Accueil / โรแมนติก / So What รักแล้วให้ทำไง / บทที่ 8 เค้าท์ดาวน์

Share

บทที่ 8 เค้าท์ดาวน์

Auteur: Phat_sara
last update Dernière mise à jour: 2025-06-15 16:34:10

​“พี่ไพรบกวนเข้ามาพบผมหน่อยครับ”

ก๊อก ๆๆ

“คุณฟรังซ์มีอะไรให้พี่รับใช้คะ” แค่ผมบอกไม่ถึงสามสิบวินาทีเลขามือฉมังที่เคยเป็นอดีตเลขาของพ่อก็รีบเข้ามาหาผมในทันที

“ผมอยากจัดงานเลี้ยงสิ้นปีให้พนักงานน่ะครับ พี่ไพจัดการให้ผมหน่อย” พอผมพูดจบพี่ไพก็ทำหน้างง

“พี่ไพไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหนรึเปล่าครับ”

“เปล่าค่ะคุณฟรังซ์ แต่ปาร์ตี้ปีใหม่บริษัทเราก็มีทุกปีอยู่แล้วนี่คะ”

“ผมทราบครับแต่ปีนี้ขอพิเศษหน่อย พี่ไพเขียนโครงการให้ผมที ไม่ต้องให้ใครมารับผิดชอบนะครับเดี๋ยวผมจัดการที่เหลือเอง ขอบคุณมากครับ” ผมสั่งไปเท่านั้นแล้วก็ก้มหน้าดูเอกสารต่อ พี่ไพแกก็รู้งานครับ ถึงจะงงแต่เดี๋ยวแกก็แก้ปัญหาและจัดการได้อยู่ดี

อีกสามอาทิตย์จะปีใหม่ บริษัทผมมีปาร์ตี้ทุกปีแต่ผมเพิ่งได้ร่วมเมื่อปีที่แล้วเพราะเรียนจบแล้วก็มาเป็นรองประธานบริษัทจนปีนี้ได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทเต็มตัวผมขอลงความเห็นเลยว่าปาร์ตี้ปีที่ผ่านมามันโคตรห่วย ห่วยแตกโคตร ๆ นั่งกินโต๊ะจีน มีนักร้องบนเวทีคั่นด้วยการจับฉลากของรางวัลจากบริษัทเป็นระยะ ๆ ห่วยแตกไหมล่ะครับ เพราะฉะนั้นปีนี้ท่านประธานอย่างผมจะเสิร์ฟความมันให้พนักงานทุกคนเอง

ตื๊ดดดด ตื๊ดดด

ติ๊ด!

(ว่าไงไอ้ร่าน)

“ฮึ! มึงว่างไหม”

(ไม่ว่างหาเงินใช้อยู่)

“โอเคเดี๋ยวกูเข้าไปหา”

(มึงจะเข้ามาทำไม กูบอกว่าไม่ว่างไงวะ)

“เรื่องของมึง กูกำลังออกไปแล้ว” ผมพูดจบก็ตัดสายทิ้งทันที

-หนึ่งชั่วโมงต่อมา-

“กูโคตรงงเลยว่าทำไมบริษัทมึงไม่เจ้งสักที อยู่ในเมืองรถติดฉิบหาย ถ้ากูเป็นลูกค้ากูไม่ฝ่ารถติดมาจ้างบริษัทมึงแน่นอน” ทันทีที่ผมมาถึงก็โผล่พรวดเข้าไปในห้องทำงานของเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ โผล่มาพร้อมกับเสียงบ่นจนมันตกใจ

“ไอ้เหี้ยฟรังซ์ มาไม่ให้สุ้มให้เสียง”

“ขวัญอ่อนจริง ๆ นะมึง ทำไมวะตกใจนึกว่ากูเป็นเมียที่หนีหายเหรอ” ผมเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามมันแล้วก็แซวให้มันปวดใจเล่น ๆ

“ปากหมาติดเพื่อนรักมึงมา?” มันทำหน้าอารมณ์เสียใส่ผมทันทีที่มีเรื่องไปกระแทกใจ

“มึงก็เพื่อนรักกูเหมือนกันน่า ปากหมาได้จากไอ้กราฟนิดหน่อย ความร่านก็ได้จากมึงนิดหน่อยไงแชร์ ๆ กัน” ผมขยายความให้เข้าใจ ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนรักสมัยมัธยมครับ ที่จริงผมไม่ได้มีแค่ไอ้กราฟเป็นเพื่อนหรอก เรามีกันห้าคนแต่พอไอ้กราฟกับไอ้คริชทะเลาะกันก็เลยแยกเป็นสองฝั่ง 2 : 2 ส่วนอีกหนึ่งที่หายไปไอ้นั่นมันไม่สนใจใครหรอก มันหายไปเพราะปัญหาครอบครัวก่อนกลุ่มเราจะแตกอีก อย่าไปพูดถึงมันเลยไอ้คนไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น

“พูดธุระของมึงมาไอ้ฟรังซ์กูมีการมีงานทำ”

“รีบร้อนจังเลยครับพี่พอร์ชครับ จะรีบไปหาเด็กที่ไหนครับ”

“เด็กพ่อง! พูดมาไม่งั้นกูจะเอาน้ำสาดไล่” มันยกแก้วน้ำขึ้นมาทำท่าทางจะสาดใส่ผมจริง ๆ ผมก็เลยยอมเงียบปาก

“เออ ๆ กูไม่เล่นแล้ว กูจะมาจ้างบริษัทมึงจัดปาร์ตี้ปีใหม่ให้หน่อย”

“ปาร์ตี้ปีใหม่? ธีมอะไรถ้ามั่วเซ็กซ์บริษัทกูไม่รับ” มันพูดแล้วก็ก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ ดูท่าทางไม่ค่อยสนใจคำพูดของผมสักเท่าไหร่

“ปาร์ตี้แบบนั้นกูจัดเองก็ได้ครับ ปาร์ตี้ปีใหม่ของบริษัทกูต่างหาก” พอผมพูดเป็นการเป็นงานมันก็เลยยอมเงยหน้ามาคุยกับผมดี ๆ

“แค่ปาร์ตี้ปีใหม่ มีแค่ปิ้งย่างกับจับฉลากก็ได้จะต้องจ้างทำไมวะ”

“ก็กูไม่อยากได้ปาร์ตี้ธรรมดา ขอริมสระบรรยากาศแซ่บ ๆ ดีเจสวย ๆ อกบึ้ม ๆ มีนางฟ้าเล่นน้ำทั้งคืน เอนเตอร์เทนเยอะ ๆ มีปัญญาทำไหมวะ”

“สัส! มีปัญญาจ่ายรึเปล่าเหอะมึง” มันเห็นผมพูดสบประมาทก็เลยพ่นคำหยาบใส่หน้าผมกลับมาบ้าง

“กูทุ่มไม่อั้นขอแค่ให้พนักงานในบริษัทกูสนุกก็พอ” ผมอยากให้ทุกคนในบริษัทเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความกระชุ่มกระชวย ใครเป็นคุณป้าเป็นแม่ชีมาทั้งปีก็จะได้กลับมาเป็นสาวบ้าง ส่วนผู้ชายก็ไม่ต่างกันบางคนแทบจะเป็นมหาอยู่แล้ว ผมเห็นแล้วไม่เจริญตา

พ่อมหา คุณป้า หรือแม่ชีที่ผมหมายถึงไม่ใช่การมีศีลนะครับ ถ้าเป็นคนดีเป็นนักปฏิบัติผมก็ไม่อยากทำให้ใจแตกหรอก ผมหมายถึงความอึนความเฉื่อยต่างหาก หลายคนในบริษัทไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่าทำงานเหมือนกำลังนั่งสมาธิก็ไม่ปาน ผมเห็นแล้วก็จะหงอยตามเลยอยากสร้างขวัญกำลังใจปลุกพลังกันหน่อย

“โอเคโอนเงินมาเดี๋ยวกูจัดการให้” มันก้มหน้าทำงานแล้วก็พูดสรุปง่าย ๆ

“ไม่คุยรายละเอียด?”

“มึงบอกแล้วไง”

“ไม่เซ็นสัญญาว่าจ้าง?”

“ไม่กูยุ่งอยู่”

“บริษัทมึงคุยงานกับลูกค้าแบบนี้เนี่ยนะไอ้พอร์ช”

“กูไม่ได้เชิญมึงมานี่ไอ้ห่า มึงเสนอหน้าเข้ามาเองทีหลังก็นัดล่วงหน้าสิวะ”

“ไอ้เหี้ย บริษัทมึงจะเจริญได้ยังไงทั้งที่มีประธานขี้เกียจแบบมึงไอ้พอร์ช”

“กูก็มองไม่เห็นความเจริญของบริษัทที่มีประธานจัญไรแบบมึงเหมือนกันไอ้ฟรังซ์” ฮึ! พูดกับหมาหมาเลียปากว่ะ

-สามอาทิตย์ต่อมา-

“ขอบคุณมาก ๆ เลยนะน้องเพลงที่มาช่วยไม่งั้นพี่ตายแน่ ยัยลิลลี่เกิดโดนผัวซ้อมกะทันหัน” พี่จีน พี่ออแกไนซ์เข้ามาขอบคุณฉันยกใหญ่เพราะฉันรีบเหมาแท็กซี่มาพัทยาหลังจากที่พี่เขาโทรไปอ้อนวอนให้มาช่วยเป็นการด่วนเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว

“ไม่เป็นไรค่ะพี่จีนแต่เพลงกลัวทำงานล่มมากกว่า เพลงเพิ่งไปเรียนมาเองจบคอร์สแรกมาหยก ๆ กลัวทำได้ไม่ดีเลยค่ะ” ฉันทำหน้าหวั่นใจ งานวันนี้ที่ฉันต้องมาด่วนเพราะว่าลิลลี่ DJ สาวสวยสุดแซ่บที่จะรับหน้าที่เปิดเพลงเอนเตอร์เทนแขกในงานปาร์ตี้ปีใหม่ริมสระดันโดนผัวจับได้ว่าไปมีกิ๊กก็เลยโดนกระทืบจนหน้าบวม ลิลลี่มาไม่ได้และคนอื่น ๆ ก็ติดงานกันหมดเพราะวันนี้มันวันปีใหม่ไงคะ มีแค่ฉันมั้งที่ไม่รับงานนอนเกาตูดอยู่ที่คอนโด

“เพลงทำได้พี่เชื่อ ขึ้นไปก่อนเดี๋ยวช่วงสี่ทุ่มมีอีกคนมา รอเขาจบอีกงานแถวพัทยานี่แหละเดี๋ยวเขาตามมาช่วย”

“ฟู่ว์~ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย แสดงว่าช่วงแรกเพลงแค่เปิดเพลงสนุก ๆ สลับเบา ๆ ก็ได้ใช่ไหมคะ”

“ใช่จ้า ไปแต่งตัวเนอะเดี๋ยวงานจะเริ่มแล้ว”

หลังจากนั้นฉันก็พุ่งไปแต่งตัวดีนะที่ชุด DJ มันเช็กซี่แบบสปอร์ต แต่คนอื่นนี่แทบจะใส่บิกินี่อยู่แล้ว ฉันได้ข่าวแว่ว ๆ เมื่อกี้ว่าเจ้าของบริษัทเป็นคนเตรียมปาร์ตี้เซอร์ไพรส์พนักงานเอง ไม่มีใครรู้ว่าปาร์ตี้ริมสระวันนี้จะแซ่บแค่ไหน ฉันว่าเจ้าของบริษัทต้องหื่นมากแน่ ๆ เพราะมีทั้งบันนี่เกิร์ล บันนี่บอยมาคอยสร้างความสนุกในงาน

“พี่หลินขาปาร์ตี้ของบริษัทอะไรเหรอคะ พอดีเพลงมาด่วนไม่ทันได้หาข้อมูลงานเลย” ปกติฉันไม่รับงานวันเทศกาลอยู่แล้วค่ะแต่ครั้งนี้คือน้ำใจจริง ๆ พี่ทีมงานเขาหาคนไม่ได้ก็เลยมาช่วย ส่วนพี่หลินก็เป็นเพื่อนที่ทำงานมาด้วยกันวันนี้พี่หลินมาเป็นบันนี่เกิร์ลคอยเอนเตอร์เทนแขก ไม่ใช่ไปนั่งดริ๊งซ์นั่งยั่วนะคะแค่คอยสร้างสีสันเป็นอาหารตาแต่ห้ามล่วงเกิน

“อ๋อน้องเพลงมาแทนลิลลี่นี่เนอะ งานของบริษัท XXX จ้า เจ้าของหล่อมากแซ่บเวอร์ อิอิ” พี่หลินหันมาบอกแล้วก็ทำหน้าดี้ด้าตอนพูดถึงเจ้าของ แต่สำหรับเพลงขวัญที่ได้ยินมีแค่คำเดียวเท่านั้น

ซวย!

ไม่สิคะ 3 คำก็ได้

...ซวย ซวย ซวย!

“เพลงขวัญเสร็จรึยังลูกไปเร็ว” ความซวยจากการได้ยินยังไม่บรรเทาความซวยจากการต้องออกไปเผชิญหน้าก็เข้ามาแทรกต่อทันที

“ค่ะ” ตอนนี้ฉันห่อเหี่ยวสุด ๆ เลยค่ะ ขอให้เขาแค่จัดงานปาร์ตี้ให้พนักงานแต่ตัวเองไปเคาท์ดาวน์กับผู้หญิงสักคนที่อื่นเถอะนะอย่าอยู่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันในคืนสิ้นปีเลย

วู้ว! ไปเพลงขวัญ! เจอก็เจอวันนี้มาช่วยงานพี่ ๆ ไม่ได้ตั้งใจอยากรับงานบริษัทเขาสักหน่อย

หลังจากทำสมาธิเสร็จฉันก็ออกไปวาดลวดลายการเป็น DJ ครั้งแรกในชีวิต โชคดีที่เป็นช่วงเริ่มปาร์ตี้เลยไม่ต้องหนักหน่วงเท่าไหร่ อาศัยก๊อบปี้ท่าทางจาก DJ ดัง ๆ มาช่วยก่อนเพราะตัวเองยังไม่มีประสบการณ์ บิด ๆ กด ๆ ถู ๆ นิด ๆ หน่อย ๆ แล้วก็ยกมือขึ้นปรบไปหนึ่งครั้งแล้วชูมือจากนั้นก็โยก ๆๆ แล้วยิ้มกระจายใส่แขกทุกคนไม่ว่าจะชายหรือหญิงแค่นี้ทุกคนในงานก็สนุกไปพร้อมกับฉันแล้ว ส่วนคนที่อยากเจอยังไม่เจอหรอกน่าจะไปเคาท์ดาวน์กับสาว ๆ มากกว่ามาจับฉลากของขวัญปีใหม่กับพนักงาน

“ทำดีมากค่าน้องเพลง” นี่คือคำชมที่ได้ยินมาหลายรอบแล้วหลังจากที่ฉันลงมาจากเวทีและพี่ DJ อีกคนเขาก็ขึ้นไปต่อ

“ขอบคุณมากค่ะ เดี๋ยวเพลงขอออกไปสูดอากาศหน่อยนะคะ เมื่อกี้โยกจนร้อนแถมแขกรินเหล้าให้กระจายเลย ฮ่า ๆๆ” ฉันเริ่มมึนจริง ๆ ขอออกไปสูดอากาศหน่อยแล้วค่อยกลับเข้ามานั่งเล่นหรือคอยช่วยคนอื่นต่อดีกว่า

ฉันเดินออกมาหน้าหาดห่างจากปาร์ตี้ไม่ไกล มายืนรับลมกับยืนทำใจเพราะปีก่อนก็มาที่พัทยาเหมือนกัน มาเคาท์ดาวน์กับแฟน เฮ้อ! แฟนเก่าต่างหาก...

ฉันกับกายเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ ม.ปลาย พอเรียนจบก็สอบติดมหาลัยเดียวกัน ความจริงเราปิ๊งกันมานานแล้วค่ะแต่ฉันเพิ่งตกลงคบกับเขาตอนเรียนมหาลัยเพราะรู้สึกว่าเราทั้งคู่โตขึ้นแล้ว คบกันตอนนี้ดีกว่าตอนเป็นเด็กมัธยม ไม่อยากคบแบบ Puppy love กลัวความสัมพันธ์พัง แต่สุดท้ายก็พังอยู่ดีเพราะเขาไม่ซื่อสัตย์ คนดีที่ดีมาตั้งนานดันมาดีแตกตอนท้าย มัน...บัดซบกับใจฉันชะมัด

“ฮึก!” พอเมาแล้วก็จะเศร้าอยู่นิดหน่อยแบบนี้เป็นประจำเลย รักแรกมันลืมยาก ไม่ใช่ยังรักมากนะคะแต่แค่ยังไม่ลืม

“ไง ไหนบอกว่าบริษัทผมติดแบล็คลิสไปแล้วครับคุณเพลง...ขวัญ” ในระหว่างที่ฉันกำลังทอดสายตามองคลื่นกับสายน้ำที่หายไปกับความมืดเสียงกวนประสาทก็ดังขึ้นมา

“นึกว่าไม่มาแล้วนะคะ” ฉันหันไปหาต้นเสียง เขานั่นล่ะไม่ใช่ใครหรอก

“มาสิ เสียเงินจ้างบริษัทไอ้พอร์ชจัดงานให้ตั้งหลายแสนทำไมจะไม่มา แต่มาแล้วก็เซ็งเพราะดันมีเด็กเส้นขึ้นไปเป็น DJ ในปาร์ตี้สะงั้น” เขายืนเอามือล้วงกระเป๋ามองตรงไปที่ทะเลข้างฉัน แต่ก็ไม่วายกระแนะกระแหน

“ใครเด็กเส้น?” นี่เขายังคิดว่าฉันเป็นเด็กคุณพอร์ชอีกเหรอ ความคิดบ้า ๆ พวกนี้ช่วยลบออกไปจากสมองสักทีได้ไหมถ้าไม่มีหลักฐานอะไรนอกจากคำบอกเล่าของยัยซีแนม

“เธอไงหรือไม่จริง มิกซ์เพลงเก้ ๆ กัง ๆ ยังได้ขึ้นเวที”

“ไม่ใช่แล้วคุณ ฉันมาช่วยเพราะ DJ ตัวจริงไม่สบายต่างหาก” ฉันไม่ได้แคร์เขาจนต้องรีบอธิบายนะคะแต่ฉันไม่ชอบให้ใครมามองว่าฉันเป็นเด็กใครแบบนี้ เด็กเส้นงั้นเหรอ? อีตานี่ไม่รู้สินะว่าเพลงขวัญคนนี้เป็นพริตตี้โนเนมแบบนี้มากี่ปีแล้ว

“เหรอ~”

“ถึงจะไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องทำเสียงเสียมารยาทเลยนะคุณ” ฉันหันไปบอกเขาดี ๆ ขี้เกียจจะมีเรื่องกับเขาแล้ว เอาไว้วันหลังถ้าเขามากับยัยซีแนมแล้วเมียเขามาป่วนฉันเหมือนอย่างที่เคยค่อยทะเลาะต่อแล้วกัน

“อืม ขอโทษก็แล้วกัน” เขาพยักหน้ารับแล้วก็หันกลับไปมองที่ทะเลอีกครั้ง

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วคุณช่วยไปไกล ๆ ได้ไหมคะ ฉันกำลังเมาแล้วก็อยากเศร้าต่อ” ฉันนั่งลงที่พื้นทรายแล้วก็ออกปากไล่เขาอย่างมีมารยาท...มั้ง

“เธอไล่ฉัน?” เขาหันมาเอียงคอมองด้วยความอึ้ง

“เปล่าค่ะ แค่ขอให้คุณช่วยไปไกล ๆ”

“เธอนี่เป็นผู้หญิงที่โคตรบ้าเลยเพลงขวัญ”

“แล้วแต่คุณจะคิดว่าฉันเป็นยังไงเถอะ เป็นเด็กเสี่ย เป็นคนนิสัยเสีย เป็นคนบ้าอะไรก็เรื่องของคุณ แต่เวลานี้ช่วยเลิกหาเรื่องแล้วไปไกล ๆ ฉันทีได้ไหม” ฉันไม่ได้พิศวาสเขา ไม่นึกพิศวาสจนอยากอยู่ใกล้ในเวลาเมาด้วย ต้องการแค่อย่างเดียวคืออยากให้เขาไปให้พ้นหน้าฉัน

“เพลงขวัญ!”

“ถ้าไม่ไปฉันจะสรุปว่าคุณหลงเสน่ห์ฉันจนต้องหาเรื่องอยู่ใกล้ ๆ”

“ฉันน่ะเหรอชอบเธอ ฮึ!”

“อืม คุณชอบฉัน แล้วตอนนี้ก็กำลังแอบมองร่องนมฉันด้วย” ฉันนั่งที่พื้นทรายแต่เขายืนอยู่ข้าง ๆ ค่ะ พอฉันเงยหน้าตอบกลับแบบนี้เขาก็ทำหน้าไม่ถูกแล้วก็เบือนหน้าหนีไปทันที

“มีให้ดูฉันก็ดูไปอย่างนั้นแหละ แถวนี้มันมืดคนกินเหล้าก็เยอะระวังคนเมาหน่อยก็แล้วกัน” เขาพูดออกมาเหมือนคนกำลังหัวเสียแล้วก็ยอมเดินออกไป ดีแล้วไปเถอะปล่อยให้ฉันได้ใช้เวลาเงียบ ๆ สักพัก ฉันอยากคิดทบทวนถึงปีที่ผ่านมาว่าฉันเจออะไรแย่ ๆ มาบ้างและการที่ฉันได้คิดทบทวนเรื่องราวในปีที่ผ่านมาก็ทำให้ฉันต้องเดินไปหาเบียร์มานั่งจิบแต่เปลี่ยนมานั่งตรงที่ที่มันไม่เปลี่ยวและอยู่ใกล้กับคนอื่น ดื่มให้กับชีวิตที่โดนหักหลัง จากที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยคนอื่นในงานปาร์ตี้ฉันก็ไม่ไปแล้วค่ะไม่มีอารมณ์ ได้ยินเสียงเพลงเสียงเคาท์ดาวน์ดังมาจากหลายทิศทางแต่ฉันไม่มีอารมณ์ร่วมใด ๆ ทั้งสิ้น

ฉันนั่งเมาอยู่ที่เดิมจนเวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่เมามากแล้วจริง ๆ ก็เลยพยุงตัวเองไปหาที่นอน พี่จีนบอกว่ามีที่นอนให้ ไม่รู้ที่ไหนเหมือนกันคงต้องเป็นสักทีนั่นแหละ ฮ่า ๆๆ

เอาเป็นว่าเปิดไปเจอห้องไหนที่เป็นผู้หญิงนอนเพลงขวัญก็จะซุกตัวนอนกับเขาไปเลย ท่าทางคืนนี้ทุกคนจะเมาพอกัน คงไม่มีใครถือสาฉันหรอกที่ไปมั่วนอนด้วย

แอด~

“อ๊ะ อ๊ะ! แรง ๆ เลยค่ะที่รัก ซี๊ด~”

พั่บ พั่บ พั่บ!

“อ่าส์! โคตรมันส์ อืม~”

“อ๊ะ แรง ๆ ค่ะฟรังซ์ ซี๊ด~ อ๊ะ! โอ๊ย! จุกค่ะ”

“อืม~ มันใหญ่ครับคนสวย อ่าส์~”

“อ๊ะ! อะ....กรี๊ด!!!!!!!!!”
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 107

    “ก็...ตามนั้นเลยค่ะ” ฉันฉีกยิ้มกว้างเพิ่งรู้เมื่อเช้าเลยค่ะตะหงิดใจเพราะเลยวันที่ประจำเดือนมาได้สามอาทิตย์แล้ว เมื่อเช้าก็เลยลองตรวจดูผลก็อย่างที่บอกพี่ฟรังซ์ไปนั่นแหละ ดีใจแทบกรี๊ดลั่นบ้านแต่อยากเซอร์ไพรส์ว่าที่คุณพ่อก่อนเลยต้องเก็บเสียงกรี๊ดเอาไว้“พี่...จะมีลูกแล้วเหรอเพลง” เขาถามเสียงสั่นดูงงกับ

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 106

    -สามเดือนต่อมา-“มองเหี้ยไรวะ!” พี่ฟรังซ์ยืนเท้าเอวท่าทางหัวเสียอยู่ข้างเวทีขนาดใหญ่ในงานมอเตอร์โชว์ ด้านบนมีแลมโบกินี่ราคาหลายสิบล้านถูกนำมาโชว์เปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งนำเข้ามาในไทยภายในงานมอเตอร์โชว์ แต่เจ้าของบริษัทที่เอารถมาเปิดตัวกลับยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงตะคอกแขกและลูกค้าในงานอยู่ข้างเวทีจนฉันดึ

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 105

    พั่บ!พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้อ! อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! พี่ฟรังซ์ขา ซี๊ด~ แรง ๆ ค่ะ” ผมใส่เข้าไปมิดลำแล้วก็เริ่มกระแทกตัวตนใส่ร่องรักเมีย ยิ่งกระแทกท่อนเอ็นเข้ารุนแรงเท่าไหร่เพลงขวัญก็ยิ่งร่ำร้องให้ใส่เข้าไปแรงมากกว่าเดิมพั่บ พั่บ พั่บ!“อื้อ~ เสียว ที่รักขา ซี๊ด~ เพลงเสียว” เพลงขวัญเอี้ยวตัวมามองผมด้วยความทรมาน

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 104

    “เสียวค่ะ ซี๊ด~ พี่ฟรังซ์เข้ามาเลยได้ไหม”“...อยากเหรอครับเมีย”“อยากค่ะ อื้ม~ พี่ฟรังซ์ขา ใส่เข้ามาเลยได้ไหมเพลงค้างนานแล้ว”“หือ?” อ่าส์ พี่ก็ค้างค่ะที่รักแต่ขอแกล้งเมียก่อนห่างอกผัวไปนานที่รักของผมหื่นขึ้นเยอะเลย แต่พอผมลีลาเพลงขวัญก็จิกลงมาที่แขนผมเต็มแรง“อย่าแกล้งค่ะพี่ฟรังซ์...นี่เมียนะ”“...

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 103

    “คะ” เพลงขวัญขานรับแล้วก็มองผมด้วยสีหน้าโคตรงง ผมเลยรีบขยับตัวไปนอนข้างเธอแต่เอามือจับที่หน้าอกเอาไว้เพื่อให้เธอรู้ว่าผมจะทำต่อแต่แค่หยุดเพื่อคุยธุระแป๊บเดียว“สามีเพลงขวัญอยากมีลูกจังเลยค่ะ”จุ๊บ!ผมนอนตะแคงเอามือค้ำหัวคุยกับเพลงขวัญ คุยไปบีบนมเมียไปไม่มีอะไรที่จะฟินกว่านี้อีกแล้ว“พูดอะไรของพี่ฟรั

  • So What รักแล้วให้ทำไง   บทที่ 102

    ​“เดี๋ยวเพลงว่าเพลงไปเก็บของต่อดีกว่านะคะ” ฮึ ๆ จะหาเรื่องหนีสินะเพลงขวัญ“จะอยู่ทั้งที่มันเพิ่งฉาบปูนจริง ๆ” ผมมองหน้าคนสวยที่ยืนคุยกับผมด้วยหน้าตาเอ๋อ ๆ ทันที่ที่กลับมาถึงคอนโด หน้าตาเอ๋อไม่สมกับเพลงขวัญมือตบอันดับหนึ่งเลยสักนิด แต่ก็ดีแล้วครับผมเคยบอกแล้วไงว่าผมจะเป็นคนแรกที่ไม่กลัวเมีย แต่ไม่ใช่

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status