Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว
Writer : Aile'N
ตอนที่ 6
Truuuu.. Truuuu..
"ฮัลโหล"
[ฉันโทรมากวนแกหรือเปล่าเนี่ย] ปลายสายถามขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เพราะน้ำเสียงเล็กของคนรับฟังดูห้วนกว่าปกติ เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง เลยกลัวว่าตัวเองจะโทรมาปลุกให้ตื่นหรือเปล่าเพราะเวลานี้ก็ใกล้จะดึกมากแล้ว
"เปล่า ยังไม่ได้นอน" อิงเอยตอบกลับด้วยน้ำเสียงแบบเดิม เธอหงุดหงิดจริงๆ นั่นแหละแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อน มันเพราะเจ้าของบ้านต่างหาก!
[แล้วทำไมเสียงห้วนๆ วะ] แพรวถามอย่างงุนงง ว่าจะโทรมาถามไถ่เรื่องที่ทำงานใหม่เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะเจออารมณ์แบบนี้
"หงุดหงิดคน" พูดไปใบหน้ากวนอารมณ์ของคนที่ทำให้อารมณ์เสียก็แวบเข้ามาในความคิด ยิ่งทำให้หงุดหงิดไปกันใหญ่
[ใครวะ ไปอยู่วันเดียวก็มีศัตรูแล้วหรอวะ] ปลายสายซักไซ้ด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็นเต็มที่
"อืม ศัตรูตัวฉกาจเลยด้วย! " เสียงหวานกระแทกบอกพลางส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ บ่งบอกว่าไม่ได้อารมณ์เสียธรรมดาๆ แพรวเองก็ค่อนข้างจะแปลกใจที่ได้ยินแบบนั้น เพราะอิงเอยเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว บางทีกำลังหงุดหงิดเรื่องนี้อยู่พอมีคนมาชวนคุยเข้าเรื่องอื่นก็หายและลืมเรื่องก่อนไปในทันที นอกเสียจากว่าจะเจอเรื่องที่มันสุดจะทนจริงๆ ถึงได้หัวฟัดหัวเหวี่ยงมาถึงเธอแบบนี้
[ใครวะ แกดูหงุดหงิดมากเลยนะเนี่ย อยากรู้ๆ บอกมา!] คนอยากรู้เร่งเร้า เริ่มจะขุ่นเคืองนิดๆ ที่อีกฝ่ายมัวแต่ลีลาไม่ยอมบอกมาเสียที
"เจ้านายฉันเองแหละ" ร่างบางยอมบอก แน่นอนว่าคนฟังคงจะอึ้งแน่ที่มาทำงานวันแรกก็มีปัญหากับเจ้านายเสียแล้ว
[จริงดิ! ? ทำไมวะ มันหัวงูใส่แกใช่มั้ย] เหตุผลเดียวที่แพรวนึกออกก็คือเรื่องนี้ เพราะเห็นเพื่อนเจอซ้ำๆ ในทุกที่ทำงาน ถามไปทั้งๆ ที่ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้านายคนใหม่ของเพื่อนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ หรือไม่ก็ทั้งหญิงและชายเป็นครอบครัว และคนเป็นสามีก็คงจะหลบภรรยามาเจ๊าะแจ๊ะเพื่อนของเธอแน่ๆ
"นั่นก็ใช่ แต่ไม่ใช่แค่นั้น ทั้งหลงตัวเอง ขี้มโนแถมยังกวนประสาทสุดๆ เลย! " รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีที่มานั่งนินทาเจ้านายให้คนอื่นฟัง แต่อิงเอยสุดจะทนเลยอยากจะระบายออกไปบ้าง แค่วันแรกเธอยังปั่นป่วนขนาดนี้แล้วต่อไปเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ แต่สังหรณ์ใจว่าต้องเจอแน่ๆ อ่ะ!
[ผู้ชายใช่มั้ยวะ] แพรวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
"เออ! เป็นหม้ายด้วย! "
[หล่อป้ะ] พอได้คำตอบก็ถามต่อไปอีกด้วยความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งได้รู้ว่าใครคนนั้นไม่มีภรรยาแพรวก็ยิ่งระริกระรี้กว่าปกติ แต่ปลายสายไม่มีโอกาสได้เห็น
"ก็หล่ออ่ะ เป็นฝรั่ง" คนถูกถามหน้ามุ่ย เมื่อเพื่อนเริ่มออกนอกเรื่องแทนที่จะสนใจในสิ่งที่เธอเล่า
[เฮ้ยเพื่อน! แกจะเกลียดเขาไม่ได้นะเว้ย หล่อรวยแบบนั้น แกต้องจับทำผัว! เข้าใจมั้ย] แพรวสั่งห้ามออกมาอย่างจริงจัง และหนีไม่พ้นเรื่องหาผัวหล่อรวยให้เพื่อน
"โว๊ะ! เลิกหาผัวให้ฉันสักทีจะได้มั้ย! " เสียงขุ่นโวยวายลั่น หน้ามุ่ยหนักกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนที่เอากาแฟไปให้ในห้องผู้ชายคนนั้นก็ถามว่าไม่สนใจอยากจะเป็นเมียเขาหรอ แล้วเพื่อนรักยังจะมายัดเยียดให้จับเขาทำผัวอีก เอาเข้าไป! ไม่ต้องหวังดีกลัวเธอจะขึ้นคานขนาดนั้นก็ได้มั้ง =_=*
[หวังดีนะเนี่ย แกกับพ่อแม่และเพื่อนสวยๆ อย่างฉันจะได้สบายสักทีไง]
"เพ้อเจอ! แค่นี้นะ หงุดหงิด! " เสียงขุ่นตัดบทและรีบวางสายไปด้วยขี้เกียจจะฟังเพื่อนรักพล่ามอะไรอีก พอไร้เสียงรบกวนก็นอนมองเพดานนิ่งด้วยความหนักใจ สักพักก็สลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งแล้วลุกไปปิดไฟนอน..
วันต่อมา..
คนตัวเล็กยืนมองประตูบานใหญ่ตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น เพราะต้องเข้าไปปลุกเจ้าของห้องอย่างเมื่อวาน และสิ่งที่พบเจอในตอนนั้นก็ทำให้เธอไม่กล้าเข้าไปอีก เลยยืนชั่งใจอยู่นานนับนาที จนกลัวว่าถ้าขืนชักช้าจะทำให้สายเลยลองเคาะประตูดังๆ แล้วเรียกดูก่อน แต่ก็ไม่มีคนมาเปิดหรือขานรับอีกเช่นเคย ก็เลยจำต้องเข้าไป..
บรรยายมันเหมือนเมื่อวานไม่มีผิด ร่างคนขี้เซายังเห็นว่านอนนิ่งอยู่บนเตียง ในลักษณะนอนคว่ำ ใบหน้าแนบไปกับหมอน ท่อนบนเปลือยเปล่า.. เห็นรอยสักรูปอะไรบางอย่างลางๆ เต็มแผ่นหลัง ท่อนล่าง.. มีผ้าห่มคลุมนับว่าโชคดี =_="
"คุณไบรอัน.. ตื่นได้แล้วค่ะ เช้าแล้ว.. คุณไบรอัน! ตื่น! " เสียงหวานตะโกนเรียกดังๆ หลังจากถอยห่างจากเตียงออกมาในระยะที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด แต่คนนอนก็ยังไม่ยอมตื่น เพียงครางท้วงเสียงอู้อี้อยู่กับหมอนเท่านั้น คนมองเลยคิดหาแผนใหม่ จนคิดออกก็เดินไปหยิบไม้แขวนเสื้อในตู้เสื้อผ้าของเขาออกมา เพื่อเอามาใช้เขี่ยปลุกใครคนนั้นแทนการใช้มือแตะตรงๆ เดี๋ยวจะโดนดึงลงไปอย่างเมื่อวานอีก =_="
"คุณไบรอัน เช้าแล้วค่ะ ตื่นๆ "
พรึ่บ!
เป็นไปตามคาด.. พอไม้แขวนเสื้อแตะลงบนไหล่กว้างของคนนอนเบาๆ ใครคนนั้นก็คว้ามือมาจับไว้แต่พอรู้ว่าเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่มือนุ่มๆ ของคนปลุกเขาก็หน้าขึ้นมามอง อิงเอยแสยะยิ้มเยาะเย้ยใส่ไบรอันด้วยความสะใจ แต่ลืมไปว่าเธอจับไม้แขวนอยู่ ซึ่งอีกคนก็จับปลายอีกฝั่งอยู่เช่นกัน
พรึ่บ!
คราวนี้เป็นร่างสูงที่แสยะยิ้มร้าย.. เมื่อความสะเพร่าทำคนตัวบางถูกดึงลงมาบนเตียงซ้ำรอยเดิมของเมื่อวานอย่างหมดท่า ไม่ถึงเสี้ยววินาทีเจ้าของห้องก็พลิกตัวมาคร่อมร่างของเธอไว้และแย่งไม้แขวนเสื้อโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี
"ปล่อยนะ! คุณจะทำอะไรอ่ะ! ? " อิงเอยพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่เรี่ยวแรงเท่าลูกแมวดิ้นไม่ระคายเคืองคนตัวใหญ่เลยสักนิด ซ้ำร้ายสองแขนยังถูกมือใหญ่รวบขึ้นไปกดไว้เหนือศีรษะ หมดสิ้นหนทางจะหนีได้อีก..
"หึ.. เก่งนักไม่ใช่หรอ เอาสิ.. คราวนี้จะหนียังไงหื้ม" ไบรอันแสยะยิ้มเย้ยขณะมองมาที่คนฟังอย่างท้าทาย แววตาของเขาเปล่งประกายเต็มไปด้วยความสนุก ในขณะที่อีกคนกำลังประสาทเสียกับการกระทำในแต่ละอย่างของเขา!
"เล่นบ้าอะไรของคุณ! ฉันไม่เล่นนะ ปล่อย! " เสียงหวานตะเบ็งใส่ร่างสูงอย่างโกรธๆ อยากจะถามเหลือเกินว่าเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่าถึงได้ชอบแกล้งเธอนัก
"ฉันก็ไม่ได้จะเล่นๆ นี่.." ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นทันทีเมื่อคนข้างบนก้มลงมากระซิบบอกเสียงพร่าที่ข้างหู ก่อนขบเม้มเบาๆ แล้วแกล้งเอาไรหนวดแข็งๆ มาถูไถกับผิวแก้มเนียนใส จงใจจะทำให้เธอรู้สึกสยิวเล่น..
"อะ อื้ออ.. หยุดนะ! " กลิ่นหอมอ่อนจากกายสาวทำคนตัวใหญ่เผลอสูดดมเข้าเต็มปอดอย่างหื่นกระหาย ร่างบางทำได้แค่หันหน้าหนีและหลับตาปี๋ด้วยความหวาดหวั่น ใจดวงน้อยๆ เต้นแรงไม่เป็นส่ำเมื่อลมหายใจร้อนๆ เป่ารดซอกคอขาวอยู่ตลอดและพลอยทำให้ร่างกายของเธอร้อนรุ่มไปด้วย แต่ก็ยังพยายามจะดิ้นรน..
"ดิ้นมากระวังอะไรของฉันมันจะทิ่มเอานะ.." คำบอกกล่าวทำการกระทำนั้นหยุดชะงักในทันทีทันใด ได้แต่นอนตัวแข็งทื่อด้วยกลัวว่าจะถูกสิ่งนั้นของเขาทิ่มอย่างที่บอกจริงๆ เธอลืมไปว่าเมื่อวานอีกฝ่ายไม่ได้ใส่อะไรนอน วันนี้ก็คงจะไม่ต่างกัน!
"ฉันตื่น.. มันก็ตื่น.. " จมูกโด่งคลอเคลียบอกอยู่ข้างแก้มใส สิ้นคำก็จับมือบางเลื่อนลงไปสัมผัสกลางกายที่กำลังแข็งขืนของตัวเองด้วยใบหน้าระรื่น
พรึ่บ
"อี๊~ ไม่นะ! ออกไป! ลามก! บ้ากาม! วิปริต! ปล่อยฉันเดียวนี้นะ!! " ร่างบางสติกระเจิง ร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่น พยายามจะชักมือกลับและดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง
"หึหึ" เสียงต่ำหัวเราะขำเบาๆ ในลำคออย่างชอบอกชอบใจเมื่อเห็นคนตัวบางเอามือตัวเองไปกอดไว้อย่างหวงๆ หลังจากที่เขาปล่อยออกเป็นอิสระ ราวกับกลัวว่าเขาจะแย่งไปอีก..
แล้วจะไม่ให้กลัวได้ยังไงกันล่ะ! แค่โดนเฉียดๆ ก็เป็นความทรงจำอันเลวร้ายมากพอแล้ว!
"ฉันจะโกรธคุณจริงๆ ด้วย! " ตากลมตวัดมองร่างสูงพร้อมกัดฟันพูดอย่างโกรธๆ เหตุการณ์เมื่อกี้ทำเธอกลัวจัดจนน้ำตาเอ่อ สติแตกอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่ใครอีกคนกลับมองว่าสีหน้าแบบนั้นมันเร้าอารมณ์ จนอยากจะแกล้งแรงๆ กว่านี้อีก..
"โกรธฉันเรื่องอะไรล่ะ ก็แค่เจ้านายหยอกลูกน้องเล่น เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไง" คนเจ้าเล่ห์บอกหน้าตาย ไม่สะทกสะท้านกับสายตาคนฟังที่จ้องมองเหมือนอยากจะแหวกอกเขาเลยสักนิด
"ใครเขาหยอกกันแบบนี้วะ ออกไปเลยนะ! ฉันจะลาออก! ไม่อยู่แล้วไอ้เจ้านายโรคจิต! " ร่างบางตะโกนใส่หน้าหล่อๆ นั้นสุดเสียง และพยายามทุบกำปั้นใส่อกแกร่งแรงๆ เพื่อให้เขาปล่อยเธอเป็นอิสระเสียที แต่ทุบแทบตายก็เหมือนทุบกำแพงหิน มีแต่เจ็บมือเสียเอง
"หื้ม? คิดดีแล้วหรอ? แล้วพ่อแม่ของเธอจะเป็นยังไงล่ะถ้าเธอออกจากงานอีก" ไบรอันเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสา ไม่ได้เรียกว่าคำถามด้วยซ้ำ มันคือถ้อยคำถากถางต่างหาก!
"นี่คุณ.. คุณสืบประวัติของฉันหรอ! ? " คนฟังเสียงหายด้วยความอึ้ง.. ในประวัติที่เธอกรอกให้เขาไปตอนสมัครงาน ไม่มีข้อมูลพ่อแม่หรือเรื่องที่เธอลาออกจากงานเป็นว่าเล่นจนสถานะทางการเงินฝืดเคืองเลย แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงถ้าไม่ใช่ว่าเขาแอบไปสืบประวัติของเธอ! ?
"นายจ้างก็ควรจะต้องรู้ประวัติลูกจ้างของตัวเองมั้ยล่ะ" ใครคนนั้นลอยหน้าลอยตาบอกราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่ถ้ารู้ถึงขนาดนี้มันก็เกินไปไม่ใช่หรือไง!
"...คุณจะเอายังไงก็พูดมาเลยดีกว่า ทำแบบนี้ทำไม! ? " อิงเอยกัดฟันแน่น พยายามข่มอารมณ์โกรธไว้ให้ลึกที่สุดเพราะสถานะกำลังตกเป็นรองทุกอย่าง เมื่อทำอะไรไม่ได้จึงตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
"ไม่รู้.. แกล้งเธอแล้วมันสนุกดี" คนพูดยักไหล่น้อยๆ ขณะพูด เหตุผลสิ้นคิดนั้นทำคนฟังจุกจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
"แค่เนี้ย? " ตากลมมองอีกคนอย่างไม่เข้าใจ ที่เธอถูกเขาปั่นหัวและทำให้กลัวสารพัดก็เพื่อความสนุกของเขาแค่นั้นเองหรอ? เหตุผลแบบนี้มันไม่เอาแต่ใจไปหน่อยหรือไง! หรือคิดว่าเป็นนายจ้างแล้วจะทำอะไรก็ได้
"อืม.." ไบรอันยอมรับอย่างไม่มีข้อแก้ตัว เขาสนุกสุดๆ ที่ได้แกล้งและดูปฏิกิริยาตอบกลับของร่างบาง ซึ่งปกติเขาไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยด้วยซ้ำ แต่กับอิงเอยยิ่งแกล้งก็ยิ่งสนุก..
"โรคจิต! ฉันก็มีหัวจิตหัวใจเหมือนกันนะ" คนใต้ร่างตัดพ้อหน้าบึ้งตึง เธออุตส่าห์หนีจากพวกผู้ชายหัวงูที่อื่นมาได้แล้วก็ยังมาเจอที่นี่อีก ไม่รู้เวรกรรมอะไร!
"หึ.."
"หัวเราะทำบ้าอะไรห้ะ! แล้วก็ปล่อยได้แล้ว ฉันยังไม่ได้ปลุกอลัน เดี๋ยวสาย! " เสียงขุ่นด่ากราดออกมาอย่างไม่ไว้หน้าเมื่อคนตัวสูงยังไม่มีท่าว่าจะสำนึก เธอเกลียด! เกลียดสายตา เกลียดรอยยิ้ม เกลียดเสียงหัวเราะ เกลียดทุกอย่างของผู้ชายคนนี้จนเข้ากระดูกดำ!
ฟอดดดด~
"อ๊ะ! ? " จมูกโด่งฝังลงมาบนผิวแก้มนุ่มพร้อมกับสูดหายใจเข้าปอดแรงๆ ก่อนผละออกไปอย่างง่ายดาย.. การกระทำนั้นทำร่างบางทั้งเขินทั้งงง แต่ไม่มีเวลาจะคิดอะไรมาก พอเป็นอิสระเธอก็รีบลุกขึ้นแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว..
..
..
"อิงเอยเป็นอะไรหรอครับ.. หน้าบึ้งตั้งแต่เช้าแล้ว อลันทำอะไรผิดหรอครับ" เสียงเล็กถามขึ้นขณะจ้องมองมาตาแป๋วๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นเหงาหงอยเพราะกลัวจะทำอะไรให้คนข้างๆ ไม่พอใจ เธอถึงได้หน้าบึ้งตึงอยู่ตลอดและไม่ยอมคุยเล่นกับเขาอย่างเคย
"เอ่อ.. เปล่าครับ รีบทานข้าวกันเถอะ เดี๋ยวไปเรียนสายนะครับ" อิงเอยอ้ำอึ้งก่อนบอกปัดเพราะไม่รู้จะตอบคำถามเด็กน้อยยังไง สิ้นคำก็เงยหน้าขึ้นมองค้อนเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันบนโต๊ะอาหาร เธอบิ้วอารมณ์ตัวเองให้กลับมาเป็นปกติไม่ได้ก็เพราะเขานั่นแหละ เรื่องเมื่อเช้าเธอพยายามจะไม่ใส่ใจแล้วแท้ๆ เขายังมานั่งจ้องหน้าเธอตลอดเวลาจนกระเดือกข้าวไม่ลงอีก!
คนถูกค้อนกระตุกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ไม่มีว่าจะสะทกสะท้านอะไรเลยสักอย่าง ร่างบางจึงเพ่งสมาธิไปที่อลันเพียงคนเดียว พยายามมองร่างสูงเป็นอากาศธาตุไป กระทั่งทานมื้อเช้าเสร็จ เธอกับเขาก็ไปส่งคนตัวเล็กพร้อมกันอย่างเมื่อวาน..
"วันนี้ฉันไม่ว่างไปรับอลันด้วยนะ ไปกับคนขับรถแล้วกัน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นขณะเดินทางกลับ โชคดีที่พ่อหนุ่มนักธุรกิจเขามีโน้ตบุ๊กติดมือขึ้นรถมาด้วย ตลอดทางทั้งขาไปและกลับเขาเลยไม่มีเวลามากวนใจเธออีก
"ดีค่ะ เบื่อขี้หน้า" คนที่นั่งมองออกนอกหน้าต่างรถตลอดการเดินทางหันมาบอกนิ่งๆ เท่านั้นก็หันกลับไป บทสนทนานั้นทำคนขับรถที่ได้ยินเต็มสองหูแอบสะดุ้งและตกใจไม่น้อยที่เห็นร่างบางพูดกับเจ้านายแบบนั้นทั้งที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสองวันเต็ม
"หึ.." ไบรอันกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างไม่ระคาย ก่อนล้วงเอาบัตรพรีเมี่ยมสีดำออกจากกระเป๋ามายื่นให้
"อะไรคะ" อิงเอยมองนิ่ง ไม่ยอมรับเนื่องจากไม่รู้จุดประสงค์ของการให้
"เผื่อมีเหตุจำเป็นต้องใช้ เช่นพาอลันไปเดินห้าง ซื้อของหรือหาอะไรกินเทือกนั้น" ร่างสูงบอกและยื่นมือค้างอยู่แบบนั้น จนคนฟังยอมรับไปโดยดี
"อู้ว ให้มาแบบนี้ฉันจะรูดเอาอะไรส่วนตัวคุณก็ไม่รู้น่ะสิ" อิงเอยแกล้งแหย่ขณะลอยหน้าลอยตามองบัตรในมืออย่างพิจารณา เกิดมาเพิ่งเคยสัมผัสบัตรเครดิตสุดหรูแบบนี้เป็นครั้งแรก จะเรียกว่าเป็นบุญหรือกรรมดีนะ เพราะนอกจากจะไม่ใช่ของตัวเองแล้วยังต้องมาคอยเก็บรักษาให้ดีไม่ให้หายอีก
"ตามสบาย.. แต่ถ้าเห็นอะไรไม่ชอบมาพากล ฉันก็แค่หักเงินเดือนเธอ" คนพูดไหวไหล่อย่างไม่ถือสา เพราะสถานะของเขาเหนือกว่าอีกคนทุกทางอยู่แล้ว
"ชิ.. ขี้งก" เสียงเบาบ่นพึมพำหน้ามุ่ย เธอก็พูดไปอย่างนั้นแหละน่า ไม่ได้อยากได้เงินของใครหรอก โดยเฉพาะคนอย่างเขา! อ้อ.. ยกเว้นเงินเดือนที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองไว้อย่างหนึ่ง!
"หึ.. ล้อเล่น เธอเองก็มีสิทธิ์ในการ์ดใบนั้นด้วย" ใครคนนั้นขำน้อยๆ เมื่อเห็นร่างบางบ่นจริงจัง เลยบอกความจริงออกไป
"ไม่เอาหรอกค่ะ ไม่อยากเป็นหนี้ใคร" เสียงหวานสวนกลับมาอย่างไม่ลังเล ไร้ท่าทีสนใจบัตรใบนั้นและเงินที่อยู่ข้างใน
"ฉันไม่ได้จะให้เธอจ่ายคืนเสียหน่อย" ไบรอันบอกอีก กะจะโชว์ความป๋าใจป้ำใส่อีกคนอย่างเต็มที่
"ไม่เอาอยู่ดีนั่นแหละ! " อิงเอยกระแทกเสียงบอกด้วยเริ่มจะหงุดหงิด ซึ่งก็เป็นผลมาจากเรื่องเมื่อเช้านั่นแหละ เธอถึงไม่อยากคุยอะไรกับเขามาก คุยแล้วหัวร้อน! หงุดหงิด!
"งานก่อนๆ เธอก็เถียงเจ้านายคอเป็นเอ็นแบบนี้หรอ? " แต่ในขณะที่ร่างบางพยายามจะหลีกเลี่ยงการพูดคุย อีกคนพอได้เริ่มพูดหน่อยกลับจ้อไม่หยุด =_="
"คุณคนแรก! หวังว่าจะรู้ตัวนะคะว่าเพราะอะไร! " เสียงขุ่นเหน็บขณะตวัดหางตามองหน้าคนฟัง
"อู้ว.. ได้เปิดซิงคนแรกเสียด้วย" ใครคนนั้นบอกเสียงหื่นๆ เจตนาไม่ได้อยู่ที่เรื่องก่อนหน้าแล้วแน่ๆ ไม่ว่าจะด่าจะว่าจะเถียงยังไง เธอก็ฆ่าผู้ชายคนนี้ไม่ตายเลยจริงๆ ลื่นไหลอย่างกับปลาไหล!
..
..
..
..
อิป๋ามีแววจะจับเด็ก ไม่ได้ถูกเขาจับนะ จะจับเขา 5555555
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 30 (ตอนจบ) "ท้องแฝดหรอคะ! ? "อายุครรภ์ราวสองเดือน อิงเอยก็เริ่มแพ้ท้องอย่างหนัก ถึงขนาดกินอะไรไม่ค่อยได้จนน้ำหนักลดฮวบ.. กลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นต่อไปจะส่งผลถึงพัฒนาการของลูกในท้องเธอก็เลยให้สามีพามาหาคุณหมอ กระทั่งมีโอกาสได้อัลตราซาวด์ดูคนในท้องคุณหมอก็บอกว่าเธอท้องลูกถึงสองคน!"ครับ นี่คนแรก ส่วนตรงนี้ก็อีกคน" คุณหมอบอกพลางเลื่อนอุปกรณ์ที่ใช้อัลตราซาวด์ไปบนท้องนูนๆ ของเธอในขณะที่มือชี้ไปยังหน้าจอมอนิเตอร์ที่ปรากฏภาพแปลกๆ ดูไม่คุ้นตาสำหรับคุณแม่มือใหม่ เธอมองไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรแต่รู้สึกตื่นเต้นจนมือสั่น และมีเหงื่อผุดซึมทั้งที่ภายในห้องแอร์เย็นเฉียบ.."แบบนี้ก็ดีน่ะสิ! โคตรโชคดีเลย ท้องครั้งเดียวได้มาตั้งสองคน" คุณพ่อลูกสอง.. ไม่สิ ลูกสามแล้วต่างหากพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตาคมยังไม่ละไปจากหน้าจอมอนิเตอร์เลยสักวินาทีเดียว"ครับ.. คนส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้น.. แต่หมอก็ให้คำแนะนำไปหลายรายแล้วว่าการท้องแฝดไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอย่างที่คิด.." คุณหมอบอกเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งงันไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาเลยจนคนฟังแอบกลัวในสิ่งที่เขากำลังจะพูด
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 29"เอ๋ น้องอลันคุณพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้วนะคะ" คุณครูประจำชั้นทำหน้าตามึนงงเมื่อเห็นคนตัวใหญ่มาถามหาลูกชายทั้งที่ก่อนหน้าไม่กี่นาทีเด็กชายถูกพี่เลี้ยงมารับกลับไปแล้ว"อ่า.. หรอครับ สงสัยเธอลืมโทรบอกผมน่ะครับ" ร่างสูงบอกก่อนยิ้มให้แล้วขอตัวกลับ ไม่ใช่แค่คุณครูที่งงเขาเองก็งงเหมือนกันว่าทำไมอิงเอยถึงมารับอลันโดยไม่บอกเขาก่อน เพราะตั้งแต่กลับมาจากเชียงใหม่เขาก็ทำหน้าที่ปลุก พาอาบน้ำแต่งตัวและไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก คาดว่าร่างบางคงอยากจะมารับอลันด้วยตัวเองและลืมโทรบอกเขาก็เลยตรงกลับบ้านเลย"มีอะไรหรือเปล่า" สองเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอหยุดชะงัก ก่อนยืนถามหัวหน้าสาวใช้ประจำบ้านด้วยความสงสัย เพราะบังเอิญเจอกันตรงทางเข้าพอดีและใครคนนั้นก็มีท่าทางแปลกๆ จ้องมองเขาด้วยรอยยิ้มเย็นๆ เหมือนมีอะไรในใจ"มีค่ะ.." เพลงบอกเพียงเท่านั้นก็หยุดเพื่อให้อีกคนถามมาก่อนถึงจะเล่าต่อ ซึ่งนิสัยแบบนี้ที่เธอชอบทำไบรอันไม่เคยชอบเลยสักที เพราะถ้าเป็นเรื่องสำคัญกว่าจะรู้เรื่องคงทำเอาหงุดหงิดน่าดู"มี
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 28ตกกลางดึกในคืนนั้น.. คนท้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะอาการปวดท้องพ่วงด้วยปวดปัสสาวะจึงลุกไปเข้าห้องน้ำ ก่อนจะกลับมา แต่อาการปวดทำให้นอนไม่ได้ ต้องดันหมอนไปชิดหัวเตียงและนั่งพิงเพื่อรอดูอาการไปก่อน ใจหนึ่งก็อยากจะปลุกสามีให้ตื่นมาอยู่เป็นเพื่อนแต่มันก็ดึกมากแล้วเลยไม่อยากรบกวนไม่รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่มันอันตรายแค่ไหน แต่มันปวดหน่วงๆ เหมือนตอนเป็นประจำเดือน ซึ่งก็ทรมานอยู่ไม่น้อย ครั้นนั่งคิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนไปห้างฯ ได้ซื้อหนังสือคุณแม่มือใหม่กลับมาด้วย เลยลุกไปหยิบมาอ่านโดยเปิดแค่โคมไฟหัวเตียง เป็นหนังสือที่เธอคาดหวังและตั้งใจจะฝากชีวิตของลูกไว้กับมัน เพราะในนี้มีบอกทุกอย่างทั้งอาการ สาเหตุและวิธีดูแลตัวเองตั้งแต่เริ่มท้องจนถึงตอนคลอด..'การปวดท้องจากการหดรัดตัวของมดลูก.. จะมีอาการคล้ายๆ ปวดประจำเดือนเพราะมดลูกมีการบีบรัดตัว แต่ปวดไม่บ่อยนัก ไม่นานก็หาย และไม่เป็นอันตราย แต่ต้องระวังสำหรับคุณแม่ท้องแก่ ถ้าปวดบ่อยๆ และถี่จนผิดปกติต้องรีบไปพบแพทย์'ดวงตากลมไล่อ่านทุกข้อความในหนังสือหน้าที่พิจารณาแล้วว่าตรงกับอาการของตัวเอง เ
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 27วันต่อมา..ไบรอันกับอิงเอยบินกลับกรุงเทพฯ ในตอนเกือบเที่ยง ก่อนจะถึงวันงานแต่งอย่างเป็นทางการพ่อกับแม่ของเธอถึงจะบินตามมาร่วมงานพอกลับมาถึงบ้านทั้งคู่ก็ต้องตกใจเพราะว่าอลันไม่ได้ไปโรงเรียนอย่างที่คิดและควรจะเป็น เพลงบอกว่าเจ้าตัวเล็กคิดถึงพ่อกับแม่เลยงอแงไม่อยากไปเรียน เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องมาตั้งแต่เช้า ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดีแต่เหมือนวันนี้จะทนไม่ไหวงอแงออกมา แต่เพลงก็ไม่ได้ละเลยคอยไปดูอยู่ตลอดและเพิ่งจะกลับลงมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง"หม่ามี้! ฮื่ออออ อลัน ฮื่อ คิดถึง" เมื่อรู้ข่าวอิงเอยก็รีบตรงขึ้นไปหาเด็กชายบนห้องโดยมีคนตัวใหญ่เดินตามมาติดๆ ทันทีที่เจอหน้ากันอลันก็ปล่อยโฮออกมาแล้ววิ่งเข้ามากอดเธอไว้แน่น"โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง มี้กลับมาแล้วครับ ชู่ว~" เสียงหวานเอ่ยปลอบขณะโอบกอดร่างเล็กๆ นั้นไว้ด้วยความรัก ก่อนจะอุ้มขึ้นเพื่อพาไปนั่งบนโซฟาดีๆ"ฮื่อๆ หม่ามี้.. อึก ไปไหนมา ฮื่อออ" เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเด็กชายทำอิงเอยสงสารจับใจ แต่คนเป็นพ่อกลับนั่งมองยิ้มๆ เพราะอยู่ด้วยกันมาเพียงเดือนกว่าๆ เท่านั้นอลันก็ติดร่างบาง
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 26เมื่อผ่านด่านพ่อตาขาโหดมาได้ (อย่างทุลักทุเล) งานแต่งงานแบบเรียบง่ายก็ถูกจัดขึ้นที่แรกยังบ้านเกิดของฝ่ายเจ้าสาว ก่อนที่จะจัดงานใหญ่อีกครั้งที่กรุงเทพฯ โดยแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ก็เชิญแค่ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงคนสนิทกันเท่านั้น เป็นงานผูกแขนสวมแหวนกันธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาเห็นทีจะเป็น 'สินสอด' ที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องล่ำลือกันไปทั่วทั้งตำบล!เงินสดจำนวนร้อยล้านบาทที่ต้องวางใส่พานใบใหญ่ถึงสิบใบถึงจะพอบวกทองคำแท่งหนักเท่าน้ำหนักตัวเจ้าสาวและรถยนต์ขนาดครอบครัวอีกหนึ่งคัน แค่นั้นก็มากเกินพอที่จะกลบคำครหานินทาและทำให้คนเป็นพ่อแม่ถึงกับยิ้มหน้าบานตลอดงานเพราะได้ยินแต่คำสรรเสริญเยินยอไม่ขาดสาย แม้จะเหมือนเป็นงานเล็กๆ แต่เจ้าของบ้านก็ถึงขั้นลงทุนปิดบ้านเลี้ยงฉลองทั้งแขกที่มาร่วมงานและบรรดาคนงานในไร่ตลอดทั้งวัน"ไปพักกันเถอะลูก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เดี๋ยวพวกนี้แม่กับเด็กๆ เก็บกวาดเอง" คนเป็นแม่เดินมาบอกคู่บ่าวสาวในตอนงานเลิก แม้สามีกับพวกคนงานในไร่จะยังตั้งวงสังสรรค์กันอยู่ อิงเอยพยักหน้ารับคำก่อนพาไบรอันขึ้นห้องไปพักผ่อนเพราะเหนื่อยกันมาท
Single Dad คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว Writer : Aile'Nตอนที่ 25"คุณ! ปะ เป็นยังไงบ้างอ่ะ เจ็บมากหรือเปล่า แล้วทำไมเดินออกมาแบบนี้! ? " คนที่รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินรีบพุ่งเข้าไปหาคนเจ็บที่เดินออกมาด้วยท่าทางอิดโรย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยอาบไปด้วยเลือดจากบาดแผลเพราะไม่ยอมให้หมอเปลี่ยนเป็นชุดคนไข้และนอนค้างที่นี่เพื่อรอดูอาการ"ฉันไม่เป็นไร กลับกันเถอะ" ไบรอันบอกก่อนเดินนำไปก่อนอย่างไม่สนใจอะไร เขาอาจจะบ้าที่บอกให้หมอใช้แค่ยาชาช่วยในการผ่าเอากระสุนออก พอทำแผลเสร็จก็ปฏิเสธที่จะแอ็ดมิทและเดินโทงๆ ออกมา เหตุผลก็แค่ว่าเขาไม่ชอบโรงพยาบาล.."กะ กลับเลยหรอ? แต่หน้าคุณซีดๆ นะ" อิงเอยเลิกลั่ก เร่งฝีเท้าเดินตามอีกคนมาจนทันและพยายามจะแย้งด้วยความเป็นห่วง เลือดไหลเยอะขนาดนั้นเขาควรจะถูกเข็ญออกมาด้วยรถเข็นแบบนั่งหรือไม่ก็เตียงแล้วพาไปที่ห้องพักฟื้นสิ ไม่ใช่แบบนี้!"จัดการเรื่องยากับค่ารักษา ฉันจะไปรอที่รถ" คนตัวใหญ่ไม่ได้พูดอะไรกับร่างบางอีก เพียงหันไปบอกคินที่เดินตามมา แล้วจูงมือเล็กพาเดินกลับไปที่รถท่ามกลางสายตาผู้คนรอบข้างที่มองมาอย่างสนใจ เพราะเลือดสีแดงสดมันแปดเปื้อนตามตัวและเสื้อผ้าของทั้งคู่จนแยกไม่ออกว่าใคร