ฉันเองที่ถูกนินทาแบบน่ารัก ๆ ยังอดยิ้มขำไม่ได้เลยแล้วฉันก็หยุดขำ ยิ้มหวานเมื่อปืนเอียงคอมอง“เราไม่กล้ากินอะไรแล้วล่ะเดี๋ยวพุงป่อง” ยิ้มเขินพลางลูบท้องที่ยังคงแบนราบให้ใจชื้นเล่น วันนี้ฉันกินหมูย่างไปเยอะมาก พอกินอิ่มแล้วก็ดันมารู้สึกผิดกับตัวเองยังไงไม่รู้“อยากเห็นเหมือนกันว่าท้องดื้อจะกลมป่องได้สักแค่ไหน” ปืนหลุบตามองพุงฉันด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะโยนกล่องนมที่ฉันเพิ่งกินหมดลงถังขยะอย่างแม่นยำ “อยากเห็นดื้ออ้วน สงสัยต้องพาไปขุนของอร่อยบ่อย ๆ แล้ว” ใครเขาอยากอ้วนกันเล่า!พลันฉันร้องอ๋อนัยน์ตาสว่างวาบ เม้มปากเม้มคอเขม่นวายร้ายหน้าตาหล่อเหลาที่หลอกล่อฉันด้วยของอร่อยมากมายในวันนี้ หรือที่ขยันป้อนสารพัดสิ่งอย่างใส่ปากตอนกินปิ้งย่างกันเพราะอยากให้น้ำหนักฉันพุ่งไว ๆ หน็อยแน่ ช่างกล้าที่ฉันคิดมโนเอาเองจะจริงไม่จริงไม่รู้แหละ แต่พอคิดแล้วก็อดเคืองย้อนหลังไม่ได้ อยากเห็นว่าฉันพุงฉันจะกลมป่องได้ขนาดไหนงี้ อยากเห็นฉันอ้วนงี้ “เราไม่ใช่แม่หมู แม่วัวนะปืน ไม่จำเป็นต้องขุนอาหารให้ตัวอ้วนพี” ฉันหน้าง้ำ ตวัดค้อนขวับ ๆ“คิดไปนั่นนะดื้อ” เขาส่ายหน้าประมาณว่ามโนเก่ง แล้วยกมือยีผมฉันจนยุ่งก่อนจ
[ Special Puen Talks ]ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มสิบนาทีแล้ว บรรยากาศในร้าน นั่งเล่า ร้านของพี่คิว หนึ่งในรุ่นพี่ที่สนิทกำลังคึกคักได้ที่ พี่มันเพิ่งเรียนจบไปเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เอง ลูกค้าที่มาอุดหนุนครึ่งหนึ่งของที่นี่ก็เป็น พวกรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะ ในสาขา ส่วนอีกครึ่งก็เป็นพวกเด็กต่างคณะ และคนทั่วไป“โน่”“พี่โน่”“ว้าย”“กรี๊ดดดดดดดด”ดนตรีสดบนเวทีที่เพิ่งเริ่มทำการแสดงไปได้ไม่ถึงสองนาทีเรียกเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูจากพวกสาว ๆ ไม่ขาดสาย สาเหตุเพราะนักร้องนำ และเพื่อนร่วมวงหน้าตาดี โบกไม้โบกมือทีก็ได้รับเสียงตอบรับท้วมท้น ซึ่งบางทีก็น่ารำคาญเกินไป“มาร้านเหล้าแต่เสือกพกนมกล่องมา มันยังไงกันวะ”“พกมาไม่ว่าแต่มันเอาแต่จ้องนมในมือ เหี้ยหรือมึงเมานมวะ” ไอ้เป้ทำหน้าตกใจ ยกมือทาบอก ยิ้มยียวนกวนประสาทเมื่อผมปรายตามองหน้ามัน“หรือตาพร่าเห็นนมกล่องในมือเป็นนมสาวขาวอวบอมชมพูน่าลูบไล้ น่าขยำขยี้งี้เหรอ โรคจิตสัสเลยว่ะเพื่อนปืนของกู” ไอ้เข้มทำมือบีบขยำกลางอากาศ ทำท่าประกอบความคิดสัปดนให้เห็นภาพ สันดานหมาอย่างมันโรคจิตกว่าผมอีกผมปรายตามองหน้าไอ้พวกปากดีทีละคน ก่อนจะขยับปากพูดกับพวกมันเรียบเรื่อย พลางบ
วันหยุดสุดสัปดาห์ของใครจะเป็นยังไงไม่รู้ แต่สำหรับฉัน คนบ้านไกลที่ไม่ได้กลับบ้าน เพราะกลับไปก็ไม่เจอใคร พ่อแม่ไปทำบุญต่างจังหวัดกับญาติ ๆ ส่วนน้องชายสุดหล่อขวัญใจเพื่อน ๆ ฉันไปเข้าค่ายธรรมะกับทางโรงเรียน จึงปรารถนาที่จะนอนโง่ ๆ กลิ้งเกลือกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทำตัวเกียจคร้านให้สมกับที่อยากทำมาตลอดทั้งสัปดาห์ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนจริง ๆ จัง ๆ ก็เที่ยงคืนกว่า คุยกับยัยเบลยัยแจนยาว อ้อ ปืนส่งไลน์มาบอกฉันด้วยว่าถึงร้านที่เขากับเพื่อนนัดเจอกันโดยสวัสดิภาพ แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุย กันอีกโครกคราก โครกคราก“เฮ้อ”เนี่ยต่อให้อยากทำตัวขี้เกียจมากแค่ไหน ความหิวก็ห้ามไม่ได้ สองครั้งแล้วที่ท้องร้องประท้วง เสบียงในห้องตอนนี้นอกจากมาม่ากับน้ำเปล่าแล้วไม่มีอะไรให้หยิบมากินรองท้องได้เลย วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องออกไปซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อเลือกซื้อของกินของใช้ที่ทยอยหมดลงทีละอย่างสองอย่างมาเติมเข้าห้องหลังจากโดนโรคเลื่อนเข้าไปเพราะมีนัดกะทันหันกับปืนเมื่อวาน แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอกที่ฉันจะไป กะว่าจะนอนดูหนังสักเรื่องก่อน ตอนบ่ายค่อยไปส่วนตอนนี้น่ะเหรอ ? ฉันต้องงัดตัวเองออกมาจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำ ล
หลังลงไปผจญกับความร้อนเปรี้ยงแบบเปรี้ยงจริง ๆ ในฤดูหนาวที่ไม่ค่อยหนาวของประเทศกรุงเทพฯ แยกย้ายกับน้องโทน ในลิฟต์ฉันก็กลับเข้ามาตากแอร์อยู่ในห้องตามเดิม เพิ่มเติมคือเปิดหนังเรื่อง After หนังรักวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่กล่าวขานถึงของกลุ่มสาว ๆ จากช่อง Netflix ดูระหว่างนี้ก็แกะกล่องข้าวผัดไก่เกาหลีกลิ่นหอมฉุย กับเปิด ฝากระปุกกิมจิไซซ์เล็กที่คว้ามาจากตู้แช่ในเซเว่นที่เหลือเพียงแค่สามกระปุกสุดท้าย เพราะสต็อกใหม่พนักงานยังไม่เติม เห็นแล้วมันอดใจไม่ไหวต้องซื้อมากินบ่อยครั้งไป และจริง ๆ ความอยากนี้มันมีที่มา ที่ไปแหละ ด้วยความที่เปิดดูยูทูปเกี่ยวกับช่องเกาหลีมากไปหน่อย เห็นคนที่นั่นกินอะไรก็ตามต้องมีกิมจิ ผักดองขึ้นโต๊ะอาหารเสมอ เลยซึมซับพฤติกรรมการกินของเขามาฉันใช้เวลาในการกินไม่ถึงสิบห้านาทีก็เป็นอันจบมื้อเช้ารวบมื้อกลางวัน ทีแรกก็เพลินอยู่กับการหวีดพระเอกในหนังอยู่หรอก แต่พอโทรศัพท์ดังทำลายโสตประสาท หน้าจอปรากฏชื่อของคนทำลายความสุขเท่านั้น สายตาและใจของฉันมันก็ไม่อาจจดจ่ออยู่ที่จอทีวีได้อีกต่อไป เพราะความน่าสนใจมันดันมาตกอยู่ที่ใบหน้าใส ๆ ผมยุ่ง ๆ ของคนที่ปรากฏอยู่ในหน้าจอมือถือแทนพ่อพระเ
“เมื่อคืนปืนขับรถกลับคอนโดฯ เอง”“ทำไมประมาทแบบนั้นล่ะปืน” ฉันถามเสียงเข้มออกไปทันที ไปตั้งแต่สามทุ่มกลับถึงห้องตอนตีสามกว่าเนี่ยนะ ถ้าเป็นอย่างนี้ ทุกวันตับคงแข็งตายก่อนวัยอันควร อยากจะถามจริง ๆ ว่าเขารักตัวเองบ้างไหม“ประมาทยังไง” ยังจะกล้าถามฉันอีกว่าประมาทยังไง“ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถกลับที่พักตอนตีสามตีสี่ไม่เรียกประมาทได้ยังไงล่ะ เมาด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้” ฉันว่าพลางถลึงตาดุใส่ คนหน้าเป็นปืนหันมายิ้มแล้วยื่นนิ้วมาจิ้มแก้มฉัน ซึ่งนาทีนี้ฉันไม่อยู่ในอารมณ์อยากจะเล่นเลยปัดมือเขาออกอย่างไม่ไยดี ฉันรู้ตัวนะว่าไม่ควรเสียงแข็งใส่ปืน หรือแสดงความไม่พอใจอะไรออกมามากเกินควร เพราะนั่นคือชีวิตเขา แต่ฉันห้ามอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ฉันอินเรื่องอุบัติเหตุมากก็เพราะเสพข่าวทุกวัน ฉันเป็นห่วงปืน เป็นห่วงความปลอดภัยของผู้ชายคนนี้มากจนน่าตกใจ ทั้งที่เขากับฉันเราเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน และไม่รู้ว่าเมื่อไรด้วยเหมือนกันที่เขาเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตชนิดที่ฉันคาดไม่ถึง กับเพื่อนคนอื่น ๆ ฉันยังไม่เคยรู้สึกวิตกอะไรขนาดนี้เลยเอาจริง ๆ “เมื่อคืนปืนไม่เมา เหล้าแทบไม่ได้แตะสาบานได้”ฉันมุ่นคิ้ว ส่งผ่านคำว่าจริง
คนรีบที่บอกอีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันมาถึงหน้าหอฉันก่อนเวลานัดตั้งสิบห้านาที เดินฝ่าแดดเปรี้ยง ๆ ออกมาจากประตูรั้วก็เห็น BMW คันเดิมของปืนจอดเด่นเป็นสง่าอยู่ริมฟุตบาธในฝั่งตรงข้าม ใครสัญจรผ่านไปมาเห็นล้วนเหลียวมองความงามซ้ำสองกันทั้งนั้น กลับกัน ถ้าเป็นฉันที่ไม่รู้จักกับคนในรถฉันก็ชื่นชม และคงมีความคิดที่อยากจะเห็นโฉมหน้าผู้เป็นเจ้าของเหมือนสาว ๆ กลุ่มที่เพิ่งเดินผ่านไปเหมือนกันแหละกระจกฝั่งคนนั่งเปิดลงเมื่อฉันข้ามถนนมา ปืนชะโงกหน้าบอกให้ฉันรีบขึ้นรถเพราะอากาศข้างนอกมันร้อนจัด ภาวนาอยู่นี่ ขอให้คำพยากรณ์ที่กรมอุตุฯ ออกประกาศไว้เมื่อสองวันก่อนเป็นความจริง ที่ว่ากรุงเทพฯ จะหนาว อุณหภูมิจะลดลงเหลือสิบกว่าองศาในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเหลืออีกเดือนกว่า ๆ เหมือนจะไม่นานแต่ ก็นานอยู่ดี “หือ”“ใจเราตรงกัน” ปืนคงเดาได้ว่าฉันจะพูดอะไร ซึ่งฉันก็ไม่เถียง“นั่นน่ะสิ” ก่อนออกจากห้องมาฉันเปลี่ยนจากเสื้อยืดกลางเก่ากลางใหม่ มาใส่เสื้อโปโลสีขาวเพื่อไม่ให้ตัวเองดูหม่นหมองเกินไปเมื่อเดินกับปืน พ่อหนุ่มออร่าฟุ้ง กางเกงก็ขาสั้นสีขาวตัวเดิม ตัวนี้เพิ่งซื้อ ใส่ครั้งนี้ครั้งที่สองเอง รองเท้าก็เลือกใส่รองเท้าผ้าใบ
3:15 PMตอนนี้ฉันกับปืนนั่งอยู่ในโรงภาพยนตร์ และในอ้อมกอดของฉันมีป๊อปคอร์นรสหวานขนาด 64 ออนซ์ที่กินได้ไม่ถึงครึ่งแนบอกอยู่ 1 กล่อง คนที่บอกอยากดูหนังแอคชั่นสัญชาติอเมริกันเรื่องล่าสุดที่เพิ่งเข้าโรงมาได้ไม่กี่วัน ซึ่งไม่ใช่ฉันผู้ซึ่งไม่อินกับหนังแนวที่เท่าไรกลับหลับตาพริ้มไปตั้งแต่ตอนไหนฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไร คือหันมาอีกทีปืนก็เข้าฌานถอดวิญญาณไปเข้าเฝ้าพระอินทร์แล้วเรียบร้อย ขนาดว่าเสียงลำโพงรอบด้านส่งเสียงอึกทึกครึกโครมขนาดนั้นยังหลับได้สบาย อาการนี้ไม่ง่วงจัดก็เพลียจัดฉันจะชักมือของตัวเองออกจากอุ้งมือของปืนแต่ชักออก ไม่สำเร็จ ขนาดว่าหลับลึกนะนั่น เขาจับไว้ตั้งแต่เดินออกมาจากร้านอาหาร เรื่องของเรื่องคือฉันเดินสะดุดอะไรสักอย่างซึ่งปืนหันมาเห็นในจังหวะนั้นเข้าพอดีเลยคว้าไปจับไว้ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ปล่อย และตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่มือแล้วที่เกี่ยวประสานกันเอาไว้แน่นหนึบ หัวเขาก็เอนมาซบอยู่ที่ไหล่ฉันต่างหมอน ลมหายใจอบอุ่นเป่ารินรดอยู่แถวซอกคอเป็นจังหวะสม่ำเสมอคือจั๊กจี้แหละและในขณะเดียวกันก็รู้สึกอุ่นซ่านอย่างน่าประหลาด และในเมื่อทำอะไรไม่ได้ จะผลักก็เกรงใจ เมื่อยก็ต้องอดทน ขยับตัวทีก็กลัวว่าค
“เรื่องนั้น”“เรื่องไหน” ฉันค้อนวงเล็กใส่คนแกล้งซื่อ “เรื่องนั้นเรามะ...หมายถึง...หมายถึงว่าเราเพิ่งกินอาหารญี่ปุ่นกันมา” ฉันอธิบายไปแก้มก็ร้อนผ่าวไป คาดว่าป่านนี้ทั้งใบหน้าคง แดงเถือกไปหมดแล้ว “สาบานว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะพูดอะไรไม่ดี เธอต้องเชื่อเรานะ” ดวงตาเรียวกวาดมองใบหน้าฉัน ปลายนิ้วยกแตะสัมผัสแก้ม ก่อนจะวางฝ่ามือลงแล้วบีบเบา ๆ ฉันเผลอกลั้นหายใจตอนปืนโน้มใบหน้าลงมาหา[ Special Puen Talks ] “ต้องเชื่ออยู่แล้ว ก็เรากินกันมาด้วยกัน”“ปืน!” ผมยิ้มขำเมื่อพริกหวานน้อยแผดเสียงในระดับที่ไม่ได้สร้างความรำคาญให้คนอื่นข่มขู่ผมให้สงบปาก ก่อนจะสะบัดหน้าหนีผมไปอีกทางด้วยความโมโห หรืออายก็ไม่รู้ แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่าอย่างแรกนะ แก้มแดง หูแดงแบบนั้นให้เดาเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“เอาน่า เดี๋ยวปืนพาไปกินชานมไข่มุกที่ดื้ออยากกิน”“หยุดพูดถึงเรื่องของกินสักทีได้ไหม”“ถ้าไม่กินชานมแล้วกินไรดี บิงซูหรือว่าเค้กดี ?” ผมแกล้งทำหูทวนลมโน้มตัวลงมาอยู่ในระดับเดียวกันกับใบหน้าคนกำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยงอีกครั้ง พริกหวานน้อยทำปากขมุบขมิบก่อนจะกัดริมฝีปาก พลางใช้หางตามองผมแวบหนึ่ง ท่าทางไม่พอใจที่พาดผ
“แฟนยัยพิมพ์เขาเป็นลูกชายเจ้าของร้านทอง ตามจีบยัยพิมพ์อยู่นานกว่าแม่ลูกสาวฉันจะยอมใจอ่อนตกลงปลงใจคบหาด้วย ไอ้ตอนเรียนมหา’ลัยน่ะไม่เคยมีแฟนอย่างใครเขาหรอก” ปากป้าณีพูดกับป้าหมอนคนที่แกกำลังเม้าท์ด้วย ทว่าปรายตามองมาทางฉันที่นั่งโต๊ะติดกัน ประโยคต้นพูดอวยลูกสาวตัวเอง ประโยคหลังนี่กระทบกระเทียบ นี่แหละนิสัยป้าฉัน ซึ่งก็คือลูกพี่ลูกน้องของพ่อตอนนี้ขั้นตอนการทำบุญเลี้ยงพระแล้วผ่านพ้นไปแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวรับประทานอาหารร่วมกัน ป้าณีแกสั่งโต๊ะจีนมาหกสิบโต๊ะ อันนี้ทราบจากแม่ พี่พิมพ์วันนี้แต่งตัวสวยจัดเต็ม ข้างกายมีแฟนหนุ่มซึ่งได้รับการชื่นชมจากป้าณีไม่ขาดตามติดไม่ห่าง“โชคดีของยัยพิมพ์มันแล้วณีเอ๊ย แต่จะว่าไปแล้วลูกหลานตระกูลเธอได้แฟนหน้าตาดีกันทั้งนั้น” ป้าหมอนเอ่ยขึ้นมา ไม่ต้องคอยเงี่ยหูฟังฉันก็ได้ยินแม้ว่าเสียงดนตรีในงานจะดัง “อย่างแฟนของยัยหนูพริกหวานนั่นก็ดูดีเชียว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางบ้านคงไม่ธรรมดา ผิวพรรณงี้ผุดผ่อง หน้าหล่อยังกับพระเอกละครแน่ะ ได้ยินใครว่าขับรถราคาหลายล้านเลยนะ”“แฟนยัยพิมพ์ก็เปลี่ยนรถขับเป็นว่าเล่น เอาเถอะยังไงฉันขอตัวไปคุยกับแขกคนอื่นต่อแล้วกันนะหมอน”“ป้าณีแก
“แฟนปืนสวยจัง”ลงบันไดมาจากชั้นสองของบ้านประโยคแรกที่ได้ยินก็ทำฉันยิ้มกว้าง วางมือลงบนฝ่ามือแกร่งที่ยื่นออกมารอรับ ริมฝีปากสวยแนบจูบลงบนหลังมือฉันด้วยสัมผัสทะนุถนอม ก่อนเขาจะรวบเอวฉันเข้าไปกอดแนบอก“แฟนเค้าก็หล่อมากกกก” ลากเสียงพลางคล้องแขนโอบรอบลำคอแกร่ง โน้มคนตัวสูงให้ก้มต่ำลงมาหา จูบหนัก ๆ ที่แก้มนุ่มซึ่งนุ่มน้อยกว่าฉันนิดนึง ก่อนจะเกยคางกับแผ่นอกแข็ง ๆ แหงนคอมองดวงตาลุ่มลึกที่แสนอบอุ่น“ชักไม่อยากให้ดื้อไปออกงานแล้วสิ หรือเราจะไม่ไปดี” ปืนพึมพำ จูบเปลือกตาฉันตามด้วยจมูก แก้มทั้งสองข้าง และมาหยุดที่ริมฝีปาก“เปลี่ยนใจมานอนกอดกันอยู่บ้านแทนเถอะค่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันปืนคิดถึงกอดอุ่น ๆ ของดื้อ” แล้วเขาก็จูบจุ๊บปากฉันติด ๆ กันจนฉันหลุดเสียงหัวเราะ คิดถึงส่วนหนึ่ง หวงก็ส่วนหนึ่งแหละอาการนี้อะ หลังกลับจากบ้านสวนปืนฉันก็เอ้อระเหยอยู่ในกรุงเทพฯ ต่ออีกสามวัน แล้วถึงได้กลับมาบ้าน ตอนมาปืนก็มาส่งนี่แหละ แต่เขาจะมาขลุกตัวอยู่บ้านฉันลากยาวมันก็ไม่เหมาะ อีกอย่างเขาต้องช่วยงานพ่อกับแม่ด้วย เพราะใกล้สิ้นปีแบบนี้ทั้งร้านอาหาร และบริษัทต่างก็ยุ่งพอกัน เมื่อวานกว่าจะขับรถมาถึงที่บ้านฉันก็ปาเข้าไ
‘เกียร์วิศวฯ คือเกียร์แห่งความภาคภูมิใจ มีไว้เพื่อระลึกถึงความยากลำบากว่ากว่าจะได้มากูต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหน ส่วนเกียมัวคือเกียร์ที่กูก็ต้องพึงระลึกอยู่เหมือนกันว่าอย่าได้ทำอะไรให้เกียนี้ระคายเคืองเพราะอาจส่งผลถึงชีวิตกูได้’“ยิ้มอะไรคะดื้อ” เสียงทุ้มนุ่มถามข้างหู“คิดถึงเรื่องเกียร์อยู่ค่ะ” เงยหน้ายิ้ม แผ่นหลังพิงอกแกร่งสบาย“เกียร์เหรอคะ ดื้อหมายถึงเกียร์อะไร เกียร์ที่ปืนให้ดื้อเก็บรักษาเอาไว้ หรือปืนที่เกียมัว” เขาเขี่ยปลายจมูกฉัน ประโยคท้ายกระซิบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ“ก็ทั้งสองแหละ” ฉันยิ้มเต็มใบหน้า ปืนรัดแขนแน่นแสดงอาการมันเขี้ยวฉัน ถ้าไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าคนเยอะเขาคงจับฉันฟัดไปแล้ว ไม่ทำแค่หอมแก้มธรรมดาหรอก“นี่ ๆ ๆ ที่เราจะปาร์ตี้หมูกระทะกันเนี่ย มีของครบเหรอ”“เออว่ะ ถ้าแจนไม่ทักคงไม่มีใครคิด” เป้ขมวดคิ้ว เท้าเอว“ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไงคืนนี้ก็ได้กิน”“พูดแบบนี้หมายความว่ามึงเตรียมไว้แล้วเหรอวะไอ้ปืน”“อือ”สรุปได้ว่าก่อนมาปืนให้คนงานช่วยเตรียมซื้อเสบียงไว้รอท่าพวกเราอยู่ก่อนแล้ว เหมือนเขารู้อะว่าความต้องการของทุกคนคืออะไร รางวัลที่เขาสมควรได้ฉันเลยจัดไปชุดใหญ่ หอมแก้มเน้
เราใช้เวลากินข้าวกันประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นฉันก็ไล่ปืนให้ไปนั่งดูทีวี ส่วนฉันก็ทำหน้าที่เก็บกวาดโต๊ะอาหารแล้วถึงนำจานชามทั้งหมดมาล้างทำความสะอาด เสร็จจากในครัวฉันก็แวบมาดูปืนแป๊บหนึ่ง เห็นเขานั่งดูหนังเงียบ ๆ ฉันก็ยิ้มพอใจก่อนจะหมุนตัวเดินมาทางห้องนอน อาบน้ำอีกสักรอบ คืนความสดชื่นให้ร่างกาย“ถึงว่าทำไมหายมานาน”เท้าพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยทักขึ้นมา ฉันคลี่ยิ้มแล้วเดินตรงมาที่เตียง แขนยาว ๆ ข้างหนึ่งเด่ออกรอท่าให้ฉันถลาเข้ามาอยู่ในวงแขน ส่วนอีกข้างกำมือถือฉันไว้ ระหว่างเราไม่มีความลับต่อกัน ใครจะใช้ของใครจึงไม่ใช่ปัญหา เขาเล่นของฉัน ฉันเล่นของเขา หยิบผิดหยิบถูกสลับเครื่องกันประจำเพราะตอนนี้ เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน สีเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ก็ความคิดปืนอีกแหละ เงินเขาด้วย“นึกว่าจะได้นอนหลับสบายบนเตียงคนเดียวซะอีก” แสร้งบ่นทว่าก็ทิ้งตัวลงนอนซบอกอุ่น ๆ ที่ช่วงหลังมานี้ฉันใช้มันนอนต่างหมอนเป็นประจำ“คิดว่าจะได้นอนหลับสบายจริง ๆ เหรอคะคนสวย” ถามเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนจะงับแก้มฉันไปคำใหญ่ และดูดจนเกิดเสียงดังบ๊วบ ชอบเล่นอะไรแบบเนี้ย “ตอนอาบน้ำใหม่ ๆ นี่น่ากินนักแหละ” คราวนี้
ฉันกลั้นหายใจขณะเปิดและปิดประตู ก่อนจะเดินย่องเบา ลงน้ำหนักแค่ปลายเท้าเข้ามาในห้องนอนกว้าง ร่างสูงเปลือยท่อนบนอวดแผ่นหลังขาวจั๊วะของผู้เป็นเจ้าของพื้นที่ที่กำลังนอนคว่ำหน้า ไม่รู้สึกรู้สากับอุณหภูมิที่เปิดเอาไว้เย็นจัด ฉันกัดริมฝีปากพลางอมยิ้ม คลานเข่าขึ้นมานั่งทับขาอยู่บนเตียง ใช้นิ้วชี้จิ้มสะกิดจึก ๆ บริเวณเหนือขอบกางเกงนอนขายาวก็ยังไม่ขยับจึงตัดสินใจเหยียดขาข้างขวาตวัดคร่อมสะโพกสอบก่อนจะพาตัวเองปีนขึ้นมานอนทับเรือนกายแข็งแรง แกล้งเป่าลมเข้าไปในหูสะอาด ปลุกคนนอนตื่นสายให้ตื่นจากการนอนหลับฝันดี“ปืนนนนน”“อือ”“ตื่นได้แล้วค่ะ ตอนนี้จะเที่ยงแล้วนะคะ”พรึ่บ“ว้าย” กรีดเสียงร้องด้วยความตกใจ ปืนพลิกตัวทีเดียวฉันก็ตกอยู่ใต้ร่างในอ้อมแขนเขา ทิ้งน้ำหนักตัวกว่าเจ็ดสิบกิโลกรัมให้ฉันเป็นคนแบกรับเอาไว้“แฟนปืนตัวหอมจังค่ะ” เสียงแหบแห้งของคนเพิ่งตื่นงึมงำ จมูกกับปากคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอ ฉันแทรกนิ้วเข้าไปซุกในเส้นผมนุ่มลื่น สิ่งที่โปรดปรานอีกอย่างหนึ่งของฉันคือการได้เล่นผมเขา แล้วเขาเองก็ชอบที่ฉันหมั่นนวดคลึงหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ ผู้ชายหลายคนอาจจะถือ ไม่ปลื้มที่แฟนเล่นหัวแต่ส
หลังจากกินอิ่มเราก็หอบหิ้วของฝากมาให้พ่อกับแม่ ปืนเขาคอยถามตลอดว่าเอาอันนั้นไหม พ่อจะกินไหม แม่จะชอบรึเปล่า แล้วเขาก็เข้ากันได้ดีกับน้องชายฉันมาก ๆ ฉันดีใจนะ ดีใจมากเลยล่ะที่การคบกันของเราสองคนไม่ได้นำพาความหนักใจให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพื่อนฉันหลาย ๆ คนเจอปัญหาครอบครัวแฟนไม่ปลื้ม เข้ากับใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าถ้าวันใดวันหนึ่งฉันต้องเจอกับสถานการณ์แบบนั้นจะทำยังไง ซึ่งมันก็ไม่ได้คำตอบ เพราะเรายังไม่เจอ จนวันนี้ฉันมีแฟน และปัญหานั้นฉันกับปืนไม่มี จึงบอกได้เลยว่ามันคือความโชคดีของเรา “แอบคิดถึงผู้ชายคนไหนรึเปล่าคะดื้อถึงได้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่” “อื้อ” “อื้อนี่คือไรดื้อ” “ก็คิดไง” “ว่าไงนะ!” “คิดถึงปืน” ยิ้มอ้อนปืนก่อนเอนหัวพิงไหล่เขาอย่างออดอ้อน “คิดถึงปืนในแง่ไหนเล่าให้ฟังหน่อย พูดดีมีรางวัล พูดไม่ดีต้องโดนทำโทษ” ฉันอมยิ้ม ปืนยกมือขึ้นลูบผม ได้ยินเสียงสูดดมแถวข้างขมับแล้วพึมพำว่า “หอม” “คิดว่าเค้าโชคดีจังที่ได้เจอกับเธอ และที่โชคดีไม่แพ้กันคือครอบครัวของเรารักและเอ็นดูเรา” มุ
“กับพริกหวานเธอจริงจังมากแค่ไหน”“จริงจังถึงขนาดคิดไปถึงเรื่องแต่งงานเลยครับ”“แต่เธอเพิ่งคบกันได้ไม่นาน อะไรที่ทำให้มั่นใจขนาดนั้น”“เพราะพริกหวานคือผู้หญิงที่ผมรัก และผมคิดว่าผมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอเลยครับ” ฉันยกมือปิดปากก่อนที่เสียงร้องจะหลุดออกไปให้ใครได้ยิน ฉันเพิ่งรู้ เพิ่งรู้คำสารภาพนี้“มันอาจเป็นความรัก ความหลงที่อาจไม่จีรัง”“ไม่หรอกครับพ่อ ผมรู้จักตัวเองดี คนอย่างผมถ้าได้ลองรักหรือชอบอะไรแล้วไม่มีทางที่ผมจะเปลี่ยนใจจากสิ่งนั้นได้ง่าย ๆ พริกหวานเข้ามาเปลี่ยนโลกผม เข้ามาทำให้ผมอยากยิ้ม อยากหัวเราะ ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่กับลูกสาวพ่อ”“พ่อแม่เธอล่ะว่ายังไง”“พ่อแม่ผมชอบพริกหวานมากครับ”“รักกันก็ดูแลกันให้ดี พ่อมีลูกสาวคนเดียวหวังว่าจะเข้าใจ”“ครับ ขอบคุณครับพ่อ”“ยัยพริกหวานไม่ต้องซ่อนแอบแล้ว ไปบอกแม่ว่าพ่อหิว”“ค่ะ” ฉันได้แต่ยิ้มแหย มั่นใจว่าพ่อไม่เห็นแล้วนะ รู้ได้ไงไม่รู้การพาปืนมาพบครอบครัวของฉันครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พ่อไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกให้ดูแลกันให้ดี ทำอะไรนอกลู่นอกทางก็ให้พึงระลึกอยู่เสมอว่าเรากำลังอยู่ในวัยเรียน พ่อกับแม่ยังไม่อยากอุ้
วันนี้ฉันจะพาปืนไปเจอครอบครัว เราออกจากกรุงเทพฯ มาได้ชั่วโมงหนึ่งแล้ว คนที่ออกอาการตื่นเต้นกลับไม่ใช่คนที่กำลังไปเจอพ่อกับแม่ เป็นฉันเองนี่แหละที่ใจหวิว ๆ ในช่องท้องปั่นป่วน อยากชวนยูเทิร์นกลับไปตั้งหลักใหม่ “เป็นไรดื้อ” “ตื่นเต้นอะ” “ตื่นเต้นทำไม ได้กลับบ้านตัวเองนะ” “ก็เพราะพาเธอกลับด้วยนี่แหละเค้าถึงได้ตื่นเต้น” “ทำไม กลัวพ่อตาแม่ยายไม่ปลื้มปืนอ่อ” “ก็ไม่ เค้าเชื่อว่าพ่อแม่ต้องชอบเธอ แต่” “แต่อะไร” “แต่เค้าก็ยังกังวล” “งั้นขอกำลังใจให้ปืนหน่อย” “แปะโป้งไว้ก่อนได้ไหมอะ” “ไม่ได้” “โธ่” ฉันแสร้งถอนหายใจไปงั้น ยอมตั้งแต่เขาขอแล้วแหละ และกำลังใจที่ว่าก็คือหอมแก้ม ฉันยื่นหน้าไปหอมแก้มปืนฟอดใหญ่ ทิ้งตัวเอนซบร่างสูงแทนพิงเบาะ ปืนยกมือขึ้นมาโอบฉันไว้ รู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่แตะลงมาแถว ๆ ข้างขมับ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นอะไรฉันชอบกอด ชอบอ้อนเขาเป็นพิเศษ “อาทิตย์นี้พี่แพรให้ปืนพาดื้อเข้าไปเอาเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่” “พี่แพรไลน์มาบอกเ
“อื้อ...พะ...พอ ไม่...ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวหยุดไม่ได้”ผมเป่าปาก ผ่อนลมหายใจก่อนซบหน้าลงบนซอกคอขาว พลางลูบหลัง ลูบไหล่บางเล่นคลายความปรารถนา “ใครที่ว่าหยุดไม่ได้ ดื้อหรือปืนหืม” ผมยิ้มในหน้า ถามล้อคนหน้าแดงตัวแดง กลั้วหัวเราะชอบใจ กดปากจูบหนัก ๆ ที่ซอกคอขาว ๆ ไล้ปลายนิ้วที่เอวอ่อนคอดกิ่ว รัดร่างนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแน่น ๆ เพื่อสงบอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงปรี๊ดให้ดำดิ่งลงมา พอได้กอดแล้วผมไม่อยากปล่อยเลย อยากกอดเอาไว้ทั้งวันทั้งคืน“ต้องไม่ใช่เค้าอยู่แล้ว” เสียงปนหอบกระเง้ากระงอดเล็ก ๆ“อ่าฮะ เพราะฉะนั้นก็นั่งนิ่ง ๆ อย่าขยับอีกเลย ปืนทรมานมาก” ผมกัดฟันกระซิบบอกข้างใบหูขาวสะอาด ร่างดุ๊กดิ๊กบนตักถึงกับชะงัก ตัวแข็งค้าง ตากลมโตเบิกกว้างมองต่ำลงมองตรงจุดเกิดเหตุ ปากจิ้มลิ้มค่อย ๆ เผยอขึ้นทีละน้อย ความทรมานของผมเกิดขึ้นได้ตลอดถ้ามีพริกหวานน้อยอยู่ใกล้ ๆ“ปล่อยไหม ปล่อยเถอะ” น้ำเสียงเบาหวิวถามกึ่งขอร้องผมส่ายหน้า กอดรัดเอวเล็กแน่น ถึงสถานการณ์จะสุ่มเสี่ยงแต่ก็ยังอยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ “ยังไม่อยากปล่อยเลยค่ะ อยากกอดไปอีกนาน ๆ ดื้อช่วยกอดปืนให้แน่นกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ” ผมแนบปากลงบนหัวไหล่กลมกลึงก่อนจะซุก