มุมปากเธอกระตุกขึ้นนิดหนึ่ง “ฉันเจอเบ็กกี้แล้วนะ”
“ออกไป” ไมเคิลจ้องหน้าเขม็ง เขาโกรธมากจริง ๆ “ออกไปเดี๋ยวนี้!”
“ฉันไม่น่าเจอเธอเลย” อเล็กซิสยังคงพูดเล่า ไม่สนใจว่าเขาจะไล่เธอ
เขาเปลี่ยนจากถ้อยคำขับไสมาเป็นคำถาม “ติดเชื้อใช่ไหม”
เด็กสาวพยักหน้า สีหน้าบิดเบี้ยวราวกับมีใครกำลังกรีดอกเธออยู่ “กลีเอาเบ็กกี้ไปทดลองไวรัส และมันก็ได้ผลมากกว่าร่างคนอื่น” น้ำตาหยดลงพื้น อารมณ์เกรี้ยวกราดโมโหที่เธอไม่ยอมออกไปจากตึกมลายหายไปกลายเป็นอยากปลอบโยน เขายกมือจับแก้มเธอ แต่อเล็กซิสส่ายหน้า “นายกลัวหรือเปล่า” พยักพเยิดไปทางระเบิด
เขาส่ายหน้า “ฉันเกือบตายมาหลายครั้งแล้ว แต่ฉันไม่อยากให้เธอตาย ขอร้องล่ะ ออกไปเถอะนะ ทิ้งฉันไว้” และตอนนั้นเอง เขาเพิ่งรู้ว่าตัวเองร้องไห้ต่อหน้าเธออีกแล้ว
“ก็นะ” อเล็กซิสยักไหล่ทั้งน้ำตา “ฉันแค่เลื่อนเวลาให้มันเร็วขึ้น นายก็รู้”
“มีคนรักษาเธอได้ เชื่อฉันเถอะนะ ยังมีเวลา ออกไปเถอะ” เขาอ้อนวอน
ตั้งแต่เกิดเรื่อง เธอสังเกตได้ว่าอเล็กซ์นอนหลับยากขึ้น ทั้งสองเพียงแค่นอนกอดกัน มองหน้ากัน ถ้าห้องที่นอนอยู่คือหอพักในมหาลัย ในหัวของเธอคงมีเสียงบอกว่า “อ้อ แน่สิ ฉันยังเรียนอยู่นี่นา” แต่เพราะเธอไม่มีทางกลับไปอยู่ในสภาพแบบนั้นอีกแล้ว เสียงในหัวก็เปลี่ยนไปเป็น “ทำอย่างไรดี...” พวกเขายังไม่มีบ้าน ไม่มีอะไรเลย อเล็กซ์ในตอนนี้ไม่ใช่อเล็กซานเดอร์ โวลคอฟที่มีทุกอย่าง และอเล็กซิสก็ยังไม่พร้อมที่จะเป็นแม่ ถ้าจะมีเด็กน้อยไร้เดียงสาเกิดมา อเล็กซิสอยากแน่ใจว่าตอนนั้นเธอพร้อมจะสร้างครอบครัวจริง ๆ ไม่ใช่ยังเป็นคนไร้บ้านและถูกไล่ฆ่าบลูชำเลืองมองเดสซิเรที่ยืนกอดอกกับเทสซ่าที่ใช้สายตาตัดสิน เขาแค่นยิ้ม “ฉันรู้ว่ามันอยู่ในตัวเธอ แต่โรซ่าควรจะเข้าใจสถานการณ์ รวมทั้งพวกเธอด้วย”“พวกนั้นโมโหที่นายทำร้ายเธอมากกว่า” เทสซ่าโพล่งออกมาแล้วยกแขนสองข้างขึ้นมากอด ท่าทางเหมือนเดสซิเรเป๊ะ บลูได้ยินดังนั้นก็ดึงคอเสื้อให้ทุกคนดู ทั้งยังเปิดเสื้อด้านหน้าให้รอยข่วนรอยช้ำมากมาย เขายกแขนให้ดูด้วย บางส่วนตกสะเก็ด พอทุกคนเห็นก็ยื่น
เพื่อน ๆ ทยอยกันเดินออกจากสุสานหิน ภายในอกของอเล็กซิสว่างเปล่าเป็นพิเศษ บัดนี้เธอเข้าใจบลูแล้วมั้ง แม้มันเป็นเพียงแค่หินสลักชื่อ กลับรู้สึกว่ากำลังจะจากพวกเขาไป บางครั้งเหมือนสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นอยู่ในก้อนหินทรงกลมมน หินมีชีวิตหรือเธอรู้สึกไปเองกันแน่ อเล็กซิสกำหินของเวดข้างหนึ่ง และออสโล่อีกข้างหนึ่งลาก่อน เธอบอกพวกเขาในใจก่อนจะวางมันลงสักวันหนึ่งพวกเราจะได้เจอกัน สักวัน... “สกาย” มือของอเล็กซ์บีบไหล่เธอเบา ๆ นิ้วมือของเขาเรียวยาวแบบนักเปียโน ถ้าหากมีโอกาส เธออยากให้เขาเล่นเปียโนให้ฟัง แบบที่พระเอกในหนังโรแมนติกเล่นให้นางเอกฟัง อเล็กซิสจับปลายนิ้วคนรักแล้วบีบเบา ๆ เขาก็เพิ่งบอกลาเบน“พวกเราจะไปแล้ว” โคดี้เรียกขณะจับสายคาดตาให้เข้าที่ เธอกับอเล็กซ์หันไปพยักหน้าเป็นเชิงให้พวกเขาไปก่อน โคดี้จึงกอดคอเรมีเดินไป ทั้งกลุ่มเหลือเพียงอเล็กซิส อเล็กซ์ ไมเคิล แล้วก็เทสซ่าที่กอดหินของโนเอลอยู่แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่กลุ่มสุดท้าย ตรงหลุมศพของเอมอน เดสซิเรกำลังกอดริงโก้แน่น เธอซุกหน้าลงกับอกเพื่อน แม้ไม่ได้ยินเสียงแ
บอร์ญ่ายังคงมีสีหน้าดังเดิม ไม่ได้ตื่นตกใจ “แล้วนายคิดว่าไง ความสงสัยนั้นไม่เกี่ยวกับความจงรักภักดี ฉันยังคงยึดมั่นในภารกิจ แต่...ปฏิกิริยาแรกของนายต่างหากที่ฉันสนใจ”“ก็พวกเขาหัวแดงกันหมด”“แล้วลูกฟุตบอลล่ะ”“ก็ฉันอยากลองเล่น”“เวด มิลเลอร์ก็ชอบเล่น”“จีฮุน ลีก็ชอบกินช็อกโกแลต” เขาย้อน แต่กลายเป็นว่าเพื่อนกลับพอใจ เขาทำหน้าราวกับว่า เห็นไหมล่ะ ฉันบอกนายแล้ว แต่แคดมันก็ส่ายหัวอยู่ดีทุกครั้งที่เขาพยายามนึกมักจะปวดหัว เสียงเพลงของเอไลโตดังขึ้นและเขาจะต้องรีบท่องประโยคนั้นเพื่อให้หัวสมองปลอดโปร่ง ผลกระทบจากระเบิดในสนามรบ และบอร์ญ่าก็ไม่เป็นเท่าเขา คู่หูสูญเสียอวัยวะไปตรงแขนและฟื้นตัวไวกว่า อาจเป็นเพราะพวกเขาเสียอวัยวะเหมือนกันมั้ง ช่วงทำกายภาพได้ช่วยเหลือกันบ่อย ก็เหมือนกับในวัยเด็ก เขาเห็นภาพตัวเองในศูนย์ฝึกลับของเจ้าชายเมเคอร์ ความทรงจำของเขาเป็นหลักฐานชั้นดีที่บอกว่าแคดมัน ‘ไม่ใช่’ เวด มิลเลอร์“เราไม่ใช่เวด” เขาคิดย้ำกับ
ช็อกโกแลตที่เด็กหญิงบ้านฝั่งตรงข้ามยื่นให้อยู่ในมือ เธอสะพายกระเป๋าเป้สีเหลืองเพิ่งกลับมาจากโรงเรียน พอเห็นเขากลับจากซื้อของก็โบกมือแล้ววิ่งเข้ามาหา ประกายในดวงตาบ่งบอกว่าเธอรู้สึกดีกับเขามาก เขารับมันไว้ มุมปากกระตุกนิดหนึ่ง คิดว่านั่นคือรอยยิ้ม จนเมื่อเธอกลับบ้านไปเขาก็เข้าบ้านเช่นกัน เมื่อรอดพ้นจากสายตาของบราวน์ที่คงมองอยู่บนชั้นบน เขาเพียงกำช็อกโกแลตไว้แล้วเดินตรงไปในห้องครัวทิ้งขยะเขาเห็นแฟ้มที่บราวน์เพิ่งยื่นให้ตั้งนานแล้วชายหนุ่มยืนแตะขาเทียมของตัวเอง เขาเสียมันไปแต่ได้รับความภาคภูมิใจกลับมา ในสมรภูมิที่ปราบพวกกบฏ เขาสูญเสียขาเพื่อปกป้องเอไลโตและรักษาสมดุลของโลก แคดมันไม่เคยเสียดาย แม้มันจะเป็นภาพลาง ๆ จนจำรายละเอียดแทบไม่ได้ เขาได้ยินเสียงระเบิดดังรอบตัวจากนั้นหมดสติไป แล้วตื่นมาพร้อมกับขาข้างใหม่ แข็งแรง ไร้เทียมทานกว่าเก่าความทรงจำเลือนรางเป็นผลจากการต่อสู้ เขาเห็นตัวเองในไลบราเรีย และนั่นบ่งบอกว่าแคดมันไม่ใช่เวด มิลเลอร์ แคดมันรู้ว่าบราวน์ต้องการอะไร สุดท้ายแล้วเขาจะสวมรอยจำได้ว่าตัวเองคือเวดนั่นแหละดูเหมือนว่าเบื้องบนจะรู้ล่วงหน้า
บ้านของบราวน์ก็เหมือนตึกแถวในแถบนั้น ราคาแบบชนชั้นกลาง ต่างกันตรงที่มีการต่อเติมชั้นใต้ดินและห้องลับมากมาย แต่ถ้าหากคิดว่าเขาจะซ้อนข้อมูลไว้ในนั้นละก็ ผิดถนัด ตอนกลางคืน แคดมันและบอร์ญ่านอนอยู่ในห้องรับแขกด้านล่าง บอร์ญ่านอนบนโซฟาสีน้ำตาล ส่วนแคดมันนอนบนโซฟาหนังสีดำ โชคดีที่บราวน์ไม่ใช่คนติดโทรทัศน์ เพราะงานเก่าของเขานอนไม่เป็นเวลา ไม่ได้เป็นที่เป็นทาง จนกระทั่งโดนโยกย้าย บ้านที่เขาซื้อมาจึงได้ต้อนรับเจ้าของบ่อยขึ้นทั้งสองลืมตาเมื่อได้ยินเสียงคนเดิน สัมผัสของสองคนนี้ไวมาก เขาไม่รู้ว่าทั้งสองผ่านการฝึกมาแบบไหน ถูกปลูกฝังอย่างไร แม้จะทึ่งแต่ก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเอไลโต ในเวลาอันสั้นก็สร้างนักล่าได้ขนาดนี้“เอาไป” เขาโยนแฟ้มสีขาวให้บอร์ญ่าและแฟ้มสีน้ำเงินให้แคดมันมันเป็นประวัติของจีฮุน ลีกับเวด มิลเลอร์ ตัวตนของพวกเขาก่อนถูกเบื้องบนเปลี่ยน บราวน์หย่อนก้นลงบนเก้าอี้อีกตัวแล้วสังเกตอากัปกิริยาของคนทั้งสอง บอร์ญ่าเขวี้ยงทิ้งทันที ขณะที่แคดมันปิดแฟ้ม จากนั้นดูเหมือนจะชั่งใจเปิดดูอีกที เมื่อเพื่อนยอมอ่าน บอร์ญ่าจึงก้มตัวลงเก็บแฟ้มมาเปิดดูบราว
สภาพของเจสซี่ในแต่ละเวลาต่างกันมาก ตอนเช้าเขาโดนแคดมันซ้อมจนอ่อนปวกเปียกไม่เหลือเรี่ยวแรงเพียงเพราะต้องการรีดข้อมูลว่าบราวน์บอกอะไร ตอนกลางวันเขาจะถูกพาไปนอนอยู่ในโลงแก้ว มันเหมือนแบบนั้นนะ แต่ก็ไม่ถึงกับต้องให้เจ้าชายมาจูบแล้วฟื้นแบบสโนว์ไวท์ (ไม่อาจคิดโรแมนติกกับผู้ชายสามคนในบ้านหลังนี้ได้) น่าแปลกนักที่บาดแผลรอยฟกช้ำต่าง ๆ นานาสมานตัวรวดเร็ว มันยังเหลือร่องรอยบ้าง แต่วันต่อมาก็จางหายไปให้โดนซ้อมใหม่ นอกจากซ้อมแล้วยังเสิร์ฟอาหารและป้อนยาทายาให้ (ต้องขอบคุณไหม) อย่างไรก็ตาม การรักษาของพวกเขาออกฤทธิ์ราวกับเวทมนตร์ จนบางครั้งเขาอยากโทรบอกไบรซ์ให้เลิกเรียนหมอแล้วมาเรียนรู้การใช้งานไอ้เครื่องบ้านี้ดีกว่า นอกจากนั้น ข้อเท้าที่หักก็หายดี ตกเย็น บราวน์จะให้เขาซักถามแล้วก็ชักจูง ดังนั้นเจสซี่จึงไม่ต่างจากเครื่องมือที่แคดมันกับบราวน์ใช้โต้ตอบกันและกัน บราวน์ไม่สามารถหนีไปจากแคดมันได้ และแคดมันไม่อาจสังหารบราวน์ได้ เพราะสิ่งเดียวที่ทำให้บราวน์เป็นต่อคือข้อมูลที่อยู่ในมือ“ทำไมพวกมันไม่จับคุณไปทรมาน” เขาถามคนตรงหน้า แทนที่จะมานั่งทรมานเจสซี่ จับหมอนี่ไปไม่ง่ายกว่าหรือ บราวน