ฟอดดดด!
“อื้อออ” เปลือกตาคู่สวยลืมขึ้นมองก็ต้องขมวดคิ้วกับสามีที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอแต่เช้า จนทำเธอตื่นไปด้วย แก้มนวลแดงชํ้าหมดแล้วมั้งถ้าจะฟัดขนาดนั้น “อรุณสวัสดิ์ครับทูลหัว” ไม่พูดเปล่า โน้มลงมาจุ๊บปากนุ่มแล้วแสดงยิ้มปริ่มให้เธอด้วย จนคนที่เพิ่งตื่นนอนต้องกระพริบมองเขาปริ๊บๆ พอได้สติแล้วนึกถึงเรื่องน่าอายเมื่อคืน สองพวงแก้มก็แดงระรื่นขึ้นมาด้วยความเขินอาย นี่เธอทำเรื่องน่าอายอะไรลงไปบ้างเนี่ย น่าอายชะมัด! ”ค..คุณไม่ไปทำงานหรอคะ“ วิเวียนรีบกลบเกลื่อนความน่าอายโดยหาเรื่องถามเขาไปเรื่อย ”ไม่ไปครับ ติดเมีย” เซบาสเตียนยิ้มซุกซน พูดแล้วก็ยิ่งกอดรัดเอวบางเข้าชิดหน้าท้องตัวเองไต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ซุกหน้าคลอเคลียกับซอกคอขาวเป็นหมาน้อย “ค..คุณไม่ไปงั้นวิไปนะคะ” วิเวียนทำท่าจะผลักเขาออกแต่ก็โดนมือหนาจับไว้ก่อน “ที่รักจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น เราจะไปฮันนีมูนกัน” “ฮันนีมูน? ไปวันนี้เลยหรอคะ” “ก็ผมอยากอยู่กับคุณสองต่อสองนี่นา” ”แต่ตอนนี้เราก็อยู่กันสองคนนี่คะ“ “สองต่อสองที่แปลว่าทั้งโลกมีแค่เราน่ะครับ“ “จะบ้ารึยังไงกันคะ“ วิเวียนขำลอดออกมาเบาๆกับความทะเล้นของสามี “ล้อเล่นน่า ผมคงไม่บ้าไปฆ่าคนทั้งโลกหรอก“ ”ค่อยโล่งอกทีค่ะ“ หญิงสาวสวนนํ้าเสียงยียวน ตั้งใจแกล้งคนทะเล้นสักหน่อย แล้วดูเขาทำหน้าบูดงอนเธอนั่นสิ น่ารักเป็นบ้า ”คุณเห็นผมเป็นคนยังไงกัน“ “ก็คง… เอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ต้องได้มั้งคะ” “แน่นอนสิครับ ไม่งั้นผมจะได้คุณมาครอบครองได้ยังไงกันล่ะ“ พอพูดถึงเรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะชักสีหน้ายิ้มภูมิใจในตัวเอง เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากเธอที่อดเอ็นดูสามีไม่ได้ “เราไปอาบนํ้ากันดีกว่าที่รักกก“ แล้วดูทำเสียงเข้า หมาเด็กชัดๆ ติดแค่ว่าแก่กว่าเธอไปนิดเดียวเท่านั้นเอง พูดเสร็จก็สะดีดสะดิ้งลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะอุ้มเธอขึ้นในอ้อมแขนทำอย่างกับเธอไม่มีความสามารถที่จะเดินเองได้แหนะ “ว..วิเดินเองได้น่า“ ”จุ๊ๆไม่ดื้อนะครับเด็กดี สามีเชื่อว่าแค่จะลุกขึ้นจากเตียงที่รักยังลำบาก เพราะงั้นให้สามีได้ทำหน้าที่รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองเป็นคนทำนะครับ“ แลดูสีหน้าเขาเหมือนจะภูมิใจกับผลงานตัวเอง วิเวียนรีบมุดหน้าเข้าอกแกร่งหนีด้วยความเขินอาย ไม่เถียงที่ว่าเธอแทบจะขยับตัวยังลำบาก เมื่อส่วนล่างเธอถูกเขาเล่นงานทั้งคืนจนรู้สึกปวดหนึบไปหมด . . อาบนํ้าเสร็จเจ้าคุณชายเซบาสเตียนก็โอบเอวเมียลงมาข้างล่างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีมีความสุขสุดๆ จนชายวัยกลางที่นั่งจิบชาอยู่บนหัวโต๊ะกินข้าวกับรอยที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับนึกหมั่นไส้ “บอสลงมาพอดีเลยครับ อีกหนึ่งชั่วโมงมีประชุมสำคัญ—“ ”อ้าว ป๊าก็นั่งอยู่นี่พอดีเลย ไอ้รอยมันบอกว่าอีกหนึ่งชั่วโมงมีประชุมสำคัญน่ะครับป๊า“ เซบาสเตียนรีบพูดแทรกลูกน้องที่ยังกล่าวไม่จบหันไปยิ้มกริ่มให้กับพ่อตัวเองหน้าตาเฉย ”อะไรของแก“ ”ป๊าก็ช่วยเข้าประชุมแทนผมไปก่อนก็แล้วกันนะครับ ผมจะไปฮันนีมูนกับเมีย“ “ไอ้ลูกเวร” เซบาสเตียนยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้ มือหนาเลื่อนขึ้นโอบไหล่บางพาเธอไปนั่งโต๊ะกินข้าวซึ่งเป็นเวลาที่อาหารถูกนำมาเสริฟจากเหล่าแม่บ้านพอดี “เอ่อ… วิว่าเราค่อยไปฮันนีมูนกันวันหลังก็ได้นี่คะ จะให้ป๊าไปทำงานแทนแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ไม่เป็นไรหรอกครับทูลหัว ป๊าทำบ่อยจะตาย จริงมั้ยครับป๊า“ ”เออ จะไปไหนก็ไป ไม่เป็นไรหรอกหนูวิลูก ไปเที่ยวตามสบายเลย งานบริษัทป๊าทำได้ชิวๆ” ประโยคแรกพูดกับลูกในไส้สะหยาบกระด้าง แต่พอประโยคต่อมาพูดกับลูกสะใภ้กลับต่างกันราวฟ้ากันเหว ตกลงใครกันแน่ที่เป็นลูกแท้ๆ “เห็นมั้ยที่รักไม่ต้องห่วงหรอก ตอนวัยรุ่นป๊าก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่เอาการเอางาน เอาแต่ติดเมียแล้วให้ปู่ทำแทน“ “ไอ้นี่ รีบๆกินข้าวแกไป ก่อนที่แก้วนํ้าชานี่จะไปถึงหัวแก” วิเวียนถึงกับยิ้มแหยให้กับความสนิทกันของพ่อลูกบ้านนี้ ช่างเข้าขากันดีสะเหลือเกิน “ที่รักกก ดูป๊าสิ ป๊าดุเค้าอ่ะ“ พอได้โอกาสก็รีบหันมาออดอ้อนซุกหน้าถูไถกับลำแขนบางไปมาอย่างกับหมาน้อยไม่มีผิด นำพาเหล่าแม่บ้านที่ยืนกันอยู่ด้านหลังต่างก็เปร่งยิ้มอุ่นใจไปด้วย พูดได้เลยว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้ยินเสียงคึกคักและเห็นมุมนี้ของเซบาสเตียนมานานหลายปีแล้วตั้งแต่ที่นายหญิงใหญ่ของคฤหาสน์จากไป แล้วในวันนี้วิเวียนคือคนที่นำพาความสุขใจกลับเข้ามาเติมเต็มให้กับคนในบ้าน ”ป๊าไม่มีเมียให้อ้อนแบบผมล่ะสิ“ เซบาสเตียนไม่หยุดเพียงแค่นั้น ยังหันไปยักคิ้วทำหน้าทำตาขิงบิดาตัวเองจนได้ เมียฉันก็แม่แกมั้ยล่ะ เบรย์เดนได้แต่ส่ายหัวไปมากับความปัญญาอ่อนของลูกชายที่หนักขึ้นทุกวัน ขนาดนี้แล้วเขาคงไม่คาดหวังอะไรจากมันแล้วแหละ แต่พอนึกย้อนกลับไปในอดีต ไอ้ลูกชายตัวแสบก็เหมือนจะไม่เพียงถ่ายทอดสายเลือดแต่ถ่ายทอดทุกอย่างเหมือนเขามาจนหมด แม้กระทั่งนิสัยการกระทำ “เฮ้ออออ…” เพี๊ยะ! “โอ้ยที่รักตีเค้าทำไม” เซบาสเตียนร้องอุทานเสียงเบา หน้าบูดเบี้ยวไปมา เมื่อฝ่ามือเล็กฟาดเข้าตรงแขนหนาแล้วทำหน้าดุใส่คนที่เอาแต่เล่น “กินข้าวได้เล่า มัวแต่ไปแกล้งป๊าอยู่ได้” “ครับ“ มองคนที่ยอมหันไปกินข้าวเป็นหมาหงอยแล้วก็อดยิ้มหวานไม่ได้ ไม่รู้ว่าเธอและเขาสนิทกันถึงขั้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้ตัวอีกที…. เธอก็ถูกเขาดึงเข้าไปในหลุมรักขั้นที่ลึกที่สุดจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเช้าของวันถัดมา ในบ้านดูเงียบขรึมทว่าในคลัวกลับวุ่นวายเต็มไปด้วยเหล่าสาวใช้ที่กำลังเตรียมมื้ออาหารให้กับเจ้านาย “มื้อเช้าวันนี้เตรียมแค่สำหรับนายใหญ่นะ“ ป้าแม่บ้านผู้เป็นหัวหน้าเหล่าสาวใช้กล่าวขึ้นในขณะที่มือจัดเตรียมนำผักไปล้างนุ่นนี่ ก่อนเสียงจากสาวใช้คนใหม่สวนถามขึ้นมาทันที ”แล้วคุณชายกับผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ“ ”ต๊าย! ไปเรียกนายหญิงแบบนั้นได้ยังไงยัยเบตตี้“ หัวหน้าแม่บ้านรีบหันมาตำหนิเสียงดุ เมื่อสาวใช้ผู้มาใหม่ทำทีเหมือนจะไม่เคารพนายหญิงของคฤหาสน์ จนเบตตี้ต้องก้มหน้าขอโทษเสียงแผ่ว ”ขอโทษค่ะ…“ ”อย่าให้ได้ยินอีกล่ะ ขืนไปเข้าหูคุณชายหรือนายใหญ่เข้า แกจะโดนเฉดหัวออกจากที่นี่โดยไม่รู้ตัวเอา“ “ค่ะ…“ ”ท่านทั้งสองออกไปทำงานแต่เช้าแล้วเหลือก็แต่นายใหญ่ เอ้ารีบๆทำเข้าล่ะ จะถึงเวลามื้ออาหารแล้ว“ หัวหน้าแม่บ้านวัยกลางคนแม้จะดูเหมือนดุหน่อยแต่ก็ยอมอธิบาย แต่ดูเหมือนสาวใช้คนใหม่จะแส่รู้กว่าที่ตนคิด เมื่อเธอเริ่มที่จะชักคำถามต่อๆมาไม่หยุด ”แล้วคุณชายจะกลับมาเมื่อไหร่หรอจ้ะ“ ”ก็น่าจะหัวคํ่าแบบทุกวันนั่นแหละ หยุดถามเรื่องไม่เป็นเรื่องและรีบๆทำงานแกไปได้ละ แล้วฉันก็ขอเตือนไว
“อย่าไปตอแยมันเลยครับคนสวย เพื่อนผมมันรักเมีย คนชอบผิดศีลธรรมอย่างคุณ เหมาะกับขุมนรกอย่างผมมากกว่านะครับ” เป็นโอทิสที่เข้ามาแทรกพร้อมชูแก้วเหล้าเป็นการชวนหญิงสาวให้มาเล่นกับเขาแทน เมื่อเห็นหน้าเซบาสเตียนมันแล้วนึกสงสารหรอกนะ เพราะเห็นว่าเมียรออยู่ที่บ้านก็เลยยื่นมือเข้ามาช่วย “งั้นกูกลับก่อนละ” กล่าวเสร็จรีบหยัดกายลุกขึ้นจนสองแขนที่เกาะอยู่บนแขนเขาหลุดออก ก็รีบหันหลังเดินหนีออกไปอย่างไว ไม่สนเสียงเรียกที่ดังตามหลัง เพราะตอนนี้เจ้าแท่งเนื้อมันคิดทรยศคำสั่งเขาและเกิดตั้งชูชันขึ้นมาอย่างต้องการน่ะสิ . . . . แกร๊ก…. ”อ้าว สามีกลับมาแล้ว—-อุ๊บ!“ ดวงตากลมเบิ่กกว้างเมื่ออยู่ๆเขาก็พุ่งเข้ามาจับข้อมือเธอทาบลงกับเตียงพร้อมทั้งกระโจนจูบปิดปากเธอจนต้องกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ เรียวปากเล็กถูกเขาจู่โจมอย่างหนักหน่วงโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ตอนนี้เซบาสเตียนเหมือนสติขาดหลุดลุ่ย สองข้อมือบางถูกเขากดทาบกับเตียงแน่นทำไม่ได้แม้แต่จะขยับหนี ทั้งร่างกายเธอก็ถูกเขาทาบทับไว้ด้วยลำตัวหนาจนไม่สามารถดิ้นได้ นี่เขาไปโดนอะไรมาถึงได้ครั่งแบบนี้ “อ..อื้ออ สามี ย..หยุดก่อน” วิเวียนรีบกล่าวห้ามเส
“สามีว่าที่รักอย่าไปเลยดีกว่านะครับ ที่แบบนั้นไม่เหมาะกับเทพธิดาของผมหรอก” เซบาสเตียนคิดอยู่สักพักใหญ่เขาก็เลือกที่จะปฏิเสธภรรยาออกไป ไม่สามารถทำใจให้เธอไปเหยียบในที่แบบนั้นได้เลยจริงๆ “ทีสามียังไป” วิเวียนย้อน แววตาจับผิดจ้องอยู่บนใบหน้าคนที่พยายามอธิบายเพื่อจะห้ามปรามเธออย่างสุดฤทธิ์ “มันไม่เหมือนกันครับทูลหัว ที่ผมไปได้น่ะ เพราะว่าผมมัน…” “มัน? คุณมันอะไรคะ” วิเวียนย้อนถามอย่างจับผิด เมื่ออยู่ๆเขาก็หยุดพูดกลางคัน “เปล่าครับ เอาเป็นว่าเมียนอนมาร์คหน้าอยู่บ้านสบายๆรอผัวดีกว่า เดี๋ยวผัวกลับมานอนกอด ไม่กลับดึกแน่นอน” คนถูกจ้องจับผิดรีบบ่ายเบี่ยงบทสนทนา ตัดจบด้วยการตัดสินใจของเขาเอง ยังไงเขาก็ไม่มีทางยอมให้เมียตัวน้อยไปในที่นั้นเด็ดขาด พูดเสร็จก็รีบโน้มหน้าหอมแก้มเนียนไปฟอดใหญ่ด้วยรอยยิ้มกลบเกลื่อนสายตาจับผิดของวิเวียน “สัญญาว่าจะกลับก่อนเที่ยงคืนแน่นอนครับ” “ก็ได้ค่ะ” “เมียใครน่ารักที่สุด” ฟอด! พอเมียอนุญาตก็รีบก้มหน้าฟัดแก้มเนียนรัวๆด้วยความหมั่นเขี้ยวจนฝ่ามือเล็กต้องดันห้าม “อื้ออ พอแล้วว” . . . . . “กรี๊ดดดดด แกรรรรหล่ออ่าาา” พอได้ก้าวเท้า
“ป๊า!! ไอ้รอย!! หายไปไหนกันหมดวะ“ เซบาสเตียนตะโกนลั่นบ้านจนผู้เป็นบิดาที่นั่งอยู่สวนหลังบ้านต้องยอมเดินเข้ามาหาพร้อมทั้งสถบด่าไปด้วยอย่างหงุดหงิด “โว๊ะ ตะโกนหาพ่อแกรึไง“ “ก็ตะโกนหาพ่อจริงๆนะครับ” รอยที่ก้าวตามหลังมาสมทบอย่างไม่นึกคิด จนโดนนายใหญ่หันมาจ้องเขม็งจึงต้องรีบปิดปากเงียบ “มีอะไรของแก” เบรย์เดนหันมาสถบถามลูกชายเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์ แต่แล้วดูไอ้ลูกเวรทำหน้าเข้า มันมีกับเขาบ้างรึเปล่าไอ้คำว่าสามัญสำนึกเนี่ย เซบาสเตียนเหยียดยิ้มภูมิใจไม่สนสี่สนห้าสนว่าพ่อจะรำคาญเขารึเปล่า แต่สิ่งที่อยากทำตอนนี้คืออวดดอกไม้ที่เมียให้‘ นึกแล้วก็ชูดอกไม้ที่หอบไว้ในอ้อมแขนโชว์หราทั้งพ่อและลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจ “ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกนะครับ แต่ดูสิ เนี่ย! มีใครได้แบบผมบ้างรึเปล่าล่ะครับ เมียทำมาง้อด้วยตัวเอง ไม่ต้องอิจฉากันเอานะครับ“ ทั้งพูดก็ทั้งยิ้มจนทำเอาคนให้ดอกไม้อย่างวิเวียนยิ้มแหยตาม นี่สามีเธออาการหนักถึงขนาดนี้เชียว ส่วนเบรย์เดนก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าไอ้ลูกเวรนี่แล้ว “สรุปแกเรียกฉันมาเพื่อสิ่งนี้?” “น
“บอส….” “บอสคะ…” เสียงจากคิร่าเลขาสาวดังเข้ามาในโสทประสาทเรียกสติคนที่กำลังเหม่อลอยกลับคืน เซบาสเตียนรีบกลืนนํ้าลายลงคอก่อนจะเมินหน้าหนีจากสิ่งล่อตาตรงหน้าที่โผล่พ้นมาให้เห็นสองร่องชัดเจน เหี้ยไรวะเนี่ย…. “บอสเป็นอะไรรึเปล่าคะ” คิร่าแสร้งถามเสียงอ่อย ทั้งที่ในใจกำลังเป็นสุขอยู่กับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอเห็นถึงสายตาของเขาที่เหม่อลอยอยู่ตรงหน้าอกเธอเมื่อครู่เต็มสองตาเลยล่ะ แม้จะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานแต่ข่าวลือที่ว่าเจ้านายเป็นเสือตัวพ่อผู้ชอบมีเหยื่อสวยๆมาขยํ้าเล่นบนเตียงนั้นเธอได้ยินมันบ่อยครั้ง ยิ่งเห็นเขาเผลอมองเธอแบบนี้ยิ่งมั่นใจว่าแผนเธอสำเร็จไปเกือบครึ่งแล้ว… “แฮ่ม… คุณออกไปรอข้างนอก เดี๋ยวเซ็นเสร็จแล้วผมเรียก” “แต่ว่า…“ “ผมไม่ชอบพูดซํ้า” เสียงทุ้มตํ่าสถบขึ้นอย่างเด็ดขาด ทำเอาคนได้ยินเสียวสันหลังวาบ จนต้องกุมมือสองข้างแน่นจำใจทำตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย ”งั้นก็ได้ค่ะ งั้นคิร่าจะไปรอข้างนอกนะคะ“ สายตาคมกริบมองตามแผ่นหลังที่ก้าวพ้นบานประตูออกไป ก่อนจะตั้งสติแล้วส่ายหน้ารัวๆปัดป่ายความคิดชั่วๆออกจากหัว “เหี้ยไรวะแม่งไอ้เซบาสเตียน! จะความรู้สึกไวเกินไป
“สามีอย่านะ!” “เหอะ.. ไม่เจอกันนานอารมณ์การควบคุมตัวเองแย่ลงนะครับ” แมกซ์ตันที่อยู่ในท่าถูกเขากระชากคอเสื้ออยู่สถบขำออกมาอย่างยียวน ก่อนเซบาสเตียนจะยอมวางหมัดลงแล้วสบัดมือออกจากคอเสื้อจนอีกคนเซไปข้างหลัง “มึงมาทำไม!” “สามีใจเย็นๆ… คุณแมกซ์ตันเค้าแค่มาซื้อดอกไม้แล้วก็บอกลาเฉยๆ เพราะเค้ากำลังจะย้ายสาขาที่ทำงานไปต่างประเทศอาทิตย์หน้าแล้ว” วิเวียนอธิบายเสียงอ่อนให้กับคนหัวร้อนฟังเพื่อให้เขาใจเย็นลง ขืนปล่อยให้แมกซ์ตันเป็นคนตอบคงได้ต่อยกันเข้าจริงๆ สองคนยืนผสานสายตากันอย่างเดือดดาลไม่มีใครยอมใคร แต่ก็ดีกว่าใช้กำลังสู้กันนั่นแหละ “แหม่… ใจร้อนจังเลยนะครับ” “ลาเสร็จแล้วก็กลับไปได้ละ แล้วก็อย่าเสือกมาจับมือเมียกูอีก” ไม่พูดเปล่า มือหนาจับไหล่บางดันร่างอรชรเข้ามาแนบชิดตัวเอง ในขณะที่สายตาไม่ได้ละเลือนออกจากหน้าอีกคนที่กำลังเหยียดยิ้มกวนเขาอยู่ “สามี….” “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณวิ ผมเข้าใจครับ คนใจร้อนก็มักจะชอบใช้กำลังแก้ปัญหาแบบนี้แหละครับ” แมกซ์ตันแขวะกลับด้วยถ้อยเสียงสุภาพต่างจากคำพูดลิบลับ แม่ง ไอ้เหี้ยนี่มันวอนโดนตีนชัดๆ ถ้าไม่ใช่ว่าเชื่อฟังคำพูดเมียนะ หน้ามันได้เละ