เด็กสาวถลึงตาก่อนถอนหายใจเมื่อเลี่ยงไม่ได้ “ก็...นะ อเล็กซิสเป็นสาวป็อปอยู่แล้ว ฉันไม่แปลกใจหรอกที่พวกผู้ชายจะชอบ ไม่ต้องทำอะไร ทุกคนก็ชื่นชม หัวสมองก็ดี...”
แก้มเด็กสาวแดงซ่านเมื่อรู้สึกว่าพูดมากไป “...แต่เธอเป็นมิตรกับทุกคน เอาเป็นว่านิสัยดีเลยล่ะ อเล็กซิสมีเพื่อนผู้ชายเยอะพอ ๆ กับเพื่อนผู้หญิง เธอเล่นกีฬา แล้วกลุ่มเธอก็สนิทกับนักกีฬาเกือบทั้งโรงเรียน บวกกับหัวดี เธอมีเพื่อนทุกประเภท ไม่ว่าจะ เนิร์ด ติ่ง คนดัง ตอนเรียนมีแฟนอยู่คนเดียว ฉันจำได้เลย เดวี่กับอเล็กซิส ใคร ๆ ก็อิจฉา เธอไม่เคยคบคนอื่น ไม่ได้เดตกับใครไปทั่ว ถ้าพวกเขาไม่เลิกกันก่อน ฉันไม่คิดว่าอเล็กซิสจะมองใครอีก”
เทสซ่ากับอาคุสะแลกเปลี่ยนสายตากันประมาณว่า นี่ขนาดไม่อยากจะพูด คำพูดของเบลินดายืนยันได้ว่า ถึงแม้พวกเขาไม่ใช่เพื่อน แต่ก็เติบโตมาด้วยกันจริง ๆ
“อเล็กซ์ไม่ยอมเผชิญหน้า อเล็กซิสก็ไม่ชอบดราม่า ฝั่งหนึ่งไม่พูด ฝั่งหนึ่งไม่เซ้าซี้ นั่นแหละปัญหา แต่ว่า...ก็แค่มุมมองของคนนอกนะ” เบลินดาสรุป ไม่วายยิ้มให้เทสซ่าเหมือนต้องการบอกว่าหมายถึงเธอด้วย
ลานประลองที่หลายคนพูดถึงไม่เหมือนกับเวทียกพื้นที่มีเชือกกั้นและกรรมการคอยนับสิบ ไม่มีแม้แต่โต๊ะกรรมการ และระฆัง มันอยู่ระหว่างตึกทับซ้อนกันจนเกิดตรอกเป็นรูปดาวห้าแฉกมาบรรจบ ณ ลานขนาดครึ่งสนามฟุตบอล อัฒจันทร์ก็คือขั้นบันไดโอบล้อมพื้นที่ราบตรงกลาง และคนที่นั่งดูจะทำหน้าที่เป็นกรรมคอยนับ กฎกติกามีอยู่ว่า หากต้องการประลอง ต้องวางเงินเดิมพันให้ตัวเองอย่างต่ำห้าร้อยชิป ไม่สูงมากนักเพื่อเปิดโอกาสให้มือใหม่กล้าพอเดิมพันตัวเองเพื่อแลกกับเงินรางวัล เงินรางวัลนั้นมาจากไหน คำตอบคือ ค่าเดิมพันของอีกฝ่ายบวกกับส่วนแบ่งจากเงินพนันของฝั่งแพ้อีกสิบเปอร์เซ็นต์ และผู้พนันจะวางเงินพนันขั้นต่ำตั้งแต่หนึ่งพันชิปขึ้นไป คนที่วางเงินพนันจะได้สิทธิพิเศษด้วยที่นั่งแถวหน้าไล่ไประดับไปเรื่อยจนถึงแถวยืน ทีแรกเทสซ่าคิดว่าคนคงไม่เยอะมาก แต่อย่างที่อเล็กซ์พูดถูก ที่นี่เป็นศูนย์รวมประชากรจากทุกเขตสองสาวเดินตามหลังอเล็กซ์ง่ายกว่านำด้วยตัวเอง ความสูงของเขาเป็นประโยชน์มาก พวกเธอรู้ว่าต้องเดินไปจุดไหนบ้างเพียงแค่เขาแหวกทางให้ สิ่งหนึ่งที่เธอสัมผัสได้จากสถานที่แห่งนี้คือความมีชีวิตชีวา จากที่ผ่านมาเธอรู้สึกเหมือนห
วินาทีต่อมา พวกเขาเล่นมวยปล้ำกัน รีเวอร์ดูท่าจะถนัดแนวนี้มากกว่า แต่ก่อนที่เขาจะล็อกคออีกฝ่ายได้ ดวงตาสีฟ้ามองขึ้นมาแล้วสบเข้ากับเธอพอดี ริมฝีปากของเขาเผยอ พึมพำว่า “เทสซ่า”ชั่วเวลานั้นหัวใจของเธอสั่นระรัวแรงฮึดบนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ คงเหมือนกับภาพสะท้อนที่เธอเห็นเขาเมื่อครู่ บลูสบโอกาสใช้ศอกกระแทกหลังและบั้นเอวจนสะบัดตัวออกได้ก่อนจะหมุนตัวหมายเตะก้านคอ รีเวอร์ย่อตัวแต่เพราะสายตายังพะวงมองหาเธอจึงไม่มีสมาธิ บวกกับบลูเริ่มมีน้ำโหเพราะเกือบโดนล็อกคอเมื่อครู่ เขาจึงกลายร่างเป็นกระทิงร้ายเกินต้านทาน ไม่มียั้งมืออีกแล้ว รีเวอร์ตกอยู่ในสภาพคิ้วแตกและช้ำไปทั่วตัว จนหมัดสุดท้าย เธอเห็นรีเวอร์ล้มลงช้า ๆ ทุกคนเริ่มนับถอยหลัง รีเวอร์ยังดูมีสติทุกอย่างหากแต่ตระหนักได้ว่าต่อให้สู้ไป ร่างกายคงช้ำหนักจึงไม่ลุกขึ้นอีกแม้ยังยืนไหว“โดนขนาดนั้น พักเป็นอาทิตย์แน่” อาคุสะเปรย ปรบมือให้กับผู้ชนะ คนที่เชียร์ฝั่งบลูได้ส่วนแบ่งจากที่ลงพนันไว้ ทว่าเบลินดากดแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่ง “มันไม่เยอะหรอก คนเชียร์ฝั่งบลูเยอะกว่า อีกอย่างฉ
วินาทีต่อมา พวกเขาเล่นมวยปล้ำกัน รีเวอร์ดูท่าจะถนัดแนวนี้มากกว่า แต่ก่อนที่เขาจะล็อกคออีกฝ่ายได้ ดวงตาสีฟ้ามองขึ้นมาแล้วสบเข้ากับเธอพอดี ริมฝีปากของเขาเผยอ พึมพำว่า “เทสซ่า”ชั่วเวลานั้นหัวใจของเธอสั่นระรัวแรงฮึดบนใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจ คงเหมือนกับภาพสะท้อนที่เธอเห็นเขาเมื่อครู่ บลูสบโอกาสใช้ศอกกระแทกหลังและบั้นเอวจนสะบัดตัวออกได้ก่อนจะหมุนตัวหมายเตะก้านคอ รีเวอร์ย่อตัวแต่เพราะสายตายังพะวงมองหาเธอจึงไม่มีสมาธิ บวกกับบลูเริ่มมีน้ำโหเพราะเกือบโดนล็อกคอเมื่อครู่ เขาจึงกลายร่างเป็นกระทิงร้ายเกินต้านทาน ไม่มียั้งมืออีกแล้ว รีเวอร์ตกอยู่ในสภาพคิ้วแตกและช้ำไปทั่วตัว จนหมัดสุดท้าย เธอเห็นรีเวอร์ล้มลงช้า ๆ ทุกคนเริ่มนับถอยหลัง รีเวอร์ยังดูมีสติทุกอย่างหากแต่ตระหนักได้ว่าต่อให้สู้ไป ร่างกายคงช้ำหนักจึงไม่ลุกขึ้นอีกแม้ยังยืนไหว“โดนขนาดนั้น พักเป็นอาทิตย์แน่” อาคุสะเปรย ปรบมือให้กับผู้ชนะ คนที่เชียร์ฝั่งบลูได้ส่วนแบ่งจากที่ลงพนันไว้ ทว่าเบลินดากดแบ่งให้เธอครึ่งหนึ่ง “มันไม่เยอะหรอก คนเชียร์ฝั่งบลูเยอะกว่า อีกอย่างฉ
ชายผมเทานั่งเคาะโต๊ะ จ้องหน้าเธอเหมือนชั่งใจ “ฟังนะ การปกครองในทอยซิตี้ไม่ขึ้นกับนิวโฮป...จะเรียกว่าอย่างนี้ก็ได้ คณะบริหารของพวกเราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับนิวโฮป”อเล็กซิสนึกภาพยานหน่วยพยาบาลที่แล่นลงมาในเขตราซาในคืนนั้นแล้วยิ่งสงสัย เทคโนโลยีระดับนี้สามารถถล่มเขตราซาให้วอดวายได้ง่าย แต่เมื่อลองคิดอีกที มันก็เสี่ยงต่อชีวิตเบ็กกี้ ทว่า... “พวกคุณเป็นใครกันแน่”เขาส่ายหัว “เรียกว่าหน่วยพิเศษก็ได้ เดวิส...สิ่งที่เธอควรกังวลก็คือตัวเธอเอง หมอขอย้ำอีกครั้ง พกยาไว้ให้ดีและอย่าปล่อยให้มันออกฤทธิ์จนถึงระดับที่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ อยู่ใกล้เพื่อนที่ไว้ใจไว้ อย่างวาดาสกับโธมัสที่รออยู่ข้างนอก”“หา” อเล็กซิสมองเหลียวหลัง แม้มันเป็นกำแพงทึบ“คงรู้จากเจ้าตัวตึก” ตัวตึก? ทรอยคงหมายถึงริงโก้อเล็กซิสยังไม่อยากออกไป อย่างน้อยขอให้หายคาใจอีกสักนิด “ขอสองคำถามได้ไหมคะ”หมอผมเทาพยักหน้า“คุณอายุเจ็ดสิบจริง ๆ เหรอคะ”เขาเลิกคิ้ว คงแปลกใจที่
ชายผมเทานั่งเคาะโต๊ะ จ้องหน้าเธอเหมือนชั่งใจ “ฟังนะ การปกครองในทอยซิตี้ไม่ขึ้นกับนิวโฮป...จะเรียกว่าอย่างนี้ก็ได้ คณะบริหารของพวกเราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกับนิวโฮป”อเล็กซิสนึกภาพยานหน่วยพยาบาลที่แล่นลงมาในเขตราซาในคืนนั้นแล้วยิ่งสงสัย เทคโนโลยีระดับนี้สามารถถล่มเขตราซาให้วอดวายได้ง่าย แต่เมื่อลองคิดอีกที มันก็เสี่ยงต่อชีวิตเบ็กกี้ ทว่า... “พวกคุณเป็นใครกันแน่”เขาส่ายหัว “เรียกว่าหน่วยพิเศษก็ได้ เดวิส...สิ่งที่เธอควรกังวลก็คือตัวเธอเอง หมอขอย้ำอีกครั้ง พกยาไว้ให้ดีและอย่าปล่อยให้มันออกฤทธิ์จนถึงระดับที่เธอควบคุมตัวเองไม่ได้ อยู่ใกล้เพื่อนที่ไว้ใจไว้ อย่างวาดาสกับโธมัสที่รออยู่ข้างนอก”“หา” อเล็กซิสมองเหลียวหลัง แม้มันเป็นกำแพงทึบ“คงรู้จากเจ้าตัวตึก” ตัวตึก? ทรอยคงหมายถึงริงโก้อเล็กซิสยังไม่อยากออกไป อย่างน้อยขอให้หายคาใจอีกสักนิด “ขอสองคำถามได้ไหมคะ”หมอผมเทาพยักหน้า“คุณอายุเจ็ดสิบจริง ๆ เหรอคะ”เขาเลิกคิ้ว คงแปลกใจที่
“ดูนี่ ความจุดิสก์มีมากถึงหนึ่งพันเพตะไบต์แต่อีกสองตัวยังแค่เทราไบต์”“ขนาดระบบประมวลยังเล็กจิ๋วขนาดนี้เชียว ทุกอย่างประกอบหลังจอ ไม่กินไฟ แม่ง อยากกลับไปทุบคอมที่บ้านจัง!”เด็กหนุ่มสองคนกับอีกหนึ่งชายหนุ่มรื้อคุ้ยอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งหมดนั่งถกเถียงกันตั้งแต่พวกเขาเข้ามา ส่วนไมเคิลกับอเล็กซิสนั่งกินไอศกรีมมองคนคุยกันในสายตาคนอื่น ของพวกนี้ต่างอะไรจากเศษขยะอิเล็กทรอนิกส์กันเล่า ชั่วโมงต่อมา เทสซ่าเข้ามาพร้อมกับเบลินดา พวกเธอมาช้ากว่าไมเคิลและอเล็กซิสเพราะเล่นเควสในเขตเครสเตอร์ เมื่อเห็นสาวร่างท้วมผมสีช็อกโกแลต อเล็กซิสยืดตัวตรงโดยอัตโนมัติ ไม่คุ้นเมื่อเบลินดาอยู่ในนี้ด้วย และเพราะมีคนถึงเจ็ดคนอยู่ในห้องเดียวกัน ห้องพักของเรมีและไมเคิลจึงเล็กลงถนัดตา“มินนี่ล่ะ”โคดี้ถามแฟนสาว“กินเยอะเลยปวดท้อง นอนพักอยู่ในห้อง” พูดจบก็ก้มลงหอมหน้าผากแฟนหนุ่มเรมีเห็น อดผิวปากแซวไม่ได้ “อ้าว แล้วอเล็กซ์...”แต่เพราะเทสซ่าเหลือบเห็นอเล็กซิสก่อนจึงชิงพูดว่า “อเล็กซิส อยู่นี่เอง”
อีกอย่างคำว่า มื้อเย็น เป็นคำวิเศษสำหรับไมเคิล เขาหันขวับทันที ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายระยิบระยับราวกับผิวน้ำในมหาสมุทร “ฉลองเหรอ จัดปาร์ตี้กันในห้องนี้ก็ได้นะ”เขากะพริบตาถี่ ๆ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่โหยหามานาน ไมเคิลเคยตามดูชีวิตเธอเพียงเพราะอยากมีครอบครัวแบบเด็กทั่วไป เด็กสาวคิดดังนั้นแล้วพยักหน้า “เอาสิ เรมี นายเป็นเจ้าของห้องอีกคน โอเคหรือเปล่า”“สบาย ใคร ๆ ก็ชอบปาร์ตี้ทั้งนั้น” หนุ่มผิวสีน้ำผึ้งยิ้มแป้น “แต่คงไม่สุดเหวี่ยงเหมือนตอนโน้นนะ”อเล็กซิสมองคนอื่น ทั้งหมดยินดี โดยเฉพาะเทสซ่าแทบจะเต้นอยู่แล้ว เธอเริ่มลิสต์รายการว่าต้องซื้ออะไรบ้าง พวกเขาสรุปกันว่าจะซื้อขนมและน้ำ แต่อาหารบางอย่างอาจต้องทำเองเพื่อประหยัดงบ เจ้าของไอเดียเลยอาสา “ซื้อเนื้อสเต๊กเกรดพรีเมี่ยมก็แล้วกัน ฉันเลี้ยงเอง บ้านฉันมีสูตรเฉพาะ รับรองว่าทุกคนต้องติดใจแน่” อเล็กซิสถูมือทำเหมือนตัวเองช่ำชอง ลึก ๆ แล้ว โหยหาอาหารฝีมือคาเลบ แต่ในเมื่อมันเป็นไม่ได้ ก็ทำมันซะเลยสิ ถึงแม้ฝีมือเธอจะอ่อนกว่าไบรซ์ แต่เรื่องจำสูตรนั้นแม่นแน่นอน ส
“โอ๊ย”แรงปะทะทำให้เธอหงายหลังล้ม ริงโก้ยืนมองด้วยสีหน้าถมึงทึงแบบทุกที “ขอโทษ” พูดแล้วดึงเธอลุกขึ้นฉับพลันข้างในร่างกายร้อนวูบเหมือนเปลวเทียนแล่นผ่านร่าง อเล็กซิสดึงมือออก แล้วรีบวิ่งหาที่เหมาะ ๆ มือสาละวนควานหายาในกระเป๋ากางเกง สุดท้ายวิ่งเข้าตรอกแคบร้างผู้คน มือดึงมันออก หลอดยาขนาดยาวกว่านิ้วก้อยนิดเดียว มือทั้งสองข้างสั่นระริกพยายามแกะบรรจุภัณฑ์ ความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนมีคนหมุนปุ่มเตาแก๊ส จนเธอเริ่มทนไม่ไหว อเล็กซิสพยายามสะกดความแสบร้อนไว้ภายใน แต่สุดท้ายต้องยอมแพ้ มือทั้งสองข้างเกร็ง ร่างทรุดลงกับพื้น น้ำตาซึมออกมาเมื่อรู้สึกว่าผิวหนังหดตัวเพราะความร้อน หยุดเถอะ เด็กสาวร้องโอดโอยไม่อาจถือของในมือให้มั่น หลอดยาหล่นลงพื้นพร้อมกับที่เธอยืนไม่ไหวอเล็กซิสพลิกตัวไปมาบนพื้น “ฉีดเข้าเส้นเลือด” เสียงทรอยดังในหัว เธอกรีดร้องคำสบถออกมามากมาย เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเอเลน่าจึงขอให้พวกเขายื่นความตายให้ ราวกับว่าอุณหภูมิภายในสูงขึ้นเฉียบพลัน เข็มล่องหนนับพันเล่มทิ่มแทงร่างกายไปจนถึงกระดูก เธอร้องจนสุดเสี
สาวผมแดงนั่งมองพวกเขาอยู่บนเตียง ผ้าห่มคลุมร่างกายเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าถูกถอดออกทิ้งไว้บนพื้น อเล็กซิสกระตุกแขนไมเคิลที่ยืนแข็งเป็นท่อนไม้ เธอส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มมากกว่าแสดงออกว่าโกรธ “อยากร่วมด้วยเหรอ” เสียงของหล่อนแหบกระเส่าจงใจยั่วอีกฝ่าย สุดท้ายอเล็กซิสลากไมเคิลออกไปได้สำเร็จไมเคิลมองหน้าเธอ ใบหน้าแดงก่ำ “ฉันคิดว่าเธอถูกทำร้าย” แล้วชี้ไปที่บลูชายหนุ่มชี้หน้าตัวเอง “ฮะ ถูกทำร้าย?” จากนั้นระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น จากที่โมโหดูจะพอใจมากกว่า “ขอโทษที่รุนแรงจนนายตกใจ แต่ช่วยไม่ได้เพราะลีลาชั้นมันเผ็ดร้อน” เขาตบไหล่ชายหนุ่ม แต่ไมเคิลมีกะใจเบี่ยงตัวออก“คือ...บลู ไมเคิลค่อนข้างจะสับสนนิดหน่อย ฉันขอโทษจริง ๆ เขาไม่ได้ตั้งใจ” อเล็กซิสแก้ตัวให้เพื่อนและพยายามมองแค่หน้าของบลู ปกติแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายในแบบที่เธอชอบ หรือตรงสเป็ก แต่หุ่นของเขานี่มัน...หน้าอกชายหนุ่มยังคงสั่นไปตามแรงหัวเราะ “พูดจริงดิ เพื่อนเธอไม่รู้จักเสียงเมื่อกี้เหรอ เอ แล้วที่อยู่ในห้องกันสองคนทำอะไรกันวะ” เขาหันไป
ไมเคิลพยายามทำตัวเป็นปกติ เขามานอนเล่นในห้องเธอตั้งแต่สี่โมงเย็น เพราะในห้องตัวเองเต็มไปด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และสามหนุ่มไอทีอย่างโคดี้ เรมี กับอาคุสะที่พยายามถอดรหัสเข้าเครื่องให้ได้ ทอยซิตี้ไม่ใช่เมืองพักตากอากาศ หากพวกเขาไม่ดื่มหรือชมลานประลองก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรอีก ทั้งสองคุยกันว่าจะหางานทำช่วงเย็นดีไหม อย่างน้อยอาจแก้เบื่อแถมได้ชิปนิดหน่อย ไมเคิลเคยลองทำแล้วออกมาและอาจจะกลับเข้าไปใหม่วันนี้จึงผ่านไปอย่างช้า ๆ สำหรับทั้งสองคน บางครั้งเธอนั่งจดบันทึกอยู่ เขาจะเริ่มเข้ามากระแซะ หลายครั้งเธออยากให้ตัวเองคล้อยตามแต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เธอหยุด สัมผัสของไมเคิลไม่ได้ทำให้เธอใจสั่น ทั้งที่หน้าตาและรูปร่างเป็นต่อ อาจเป็นเพราะแววตาของเขาแสดงความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าต้องการจริง ๆ และอาจเป็นเพราะเขาทำให้เธอรู้สึกกึ่ง ๆ ระหว่างออสโล่กับลิ้ตเติ้ลชาร์ลีมากเกินไป ความใกล้ชิดของพวกเขายิ่งกว่าก่อนอเล็กซ์จะตีจากเสียอีก แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนอนตัก กอด หรือถูกเนื้อต้องตัว พวกเขาไม่เคยไปไกลเกินกว่านี้ ถ้าไม่นับจูบทดลองคราวนั้นและสุดท้าย เด็กหนุ่มมักผล็อยหลับบนตักเธอเสมอ ไมเคิลชอบให้เธอเ
คำสุดท้ายแรงเหมือนตบหน้าโดยไม่ใช่มือ แววตาหยิ่งผยองเมื่อครู่กลายเป็นหวาดหวั่น และเมื่ออเล็กซิสเห็นเงาตัวเองในดวงตาคู่นั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน ความเกลียดชังในตัวเธอส่งผ่านออกมาจนเห็นชัดผ่านเงาสะท้อน และแม้แต่ตัวเองยังแทบรับไม่ได้กับใบหน้านั้น ดวงตาเธอเหลือบมองเทสซ่าและรีเวอร์ที่ยังคุยกันดี ไม่มีทะเลาะ จึงจับตัวมินนี่เลื่อนออกไป ให้ตัวเองมีช่องว่างปลีกตัวมินนี่ไม่สนใจ เธอเขยิบตัวแล้วก้าวไปเกาะกำแพงข้างหน้าแทน สายตาจดจ่ออยู่ที่พี่สาวตัวเองมากกว่าคนรอบข้าง เวลานี้อเล็กซิสไม่สนใจแล้วว่าต้องรอเทสซ่าหรือไม่ แต่ฉวยโอกาสนี้กลับเขต ใบหน้าอาฆาตเมื่อครู่ยังติดอยู่ในหัว“ฉันไม่เคยอยากให้พวกเขาตาย”เท้าเธอหยุดกะทันหัน เบลินดาเดินตามมา “เวดยังไม่ตาย” เธอสวน หันกลับไปเผชิญหน้ากับผู้ที่มาจากที่เดียวกัน “เธอไม่เคยขอโทษ ไม่เคยรู้สึกผิด ตลอดเวลาฉันเห็นเธอลอยหน้าลอยตาราวกับตัวเองเป็นเหยื่อ...”“เพราะฉันเป็นเหยื่อ” เด็กสาวตรงหน้ากำหมัดแน่น มือทั้งสองข้างสั่นอเล็กซิสหัวเราะ “กล้าพูด”“เหยื่อของผองเพื่อ
“โอ้” ทำไมเราต้องรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้ด้วยนะ เธอเหลือบมองเพื่อนสาวอีกที สองคนนั้นยังหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ตัวว่ามีคนกล่าวถึง “หมอนั่นไม่ได้เป็นโรคจิตใช่ไหม” เธอถาม เพราะมินนี่ไม่เคยเก็บความลับของพี่สาวอยู่มินนี่ส่ายหัว “รีเวอร์น่ารักจะตาย ไม่กวนประสาทเหมือนโคดี้ด้วย เขาเป็นผู้ใหญ่ โนเอลก็ชอบ” แววตาสีฟ้าอ่อนสลดลงเมื่อนึกถึงพี่ชายที่จากไป อเล็กซิสลุกขึ้นกอดเธอเป็นการปลอบโยน “ถ้าเขาไม่หายไปและไม่ทำให้เทสซ่าเสียใจก็ดี แต่มันไม่ได้แปลว่าฉันเชียร์เขาแทนโคดี้นะ” เด็กสาวเงยหน้าทำตาปริบ ๆ ถึงแม้เธอค่อนข้างประหลาดไปสักหน่อย แต่เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เอ็นดูน้องเล็กของพวกโธมัสคนนี้อเล็กซิสยิ้ม “ฉันรู้”เธอมองรีเวอร์อีกครั้ง ครั้งนี้เขารู้ตัวจึงเดินหายไป เธอไม่เคยรู้เรื่องเขาเลย ไม่แน่ใจว่าเทสซ่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับแฟนเก่า แต่ภาวนาว่าอย่าให้มีเรื่องขัดข้องใจกับแฟนปัจจุบันก็คงดี อเล็กซิสถอนหายใจ เธอนึกถึงวันที่อเล็กซ์เจอเธอแอบอยู่หลังถังขยะข้างตึกที่พักไมเคิล สติตกอยู่ใต้อำนาจฤทธิ์ยา ถึงแม้เธอไม่อาจตอบได้
พวกผู้หญิงมีวิธีบรรเทาความเครียดต่างกับผู้ชาย ไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหน การได้จับจ่ายซื้อของคือความสุขและวิธีปลดปล่อยมวลพลังลบทั้งปวง ถึงแม้ที่นี่ไม่มีร้านบูติกแบรนด์ชั้นนำ หรือแม้แต่ร้านโนเนมดีไซน์ล้ำ มีเพียงตลาดมือสองและแผนกเสื้อผ้าในซูเปอร์ตั้งราวเรียงกันเป็นตับ ไร้รสนิยม แม้ทอยซิตี้ไม่มีตัวเลือกให้กับผู้หญิงมากนัก แต่แค่ได้สวมใส่ ลอง และซื้อ ก็สนองนี้ดได้ไม่ยาก และเพราะมันเป็นหนทางเดียวสำหรับพวกเธอคงมีแค่อเล็กซิสที่นั่งเท้าคางรอเทสซ่าแต่งตัวคนอย่างอเล็กซิสหรือจะแค่นั่งรอ เด็กสาวผู้ชื่นชอบสะสมเสื้อผ้าสวยและน้ำหอมเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งที่ค่าตัวจากงานพิเศษต่าง ๆ ละลายไปกับของพวกนี้ เหตุใดเธอจึงนั่งเบื่อ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ใครคือคนที่ช้อปด้วยต่างหาก และก็ไม่ใช่เพราะเทสซ่าแน่นอนเทสซ่าเดินออกจากห้องลองเสื้อพร้อมเบลินดา สวมเสื้อแจ็กเกตดำแบบเดียวกับที่เธอชอบยืมอเล็กซิสใส่สมัยอยู่ในหอพัก (ท่าทางจะชอบจริง ๆ) เสื้อนอกทับเสื้อสายเดี่ยวสีเขียวข้างใน ด้วยบุคลิกทะมัดทะแมง ผิวสีเชสนัทเกลี้ยงเกลา และรองเท้าบูตส์หนัง เธอยิ่งสวยและเท่เหมือนนางเอกเดินออกจากหนังแอคชั่น “สามพันสองร้อยชิป ไม่ใช่หนั
ไมเคิลส่ายหัวปัดมือให้เธอถอยออกไป (ไม่กล้าแตะตัวเธออีก) อเล็กซิสในอ้อมกอดอเล็กซ์ไม่ได้นอนหรือหลับ หากแต่ตื่นอยู่แต่เหมือนไม่ค่อยมีสติ ริมฝีปากพึมพำว่า “ปล่อย” เบา ๆ ในลำคอ“เปิดประตูสิ” อเล็กซ์สั่งเพราะมือทั้งสองอุ้มเพื่อนของเขาไว้“นายก็เขยิบสิ” เขาสั่งกลับ อเล็กซ์เลื่อนตัวเข้ามาใกล้ประตู เขาจับมืออเล็กซิสแตะที่ตัวสแกนเพื่อปลดกลอน มีเสียงดังกริ๊ก มือผลักบานประตูเปิดให้อเล็กซ์เข้าข้างใน “นี่” ไมเคิลไม่สนใจหญิงสาวเลยปิดประตูใส่หน้าหล่อนดังปัง เธอทุบครั้งหนึ่งก่อนจะด่าออกมา เมื่อนั้นเสียงฝีเท้าห่างออกไป ในที่สุด“ฉันอยากได้ผ้าชุบน้ำ”ไมเคิลพยักหน้า ส่วนอเล็กซิสก็พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงให้ได้ “ไม่...ต้อง...” จนอเล็กซ์ดันตัวเธอลง “ไม่” สภาพอเล็กซิสไม่ต่างจากคนเมายา เขาไม่รู้ว่าเธอไปโดนอะไรมาแต่ก็ทำตามที่อเล็กซ์บอก นั่นคือเข้าไปในห้องน้ำแล้วคว้าผ้าขนหนูผืนเล็ก พอเปิดก๊อกก็พบว่าน้ำแรงปกติ โกหกจริงด้วย มือทั้งสองรีบบิดน้ำหมาด ๆ พอออกมาก็เห็นสองอเล็กซ์เถียง
ไมเคิลรุดไปยังหน้าต่างตรงทางเดิน ยกบานหน้าต่างจนสุดแล้วชะโงกหน้าออกไป ลมแรงตีปะทะหน้า ถึงแม้เขาจะชอบอากาศเย็นสบายมากกว่าร้อน แต่เมื่อทอยซิตี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ลมกลับไม่น่าพิสมัย สายตาของเขาเลื่อนไปช้า ๆ ทีละจุด ทีละจุด แต่ไร้ประโยชน์ ถึงอเล็กซิสอยู่แถวนี้ก็ยากที่จะเห็นอยู่ดี ทำไมต้องโกหก เธอไปไหนกันแน่ หัวใจบีบรัดเมื่อความผิดหวังจู่โจม เขาคิดว่าเธอไม่ไว้ใจเขา ทั้งที่เข้าใจว่าตนเองคือคนที่เธอสนิทใจที่สุด มากกว่าเทสซ่า แต่สุดท้าย เขาคิดผิดอเล็กซ์โผล่หน้าออกมาข้าง ๆ ผมของเขายาวจนต้องจับมันไว้ไม่ให้ปลิวและพัดเข้าหน้า “เขามีท่าทีแบบนี้มาสักพักแล้วยัง”ไมเคิลไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร ตอนนี้ดูเหมือนทั้งสองจะพักอารมณ์เหม็นขี้หน้าชั่วคราว ถึงแม้ทุกคนเห็นว่าเธอค่อนข้างโทรมและเงียบกว่าตอนอยู่ในศูนย์ฝึก แต่ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นเลย ใช่แล้ว ไม่มีใครสังเกตเลยรวมทั้งตัวเขาเองด้วย“เขาบอกอะไรนายบ้าง” ชายหนุ่มเริ่มยิงคำถาม “มันเกี่ยวกับที่โดนจับไปหรือเปล่า หรือไม่ใช่”“ไม่รู้!” ไมเคิลตอบอย่างมีอารมณ์ “แล้วนาย
ห้องของไมเคิลกับเรมีแออัดยิ่งกว่าเดิมเมื่อรองรับคนถึงเก้าคน คอมพิวเตอร์จอแบนขนาดสิบห้านิ้วตั้งกลางวง หน้าตามันดูดีจนไม่น่าเชื่อว่าพวกเขาประกอบกันเอง เรมีเสียบปลั๊กแล้วกดเปิด หน้าจอสีดำกะพริบถี่ ๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นสีฟ้าน้ำทะเลปรากฏเปลวไฟเป็นตัวอักษรรูปตัวเอทับต้นไม้ มันพลิ้วไหวเหมือนไฟมีชีวิต “โอ้โห” พวกเขาตื่นเต้น ไม่นานกล่องสีขาวเด้งออกมาเพื่อให้กรอกรหัส“ข้างในมีอะไรบ้าง” อเล็กซิสยื่นหน้าเข้ามา มือกำขวดน้ำแน่นท่าทางกระหายน้ำตั้งแต่เข้ามาในห้อง“ต้องกรอกรหัสก่อน” เรมีย้ำ สายตาจดจ่อกับหน้าจอดังกล่าว“กรอกสิ” เทสซ่าเร่ง “ฉันอยากรู้แล้ว”“เอ่อ” หนุ่มน้อยวัยสิบหกเคาะคีย์บอร์ดสัมผัส “เรายังแฮคมันไม่ได้”“หา?” พวกที่เหลือร้องออกมาพร้อมกัน “ถ้าอย่างนั้น...พวกนายเรียกให้พวกเราดูแค่ว่ามันเปิดได้”“ใช่” เรมีพยักหน้าหงึก ๆ “ไม่ตื่นเต้นกันเหรอ”“ฉันบอกแล้วว่าเราควรเจาะรหัสให้ได้ก่อน” อาคุสะพูดเสียงเรียบ เข
อเล็กซิสเงยหน้ามองไฟข้างบนอย่างกับจะจับผิดระบบ แต่ไมเคิลรู้ตัวการดีจึงเหยียดเท้าถีบเก้าอี้ข้างหน้า แม้ยั้งแรงไว้บ้างแต่ตัวอเล็กซ์อัดเข้ากับขอบโต๊ะจัง ๆ ไม่ทันร้องว่าเจ็บก็ลุกพรวดจนเก้าอี้กระแทกโต๊ะข้างหลังซึ่งก็คือระหว่างไมเคิลและอเล็กซิส เขาหมุนตัวเตรียมจะพุ่งเข้ามา ไมเคิลรออยู่แล้วง้างหมัดเตรียมสวน ทว่าสงครามยุติก่อนที่มันจะเริ่ม อเล็กซิสกับเรมีพร้อมใจกันกดเขาไว้กับโต๊ะ ส่วนอาคุสะและฟีบี้ทำแบบเดียวกันกับอเล็กซ์“ตรงนั้นมีอะไรกัน!”“เข้าใจผิดครับ เข้าใจผิด” เรมีตะโกน “พวกนายหยุดเดี๋ยวนี้”ทั้งสองจ้องหน้ากันราวกับเป็นศัตรูมาช้านาน ยิ่งอเล็กซ์ไม่ได้ตัดผมโกนหนวด หน้าตารุงรัง ยิ่งทำให้สีหน้านั้นเอาเรื่องกว่าตอนใบหน้าเกลี้ยงเกลา “บอกให้เขาหยุดสิ” ไมเคิลเถียง เสียงแหบแห้งเพราะน้ำลายติดคอ“นายนั่นแหละที่หยุด” เรมีกดศีรษะเขาลง“เบา ๆ เรมี ไมเคิลนายอยู่นิ่ง ๆ” อเล็กซิสว่า“ฉันไม่ได้เริ่ม!” เขาจ้องหน้าอเล็กซ์เขม็ง“เฮ้ ๆ พวกนาย” เทสซ่ายืนขึ้นเตรียมพ