6
นาบ
"ลุงอีกแล้วเหรอ! " อุทานอย่างตกใจเสร็จ ก็พยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากอีกฝ่าย แต่ลำขาใหญ่ที่กดทับขาทั้งสองข้างของเขาไว้ ทำให้ร่างเล็กถูกกักขังโดยสมบูรณ์
"พูดจาได้น่าขัดใจอีกแล้วนะ" ธันวาส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะปิดปากเล็กๆ นั่นลงด้วยปากของตน ขบเม้มแรงๆ เป็นการลงโทษเสียหนึ่งที "ทีนี้จะเรียกให้ถูกได้หรือยัง"
"แกมัน! ฮึ่ย! " อบอุ่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างขัดใจที่ทำอะไรร่างใหญ่ข้างบนไม่ได้ ยิ่งดิ้นรนก็ยิ่งเจ็บไปหมด
"อ๊ะๆ ไม่สุภาพเลยนะ" สายตาคมปลาบที่จ้องมาทำให้อบอุ่นรู้สึกเย็นยะเยือก
เมื่อเห็นว่าอบอุ่นเงียบลง ธันวาก็เริ่มใช้สายตาโลมเลียไปทั่วร่างข้างใต้ พลอยให้อบอุ่นสำนึกได้ว่าตัวเองกำลังเปลือยกายอยู่ นอกจากนี้สายตาอันแผดเผานั่นยังทำให้เขารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ จนแทบไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
"คุณธันวา..." เสียงสั่นๆ เอ่ยออกไป แต่มันเบาซะจนแทบไม่ได้ยิน
"หืม..."
"ปล่อยผมเถอะนะ... นะครับ" สายตาออดอ้อนที่ใช้เป็นประจำกับคุณแม่ถูกขุดขึ้นมาใช้ แต่เจ้าตัวหารู้ไม่ว่ามันกลับเป็นตัวเร่งเชื้อเพลิงให้โหมกระหน่ำยิ่งขึ้น
ธันวาเหมือนถูกความน่ารักของคนตรงหน้าสะกดไว้ เขาจ้องมองอย่างหลงใหล ค่อยๆ โน้มริมฝีปากลงจูบซับดวงตากลมโต ไล่ลงมายังแก้มขาวเนียน ก่อนจะปิดทับบนริมฝีปากบางที่มีสีแดงก่ำอย่างกับจะเชื้อเชิญ
เขาจูบอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ แทะเล็ม สอดเรียวลิ้นเข้าไปในปากเล็ก ดูดดึง หยอกล้ออย่างอ้อยอิ่ง ยิ่งร่างข้างใต้ต่อต้าน พยายามจะผลักลิ้นเขาออกไป ยิ่งเป็นการให้เขาสัมผัสอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น ลิ้นร้อนเกี่ยวรัดลิ้นเล็กอย่างอุกอาจหื่นกระหาย ดูดกลืนความหวานอย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ฝ่ามือหนาบีบเค้นไปตามแผ่นอกบาง ทำให้อบอุ่นร้อนรุ่มไปทั้งตัว
เขาย้ายริมฝีปากลงมายังลำคอเรียว ลากลิ้นร้อนลงมา ขบเม้มไปทั่วจนเกิดรอยแดงเต็มไปหมด ก่อนจะเข้าครอบครองตุ่มไตสีน้ำตาลอมชมพูแสนสวย ไล้เลียดูดดึงลบรอยที่ซานเคยสัมผัสเสียให้สิ้น!
ทั้งเนื้อทั้งตัวของอบอุ่นคือของเขา... ของเขาคนเดียวเท่านั้น!
ฝ่ามือใหญ่ที่ย้ายไปบีบเค้นก้นขาวเนียน รวมกับริมฝีปากอันช่ำชองที่คอยดูดกลืน ตะโบมไล้ยอดอกจนมีเสียงดังออกมา ทำให้ร่างเล็กบิดไปมาอย่างทรมาน น้องชายใจกลางลำตัวตั้งตรงขึ้นมาอย่างน่าละอาย
"อ๊าาา..." อบอุ่นสะดุ้งเมื่อธันวาละเลงลิ้นร้อนวนรอบยอดอกของเขาอย่างรวดเร็วเสียจนรู้สึกได้ถึงความทรมาน
อบอุ่นไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงไม่สามารถขัดขืนอีกฝ่ายได้ ยิ่งนานเข้า เขากลับยิ่งรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว อยากจะให้คนข้างบนช่วยจบความทรมานนี้ไปเสียที
แต่ดูเหมือนความหวังของเขาจะส่งไปไม่ถึง เพราะร่างใหญ่เอาแต่ประทับรอยไปทั่วร่างกายของเขา สลับกับวนเวียนขึ้นมาจูบอย่างดูดดื่มเป็นระยะ จนอบอุ่นทรมานแทบจะทนไม่ไหว!
"พอเถอะ" เขาบอกให้อีกฝ่ายหยุด แต่นัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มที่ช้อนขึ้นมองอย่างน่าสงสาร ยิ่งทำให้ธันวารู้สึกอยากขย้ำร่างข้างใต้มากยิ่งขึ้น
"อยากจะให้ฉันหยุดจริงๆ น่ะเหรอ" ธันวาเลิกคิ้ว มือหนาย้ายไปกอบกุมรอบมังกรตัวน้อยจนอบอุ่นสะดุ้ง
"อย่า! อ๊ะ! " เขาถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อฝ่ามือนั้นเริ่มขยับขึ้นลงช้าๆ
"แน่ใจนะว่าอยากให้หยุด" เจ้าของธุรกิจหมื่นล้านยิ้มอย่างเป็นต่อ ก่อนจะขยับมือเร็วขึ้นจนร่างบางร้องเสียงหลง
"หยุด อ๊ะ อ๊ะ! " ถึงปากจะบอกให้หยุด แต่สะโพกกลับโยกตามการชักนำนั้นไปอย่างน่าละอายจนอบอุ่นต้องเบือนหน้าหนี เขาพยายามกัดฟันกลั้นเสียงครวญครางของตน แต่ธันวาที่มองเห็นทุกอย่างกลับเคลื่อนริมฝีปากเข้ามาห้ามไม่ให้อีกฝ่ายทำร้ายตัวเองจนเลือดออก เขามอบจูบอันดูดดื่มให้ร่างเล็กอีกครั้ง ในขณะที่มือก็ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งขัน
อบอุ่นทรมานร้อนรุ่มเป็นที่สุด อยากจะร้องครวญครางออกมา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะถูกเจ้าของรอยสักแสนสวยครอบครองริมฝีปากไว้อยู่
มือหนาขยับไวขึ้น ไวขึ้น รัวเร็วเสียจนสะโพกบางรัวรับแทนไม่ทัน อบอุ่นร้อนผ่าวไปทั้งตัว ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป เหมือนมีสิ่งที่มองไม่เห็นมาชักใยให้เขาปลดปล่อยความต้องการของตนเอง
ธันวาเลื่อนริมฝีปากลงมาที่หน้าอกบางอีกครั้ง วนเวียนครอบครองยอดอกอันแสนน่ารัก ในขณะที่มือข้างที่ว่างก็คอยเค้นคลึงยอดอกอีกข้าง ส่งผลให้ร่างข้างใต้ทรมานเสียยิ่งกว่าเก่า
สัมผัสมืออันหนักหน่วงที่เบื้องล่าง ประกอบกับลิ้นร้อนที่คอยทรมานจุดอ่อนไหวเบื้องบน ทำให้ร่างกายของอบอุ่นเหมือนโดนแผดเผา ภาพทุกอย่างพร่ามัว รับรู้เพียงความร้อนรุ่มและหฤหรรษ์ของประสบการณ์ใหม่ที่อีกฝ่ายได้มอบให้
และในที่สุด... ฝ่ามือใหญ่ก็ช่วยให้ร่างบางได้ถึงฝั่งฝัน เขากระตุก ปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาท่วมฝ่ามือหนา อบอุ่นหายใจหอบแรงเหมือนไปออกกำลังกายที่ไหนมา ธันวาช่วยรีดน้ำรักที่หลงเหลืออยู่เล็กน้อยออกไปจนหมด
หลังจากได้ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองแล้ว อบอุ่นก็รู้สึกตัว เขาเบือนหน้าหนีอย่างไม่กล้าสู้หน้า แต่ธันวากลับใช้มือข้างที่ว่างพลิกใบหน้านั้นให้หันกลับมามอง...
...มองที่เขาซึ่งค่อยๆ ลิ้มรสของเหลวในมือข้างซ้ายช้าๆ ในขณะที่สายตาอันร้อนแรงก็จ้องไปยังดวงหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่อ
"อืม... อร่อย..."
“โรคจิต” ปากบางเม้มแน่น ใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าผลมะละกอสุก
หนุ่มใหญ่เพียงยิ้มน้อยๆ ใช้หลังมือซับเม็ดเหงื่อที่เกาะพราวทั่วเรียวหน้าเนียน อบอุ่นปัดมือนั้นออก ก่อนจะลุกขึ้นนั่ง เอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่ข้างตัวมาสวม ป้องกันสายตาโลมเลียที่เอาแต่กวาดมองไปทั่วร่างกายอันเปลือยเปล่าของเขา
“จะไปแล้วหรอ” ธันวาถามขึ้น เขาเปลี่ยนท่าเป็นนั่งตั้งแต่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ใส่เสื้อคลุม
“...” จะอยู่ให้ลุงลวนลามต่อหรือไงเล่า!
ถึงอยากจะด่ากราดแค่ไหน แต่ร่างเล็กก็ทำได้เพียงแค่เงียบ เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายหาเรื่องมาทำโทษเขาจนถลำลึกไปไกลอีก
ระหว่างที่ลุกขึ้นยืน อบอุ่นก็สังเกตเห็นคราบเปื้อนที่เลอะอยู่บนเบาะนวด เป็นหลักฐานอย่างดีถึงเรื่องน่าละอายที่เขาเพิ่งทำลงไป
"ขอโทษนะ แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ น่ะ"
อบอุ่นแสร้งทำเป็นหูทวนลม เขาลุกขึ้นยืน เดินหนีออกไปทางประตูห้อง แต่อีกฝ่ายก็คอยเดินตามหลังมาติดๆ จนเขารู้สึกรำคาญจนต้องหมุนตัวกลับไปตะคอกใส่
"เลิกตามตอแยผมสักทีได้มั้ย!! "
"คุณธันวา... คุณธันวาครับ"
มาร์คเรียกเจ้านายที่ยืนนิ่งอยู่เป็นนานสองนานในห้องทำงานของผู้จัดการสปาที่เขายึดมาเป็นของตนชั่วคราว ไม่รู้ว่าคุณธันวาไปเจออะไรมา ถึงได้เหม่อลอยขนาดนี้
"พ่อเลี้ยง... นายเหนือ! "
ขุดทุกชื่อออกมาเรียก ในที่สุดร่างสูงใหญ่ก็ยอมหันมามองที่ตน
"นี่ฉันทำอะไรผิดไป" สีหน้าเหมือนกำลังช็อกของธันวาแบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ทำให้มาร์คต้องประหลาดใจ
"..." แล้วเขาจะรู้มั้ยว่าเจ้านายทำอะไรไปบ้าง นี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย!?
"ฉันมันไม่มีเสน่ห์เลยใช่มั้ย"
ท่าทางเหมือนสูญเสียความมั่นใจนั้นทำเอาบอร์ดี้การ์ดร่างหนาลนลาน รีบละล่ำละลักออกไปทันที "ไม่เลยครับ เจ้านายมีเสน่ห์มาก ทั้งหล่อ รวย ดูดี ใครๆ ก็ชอบครับ"
"แล้วทำไมเด็กน้อยถึงพยายามจะหนีฉันตลอดเลยล่ะ"
ในที่สุดมาร์คก็ถึงบางอ้อ เข้าใจสักทีว่าเจ้านายตนกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
"ผมขอพูดตรงๆ เลยนะครับ..."
"ว่ามาสิ"
"คุณอบอุ่นได้รู้จักคุณธันวาดีพอหรือยัง"
"..."
"คุณได้เข้าหาเขาเหมือนคนปกติทั่วไปหรือเปล่า"
"ก็ต้องไม่อยู่แล้วสิ ทำไมฉันต้องทำตัวเหมือนคนอื่นด้วยวิธีดาษดื่นล่ะ ในเมื่อฉันมีอำนาจมากมายให้ใช้"
"นั่นแหละครับที่เป็นปัญหา... คุณธันวาดูเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับคุณอบอุ่น จู่ๆ คุณก็เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเขาโดยใช้อิทธิพลของตัวเอง มันทำให้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียความเป็นส่วนตัว และอยากจะหนีคุณไปให้ไกลไงล่ะครับ"
"เข้าใจล่ะ"
มาร์คพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างดีใจที่เจ้านายฟังคำของตน
"งั้นฉันคงต้องแก้ตัวใหม่ ถ้าฉันทำให้เที่ยวบินถูกยกเลิก เขาจะโกรธฉันไหมนะ"
"..." หมดคำจะพูด ก็ผมเพิ่งบอกอยู่ว่าอย่าใช้อำนาจในทางที่ผิดไงคร้าบบบ
"ยังไงก็ต้องยื้อให้เขาอยู่ต่อให้ได้ ฉันจะได้มีเวลาทำคะแนนเพิ่ม"
"..." มีเวลาทำคะแนนหรือทำอย่างอื่นกันแน่ครับ?
"เอาล่ะ ทำตามนั้นก็แล้วกัน"
"โธ่~ คุณธันวา แค่ขัดขวางให้คุณอบอุ่นไปไม่ทันขึ้นเครื่องก็พอมั้งครับ อย่าได้ทำให้คนอื่นๆ ต้องเดือดร้อนไปด้วยเลยยย" มาร์คร้องเสียงหลง น้ำตาจะไหลเมื่อนึกถึงความโอเว่อร์ของเจ้านาย
27รุกที่ไม่ได้แปลว่ารุก ดินเนอร์บนดาดฟ้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว... ตอนนี้พวกเขากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้โซฟาแบบปรับนอนได้แสนนุ่มขนาดใหญ่สำหรับสองคนเพื่อดูดวงดาวที่เริ่มโผล่ออกมาบางส่วน เนื่องจากเลยช่วงหัวค่ำมาสักพักแล้ว ทำให้ออกมานั่งรับลมข้างนอกได้อย่างสบายๆ โดยไม่มีแมลงใดๆ มารบกวน หลังจากที่อบอุ่นขอให้ธันวาเป็นช่างภาพให้ เขาก็รู้สึกเขินนิดหน่อยกับสายตาเป็นประกายเจิดจ้าของธันวาที่จ้องมองมาเหมือนกับกำลังมีความสุข (?) เขาเกือบจะหลบสายตา หาทางเปลี่ยนเรื่องแล้ว หากธันวาไม่ได้ตอบออกมาซะก่อน และแน่นอนว่าเขาตอบตกลง! สิ่งนี้ทำให้อบอุ่นอารมณ์ดีซะจนเอ็นจอยกับการกินอาหารเย็นเป็นพิเศษ ท่าทางที่กินก็ดูเอร็ดอร่อยซะจนธันวาถึงกับแซวว่าเขาควรจะทำวล๊อกเกี่ยวกับการกิน ถ่ายโชว์ตอนเขากำลังกินเหมือนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่มากกว่า อบอุ่นอยากจะบอกไปซะเหลือเกินว่าเขาเคยทำมาแล้ว แต่อัพลงเฟซบุ๊กส่วนตัว แถมยังเคยไปรีวิวอาหารที่ร้านแล้วอัพลงเพจในเฟซบุ๊กอีกด้วย แต่ไม่บอกดีกว่า... ปล่อยให้เป็นเรื่องหนึ่งที่ธันวาไม่รู้บ้างก็แล้วกัน "ดูสิพี่ เริ่
26เดินหน้าเต็มขั้น หลังจากอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน และดื่มน้ำซุปที่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ธันวาก็ไล่ให้อบอุ่นไปนอนพักผ่อน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถออกจากบ้านหลังนี้ไป ทำให้อบอุ่นที่ใจตุ้มๆ ต่อมๆ ทำตัวไม่ถูกหายใจได้สะดวกขึ้น หากคิดดูจริงๆ แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกที่อบอุ่นได้อยู่กับธันวาเพียงสองคน ไม่ใช่แค่อยู่ด้วยชั่วครั้งชั่วคราวเพียงไม่กี่ชั่วโมงแบบที่ผ่านๆ มา และยังไม่มีคนที่เขารู้จักอยู่ด้วยกันอีก ถ้าเกิดโดนฆ่าหั่นศพขึ้นมา ก็คงจะไม่มีใครรู้ อบอุ่นที่รู้สึกสร่าง หายเมาเป็นปลิดทิ้ง ได้แต่เดินสำรวจรอบๆ บ้าน บ้านหลังนี้มีเพียงชั้นเดียวก็จริง แต่ตกแต่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นแบบบิ้วท์อิน ทำให้พื้นที่ภายในบ้านดูกว้างขวางแตกต่างจากภาพที่เห็นด้านนอกลิบลับ ไหนจะโทนสีที่ทำให้บ้านดูสว่างไสวและอบอุ่นอีกล่ะ... สมกับเป็นบ้านพักตากอากาศที่ธันวาใช้อาศัยอยู่จริงๆ สิ่งที่ทำให้เขาค่อนข้างโล่งอกก็คือห้องนอนในบ้านมีสองห้อง ห้องที่เขาเข้าไปอาบน้ำเมื่อกี้ห้องหนึ่ง และห้องนอนของธันวาอีกห้องหนึ่ง มันทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาที่อย่างน
25ใจอ่อน หลังจากที่ชาร์จแบตเตอรีมือถือแล้วเจอเข้ากับจำนวนสายที่ติดต่อเข้ามามากมายและสติกเกอร์เหมือนคนสำนึกผิดของธันวา คนที่ยังรู้สึกตื่นไม่ค่อยเต็มตาก็ถึงกับงงตาแตกไปพักใหญ่ ก่อนจะเลื่อนหน้าจอมือถือไปเจอสาเหตุที่เขาก็ลืมมันไปซะสนิท อบอุ่นเกือบจะได้ยิ้มให้กับความน่ารักของสติกเกอร์เหล่านั้นอยู่แล้วเชียว หากไม่เห็นข้อความล่าสุดซะก่อน ไม่เจ้าชู้? ทำไมต้องพิมพ์มาเหมือนกับว่าเขากำลังหึงหวงธันวาอยู่อย่างงั้นล่ะ!? เขาไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย เอ๊ะ หรือว่าจะใช่? แต่แค่ส่งสติกเกอร์โกรธไปเฉยๆ เนี่ยนะ!!? อบอุ่นตบตีกับความคิดในหัวอยู่นาน ก่อนจะปัดมันทิ้งเมื่อโดนท้องส่งเสียงร้องโครกครากบ่งบอกให้รู้ว่าควรลงไปกินอาหารเที่ยงได้แล้ว โชคดีที่หลังจากทำโอทีกันทั้งคืน วันนี้เลยเป็นวันเดย์ออฟ ไม่มีการทำงานใช้แรงงานใดๆ เลยทำให้เขามีเวลาเคลียร์งานวล๊อกและปัญหายุ่งยากต่างๆ สุดท้ายวันเวลาที่เหมือนจะสบายๆ ในค่าย แต่ยุ่งๆ เพราะงานนอกที่ต้องคอยจัดการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการรบกวนอย่างการส่งไลน์มาสวัสดียามเช้าของธันวาอีก... เรียกว่าไม่
24ว้าวุ่น ซู้ดดดดด~~~ เสียงสูดเส้นบะหมี่ร้อนๆ ดังลั่นห้องอาหารเย็นของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือธนภูดินันท์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสถานที่พักแรมของค่ายอาสามากนัก ธันวาเท้าคางมองคนที่กำลังนั่งซดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเป็นคนทำให้ ท่าทางจ้วงเอาๆ ของคนหิวโซ ดึงดูดความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี ไม่ยักจะรู้ว่าการมองอบอุ่นกินมันเพลินตาได้ขนาดนี้... หลังจากที่จัดยกที่สองกันเสร็จ เขาก็แกล้งอบอุ่นเล่นนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ เพราะสังเกตเห็นถึงความเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายเข้า นอกจากนี้เสียงโครกครากที่ดังลั่นออกมาจากกระเพาะของเด็กหนุ่มยังเป็นการยุติสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี สุดท้ายพวกเขาก็ต้องกลับมายังโรงแรมเดิมอีกครั้ง เพื่อที่จะใช้ห้องน้ำส่วนตัว ไม่ใช่ห้องน้ำรวมของผู้ชายที่ล้อมไว้ด้วยสังกะสีผุๆ ซึ่งทำขึ้นชั่วคราวไว้ใช้ในค่าย แต่ก่อนที่จะได้อาบน้ำ เขาได้โน้มน้าวให้อบอุ่นรออยู่ในห้องอาหารเพื่อรอกินอาหารฝีมือเขาก่อน ด้วยความที่อยากให้กลิ่นกายของเขาฝังอยู่ในตัวอบอุ่นนานๆ จริงๆ วิธีที่ดีกว่านี้ก็มีอยู่... ก็การที่ฝากฝังตัวตนของเขาไว้ใน
23ฝากฝังกลิ่นอาย “ไอ้เชี่ยปัตรแม่งงง หายไปหนายวะ” “ชิท! “ เสียงสบถของธันวาทำเอาอบอุ่นที่กำลังตกใจกับเสียงคนเมาต้องมองใบหน้าเข้มอย่างแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเขาสบถแบบนี้มาก่อน “ปล่อยผมลงเถอะ” การหาที่หลบเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า ทำให้อบอุ่นพยายามจะผลักไสตนให้หลุดพ้นจากการสอดประสานกับคนตัวสูง แต่ธันวากลับล็อคตัวเขาไว้แน่น ไม่ยอมให้ได้ขยับไปไหน “เกาะไว้แน่นๆ เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ธันวากระซิบเบาๆ เขาเอาแขนออกจากข้อพับเข่าของอบอุ่น จับให้ขาเล็กนั่นล็อกเอวเขาไว้แทน เพื่อที่มือจะได้ใช้ในการกวาดกางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมา แล้วเดินไปทางฝั่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มไม้ขึ้นอยู่ค่อนข้างจะหนาแน่น อบอุ่นที่กำลังลุ้นระทึกอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้แต่เกาะธันวาไว้แน่นเหมือนกับลูกหมีโคอาล่าทั้งๆ ที่สามารถกระโดดลงไปยืนเองได้ เขาซบหน้าลงกับอกกว้างแน่น อย่างน้อยหากคนๆ นั้นมาเห็นเพียงข้างหลังและเสื้อสูทที่เขาใส่อยู่ก็จะไม่สามารถเดาได้ว่าเขาคือใคร “หืมมม ทำไมไม่เปิดไฟว้าาา” เสียงที่ได้ยินมันใกล้มากซะจนอบอุ
22น้ำที่คั่งค้าง ด้านหลังอาคารไม้สูงสามชั้นซึ่งอยู่ห่างจากอาคารนอนของชาวค่ายอาสาไม่มากนัก ถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนจากแสงไฟที่เข้าไม่ถึง มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องลงมาให้เห็นเก้าอี้ยาวและเหล่าต้นไม้พุ่มไม้ที่ขึ้นอยู่ไม่เป็นระเบียบ แต่ถูกดูแลตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น บ่งบอกว่าสถานที่แห่งนี้คือจุดหนึ่งที่ใช้ในการพักผ่อนหย่อนกาย เสียงจากวงเหล้าที่ลานเอนกประสงค์ กว่าจะผ่านมาถึงบริเวณนี้ก็เบาลงจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังถูกหลอกล่ออยู่ใจเต้นตึกตัก ด้วยตระหนักว่ามีคนมากมายแค่ไหนอยู่ห่างออกไปเพียงแค่ช่วงตึก ไหนจะเหล่าคนเมาที่อาจจะมีโอกาสเดินมาข้างหลังได้หากขาดสติจนหลงทาง ธันวากำลังมองตากลมๆ ซึ่งลุกวาวด้วยความโกรธที่ถูกเขาใส่ความอย่างอารมณ์ดี เห็นอาการพูดไม่ออกของอีกฝ่ายแล้วก็โมเมเอาซะว่าอบอุ่นนั้นเต็มใจ มือใหญ่ดึงกระชากกางเกงที่ค้างอยู่บนเข่าออกจากเรียวขาของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ตามด้วยบ็อกเซอร์ตัวจิ๋วจนอบอุ่นสัมผัสได้ถึงความโล่งของผิวกายเบื้องล่าง “ให้ตายเถอะ! “ อบอุ่นสบถลั่น พยายามจะคว้าปราการสุดท้ายของตนคืนมา “จุ๊ๆ ไม่กลัว