอจะยิ้มออก จากนั้นจึงรีบคุกเข่าคำนับองครักษ์หนุ่มเป็นการขอบคุณ “ข้าขออภัย ข้าจักไม่ทำอีก”ร่างของรณจักรปักษาสลายหายไปกับอากาศ ตัวของเจ้านาคทะเลก็ลงมากองกับพื้นชมชีวันค่อยๆ เงยหน้าเปิดตาทีละข้างเมื่อรู้ว่ารณจักรปักษาไม่อยู่แล้วก็ทิ้งตัวนั่งกับพื้นด้วยสีหน้าโล่งใจ ก่อนจะหันไปขมวดคิ้วใส่เจ้านาคทะเลที่นอนหงออยู่ตรงหน้า“ไปทำยังไงให้จับได้ล่ะสามน”“ก็ข้ามิรู้ว่าท่านรณจักร จักเห็นข้าด้วย ข้ากลัวแทบตายเจ้าหญิงยังมิวายบ่นข้าอีกฤา” สามนสะบัดหน้าหนีเจ้านายตน เขากลัวจนแทบหยุดหายใจเมื่อถูกรณจักรปักษาดึงหลังคอขณะที่กำลังปีนป่ายตามหาปักษิณสิงขร“ข้าปลอบเจ้าก็ได้” ชมชีวันอุ้มเจ้านาคทะเลตัวกลมมากอดปลอบ ด้วยรู้ว่าตัวเองอยากรู้อยากเห็นจนลืมใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนตัวน้อยไป“ชิ...”“อย่างอนข้านักเลยน่า ข้าขอโทษ แล้วได้เห็นว่าที่สวามีข้าฤาไม่”“แค่ข้าย่างกายเข

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่15 เหมือนแม่มากจริงๆ

    ชมชีวันมาถึงตำหนักของชลามัจฉาก็วิ่งไปรอบตำหนัก เพราะที่แห่งนี้ไม่ได้มีเพียงต้นไม้ใหญ่ที่เป็นที่อยู่หลับนอนเท่านั้น แต่หลังตำหนักมีรากไม้ขนาดใหญ่ขดโอบล้อมเกิดเป็นบ่อน้ำสีฟ้าสวยและรอบๆ ก็มีไม้ดอกหลากสีสันเป็นที่น่ามองอีกด้วย“ข้าชอบสระน้ำนี้เจ้าค่ะท่านน้า ข้ามาหาท่านบ่อยๆ ได้ไหมเจ้าคะ”“เรือนหอของเจ้าจักมีเช่นกัน หลังเจ้าร่วมหอกับท่านปักษิณสิงขร รากไม้จากตำหนักจักขยายรากเกิดเป็นบ่อน้ำให้เจ้าได้แหวกว่ายยามคะนึงหาเมืองเกิดที่จากมา”“แต่ข้าอยากมาที่นี่” ที่พูดออกไปเมื่อครู่เพียงต้องการหาข้ออ้างมาอยู่ใกล้ชลามัจฉาเท่านั้น“ตามใจเจ้าเถิด”“ท่านพี่อยากมาหาข้าใช่ฤาไม่เล่า” มีนามัจฉาอมยิ้มกรุ้มกริ่ม ด้วยรู้ว่าญาติผู้พี่ต้องอยากพาเธอไปหาอะไรทำสนุกๆ เช่นครั้งที่เธอกลับไปเยี่ยมเยียนถึงมหาสมุทรกว้างใหญ่แน่นอน ที่นั่นเป็นถิ่นของมนตรามัจฉา แต่ที่นี่เป็นถิ่นของเธอ มีหลายอย่างเลยที่เธออยากให้มนตรามัจฉาไปพบไปเห็นเหมือนกับสิ่งที่เธอได้เห็นในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาล“ให้จำเอาไว้ว่าเจ้าจักพาพี่เจ้าซนมิได้แล้วหนา” ชลามัจฉาเหมือนจะรู้ทันว่าลูกสาวของเธอกำลังคิดอะไรจึงต้องเอ่ยปากปรามเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากนี้มนตราม

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่14 เรียกให้ไปเข้าเฝ้า

    “พวกคุณ เอ่อ... พวกท่านเข้ามาในหอนอนของข้าได้ยังไง ข้ามิได้อนุญาตให้ใครเข้ามา” ชมชีวันจำได้ว่าทั้งสองเป็นนางรับใช้ของอชินีพารา ไม่เพียงแค่หน้าตาที่ไม่เป็นมิตร ทว่าสายตายังมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าเช่นที่เจอกันคราแรกก็ยังเหมือนเดิม“ราชินีมีรับสั่งให้เจ้าหญิงเข้าเฝ้าในเพลานี้เจ้าค่ะ”“มีเหตุอันใดฤา”“มิทราบได้ พวกข้ามาเชิญเจ้าหญิงตามคำสั่งเท่านั้น จงไปกับพวกเราโดยดีเถิดเจ้าค่ะ”“เอ่อ...อืม” ชมชีวันรีบเดินตามทั้งสองไปแต่โดยดี เสียงเอ่ยเชิญของนางรับใช้นั้นแข็งไร้หางเสียงปานการออกคำสั่ง หากเธอคิดขัดขืนมีหวังอาจจะถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดหลังหักได้ ทว่าเรื่องที่ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ มากกว่าความโหดของสายตานางรับใช้ก็เห็นจะเป็นเรื่องที่ราชินีของเมืองนี้ให้ไปเข้าเฝ้า ไม่รู้เลยว่าเรื่องอะไร ทว่าก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้เป็นเรื่องที่สามนถูกจับได้ ไม่เช่นนั้นชื่อเสียงของเงือกสาวได้เลื่องลือเป็นที่เสียหายแน่ชมชีวันเดินก้มหน้าก้มตาตามนางรับใช้ทั้งสองมาพักใหญ่ จนกระทั่งเข้ามาถึงตำหนักใหญ่ที่อชินีพาราประทับอยู่ ในโถงใหญ่แห่งนี้แม้จะไม่ได้ต่างจากที่ที่เธอพักอาศัยมากนัก ทว่าที่แห่งนี้มีผ้าไหมสีประดับเป็นม่านตัดกับ

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่13 มหาอำนาจของป่าใหญ่

    ณ ใจกลางผืนป่ากว้างใหญ่อันเขียวขจีที่มีแม่น้ำสายใหญ่รายล้อมรอบเมือง เมื่อมีสายน้ำก็ย่อมมีชีวิต ที่นี่จึงเป็นเมืองที่เหล่าสรรพสัตว์อาศัยอยู่กันมากที่สุด พื้นที่แห่งนี้เรียกว่าเมืองปักษิณพารา เมืองแห่งนี้เป็นเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างที่ทำด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ราวกับต้นไม้ที่แกะสลักให้มีช่องว่างใหญ่โตพอที่จะให้สรรพสัตว์ได้ใช้อาศัยอยู่ได้อย่างสบายหลายแห่ง มีเจ้าเมืองปกครองนามว่า นครินทร์คีรีผู้เป็นราชานกยักษ์ ร่วมกับราชินีอชินีพาราผู้เป็นบุตรีของอดีตเจ้าเมืองพยัคฆาอาณาเขตการปกครองของเมืองปักษิณพารากว้างใหญ่ไพศาล เพราะเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มีทรัพยากรมากมายที่ชุบเลี้ยงชีวิตของเหล่าสรรพสัตว์ในป่าใหญ่ อีกทั้งยังเป็นเมืองที่พระอิศวรและครุฑชั้นปกครองได้ช่วยกันสร้าง จึงเป็นที่น่าเกรงขามกับสรรพสัตว์ทุกเผ่า เรียกได้ว่าเป็นเมืองนี้เป็นมหาอำนาจของป่าใหญ่นี้ก็ว่าได้เงือกสาวสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายแขนกุดกระโปรงสั้นเหนือเข่ามีเข็มขัดที่ทำจากไข่มุกคาดเอวให้เห็นทรวดทรงเดินเข้ามานั่งหน้ามุ่ยตรงข้ามกับเจ้านาคทะเลตัวน้อยที่กำลังสวาปามปลาดิบอย่างเอร็ดอร่อยต่อหน้าของเธอ“ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่เลยสามน สัตว์หลายตนที่นี่ด

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่12 เรียกทุกอย่างว่าผี

    “ข้าเป็นเจ้าที่” ชายผู้มีหนวดเคราและเรือนผมสีดอกเลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม“ท่านศร เป็นเจ้าที่ที่นี่ก่อนที่ข้ามาอยู่ในต้นไม้นี้เสียอีก” สาลิกาเอ่ยชื่อของท่านเจ้าที่ที่แสนใจดีที่อนุญาตให้วิญญาณที่ไม่มีที่ไปอย่างเธอมาอาศัยอยู่ในต้นไม้ใหญ่เมื่อแปดสิบกว่าปีก่อน“อย่าไปบอกคนอื่นว่าเห็นข้าล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจักพาลกลัว” ท่านศรเอ่ยย้ำกับเงือกสาวเพราะเขาพอจะรับรู้ได้ว่าสองพี่น้องกลัวแค่ไหนเมื่อได้ยินมนตรามัจฉาบอกว่าคุยกับนางไม้ได้“ทำไมฤาท่าน” มนตรามัจฉายังคงมีสีหน้าฉงน สิ่งที่เธอเห็นและพูดออกไปเป็นความจริงทั้งนั้น ทำไมคนอื่นถึงต้องกลัว“สิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น ผู้คนเหล่านั้นเรียกทุกอย่างว่าผี”“พวกท่านก็ถูกผู้คนเรียกเช่นนั้นฤา”“จะเรียกว่าเจ้าที่ นางไม้ หรือวิญญาณก็มิต่างจากความหมายนั้น”“มิน่า วีถึงได้มีอาการกลัว พี่ชบาก็เรียกสิ่งที่ข้าเห็นว่าผี พวกเขาทำเหมือนเข้าใจข้า แต่สุดท้ายก็มิใช่” พูดมาถึงตรงหน้าสีหน้าของหญิงสาวก็ห่อเหี่ยวลง“เจ้าอย่าถือโทษโกรธใครที่ไม่เชื่อเจ้าเลย โลกมนุษย์นี้ ผู้คนจักเชื่อทุกอย่างที่ตาของพวกเขามองเห็น ส่วนเจ้าที่มองเห็นพวกข้าก็เพราะพวกข้าอยากให้เห็นเท่านั้น เจ้าจงใช้ชี

  • My destiny ร่างนี้ของใคร   ตอนที่11 เคสแปลก

    วายุตรวจร่างกายชมชีวันคร่าวๆ เรียบร้อยก็ส่งต่อหญิงสาวมาที่ห้องทำงานของธีรภพ จิตแพทย์หนุ่มตี๋หน้าหยกราวกับพระเอกซีรีส์จีนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา“เชิญนั่งก่อนครับคุณชมพู” มนตรามัจฉาเงยหน้ามองคนเป็นพี่ด้วยแววตาระแวงพอสมควรชื่นชีวาพยักหน้าให้น้องสาวนั่งลงตรงข้ามกับหมอหนุ่ม “ชมพูมีอะไรก็คุยกับคุณหมอได้ทั้งหมดเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปรอข้างนอก”“ค่ะ”“ฝากด้วยนะคะหมอภพ”“ครับ”เภสัชสาวออกจากห้องไปเรียบร้อย หมอหนุ่มก็หันมาสนใจหญิงสาวหน้าหวานที่กำลังนั่งทำหน้ากังวลอยู่ฝั่งตรงข้าม “ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อนนะครับ ผมชื่อภพครับ”“ฉันชื่อชมพูค่ะ แต่ว่า...” มนตรามัจฉาหยุดพูดกะทันหันเพราะจำได้ว่าชื่นชีวาให้เธอเข้าใจว่าเธอใช้ชื่อชมชีวันสีหน้าของหญิงสาวที่แสดงออกถึงความกังวลทำให้หมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเธอมีอะไรในใจเกี่ยวกับเรื่องชื่อของตัวเอง “มีอะไรพูดกับผมได้ทุกเรื่องเลยครับ คิดซะว่าผมเป็นเพื่อนของคุณคนนึงก็ได้ แล้วผมก็คิดว่าผมพร้อมจะเชื่อกับทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”“พูดได้ทุกเรื่องจริงเหรอคะ”“ครับ คุณพูดออกมาได้ทั้งหมดเลยครับ” ธีรภพเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นแววตาของหญิงสาวตรงข้ามเริ่มคลายความกังวล“อั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status