2
สปอนเซอร์ใหญ่
“โคตรอายเลยว่ะ” ซานพูดกับอบอุ่นหลังจากเดินออกมาจากส่วนต้อนรับของโรงแรม
“ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆ “ ชายร่างเล็กกว่าบ่นอุบ
เมื่อสักครู่ พวกเขาได้เข้าไปพูดคุยแนะนำตัวกับพนักงานต้อนรับ โดยได้ฝากข้อมูลเกี่ยวกับ Blog, YouTube channel และประวัติการทำงานที่ผ่านมาคร่าวๆ ไว้ เผื่อทางโรงแรมจะสนใจให้พวกเขาช่วยประชาสัมพันธ์โดยการให้สิทธิ์ที่พักฟรีสำหรับเอาไปแจกแฟนคลับ หรืออาจจะให้สิทธิสำหรับใช้บริการอื่นๆ ของรีสอร์ทให้พวกเขาได้รีวิว
จริงๆ แล้วอบอุ่นไม่อยากจะทำแบบนี้เลย แน่นอนล่ะว่าสมัยนี้พวกนักรีวิวมีผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เยอะแยะยั้วเยี้ยยิ่งกว่ามด พวกที่ได้รับความนิยมเพราะมีเกมมาให้เล่น มีของมาแจกบ่อยๆ ก็เยอะ พวกที่ดังแล้วหายเงียบไปก็มี หรือพวกที่รีวิวอวยมากเกินเหตุก็เยอะ ไหนจะพวกที่หน้าด้านไปขอสนับสนุนที่พักจากคนอื่น แล้วรีวิวแบบขอไปทีบ้างล่ะ
วงการนี้มันเริ่มเละเทะจนอบอุ่นตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะรับงานแค่เวลามีสปอนเซอร์ติดต่อมาเท่านั้น จะไม่หน้าด้านไปของานจากที่พักต่างๆ ด้วยตัวเองเด็ดขาด
แต่สุดท้ายด้วยทนการรบเร้าจากซานไม่ได้ เลยต้องบากหน้ามาเป็นเพื่อน ปล่อยให้ซานเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างเอาเอง โดยที่มันบอกว่า ถ้าได้แพ็คเกจที่พักฟรีมาหลายอันล่ะก็... จะเก็บไว้ใช้กับแฟนอันนึง แล้วที่เหลือถึงจะเอาไว้แจกแฟนคลับ
เหอะๆ ... ไม่ค่อยจะเห่อแฟนเลย
แน่ล่ะ ก็แฟนมันสวยหวานมาก แต่เป็นสวยหวานแบบทันคน ไม่จืดชืด และมีอะไรมาเซอร์ไพรส์ได้ตลอด จนบางทีอบอุ่นยังแอบอิจฉาไอ้ซานที่ได้แฟนดีมากเลย
ถ้าหากเขามีแฟนบ้างล่ะก็...
อืม... คงต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ น่ารักๆ เสียงเจื้อยแจ้วน่าฟังล่ะมั้ง
“แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาโอเคดีนี่หว่า” เสียงของซานดึงให้อบอุ่นหลุดออกจากภวังค์
“เออ ดี! ดีที่เขาไม่ปาของไล่แกออกมาไงล่ะ! “
“พูดเว่อร์ไปละ ไม่เห็นหรือไงว่าพนักงานยังพูดคุยยิ้มแย้มอยู่เลย”
อบอุ่นได้แต่กลอกตาใส่อีกฝ่าย ที่พนักงานคอยรับฟังอย่างใจดีและบอกว่าจะรับเรื่องไว้ให้เพราะมันเป็นหน้าที่ของเขาต่างหากเล่า! รีสอร์ทห้าดาวที่ไหนเขาก็ต้องทำกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ แต่เรื่องที่รับไปจะไปถึงฝ่ายมาร์เก็ตติ้งหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
แม้จะมั่นใจว่าฝ่ายนั้นคงจะไม่ตอบรับอะไร แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกขนลุกแปลกๆ รู้สึกเหมือนกำลังจะมีเรื่องอะไรสักอย่างเกิดขึ้น...
และเป็นเรื่องที่ชวนให้ไม่สบายใจเอามากๆ
“คุณธันวาครับ ผู้จัดการฝ่ายมาร์เก็ตติ้งของ The Diamond Pearl สาขานี้ ต้องการเข้าพบครับ”
“อืม ให้เข้ามา”
หลังสิ้นคำตอบรับของร่างใหญ่ หัวหน้าฝ่ายมาร์เก็ตติ้งซึ่งแต่งตัวใส่สูทผูกเน็กไทอย่างเรียบร้อย ก็เปิดประตูห้องทำงานส่วนหลังของบ้านพักซึ่งมองเห็นวิวภูเขาและน้ำตกจำลองเข้ามา เพื่อพบกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของเมืองไทย ซึ่งรวมไปถึงอาณาเขตอันกว้างใหญ่อย่าง The Diamond Pearl Hotel & Resort สาขากระบี่แห่งนี้ด้วย
เศรษฐีวัยเพียงสามสิบห้าปีนั่งเอนหลังอ่านไอแพดในมือ เขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตฮาวายและกางเกงขาสามส่วนสบายๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนเป็นการส่วนตัว
รอยสักอันเป็นเอกลักษณ์บนกล้ามแขนขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง และขนาดรูปร่างอันใหญ่โตเหมือนลูกครึ่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ประกอบกับเสื้อผ้าแบบสบายๆ นั้น หากไม่มีใครบอกว่าเขาคือผู้บริหารและเจ้าของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทุกอย่างล่ะก็...ทุกคนคงนึกว่าเขาคนนี้เป็นนักกีฬาหรือมาเฟียที่ไหนเสียมากกว่า
“สวัสดีครับ นายหัว”
ตอนนี้ธันวาอยู่ที่ภาคใต้ จึงไม่แปลกที่จะถูกพนักงานเรียกว่า ‘นายหัว’ อีกหนึ่งฉายาที่เสริมสร้างความยำเกรงและน่าเคารพนับถือ
“ว่ามาเถอะ” ธันวาผายมือชวนอีกฝ่ายให้นั่งลง ก่อนจะวางไอแพดในมือ
“พอดีแขกสองคนนั้นเขาได้มาติดต่อกับแผนกต้อนรับเพื่อขอรับการสนับสนุนจากทางเราครับ นี่เป็นเอกสารคร่าวๆ ที่ผมจัดทำขึ้นให้นายหัวได้เห็นภาพ”
สมกับที่เป็นผู้จัดการ เขาเข้าเรื่องทันทีไม่มีการเวิ่นเว้อ สรุปทุกอย่างออกมาอย่างกระชับและรวดเร็ว
ธันวารับแฟ้มเอกสารขนาดเล็กไปเปิดดูคร่าวๆ สีหน้านิ่งเฉย ไม่มีใครสามารถเดาความคิดของเขาได้ แต่หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มวาบขึ้นชั่วขณะเมื่อเห็นภาพของคนที่เขาจับตามองอยู่เมื่อวาน
ร่างหนากวาดตาอ่านคร่าวๆ ก่อนจะส่งแฟ้มคืนอีกฝ่ายไป
“ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันจะสั่งการผ่านมาร์คไปอีกทีแล้วกัน” ธันวาหมายถึงบอดี้การ์ดคนสนิท
“ครับ นายหัว” รับคำเสร็จ ก็จากไปทันที แทนที่ด้วยบอดี้การ์ดที่เดินเข้ามาหาอย่างรู้หน้าที่
“วันนี้อบอุ่นทำอะไรบ้าง”
“ไม่รู้ครับ”
แววตาคมปลาบตวัดขึ้นมองอีกฝ่ายทันทีจนคนเป็นลูกน้องต้องโอดครวญ
“โธ่~ ก็คุณธันวาให้ผมรับรองเขาแบบปกตินี่ครับ ผมเลยไม่ได้สนใจอะไร” ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นหนักขนาดนี้ ถึงแม้เขาจะแจ้งให้ทางโรงแรมคอยมารายงานข่าวเวลาสองคนนั้นมาติดต่อขอความช่วยเหลือหรือมีปัญหาอะไรก็เถอะ แต่ใครเขาจะบ้าไปคอยตามติดพฤติกรรมอีกฝ่ายขนาดนั้นกันล่ะ
“อ้อออ จะบอกว่าฉันพูดไม่เคลียร์สินะ”
“ไม่เลยครับ ไม่ ผมผิดเองครับ”
“อย่าทำให้ฉันผิดหวังอีกล่ะ ไปหาข้อมูลมาภายในสิบนาที”
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งนั้น ลูกน้องคนสนิทที่ต้องคอยเดาใจ คอยรู้ใจนายอยู่เสมอ ก็รีบจรลีออกไปหาข้อมูลอย่างเร่งด่วน ปล่อยให้เจ้านายหยิบไอแพดขึ้นมาเล่นต่ออย่างสุขสบายใจ
สิบนาทีผ่านไป
มาร์คเดินอ้อมตัวบ้านพักมาที่ห้องทำงานข้างหลังบ้านซึ่งขณะนี้ผนังกระจกด้านหนึ่งถูกเปิดโล่งต่างจากตอนแรก เผยให้เห็นร่างหล่อเหลาสมส่วนของเจ้านายซึ่งกำลังนอนหันหน้าออกมาทางน้ำตก แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่หน้าจอไอแพด รอยยิ้มน้อยๆ ผุดออกมาแบบที่มาร์คแทบไม่เคยได้เห็นมาก่อน
โอ้มายโกสต์ เกิดอะไรขึ้นกับคุณธันวา!
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ความจริงยิ่งถูกเปิดเผย เมื่อเสียงแหบพร่าแบบชายหนุ่มแต่ค่อนข้างนุ่มนวลดังออกมาจากลำโพงของไอแพดเครื่องนั้น
‘หนาวโคตรรร หนาวจนแข็งไปหมดแล้วครับ ใครจะนึกว่าอุณหภูมิแค่หกองศาบนยอดดอยจะทำให้รู้สึกหนาวได้ขนาดนี้ นี่ขนาดเดินตั้งเยอะแล้วยังไม่ค่อยช่วยให้หายหนาวเลยครับ โหย ใครจะมาก็อย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวดีๆ มาล่ะ อย่าเป็นคนขี้เกียจแบกของแบบผม... ฯลฯ ‘
เสียงที่ดังออกมานั้นฟังไม่คุ้นหูเลยสักนิด แต่หากจะให้เดาคงไม่พ้นเป็นวีดีโอของ vlogger นามว่าอบอุ่น คนที่เจ้านายกำลังสนใจอยู่แน่ๆ
“คุณธันวาครับ”
มาร์คส่งเสียกเรียก ทำให้ธันวากดหยุดคลิปวีดีโอนั่นไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าดูผ่อนคลายขึ้นเยอะ แตกต่างจากเมื่อสิบนาทีก่อนลิบลับ
“ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณธันวามานานแล้วนะครับ”
“ฉันก็ยิ้มเป็นปกติ จะให้ฉันยิ้มให้แกหรือไง? “
มาร์คลองนึกภาพตาม ก่อนจะส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่ดีกว่าครับ คงจะขนลุกน่าดู”
ธันวาหยิบแก้วน้ำมะพร้าวขึ้นมาจิบ รอให้ลูกน้องรายงานข่าวที่ตัวเองสั่งการไป
“ขณะนี้คุณอบอุ่นกับคุณซานกำลังล่องเรือไปตามเกาะย่อยต่างๆ เพื่อดำน้ำชมปะการังครับ และจะกลับมาในตอนเย็นเพื่อร่วมปาร์ตี้บาร์บีคิวอาหารทะเลริมหาดของโรงแรมเรา”
“ต่อสิ...”
“ทั้งสองคนจะพักที่นี่ถึงวันพรุ่งนี้เท่านั้น แล้วจะออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดกระบี่ ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพครับ ส่วนนี่เป็นประวัติต่างๆ ของทั้งคู่ รวมถึงประวัติครอบครัวของคุณอบอุ่นด้วย”
มาร์คยื่นไอแพดของตนให้อีกฝ่าย
“ข้อมูลทั้งหมดผมส่งเข้าอีเมลล์ของคุณธันวาเรียบร้อยแล้วครับ”
เมื่อรายงานเสร็จ มาร์คก็ยืนนิ่ง มองเจ้านายที่กำลังจ้องไปทางผีเสื้อที่บินวนเวียนอยู่รอบดอกไม้ป่าข้างน้ำตก
ชั่วอึดใจหนึ่ง ธันวาก็เริ่มพูดขึ้น
“จัดการส่งแพ็คเกจกิจกรรมแอดแวนเจอร์ทั้งทางน้ำและทางอากาศทุกอย่างให้สองคนนั้น และให้แพ็คเกจที่พัก อาหาร สปา ฟรีไปด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเริ่มใช้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เท่านั้น อ้อ... ให้แพ็คเกจที่พักฟรีให้สองคนนั้นได้ไปแจกเหล่าแฟนคลับด้วยล่ะ อันนั้นจะเข้าพักเมื่อไหร่ก็ได้”
มาร์คจดทุกอย่างที่เจ้านายบอกลงในโทรศัพท์มือถือของตน
“เรื่องที่พักนี่คือ? “
“ไม่เอาที่เดิม ให้ที่พักที่วิลลาเชิงเขา เห็นวิวทะเลและเกาะ มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่หนึ่งคืน อีกคืนให้พักที่เกาะส่วนตัวของฉัน...”
“...”
“และที่สำคัญ... ทำให้ทั้งสองคนนั้นแยกห้องกันให้ได้ด้วยล่ะ”
ธันวาสั่งทิ้งท้ายด้วยแววตานุ่มลึก มุมปากกระดกขึ้นน้อยๆ อย่างหมายมาด
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว