วันเสาร์ เวลา 16.45
Night : อย่าลืมกินข้าวเย็น
Night : แล้วขอโทษที่เมื่อคืนเผลอหลับใส่โทรศัพท์
Nani : ไม่เป็นไรเลยค่ะ เราชอบฟังเสียงพี่กรน
Night : 555+ ไม่จริง
Nani : จริง! ฟังได้ทั้งคืน
Night : เสียงกรนมันไม่น่าพิสวาทเท่าไหร่ ฟังเสียงอย่างอื่นดีกว่าไหม
แค่กๆ แค่กๆ
นานิถึงกลับสำลักลมหายใจตัวเอง เธอไม่คิดว่าคนหน้านิ่งอย่างไนท์จะปล่อยมัดฮุกเธอแบบนี้ ไอ้คำว่า ‘พิสวาท’ ทำให้คิดในทางดีไม่ได้เลยและตีความความหมายเสียงที่เขาว่าอย่างเดียวคือ เสียงคราง!
อร๊ายยย!!!
แทบกรี๊ดลั่นบ้าน แก้มกึ้มร้อนไปหมด ตั้งใจหยอดเขาแท้ แต่โดนเขาหยอดกลับแรงยิ่งกว่าร้อยเท่า
ใครจะไปรู้ว่าอย่างไนท์จะยิงมุกเสียวกลับ
Night : ไหวป่ะ
Nani : หึ ไม่ไหว
Nani : เราเปลี่ยนเรื่องกันเถอะนะคะ
Night : หึหึ
Night : 5 โมงแล้ว อย่าลืมทานข้าวเย็นล่ะ
Nani : ทานข้าวด้วยกันไหมคะ
Night : เมื่อไหร่?
Nani : เย็นนี้ไงคะ
Night : กลับบ้านไม่ใช่เหรอ
Nani : มารับเราได้ไหม
มันดูเหมือนจะมากเกินไป แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ปฏิเสธตั้งแต่แรก ก็อยากลองชวนดู ถ้าไนท์ไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขามาแสดงว่าเขาก็รู้สึกอะไรๆ กับเธอเหมือนกัน
Night : ส่งโลมาให้หน่อยครับ เดี๋ยวจะออกไปเลย หิวข้าว
Nani : ได้ค่ะ
หลังจากส่งโลเคชั่นที่บ้านให้ไนท์ ก็รีบวิ่งเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว
นานิยืนเลือกชุดอยู่นาน เพราะไม่รู้จะแต่งตัวแบบไหน จะจัดเต็มก็อาจจะดูเว่อวังไป จะแต่งเบาๆ ก็กลัวดูธรรมดาเกินไป
ทานข้าวที่ไหนไม่รู้แต่เธอแค่อยากสวยให้ใครบางคนมองก็แค่นั้น
ถอดเข้าถอดออกอยู่นาน จนได้รับข้อความจากไนท์ว่าเขาผ่านบ้านไอญดามาแล้ว หมายความว่าอีกประมาณ 15 นาทีคงถึงบ้านเธอ จึงตัดสินใจเลือกชุดเซ็ทกระโปรงกับเสื้อครอปแขนตุ๊กตาสีขาวลายดอกเดซี่น่ารักๆ
ผมลอนยาวสีน้ำตาลที่มาจากการทำสี ถูกรวบมัดครึ่งหัวก่อนผูกทับด้วยโบว์สีขาว หมุนซ้ายหมุนขวาเช็คความเรียบร้อย ก่อนจะยิ้มตาหยี่ให้ตัวเองในกระจก
เสื้อผ้าหน้าผมไม่พอ เครื่องประดับก็มาเต็ม ทั้งสร้อยแขน สร้อย คอ ต่างหู กระทั่งแหวน
“ว่าจะแต่งไม่เยอะแล้วนะ แต่ก็เยอะอยู่นะ”
แต่รวมๆ ก็พอใจกับลุคน่ารัก หวานๆ ที่ได้ จัดการตัวเองเสร็จก็รีบเก็บกระเป๋า กึ่งวิ่งกึ่งเดินไปลาพ่อกับแม่ก่อนเดินลงชั้นล่าง
“อ้าว พี่ยู ตื่นแล้วเหรอคะ” ทักทายคนที่นั่งหน้ายุ่งหัวยุ่งอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่นในขณะเดินลงบันได
สภาพนี้เมื่อคืนดื่มหนักชัวร์
“พระอาทิตย์จะตกดินอยู่แล้ว ยังมาถามตื่นแล้วเหรอ”
“ก็เมื่อตอนบ่ายหนูเข้าไปหายังไม่เห็นตื่นหนิ นึกว่าจะหลับถึงพรุ่งนี้เช้าเลย”
“กวนละ ใครมันจะหลับข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น แล้ววันหลังอย่าเข้าห้องพี่ ถ้าพี่ไม่ได้นอนคนเดียว”
“จะเอาสาวมานอนเหรอคะ”
“เล่นไม่เลิกนะเรา หมายถึงไอ้มิลล์ เมื่อคืนมันก็นอนในห้อง มีแต่ผู้ชายจะเข้าไปทำไม”
“หนูเข้าไปหลังจากส่งพี่มิลล์กลับแล้วต่างหาก”
“มันกลับตอนไหน”
“หลังมื้อเช้าค่ะ”
“อย่างอึด นั่งดื่มถึงตี 3 มันตื่นไงไหววะ”
“ว่าที่คุณหมอ ร่างกายเกิดมาเพื่อทำงานไม่เป็นเวลา”
“เออ ก็คงจริง” ยูสึเกะพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะกวาดตาสำรวจน้องสาวตัวเล็ก “แล้วแต่งองทรงเครื่องจะไปไหนฮะเรา”
“ไปกินข้าวกับเพื่อนค่ะ หนูกลับคอนโดคืนนี้เลยนะ บอกแม่กับโอโต้ซังแล้ว”
ติ้ง!
“ไปนะคะ เพื่อนมาถึงแล้ว” ว่าเสร็จก็ลุกเดินออกไปทันที ไม่อยากให้คนมารับรอนาน
อยากเจอเขาแล้ว^^
“เดี๋ยว” ทว่าเดินออกมาถึงหน้าบ้านก็โดนเบรกเอาไว้เสียก่อน
“อะไรคะ? หนูรีบ” นานิหันไปทำหน้างอใส่พี่ชายที่เดินตามเธอออกมาหน้าบ้าน
“Maserati MC20 สีดำด้าน” ยูสึเกะพึมพายี่ห้อรถคันหรูที่จอดอยู่หลังประตูรั่ว คิ้วขมวดอย่างคุ้นคิด แล้วหันมามองน้องสาว “ไอ้ไนท์อีกแล้วเหรอ?”
“ทำไมถึงใช้คำว่าอีกแล้วคะ”
“คืนนั้นที่พี่ไปรับ ก็คอนโดมันไม่ใช่เหรอ”
“พี่ยูรู้เหรอว่าพี่ไนท์อยู่คอนโดนนั้นหรือส่งคนตามหนู” นานิตาโตถามกลับ คืนนั้นเธอไม่บอกยูสึกเกะว่าไปส่งไนท์ แค่บอกว่ามาส่งเพื่อน ตอบกว้างๆ ให้พี่ชายเดาเอาเองเพราะคิดว่าพี่ชายคงเดาคนใกล้ตัว ที่ไหนได้เขารู้ตั้งแต่คืนนั้นแล้วแต่แค่ไม่พูดอะไรออกมาแค่นั้น
แงง.. กลายเป็นเด็กขี้โกหกแล้วโดนจับได้เลย
“ไม่ใช่ ไอ้ไบร์ทมันเห็นเราออกมากับมันต่างหาก”
“อ่อ ลุงรหัสไอ” หูตาเร็วกันจริงๆ “ก็คนรู้จัก เขาเมามาก หนูเลยไปส่ง ไม่มีอะไรเลย ส่งเสร็จก็ให้พี่ยูไปรับหนูไง”
“แล้วสนิทกันขั้นไหนถึงให้มารับที่บ้าน?”
“..” นานิตอบกลับด้วยการฉีกยิ้มแห้ง เนื่องจากเธอไม่สามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับไนท์ให้พี่ชายได้ในตอนนี้
เพราะเธอเองก็ไม่รู้เธอกับเขาเป็นอะไรกัน มาถึงจุดนี้ได้ยังไง
“ไม่ต้องมายิ้มแฮร่ๆ แล้วอย่าบอกว่าไม่มีอะไรด้วย เรากับมันดูสนิทกันเกินแค่น้องชายของแฟนเพื่อนนะ”
แงง ดักทุกทางเลย “เอาเป็นว่าหนูกับเขาอะไรๆ กันนิดหน่อย”
“อะไรๆ กัน อะไรวะ” ยูสึเกะเท้าสะเอวถามกลับหน้ายุ่ง
“ตอนนี้ยังอธิบายไม่ถูก ไว้วันหลังได้ไหมคะ”
“..” ยูสึเกะไม่ตอบ แต่มองด้วยสายตาที่ไม่ยอมทำตามที่น้องสาวขอร้อง
“นะๆ โอนิจัง” นานิรู้ว่าวิธีนี้จะช่วยเธอได้ มีพี่ชายคนไหนบ้างไม่แพ้บ้างเวลาโดนน้องสาวอ้อน
ซึ่งมันได้ผลตามขาด เสียงถอนหายใจยาวพรืดอย่างจำใจ ยอมแพ้เมื่อโดนลูกอ้อนของน้องสาวตัวเล็ก ไอ้ตากลมโตๆ ทำใจอ่อนทุกที แต่ก็ไม่ลืมเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วงและกังวล
“รู้ใช่ไหม ว่ามันขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิง ไม่แน่ใจ อย่าปล่อยตัว” ไม่ได้ปรักปรำใครถ้าไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้ยินมาก็ส่วนหนึ่ง แต่เคยเห็นมาแล้วว่ากลุ่มไนท์มันไม่ธรรมดา
“รับทราบค่ะ” นานิทำท่ารับทราบด้วยรอยยิ้มกว้าง ดีใจที่พี่ชายยอมรับการสินใจของเธอ
“อย่าทำเป็นเล่น พี่ซีเรียสนะนานิ”
“หนูไม่ได้เล่น รับปากจริงๆ ”
“ดูแลตัวเองด้วย”
“ค่า สัญญา รักโอนิจังนะค่า” โผล่เข้ากอดพี่ชายและบอกรัก เอาหัวถูไถหน้าอกกว้างอย่างอ้อนๆ ยูสึเกะก็ยกมือขึ้นมาลูบหัวน้องสาวตัวเล็กด้วยความเอ็นดู
“นานิ จำไว้ว่าบนโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนรักเราเท่ากับพี่และโอโต้ซัง”
“รู้ค่ะ แต่หนูอาจจะกำลังเจอคนที่รักหนูมากที่สุดคนที่สามก็ได้นะคะ”
“ยิ่งเราพูดแบบนี้พี่ยิ่งเป็นห่วง ..อย่าหลงมันมาก”
“เขาอาจจะหลงหนูมากกว่าก็ได้” น้ำเสียงสดใสพูดออกมาอย่างทีเล่นทีจริง แต่เล่นเอาคนฟัง หนักใจยิ่งกว่าเดิม “หนูเข้าใจแล้ว สัญญาว่าจะดูแลตัวเอง อย่ากังวลไปเลยนะคะ”
“จะพยายาม” ไม่ให้กังวลคงไม่ได้ มีน้องสาวอยู่คนเดียว นานิเป็นที่รักของบ้าน ถูกเลี้ยงมาอย่างถนุถนอม แล้วอยู่ๆ มีผู้ชายร้ายกาจอย่างไนท์เข้ามาพัวพันไม่ให้พี่ชายอย่างเขากังวลก็บ้าแล้ว
“ไปนะคะ พี่ไนท์รอนานแล้ว”
“ถึงห้องแล้วบอกด้วย”
“ค่า”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองสินะ! เพราะความเป็นเพื่อนกันมานานยูสึเกะคงไม่อยากให้เพื่อนกับน้องสาวสานสัมพันธ์กันในเชิงคู่รักเพราะถ้านานิกับมิลล์ไปกันไม่รอดอาจจะเสียความเป็นเพื่อนกันได้ ตอนนี้ไนท์เข้าใจแล้วว่าทำไมมิลล์ถึงไม่เข้าหานานิมากกว่านี้ทั้งที่มีโอกาส หลังจากประโยคฮุคของยูสึเกะ ไนท์ก็ตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง ไม่รับรู้แม้กระทั่งยูสึเกะเดินออกไป ในหัวตอนนี้มีแต่ความหวาดหวั่น หวั่นกลัวและสับสนพุ่งเข้าใส่จนสมองมันมึนงงคล้ายหูอื้อตาลายไปชั่วขณะ“พี่” เสียงเรียกของนานิทำให้ไนท์ตื่นจากพวัง “เป็นอะไรคะ เราเรียกตั้งหลายครั้ง”ไนท์ไม่ตอบแต่ตวัดแขนแกร่งคว้าร่างบางเข้ามากอด ใบหน้าคมลดลงวางไว้กับบ่าเล็กแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นเหมือนกลัวคนในอ้อมกอดหายไป“คุยอะไรกับพี่ยูคะ บอกเราได้ไหม” ความเงียบและอาการของไนท์ทำให้นานิอยากรู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกัน “เราคิดยังไงกับไอ้มิลล์” เสียงทุ้มเอ่ยถามแผ่วเบา“คะ?”“ชอบมันไหม คิดกับมันเกินเพื่อนพี่ชายรึเปล่า?”“ไม่ค่ะ เราคิดกับพี่มิลล์แค่พี่ชาย” อดีตเคยคิดเกินเพื่อนพี่ชาย แต่ปัจจุบันไม่แล้ว แต่นานิคิดว่าไนท์ไม่จำเป็นต้องรู้ความรู้สึกของเธอไหนอดีตเพราะมันก็แค่อดีต
เช้าวันต่อมาเพราะคอแห้งผากจนนอนต่อไปไม่ไหวเลยต้องฝืนตัวลุกจากเตียงอุ่นและร่างนุ่มนิ่มเดินออกห้องนอนไปยังห้องครัวเพื่อหาน้ำเย็นๆ ดื่มไนท์เดินเมาขี้หูขี้ตา ยกมือเสยผมที่ร่วงปรกหน้าปกตาแล้วเลื่อนไปทุบที่หัวที่ตอนนี้มันปวดตุบๆ จากอาการแฮ้งเหล้าไม่น่าแดกเยอะเลยกู วันนี้คงต้องชดใช้กรรมด้วยอาการปวดหัวทั้งวัน..แกร็ก~เปิดประตูห้องมาเท้าหนาก็ชะงักเมื่อเจอกับคนบางคนที่ไม่คิดว่าเจอที่นี่มันมาทำอะไรที่นี่?อีกหนึ่งหนุ่มที่มีสีหน้ายับยู่ยี่ด้วยอาการแฮ้งค์จากการดื่มจนน็อกเมื่อคืนกำลังยกขวกน้ำดื่มก็ชะงักเหมือนกันเมื่อเห็นไนท์ไนท์เดินกระแทกไหล่มิลล์ที่ยืนหน้าตู้เย็นเปิดประตูหยิบน้ำออกมาหนึ่งขวด ก่อนปิดประตูตู้เย็นด้วยเสียงดังปัง“มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง” กรอกน้ำเข้าปากไปเกือบครึ่งขวด ลำคอที่แห้งผากก็รู้สึกดี เลยทำให้ไนท์มีเสียงเอ่ยทักมิลล์“แล้วมึงล่ะมาทำอะไร”“กูก็มาหาเจ้าของห้อง”“กู..เจ้าของห้องพามา” มิลล์ตอบกลับอย่างยียวน“มึงอย่ามากวนตีน”“กูไม่ได้กวนตีน เจ้าของห้องพากูมาจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งที่กูมา” เขาเห็นไนท์แวบๆ กับน้องสาวของเพื่อนสนิทหลายครั้งแล้ว แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าได้เจอที่นี่ เด
“เรียกพี่ไนท์ 2 นาทีได้ไหมน้า”“ล้อเหรอ เดี๋ยวโดน “ลงโทษคนล้อเลียนด้วยการซุกใบหน้าหล่อเหลาไปฟัดกับหน้าอกอวบ จนเจ้าของเต้างามเปิดปากหัวเราะเพราะความ,จั๊กจี้ใครว่าเมาแล้วเสร็จยาก เขาเสร็จเร็วฉิบหาย จับยัดแป๊บๆ แตกเฉย สัสเอ๊ย!“ฮ่าๆ พี่พอแล้ว เราจั๊กจี้”“รอบที่สองก็แก้ตัวแล้วไง จำแต่รอบที่ดีก็พอ”“^^”“กล่อมหน่อยครับ ง่วงแล้ว”กว่าจะง่วง จัดไปตั้งสองรอบ รอบแรกกินเวลาน้อยนิดแต่รอบสองยืดเยื้อเกินครึ่งชั่วโมงได้ เวลาปาไปกี่โมงแล้วไม่รู้ น่าจะดึกมากแล้ว เธอเองก็หนังตาหนักอึ้ง ฝืนลืมตาต่อไปไม่ไหวแล้วเหมือนกันเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ไนท์หลับภายในเวลาไม่กี่นาที“ง่วงขนาดนี้ ยังฝืนตัวเองทำจนได้ คนหื่น “เรียวปากบ่นเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม มือก็ยังลูบไล้กล่อมคนตัวโต แม้เขาจะหลับไปแล้ว เธอทำมันโดยไม่รู้ตัว มันเป็นความเคยชินที่เธอกล่อมไนท์หลับแบบนี้ทุกคืนครืดๆ ~กำลังจะเข้าสู่นิทราเสียงสั่นจากโทรศัพท์ก็ดังรบกวนเสียก่อน เวลานอนนานิมักจะใส่โหมดพระจันทร์ห้ามรบกวนเอาไว้ ถ้าใครมีเรื่องด่วนจริงๆ ก็ต้องโทรหามากกว่าหนึ่งครั้งถึงมีสายเข้าเหมือนเวลาปกติซึ่งสายเรียกเข้าตอนนี้ คนปลายสายคงมีเรื่องด่วน“พี่ยู” เ
ห้องนานิถึงห้องนานิก็ไล่คนเมาไปอาบน้ำทันที ด้วยความที่ไนท์เป็นคนรักสะอาดอยู่แล้ว แม้จะเมาแค่ไหนก็ฝืนกายไปอาบน้ำให้ได้“น้องนานิคร้าบ อาบน้ำให้พี่หน่อยครับ” เสียงยานคางตะโกนจากในห้องน้ำอย่างออดอ้อน“โตแล้ว อาบเองสิคะ” เมาแล้วอ้อนจัง อ้อนที่สุด เรียก ‘น้องนานิ’ ปิดท้ายด้วย’ ครับ’ เสียงหวาน แต่เธอไม่หลงกลหรอก“พี่เมา หัวฟาดพื้นทำไง”“พี่อาบเองได้ เรารู้ รีบอาบเลยค่ะ ไม่งั้นเราจะให้พี่นอนที่โซฟา” ดื้อจังนานิขยับตัวไปยืนใกล้ประตูห้องน้ำที่เปิดอ้าเอาไว้ด้วยฝีมือคนในห้องน้ำที่นึกอยากอาบน้ำโชว์ ที่เธอต้องยืนอยู่ตรงนี้เพราะเผื่อคนเมาลื่นล้มหัวฟาดตอนอาบน้ำขึ้นมาจริงๆ จะได้ยินและเข้าไปช่วยได้เร็วที่สุดแต่คิดว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรอก ตอนเดินขึ้นห้องไนท์ก็ดูสร่างเมามาบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังคะยั้นคะยอขอให้เธอเข้าไปช่วยอาบน้ำ คิดเหรอว่าเธอจะตกหลุมพราง ขืนเข้าไปต้องโดนเขาจับกินแน่เสียงน้ำปิดลง นานิเลยขยับไปนั่งรอที่เตียงนอนแทน ได้ยินเสียงกุกกักที่อ่างล้างหน้าหลายนาทีก่อนร่างสูงใหญ่จะเดินออกห้องน้ำมาด้วยสภาพผ้าขนหนูพันเอว หัวเปียกหมาด หยดน้ำเกาะตามหน้าอกแกร่งและซิกแพ็กลีนๆเซ็กซี่จัง!แค่มองหน
00.30 น.เวลานี้คนไม่ได้มีนัดฉลองหลังสอบที่ไหนก็ควรเข้านอนได้แล้ว ไม่ใช่กำลังถอยรถเข้าจอดในลานจอดรถย่านสถานบันเทิงแถวมหาลัยอย่างตอนนี้มันไม่ได้เป็นแผนปุ๊บปั๊บเนื่องจากคนเมาเกริ่นๆ เอาไว้หรือจะเรียกว่าขอร้องก็ได้ ว่าถ้าวันนี้เขาเมามารับได้ไหม ซึ่งคำตอบก็คือได้ ไม่งั้นเธอคงไม่มาอยู่ตรงนี้ตอนนี้ ทั้งที่ควรนอนหลับน้ำลายยืดไปแล้วนั่งรอในรถได้ไม่ถึงนาทีก็เห็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยในชุด all black เดินออกจากผับ ด้วยท่าทางที่เดาได้ไม่ยากว่าเขาเมาแน่นอนตอนส่งข้อความไปอ้อนให้มารับ เธอยังต้องนั่งแกะข้อความที่พิมพ์มาผิดๆ ถูกๆ ของเขาเลยริมฝีปากบางกระตุกยิ้มดีใจเมื่อเห็นรถญี่ปุ่นที่จอดอยู่คันหน้าสุด ดึกดื่นขนาดนี้เธอยังมารับเขา เมาครั้งไหนก็เป็นเธอที่คอยดูแล น่ารักชะมัดแบบนี้ต้องให้รางวัลไนท์สาวเท้าก้าวยาวๆ มายังรถของนานิที่มองปุ๊บของรู้ว่าเป็นของเธอ คนในรถไม่ได้ลดกระจกลงต่ำจนเห็นข้างใน ทำเพียงแค่ลดลงเพื่อรับอากาศข้างนอกทว่ายังก้าวไปไม่ถึงไหน ก็มีผู้หญิงหน้าตาดีในชุดเดรสรัดรูปอวดหุ่นน่าขย้ำเดินเข้ามาทัก“พี่ไนท์”นานิหุบยิ้มฉับเมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามาทักไนท์ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เม
เมื่อการสอบปลายภาควันสุดท้ายเสร็จสิ้นลง สี่หนุ่มก็พากันมาฉลองที่ร้านอาหารกึ่งบาร์ต่างจากปกติที่จะพากันฉลองที่ผับแถวมหาลัย แต่ด้วยความที่เดย์ยังไม่ถอดเฝือกและยังต้องใช้ไม้ค้ำเดินอยู่ แม้จะลดเหลือแค่อันเดียวแล้วก็ตามแต่ก็ยังเดินเหินไม่สะดวกเหมือนปกติ ทั้งสี่เลยจึงต้องปรับเปลี่ยนสถานที่ฉลองมาเป็นที่นี้เพราะขืนพาเดย์ไปผับในสภาพนี้ คงดูกระเสือกกระสนเกินไป ป่วยอยู่แต่เสือกอยากแดกเหล้าอะไรประมาณนี้ แถมข้างในยังแออัดมากไม่เหมาะกับคนที่เดินเหินยังไม่สะดวกอย่างเดย์แม้แต่นิดและแม้จะเป็นนัดของหนุ่มๆ แต่ไอญดาก็ได้รับอนุญาตให้ติดสอยห้อยตามมาเพราะต้องขับรถมาส่งและรับเดย์กลับเนื่องจากอีกสามหนุ่มไม่ได้เอารถมาเพราะเตรียมตัวจัดหนักกันเต็มสตรีม วันนี้เลยไม่มีใครเป็นสารถีไปรับเดย์ และอีกเหตุผลหนึ่งคือเดย์ติดแฟนสาวมากไปไหนก็ต้องหนีบไปด้วยทุกที ไอญดาจึงได้ร่วมวงกับหนุ่มๆ อยู่บ่อยครั้งวันนี้ไนท์เรียกรถมา รวมถึงเรนจิกับชินด้วย ที่ถือคติเมาไม่ขับ ก่อนหน้านี้มีดื่มแล้วขับบ้าง ถ้าไม่เมามาก แต่ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุกับเดย์ทำให้อีกสามหนุ่มคิดถึงชีวิตตัวเองมากขึ้นและชีวิตคนอื่นบนท้องถนนด้วยขณะที่ไนท์เดินเข้ามาที่