Home / วัยรุ่น / The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย / 03 The Deal : ดิลลับฉบับเริ่มต้นⅠ (2/2)

Share

03 The Deal : ดิลลับฉบับเริ่มต้นⅠ (2/2)

last update Last Updated: 2025-09-10 11:01:22

อุตส่าห์จะมาหาวันไนท์แบบที่ห่างไกลเกือบพันกิโลเพื่อจะได้ไม่ต้องวนกลับมาเจอกัน เรื่องดีๆ คือ…ไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นเกิดขึ้น ส่วนความเฮงซวย ก็…ไอ้ที่ต้องมาโดยสารบนเครื่องบินลำเดียวกัน จุดหมายก็คงไม่ต่าง แถมยังเป็นคนเดียวกับที่บิดเงินเดิมพันฉันด้วย

หรือเพราะช่วงนี้ดวงฉันตกวะ เจ้ากรรมนายเวรก็เลยจับพิกัดได้

รู้นะว่าโลกกลม…แต่บางทีก็ไม่ควรแคบขนาดนี้รึเปล่า?

ฉันเลื่อนมือข้างหนึ่งขึ้นกุมหน้าผาก ขณะสมองอันน้อยนิดกำลังประมวลผลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น

สองสัปดาห์ก่อน…

ซึ่งมันเป็นค่ำคืนที่ฉัน อีมิ และพี่พลอยใสเดินทางไปยังสนามแข่งรถที่พี่ชายอีมิแนะนำมา พวกเราไปถึงขอบสนามในตอนที่รถทั้งสองคันถูกปล่อยออกจากจุดสตาร์ทพอดี

“มึงว่าคันไหน” ฉันเริ่มทำลายความเงียบหลังจากนั้นประมาณสามนาที

“คันขาว” เพื่อนสาวผู้คลั่งไคล้ในการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจตอบกลับทันควันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและไม่มีความลังเลเลยสักนิด ทั้งที่คันนั้นอยู่รั้งท้าย

“ใช่เหรอวะ” ฉันยกมือขึ้นกอดอก พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย หวังจะยั่วโมโหน้องสาวเจ้าของสนามแข่งเล่นๆ

“พนันกับกูไหมล่ะ” ความฆ่าได้หยาบไม่ได้นั้น ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนอะ…คิดดูเหอะ

“พี่ลงกับมิเชลด้วยนะ” แถมรุ่นพี่คนสวยก็ยังเอากับมันด้วย

“โหพี่ ใครจะเสี่ยงเสียเงินฟรี”

“หึ…”

พวกเราทั้งสามคนเอียงคอมองไปยังต้นเสียงหัวเราะในลำคอที่ดังขึ้นหลังจากประโยคของฉันจบลง ซึ่งเป็นจังเดียวกับที่ผู้ชายข้างๆ ยกขวดเครื่องดื่มสีเขียวมรกตในมือขึ้นกรอกลงคอ ก่อนจะหันมากระตุกยิ้มร้าย

ระหว่างที่ฉันกำลังงงกับการทำที่โคตรเสียมารยาทของคนแปลกหน้า อีกฝ่ายก็ยังเลื่อนสายตามองพวกเราทีละคนตามลำดับ ไล่จากพี่พลอยใสยืนหลังสุด มาคนกลางคืออีมิและจบที่ฉันซึ่งอยู่ประจันหน้า

“อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจว่าจะเสียเงินฟรี?” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยประโยคแรกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่ลึกๆ ยังมีความเย้ยหยันแฝงอยู่ในนั้นหลายส่วน

“เพราะสัญชาตญาณของเพื่อนฉันมันไม่เคยพลาด…ค่ะ!” ฉันจงใจกระแทกหางเสียงที่ควรจะมีเพื่อเป็นมารยาททางสังคมใส่ผู้ชายตรงหน้า เพราะเหมือนเขาจะเข้าไม่ถึง พลางก้าวเข้าใกล้คู่สนทนามากขึ้น แต่ยังถูกรั้งไว้โดยเพื่อนรักที่ยื่นอยู่ข้างหลัง ก่อนฉันจะปัดมือมันออก

“แต่คันที่เพื่อนเธอบอก รั้งหลังอยู่ห่างมากเลยนะ” คนตัวสูงโน้มตัวลงมาให้อยู่ในระดับเดียวกับฉัน ขณะแย้งตามภาพที่ปรากฏอยู่ในสนาม

“ก็ต้องรอดูนะคะ” แต่เมื่อความมั่นใจฉันมีเยอะกว่า การท้าเดิมพันจึงเกิดขึ้น

“งั้นเรามาพนันกันไหม”

“เอาสิคะ!” และฉันคือทิชานันท์ไง…ผู้ที่พร้อมรับทุกคำท้าทาย

“อีที”

ฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามหยุดกะทันหันจากแรงฉุดรั้งของเพื่อนสนิทอีกครั้ง ก่อนฉันจะหันไปตบไหล่มันเบาๆ “กูเชื่อใจมึงเพื่อน”

“สองหมื่น” พอคนท้าเริ่มลงจำนวนเงิน ฉันก็เกทับทันควัน

“สี่…”

“ตกลง” เจ้าของใบหน้าคมเข้มยื่นมือข้างหนึ่งออกมา หวังจะทำสนธิสัญญาระหว่างการเดิมพันครั้งนี้ ส่งผลให้ฉันหลุบมองเล็กน้อย แล้วเผยรอยยิ้มมุมปากพร้อมยื่นมือข้างเดียวกันในระดับใกล้เคียง

แต่จังหวะที่กำลังจะแตะสัมผัสกัน ฉันดึงมือขึ้นมาเกลี่ยปอยผมทัดหูซะก่อน

“โทษนะ ฉันไม่จับมือกับคนแปลกหน้า”

แค่นี้ก็รู้แล้วนะ…ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

ดูเหมือนการกระทำและคำพูดของฉันจะมีผลต่ออารมณ์ของอีกฝ่ายพอสมควรเลย ดวงตาคู่คมจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่องพลางขบกรามแน่น ฝ่ามือที่แบก็เปลี่ยนเป็นกำเศษหน้าละเอียดยิบของตัวเองไว้ ก่อนเขาจะดึงมันไปเก็บในกระเป๋ากางเกงยีนเพื่อป้องกันการกระจัดกระจายบนพื้น ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกับที่ริมฝีปากหยักขยับแขวะกันเบาๆ

“แต่กล้าลงพนันกับคนแปลกหน้าสินะ…เหอะ”

ฉันไหวไหล่ขึ้นอย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วสะบัดหน้ากลับไปจดจ่อในสนาม ที่ตอนนี้กำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ถึงภายนอกจะดูชิล แต่ข้างในนี่แบบ…ใจแทบจะหลุดออกมาเต้นอยู่บนพื้นให้ได้เลย

เหลืออีกแค่สองรอบเอง แต่ทำไมคันขาวยังรั้งท้ายอยู่นะ! บ้าเอ๊ย!

แต่ในไม่กี่นาทีสุดท้าย…

ปึง!! เอี๊ยดดดดด…

เสียงเบรกลากยาวดังลั่นสนาม

“เห่ย!! / เชี่ย!” คู่เดิมอุทานเสียงหลง ซึ่งมันพร้อมๆ กับฉันและอีกหลายคนในสนาม

“เวรแล้วไง” นี่เป็นเสียงของพี่พลอย ส่วนอีมิถึงกับตกหน้าผากตัวเองฉาดใหญ่ นั่นไม่ใช่เพราะฝั่งเราแพ้พนัน

เราชนะ…และควรจะดีใจที่ได้เงินสี่หมื่นมาฟรีๆ แต่การชนะครั้งนี้มันไม่โปร่งใส รถคันสีดำของอีกฝ่ายเกิดแอ๊กซิเด็นท์กลางคัน จากที่แล่นนำมาด้วยความเร็วก็ต้องชะลอลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้คู่แข่งแซงเข้าเส้นชัยได้ในนาทีสุดท้าย

ไม่ได้บอกว่าฉันเก่งขนาดที่จะมองเรื่องพวกนี้ออก แต่มันชัดเจนแบบที่เด็กประถมยังรู้ เอาจริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกภูมิใจเท่าไหร่กับการชนะแบบนี้

“แม่งเอ๊ย!!” เสียงสบถดังลั่นจากคนที่แพ้พนัน ก่อนเขาจะหันไปหาผู้ชายอีกสามสี่คนแถวๆ นั่น และตามมาด้วยบทสนทนาของพวกเขา “ไอ้พวกแม่ง เล่นไม่ซื่ออีกแล้ว เอาไงดีวะ”

อันนี้ไม่ได้เสียมารยาทแอบฟังนะ…เขาคุยกันเสียงดังเอง มาถึงตรงนี้ถึงได้รู้ว่าเขาคงรู้จักกับคนที่ขับรถสีดำนั่น เพราะแบบนี้ถึงได้มั่นใจสินะ!

“มึงคิดว่าคนอย่างกูจะปล่อยมันไปเป็นครั้งที่สอง?” จบคำกล่าว คนแพ้ก็ทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้ โดยไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย

ฉันถือวิสาสะเอื้อมรั้งแขนหนุ่มปริศนาให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน “จะไปไหนอะ จ่ายเงินก่อนสิ”

“เธอเป็นพวกเดียวกับไอ้พวกเวรนั่นสินะ ถึงได้มั่นใจนักว่าจะชนะ”

“เดี๋ยวนะ แพ้แล้วอย่าพาลดิ” จะด้วยวิธีไหน แพ้…ก็ต้องจ่ายเปล่าวะ

“ไม่ได้พาล แต่พวกเธอโกง” เจ้าของใบหน้าหงุดหงิดแย้งเสียงแข็ง

“ฉันไม่รู้จักกับพวกนั้นนะ อย่ามาเนียน” ฉันเถียงด้วยโทนเสียงไม่ต่าง

“ถ้าไม่เกี่ยวก็รีบพากัน…ออกไป!” เขากดเสียงต่ำ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะคอกใส่หน้าในวลีสุดท้าย ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งตัว ทำฉันถึงกับสะดุ้งโหย่งเลย นั่นจึงเป็นตอนที่คนตัวโตสะบัดแขนออกจากการจับกุม แล้วหมุนตัวเดินกระแทกเท้าทิ้งระยะห่างไปเรื่อยๆ

ซึ่งฉันก็ไม่่ได้ยอมหรอกนะ แต่ติดที่ถูกห้ามไว้โดยสองสาวซะก่อน

“อะไรวะ พนันชนะแต่ไม่ได้เงินเฉยเลย”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย    10 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅳ (2/2)

    “ผมมีข้อเสนอ” สุดท้ายแล้วการเอาตัวรอดที่ถูกสั่งสอนมาก็ถูกงัดออกมาใช้กับอาจารย์ผู้สอนจนได้[ข้อเสนออะไร]“ผมจะล้มธารธาราให้ป๊า แลกกับอิสรภาพทั้งหมด ป๊ากับม้าจะไม่มีสิทธิ์บังคับอะไรผมทั้งนั้น” แน่นอนว่าผลประโยชน์สำหรับผมก็ยังเป็นเรื่องที่สำคัญสุดและผมไม่เคยพูดว่าตัวเองเป็นคนดี…[แกคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลย?]“ป๊าพูดมาก่อน ว่าตกลงไหม” เมื่อก่อนน่ะอาจจะใช่…มันไม่ง่าย แต่พอจับทางได้ เรื่องใหญ่เท่าภูเขาก็กลายเป็นเศษฝุ่นไปในพริบตา ยิ่งตอนนี้ผมมีหมากเพิ่มขึ้นโดยที่ไม่ต้องออกแรง มันง่ายซะยิ่งกว่าง่าย…[ได้ แต่ฉันมีเวลาให้แกแค่เดือนเดียวนะ]“ฮะ!...มันน้อยไปไหมป๊า” จากท่านั่งที่แสนสบายในตอนแรก บัดนี้แผ่นหลังตั้งตรงเปลี่ยนเป็นความตึงเครียดขึ้นมาทันที ถึงจะมั่นใจแค่ไหนว่ามันต้องสำเร็จแน่ๆ แต่เวลาแค่นั้นมันน้อยเกินไป…[อิสรภาพของแก ม้าแกกำลังหาคนมาทำลายให้อยู่เลย]“ป๊าพูดเรื่องอะไร” คิ้วขมวดมุ่นด้วยความสงสัย บวกกับอาการหวิวในใจแปลกๆ สิ่งเดียวที่ม้า

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย    10 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅳ (1/2)

    [บทบรรยาย : เหนือเมฆ]ช่วงสายวันจันทร์….@เมฆากรุ๊ปก๊อก!…ก๊อก!ประตูห้องทำงานถูกผลักเข้ามาหลังเสียงเคาะตามมารยาทจบลง ขณะที่ผมยังก้มหน้าก้มตาอยู่กับรายละเอียดแพ็กเกจสินค้าใหม่ที่เมฆากรุ๊ปกำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้“นี่ค่ะ ข้อมูลที่คุณเหนือต้องการ” ซองเอกสารสีน้ำตาลวางลงบนโต๊ะงานพร้อมกับน้ำเสียงสุภาพของหญิงสาวที่ควบทั้งตำแหน่งเลขาส่วนตัวและผู้ช่วยมากประสบการณ์ ต้องยอมรับนะว่าถ้าไม่ได้คุณรี การทำงานของผมคงดิ่งกว่านี้มาก“ขอบคุณครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองในตอนที่คุณรีถอยไปยืนห่างจากโต๊ะพอสมควร ก่อนคว้าเอาซองนั่นมาเปิดดู และเอาทุกอย่างออกมากองบนโต๊ะ ทั้งเอกสารที่แสดงถึงข้อมูลส่วนตัวและรูปถ่ายหลายใบทิชานันท์…“ธารศิริกุล…?” คราวนี้ผมเลิกคิ้วขึ้นมองผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อย เมื่อรู้สึกคุ้นนามสกุลยัยเด็กแสบนั่น“ค่ะ เธอคือลูกสาวคนเดียวของคุณธารา”“...” คำตอบของคุณรีทำผมหลุดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจและลากสายตากลับมาโฟกัส

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย   09 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅲ (2/2)

    “ใคร…” คนถูกถามหันมาสบตากัน“ก็คนที่ใส่เกาะอกสีโอลด์โรสนั่นไง”“แล้วจะอยากรู้ไปทำไม” เขาตอบกลับมาด้วยคำถาม ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกับที่มือประคองพวงมาลัยถูกสับเปลี่ยน ข้อศอกขวายกค้ำกับประตูรถแทน แล้วใช้ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปมาบริเวณข้างขมับตัวเองซ้ำๆ“งั้นพี่ไม่อยากรู้บ้างเหรอ ว่าพวกนั้นมันเป็นใคร แล้วทำไมถึงมารุมตีฉัน” มันเป็นเหมือนข้อแลกเปลี่ยน ถ้าสมมุติว่าเขาอยากรู้ ฉันก็จะบอก…เพื่อจะได้รู้ข้อมูลของเขาบ้างหากแต่…“ไม่ ฉันไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน”หน้าฉันชาวาบ “โห พูดขนาดนี้ ด่า ‘เสือก’ มาเลยเหอะ”ร้ายกาจ…ร้ายแบบขั้นสุด บทสนทนาของเราก็เลยจบลงตรงนี้ ถึงจะอยากรู้มากแค่ไหนก็เหอะ แต่ใครจะกล้าถามต่อ“ก็ไม่เลวนะ” ประโยคที่ไร้ซึ่งการเกริ่นนำและความหมายดังขึ้นหลังจากเราปล่อยให้ความเงียบปกคลุมภายในรถเกือบนาที“...?” และฉันแค่ปรายตามองต้นเสียงด้วยความสงสัย“ผู้หญิงคนนั้นน่ะ ชื่ออะไรนะ แพรไห

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย   09 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅲ (1/2)

    หลังจากเขาลากฉันเดินออกมาจนถึงด้านรีเซฟชั่น…คนตัวสูงชะลอฝีเท้าลงจนนิ่งสนิทแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากัน ดวงตาคบกริบไล่มองเรือนร่างฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า เกิดเสียงถอนหายใจแรงและตามมาด้วยประโยคหนึ่ง“ตัวเท่าลูกหมา ทำซ่าส์”“เพราะพวกมันหมาหมู่ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับที่ฉันตัวเล็กกว่าซะหน่อย” ฉันรีบแย้งเสียงแข็ง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลดระดับลงเล็กน้อย ด้วยเพราะขยับปากมากแล้วมันเกิดความรู้สึกจี๊ดๆ ส่งผลให้คนฟังถึงกลับหลุดหัวเราะหึหึในคอ“...!” พี่เหนือเขยิบเข้าใกล้ขึ้นอีกคืบ หมายถึงใกล้แบบปลายเท้าต่อกัน สัญชาตญาณมันร้องบอกให้ฉันก้าวถอยเพื่อรักษาระยะห่าง หากแต่ความเย็นจากปลายนิ้วสัมผัสบริเวณปลายค้างในวินาทีเดียวกันนั้นทำฉันลืมสิ่งที่จำเป็นต้องทำไปซะสนิทจากนั่นใบหน้าฉันก็ถูกบังคับให้เชิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เบี่ยงซ้ายทีขวาทีตามลำดับ ขณะใช้สายตาไล่สำรวจตามจุดที่น่าจะมีร่องรอยบอบช้ำไปด้วยอย่างข้างแก้ม…มุมปาก…กลีบปาก…ปิดท้ายด้วยการลากขึ้นมาสบตานิ่ง…จ

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย   08 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅱ (2/2)

    หมับมันต้องโดนอีกแน่ ถ้าอีสองตัวไม่พุ่งมาล็อกตัวฉันซะก่อน เอาจริงๆ ฉันถึงว่าตัวเล็กกว่าพวกมันมาก แค่เรื่องความสูงพวกมันก็กินขาดแล้ว มิหนำซ้ำยังมีการรุมเกิดขึ้นอีก ยิ่งไปกว่านั้นคือไอ้ผู้ชายคนเดียวในที่นี้มันถอยหลังไปยืนพิงผนังดูหน้าตาเฉย ก็รู้นะว่าเลว…แต่ไม่ได้คิดว่าจะถึงขั้นนี้ไง เรียกว่าผู้ชายยังกระดากปาก แม่งเสียเวลาชีวิตช่วงที่คบกับมันฉิบหายตอนนั้นวิญญาณอะไรมันบังตาไว้วะ!?อีไอด้าตรงเข้าหาฉันพร้อมแสยะยิ้มชั่วร้าย“มึงเก่งเหรอ”“ก็เก่งไหมล่ะ สามต่อหนึ่ง”เพียะ!หน้าฉันหันไปตามแรงตบทันทีที่พูดจบ ก่อนหัวหน้าแก๊งผีจะเอื้อมมือมาบีบข้างแก้มฉัน บังคับให้หันไปสบตา“มึงคิดว่าจะมีใครมาช่วยมึง ในโรงแรมพ่อกูเหรอ”“กูก็ไม่ได้ร้องขอให้ใครมาช่วย” คำขู่แบบนั้นใช้ไม่ได้ผลกับคนอย่าง ทิชานันท์ หรอกนะจะบอกให้ ถึงมือฉันจะไม่สามารถใช้ได้ในตอนนี้ แต่เท้ายังไม่ได้ถูกควบคุม ฉันยกมันขึ้นและออกแรงยันอีคนที่อยู่ตรงหน้าเต็มแรงปึก!“โอ๊ย!...” ซึ่งมันถอยไปได้เพียงไ

  • The Deal ดิลลับ(ฉบับ)ร้าย   08 The Deal : ดิลลับฉบับคนรู้จัก Ⅱ (1/2)

    หนึ่งเดือนต่อมา…@โรงแรม Pฉันยกแชมเปญชั้นเลิศขึ้นจิบขณะจ้องมองคู่บ่าวสาวบนเวที ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าเพื่อนรักอย่าง อีมิ จะมีรอยยิ้มสดใสขนาดนี้ สดใสชนิดที่ว่า…นำพาคนรอบข้างหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเทพนิยายที่อบอวลไปด้วยดอกไม้นานาชนิด เช่นเดียวกับธีมงานในวันนี้องค์ประกอบโดยรวมทุกสิ่งอย่างมันทำให้ฉันและแขกเหลือในงานต่างพากันยิ้มตามไม่หยุด ยกเว้นก็แต่…“มึงว่ามันท้องรึเปล่าวะ”“นั้นสิ! รีบแต่งอะไรขนาดนั้น…”นั่นคือเสียงจากเหล่าสัมภเวสี…ซึ่งนำทีมโดยคู่อริคนชั่วคนเดิมของฉันแก้วเปล่าถูกวางลงบนโต๊ะเครื่องดื่มหลังจากสัมผัสถึงความร้อนวาบไหลผ่านลงคอในคราวเดียว ร่างกายหมุนกลับหลังเพื่อตรงไปยังประตูทางออกห้องจัดเลี้ยง แต่ระหว่างทางก็ไม่ลืมที่จะแวะทักทายไอ้พวกผีเจาะปากมาพูดนั่นด้วย“เพื่อนกูมันยังไม่ได้ท้องหรอก มันแค่สวยน่ะ!” ฉันปรายตามองพวกมันพร้อมรอยยิ้มเหยียด ก่อนจะก้าวเดินต่อต้องโตมาแบบไหนวะ…ถึงไม่เคยรู้สึกยินดีกับใคร ขยะสังคมฉิบ!หม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status