ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำเอา 2 หนุ่มที่นั่งอยู่ที่ที่นอนปิคนิคมองหน้ากัน เล็กลุกเดินมาเปิดประตูพร้อม ๆ เจ้าขาเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี
"ไผมา?" เสียงหญิงสาวเอ่ยถามพลางนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเพียงครีมบำรุงวางอยู่แค่กระปุกเดียว
"พี่โรม" เล็กตอบสั้น ๆ พร้อมกับเปิดประตูออกกว้างให้ชายหนุ่มเดินเข้ามา โรมมองที่นอนที่ 2 พี่น้องปูนอนฝั่งข้างหน้าต่างแล้วหันมองหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังทาครีมบำรุง ในแบบที่ทำเอาอึ้งเพราะไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรง่ายขนาดนั้น คือกดครีมใส่มือแล้วลูบตั้งแต่หน้า ขาแขนตัวด้วยครีมกระบุกเดียวครั้งเดียวครบเรียบร้อย ขนาดเขาเป็นผู้ชายเขายังมีครีมมากกว่าเธอและยังแยกหน้ากับตัวเองออกจากกัน แต่เธอไม่! หญิงสาวปล่อยผมยาวสยายเต็มหลัง แล้วนั่งใช้แปรงหวีอันใหญ่สางเบา ๆ ก่อนจะใช้มือสางจนฟูสะบัดซ้ายขวาแล้วตลบจากด้านหลังไปด้านหน้าเปิดพัดลมจ่อแทนการใช้ไดร์ซึ่งไม่มั่นใจว่าเธอมีหรือเปล่า และเขาเองก็เป็นคนผมค่อนข้างยาวเหมือนกัน จึงคิดว่าถ้าน้องไม่มีเขาน่าจะหาให้เธอไว้ใช้บ้างเพราะถ้าผมไม่แห้งแล้วนอนโอกาสที่จะเป็นหวัดในตอนเช้าจะมีมาก
"ไม่มีไดร์เหรอ?" ชายหนุ่มขมวดคิ้วถาม "พี่ให้ยืมได้นะ"
"มีแต่ขี้เกียจ แล้วนี่ไม่ได้สระแค่เป่าโคนให้แห้งเผย ๆ" หญิงสาวตอบแบบไม่หันมามอง
"พี่เอาบัตรมาให้ พรุ่งนี้พี่จะไปธุระที่ต่างจังหวัด 2-3 วัน เลยจะไม่ได้พาไปซื้อของ" ชายหนุ่มว่าพลางยื่นบัตรไปให้ เล็กลุกขึ้นเดินมาหาแล้วรับบัตรใบสีดำขอบทองไปยื่นให้คนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
"เก็บไว้เถอะ เจ้ามี อีกอย่างชุดนักศึกษามันไม่ได้แพงอะไร ถามรุ่นพี่มาแล้วซื้อจตุจักรเสื้อ ตัวละ 99 กระโปรง 199 เยอะแยะ" คนตัวเล็กว่าง่าย ๆ แล้วชำเลืองมองบัตรเครดิตที่เล็กยื่นให้แต่ไม่ได้รับ
"ซื้อที่ห้างใกล้บ้านนี่ก็ได้มั้ยจะไปทำไมจตุจักร แดดก็ร้อน ไกลก็ไกล" ชายหนุ่มว่าพลางมองบน เพราะจตุจักรที่ว่านี่อยู่คนละฟากกับบ้านเขาเลยแล้วหญิงสาวจะพากันไปทำไมไกลขนาดนั้นในเมื่อห้างใกล้บ้านก็มีไม่ไกลมากด้วย
"ก็ไปเดินดูไง ดีออก อะไรประหยัดได้ก็ประหยัดแหละ ไม่มีเงินถุงเงินถังมาเรียนหรอก" หญิงสาวว่าขึ้น
"เจ้า บักบอยขึ้นเวทีล่ะ" น้อยว่าอย่างตื่นเต้น หญิงสาวรีบวางแปรงในมือแล้วกระโดดทีเดียวถึงกระเป๋าโน้ตบุคของเธอดึงโน้ตบุคกับตัวพ็อกเก็ตไวไฟออกมาเปิดเข้าหน้าถ่ายทอดสดที่เพื่อนในค่ายมวยกำลังจะขึ้นชกเวทีใหญ่ในเมืองทางฝั่งตะวันออกของไทยพอดีแล้ววางลงที่ที่นอนปิคนิคที่ 2 พี่น้องนั่งอยู่
"แม่ง คู่มันน่ากลัวว่ะ แต่ดูแล้วน่าจะกลวงใน ใครว่าไง เจ้า 3-2 " หญิงสาวหันไปว่ากับ 2 พี่น้องยิ้ม ๆ
"พ่อใหญ่รู้โดนดุอีกนะเจ้า พ่อใหญ่บอกว่าให้หยุดเล่นแบบนี้แล้วไม่ใช่บ่" น้อยว่าพลางปรามหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งท่านอัฐรู้ว่า 3 สหายนี่เล่นการพนันถึงกับดุแล้วสั่งห้ามและสั่งให้แม่ของหญิงสาวทำโทษด้วยการฟาดก้นคนละ 3 ทีไปครั้งหนึ่งแล้ว
"น่า... ไม่บอกจะรู้หรือ แล้วพ่ออัฐยังไม่มาซะหน่อย ลงเลยเผื่อจะได้ค่าชุดนักเรียนพรุ่งนี้" ตอนนี้คำสนทนาของ 3 คนทำเอาคนที่เข้ามายืนในห้องเสมือนไร้ตัวตนทั้งยังมองหญิงสาวที่เธอใส่เสื้อกล้ามบาสตัวใหญ่แต่ใส่เหมือนสปอร์ตบราข้างในและกางเกงบอลขาสั้นแทนที่จะเป็นชุดนอนแบบที่ผู้หญิงทั่วไปเขาใส่กันแล้วแอบยิ้มที่มุมปากอย่างเอ็นดู
"งั้นพี่ไปแล้วนะ เออ...แล้วถ้าจะกดเงินสดก็ 1 6 ตัว" ชายหนุ่มเอ่ยบอกรหัสบัตรยิ้ม ๆ คนตัวเล็กที่ลืมชั่วคราวว่ามีคนมาหาหันขวับแล้วพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะหันกลับไปตั้งใจดูมวยในจอโน้ตบุคต่อ
*เยี่ยม...ไม่ได้สนใจกูเลยซักนิด เอ้อ...นี่หรือวะน้องกู น่ารักก็น่ารักหรอกแต่ดูทรงแล้วไม่น่าให้เจอไอ้ 2 แสบน้องไอ้มาร์คมันเลย กูว่าน่าจะร่วมด้วยช่วยกันดื้อฉิบหายเลยล่ะ พวกนั้นดื้อเงียบเอาแต่ใจ แต่เจ้านี่น่าจะเปิดเผยทุกอย่างแล้วน่าจะโคตรเอาแต่ใจมากด้วย ...* โรมคิดในใจแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนที่ตอนนี้หลานชายตัวน้อยของเขามานอนด้วยและหลับไปตั้งแต่ก่อนที่เขาจะไปหาเจ้าขาที่ห้องนอนเธอแล้ว
รุ่งเช้า โรมตื่นมาส่งหลานชายไปโรงเรียนแต่เช้าเพราะโรงเรียนหลานค่อนข้างไกลจากบ้านนี้ และกลับมาเตรียมออกต่างจังหวัดกับเทนเพื่อนกลุ่มเดียวกัน เพื่อไปดูรีสอร์ตริมทะเลที่เขาสนใจที่จะเทคโอเวอร์ แต่คนที่จะขายเป็นญาติของเทนเลยให้เทนพาไปและกะว่าจะพักผ่อนกับเพื่อนซัก 2-3 วันก่อนจะกลับ
เจ้าขาเดินเหงื่อโทรมกายเข้ามาในบ้านพร้อมกับผู้ติดตามของเธอที่มีสภาพไม่ต่างกัน ทำเอาคนในบ้านที่หันมามองพากันขมวดคิ้วแล้วหันมองหน้ากันงง ๆ
"เจ้าไปไหนมาแต่เช้าลูก" คุณหญิงรวิดาถามหลานสาวคนสวยที่ตอนนี้แก้มเนียนละเอียดของเธอออกสีแดงระเรื่องขึ้นอย่างหน้ามอง
"ไปออกกำลังกายรอบหมู่บ้านมานิดหน่อยค่ะ" คนตัวเล็กถามพร้อมกับรับขวดน้ำเย็นจากเล็กที่เดินเข้าไปขอมาจากในครัวแล้วยกขึ้นดื่มทีเดียวหมดขวด
"เดี๋ยวไปอาบน้ำแล้วมากินข้าวกันนะลูก เล็กน้อยเหมือนกันพากันไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกันไป" คุณอาใหญ่ว่าพลางพยักหน้าให้หลาน
"เดี๋ยวทุกคนทานก่อนได้เลยนะคะคุณอา พวกเราขอไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวหากินเองค่ะ" คนตัวเล็กว่ายิ้ม ๆ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน ตามไปด้วย 2 ผู้ติดตามที่เดินขึ้นไปพร้อมกัน
"แม่ ปกติหลานสาวแม่นี่เขาทำอะไรเมื่อคืนเห็นพากันเปิดมวยดูเชียร์กันสนั่นห้อง" โรมว่าพลางเดินไปนั่งที่โต๊ะอาหารเช้า ที่เมื่อคืนเขาเห็น 3 คนตั้งใจดูมวยเขาเลยเข้าห้องไปเปิดดูบ้างและอยู่เชียร์จนครบยกอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียวในขณะที่ห้องข้าง ๆ ได้ยินเสียงเชียร์ดังขึ้นเป็นระยะ ๆ เมื่อคนไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบ
"ก็เป็นนักมวยไง โรมไม่เคยเห็นน้องในทีวีหรือ นี่เขาค่าตัวแพงสุดในค่ายเลยนะ เห็นตัวเล็ก ๆ นี่เตะคู่ต่อสู้พับคาเวทีเลยนะจะบอกให้" คุณศาสตราว่ากับลูกชายขณะที่เดินลงมาจากด้านบน
"ฮะ!" "ไม่หาล่ะ เนี่ยมือ 1 เลยล่ะ แล้วเจ้า 2 คนพี่ ๆ เค้านั่นก็เหมือนกันเห็นเฮฮากันแบบนั้น ขึ้นเวทีเป็นคนกันเลยล่ะ ลุงเราน่ะเวลาว่าง ๆ แกก็เปิดค่ายมวยให้เด็ก ๆ แถวนั้นมาซ้อมมาออกกำลังกายจะไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วใครอยากเรียนแกก็ส่งเรียนด้วย หน้าค่ายมวยก็เปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ให้แม่ของน้องเจ้าเขาขายข้าวแกงกับเครื่องดื่ม นี่กะว่าเกษียณก็คงอยู่ยาวเลยไม่กลับกรุงเทพแล้วล่ะ" คุณหญิงรวิดาบอกกับลูกชายคนเล็กยิ้ม ๆ พวกท่านมีภูมิลำเนาที่กรุงเทพก็จริง แต่พี่ชายของท่านเป็นตำรวจน้ำดีที่ไปประจำอยู่ทางภาคอีสานเกือบ 20 ปีตั้งแต่ย้ายมาจากใต้ และคนเขตนั้นก็น่ารักให้การต้อนรับท่านเป็นอย่างดีเพราะท่านไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างและเป็นกันเองกับชาวบ้านมาก ทำให้ชาวบ้านรักและเคารพกันมาก อีก 2 ปีท่านก็จะเกษียณแล้วแต่ก็ยังจะอยู่ที่นั่นต่อเพราะตอนนี้ท่านได้จดทะเบียนสมรสกับแม่ของจันทร์เจ้าขามาซักพักนึงแล้ว แล้วก็มีค่ายมวยเล็ก ๆ ที่เอาไว้สอนเด็ก ๆ ในระแวกกับไร่นาสวนผสมที่ทำไว้จนเป็นแปลงนาสาธิตให้คนมาหาความรู้ได้อีก และจากความขยันของแม่ของจันทร์เจ้าขายังสามารถเปิดร้านกาแฟหน้าสวนและปลูกผักออแกนิคส่งขายตามห้างร้านใหญ่ ๆ ในจังหวัดทำให้ความเป็นอยู่ไม่ขัดสนเรียกว่ารายได้ในแต่ละเดือนมากกว่ารายได้เงินเดือนข้าราชการของท่านที่ไม่เคยได้ดึงออกมาใช้หลายปีเลยด้วยซ้ำ
"แบบนี้ก็แสบน่าดูสิครับแม่"...
โรม หรือ รวัช ขึ้นรับตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารแทนผู้เป็นพ่อด้วยการขอร้องของครอบครัวในอีก 3 ปีหลังจากที่เขาจบดอกเตอร์ และหลังจากนั้นอีก 5 ปีเขาและเพื่อน ๆ ได้ตกลงกันที่จะปิดบริษัทที่ต่างประเทศ เพราะศิลาและมาร์คย้ายกลับมาไทยถาวร ศิลาขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นบอสใหญ่แห่ง เคเอส กรุ๊ป มีรองประธานฝ่ายบริหารผู้มากความสามารถอย่างมาร์คหรือมนัสพงษ์ 1 ในเพื่อนรักเคียงข้าง โดยที่คุณปู่ของศิลาให้มาร์คถือหุ้นในบริษัทถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อตอบแทนความดีและความซื่อสัตย์ที่เขามีให้คุณหญิงรวิดาวางมือจากร้านเสื้อผ้าของตัวเองให้ลูกสะใภ้ทั้ง 2 ร่วมกันบริหารและถือหุ้นร่วมกันคนละครึ่ง โรมตัดสินใจขายผับให้กับรุ่นน้อง แต่สร้างรีสอร์ตริมทะเลเพิ่มขยายพื้นที่จนใหญ่ที่สุดในจังหวัด โดยให้ปิยะเป็นผู้ดูแลและให้แฮคกับอาร์ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองที่บริษัทส่วน สรัญ เขาประสบความสำเร็จกับบริษัทออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เริ่มก่อตั้งด้วยทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาทและมีพนักงานแค่เขากับภรรยาในช่วงเริ่มแรกด้วยการช่วยวางแผนของน้องชาย ตอนนี้กิจการก้าวหน้าจนเป็นที่ยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ และเขาก็ปฏิเสธหุ้นของโรงทอที่พ่อจ
งานฉลองบัณฑิตจบใหม่ถูกจัดขึ้นที่ผับชื่อดังไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ รถสปอร์ตเปิดประทุนคันสวยวิ่งเข้ามาจอดด้านหน้า พร้อมกับการปรากฎกายของสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่วันนี้เธอจัดเต็มมาด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสมกับเป็นภรรยาเจ้าของผับ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเปลี่ยนไม่ว่าจะแต่งกายด้วยชุดอะไรหรือเทศกาลอะไรนั่นก็คือสร้อยคอเส้นเล็กจี้พระจันทร์เสี้ยวกับตัวอาร์ที่ใส่ติดคอเธอตลอดตั้งแต่วันแรกที่โรมใส่ให้เมื่อ 4 ปีก่อน เจ้าขาในวันนี้แขวนนวมนักมวยขึ้นเป็นผู้บริหารร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังร่วมกับแม่สามีหญิงสาวก้าวเข้ามาในร้านอย่างมาดมั่น แต่ต้องหยุดชะงักกับภาพเห็นตรงหน้า กับไอ้หนุ่มผมยาวคุ้นตาที่กำลังนั่งดื่มกินและหัวเราะต่อกระซิกอยู่กับสาวสวยคุ้นหน้าคนหนึ่งอยู่ในร้าน"อิป๋า! เมียมายืนหัวโด่อยู่นี่ไม่คิดจะเชิญนั่งรึไง" เสียงหวานปนเกรี้ยวกราดดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ชายหนุ่มหันขวับกลับมามองก่อนจะยิ้มกว้างแล้วลุกขึ้นเดินมาโอบเอวหญิงสาวไปนั่งลงที่โซฟาตัวเดิม"ฟาง นี่เจ้าขา ภรรยาไอ...เจ้า นี่พี่ฟางฉีเพื่อนร่วมคณะพี่ แล้วนี่ก็พี่จิ๊กหรือพี่แจ็คแฟนพี่ฟาง" ชายหนุ่มแนะนำให้หญิงสาวรู้จักกับเพื่อนผ
2 ปีต่อมาอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษโรมเดินขึ้นบันไดขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอพาร์ตเมนต์แล้วหยุดยืนเคาะประตูหน้าห้องที่ติดบันไดทางเดิน ก่อนจะถอนหายใจแรง ๆ รอคนที่อยู่ข้างในมาเปิดให้ ชายร่างผอมสวมแว่นสายตาค่อนข้างหนาเดินออกมาเปิดประตูแล้วมองหน้าผู้มาเยือนเป็นคำถาม กว่า 2 ปีแล้วที่สรัญพาครอบครัวของเขามาอยู่ที่นี่ โดยการช่วยเหลือของโรมและเพื่อน ๆ โดยที่พ่อเขาไม่ทราบมาก่อน ทั้งเขาและภรรยาทำงานเป็นลูกจ้างร้านสะดวกซื้อที่ไม่ไกลจากที่พักมากนักและให้ลูกชายคนเดียวเข้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนฝึกภาษาไม่ไกลจากอพาร์ตเมนต์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะตอนที่เกิดเรื่องบัญชีของเขาที่รับโอนเงินจากบัญชีหุ้นของโรมถูกทางธนาคารสำนักงานใหญ่อายัดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบและโยงไปถึงบัญชีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันด้วย ทำให้เขาค่อนข้างลำบากในการใช้ชีวิตอย่างมาก การมาที่นี่ในตอนแรกนั้นได้ความช่วยเหลือจากศิลาให้พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ของทางบริษัทที่ศิลากับมาร์คพักอยู่ แต่เมื่อทั้งคู่ได้งานจึงขอย้ายออกมาอยู่ที่นี่ และเพราะตอนที่ออกมาจากไทยทั้งคู่ไม่ได้นำเอกสารใด ๆ ติดตัวมาด้วย จึงทำงานได้เพียงพนักงาน
"โอ๊ย! เจ้าลูก หล่อขนาดนี้ รวยก็ปานนี้ แถมรับความมึนของเราได้ขนาดนี้ เป็นแม่นะ แม่พยักหน้าตั้งแต่เกริ่น 3 ประโยคแรกแล้วลูก หรือยังไง อึกอักนี่คือพี่เขาไม่แซบว่างั้น" คุณนายเตือนตาว่ากับลูกสาวพร้อมกับเอ่ยแซวในตอนท้ายทำเอาคนโดนถามถึงกับอายม้วนก้มหลบตาประชาชนแทบมุดม้าหินอ่อนหนี"ก็แซบอยู่" หญิงสาวตอบเสียงอ่อย ๆ อาย ๆ"ถ้าแซบก็เก็บไว้กินเองค่ะลูก รีบรับก่อนผู้ชายจะเปลี่ยนใจค่า" คุณแม่บอกลูกสาวเสียงประชด เจ้าขาเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มนิ่ง ๆ ตอนนี้ทั้งลานเงียบรอฟังผลตอบรับเหมือนกับว่าตัวเองเป็นคนรอคำตอบซะเอง"ว่าไง เป็นแฟนกับพี่มั้ย" ชายหนุ่มเอ่ยถามยิ้ม ๆ"เป็นแค่แฟนนะ" "อืม...ตอนนี้เป็นแค่แฟนก่อน" ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับอมยิ้มขำ ๆ *ตอนนี้เป็นแฟนถึงห้องนอนแล้วค่อยเป็นเมียพี่ก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ"ก็ได้" คนตัวเล็กพยักหน้าตอบอาย ๆ"อะไรนะ!!" คำถามพร้อมเพรียงเสียงดังขึ้นทันที หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมกับมองพี่น้องนักมวยรอบลานแล้วมองหน้าพ่อกับแม่ พี่สาวคนสนิทก่อนจะหันมาตอบชายหนุ่มอีกครั้งอย่างเสียงดังและฟังชัด"เออ...เป็นแฟนกับพ
ตกเย็น ร้านหมูกระทะที่โรมให้น้อยไปสั่งขับรถขนหมูกระทะและอุปกรณ์มาส่งที่โรงซ้อม ชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มเป็นอัดลมและน้ำผลไม้ให้อย่างไม่อั้น ท่านอัฐยืนมองความสนุกสนานของเด็ก ๆ ที่กำลังช่วยกันจัดสถานที่ในการปาร์ตี้กันคืนนี้ยิ้ม ๆ"คิดยังไงมาเลี้ยงหมูกระทะเด็ก ๆ" ท่านอัฐเอ่ยถามหลานชาย"ก็เห็นบ่นอยากกินกันครับแล้วอีกอย่างพวกไปเรียนกรุงเทพก็มากันหมดแล้วเลยเลี้ยงซะหน่อย พรุ่งนี้ผมว่าจะเข้ากรุงเทพด้วยครับลุงว่าจะไปดูคุณพ่อหน่อยครับ" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถอนหายใจภายหลัง"แล้วไอ้เจ้าว่าไงล่ะ น้องมาเราจะกลับ""ก็...ยังไม่คุยเลยครับ ช่วงนี้น้องต้องซ้อมผมไม่อยากทำให้เจ้าเสียสมาธิ เอาจริง ๆ ที่ผมหนีมานี่ช่วงน้องสอบก็กลัวว่าจะเผลอทำอะไรน้องอีก ไม่อยากให้น้องเสียสมาธิครับลุง" ชายหนุ่มตอบแบบตรงไปตรงมา"แล้ววันนี้ก็หน้าบึ้งทั้งวันทะเลาะกันอีกหรือไง" ท่านอัฐเอ่ยถามพลางปรายตามองชายหนุ่ม"หึ! เปล่าหรอกครับแค่โดนกวนเมื่อคืนแล้วเมื่อเช้าไม่ได้ซ้อมกับเพื่อนแล้วงอแงใส่แค่นั้นครับ แต่เห็นบอกว่าจะออกไปรับแฟนเขาไม่ใช่หรือครับลุง" ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอตอบผู้เป
"ให้ไปอ่านหนังสือสอบ ไม่ใช่ให้ไปหาวิชาปราบผัว" ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับสะโพกที่ขยับอย่างต่อเนื่อง "ซี้ด...เจ้าอย่ารัด" ชายหนุ่มครางยาวแล้วลงประกบจูบ เอวหนาสาวขึ้นลงอย่างบ้าคลั่ง คนใต้ร่างเสียวสะท้านทุกจังหวะที่แก่นกายเข้าไปกระทบผนังด้านในสุด เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่ง ร่างบางเกร็งกระตุกถี่ตอดรัดแก่นกาย แล้วหอบหายใจแรง ๆ จนอกกระเพื่อม เอวหนาเร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นส่งตัวเองเสร็จสมตามหญิงสาวไปไม่ห่างกัน ส่งลาวาสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าร่องสาวแล้วกดแช่ไว้อย่างตั้งใจ "อ่า...เมียพี่สุดยอด" คนตัวโตเอ่ยชมพร้อมกับก้มลงกดหอมที่หน้าผากชื้นเหงื่อแรง ๆ"งือ ออกไปได้แล้ว อิคนบ้าพลัง" หญิงสาวว่าพลางทุบอกแกร่งอาย ๆ"เข้าแล้วไม่มีออกถ้าไม่หมดแม็ก แต่คืนนี้น่าจะสว่างคาตาเพราะคนแถวนี้ปล่อยพี่อดมาหลายวัน" ชายหนุ่มว่าพร้อมกับขยับสะโพกเบา ๆ"อ๊ะ! พี่ ยะ อย่าเพิ่งขยับ อูย..." หญิงสาวรีบทัดทานขึ้นพร้อมกับสูดปากเมื่อรู้สึกว่าสิ่งแปลกปลอมที่อยู่กลางกายเริ่มขยับขยายขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย มือบางดันอกแกร่งไว้ทั้ง 2 ข้าง"ไม่ทันแล้วครับ ตัวเล็ก