“โว้ย พอแล้ว” เธอกระโดดลุกขึ้น ใช้เท้าคีบกางเกงแถบข้าง เดินใส่จนถึงห้องน้ำเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะหยิบเสื้อยืดและเสื้อแจ็กเกตหนังจากในตู้มาสวมให้เรียบร้อย อ้อ ไม่ลืมผ้าพันคอด้วย เธอเคาะประตูห้องมินนี่กับเบลินดา ได้ยินเสียงเด็กสาวร้องโอดโอยก็รู้ว่ายังอู้อยู่ “พี่รอข้างล่างนะ มินนี่ เบล?”
“จ้า” เสียงเพื่อนสาวตอบกลับมา แม้แต่เบลินดาที่มักพร้อมเสมอยังตื่นสายและปล่อยตัว แต่ละวินาทีนั้นน่าเบื่ออย่างที่เธอคิดไหมล่ะ
เธอพยายามนึกว่าตัวเองจะกินอะไร หรือจะซื้อของมาทำเอง อันที่จริงก็แค่พยายามหาเรื่องอื่นมาคิดแทน แล้วไมเคิลอยากปรึกษาเรื่องอะไร ไหนจะเรมีอีก แต่สุดท้ายมีเพียงสามหนุ่มช่างคอมที่ตื่นตัวที่สุด พอเสร็จสิ้นจากราซา ฟีบี้แทบหายไปเลย ได้ยินว่าเธอคุยกับหนุ่มคนหนึ่ง เบลินดากับมินนี่อยากนอนอย่างเดียว ส่วนอเล็กซ์ก็หายไปเช่นเดิม อ้อ ใช่ เพราะอเล็กซิสพักรักษาแผลไฟไหม้ เขาจึงมักไปเฝ้า แถมบอกว่าจะตามหาคน โชคดีที่ทรอยการันตีว่าเพื่อนเธอไม่มีทางเสียโฉม และแน่นอน นอกจากอเล็กซ์ก็มีไมเคิล
เขาจะไม่กลับมาตามฉันแบบเก่าแล้วจร
เธองง แต่เมื่อเห็นว่าอเล็กซ์ก้มหน้ามองอะไรบางอย่าง เธอจึงเห็นแมวสีขาวลักษณะเหมือนประกอบจากควันและแสงสีขาววิ่งขึ้นมาบนโต๊ะ มันสลายเป็นคำว่า อย่าห่วง แล้วหายไป อเล็กซิสทึ่ง “อาคุสะ?” เธอไม่เคยเห็นพลังของเขาเป็นรูปแบบชัดเจนขนาดนี้“อื้อ เธอรู้จักกับกลุ่มบลูใช่ไหม”เธอเลิกคิ้วแปลกใจ จึงมองตามสายตาอเล็กซ์ที่มองเลยไป กลุ่มบลูนั่งอยู่มุมในสุด เธอสบตากับเดสซิเรและเอมอนจึงโบกมือทัก หญิงสาวจึงลุกเดินมาในขณะที่อเล็กซ์ถอนหายใจยาว เด็กสาวลืมไปว่าเขาไม่ค่อยชอบคนเยอะ ส่วนบลูเพียงแค่เหล่มองเธอ ยักคิ้วแล้วหันกลับไปฟังเพียซ “พวกเขาเป็นเจ้าของตึกแล้วก็ช่วยฉันเรื่องอะวีซี โดยเฉพาะเดส”เขามองสาวผมบลอนด์เมื่อเดสซิเรมาถึงก็นั่งลงกอดคอเธอ “เฮ้ ฟื้นตัวเร็วนะ ครั้งหน้าเรามาลองกันใหม่ เชื่อสิ เราต้องเอาชนะไอ้ที่อยู่ในตัวเธอได้แน่”อเล็กซิสยิ้ม เดสซิเรเป็นคนน่ารักทั้งนิสัยและหน้าตา ส่วนอเล็กซ์นั่งฟังนิ่ง ดูท่าไม่ค่อยเข้าใจว่าสองสาวคุยอะไรกัน “แล้วนาย...” เดสซิเรเอียงคอมอง “หน้าคุ้น ๆ นะ ใช่หนุ่มมาดเซอ
ทั้งสองเดินลงไปชั้นล่างสุด ยังไม่หนึ่งทุ่มแต่ข้างนอกน่าจะมืดสนิท แสงไฟบนชั้นล่างติดตั้งห่างกันจึงส่องแสงสลัวเป็นช่วง ๆ แต่สายตาไมเคิลสะดุดกับคนที่นอนอยู่บนโซฟา เขาเขย่ามือเธอให้มองตาม เงาสีดำนอนนาบลงกับเบาะในสภาพเหมือนนั่งแล้วผล็อยหลับจนศีรษะตกลง เขาคงรอใครสักคนจนหลับไป ทั้งสองเดินเข้าไปใกล้ ขายาววางขวางเกะกะ อกกระเพื่อมเบา ๆ ผมที่เคยยาวตัดสั้น ส่วนไรหนวดเฟิ้มก็โดนโกนออกไปจนหมดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อ รอยแผลจากการโกนหนวดบนแสดงให้เห็นว่าเขารีบมากยิ่งเธอเห็นขนตายาวสีดำยาวตวัดงอน สีที่ตัดกับผิวขาวซีด อเล็กซิสยิ่งนึกถึงด่านทดลอง“คงนั่งพักแล้วหลับไป อาคุสะบอกว่าอเล็กซ์ไม่ได้กลับมาเมื่อคืน เขาคงไม่ได้นอน” ไมเคิลยิ้มมุมปาก “เขาตามหาคนที่จะรักษาเธอให้ได้” ไม่พูดเปล่าก็ยกเท้าเขี่ยขาของอเล็กซ์นายกลายเป็นกองเชียร์เต็มตัวแล้วสินะเบนเดินอ้อมไปด้านล่างแล้วเป่าผมเพื่อนสนิท ทว่าอเล็กซ์ไม่รู้สึก เธอก้มตัวลงปัดปอยผมออกจากใบหน้าช้า ๆ ทำไมฉันไม่มีเวลามากกว่านี้ ชายหนุ่มรู้สึกตัวทันที เขากะพริบตาสองสามทีแล้วหยุดมอง เธอถอยเพื่อให้เขาลุกขึ้น อเล็กซ์ลุกนั่ง ลูบ
ผืนทะเลเคลื่อนตัวไปตามแรงลมอ่อน จนเหมือนเธอจมดิ่งลงท้องทะเลลึกสู่ใต้ผืนพิภพ หินหนืดแมกมาไหลนวยนาด สีของมันแดงฉานบ่งบอกถึงอุณหภูมิร้อนระอุพร้อมปะทุทุกเวลานี่คือสิ่งที่เธอรู้สึกก่อนผจญนรก แม้ตอนนี้หัวใจยังเต้นไปตามจังหวะปกติ อีกไม่นานหรอก เสียงนาฬิกาจับเวลาดังก้องในหัว มันกำลังเตือนว่าอีกไม่นาน หากความร้อนถึงขีดจำกัดเมื่อใด มวลแมกมาจะไหลทะลักออกมากลายเป็นลาวาเดือดพล่าน ยามนั้นปากปล่องภูเขาไฟระเบิดออกก่อให้เกิดคลื่นสึนามิระดับทำลายล้าง“เราคุมมันได้”ผู้หญิงนัยน์ตาสองสีดึงดูดให้สายตาอเล็กซิสจับจ้องเพียงแค่ใบหน้าเธอ เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเกาะผิวหน้าเนียน เมื่อปราศจากเครื่องสำอางที่ถมบดบังใบหน้าจริง ยามไร้เครื่องประทินโฉมเดสซิเรกลับยิ่งสวยผุดผ่อง เธอตัดผมทั้งสองข้างให้เท่ากันแล้ว ริมฝีปากหนาอวบอิ่มได้รูปขยับตลอดเวลา มืออุ่นประคองศีรษะเธอไว้ สีหน้าเชื่อมั่นว่าการทดลองครั้งนี้จะสำเร็จเธอต้านฉันไม่ได้หรอก คล้ายมวลแมกมากระซิบบอก มันเริ่มไหวตัวหนักขึ้นเพื่อเอาชนะแรงข่ม อุณหภูมิเริ่มขึ้นสูงจนร้อนวูบวาบไปทั่ว อเล็กซิสกลืนน้ำดังอึกใหญ่จนเดสซิเรสังเกต
เขาเม้มปาก ก่อนจะตอบ “พวกนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ได้แล้ว เธอรู้จักซีโนกับซีน่า ฮาร์ตไหม”อเล็กซิสส่ายหน้า“ทั้งสองเป็นมนุษย์สองคนแรกที่ถูกบันทึกว่ามีพลังพิเศษ” ไมเคิลเห็นเธอเงียบจึงอธิบายต่อ” เอชโอวัน เอชมาจากนามสกุลฮาร์ต โอวันคือรหัสของซีโน่ มันถูกใช้เพื่อบอกกลุ่มอาการผิดแปลกหรือหมายถึงกลุ่มเสี่ยงอย่างพวกเรา”“แล้วพวกเราเกี่ยวอะไรกับสองคนนั้น”ไมเคิลลูบแก้มเธอ “ซีโน่หน้าเหมือนฉันมาก ส่วนซีน่าหน้าเหมือนเธอมาก”อเล็กซิสนิ่ง ก่อนจะถอยออกมาตั้งหลัก “สองพี่น้องตระกูลฮาร์ต?”“ฝาแฝด”อเล็กซิสหลุดหัวเราะ ทว่าแววตาสีฟ้าเข้มยังนิ่ง ริมฝีปากไม่กระตุก นั่นคือใบหน้าจริงจังของไมเคิล และที่สำคัญเขาเป็นคนสุดท้ายที่จะพูดโกหก “แล้วนายไม่รู้ตัวเหรอว่ามีพี่น้อง นายต้องรู้สิ”“ไม่มีใครพูดเรื่องนี้เลย แม้แต่เรื่องที่ถูกล่าก็ไม่เคยมีใครบอก หากไม่เล่าเรื่องนี้ก็คงไม่แปลก ฉันก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกัน แต่ถ้าเห็นรูป เธอก็ต้องสงสัยเหมือนทุกคน เพื่อน ๆ เห็นกันเก
“แฝด?”ทั้งหมดมองหน้าไมเคิลทันทีเบลินดาตบมือเหมือนคิดอะไรออก “อเล็กซิสอาจเป็นพี่น้องกับนายก็ได้ พวกนายคงยังไม่รู้ว่าครอบครัวเดวิสอุปการะเด็กถึงสี่คน” เธอเล่าให้คนอื่นฟัง เทสซ่าเหมือนคุ้น ๆ แต่ไม่รู้รายละเอียด “พี่น้องของอเล็กซิสไม่ใช่พี่น้องของเธอจริง ๆ รวมทั้งพ่อแม่เธอด้วย”แต่ไมเคิลปฏิเสธ “ถ้าฉันมีพี่น้องก็ต้องรู้”“อย่างน้อยก็อาจจะเกี่ยวข้องกัน” สาวผมสีช็อกโกแลตยืนกราน มั่นใจในทฤษฎีตัวเอง “ทางสายเลือด อาจจะเป็นลูกพี่ลูกน้อง ยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกันแน่ พวกนายหน้าเหมือนฝาแฝดคู่นี้อย่างกับแกะ อีกอย่าง...ทั้งสีผมและสีตาก็คล้ายกันจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันเป็นไปไม่ได้ และบางที ที่เด็กซานโบซ่าถูกจับมาอาจไม่ใช่แค่...โชคร้าย”แม้ไมเคิลมีดวงตาสีฟ้าแต่ก็จัดว่าเข้มกว่าของฟีบี้ มินนี่ หรือคนอื่นที่มีดวงตาสีฟ้า เป็นรองเพียงอเล็กซิสเท่านั้น “แล้วนายเองก็ค่อนข้างรู้สึกพิเศษกับเธอไม่ใช่หรือ” เบลินดายังต้อน ถึงแม้สองสาวไม่ถูกกันนัก แต่ทุกคนรู้ดีว่าถ้าเกี่ยวกับประวัติพื้นเพแล้ว คนท
“ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนไหม นายจะได้พักบ้าง นี่พวกเรากะไปเยี่ยมต่อจากนี้” โคดี้อาสาพร้อมพยักพเยิดมาทางเทสซ่าด้วย แน่นอนเธอรีบผงกศีรษะ“ฉันยินดีเฝ้าให้นะ”อาคุสะเงยหน้าบ้าง “อเล็กซ์ก็อยู่เฝ้าได้นะ”ไมเคิลส่ายหน้า “ไม่ ๆ ฉันพาอเล็กซิสกลับห้องแล้ว แล้ว...เอ่อ อเล็กซ์ยุ่ง”“อ้าว” เธอร้อง แต่ดูเหมือนเรมีจะรู้แล้ว “ทำไมไม่บอกแต่แรก แล้วฉันก็นอนเป็นเพื่อนอเล็กซิสได้” หางตามองแฟนหนุ่มที่ก้มหน้าตา “โคดี้ก็ไม่ค่อยกลับห้องอยู่แล้ว นายเป็นผู้ชายนะ ฉันเป็นผู้หญิงน่าจะดีกว่า”“ไม่ต้องหรอก” เด็กหนุ่มปฏิเสธเสียงเข้ม เธอหันไปสบตากับเบลินดา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องห้ามเหมือนหวง “ฉันต้องเฝ้า เอาตามนี้แหละ”จังหวะนั้นเธอเห็นเรมีกับโคดี้แลกสายตากัน ดูท่ากำลังพูดถึงไมเคิล เธอจึงโพล่งออกไปว่า “แล้วนายจะคุยเรื่องอะไร”“ความจริงฉันอยากให้อเล็กซ์มาด้วย ทุกคนเลย” เขาตอบ“เออ อเล็กซ์ไปไหนของเขา” เธอซัก “หมอนี่ทำ