เข้าสู่ระบบไนท์มองร่างบางที่วิ่งเหยาะๆ จากหน้าบ้านมาประตูรั่วด้วยใบหน้าสดใส
ถ้าถามว่าเธอตรงสเป็คไหม ก็ถือว่าจัดอยู่ในไทป์ที่ใช่ เขาชอบผู้หญิงน่ารัก ตัวเล็ก แต่งตัวไม่จัดจ้าน ซึ่งนานิเข้าทุกอย่าง
จริงๆ แล้วนานิกับไอญดาไม่ดูแตกต่างกันมาก จัดอยู่ในไทป์ผู้หญิงตัวเล็กน่ารักเหมือนกัน แต่หน้าตาลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างนานิไม่ได้มีให้เห็นมากนัก
ดวงตาชั้นครึ่งที่เวลายิ้มแล้วตาจะหยีเป็นรูปสระอิฉบับสาวญี่ปุ่น จมูกโด่งมนสวยบนใบหน้าเรียวรูปไข่บวกกับปากจิ้มลิ้มมันยิ่งทำให้ดูน่ารัก น่ามอง
ยิ่งมองยิ่งน่ารัก….
“หิวไหม รถติดมากเลย เอาขนมปังกับนมลองท้องก่อนไหม มีติดรถมาอยู่ที่เบาะหลัง” ยังกล้าใช้คำว่าติดรถ ทั้งที่พึ่งแวะซื้อระหว่างทางมารับเธอหมาดๆ จะให้บอกว่าตั้งใจซื้อมาให้ก็รู้สึกเขินๆ
“หาอะไรกินกันแถวนี้ไหมคะ เรารู้จักร้านอร่อยๆ หลายร้านเลย” กลัวรองท้องแล้วอิ่มเลย พอถึงเวลาทานข้าวจริงๆ กินได้ไม่เยอะเดี๋ยวใครบางคนจะดุเอา
“อืม ได้สิ”
“แล้วพี่กินอะไรบ้างยังคะวันนี้”
“กินแล้ว แต่ไม่ได้กินอะไรจริงจัง” หมายถึงไม่ได้กินเป็นมื้อเป็นคาบจริงจัง
ตื่นมาก็บ่ายแก่ แถมยังพ่วงด้วยการแฮ้งเหล้า ปวดหัวตุ้บๆ กระหายแค่เพียงน้ำเย็นๆ ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงตอนนี้มีแค่กาแฟดำหนึ่งแก้วกับขนมปังปิ้งสองแผ่นตกถึงท้อง
แต่ที่ไม่บอกรายเอียดว่ากินอะไรไปบ้างให้เธอหรอก เพราะเขาคือคนที่คอยเตือนเธอเรื่องปากท้อง แถมยังแอบดุเมื่อเธอไม่ทำตาม ทว่าวันนี้เขากลับเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เลยตอบกลับไปแบบกว้างๆ หลีกเลี่ยงการโดนยอกย้อน
“แฮ้งค์ใช่ไหมคะ” นานิถามแล้วสำรวจใบหน้าของไนท์ที่กำลังจ้องไปถนนตรงหน้า
ใบหน้าหล่อเหลาดูเพลียๆ แต่โดยรวมก็หล่อเหมือนเดิม หอมด้วย เขาต้องพึ่งอาบน้ำมาแน่ หอมฟุ้งเชียว
“แฮ้งนิดหน่อย เราล่ะ หายดียัง” รีบถามเรื่องเธอก่อนที่จะโดนซักเรื่องตัวเอง
“หายดีแล้วค่ะ ต้องยกความดีความชอบครั้งนี้ให้พี่เลยที่ส่งข้อความมาเตือนเราทุกวัน ขอบคุณนะคะ”
“อืม มันไม่ได้ลำบากอะไร”
“ตอนนี้เราหายแล้ว พี่จะส่งข้อความมาอีกไหม”
“อยากให้ส่งไหมล่ะ”
“อยากค่ะ” เกรงใจมันก็เกรงใจ แต่ในเมื่อเขาบอกว่าไม่ลำบาก เธอก็อยากได้รับข้อความสามเวลาจากเขาต่อไป
“อืม ถ้าอยาก ก็จะทำเหมือนเดิม”
“ขอบคุณนะคะ”
“ครับ” ตอบรับเสียงนุ่มในขณะที่สายตาจดท้องบนท้องถนน ชั่วอึดใจก็ถามในสิ่งที่สงสัยที่พึ่งนึกขึ้นได้
“เมื่อกี้โดนพี่ชายสอบสวนเหรอ”
“รู้ได้ไงคะ” นานิมองไนท์ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“เห็นพี่เรามองมาที่รถหลายครั้ง” จะเรียกว่าเซ้นต์ก็ได้ แม้จะอยู่ในระยะที่ไกลพอสมควร แต่ก็รู้สึกเย็นสันหลังวาบทุกครั้งที่ยูสึเกะมองมา
“ค่ะ โดนพี่ยูสอบสวนนิดหน่อย”
“พี่เราสอบสวนอะไรบ้าง”
“เรียกว่าเตือนมากกว่าค่ะ….พี่ยูจำรถพี่ได้ด้วย”
เรื่องรถไนท์ไม่ค่อยแปลกใจ เนื่องจากยูสึเกะเคยเรียนที่คณะมนุษยศาสตร์ แล้วก็พึ่งจบไปได้ไม่นาน เจอกันผ่านๆ ตลอดสองปีจำได้ว่านี้คือรถเขาก็คงไม่แปลก อีกอย่างรุ่นนี้มีแค่เขากับเดย์ที่ขับ แค่คนละสี
“พี่เราเตือนว่าไง” เอ่ยถามเสียงราบเรียบเหมือนไม่อยากรู้ แต่ความจริงเขาอยากรู้มาก
“พี่ยูบอกว่าพี่ขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิง ระวังไว้” ระหว่างพูดก็คอยสังเกตว่าไนท์จะมีรีแอคชั่นอย่างไร
จึงได้เห็นเรียวปากบางกระตุกยิ้มเล็กมุมปาก ในขณะที่สายตาคมจ้องมองท้องถนนข้างหน้า
เขาดูร้ายกาจ ใต้ใบหน้าทำเย็นชา นิ่งขรึมมันซ่อนความร้ายกาจเอาไว้
“แล้วเราเชื่อไหม”
“เชื่อสิคะ”
“ถามจริง? ” เขาหันมาถามนานิด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนข้างหน้าต่อ เพราะขณะนี้รถยังแล่นอยู่ในความเร็วประมาน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
“ตอบจริงค่ะ”
“ขอเหตุผล”
“ข่าวลือในเพจหนุ่มฮอตของมหาลัยพูดถึงกลุ่มพวกพี่ออกจะบ่อย คนเขาก็เม้าท์กันปากต่อปากว่าพวกพี่เปลี่ยนผู้หญิงบ่อย ถ้าไม่มีมูลก็คงไม่มีข่าวลือ จริงไหมคะ”
“ก็ปกติของผู้ชายโสด” ไนท์ตอบเสียงเรียบ ไม่ได้ตกใจหรือคิดแก้ตัวกับสิ่งที่นานิบอก
“ตอบแบบนี้แสดงว่ายอมรับ พี่เจ้าชู้ป่ะเนี่ย เราไม่อยากดามใจพี่ แล้วอกเราหักแทนนะ” นานิโอดครวญในตอนท้าย
“เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยเขาไม่ได้เรียกเจ้าชู้ คนเจ้าชู้คือคนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังไปยุ่งกับคนอื่น พี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น”
“แล้วปกติพี่คุยกับผู้หญิงพร้อมกันหลายคนไหม”
“ไม่เคยคุย นอนอย่างเดียว เสร็จก็แยกย้าย”
“ก่อนนอนไม่มีคุยกันบ้างเหรอคะ” โพร่งกลับด้วยความอยากรู้และสงสัย
“ไม่จำเป็น” ไม่ได้เป็นคนช่างพูด ดีลได้ก็จบที่เตียง น้ำแตกก็แยกย้าย
“….” ร้าย! ร้ายกาจมาก!
ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายนิ่งๆ คนนี้ร้ายกาจกว่าที่เธอคิด ช่ำชองเรื่องผู้หญิงใช่ย่อย แถมเขายังพูดเรื่องแบบนี้ออกมาด้วยสีหน้านิ่งเฉยเหมือนกำลังพูดคุยกันเรื่องทั่วไป ต่างจากคนฟังอย่างเธอที่ตอนนี้แก้มเห่อร้อนไปหมด
คนพูดไม่อาย แต่คนฟังดันอายซะงั้น
“แต่ถ้าพี่มีคนรักแล้ว ก็ไม่เคยคิดนอกกายและนอกใจ” ทุ้มให้สุดใจ เหมือนที่ทำกับไอญดาไง
ทุ้มสุดใจ เจ็บสุดใจเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่เธอที่กลัว เขาเองก็กลัวเหมือนกัน กลัวชอบเธอขึ้นมาจริงๆ แล้วเธอก็ทิ้งกัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ หัวใจของเขาคงปิดตาย ไม่กล้าเปิดใจรักใครอีก
“เราจะเชื่อพี่ได้ไหม? ”
เพราะรถติดไฟแดงไนท์เลยได้โอกาสหันมาสบตาคนถามก่อนตอบ
“อยากรู้ ก็ต้องพิสูจน์เอง”
เดินมาถึงหน้าตึกก็ต้องตกใจเมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไอญดา เดย์ ชิน เรนจิ เอิงเอย คิม และลูกพีช อยู่กันครบขนาดนี้คงเตี๊ยมกันมาแล้ว“โว้ มีเดินมาส่งด้วย” “ให้เกียร์ให้ใจ”“อุ๊ย! สร้อยข้อมือสวย”“ประกาศตัวผ่านโซเซียลฉ่ำ”“รูปคู่ก็มา”“เปลี่ยนรูปโปรไฟล์คู่”“My night”ชินเป็นคนแรกที่เปิดแซว จากนั้นคนอื่นก็แซวตามๆ กันมา ไนท์โคลงหัวอมยิ้มขำ มันก็เขินนิดๆ ที่เพื่อนแซว ต่างจากนานิที่โดนแซวจนเขินไม่ไหวหนีมาหลบข้างหลังไนท์ทุกคนลุ้นคู่ไนท์กับนานิมาพักใหญ่แล้ว ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองจะเปิดตัวสักที แล้วในวันนี้ก็มาถึงเลยขอแซวหน่อย อีกอย่างไนท์สร้างซีนไว้เสียใหญ่โตเมื่อวาน“เมื่อวาน เล่นไว้ซะใหญ่เลยนะมึง” เหตุการณ์เมื่อวานเป็นที่กล่าวถึงกันมากในโซเซียล มีทั้งรูปและวิดีโอของไนท์กับนานิและก็มิลล์ เพจดังของมหาลัยก็เอาไปใส่สีตีไข่ว่าเกิดศึกแย่งหญิงระหว่างหนุ่มฮอตวิศวะกับหนุ่มตีว่าที่คุณหมอ มีคนมาคอมเมนต์มากมาย บ้างก็บอกว่ากินกันไม่ลงเพราะหล่อกันคนละแบบ จนเกิด #ทีมหมอมิลล์ #ทีมไนท์ แต่หลังจากที่ไนท์กับนานิแชร์สถานะใหม่บนโซเซียล พร้อมกับเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ที่เป็นรูปคู่ของทั้งสองพร้อมกันและเป็นรูป
กริ๊งๆ เสียงนาฬิกาปลุกยามเช้าตรู่ นานิคว้าโทรศัพท์มาปิดนาฬิกาปลุก ในช่วงที่เธอขยับตัวไปเอื้อมโทรศัพท์ก็ทำให้ร่างหนาที่กอดรัดอยู่ด้านหลังขยับตัวตื่นตามไนท์ส่งเสียงอู้อี้ในคออย่างขัดใจนิดหน่อย เนื่องจากเขายังอยากนอนกอดร่างนุ่มนิ่มนี้ต่อ ปกติเขาไม่ใช่คนขี้เซาหรือตื่นสาย แต่ไม่รู้ทำไมตั้งแต่มีนานิมานอนด้วยเขาก็ไม่อยากลุกจากที่นอนเลย บวกกับไม่ได้กอดเธอตั้งหลายคืนแล้ว วันนี้เขาเลยไม่อยากลุกจากที่นอนเลย“ตื่นได้แล้วค่ะ วันนี้เรามีเรียนเช้ากันนะ”“อืม” ไนท์ตอบกลับเสียงอืมเบาๆ ในลำคอ แล้วซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอด้านหลังนานิ จมูกโด่งกดหอมไปทั่วจนถึงลาดไหล่ กดริมฝีปากขบเม้มตามผิวเนื้อเนียนในขณะที่ตาสองข้างยังปิดสนิทอยู่“พี่ ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวไปเรียนสาย” นานิย่นคอหนีจมูกปากและลิ้นที่เริ่มไล้เลียไปยังใบหู เมื่อคืนหลังจากให้เกียร์ให้ใจไนท์ก็ให้ตัวเขามาแบบรัวๆ จนเธอแทบจะสลบเหมือดคาเตียง ตื่นเช้ามายังหื่นใส่อีก“พอแล้วค่ะ” เอ่ยเตือนอีกครั้งเพราะเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่มันเริ่มขยายตัวถูไถอยู่ตรงก้นของเธอ ไนท์เป็นคนเครื่องติดง่ายเธอรู้ดี ถ้าห้ามได้ให้รีบห้ามไม่งั้นยาว ปกติเธอก็ไม่ใช่คนเล่นตัวอะไรแต่ตอ
“ยกเลิกตั้งนานแล้วทำไมยังเก็บเอกสารไว้อีกล่ะคะ”“ลืม ลืมจริงๆ เพราะพอยกเลิกก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอีก”“โห แบบนี้เราก็ร้องไห้ฟรีสิ” เสียน้ำตาไปเป็นปี๊บ แต่จะว่าร้องไห้ฟรีก็ไม่ใช่เพราะพอเกิดเรื่องนี้เธอกับเขาเลยได้เคลียร์ใจกันเหมือนตอนนั้น ไม่งั้นไม่รู้ว่าเธอจะได้มีโอกาสคุยกันตรงไปตรงมาแบบนี้ไหม“แล้วเราไปรู้ได้ยังไง รู้ตอนไหน” เมื่อกี้ถามไปแล้วแต่ยังไม่ได้คำตอบ“ตอนที่เราหาเอกสารที่ฝากพี่ปรินต์ไง เราหาบนโต๊ะไม่เจอเลยลองค้นในลิ้นชักที่โต๊ะทำงานดู”“งั้นก็วันเดียวกับที่เดย์เจอ” “พี่เดย์ก็พึ่งรู้เหรอคะ?”“อืม เรื่องเรียนตอนพี่ไม่ได้บอกใครเลย พ่อกับแม่ก็ไม่ได้บอก”“โห ใจร้าย ไม่คิดบ้างเหรอคะว่าคนรอบข้างจะเสียใจตอนรู้ว่าพี่จะไปเรียนต่อ”“คิดสิ แต่ไม่คิดว่าทุกคนจะเสียใจขนาดนี้” เพราะเขาแค่จะไปเรียน เรียนจบก็กลับมาแล้ว ไม่ได้ไปแล้วไปลับเสียหน่อย“ที่พี่ตัดสินใจไปเรียนต่อเพราะไอใช่ไหม”“อืม มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ตอนนั้นคิดแค่ว่าคงอยู่เห็นเดย์กับไอรักกันไม่ได้ เลยอยากหนีไปไกลๆ “ “พี่คงรักไอมาก” “เคย..แค่เคยรัก” ตอนนี้แค่เคยรักเท่านั้นและไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นต่อไอญดาอีกต่อไป ไม่มีเลย เพราะ
ไนท์พานานิขึ้นมาคุยต่อบนห้องเนื่องจากมีอีกหลายเรื่องเลยที่เขาอยากอธิบาย“คุยกันบนเตียงได้ไหม อยากนอนกอดเรา คิดถึง” พอบอกไปแบบนั้นนานิก็มองด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ “แค่นอนคุยกันจริงๆ “ พอไนท์ยืนยันแบบนั้นนานิก็ยอมนอนลงในอ้อมแขนแกร่งแล้วหนุนศีรษะไว้ที่อกแข็งๆ ของไนท์ไนท์กดจมูกบนเรือนผมยาวสลวยสูดดมกลิ่นแชมพู กลิ่นครีมอาบน้ำ กลิ่นน้ำหอมกลิ่นคาราเมล เขาโคตรคิดถึงเธอเลย ตอนนี้เหมือนหัวใจเขากลับมาเต้นอีกครั้ง เขาเหมือนต้นไม้ที่ใกล้ตาย ใบแห้งเหี่ยวเฉ่า ทว่าอยู่ๆ ก็มีคนมารดน้ำช่วยชีวิตมันไว้“คิดถึง” ตั้งแต่วันที่เธอขอยุติความสัมพันธ์ เขาก็นอนไม่หลับ อาลัยอาวรณ์ถึงแต่เธอ ร่างนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมละมุนที่คุ้นจมูกที่ได้สูดดมแล้วรู้สึกสบายใจ เธอเป็นเซฟโซนของเขา “เราก็คิดถึงพี่” นานิว่าแล้วกระชับเรียวแขนที่กอดรัดร่างหนาเอาไว้“แล้วรักพี่ไหมครับ?”“รักค่ะ” นานิตอบเสียงเบาและก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปสบตาไนท์ตอนพูด ก่อนหน้านี้เธอตะโกนคำว่ารักใส่เขาด้วยความโกรธแต่พอตอนนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้นอีกแล้ว แล้วเขาก็มาถามกันตรงๆ มันก็เกิดขัดเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไนท์ยกยิ้มบางทอดสายตามองคนตัวเล็กในอ้อมกอดด้วยความร
ไนท์ขับมอเตอร์ไซค์พานานิกลับและเพื่อความปลอดภัยของผู้หญิงที่เขารัก ไนท์ก็เสียสละหมวกกันน็อกให้นานิ ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงสะอื้นดังขึ้นครั้งคราวจากข้างหลัง บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้ จะหยุดรถกลางรถปลอบก็ไม่ได้ จะขับเร็วขึ้นก็ห่วงความปลอดภัยของเธอ ตลอดทางไนท์ขับมอเตอร์ไซค์ด้วยความวุ่นวายใจ โชคดีที่คอนโดตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ และในที่สุดเขาก็พาเธอมาก็ถึงจุดหมายพอมอเตอร์ไซค์หยุดนิ่งนานิก็รีบลงทันที เธอซ้อนคันนี้มาหลายครั้งแล้วเลยรู้วิธีลงอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็ปลดล็อกถอดหมวกกันน็อกยื่นคืนให้ไนท์แล้วทำท่าจะไป เห็นแบบนั้นไนท์ก็รีบคว้าตัวนานิไว้แล้วใช้อ้อมแขนแกร่งกอดรัดเธอไว้ในอ้อมกอด “จะไปไหน ไม่ให้ไป”ตุ้บ!กำปั้นเล็กทุบเข้าที่หน้าอกแกร่งในขณะที่สองแก้มยังอาบไปด้วยน้ำตา เธอร้องไห้ด้วยดวงตาแดงก่ำ ใต้ตาบวมแป่ง ใบหน้าเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำตา ร้องไห้จนหยุดสะอื้นไม่ได้ตุ้บๆๆๆ!!เสียงทุบจากกำปั้นเล็กดังต่อเนื่อง ซึ่งไนท์ก็นิ่งให้คนในอ้อมกอดระบายจนพอใจ เขาไม่แน่ใจว่าเธอโกรธเรื่องอะไร แต่รู้ว่าโกรธมากเพราะกำปั้นน้อยทั้งสองข้างทุบมาอย่างไม่ออมแรง“อย่ามาทำเหมือนรัก ถ้าไม่คิดจะรั
แววตาเจ็บปวดแสนเศร้าของนานิเมื่อครู่นี้ทำให้ไนท์สับสนบวกกับคำพูดหลายอย่างทีคุยกับเพื่อนเมื่อเช้าด้วย ‘อย่ามาทำเป็นพระรองแสนดีอีก มึงก็รู้ว่าเป็นพระรองมันเจ็บ เป็นพระเอกกับเขาบ้างสิวะ’‘เขาเป็นของมึงท่องไว้ ถ้ามันอยากได้ก็สู้กันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย’ถ้าเราหัวใจตรงกันแล้วทำไมเขาต้องยอมเสียเธอไปให้คนอื่นด้วยวะ รักแรกแล้วไง ใครกลัว รอบนี้เขาจะสู้ให้ตายกันไปข้างหนึ่ง ถ้าเรื่องนี้เธอเป็นนางเอกเขาก็จะเป็นพระเอกไนท์วนรถกลับเข้ามาอีกครั้งทั้งที่ขับออกไปเกือบถึงทางออกหน้ามหาลัยแล้ว แต่พอขับเข้ามาก็เห็นนานิกำลังขึ้นรถเบนซ์คันสีดำที่เขารู้ดีว่ามันคือรถของใครมึงอีกแล้วเหรอ?ไนท์ดับเครื่องมอเตอร์ไซค์ถอดหมวกกันน็อกออกด้วยความรีบร้อน ในใจเดือดปุดๆ ที่เห็นมิลล์มารับนานิ ก้าวตรงไปที่รถของมิลล์แล้วพอเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วเห็นมิลล์โน้มตัวมาหานานิ ท่าทางเหมือนทั้งสองกำลังจูบกัน วินาทีนั้นความโกรธก็พุ่งปรี๊ด ไนท์โกรธเลือดขึ้นหน้ากระชากประตูฝั่งข้างคนขับออกด้วยความโมโห“ทำบ้าอะไรกัน” กระชากประตูเปิดออกก็ลากร่างบางออกมาแล้วตะโกนถามโดยไม่สนนักศึกษาหลายคนที่อยู่แถวนั้นทุกคนต่างพากันมาเมียงมองอย่างให้ความสน







