LOGINเจ้าของร้านหน้าซีดเผือด เครื่องเทศคืออาหารที่มีราคาแพง ที่นี่นั้นจัดเป็นแหล่งผลิตชั้นดีและเป็นสินค้าส่งออกด้วย
“มี”
“งั้นก็นั่นล่ะ เป็นค่าจ้าง ข้าขอสัก 500 กิโล หวังว่าคงมีนะ” ซามูเอลพูด
“ได้ ๆ ขอแค่อย่าให้มันเข้าใกล้ร้านข้าก็พอ”
ซามูเอลเดินออกมาหน้าร้านโดยมีมิก้าตามมาด้วย
“นี่เจ้าจะหน้าเงินไปถึงไหนเนี่ย” มิก้าพูดอย่างไม่พอใจนัก
“มันเรื่องของข้า” ซามูเอลพูดแล้วก็เริ่มสำรวจพื้นที่ มิก้าเลยตัดสินใจวิ่งนำไปก่อน
พวกมนุษย์หนูกำลังเคลื่อนพลมา พวกมันไม่ได้สูงนักน่าตัวพอ ๆ กับเด็กอายุประมาท 10 ขวบเท่านั้นรูปร่างค่อนข้างผอม มีหัวเป็นหนู มีฟันหน้าอันแหลมคมยื่นออกมาออกมาจากปาก ดวงตาเป็นสีแดง เนื้อตัวปกคุมด้วยขนที่มีสีดำ สีน้ำตาล สีขาว มีเล็บอันแหลมคม พวกมันมีจำนวนมาก และที่น่าแปลกก็คือพวกมันบางตัวนั้นสวมเกราะและถืออาวุธติดมือมาด้วย
“พวกมันเริ่มฉลาดขึ้นแล้วนี่” แจนพูด แต่อาลีไม่สนใจเขารีบตะโกนขึ้นมาว่า
“พวกเราไปฆ่าพวกมันกัน”
อาลีวิ่งนำเหล่านักรบทองคำออกไป ซึ่งพวกเขาก็มีฝีมือพอใช้ สามารถสังหาร พวกมันไปหลายตัว ทำให้พบว่าเกราะและอาวุธที่พวกมันใช้นั้นเป็นแค่ของทิ้งแล้วเก็บมาใช้ใหม่เท่านั้น แต่ว่าพวกมนุษย์หนูนั้นเป็นทัพที่เน้นปริมาณ พวกอาลีต้องรับศึกหนัก
กายกระชับดาบในมือเขาตั้งท่าเตรียมพร้อม ห่วงทั้งเก้ากระทบกันเกิดเสียงคล้ายกับระฆัง กายสะบัดดาบเกิดคลื่นแสงออกมา
“สะบัดกองทัพ !”
พวกมนุษย์หนูบาดเจ็บล้มตายไปจำนวน กายสะบัดดาบต่อไป เพลงดาบของกายนั้นรวดเร็วและรุนแรง
ส่วนแจนนั้นเธอใช้พลังเวทย์ยิงกระสุนหินใส่พวกมนุษย์หนูล้มตายไปจำนวนมาก และเธอยังสร้าง โกเล็มมาช่วยสู้อีก แต่แล้วมีตัวหนึ่งจะมาเล่นงานเธอจากด้านหลัง แต่ถูกมิก้าเอาขวานจามหัวมันก่อน แจนหันมาแล้วพูดว่า
“ขอบคุณมาก”
ขณะกำลังต่อสู้กันก็มีเสียงร้องคำรามดังขึ้นมา ปีศาจหนูรูปร่างใหญ่โตพอ ๆ ช้างเดินออกมา และไล่ฆ่าเหล่านักรบไปหลายคน โกเล็มของแจนเข้าปะทะมนุษย์หนูยักษ์แต่ว่าสู้กำลังของมันไม่ได้ เลยถูกทำลาย แจนรีบร่ายมนตร์มีเถาวัลย์ออกมามัดแขนของเจ้ามนุษย์หนูยักษ์เอาไว้ โดยมีจอมเวทย์คนอื่นมาช่วยเสริม เจ้าหนูยักษ์พยายามดิ้นรน แต่อยู่ ๆ พลังของมันก็เพิ่มขึ้น จนทำลายเถาวัลเวทย์ได้ เหล่าจอมเวทย์กระเด็นไปคนละทิศคนทาง
อีกด้านหนึ่ง พวกมนุษย์หนูแอบเข้ามาในเมืองโดยการขุดรูเข้ามา พวกมันเริ่มโจมตีทันที เนื่องจากนักรบออกไปเกือบหมด ทำให้เมืองกลายเป็นเป้านิ่ง มีเอลฟ์ร่างเล็กเหมือนกับเด็กตัวหนึ่ง ผมสีดำ หูแหลมเชิด ใส่ชุดเขียว ตาเหมือนแมวสีอำพัน มันเหาะได้ และแอบใช้มีดลอบแทงทหารไปได้หลายคน
“มนุษย์นี่ โง่จริงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ” มันพูดและเห็นเป้าหมาย จึงค่อย ๆ เหาะไปและกำลังจะเอามีดแทง แต่ว่าอีกฝ่ายหลบได้และฟาดเคียวมา เขาคือ ซามูเอลนั่นเอง
“เอาจริงดิ ! นี่เรียกว่าลอบฆ่าเหรอ ไปเรียนมาใหม่ไป”
“แกเป็นใครกันวะ” เจ้าเอลฟ์พูด
ซามูเอลประสานมือและพูดว่า “สวัสดี ข้าชื่อ ซามูเอล และเจ้าคืองานข้า”
“อ๋อ นินจาอย่างงั้นเหรอ ดีล่ะ ปิแอร์ ผู้นี้จะเด็ดหัวแกเอง” มันเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว ซามูเอลเหวี่ยงเคียวไปมาแต่กลับไม่อาจต้องร่างของปิแอร์ได้ มันกำลังเจ้าเอามีดมาเชือดคอของเขา ซามูเอลเอาอีกด้านหนึ่งของอาวุธที่เป็นค้อนเหวี่ยงไป ปิแอร์หลบได้ปลายค้อนเฉียดหน้าของมันไปนิดเดียว มันเคลื่อนไหลเร็วกว่าเดิมทำให้ซามูเอลเปิดช่องโดนฟันไปแผลหนึ่ง ยังดีเขาก้าวเท้าหลบได้เลยโดนแค่เสื้อ ซามูเอลเอาชูริเคนออกมาและซัดออกไป
“โอย !” ปิแอร์ร้องเสียงดังลั่นชูริเคนปักแขนของมันเป็นแผลลึก เลือดไหลอาบ เจ้าปิแอร์ไม่เคยเจอความเจ็บเลยร้องโอยโอดอย่างหมดสภาพ
“อะไรกัน ที่แท้ก็พวกอ่อนเหรอเนี่ย แกไม่ใช่ผู้นำพวกนี้แน่ ๆ” ซามูเอลพูด
ปิแอร์หัวเราะแล้วพูดว่า “ก็ใช่น่ะสิ ข้าแค่มาสนุกเท่านั้นเอง เดี่ยวพวกแกก็จะโดนปล้นอาหารไม่เหลือแล้ว” มันพูดไม่ทันขาดคำก็มีเสียงระเบิดและเสียงมนุษย์หนูร้องดังขึ้นมา มีบางตัววิ่งหนีพร้อมกับร่างที่โดนไฟเผา
“ข้าน่ะกะเอาไว้แล้วพวกแกจะต้องโจมตีในจุดที่มีอาหารแยอะ ๆ อย่างพวกยุ้ง หรือร้านอาหาร ก็เลยเอาระเบิดไปวางไว้รอบ ๆ พอพวกแกไปเหยียบมันก็ต้อง ตูม ! ” พูดจบซามูเอลก็จี้จุดปิแอร์และจับมัดไว้กับต้นไม้
เจ้าหนูยักษ์สังหารนักรบไปหลายคนแล้ว แจนร่ายมนตร์ ยิงกระสุนหินอีกครั้ง แต่กลับไม่ระคายผิวของมันเลย กายกับมิก้าเอาขวานและดาบฟันที่ขา ก็ไม่สะเทื้อน
“มีใครส่งพลังให้มันแน่” แจนตกตะลึง
ซามูเอลมาถึงพอดีเขาเห็นเจ้าหนูยักษ์เขาก็เอาชูริเคนออกมาสองอันและ ซัดออกไป ชูรินเคนพุ่งไปปักเข้าที่สองตาของมันเจ้ามนุษย์หนูยักษ์มันร้องเสียงดังลั่น ด้วยความเจ็บปวดและโจมอย่างบ้าคลั่ง เนื่องจากมองไม่เห็น
“เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย” มิก้าพูดด้วยความโกรธ
“ไม่คิดว่ามันจะคลั่งแบบนี้ แต่เดี๋ยวข้าจัดการเอง” ซามูเอลเอามีดบินออกมาห้าเล่ม เขาซัดให้มันไปปักที่แผลเก่าและ
“ตูม !” เมื่อสิ้นคำว่าตูม มีดทั้งหมดก็ระเบิด เจ้าหนูยักษ์ล้มลงไป
“เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ มีใครบางคนใช้เวทย์มนตร์ช่วยเจ้าหนูยักษ์นี่ และพวกมันก็ใช้เครื่องมือเป็นแล้วด้วย” กายพูด ซามูเอลพยักหน้า เขามองดูศพของพวกมนุษย์และมนุษย์หนู เขาคิดสักพัก แล้วพูดว่า
“ตามข้ามาจะให้ดูอะไร”
แต่เมื่อไปถึงก็พบว่า ร่างของเอลฟ์นั่นหายไปแล้ว
“นี่จะให้พวกเรามาดูอะไรเหรอ” มิก้าถามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“พวกหนูคงเอาไปแล้ว ช่างเถอะ เข้าไปในร้านเถอะหาอะไรกินก่อน ออกแรงแยอะทำให้หิว” ซามูเอลพูด
พวกทหารสำรวจเขาพบว่ามีเพียงร้านอาหารร้านเดียวเท่านั้นไม่ได้ถูกทำลาย และยังพบว่ามีซากมนุษย์มนุษย์โดนฆ่าอยู่ที่ระหว่างทางเข้าร้าน เจ้าของร้านเลยแบ่งอาหารให้พวกทหารเอาไปแจกชาวบ้านที่เดือดร้อน ซามูเอลและคณะเข้าไปในร้านเจ้าของรีบสั่งเตรียมอาหารให้พวกเขา
“เหลือร้านท่านอยู่ร้านเดียว คงจะขายดีนะ” ซามูเอลพูด
“เฮ้ย ! ข้าไม่ใช่คนเห็นแก่ได้ ข้าแบ่งให้ชาวบ้านไปแล้ว” เจ้าของร้านพูดซามูเอลพยักหน้ารับรู้
รถม้าค่อย ๆ เคลื่อนไปซามูเอลมองวิวข้างทางโดยไม่ได้พูดอะไร เขานึกถึงเรื่องในวัยเด็ก ตอนอายุ 5 ขวบแม่ของเขาพามาอยู่กับลุงป้า เพราะบิดาของเขาเป็นนินจาได้เสียชีวิตตอนทำภารกิจหนึ่ง แม่ไม่มีที่ไปเลยต้องมาขออยู่กับพี่สาวและพี่เขย ป้าเขาชื่อ เฮเลน ส่วนลุงนี้ชื่อ โจเซฟ โดยลุงกับป้ามีลูกแล้วสองคน ลูกชายคนโตเชื่อ โจเอล และลูกสาวชื่อ เอลิน่า ตอนแรกโจเซฟไม่อยากให้อยู่ด้วยนัก เหตุเพราะซามูเอลเป็นลูกของนินจาซึ่งแน่นอน นินจาคือพวกสังคมถูกรังเกียจขั้นรุนแรง เพราะหลายคนยังมีความเชื่อว่า นินจาเป็นคนที่นำปีศาจและสัตว์ประหลาดเข้ามาในดาวดวงนี้ทำเกิดยุค เคออส ซึ่งโจเซฟก็เป็นหนึ่งในนั้น การมีลูกหลานนินจาอยู่ในบ้านไม่ใช่เรื่องดีนัก แต่เพราะแม่ของซามูเอลมาพร้อมกับเงินทองที่ทำให้ทั้งสองมีไร่ข้าวโพดที่ใหญ่ขึ้นได้ แต่พอซามูเอลอายุได้ 7 ขวบแม่ของเขาก็เสียชีวิต ลุงกับป้าเลี้ยงดูเขาได้พอใช้เท่านั้น เพราะโจเซฟไม่ค่อยเต็มใจเลี้ยงเขาเท่าไหร่ ซามูเอลอยู่เหมือนเด็กรับใช้คนหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นชีวิตก็ไม่ได้เลวร้ายนัก เพราะเฮเลนเมตตาเขาอยู่บ้าง ความสัมพันธ์กับลูก ๆ ของโจเซฟนั้น กับเอลิน่านางเห็นเขาเป็นพี่ชายคนหนึ่ง ผิดกับโ
“ก็ได้ข้าจ้างเจ้า และเอานี่ไปด้วยพวกเราจะได้เห็นภาพด้วย” เถาะส่งกระจกให้ ซามูเอลพยักหน้า และรีบเข้าไป เถาะเสกกระจกบานใหญ่ขึ้นมา ก็เห็นว่าซามูเอลกำลังลอบเข้าไป ซึ่งไม่ได้ยากเลยสำหรับเขา หาจุดแอบซุ่มจนไปถึงท้องพระโรงที่องค์หญิงเข้าไปได้แล้ว โมลี่ฮัวเดินไปอย่างเป็นกังวล ทุกคนมองเธอเป็นตาเดียว เธอเห็นราชินีย์ออโรล่า นั่งอยู่บนบัลลังค์ตรงหน้า เธอเป็นหญิงวัย 50 เศษ ที่ดูแข็งแรง มีใบหน้างดงามหากแต่ไม่ใช่ความงามแบบผู้หญิงอ่อนโยนกลับดูแข็งแกร่งแบบหญิงเหล็ก เธอมีผมยาวสีทอง ดวงตาสีฟ้า ข้างกายของนางมีผู้หญิงรูปร่างผอม อยู่ข้าง ๆ นางพูดออกมาเป็นภาษากรีก ผู้หญิงข้าง ๆ แปลให้ทันที “ขอต้อนรับองค์หญิงโมลี่ฮัว สู่อาณาจักอาเธน่าของเรา”องค์หญิงรีบทำความเคารพในแบบของชาวเทียนคือคุกเข่าและถวายพระพร “หม่อนฉันองค์หญิงโมลี่ฮัว ขอถวายพระพร ขอให้ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี” ออโรล่ายิ้มออกมาพูดล่ามรีบแปลให้ทันที “ลุกขึ้นเถอะ ไม่ต้องให้ข้าอายุยืนขนาดนั้นก็ได้นะ” เหล่าขุนนางต่างขำกันหมด ทำให้องค์หญิงทำหน้าไม่ถูก ส่วนสามนักฆ่าและมิก้าที่ดูผ่านกระจก กัดฟันกรอด ๆ จนกา
“ก็ แค่อยากจะพานางไปจากที่นี้ เพื่อให้นางหนีจากการแต่งงานไปเริ่มชีวิตใหม่เท่านั้น” มิก้าพูด ซามูเอลเลยหันไปถามองค์หญิงโมลี่ฮัวต่อ“แล้วหลังจากหนีออกไป ท่านจะทำอะไรต่อเหรอขอรับองค์หญิง”องค์หญิงโมลี่ฮัวได้ยินก็พูดไม่ออก นางยังไม่คิดถึงข้อนั้นเลย “ตอบไม่ได้สินะ ท่านน่ะเหมือนนกน้อยในกรงทองที่หาทางหนีออกจากกรงแต่ดันไม่รู้วิธีบิน และไม่รู้เลยโลกนอกกรงเป็นยังไง อย่างท่านเนี่ย ข้าขอพูดตรง ๆ นะ จะเอาตัวรอดได้เกินสามวันหรือเปล่ายิ่งในยุค เคออสเนี่ย ที่ท่านเห็นถือว่าสบายแล้วนะ” โมลี่ฮัวพูดไม่ออก จริงของซามูเอล นางไม่เคยออกจากวังนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต และถ้าหนีนางจะทำอะไรล่ะ ซามูเอลเห็นท่าทางนางเริ่มลังเลก็เลยพูดต่อว่า “แล้วอยู่ ๆ หนีไปเนี่ย ท่านรู้มั้ยจะเกิดอะไรขึ้น”องค์หญิโมลี่ฮัวทำหน้าไม่ถูก เพราะเธอไม่รู้จริง ๆ ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ซามูเอลเลยตอบสั้น ๆ “สงครามไง”โมลี่ฮัวตะลึงเธอคิดไม่ถึงเลยจะมีผลร้ายแรงขนาดนี้ “เจ้าพูดอะไร” นางรีบถาม “ก็ง่าย ๆ อาเธน่าเป็นอาณาจักรที่ถือเรื่องศักดิ์ศรีสูงมาก การที่องค์หญิงหนีไปแบบน
ซามูเอลหลบด้วยความเร็ว ทำให้อิบรามโจมตีพลาดและโดนซามูเอลสวนกลับด้วยค้อนของเขา โดนฟาดเข้าที่ท่อนแขน ทำให้อิมรามแขนหัก เขากำลังจะต่อสู้แต่ได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวเลยหันไป ร่างของถังเล่ยกระเด็นออกมาจากรถม้า พร้อมกับอำมาตถัง สามนักฆ่าใช้โอกาสเล่นงานคนทั้งคู่ อิมรามแขนหักทำให้ช่วยไม่ได้ “อย่าข้าเป็นขุนนางรับใช้มานานแล้ว เจ้าจะฆ่าข้าส่งเดชไม่ได้” แต่สามนักฆ่าไม่ฟัง ระกาใช้พัดปาดคอของอำมาตถังตายคาที่ ถังเล่ยถึงกลัวจนฉี่ราด “ไอ้คางคกคิดจะกินเนื้อหงค์เจ้าก็ตายตามพ่อไปอีกคนก็แล้วกัน” เถาะพูดก็จะใช้ท้ายคถาแทงร่างฟาดไปที่หัวของถังเล่ยเขากลายเป็นน้ำแข็งและระเบิดทันที ทุกคนหันมามองอิมรามเป็นตาเดียว ซามูเอลเลยพูดขึ้นมาว่า “ปล่อยมันไป” “เจ้าว่าไงนะ” เถาะถามอย่างไม่พอใจนัก “ก็ปล่อยมันไปไง นายจ้างมันตายแล้ว งานจบแล้ว พวกนินจาไม่มีมาแก้แค้นให้ใครหรอก มันแค่งานต่อให้เพื่อนมันตายในงานมันก็ไม่แค้นเพราะว่าเป็นงาน แต่ถ้าเจ้าฆ่ามันตอนนี้ซึ่งนอกเหนือจากงาน ได้เจอพวกของมันมาแก้แค้นแน่ ซึ่งองค์หญิงจะเจอเรื่องเสี่ยงมากกว่านี้นะ”
อิมรามมองซามูเอล เขาทำการทักทายทันที“สวัสดีข้าชื่อ อิมราม และเจ้าขว้างงานข้า”“สวัสดีข้าชื่อ ซามูเอล และเจ้าคืองานข้า !”เมื่อได้ยินแบบนั้นอิมรามก็ตะโกนเสียงดังลั่น “กองกำลังตะขาบจงมา” เมื่อสิ้นเสียงตะโกน มีหุ่นตะขาบยักษ์ปรากฏตัวขึ้น มันเป็นหุ่นเชิดเหมือนกับมังกรเชิด ที่ต้องใช้คนหลายเป็นคนเชิด ขาตะขาบนั้นเป็นใบมีด ส่วนหัวก็มีใบมีดคู่“เอาจริงดิ !” ซามูเอลอุทาน มันเข้ามาโจมตีซามูเอลทันทีเขาหลบแทบไม่ทันใบมีดมากมายเฉียบสีข้างเขาไปนิดเดี๋ยว อิมรามให้ชิโมน่า ตามเขาไปคุ้มกันอำมาตถัง ส่วนสามนักฆ่า และมิก้าลังเล ซามูเอลเลยพูดว่า “ตามมันไป”ตะขาบเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง ซามูเอลหลบและซัดชูริเคนออกไปแต่ กลายเป็นหุ่นตะขาบนั้นเกราะหนามาก อาวุธเจาะไม่เข้า เขาหลบคมมีดอีกครั้งหนึ่งคราวนี้เขาช้าไปเลยโดยไปแผลหนึ่ง ซึ่งถือว่าโชคดีแล้ว เพราะถ้าช้ากว่าเขาจะกลายเป็นชิ้น ๆ แน่ และเขาเจ้าตะขาบก็พ่นไฟออกมา ซามูเอลรีบหลบ ตะขาบยังคงโจมตีมาไม่หยุด ขืนปล่อยไว้แบบนี้เขาตายแน่ ซามูเอลมองไปที่ขาของคนเชิด ก็คิดบางอย่างออก ถอยห่างพวกมันไปหลายก้าวหยิบเคียวออกมา เจ้าหุ่นตะขาบวิ่งเข้ามาหมายจะเล่นงานเ
“ท่านพ่อเจ้าสาวของข้ามาแล้ว เจ้าสาวของข้ามาแล้ว” “พ่อเห็นแล้วล่ะ ทำงานได้ดีมากนี่เหล่านินจาทะเลทราย” อำมาตถังพูดขึ้นมา “คงต้องขอเพิ่มค่าจ้าง เพราะข้าเสียมือดีไปสองคน” อิมรามพูดขึ้นมา ถังเล่ยได้ยินก็พูดขึ้นมา “จะเอาอะไรอีก พวกเจ้าได้แค่นี้ก็บุญหัวแล้ว” “เงียบไปก่อนเลย พวกข้าจะเพิ่มให้แต่เจ้าต้องคุ้มกันพวกเราจนกว่างานแต่งจะจบนะ” อำมาตถังพูด “ตามนั้น” อิมรามพูดจบก็เดินออกไปทันทีองค์หญิงโมลี่ฮัวยังคงตกใจและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อำมาตถังไม่ใช่ขุนนางที่เลวอะไรเลย ตรงกันข้าม เขาเป็นขุนนางน้ำดีที่รับใช้มาถึงสองแผ่นดินทำไมถึงจับตัวนางมา “ท่านทำแบบนี้ทำไมกัน” “ใจเย็นก่อนข้าไม่ได้คิดร้ายกับท่านหรอก คือลูกชายข้าหลงรักท่านมาก ข้าเลยต้องทำแบบนี้” “รัก ข้าเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียวตอนงานเลี้ยงวันเกิดเสด็จพี่หู่เองนะ แล้วจะรักข้าได้ยังไง” โมลี่ฮัวพูด ถังเล่ยรีบพูดขึ้นมาว่า “ข้าหลงรักท่านตั้งแต่แรกเห็น ทุกวันข้าก็คิดถึงท่านตลอดเลย จนข้าแทบจะอกแตกตายเมื่อรู้ว่าท่านจะต้องไปแต่งกับคนเมืองอื่นแบบนั







