LOGINEP.4
ยอมแลกกับเงินแสนไมเลสกระซิบชิดข้างหูเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะผิวจนเธอรู้สึกวาบหวาม “เธอรู้ดีว่าฉันต้องการอะไร” ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความลังเลและความหวาดกลัว นิ้วเรียวยาวของเขาไล้ไปตามลำคอระหงอย่างเชื่องช้า
แก้มใสอยากจะปฏิเสธออกไปให้สุดเสียง แต่คำพูดกลับจุกอยู่ที่ลำคอ ภาพแผลฉกรรจ์ที่สีข้างเอวของเขายังคงติดตา เขาเพิ่งเอาตัวเข้ามาบังกระสุนเพื่อช่วยเธอจากพวกนั้น แต่ทำไมตอนนี้บาดแผลสด ๆ ถึงไม่เป็นอุปสรรคต่อความต้องการของเขาเลยแม้แต่น้อย
ริมฝีปากหยักได้รูปของเขาเคลื่อนลงมาจากลำคอ สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของครีมอาบน้ำจากผิวเธอราวกับค้นหาสิ่งหอมหวาน แม้ร่างกายที่โอบกอดเธออยู่นี้จะเต็มไปด้วยร่องรอยของการต่อสู้ แต่เขากลับไม่มีท่าทีว่าจะเจ็บปวดเลยสักนิด แรงปรารถนาในดวงตาของเขาทำให้แก้มใสรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
“เธอต้องยอมแลกนะแก้มใส คืนละแสนไม่ใช่น้อย ๆ เดือนนึงเธอจะได้เท่าไหร่ลองนับดูสิ แล้วอีกกี่เดือนกันล่ะที่เธอจะหาได้ขนาดนี้จากอาชีพ...ช่างแต่งหน้า” ไมเลสกระซิบเสียงพร่าอีกครั้ง ประโยคนั้นราวกับมีเวทมนตร์ร้ายกาจที่ทำให้แก้มใสชาไปทั้งตัว
“หนึ่งแสนบาทฉันจะให้เธอทันที หลังจากที่เรามีความสุขด้วยกัน เธอได้เงินฉันได้เซ็กซ์”
คำพูดของเขาดังก้องอยู่ในหัว แก้มใสหลับตาลงอย่างช้า ๆ พยายามรวบรวมสติที่กระจัดกระจาย เวลานี้เธอไม่มีทางเลือกมากนัก ขอแค่ได้เงินก้อนเพื่อต่อชีวิตในอนาคต หากเธอไม่ยอมชีวิตเธอคงหมดหนทาง เธอเองก็คงตากหน้ากลับไปที่บ้านนั้นไม่ได้อีก ไม่มีใครต้องการเธอแล้ว
เขาก้มลงประทับจูบลงบนกลีบปากนุ่มของเธออย่างอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยแรงปรารถนา เขาสัมผัสได้ถึงความสั่นสะท้านจากร่างในอ้อมแขน แต่ก็ยังคงตอบรับจูบของเขาอย่างไม่ประสีประสา ลมหายใจอุ่นร้อนรดรินดวงหน้า สร้างความปั่นป่วนในใจเธอไม่น้อย
จากริมฝีปากไล้จูบลงมาตามลำคอระหง ซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับซอกคอหอมกรุ่น สูดดมกลิ่นกายของเธอจนเต็มปอด มืออีกข้างของเขาเลื่อนต่ำลง สัมผัสแผ่วเบาไปตามลาดไหล่มน ลูบไล้ขึ้นลงอย่างเย้ายวนก่อนจะค่อย ๆ โอบกระชับเอวคอดเข้ามาแนบชิดกับกายเขามากขึ้น
ปลายนิ้วอุ่นร้อนสัมผัสผิวกายเนียนนุ่ม ไล้ไปตามสะโพกโค้งมนอย่างช้า ๆ ก่อนจะเคลื่อนต่ำลงไปอยู่ตรงจุดอ่อนไหว มืออีกข้างสอดประสานเข้าใต้ต้นขาอ่อนพยุงร่างบางให้แนบชิด สัมผัสแผ่วเบาแต่หนักแน่นของเขาทำให้เธอรู้สึกราวกับมีกระแสไฟแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่าง ความรู้สึกวาบหวามและร้อนรุ่มเริ่มคืบคลานเข้าครอบงำ
เธอหลับตาลงแน่น พยายามระงับความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา เธอกระซิบเสียงพร่า
“คุณคะ...”
“อะไร” ร่างสูงผละใบหน้าออกเล็กน้อย ดวงตาคมกริบฉายแววหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ความปรารถนาที่คุกรุ่นเมื่อครู่ถูกดับลงกะทันหัน เขาถอนหายใจพรืด ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง แม้ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่ท่าทางนั้นก็บ่งบอกได้เขาไม่พอใจขนาดไหนที่ถูกขัดจังหวะ
“ฉันไม่เคย...” เธอเสหลบสายตาคู่นั้นก่อนจะเอ่ย “เบากับฉันด้วยนะคะ” เธอตัดสินใจแล้ว คืนนี้เธอจะยอมตกเป็นของเขา เพื่อแลกกับเงินหนึ่งแสนบาทต่อลมหายใจของตัวเอง
ไมเลสเผยจุดยิ้มมุมปาก จับปลายคางมนให้หันมามองสบ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ เขากระซิบตอบเสียงทุ้มพร่าข้างหู
“ฉันไม่รับปาก แต่ฉันสัญญาว่าจะทำให้เธอมีความสุข ลืมความทุกข์ที่มันบัดซบ” คำพูดนั้นอาจไม่ได้ช่วยให้ความกลัวของเธอหายไปทั้งหมด แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้างในห้วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุดในตอนนี้
ความเร่าร้อนจากสัมผัสที่เขาปรนเปรอให้ทำให้เธอในคืนนี้รู้สึกร้อนไปทั้งตัว ไมเลสพยายามกล่อมประสาทเธอทุกวิถีทาง และสุดท้ายแก้มใสก็ตัดสินใจยอมตกลงกับข้อเสนอของเขา
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนอันหรูหรา ร่างกายเธอเต็มไปด้วยร่องรอยจูบและสัมผัสที่เร่าร้อนของเขาในคืนที่ผ่านมา ร่องรอยเหล่านั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน เธอมองร่างที่นอนอยู่ข้าง ๆ ไมเลสยังคงหลับสนิท
เรือนผมสีดำยุ่งเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าคมคายภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทก็ยังคงดูหล่ออย่างไร้ที่ติ
ดวงตากลมโตบรรจงไล่สำรวจตั้งแต่ไรผมจรดปลายคางของเขา จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักได้รูป
ความหล่อเหลาของเขาก็ยังคงฉายชัดจนแก้มใสตะลึงในความหล่อราวกับเทพบุตรที่หลุดออกมาจากภาพวาด
เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปสัมผัสปลายผมที่ยุ่งเหยิงของเขาเบา ๆ
แก้มใสหวนนึกถึงค่ำคืนที่ผ่านมา เธอยอมให้เขารังแกมันไม่ใช่เพราะความรักหรือความปรารถนา หากแต่เป็นเพราะเงินหนึ่งแสนบาทที่เธอต้องการ แก้มใสผู้ซึ่งอ่อนประสบการณ์ในเรื่องบนเตียงและเขาผู้ซึ่งเจนจัดทุกสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหวของเขายังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำราวกับเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน
เมื่อตั้งใจจะขยับกายลุกจากเตียงกว้าง แขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวบางก็กระชับเข้ามาอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กถูกดึงกลับไปซบกับอกกว้างอีกครั้ง
“อ๊ายยย คุณ...”
“จะรีบไปไหน ?” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยขึ้น ดวงตาคมปรือมองเธออย่างเนิบนาบพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น
“ฉันจะเข้าห้องน้ำ คุณปล่อยฉันก่อนสิ” เธอพยายามขยับกายแกร่งให้พ้นจากอ้อมกอดแต่กลับไม่เป็นผล
“ตัวเล็กนิดเดียวแรงเท่ามด” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ “เมื่อคืนคงไม่สะท้านเท่าไหร่สินะ”
เธอหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดนั้น พยายามบิดตัวออกจากการเกาะกุม “มันไม่เกี่ยวกันค่ะ คุณปล่อยฉันสิ ฉันอยากเข้าห้องน้ำ”
“ไม่เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเลยรึไง หรือว่าฉันยังทำไม่ถึง” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าคมคาย เขาจ้องมองเธอราวกับอยากจะกลืนกินเธออีกครั้ง
“แล้วทำไมฉันต้องเมื่อยตัวด้วย” คนฟังถึงกับหัวเราะในลำคอ
“พูดแบบนี้สงสัยคงต้องซ้ำ เอาให้ขบเมื่อยไปสักอาทิตย์เลยดีไหม”
ตอนพิเศษ 4ร่างสูงใหญ่ในท่าทีที่น่าเกรงขาม ‘ไทเธย์’ นั่งพิงเบาะหลังรถยนต์หรูคันที่สองในขบวน รถกำลังขับออกจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง สายฝนเดือนพฤศจิกายนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายจนหน้าต่างรถพร่ามัว เขาเลื่อนกระจกลงเล็กน้อยเพื่อสูดกลิ่นไอดินและหญ้าที่ปะปนมากับความชื้นของสายฝน ชายหนุ่มอายุ 30 ปีผู้เป็นเจ้าของธุรกิจมืดหลายอย่าง มีใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยวที่เฝ้ามองเหยื่ออยู่ตลอดเวลา เขาเปิดอ่านเอกสารสำคัญในมืออย่างตั้งใจ ก่อนที่รถถูกเบรคกกระทันหัน “ขอโทษครับนาย” ไทเธย์เงยหน้าขึ้นมองคนขับด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เขามองไปยังรถคันสีดำที่จอดอยู่ข้างหน้า กระทั่งมีบอดี้การ์ดวิ่งมา เขาจึงลดกระจกลงเล็กน้อย “นายครับ มีผู้หญิงมายืนตัดหน้ารถ เธอบอกว่าจะขอคุยกับนายครับ” ไทเธย์เงียบฟัง ดวงตาคมย้ายไปมองทางข้างหน้า เขากำลังใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยสั่งเสียงเข้ม“จับเธอออกไป” บอดี้การ์ดคนเดิมก้มหัวรับคำ รีบเดินไปจัดการ ผู้หญิงคนนั้น แต่ทว่าเขากลับได้ยินเสียงของเธอตะโกนให้ได้ยิน “ปล่อยฉันนะ ฉันต้องการคุยกับเขา คุณคะ หนูอยากเจอคุณ” ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองตามเสียงร้อง เขาเห็นร่างบอบบางของหญิงสาวกำลังถ
เขาพึมพำเสียงพร่า มืออีกข้างเลื่อนขึ้นเคล้นทรวงอกอิ่ม บดขยี้ยอดถันอย่างหิวกระหายจนเธอต้องแอ่นกายรับสัมผัสนั้นอย่างห้ามไม่ได้ ดวงตาของทั้งคู่สบกันอย่างยั่วยวน แก้มใสเม้มปากล่างแน่น ดวงตาเยิ้มพร่าด้วยแรงอารมณ์ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นลงอย่างไม่ยั้ง “ซี๊ด~ ดีมากที่รัก” “อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา~” เสียงครางหวานประสานกับเสียงทุ้มต่ำก้องกังวานในห้องแต่งตัว แก้มใสกระแทกสะโพกลงกับตักหนาแรงขึ้นเสียงเนื้อกระทบกันดังระงม ความร้อนรุ่มพลุ่งพล่านราวกับไฟลุกโชนทำให้เขาและเธอแทบไม่รู้ตัวว่าร้องครางออกมาอย่างไร้การควบคุม “ยั่วฉันเกินไปแล้ว” เสียงเขาแหบพร่าขณะที่มือใหญ่รั้งเอวบางแน่น กดตรึงให้จังหวะของเธอยิ่งลึกและแนบชิดขึ้น สะโพกหนายกสวนโต้ตอบอย่างรุนแรง ริมฝีปากร้อนรุ่มลากไล้จูบจากลำคอขาวเนียนขึ้นมาถึงกลีบปากบาง แล้วบดขยี้จูบอย่างเร่าร้อน เสียงหอบหายใจสอดประสานกับเสียงดูดดื่มที่ชวนให้ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดดูดกลืนกันจนเธอแทบขาดอากาศ“อื้อ! ที่รัก…ฉันจะไม่ไหวแล้ว” แก้มใสร้องเสียงสั่น สะโพกเล็กเร่งเร้าเร็วถี่ ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วร่างจนขาเรียวสั่นระริก เขากระตุกยิ้มร้าย สายตาคมกริบสอดประส
ตอนพิเศษ 3 “ไม่ค่ะ” แก้มใสเอ่ยปฏิเสธคำขอของสามี ก่อนจะออกแรงผลักให้ร่างใหญ่ทรุดนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก แล้วเธอก็ตามมานั่งทับลงบนตักกว้างนั้นอย่างท้าทาย“หืม~ วันนี้เธอจะรุกฉันงั้นเหรอคนสวย” “ก็เห็นอยู่นี่คะ ว่ากำลังจะทำอะไร” แก้มใสเอ่ยเสียงพร่า มือเรียวค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาทีละเม็ดอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่มองสบกันไม่วาง ความร้อนรุ่มคุกรุ่นไปทั่วอกจนไมเลสแทบทนไม่ไหว เขาจึงช่วยเร่งกระชากเสื้อออกจากตัวอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเรือนกายแข็งแกร่งที่เธอปรารถนาอยากจะครอบครองไมเลสเอื้อมมือไปปลดซิปชุดเดรสออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรูดลงจนผ้าเลื่อนหลุด เผยให้เห็นชุดชั้นในลูกไม้สีดำที่แนบตึงไปกับเนินอกอวบ เขามองความขาวสูดลมหายใจลึก แววตาคมกริบเต็มไปด้วยแรงปรารถนาที่กำลังปะทุเขาใช้นิ้วปลดตะขอสิ่งขัดขวางตรงหน้า แก้มใสรูดสายชั้นในลงอย่างช้า ๆ ส่งสายตายั่วยวนสามีที่นั่งกัดปากอย่างอดทน“ลูกคนที่สองเมื่อไหร่จะมาสักที ฉันอยากได้ลูกสาว” ไมเลและแก้มใสเคยคุยกันไว้ ลูกคนที่สองพวกเขาทั้งคู่จะรอให้อีธานมีอายุครบสองขวบก่อน ช่วงนี้เขาเร่งปล่อยเร่งที่อยากจะผลิตตัวน้อย ๆ ในท้องภรรยาเต็มที “อาจจะ...
หลังจากที่หมอวินเดินห่างออกไป ดวงตาก้าวเท้าอย่างเชื่องช้า เห็นลูกสาวและลูกเขยนั่งอยู่บนเตียง ทั้งคู่คล้ายจะมีปากเสียง เมื่อเห็นว่าแก้มใสทำท่าจะยกมือตีไมเลส ส่วนอีธานหลานชายเธอนั่งมองทั้งคู่อยู่บนตักแก้มใส เด็กคนนี้ช่างน่ารัก น่าชังเหลือเกิน “แม่...” สองสามีภรรยามองไปยังดวงตา แก้มใสลดมือลง ทันทีที่เห็นมารดาน้ำตาสีใสคลอเบ้า ไมเลสจับลูกชายวัยซนมานั่งบนตักแทน “ลูก...สวยมาก เหมาะสมกันมาก” ดวงตาหันมองคู่สามีภรรยา “ขอบคุณครับ/ค่ะ” ดวงตามองหน้าลูกสาวเพียงคนเดียว ในจังหวะเดียวกันหญิงวัยกลางคนก็เหลือบมองเจ้าตัวเล็กที่กำลังมองเธอตาแป๋วเช่นกัน “อีธานครับ สวัสดีคุณยายเร็ว” เจ้าเด็กแสบทำท่ายกมือธุจ้า อีธานอารมณ์ดียิ้มร่าเริงให้คุณยาย “คุณยายชื่อดวงตา เป็นแม่ของแม่นะครับ” อีธานรับฟังเสียงของมารดา ก่อนจะนั่งโยกตัวบนตักบิดา ทว่าจู่ ๆ เด็กน้อยกางแขนป้อม ๆ ราวกับอยากให้คุณยายอุ้ม “ยะ ยะ” ทันทีที่ดวงตาเห็นหลานชายอยากให้เธออุ้ม เธอกางมือทำท่าจะรับมา แต่ไมเลสกลับไม่ยอม สายตาคมคล้ายไม่ไว้ใจ แค่เขายอมให้ดวงตามางานแต่งงานด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว “คุณคะ” แก้มใสส่งเสียงดุสามี “เอ่อ...ไม่เป็นไร แม่เข้าใจ” ดวงต
เสียงดนตรีคลอไปทั่วห้องบอลรูมของโรงแรมหรูใจกลางเมือง แสงไฟระยิบระยับส่องประกายไปทั่วงาน ไมเลสยืนอยู่บนเวทีในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขแก้มใสในชุดเจ้าสาวที่สง่างาม เธอเดินถือช่อดอกไม้สีขาวเพื่อเข้าสู่ห้องงาน ทุกก้าวย่างของเธอสวยสง่าราวกับหลุดออกมาจากนิยาย ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มหวานไปให้ไมเลส ผู้ชายที่ยืนรอเธออยู่บนเวทีงานแต่งงานในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นตามที่ไมเลสเคยบอกไว้กับแก้มใส เขาจะจัดงานแต่งงานก็ต่อเมื่อลูกชายของเขาลืมตาดูโลกขึ้นมาแล้วเท่านั้น และวันนี้อีธานก็ได้อยู่ในงานแต่งของพ่อและแม่ของเขาแล้ว ทว่าอีกฟากฝั่งจากมุมหนึ่งภายในห้องบอลลูม หญิงวัยกลางคนยืนนิ่ง เธอกำลังยืนมองบรรยากาศในงานด้วยน้ำตาเอ่อคลอ “...ลูก” ดวงตาได้บัตรเชิญให้มางานแต่งของลูกสาวเมื่อเดือนก่อน มีชายชุดดำมายืนอยู่หน้าบ้านถึงสองคน ยื่นการ์ดสีขาวมาให้โดยไม่พูดอะไร ดวงตารับมาไว้แล้วอ่านข้อความบนการ์ดนั้น ทว่าอยู่ ๆ น้ำตาสีใสก็ไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งดาบสามีคนปัจจุบันเดินเข้ามาแล้วแย่งการ์ดงานแต่งมาอ่าน “เหอะ! ไอ้ลูกเลี้ยง มันสบายนี่ แล้วดูมึงกับกูสิ ลำบากฉิบหาย” ดาบย
ตอนพิเศษ 1มอแกนก้าวลงจากรถซูเปอร์คาร์คันหรู เขายืนอยู่ตรงหน้าทางเข้ารีสอร์ตเล็ก ๆ ในจังหวัดเมืองรอง ที่ที่เขาเคยใช้เป็นที่พักชั่วคราวเมื่อครั้งหลบหนีออกมาจากเรือนจำ ร่างสูงยังอ่อนแรงจากการพักฟื้นที่โรงพยาบาล ใบหน้าซีดเซียวสะท้อนให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า ทว่าดวงตาเขากลับสงบนิ่ง เขากวาดสายตามองรอบ ๆ ความเงียบของรีสอร์ต มอแกนหลับตาลงสูดบรรยากาศถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ความสวยงามเริ่มทำให้เขาคลายความตึงเครียดลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ มอแกนกดสายตามองซองสีน้ำตาลที่เขาถืออยู่ในมือ สองเท้าก้าวเข้าไปในล็อบบี้เพื่อติดต่อขอเข้าพัก...อีกครั้ง แต่กลับไม่พบพนักงานอยู่ประจำหน้าเคาน์เตอร์ เขายื่นมือออกไปกดกริ่งกริ๊ง กริ๊ง~ “สวัสดีค่ะ...” เสียงอ่อนหวานที่เขาคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง มอแกนชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอสวมชุดเดรสยาวสีขาวสะอาดตา เผยให้เห็นเรือนร่างที่บอบบางและผิวขาวผ่อง สีหน้าของเธอดูตกใจไม่น้อยที่ได้เจอกับเขา มอแกนมองหน้าเธออย่างไม่เชื่อสายตา ‘สายธาร’ เขาจำเธอได้ทันที เธอคือหญิงสาวคนเดียวกันที่เขาเคยเจอที่สุสานใน







