“ไม่นอนกอดจินนี่หน่อยหรอคะ”
จินนี่เปร่งเสียงถามพร้อมแสดงท่าทีน้อยใจ เมื่อเห็นชายที่เพิ่งร่วมทำกิจกรรมบนเตียงกันเสร็จไม่แม้จะกอดหรือแตะเนื้อต้องตัวเธอต่อ รีบลงไปสวมใส่เสื้อผ้าที่กระจายบนพื้น ยืนติดกระดุมอยู่หน้ากระจกเตรียมพร้อมที่จะกลับ ในขณะที่เธอได้แต่นั่งเปลือยกายอยู่บนเตียง “ไว้วันอื่นนะครับ วันนี้ผมมีธุระ ” เซบาสเตียนตอบอย่างไร้เยื่อใย ธุระบ้อบออะไรไม่มีหรอก หาข้อแก้ตัวไปงั้นแหละ เสืออย่างเขามีหน้าที่แค่ปลดปล่อย พอหมดประโยชน์ก็แค่เดินออกไปอย่างไร้เยื่อใย แต่ดูเหมือนคำพูดเขาจะมีนํ้าหนักพอสมควรที่ทำหญิงบนเตียงเชื่อสนิทใจ “ งั้นก็ได้ค่ะ ไว้เจอกันใหม่นะคะสุดหล่อ” จินนี่สวนเสียงหวาน หัดออดอ้อนเอาไว้ผู้ชายจะได้ติดใจ แต่หารู้ไม่ว่าอีกคนไม่แม้แต่จะสนใจ เพียงแต่หันหน้ามายิ้มให้ตามมารยาท ก่อนจะกระตุกจัดคอเสื้อแล้วเดินออกไป คำกล่าวลาสักคำยังไม่มี “อื้มม จินนี่ชักจะติดใจคุณเข้าจริงๆแล้วสิ” เพียงแผ่นหลังที่ได้แต่มองตามยังทำให้เธอเกิดอารมณ์ได้ มือเล็กสอดเข้ารูรักตัวเองพร้อมเกลี่ยไปมารอบๆ อย่างห้ามไม่อยู่ กัดปากสูดครางในขณะที่นึกถึงบทเร่าร้อนบนเตียงเมื่อครู่ เธอชักจะติดใจเขาเข้าแล้วจริงๆ #หน้าผับ AT ฟุ่วว~ ชายร่างโปร่งยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกงข้างหนึ่งพรางเป่าควันบุหรี่กระจัดกระจายไปทั่วระแวก ในขณะที่ในหัวกำลังใช้ความคิด แล้วอยู่ๆภาพของสาวสวยที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจเขาบ่อยๆในช่วงนี้ก็ปรากฏขึ้นพร้อมเสียงหวานของเธอ ผู้หญิงที่เข้ามาห้ามเขาสูบบุหรี่หน้าร้านด้วยใบหน้าฟ้าประทานนั่น ‘คุณคะ ที่นี่ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้ค่ะ‘ “ หึ…. คิดถึงคุณขึ้นมาแล้วสิ ” ไม่รู้ว่าเธอมีอิฐิผมต่อหัวใจเขารึเปล่า แต่เธอมักจะวนเวียนอยู่ในความคิดเขาเสมอ พอนึกแล้วก็คิดถึงขึ้นมา อยากจะกลับไปนอนกกเชกเช่นคืนนั้น “ถ้าไปหาตอนนี้มันจะแปลกๆ รึเปล่าวะ… ” ในใจนึกกังวลขึ้นมา หากไปหาตอนนี้มันจะดูแปลกไปรึเปล่า ดึกๆดื่นๆไปเคาะประตูบ้านผู้หญิง ปกติก็ไม่เคยต้องมาคิดอะไรแบบนี้หรอก กับผู้หญิงคนอื่นก็แค่พาขึ้นโรงแรม แต่พอกับวิเวียนนั้นมันแตกต่าง เพราะเขาเองเก็บเธอไว้ในพื้นที่พิเศษกว่าใครๆ “นั่นสิ มันจะไปแปลกอะไรกัน ก็แค่บอกไปว่าทะเลาะกับพ่อหรือไม่ก็โดนไล่ออกจากบ้าน หรือกูควรเก็บข้าวของไปอยู่ด้วยเลยดีมั้ยวะ… แต่คืนนี้ขอไปหาก่อนแล้วกัน” พอนึกไปนึกมาสมองเกิดแล่นคิดแผนขึ้นมา จะไปหาสาวทีไรต้องมีชื่อพ่อมาอ้างตลอด เกิดพ่อได้ยินเข้าคงภูมิใจในตัวลูกชายที่เลี้ยงมากับมือไม่น้อยเลย แล้วมันก็ไม่ใช่แค่ความคิด แต่ไอ้เสื้อมันเอาจริงนี่สิ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อไม่นานแท่งบุหรี่ก็ถูกขว้างทิ้งอย่างไร่ค่า ก่อนเท้ายาวจะก้าวเดินหน้าไปยันรถคันหรูเพื่อมุ่งหน้าไปยันจุดหมายทันที ไม่นานสี่ล้อก็ขับเคลื่อนเข้ามาจอดหน้าบ้านหญิงสาว คนบนรถไม่รีรอรีบก้าวเท้าลงก่อนจะวิ่งแจ้นไปยันหน้าประตู กำลังจะกดกริ่งแต่ก็ต้องชะงักชักมือกลับเมื่อเพิ่งนึกอะไรบางสิ่งออก “ไม่ได้สิวะ ต้องเตรียมนํ้าตาก่อนดิ จะได้เนียนๆ” เซบาสเตียนพึมพำเสียงเบากับความแผนสูงของตัวเอง จะบอกเธอว่าโดนพ่อไล่ออกจากบ้านก็ต้องให้มันเนียนสมจริง ชายหนุ่มยืนเบิ่กตากว้างตากลมหนาวยามราตรีอยู่พักใหญ่จนดวงตาเริ่มแดงกํ่าด้วยความแสบคัน เมื่อพร้อมแล้วจึงยื่นมือไปกดกริ่งหน้าบ้านพรางชะเง้อหน้ามองเข้าไปด้านใน แต่กลับไร้วี่แววว่าเธอจะออกมาดู “ทำไมไม่มาเปิดวะ ไฟจากในห้องก็ไม่เปิดขึ้น หรือว่าไม่ได้ยิน” เซบาสเตียนเริ่มเป็นกังวล หากคืนนี้ไม่ได้เชยชมหน้าสวยๆเธอก่อนนอนคงหลับไม่สนิท ตัดสินใจกำลังจะกดกริ่งอีกครั้งแต่ก็ต้องเผยยิ้มดีใจออกมาเมื่อแสงไฟจากห้องนอนวิเวียนฉายขึ้นบ่งบอกว่าเธอกำลังออกมา “ฮึ่ม..!!” ชายหนุ่มรีบเตรียมเสียงเตรียมนํ้าตาให้พร้อมใช้งาน ทันไดที่ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก เสียงสะอื้นจากคนที่รอหน้าบ้านเปร่งขึ้นทันทีพร้อมโผลเข้ากอดหญิงสาว “ฮึก คุณวิ…” “คุณ!” วิเวียนตกใจวูบจนแทบหล่นไปถึงตาตุ่ม พอจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเขา เมื่อแอบส่องดูรถที่จอดอยู่หน้าบ้านอย่างละเอียดแนบเนียนก่อนออกมาเปิดประตู แต่อยู่ๆมาโผลเข้ากอดแน่นแบบนี้ใครมันจะไม่ตกใจกัน “ฮึกก…” “เอ่อ… ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ เราเข้าบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะแล้วคุณค่อยเล่าให้วิฟัง ยืนตากลมแบบนี้นานๆ จะไม่สบายเอานะคะ” วิเวียนรีบพยุงคนเจ้านํ้าตาเข้าบ้านอย่างงุนๆงงๆ จากที่ยังมึนๆจากการตื่นนอนตอนนี้ตาสว่างจนหาทางกลับไปนอนไม่เจอ “คุณนั่งรอนี่ก่อนนะคะ เดี๋ยววิไปเอานํ้ามาให้ จะได้ใจเย็นขึ้นหน่อย” สิ้นสุดคำพูดหญิงสาวตั้งท่าหันหลังกำลังจะก้าวออกไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเรียวแขนถูกดึงหมับให้ร่างเล็กเซเข้าไปหาคนที่นั่งสะอื้นอยู่บนโซฟา พร้อมกอดรัดเอวบางเอาไว้แน่น ใบหน้าหล่อซุกเข้าท้องน้อยอีกคนเหมือนเด็กต้องการความอบอุ่น “ฮึกก.. ผมขออยู่แบบนี้ซักพักนะครับ” เซบาสเตียนกล่าวเสียงอู้อี้อยู่ระหว่างหน้าท้องแบนราบ พอได้สัมผัสเธออย่างไกล้ชิดแล้วก็ยากที่จะห่าง นี่ขนาดยังไม่ได้ถึงเนื้อตัวด้วยการที่มีชุดนอนบางๆ ขวางกั้นไว้ด้านนอก กลิ่นตัวเธอยังหอมละมุนได้ขนาดนี้ ไม่อยากคิดหากได้สัมผัสผิวเนียนมันจะทำเขาครั่งขนาดไหน คนตัวเล็กไม่ได้ตอบอะไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบผมอีกคนเบาๆเป็นการปลอบ เวลานี้เขาดูน่าสงสารเหมือนคนไร้ที่พึ่ง อีกคนเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ได้ใจไปใหญ่ กอดนานจนพอใจกว่าจะยอมปล่อย “ผมขอโทษนะครับ ที่มารบกวนดึกๆดื่นๆ” เซบาสเตียนก้มหน้างุด ชักคำพูดขอโทษวิเวียนที่ลงมานั่งข้างๆ เสียงแผ่ว “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วิเข้าใจ” ส่วนแม่คุณก็นํ้าใจงามไม่เคยเปลี่ยน เข้าใจเขาไปสะทุกเรื่องเลยจริงๆ “ผมหาที่เพิ่งไม่ได้แล้วจริงๆครับ ผมแทบไม่สนิทกับใครเลย พอมีปัญหาทีไร คุณเป็นคนแรกที่ผมนึกถึงตลอด น่าแปลกนะครับ เพราะเวลาอยู่กับคุณ ผมรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก…” เซบาสเตียนอธิบายเป็นชุด ทำเอาอีกคนหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในยามอากาศหนาวๆตอนดึก ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงรึเปล่า แต่หัวใจเธอมันหวั่นไหวตลอดนั้นไม่เคยเกินจริง “ง..งั้นหรอคะ”ปึ้ง! วิเวียนที่นั่งเหม่ออยู่ในภวังค์ความเศร้าถึงกับสดุ้งโหยงเมื่ออยู่ๆซาร่าก็ทุบโต๊ะด้วยแรงโมโหจนเกิดเสียงดังปั้ง หลังจากที่เธอเล่าทุกอย่างให้ลูกน้องสาวฟัง “อะไรกันคะ! จะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว ไอ้คุณชายนั่น!” ไม่ยักรู้ว่าคนที่จะโกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแทนที่จะเป็นตัวเธอเองแต่ตอนนี้กลับเป็นซาร่าสะงั้น “ใจเย็นๆซาร่า” “จะให้ใจเย็นได้ยังไงกันคะ พี่วิรู้มั้ยคะว่าตอนนี้ซาร่าอยากทำอะไรมากที่สุด ซาร่าอยากบุกบ้านไอ้คุณชายนั่นแล้วซัดหมัดนี่เข้าเบ้าหน้าหล่อๆที่มาหลอกคนอื่นเข้าให้จนเละเลยค่ะ!” วิเวียนถึงกับยิ้มแห้งกับอารมณ์โทสะของสาวน้อยที่เธอเอ็นดูเหมือนน้องสาวมาตลอด เพิ่งจะเคยเห็นหญิงสาวตัวเล็กๆอารมณ์พรุ่งพร่านแทนเธอได้ขนาดนี้ “พี่วิไม่ต้องห่วงนะคะ พรุ่งนี้ซาร่าจะจัดการทุกอย่างให้พี่เองค่ะ” “หื้ม?” คิ้วบางขมวดอย่างไม่เข้าใจ ดูจากสีหน้าที่มุ่งมั่นของซาร่าแล้วบ่งบอกว่าเธอไม่ได้พูดเล่นๆ ยัยเด็กคนนี้คิดจะทำอะไรกัน แล้วก็เป็นแบบที่เธอพูด เมื่อซาร่ามากดกริ่งหน้าบ้านเธอแต่เช้าตอนตีสี่ วิเวียนที่เพิ่งจะผลอยหลับไปจากการนั่งคิดมากได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเดินงัวเงียมาเปิดประตู “มาค่ะพี่วิ
ถ้อยเสียงเบาแผ่วเอ่ยขึ้นดั่งน้อยใจ เรียกรอยยิ้มซุกซนจากอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างได้ใจ ดูเหมือนว่าแผนชั่วที่เพื่อนเขากล่าวจะได้ผลดีเลยล่ะ “คิดถึงผมหรอครับ” คนโตกว่ายกยิ้มเจ้าเล่ห์โน้มหน้าเข้ามาพูดไกล้อีกคนจนลมหายใจอุ่นรดเข้าสัมผัสผิวเนียน นำพาเสียงหัวใจดวงน้อยลุกขึ้นเต้นแข่งกันตุบตับ “ผมมีงานใหญ่ที่ต้องจัดการน่ะครับ พอรีบเคลียร์เสร็จผมก็รีบมาหาคุณนี่แหละอย่าน้อยใจสิครับ หื้ม” ไม่พูดเปล่า นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมอีกคนทัดหูไปด้วยอย่างอ่อนโยน ทำหัวใจดวงน้อยวูบไหวรีบหลบสายตาที่มองมา “ว…วิไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ” “งั้นก็โอเคครับ เรามานั่งคุยกันดีกว่า ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยนิดหน่อย” ดวงตาวูบไหวเงยมองเจ้าของคำพูด เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงถ้อยเสียงของเขาที่รู้สึกว่าเปลี่ยนไป หรือว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรรึเปล่า “เรื่องอะไรคะ..” “คือว่า… ผมอยากให้คุณไปจัดสถานที่ให้น่ะครับ สถานที่ขอแต่งงาน…” ดวงตาคนฟังเบิ่กกว้างเหมือนตกอยู่ในภวังค์คำพูดของเซบาสเตียน เขาหมายความยังไงถึงคำว่าสถานที่ขอแต่งงาน คำถามมากมายตีกันในหัวเต็มไปหมด ใครกันที่จะแต่งงานหรือว่าเป็นเขา แล้วถ้าหากเป็นเขาล่ะ ทุกอย่
ผ่านไปสามวัน… “พี่วิ” ซาร่าเมื่อเห็นเจ้านายสาวเอาแต่นั่งเหม่อสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ทนดูไม่ได้จึงมานั่งข้างๆ “มีอะไรรึเปล่าซาร่า” “พี่วิโอเคมั้ยคะ หลายวันมานี้ซาร่าเห็นพี่เหม่อเหมือนมีอะไรในใจอยู่ตลอดเลย” “ไม่มีอะไรหรอก…” วิเวียนก้มหน้า ปากบอกไม่มีอะไร แต่สีหน้าเธอมันบ่งบอกชัด ความจริงซาร่าไม่ต้องถามก็รู้ เพียงแต่ไม่อยากให้เธอต้องเอาแต่นั่งหมกมุ่น “เฮ้อ… พี่รอคุณชายนั่นอยู่ใช่มั้ยคะ” วิเวียนเงียบไม่มีคำตอบ แสดงว่าเรื่องจริงน่ะสิ ไม่รู้ว่าไอ้คุณชายนั่นคิดอะไร มาตามติดพี่สาวเธอเหมือนจริงจัง แต่อยู่ๆ กลับมาเล่นหายหัวไปปล่อยให้วิเวียนต้องมานั่งกลุ้ม “ไอ้คุณชายบ้านั่น อย่าให้เห็นโผล่มานะ เดี๋ยวซาร่าจะซัดเข้าให้ มาทำให้คนอื่นมีใจแล้วหายหัวไปไหนไม่รู้” ซาร่าบ่นอุบ มันน่าโมโหจริงๆเลยมั้ยล่ะ “เอาน่าซาร่า เค้าคงจะยุ่งกับงาน” “แต่ก็ควรจะบอกกันสักคำสองคำมั้ยล่ะคะ” ทันทีที่ซาร่าสวนไปแบบนั้น แววตาคู่สวยก็สั่นไหวขึ้นมาทันที ลูกน้องสาวพูดมีเหตุผลพอสมควร สีหน้าวิตกของเธอทำเอาซาร่าแทบกลืนนํ้าลายลงคอด้วยความรู้สึกผิด เธอปากมากจนลืมคำนึงถึงความรู้สึกวิเวียนเลย อยากจะตบผีใน
“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ คุณลุงสนใจดื่มชาก่อนมั้ยคะ” วิเวียนรีบยิ้มหวานชวนเบรย์เดนนั่งเป็นการไถ่โทษที่ต้องให้เขารอนาน ส่วนชายวัยกลางเมื่อสายตาสบอยู่บนใบหน้าสวยก็เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมา เธอสวยและเรียบง่ายจนสบายตาไม่พอแถมยังเพิ่มความสบายใจให้คนมองเข้าไปทวีคุณ ไม่แปลกใจหากลูกชายจะประทับใจในตัวแม่หนูคนนี้นักหนา “เอาสิ” เบรย์เดนไม่ตราหนักใจที่จะยิ้มตอบพร้อมนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนตามคำชวนของวิเวียน เขารู้สึกถูกชะตากับแม่หนูคนนี้เสียเหลือเกิน แม้กระทั่งท่าทางการรินชาของเธอยังดูเรียบร้อยสบายตาจนเขาประทับใจไม่น้อย “คุณลุงลองชิมดูนะคะ ชานี่เป็นชนิดพิเศษที่ทางร้านคิดค้นทำขึ้นมาเองค่ะ” “งั้นหรอ…” ชายวัยกลางเกิดนึกสงสัย ยกแก้วชาขึ้นจิบก็ต้องขมวดคิ้มเข้มเข้าหากัน เมื่อเพียงมันแตะถึงลิ้นเขาก็รับรู้ได้ถึงชนิดของชาทันที “ชาดอกไม้?” “ใช่ค่ะ คุณลุงเคยดื่มหรอคะ” “ภรรยาลุงชอบทำให้ดื่มอยู่บ่อยๆน่ะ” แววตาเขาดูมีความหมายเมื่อกล่าวถึงภรรยา แต่ก็แอบมีความเศร้าหมองแฝงอยู่ในนั้น จนวิเวียนที่จับสังเกตได้อดไม่ไหวที่จะพลั้งปากถามออกไป “คุณลุงคงจะรักเธอมากเลยสินะคะ..” “รักสิ รักมากเลยล่
“ร้านนี้หรอ” เสียงทุ้มจากชายวัยกลางถามขึ้น ในขณะที่สายตาทอดมองไปยันร้านดอกไม้ที่ถูกตกแต่งประดับประดาสวยงามตรงหน้า เห็นลูกน้องมันมาฟ้องนักหนาว่าเจ้าลูกชายมันหลงเจ้าของร้านดอกไม้นี้หัวปักหัวปำ ก็เกิดนึกอยากจะมาดูให้เห็นกับตาสักหน่อย “ใช่ครับท่าน” “อืม…” เบรย์เดนพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปเยือนในร้าน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความคุ้นเคยที่ห่างหายมานานหลายปี… “ยินดีต้อนรับค่ะคุณผู้ชาย” ในขณะที่สายตาคมกำลังทอดมองรอบๆ ก็เกิดเสียงหวานจากสาวน้อยแทรกขึ้นมาต้อนรับ “เชิญเดินดูได้ตามสบายเลยนะคะ” ซาร่าพูดซํ้าพร้อมยิ้มแย้มเป็นมิตร “ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านนี้ฝีมือการจัดดอกไม้ดีมากและแตกต่างไปจากใครๆ” “จริงแท้แน่นอนค่ะคุณผู้ชาย อยากได้แบบไหนสามารถบอกได้เลยนะคะ ทางเราทำได้ทุกแบบทุกชนิดค่ะ” “อืม… จะเป็นการรบกวนมั้ยครับ ถ้าผมอยากคุยกับเจ้าของร้านหน่อย” “ไม่มีปัญหาค่ะ คุณลูกค้าเชิญนั่งรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวซาร่าไปตามให้ค่ะ” ดวงตาคู่คมหันกลับไปกวาดมองรอบๆ บรรยากาศที่คุ้นเคยนี้นำพาเขาย้อนคิดกลับไปถึงวันวานเก่าๆ ในวันที่แสงแดดอ่อนๆจากท้องฟ้าสาดส่องลงมาแตะยันพื้นหญ้าเข
รอยถึงกับอ้าปากเหวอ พอเวลาธรรมดาก็เอาแต่ร้องเรียกหาแต่ว่าที่เมีย แต่พอมาเวลาแบบนี้ สันดานนักล่าผู้หญิงที่ติดตัวมาแต่เกิดก็ไม่เคยจางหายเลยจริงๆ ดูจากสายตาที่กำลังล่อเหยื่อให้ติดกับนั่นสิ แหม เดี๋ยวจะฟ้องคุณคนสวยซะเข้าให้! “หืม ให้ผมหรอครับ” คิ้วเข้มขมวดขึ้นข้างนึงเบาๆ เชิงมองหญิงตรงหน้าที่กำลังยื่นแก้วไวน์แดงให้กับเขา “รอบๆนี้คงไม่มีใครหล่อเท่าคุณแล้วแหละค่ะ” ก็แหงสิ เขามันเทพบุรุษ เซบาสเตียนเหยียดยิ้มซุกซนพร้อมยื่นมือไปรับแก้วไวน์โดยไม่ปฏิเสธ ก็ไม่ต่างจากการบ่งบอกว่าเขายอมรับข้อเสนอของผู้หญิงตรงหน้า “เห็นว่าคุณทำหน้าเครียดๆ … ก็เลยอยากจะมาเสนอเป็นที่ระบายให้สักหน่อยน่ะค่ะ” ไม่เพียงแต่พูดเปล่า หญิงสาวรีบเซร่างตัวเองเข้าไกล้เขาพรางทาบฝ่ามือบางลงบนอกแกร่งแล้วลูบไล้ไปมา ส่งสายตาอ่อยสุดฤกษ์ วันนี้ไม่ได้ผู้ชายคนนี้ไปอยู่บนเตียงก็ให้มันรู้ไป “ที่ระบาย… หึ น่าสนใจนะครับ” “ฉันไม้พายนะคะ บอกไว้เผื่อคุณติดใจอยากจะรู้จักขึ้นมา” “ไม้พาย… ชักอยากรู้แล้วสิครับ ว่าไม้พายนี้จะพาผมไปถึงฝั่งได้รึเปล่า” “ไม่ลองจะรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ” “ผมกะว่าจะรีบกลับห้องไปนอนพัก แต่ดูเหมือนม