Share

บทที่ 7

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-17 20:47:45

หลังจากการกลับถึงบ้าน วรัญชิตาก็ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยหัวใจที่ยังคงยังคงเต้นระรัว ยิ่งยามที่นัยน์ตากลมโตเหลือบไปเห็นนิ้วเรียว ภาพของใบหน้าหล่อเหลาและสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มก็ฉายขึ้นมารัว ๆ

“บ้าจริง!”

อย่าไปไหลตามการกระทำของเขาสิ! ไอ้การเอาอกเอาใจผู้หญิงน่ะตกสาวลงท้องไปตั้งไม่รู้กี่คนแล้ว!

-Line-

คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อยหลังจากได้ยินเสียงเตือนข้อความใหม่จาก Line

[นอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้ตอนเที่ยงเรามีเดตกันนะ]

เดตงั้นเหรอ…หรือว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งในความพอใจที่เขาต้องการในรักจอมปลอมครั้งนี้ด้วย?ตอนนี้เธอตามอารมณ์คุณชายเขาไม่ทันแล้วนะ ตอนบ่ายบังคับให้เธอทำข้าวกล่องไปให้จนสุดท้ายก็โดนไล่กลับบ้าน แต่ตกดึกดันพาไปกินบะหมี่แถมยังแสดงท่าทีอ่อนโยนใส่เธออีก

[อ่านแล้วตอบด้วยครับ]

แหนะ ยังมีมาบังคับให้ตอบด้วยนะ เอาแต่ใจไม่มีใครเกินจริง ๆ

[ค่า พี่กายอยากไปไหนไวน์ตามไปหมดค่ะ]

[สติกเกอร์ยกนิ้ว]

[ฝันดีครับเด็กดี]

หึ ตอนนั้นยังแทบจะไม่มองหน้า ตอนนี้จะมาเด็กดงเด็กดีอะไร! ปากหวานธุรกิจเว่อร์

[Read.]

หญิงสาวตัดสินใจไม่ตอบอะไรกลับไป มือบางวางโทรศัพท์ลงและพยายามข่มตานอน โดยที่สมองยังคงหมุนวนไปด้วยความคิดเต็มไปหมดเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้า แถมพรุ่งนี้ยังมีนัดกับเขาอีกด้วย

เธอนอนพลิกตัวไปมาบนเตียงหนานุ่มพยายามหาท่านอนที่รู้สึกสบายและเอื้อมมือไปหยิบตุ๊กตากบยักษ์ตัวโปรดมากอดแนบอก

เมื่อร่างกายรู้สึกผ่อนคลายบวกกับความเงียบและเวลาเกือบเที่ยงคืน หญิงสาวจึงค่อย ๆ จมดิ่งสู่ห้วงนิทราโดยได้แต่ภาวนาว่าอย่าฝันถึงใครบางคนเลย…

วันต่อมา

แสงแดดยาม 10 โมง สาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างบานใหญ่ทำให้คนที่หลับไหลค่อย ๆ ลืมตาตื่นอย่างช้า ๆ

หญิงสาวหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อแสงแดดกระทบกับเปลือกตาบาง เรือนร่างนุ่มนิ่มบิดขี้เกียจเบา ๆ ก่อนจะขยับลุกออกจากเตียงนอนหนานุ่ม

ที่เธอตื่นสายเพราะว่าเมื่อคืนหลับ ๆ ตื่น ๆ กว่าจะหลับสนิทจริง ๆ ก็ล่อไปเกือบตี 3 แล้ว เพราะใครบางคนนั่นแหละทำให้เธอต้องเสียเวลานอนเลย!

“...”

ร่างระหงเดินเข้ามายังห้องอาบน้ำ และจัดการอาบน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกมาและเริ่มแต่งตัว

วันนี้เธอเลือกใส่ชุดมินิเดรสสีฟ้าอ่อนความยาวเหนือเข่าเผยให้เห็นเรียวขาขาวนวล ซึ่งแมตช์กันดีกับกระเป๋า Hermes Birkin สีครีม และรองเท้าส้นสูงสีขาว

ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มถูกดัดให้เป็นลอนเล็ก ๆ ดูมีวอลลุ่ม ใบหน้าพริ้มเพราแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ด้วยลุคที่อ่อนหวานทำให้วันนี้เธอดูน่ารักน่าทะนุถนอมราวกับตุ๊กตาเคลื่อนที่

กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็จวนจะเที่ยงแล้ว ด้วยความเป็นคนอาบน้ำนานและพิถีพิถันกว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละที เสื้อผ้าต้องปัง หน้าต้องฉ่ำ ทรงผมต้องเป๊ะ ตามวิถีไฮโซสาว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณหนูคะ คุณกายรออยู่ข้างล่างแล้วค่ะ”

“ขอบคุณค่ะพี่อิ่ม”

คนตัวเล็กไม่ลืมที่จะฉีดน้ำหอม Chanel กลิ่นโปรด ก่อนจะหยิบกระเป๋าและเดินลงไปข้างล่าง โดยทันทีที่เดินมาถึงหน้าบ้านก็เห็น Lamborghini สีน้ำเงินแสบตาจอดตระหง่านพร้อมกับคนตัวสูงที่ยืนรอข้างรถ

นี่ระหว่างเปลี่ยนเสื้อกับเปลี่ยนรถเขาเปลี่ยนอย่างไหนมากกว่ากันเนี่ย!

“สายไป 3 นาทีนะ”

ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่คนตัวสูงก็เดินมาเปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับให้เธอเข้าไปนั่งอย่างเอาใจ อืม…ตอนนี้ชักจะเริ่มไม่เข้าใจคำพูดครั้งนั้นของเขาแล้วว่า “การทำให้พี่พอใจ” นี่มันหมายถึงต้องปล่อยตัวเองให้เขาเอาใจได้เต็มที่หรือเปล่านะ?

30 นาทีผ่านไป

รถยนต์คันหรูแล่นมาจอดในลานจอดรถ VIP ณ ห้างสรรพสินค้า VN Central ที่เป็นอีกหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวหญิงสาวนั่นเอง

คนตัวเล็กลงจากรถและเช็คความเรียบร้อยของกระโปรง ก่อนเดินตามร่างสูงเข้าไปในห้าง แต่เมื่อถึงประตูก็ต้องตกใจ เพราะคนพี่ดึงมือเธอไปจับอย่างรวดเร็ว

ในใจเธอก็อยากจะขัดขืนนะแต่คนเยอะเสียเหลือเกิน จะให้เขาจับไปลากไปก็ใช่เรื่อง สู้เดินสวย ๆ สง่า ๆ คู่กับเขาไปเลยดีกว่า

“...”

สองหนุ่มสาวเดินจับมือกันมาเรื่อย ๆ จนถึงร้านแบรนด์เนมชื่อดังแห่งหนึ่ง

“ซื้อสิ เดี๋ยวพี่นั่งรอ…อยากซื้อเท่าไหร่ก็ซื้อเลย” เขายื่นบัตรเครดิต Black card ซึ่งเป็นบัตรเครดิตที่ไม่ใช่ว่าแค่รวยก็จะมีง่าย ๆ แต่ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ได้รับเชิญเท่านั้น

แต่เขาลืมไปหรือเปล่า…ว่าเขาไม่ได้รวยคนเดียว

“สงสัยไวน์จะเข้าใจผิดว่าพี่เอาใจผู้หญิงเก่ง”

“หืม?”

“บัตรนี้อาจจะทำให้ผู้หญิงที่ผ่านมาของพี่ตื่นเต้น…แต่พี่ลืมไปหรือเปล่าว่าไวน์ก็มีเหมือนกัน” หญิงสาวเปิดกระเป๋าเงินราคาแพงและหยิบ Black Card ออกมา พร้อมทั้งเหยียดยิ้มสวย ๆ ให้เขา

“หึ”

คนตัวสูงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ กับท่าทีแสนเย่อหยิ่งของคนตรงหน้า ให้ตายสิ! นี่เธอทำให้เขาพอใจจริง ๆ แล้วนะ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าเธอก็มี Black Card เหมือนกัน อย่าลืมสิว่าครอบครัวของเขาและเธอต่างอยู่ในฐานะมหาเศรษฐีหมื่นล้านทั้งคู่ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอมีอะไรบ้าง

ทั้งรถหรู เครื่องประดับหายาก ของแบรนด์เนม คฤหาสน์ราคาหลายร้อยล้าน หรือแม้กระทั่งเครื่องบินส่วนตัว เธอล้วนมีเหมือนกันกับเขาทั้งนั้น

แต่วันนี้ก็แค่อยากแกล้งเล่นเพื่อดูปฏิกิริยาของคนตัวเล็กเฉย ๆ ว่าจะเป็นยังไงแต่ผลลัพธ์มันดันออกมาถูกใจเขาเป็นบ้า!

เมื่อคืนยังเป็นแมวบ้านเชื่อง ๆ เดินตามเขาไปนั่งกินบะหมี่ต้อย ๆ อยู่เลย วันนี้กลับมาอยู่ในร่างคุณหนูแมวแร็กดอลล์แสนพยศแล้ว

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราจะทำอะไรกันดีครับ อยากเดตกับน้องไวน์จะแย่แล้ว”

“เป็นคนชวนออกมาก็ต้องคิดสิคะ”

“งั้นดูหนังเป็นไงครับ พี่มีเรื่องที่อยากดูพอดี”

“เอาสิคะ ไม่ได้ดูหนังในโรงมานานแล้วเหมือนกัน” การมีโรงหนังส่วนตัวที่บ้านนั้นทำให้เธอไม่จำเป็นต้องไปดูที่โรงให้เสียเวลาเลย

แต่วันนี้มันเป็นวันออกเดต ก็คงต้องสัมผัสประสบการณ์ธรรมดา ๆ บ้างล่ะนะ

“...”

หลังจากเดินขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้น 3 คนตัวสูงก็ไปหยุดยืนอยู่หน้าโปสเตอร์ของภาพยนต์เรื่อง Nightmare ซึ่งเป็นหนังแนวสยองขวัญที่กำลังกวาดรายได้ทั่วโลกอย่างถล่มทลาย

บอกตรง ๆ ว่าเธอก็ไม่ได้อินกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่บวกกับเป็นคนขี้ตกใจด้วย…มีหวังได้กรี๊ดจนเขาล้อเลียนกันพอดี แค่เขาซิ่งรถเมื่อคืนก็ความดันจะขึ้นแล้ว

“กำลังจะฉายแล้วพอดี ดูเรื่องนี้แหละ” เธอพยักหน้าเป็นอันตกลง ในเมื่อคนพี่ต้องการจะดู เธอก็ขัดอะไรไม่ได้

“มีที่นั่งไหนว่างบ้างครับ”

ทันทีที่เจ้าของใบหน้าฟ้าประทานเข้าไปบริเวณที่ซื้อตั๋วหนัง พนักงานหญิงก็ต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้เจอคุณกายตัวเป็น ๆ …ดูออกเลยนะว่าเป็นพวกสะใภ้มะโนกันน่ะ อย่าให้รู้ว่าคอมเมนต์ด่าเธอเชียว! แม่จะไล่ออกให้หมดเลย

“สำหรับโรงฉายภาพยนต์ VIP ยังมีอยู่ 2 แถวค่ะ ปกติจะต้องจองก่อน แต่สำหรับคุณการัณย์และคุณวรัญชิตาสามารถเลือกที่นั่งตรงนี้ได้เลยค่ะ”

ระดับลูกเจ้าของห้างสรรพสินค้ากับแฟนหนุ่มมหาเศรษฐีมาใช้บริการทั้งทีมีหรือจะต้องเสียเวลาจองก่อน

“งั้นผมจองหมดเลย 2 แถว”

“ได้เลยค่ะคุณการัณย์” คุณพนักงานกล่าวอย่างนอบน้อม ก่อนนำบัตรเครดิตที่ชายหนุ่มยื่นให้ไปแตะที่เครื่องชำระเงินอัตโนมัติ

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาในโรงภาพยนต์ VIP โดยทันทีที่ก้าวเข้าไปผิวกายอ่อนก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศในโรงภาพยนต์ ลมเย็น ๆ กระทบเข้ากับเนื้อนวลที่โผล่พ้นมาจากชุดมินิเดรสทำให้คนร่างนุ่มนิ่มตัวสั่นเล็กน้อย

แต่แน่นอนว่าในโรงหนัง VIP ที่นอกจากเก้าอี้ที่มีขนาดใหญ่และปรับนอนได้ย่อมมีบริการผ้าห่มนุ่มอยู่แล้ว

“...”

คนตัวเล็กถอดรองเท้าและพาตัวเองขึ้นไปนอนอยู่บนเก้าอี้ที่ขนาดใหญ่จนรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดอย่างอบอุ่น พลางหยิบผ้าห่มมาคลุมทั้งตัวและด้วยความที่เป็นโรงหนังชั้น VIP เก้าอี้พิเศษนี้จึงไม่มีพนักกั้นตรงกลางมารบกวนใจ

แต่ดูเหมือนว่าจะรบกวนใจเธอนิด ๆ เพราะตอนนี้แขนของเธอกับเขาแทบจะแนบกันอยู่แล้ว

“ขยับไปหน่อยได้ไหมคะ” คนตัวเล็กโน้มตัวไปกระซิบข้างหูของเขาอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวจะรบกวนคนอื่น ถึงแม้ว่า 2 แถวนี้จะไม่มีใครเพราะคนพี่เหมาหมดแล้วก็เถอะ

แต่ยัยแมวน้อยช่างไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำเมื่อครู่ทำให้คนตัวใหญ่ขนลุกซู่…

เสียงกระซิบหวาน ๆ กลิ่นกายหอม ๆ ลมหายใจอุ่นร้อนจากคนหน้าสวยนั้นมีอิทธิพลมากพอที่จะทำให้ความรู้สึกบางอย่างเริ่มตื่นขึ้นมา

“ไม่ขยับแล้วครับ ท่านี้สบายแล้ว” คนเห็นแก่ตัวไม่พูดเปล่าแต่ยังแกล้งขยับตัวเบียดร่างน้อยจนแทบจะจมหายไปกับเก้าอี้อีกด้วย

ตอนนี้เรือนร่างทั้งสองแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของกันและกัน วรัญชิตาได้แต่พยายามขยับหนีคนเจ้าเล่ห์จนสุดเก้าอี้ นี่ยังโชคดีนะที่ใช้ผ้าห่มคนละผืน ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขากับเธอก็ไม่ต่างอะไรกับการนอนข้างกันบนเตียงเลย!

หญิงสาวมองค้อนให้คนตัวสูงที่นั่งอมยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างอารมณ์ดี แม้ว่าจะอยู่ในที่สลัวแต่แววตาของเขานั้นฉายแววระยิบระยับชัดเจน คนถูกเบียดได้แต่แอบเบ้ปากใส่เขาเล็กน้อยก่อนหันมาโฟกัสกับหน้าจอภาพยนต์ที่กำลังเริ่มฉาย

ตึง!

แค่เปิดเรื่องก็ล่อ Jump Scare จนสะดุ้งไปหนึ่งที แต่คนที่สะดุ้งไม่ใช่เธอนะ แต่เห็นคนตัวใหญ่ข้าง ๆ ต่างหาก!

“...”

วรัญชิตาเม้มปากกลั้นขำ…ตอนนี้เธอรู้สึกทั้งเอ็นดูและสมน้ำหน้าไปพร้อม ๆ กัน ก็เขาเป็นคนชวนเธอมาดูเองแท้ ๆ แต่ตัวเองดันสะดุ้งจนตัวโยนขัดกับภาพลักษณ์ Bad Boy สุด ๆ

และดูเหมือนว่าคนตัวสูงเองก็จะรู้ตัว เพราะเขากระแอมแก้เขินเล็กน้อยก่อนทำท่าตั้งใจดูหนังต่อไป

“กลัวขนาดนี้กอดไวน์ได้นะคะ” เธอกระซิบแหย่เขาเล่น ๆ ตามประสาคนปากไว แต่หารู้ไม่ว่านี่คือการเปิดทางให้คนเจ้าเล่ห์แบบเขา

“อยากให้พี่กอดนี่เอง” ว่าจบเขาก็เปลี่ยนแขนที่เคยแนบชิดกันมาเป็นโอบร่างนุ่มนิ่มเข้ามาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรวดเร็ว

“นี่! ปล่อยนะ ไวน์ล้อเล่น” วรัญชิตาพยายามดิ้นหนีจากอ้อมกอดของคนพี่ แต่ยิ่งขยับก็ยิ่งรู้สึกว่าเขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนร่างกายแนบชิดกันมากขึ้นมากกว่าเดิม

“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย”

คนฉวยโอกาสแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และหัวเราะในลำคอเบา ๆ ตอนนี้สองแขนแกร่งของเขาโอบล้อมร่างนุ่มนิ่มไว้อย่างแนบแน่น พลางใช้ปลายคางเกยศีรษะน้อยไว้อย่างเอ็นดู

“หน้าด้าน ชอบฉวยโอกาสตลอด!”

“เอ้า ทีพี่ยังปล่อยให้เราลูบจนเกือบถึง…”

“กรี๊ดดด! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ ตอนนั้นไวน์แค่เมา!”

“คิดอะไรครับ พี่หมายถึงลูบแขน ลามกนะเรา”

“ไอ้…”

“ชู่ว~ อย่าเสียงดังสิ เราอยู่ในโรงหนังนะ” ยังไม่ทันจะพูดจบ ปลายนิ้วใหญ่ก็เลื่อนมาแตะริมฝีปากอิ่มก่อนที่เธอจะสาดคำด่าใส่

“ตั้งใจดูหนังได้แล้ว”

“ฮึ!” คนตัวเล็กทำได้เพียงฮึดฮัดนั่งหน้าแดงเพราะถูกเขาปิดล้อมไว้หมดทุกทาง…จากเดิมที่เคยรู้สึกหนาวเย็นจากอุณหภูมิของโรงภาพยนต์ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกร้อนผ่าวราวกับไข้ขึ้น

ถ้าความไวเป็นเรื่องของปีศาจแล้วล่ะก็ ความฉวยโอกาสก็เป็นเรื่องของการัณย์เช่นกัน!

นิ่งเป็นหลับขยับเป็นแต๊ะอั๋งของแท้!

พอตอนจูบก็จูบตอบอย่างรวดเร็ว พอเปิดทางให้หน่อยก็พร้อมโจมตีความบริสุทธิ์ราวกับเสือรอตะครุบเหยื่อเสมอ แค่แหย่ว่ากอดได้เข้าหน่อยก็กอดปุ๊บปั๊บราวกับรอคำนี้อยู่แล้ว

มันน่าข่วนหน้าหล่อ ๆ นี้ให้เลือดซิบ!

“...”

หลังจากดิ้นยุกยิกอยู่สักพักก็พบว่ามันเปล่าประโยชน์ เพราะนอกจากเขาจะไม่ปล่อยแล้วยังกอดแน่นขึ้นอีกด้วย

ร่างนุ่มนิ่มจึงทำได้แค่อยู่นิ่ง ๆ แล้วตั้งใจโฟกัสกับหนังบนหน้าจอเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกร้อนวูบวาบในหัวใจ

ไหน ๆ ก็ได้ดูหนังผีทั้งที ขอตั้งใจดูให้มันสุด ๆ ไปเลยแล้วกัน!

1 ชั่วโมงผ่านไป

ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง คนน้องตั้งใจดูหนังโดยพยายามใช้สมาธิขั้นสูงสุด ซึ่งตรงข้ามกับคนพี่โดยสิ้นเชิง เพราะเขาแทบจะไม่ได้ให้ความสนใจกับหนังมากนัก เพราะมัวแต่สนใจร่างกายนุ่มนิ่มที่อยู่ในอ้อมแขนมากกว่า

แม้ไม่ได้ตั้งใจดูสักเท่าไหร่ แต่การดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็สนุกใช้ได้…ฉาก Jump Scare ก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ ส่วนมากจะเน้นเนื้อเรื่องทางจิตวิทยาเสียมากกว่า จริง ๆ หนังมันไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น แต่ที่เขาสะดุ้งในฉากแรกมันเพราะเสียงดนตรีที่ดังขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัวต่างหาก

แต่การสะดุ้งของเขาดันไปกระตุกต่อมความปากไวของยัยน้องเข้าอย่างจัง ซึ่งมีหรือคนอย่างเขาจะปฏิเสธ ความนุ่มนิ่มลอยมาให้กอดทั้งที ใครปล่อยโอกาสให้หลุดมือก็บ้าแล้ว

โดยในระหว่างที่อยู่ในอ้อมกอดของการัณย์ มีบ่อยครั้งที่คนตัวเล็กลืมตัวไปชั่วขณะเผลอเอนกายไปพิงร่างกายแข็งแรงอย่างไม่รู้ตัว

เขาอมยิ้มน้อย ๆ ให้กับตัวเอง เพราะก็ไม่คิดเหมือนกันว่าวันนึงจะมาสนใจใครได้มากขนาดนี้แถมเป็นคนใกล้ตัวอีกด้วย

“...”

ในที่สุดภาพยนต์ก็ดำเนินมาจนจบ แสงไฟในโรงหนังค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละน้อย วรัญชิตาเงยหน้ามองค้อนคนตัวสูงที่ยังคงกอดเธออยู่ไม่ปล่อย

“ปล่อยได้แล้วค่ะ…” คนตัวเล็กออกแรงใช้ศอกกระทุ้งหน้าท้องแข็ง ๆ นั้นหนึ่งที ก่อนที่คนพี่จะยอมปล่อยให้เธอออกจากอ้อมแขน

ทันทีที่เป็นอิสระหญิงสาวก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่งโดยไม่ลืมที่จะเช็คความเรียบร้อยของเสื้อผ้าและในจังหวะที่เธอกำลังจะหยิบรองเท้าส้นสูงมาสวมคนตัวเล็กก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะการัณย์นั่งย่อตัวลงมาจะใส่รองเท้าให้เธอ

“จะทำอะไรคะ!” หญิงสาวรีบชักขาเรียวหนีแต่ถูกมือใหญ่คว้าข้อเท้าเล็กไว้ก่อนจะบรรจงสวมรองเท้าส้นสูงให้เธออย่างอ่อนโยน

“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ” คนตัวเล็กรีบก้มไปใส่รองเท้าอีกข้างด้วยความรวดเร็ว

“แค่ใส่รองเท้าให้เอง” การัณย์หยัดยืนเต็มความสูงพร้อมทั้งส่งสายตามองคนตัวเล็กเชิงว่า ‘มันก็เรื่องทั่วไป’

“ก็พี่ใส่มาให้หลายคนแล้วนี่คะ”

“หลายคนที่ไหนเพิ่งใส่ให้เราคนแรก”

“...”

“บะหมี่ก็พาเราไปกินคนแรก”

“...”

“กอดในโรงหนังก็กอดเราคนแรก”

“พอแล้วค่ะ จะพูดถึงทำไมเล่า!”

“เอ้า ไม่ใช่เรื่องไม่ดีสักหน่อย”

เขาพูดหน้าตาเฉยราวกับว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ สำหรับเขา…คือถ้าเป็นแฟนกันจริง ๆ มันก็อาจจะเกิดขึ้นได้นะ แต่นี่มันแฟนปลอม ๆ ไม่ต้องถึงกับต้องปรนนิบัติกันเบอร์นี้ก็ได้มั้ง

“มัวแต่เขินอยู่นั่นแหละ” เขาพูดพลางจับมือเธอให้เดินไปข้างหน้า “ไปกินข้าวได้แล้ว พี่หิวจะแย่แล้วเนี่ย”

“ไม่ได้เขินสักหน่อย!” คนน้องบ่นอุบอิบแต่ก็ยอมเดินตามเขาไปทั้ง ๆ ที่หัวใจยังเต้นแรง ไฟแห่งความอบอุ่นที่เขามอบให้เมื่อครู่ที่กำลังค่อย ๆ จางไปตามอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศถูกเติมด้วยความอบอุ่นของมือใหญ่ที่ไหลวนอยู่ทั่วทั้งมือน้อย

ผู้ชายคนนี้ชอบทำให้เธอใจเต้นแรงอยู่เรื่อย…

คู่รักจำเป็นพากันมาทานร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังที่เปิดสาขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ทั้งสองคนนั่งทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่เหมือนคนตัวสูงจะสังเกตว่าคนน้องสั่งอาหารมานิดเดียว

“กินน้อยจังอิ่มแล้วเหรอครับ”

“ค่ะ เดี๋ยวอ้วน”

“ตัวแค่นี้อ้วนตรงไหน”

“เดี๋ยวต้องใส่ชุดราตรีงานเลี้ยงหน้ากากไงคะ พุงออกก็ไม่สวยพอดี”

อารมณ์ที่กำลังดี ๆ ชะงักขึ้นเพราะคำว่างานเลี้ยงหน้ากาก แน่ล่ะว่าพ่อของการัณย์เองก็ย้ำนักย้ำหนาว่าเขาต้องเข้าร่วมเหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่เขาไม่อยากไปงานนั้นเลย

ปกติเขาไม่เคยพลาดงานปาร์ตี้อะไรอยู่แล้ว แต่งานนี้ค่อนข้างจะเป็นงานใหญ่ที่มีสื่อมวลชนมาร่วมด้วย ซึ่งปัญหาหลักของเขาคือการต้องปั้นหน้าทำเป็นพี่น้องที่รักกันกับเก้ากวินทร์ตลอดทั้งคืน

ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็อาจจะพอถูไถไปได้ แต่เขาสองคนเริ่มมามีปัญหาจนไม่ลงรอยกันจริง ๆ เมื่อ 3 ปีหลังนี้เอง

สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องไปร่วมงานนี้อยู่ดี เขาไม่ยอมปล่อยให้ยัยน้องไปโดยที่ไม่มีเขาหรอกนะ

“...”

“แล้วเลือกชุดไว้หรือยังครับ”

“อ้อ! จริงด้วย วันนี้ตอนระหว่างอยู่บนรถไวน์ Line คุยกับเพื่อนเรื่องชุดไว้อยู่ค่ะ”

“โป๊ไหม?”

“ทำไมคะ”

“อย่าให้โป๊มากแล้วกันครับ”

คนตัวเล็กมองเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าเข้มอย่างไม่เข้าใจ…เขาจะมายุ่งอะไรกับการแต่งกายของเธอ ปกติเธอก็เป็นสาวแซ่บมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้เปิดเผยเนื้อหนังทุกชุดแต่ก็เปรี้ยวพอตัว ที่ผ่านมาเขาไม่เคยสังเกตเลยหรือยังไง

“จะพยายามแล้วกันค่ะ” เธอตอบตกลงให้เขาสบายใจ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพบว่าตอนนี้เกือบบ่าย 3 แล้ว

“งั้นไวน์ขอตัวก่อนได้ไหมคะ จะไปดูเรื่องชุดกับเพื่อน ๆ ค่ะ”

“ก็ได้ครับ แต่ต้องให้พี่ไปส่งนะ”

“ค่ะ”

หลังจากนั้นคนพี่ก็เรียกพนักงานมาเช็คบิล เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยทั้งสองก็พากันออกจากร้านและตรงมายังลานจอดรถ

ทันทีที่เข้ามานั่งในรถเรียบร้อย คนตัวสูงก็ใช้มือขวาบังคับพวงมาลัยข้างเดียว ส่วนมือใหญ่อีกข้างก็นำมาวางบนต้นขาเรียวที่โผล่พ้นออกมาจากชุดมินิเดรส

วรัญชิตาพยายามจะแกะมือเขาออกจากต้นขาขาวนวล แต่มือที่เหนียวหนึบราวกับตังเมนี้แกะยังไงก็แกะไม่ออก

“ทำไมต้องเอามือมาวางบนขาไวน์ด้วย เอาออกไปเลยนะ!”

เดี๋ยวจับมือ,เดี๋ยวกอด แล้วนี่ยังจะเอามือมาจับต้นขาเธออีก นี่เขาจะเอาแต่ใจมากไปแล้ว!

“พี่ติดสกินชิพน่ะ”

“...”

“หยุดเลย! รู้นะจะพูดอะไร…พี่ติดแค่กับเราคนเดียว”
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 53

    และในที่สุดพิธีแต่งงานก็จบลงอย่างสมบูรณ์ สามีภรรยาป้ายแดงยืนส่งแขกอยู่ครู่หนึ่งก็พากันขึ้นไปบนห้องหอที่มีพ่อกับแม่ของทั้งสองฝ่ายรออยู่แล้วภายในห้องประกอบไปด้วย วรเวช และนุชนาท พ่อกับแม่ของวรัญชิตา และกรรชัยกับอาเมเลียแม่ของการัณย์ที่ถึงแม้จะเลิกรากับพ่อไปตั้งแต่เขายังเด็ก แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของลู

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 52

    ความหวานของคู่รักมหาเศรษฐีทำเอาทีมงานที่คอยจัดเตรียมความเรียบร้อยของงานแต่งสุดอลังการแถวนั้นอดยิ้มตามไม่ได้กลายเป็นว่าหลังจากผ่านเรื่องร้าย ๆ มาทั้งหมด วรัญชิตากับการัณย์ก็ขึ้นแท่นคู่รักสุดฮอตขวัญใจชาวเน็ตไปโดยปริยาย เพราะการแสดงออกอย่างคลั่งรักของเขาทำให้สาว ๆ หลายคนแต่งตั้งให้เขาเป็นแฟนหนุ่มในฝัน

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 51

    “แต่งค่ะ” หลังจากคำตอบแสนหวานจากคนที่เขารักที่สุดออกมา การัณย์ก็ไม่รอช้ารีบสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอทันที เขาลุกขึ้นมากอดหญิงสาวบนเตียงด้วยความรักใคร่เป็นที่สุด“พี่สัญญาว่าจะดูแลน้องไวน์กับลูกของเราให้ดีที่สุด เชื่อใจพี่นะครับ” “ค่ะ” วรัญชิตาเอ่ยออกมาทั้งน้ำตาที่เอ่อคลอไปเต็มเบ้าตา มันเป็นหย

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 50

    “อ๊า อื้อ…” คนตัวเล็กครางเสียงสั่น เธอรู้สึกถึงการหวิวในท้องน้อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่การัณย์ก็ยังคงมอบความเสียวซ่านจนสมองขาวโพลนไปหมด และในที่สุดหญิงสาวก็ทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างมีความสุข“อ๊า…” เธอปลดปล่อยหยาดธาราสีใสออกมาจนมันอาบย้อมแก่นกายที่ยังคงกระแทกเข้าออกอย่างไม่ลดละจนฉ่ำวาวไปหมดการัณย

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 49

    โพรงปากน้อยดูดดุนแท่งร้อนราวกับกำลังกินไอศกรีมแท่งโปรด แม้ว่าจะเป็นการจูบความเป็นชายของเขาครั้งแรก แต่เธอก็ทำทุกอย่างได้ดีเพราะสัญชาตญาณนำพา ยิ่งยามที่เธอใช้ปลายลิ้นเล็กตวัดเลียกายแกร่งและออกแรงดูดเม้มจนเกิดเสียงลามกขึ้น คนใต้ร่างยิ่งร้องครางออกมาอย่างเสียวซ่านความกระสันที่เมียตัวน้อยปรนเปรอให้ ทำเ

  • One Night Stand กลายเป็นแฟนได้ไง   บทที่ 48

    “อยากกอดเมีย…” “แต่พี่เพิ่งตื่นขึ้นมาเองนะคะ เมื่อกี้ยังจะตายอยู่เลย…” หญิงสาวพยายามเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย หัวใจของเธอเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมา เพราะเธอไม่ได้อยู่ในระยะใกล้ชิดกับเขามาสองอาทิตย์แล้ว“ก็คิดถึง อยากกอด อยากจูบ รู้ไหมว่าสองอาทิตย์ที่เราห่างกันพี่ทรมานแค่ไหน ใจจะขาดอยู่แล้ว” “ไม่ไ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status