นิ้วข้างซ้ายเหนี่ยวไกระรัว แสนรู้ราวกับมนุษย์ หุ่นยนต์ยกมือป้องกันจนแขนข้างขวากระจุยตามแรงกระสุนทะลวง มือข้างซ้ายของมันเพิ่มแรงบีบจนเธอเจ็บก่อนถูกกระตุกดึงลากจนล้มหน้าหงาย เธอกำลังจะถูกลากออกไปจากกลุ่ม
“เวด!”
เขาเอื้อมแขนสุดตัวหวังดึงเธอออกจากเงื้อมมือมัน แต่หุ่นยนต์อีกตัวเข้ามาขวางไว้
สุดท้ายอเล็กซิสถูกลากหายไปก่อนเห็นว่าเวดจะเป็นอย่างไร แขนสองข้างกระเสือกกระสนพยายามรั้งและยิงมัน มือซ้ายเหนี่ยวไกอย่างบ้าคลั่ง แขนทั้งสองข้างเกร็งไปหมด ทั้งปากยังกรีดร้อง ซึ่งช่วยให้จังหวะการยิงรัวหนักกว่าเดิมจนหัวเหล็กพรุน พอได้โอกาสจึงถีบมันออกไปแล้วยิงซ้ำให้แน่ใจ “ตายซะ ไอ้สารเลว” เธอชูนิ้วกลางใส่ซากหุ่นก่อนจะหันกลับไปยังจุดเดิม ทันใดนั้นเปลวไฟขนาดมหึมาพวยพุ่งแต่ก่อนที่ไอร้อนจะลามเลีย แรงผลักมหาศาลซัดร่างเธอกระเด็นราวกับลูกฟุตบอลที่ถูกเตะเข้าประตูก่อนคิดว่าจะไปถึงทางออกได้หรือไม่ ควรคิดว่าจะอยู่ครบสามสิบสองหรือเปล่า
“อือ” อเล็กซิสคราง เจ็บระบมไปทั่วตัว พอตั้งสติได้ก็รีบคลานหนีออกห่างจากบริเวณนั
เขาเข้าใจความหมายของเธอ แต่ยังส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไปไกลขนาดนั้นไม่ได้ แต่ฉันจะฝึกให้มากกว่านี้ บางที พวกเราอาจจะกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพึ่งยาน ไม่ต้องเสี่ยงกับอาวุธของใครก็ตาม หรือถ้ามันอันตรายมากนัก ฉันจะพาครอบครัวของฉัน ของทุกคนมาหาพวกเรา”รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของแต่ละคน ยกเว้นอเล็กซ์ที่ยังไม่พอใจกับการแสดงโชว์เมื่อครู่ เพราะมันมีผลข้างเคียงสำหรับคนที่โดยสารไปด้วย เช่นอเล็กซิสที่แม้อาการจะทุเลาแล้ว แต่เธอยอมรับว่าการเดินทางเมื่อครู่ทรมานที่สุด อาการเวียนหัวคลื่นไส้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เธอไม่เคยเมารถหรือเมาเรือเลย แต่แค่เคลื่อนย้ายฉับพลันแทบอ้วก“วันหลังห้ามวิ่งไปกอดใครแบบนั้นอีกนะ” อเล็กซ์ว่า นั่นเป็นเรื่องรองแล้วตาบ้า! “นายต้องถามเจ้าตัวก่อน ไม่งั้นครั้งหน้า ฉันช็อกนายตายแน่”“ถ้าจับฉันได้นะ” เฟร็ดหัวเราะใส่หน้าแล้วหายวับไป ทิ้งให้อเล็กซ์เตะอากาศ“แต่ข่าวดีมากเลยนะ” ฟีบี้ว่า “พวกเราอาจจะได้กลับบ้านจริง ๆ แล้ว”อเล็กซิสเป่าปาก เธอยืนได้แล้ว แม้จะยังมึนนิดหน่
เขาจับมือเธอที่หน้าอกตัวเอง สัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อด้านในที่กำลังเต้นอยู่ อเล็กซิสรู้สึกว่าใจเธอเต้นแรงไปด้วย พวกเขาอยู่ด้วยกันก็จริง แต่ไม่บ่อยนักที่อเล็กซ์จะมีอาการเหมือนคนละเมอเพ้อ และมันก็ทำให้เขาน่ารักขึ้นมาก“ฉันพยายามบอกให้เขาวิ่งตามเธอไป แต่หมอนั่นขี้ขลาด”“เขา...ตัวนายอีกคนไม่ตามฉันไปเหรอ” ทำไมต้องเสียดายด้วยนะเขาส่ายหน้า “ฉันหวังว่าพรุ่งนี้เขาจะตามเธอไป” พูดจบสายตาพลันจริงจังขึ้นมา ราวกับตัวเขาอีกคนในฝันมีชีวิต โลกอีกใบนั้นอาจมีจริง แต่แล้วดวงตาชายหนุ่มลดลงจดจ่ออยู่กับมือของเธอที่เขาจับอยู่ สีหน้าเศร้าหมองลง ความฝันทำให้เขาเป็นถึงขนาดนี้เลยหรือ“อเล็กซ์...”“มันเหมือนจริงมาก เจ้านั่นก็ยังเหมือนเดิม พูดมาก” เขาเล่าต่อ “แล้วจากนั้นเบนที่ฉันรู้จักจริง ๆ ก็ดึงฉันออกไปจากโลกนั้น แล้วมันก็เหมือนฝันเก่า ๆ พวกเราคุยกัน ฉันถามหมอนั่นว่าเมื่อกี้มันคืออะไร มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า หมอนั่นบอกว่า นายอยากให้มันเป็นจริงไหม ฉันบอกว่าอยาก เพราะนายยังมีชีวิตอยู่” เบ้าตาของเขา
“จะว่าไปรูปแบบพลังคล้ายกันมากนะ แค่ใช้ต่างกัน เริ่มต้นต่างกัน” อาคุสะตั้งข้อสังเกต“จริงด้วย” เรมีเสริม “นายกับอเล็กซิสเป็นแฝด แต่คนหนึ่งเป็นหญิง คนหนึ่งเป็นชาย แล้วความถนัดก็สลับด้านกัน ไหนยกมือข้างที่ถนัดสิ”อเล็กซิสยกมือซ้าย ไมเคิลยกมือขวาเรมีทำหน้าแบบ นี่ไง! “มันอาจจะเป็นคอนเซ็ปต์ของพวกนาย จะว่าอย่างไรดี ความเหมือนในความต่าง”“อะไรของนายน่ะ” ไมเคิลหรี่ตามอง“ก็...มันเหมือนกระจก เหมือนแต่ในด้านตรงข้าม”เร็กกี้ดีดนิ้ว “เข้าท่าแฮะ”เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้นมาหน่อย “เมื่อทั้งสองสัมผัสกัน ฉันจำได้ว่าพลังของจะเสริมกัน และล่าสุด พวกนายใช้พลังได้เหมือนกัน พร้อมกัน เริ่มต้นต่างกัน แต่สุดท้ายปลายทางจะมาบรรจบ พวกเธอสองคนอาจจะใช้พลังได้เหมือนกันก็ได้ แม่งเจ๋งว่ะ”เธอสบตากับแฝดชาย ในใจนึกทึ่งเล็กน้อย เธอคิดว่ามันเจ๋งอย่างที่เรมีว่าจริง ๆ “แต่...ฉันไม่ได้แข็งแกร่งอย่างไมเคิลตั้งแต่เกิด ไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบไวเท่าเขา หรือแม้แต
“ตอนเรียน ฉันกับเพื่อนก็เถียงกันนะว่ามันอยู่ในสสารไหน พลาสม่าหรือก๊าซ แต่ที่แน่ ๆ ในเมื่อนายสร้างมันเองได้ เป็นไปได้ว่าพลังของนายอาจไม่ใช่ควบคุมไฟหรือความร้อน อาจจะมากกว่านั้น” เร็กกี้ตั้งข้อสังเกต อเล็กซิสชอบเวลาเขาพูด ริมฝีปากของเร็กกี้อวบอิ่มดูเซ็กซี่ ยิ่งผิวสีแทนเข้มไหล่หนา...จะว่าไป เธอเริ่มรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกนิยาย เพราะผู้คนรอบข้างหน้าตาดีกันทั้งนั้น“นี่”ไมเคิลปลุกสติแล้วลากเธอให้มานั่งในห้องครัวพร้อมกับเรมี อาคุสะ และเร็กกี้ ทีแรกเขาปรึกษาเพื่อนสองคนที่ดูจะมีหัวสมองทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด แต่ทั้งสองกลับแนะนำเร็กกี้ และก็ไม่ผิดหวัง ไมเคิลฟังหนุ่มผิวแทนพูดแล้วก็แบมืออีกครั้ง ไฟปรากฏขึ้นแล้วดับไป อาคุสะเห็นดังนั้นจึงลุกไปรินน้ำใส่แก้ว แล้ววางลงบนโต๊ะ เมื่อไมเคิลอังมือใกล้ ๆ น้ำเดือดจนมีไอขึ้นมา“ทีแรกฉันเข้าใจว่าเป็น...เอ่อ เกี่ยวกับความร้อน คือ...ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้ดีเท่าไรนะ แค่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรได้ มันเป็นสัญชาตญาณน่ะ ดังนั้นขอใช้ภาษาชาวบ้านเลยละกัน ตอนแรกฉันคิดว่าฉันควบคุมความร้อน ตอนสู้กับไซบอร์กในทอยซิตี้ นายจำได้
กลุ่มกบฏบางกลุ่มต้องการทำลายนิวโฮป จึงไม่ใช่ทุกกลุ่มที่ยินดีอ้าแขนต้อนรับพวกเขา และข้อสำคัญคือ พวกเขาจะติดต่อคนเหล่านี้ได้อย่างไร จะรู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มไหนตอบโจทย์ที่พวกเขาต้องการไม่มีใครตอบได้ แม้แต่บลูก็จนแต้ม เขาเพียงแค่อยากอยู่ที่นี่ ใกล้กับหลุมศพน้องชาย“ไมเคิล ฉันว่าไม่ปกตินะ” จอห์นปลุกสติของเขาอีกครั้งสายฟ้าของอเล็กซ์ฟาดซัดต้นไม้แถบนั้นเป็นจุณทีเดียวนับสิบต้น ขณะเดียวกันกระแสไฟฟ้าแล่นเป็นวงรอบตัวเขา อาคุสะเริ่มตื่นตัว ออร่าสีเขียวและเหลืองแผ่ออกไป“อเล็กซิส ถอยออกไป!” เป็นอเล็กซ์ที่ตะโกนเตือนแฟนสาว “ฉันคุมมันไม่ได้!”“แย่ละ” ไมเคิลกับจอห์นวิ่งเข้าไปอเล็กซิสควบคุมมวลน้ำเพื่อดับไฟ แต่กระแสไฟฟ้าของคนรักยังแล่นออกมาเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มหาที่หลบไม่ได้ เขาหาทางจะเข้าไปช่วยฝาแฝด ตอนนี้แทบมองไม่เห็นอเล็กซ์เพราะมีแต่กระแสไฟฟ้าพัวพันรอบตัวเทสซ่าหวีดร้องขึ้นมา เธอกับอาคุสะจับมือกันแน่น พื้นดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือน เขาสบตากับจอห์น ใช่ แผ่นดินไหว แต่...ฝีมือธรรมชาติหรือสัญชาตญ
ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ที่แท้นาฮีมานาไม่ได้คิดจะให้พวกเขากลับนิวโฮปแต่แรก ไมเคิลหันไปมองพวกเพื่อน ๆ เทสซ่านั้นคิ้วขมวดจนเป็นปม เธอนั่งกอดอกหลังตรงแล้วเม้มปากแน่น หากแต่ไหล่สั่น ขณะที่คนอื่นถกเถียงกัน อเล็กซิสก็นั่งเท้าคางใช้ความคิด ไมเคิลสัมผัสความรู้สึกร่วมของคนในนี้ได้อย่างหนึ่ง นั่นคือความเศร้าเมื่อรู้ว่าจะไม่ได้กลับบ้าน หรืออาจจะไม่มีวันได้กลับ“ถ้าหาก...ถ้าหากเราทำให้เมเคอร์เข้าใจได้ว่าพวกเราไม่เป็นภัย พวกเราเป็นชาวนิวโฮป อยากปกป้องบ้านเหมือนกัน ถ้าเราทำให้เขาเห็นจุดยืนของพวกเราว่าไม่ได้เป็นภัยต่อไลบราเรีย ต่อโลก...” ไมเคิลเลิกคิ้ว เพราะเทสซ่าพูดเหมือนอเล็กซิสเปี๊ยบ“ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยเทสซ่า เมเคอร์ไม่มีวันให้กองกำลังกับพวกเธอแน่”“ฉันไม่ได้หมายถึงกองกำลัง ฉันหมายถึงตัวพวกเราเอง ถ้าเขามองว่าพวกเราเป็นภัย ทำไมไม่มองว่าพวกเราเป็นอาวุธให้พวกเขาได้”“เทสซ่าพูดถูก” เซนว่า “ทหารสามคนนั้นก็เป็นกลุ่มเสี่ยง”“ลูเซียนบอกว่าเพราะพวกเขาเป็นชาวไลบราเรียนอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังถ