เช้าวันต่อมา
ควันสีเทาพวยพุ่งออกจากริมฝีปากสีไวน์ของคุณหมอหนุ่มที่ตื่นแต่เช้าด้วยความเคยชิน ในขณะที่ใครบางคนที่เขาพามาด้วยเมื่อคืน ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียง ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มราวกับกำลังฝันดี กองทัพเพ่งพิศมองใบหน้าเนียนสวยด้วยความรู้สึกเอ็นดูเด็กสาวไม่น้อย ภายนอกแต่งตัวสวยเซ็กซี่ แต่ใครเลยจะรู้ว่าใบหน้าที่สวยงามน่าหลงใหล กลับแฝงไปด้วยความไร้เดียงสา
กองทัพรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่เธอยังบริสุทธิ์ แต่กลับเลือกที่จะลุกขึ้นเดินตามเขามา จนกระทั่งเรื่องราวมาจบลงบนเตียงด้วยสัมผัสที่เร่าร้อน ผิวเนื้อเนียนขาวละเอียดอย่างคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี หน้าอกอวบที่เด้งสู้มือยามถูกฟัด เพียงแค่คิดความใหญ่โตที่อยู่ภายใต้ชุดคลุมก็พองโตขึ้นมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเรื่องอารมณ์ความต้องการทางเพศ คุณหมออย่างเขามักจะควบคุมมันได้ดีมาเสมอ
“อื้อ”
เจ้าขาร้องครางขึ้นมาเสียงเบา ก่อนที่ดวงตากลมโตจะลืมตาขึ้น พลางกะพริบตาปริบ ๆ ในขณะที่สมองกำลังประมวลผลถึงเรื่องราวในค่ำคืนที่ผ่านมา ใบหน้าเนียนสวยค่อย ๆ แดงระเรื่อราวกับลูกเชอร์รี ร่างเล็กกระวีกระวาดผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อภาพทั้งหมดมันย้อนกลับกลับมาเป็นฉาก ๆ มือบางยกขึ้นปิดหน้าเอาไว้อย่างคิดไม่ตกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ในขณะที่ใครบางคนกระตุกยิ้มมุมปากน้อย ๆ พร้อมกับจ้องหน้าอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยแดง ที่เกิดจากการดูดดึงและไล้เลียของตัวเองเองตาเป็นมัน
“ตื่นแล้วเหรอคนสวย”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยถามเจ้าขา ทำเอาร่างบางรีบหันขวับไปมองผู้ชายที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ริมหน้าต่าง เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลานั้นชัด ๆ เต็มตา เจ้าขาก็อดที่จะยอมรับกับตัวเองอย่างแมน ๆ ไม่ได้ว่า เมื่อคืนนี้เธอมองว่าเขาหล่อและมีเสน่ห์มากแล้วนะ แต่พอได้เห็นเต็ม ๆ ตายิ่งทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ เกิดอาการหวั่นไหวกับผู้ชายแปลกหน้าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
เจ้าขามองหน้าคนที่บอกว่าตัวเองชื่อไคอย่างที่ไม่อาจละสายตาไปได้ โดยที่ลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น ในขณะที่ร่างสูงยิ้มกริ่มด้วยความเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเดินมาหาร่างบางที่นั่งมองเขาตาแป๋วอยู่บนเตียง และกว่าที่เจ้าขาจะรู้ตัว คนเจ้าเล่ห์ก็ก้าวขึ้นเตียงมาประชิดตัวเธอเสียแล้ว เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าของทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน จนลมหายใจเป่ารินรดซึ่งกันและกัน
“อะ เอ่อ ใกล้เกินไปแล้วค่ะ”
เจ้าขาท้วงเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ความมั่นใจที่เคยมีหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเขาเข้ามาใกล้ชิด ก่อนที่เจ้าขาจะพบว่าตัวเธอนั้นเปลือยเปล่า ตาหวานเบิกโตมือทั้งสองข้างรีบยกขึ้นมาปิดหน้าอกอวบเอาไว้พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมา ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่กองทัพขยับเข้ามาใกล้จนทำให้ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจ
“อ๊ะ”
เจ้าขาร้องขึ้นมาด้วยความตกใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม กับจังหวะที่ดูจะส่งผลให้อารมณ์ของเธอหวั่นไหวเสียเหลือเกิน ร่างบางเตรียมตัวที่จะขยับหนี แต่อีกฝ่ายกลับดึงรั้งเอวบางเข้ามาหาตัวเองอย่างเอาแต่ใจ จนหน้าอกอวบแนบชิดบดเบียดไปกับหน้าอกแกร่ง ส่วนใบหน้าของกองทัพแนบชิดอยู่กับแก้มเนียนที่นุ่มราวกับแก้มเด็กของเธอ
“ยั่วจนฉันขึ้นแต่เช้าเชียวนะคนสวย”
กองทัพเอ่ยปรักปรำสาวเจ้าเสียงกระเส่า ในขณะที่เจ้าขาบึนปากหน้างอน้อย ๆ เมื่อถูกคนตรงหน้ากล่าวหา เธอไม่ได้ยั่วเขาสักหน่อย มาหาว่าเธอยั่วเขาได้อย่างไรกันคนบ้า
“เจ้าขาไม่ได้ยั่วสักหน่อย”
เจ้าขาตอบกลับกองทัพที่ยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ พร้อมกับพยายามจะสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนที่แข็งราวกับคีมเหล็ก แต่กองทัพกลับกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนเธอไม่สามารถที่จะขยับตัวหนีไปไหนได้เลย เขาช่างร้ายกาจกว่าที่เธอคิดไว้เสียอีก เจ้าขาได้แต่คิดอยู่ในใจ
“จะไม่รับผิดชอบหน่อยเหรอคนสวย เช้า ๆ แบบนี้ผู้ชายมักจะมีอารมณ์นะรู้ไหม”
คำถามนั้นทำเอาเจ้าขาทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว จะให้เธอรับผิดชอบอะไรกันล่ะ เรื่องของเธอกับเขามันจบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และนี่มันก็ได้เวลาที่เธอต้องกลับโรงแรมแล้วด้วยสิ ป่านนี้พี่เอมมี่โทรหาเธอกี่สายแล้วไม่รู้
“เจ้าขาไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมเจ้าขาต้องรับผิดชอบด้วย”
จบประโยคแสนดื้อดึงนั้น คนเอาแต่ใจก็ผลักร่างเล็กที่ไม่ทันตั้งตัวให้นอนราบลงไปกับเตียงกว้างที่ยับยู่ยี่ พร้อมกับรวบมือบางขึ้นไปไว้บนศีรษะ ส่วนใบหน้าหล่อเหลาซุกลงที่ซอกคอหอมด้วยความหลงใหล ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกัน แต่ผู้หญิงคนนี้กลับทำให้เขามีอารมณ์เพียงแค่ได้สัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกัน
“ปล่อยเจ้าขานะ เจ้าขาจะกลับบ้านแล้ว”
เจ้าขาร้องบอกคนหื่นที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเธออยู่ เขาขบเม้มทำรอยรักเอาไว้อย่างต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ทั้ง ๆ ที่เขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน ส่วนคนเจ้าเล่ห์เมื่อได้ยินเสียงใสร้องบอก ก็ทำตีมึนราวกับว่าไม่ได้ยิน พลางเลื่อนใบหน้าไปซุกซบเข้าหาหน้าอกอวบ ทำเอาเจ้าขาขนลุกทันทีด้วยความเสียวสยิว
“บ้านไม่หนีไปไหนหรอกคนสวย แต่ฉันน่ะสิที่ตอนนี้ทนไม่ไหวแล้วรู้ไหม”
พูดจบก็ตะโบมจูบโลมเลียหน้าอกอวบด้วยความดุดันไร้ความอ่อนโยน ทำเอาเจ้าขารู้สึกเจ็บและเสียวไปในคราวเดียวกัน แต่สุดท้ายแล้วกองทัพก็ใช้ความช่ำชองในเรื่องเซ็กซ์ชักจูงจนเจ้าขาติดกับดัก ให้เธอหลงเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสที่หยาบโลนของเขาในที่สุด
ปึก
“อ๊ะ อ๊า เจ้าขา จะเจ็บ อื้อ”
เจ้าขาร้องบอกด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้เธอถูกเขาจัดแจงให้อยู่ในท่าคลานเข่า ใบหน้าสวยซบลงบนหมอนอย่างหมดแรงห้าม เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลออกมาชโลมความใหญ่โตของกองทัพจนเปียกชุ่ม เมื่อกุหลาบดอกใหญ่กำลังถูกผีเสื้อตัวร้ายดูดชิมลิ้มรสน้ำหวานอีกครั้ง
“อ๊า ทนหน่อยนะคนสวย ร่องเธอแน่นเหลือเกิน”
กองทัพกัดฟันแน่นเพื่อข่มกลั้นความเสียวซ่าน ตั้งแต่รู้จักเซ็กซ์ครั้งแรก เขาก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่บริสุทธิ์อีกเลย คนที่เขามีอะไรด้วยแบบ One Night Stand ล้วนเป็นสาวที่มากด้วยประสบการณ์ทั้งนั้น แต่กลับหาความคับแน่นไม่เจอจนบางครั้งเขาก็หมดสนุกไปเสียดื้อ ๆ
“อ๊ะ อื้อ บะ เบาหน่อยค่ะ อ๊า”
เจ้าขาหันมาบอกคนที่กำลังกระแทกกระทั้นความใหญ่โตเข้าหาเธอด้วยใบหน้าที่ยั่วยวนโดยไม่รู้ตัว นั่นทำให้กองทัพยอมเบาแรงลง แล้วก้มตัวลงไปจูบเบา ๆ บนแผ่นหลังเนียนสวย แต่ไม่วายยังส่งมือใหญ่ไปบีบเคล้นคลึงหน้าอกอวบเบา ๆ อย่างกระสันในอารมณ์ใคร่
“อ๊า เจ้าขาเสียว”
เจ้าขาร้องออกมาอย่างลืมตัว เมื่อหน้าอกอวบอัดของเธอถูกบีบเคล้นด้วยฝ่ามือใหญ่ อีกทั้งจังหวะการกระแทกที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ โดนกระทำพร้อมกันแบบนี้มันยิ่งทำให้เจ้าขาเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกที่หยาบโลนดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามแรงอารมณ์ของกองทัพ โดยที่เจ้าขาทำได้เพียงร้องครางออกมาเสียงหวาน จนเธอรู้สึกว่าเสียงของเธอคงแหบแน่นอน เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงที่กองทัพเรียกร้องความรับผิดชอบจากเจ้าของเรียวขางามที่กำลังสั่นระริก หญิงสาวแทบหมดแรงทรุดลงไปบนเตียง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่กองทัพคำรามออกมาเสียงดังลั่นห้องนอน พร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นใส่ดอกไม้งามที่บวมแดงช้ำ แช่กายรีดน้ำออกจนหมดทุกหยาดหยด
เจ้าขาทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างหมดแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่กองทัพถอนตัวตนออกจากช่องทางรักที่บวมช้ำ พร้อมกับอุ้มคนตัวเล็กเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำทำความสะอาดให้เธอทุกซอกทุกมุม และอุ้มเธอออกมาข้างนอกจัดการแต่งตัวด้วยชุดเดิมให้จนเรียบร้อย ปิดท้ายด้วยการสวมเสื้อยีนตัวใหญ่ของเขาทับให้อีกชั้น เพราะเขารู้สึกว่าชุดของเธอมันโป๊จนเกินไป ขืนเดินทางกลับบ้านด้วยชุดแบบนี้ มีหวังถูกลากเข้าข้างทางก่อนถึงบ้านแน่ ๆ
ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกัน แต่กลับหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้าของคอนโดหรู เจ้าขาค่อย ๆ หันมามองเจ้าของรอยรักบนร่างกายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจรู้สึกหวิวชอบกลเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน เขาและเธอต้องกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว
“ขอบคุณนะคะสำหรับค่ำคืนที่ผ่านมา”
จบประโยคนั้นเจ้าขาก็รีบหันหลังเดินจากไปทันที ในขณะที่กองทัพได้แต่มองตามร่างบางไปจนสุดสายตา แล้วค่อยหันหลังให้เธอและเดินไปตามทางของตัวเอง เธอและเขาแค่เพียงผ่านมาพบกันด้วยความบังเอิญและมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเพียงชั่วคืนเท่านั้น
และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราทั้งคู่ต้องกลับไปใช้ชีวิตตามเส้นทางที่ถูกกำหนดเอาไว้ แต่ใครเล่าจะล่วงรู้ถึงอนาคตว่า เส้นทางของทั้งสองนั้นกำลังจะมาบรรจบพบกันอีกครั้ง และครั้งนี้จะกลายเป็นการพบกันที่ต้องผูกติดทั้งชีวิตและความรักเอาไว้ด้วยกันจนนิรันดร์
ที่รักค่อย ๆ เดินเข้ามาในห้องนอนของสามีโดยที่มีชมพู่เด็กรับใช้คอยช่วยพยุง ก่อนที่เธอจะเดินมานั่งลงบนเตียงใหญ่ที่มีร่างที่ไร้ลมหายใจของคู่ชีวิตนอนอยู่ มือที่สั่นเทาค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของสามีขึ้นมาแนบแก้ม ก่อนที่หยดน้ำตาจะหลั่งรินกระทบฝ่ามือใหญ่ที่เคยตอบรับสัมผัสกัน แต่บัดนี้ไม่มีความรู้สึกใด ๆ อีกต่อไปแล้ว“หลับให้สบายนะคะพี่หมอของที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงลูก ๆ หลาน ๆ แล้วนะ ที่รักสัญญาว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดีให้เหมือนตอนที่พี่หมอยังอยู่”น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดไปทั้งสรรพางค์กาย หัวใจที่เคยมีความสุขก่อนหน้านี้กลับเศร้าหมอง ทั้ง ๆ ที่ทำใจมาบ้างแล้ว เพราะสามีของเธอนั้นบอกกับเธอเสมอว่า เขาอายุมากแล้วและอาจจะอยู่ได้อีกไม่นาน ขอให้เธอเข้มแข็งและทำใจให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริง เวลาที่เธอไม่อยากให้เดินทางมาถึง กลับมาถึงเร็วกว่าที่คิดมันเลยทำให้เธอนั้นทำใจยากเหลือเกิน“หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เราสองคนได้เกิดมาคู่กันและเป็นสามีภรรยากันแบบนี้ตลอดไป แต่ชาติหน้าอย่าทำให้ที่รักเสียใจอีกนะคะ ชาตินี้ที่รักรักพี่หมอก่อน ชาติหน้าขอให้พี่หมอรักที่รักก่อนนะคะ ที่รักสัญญาว่าจะรักพี่
วันหยุดสุดสัปดาห์คฤหาสน์พิสิฐกุลวัตรดิลก“กราบครับคุณทวด”น้องเกรย์กับน้องกรรฐ์ประนมมือขึ้นก่อนที่จะก้มลงกราบบนตักของคุณทวดที่รัก ที่ยกมือขึ้นลูบหัวของเหลนชายฝาแฝดทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน ก่อนที่เหลนทั้งสองคนจะเงยหน้าพร้อมกับลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ คุณทวดเมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต“พี่ขวัญล่ะครับ ทำไมถึงไม่มากับพวกเราด้วย”ที่รักถามเหลนทั้งสองด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความอ่อนหวานเช่นเคย ก่อนที่น้องเกรย์จะหยิบตะกร้าที่บรรจุด้วยขนมหวานขึ้นมาวางเอาไว้บนตักและตอบคำถามของคุณทวดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“พ่อทัพพาพี่ขวัญไปส่งที่บ้านย่าแก้มครับ คุณย่าโทรมาหาตั้งแต่เช้า บอกว่าคิดถึงพี่ขวัญมากไม่มีเพื่อนเล่นไพ่นกกระจอก พ่อทัพก็เลยพาพี่ขวัญไปหาคุณย่าครับ ส่วนพวกเราสองคนวันนี้ตั้งใจมาหาคุณทวดครับ นี่ครับคุณทวด ขนมที่พ่อทัพกับพี่ขวัญตื่นมาช่วยกันทำตั้งแต่เช้า กำชับแล้วกำชับอีกว่าให้แฝดนำมาให้ทวดชิม พ่อทัพบอกว่าคุณทวดชอบกินขนมเทียนแก้วมาก ตอนเด็ก ๆ ก็ชอบทำให้พ่อทัพกินบ่อย ๆ”น้องเกรย์ตอบคำถามคุณทวดจบก็หยิบขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นและแกะออกจากห่อใบตองที่ห่ออย่างประณีตสวยงาม ก่อนที่จะยื่นไปตรงหน้าของคุณทวดที่อ้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ของขวัญที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนใหญ่ค่อย ๆ หันไปมองประตูที่ถูกเปิดเข้ามา ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความดีใจ เพราะคนที่กำลังวิ่งดุกดิกเข้ามาหาเธอก็คือน้องชายฝาแฝดตัวแสบนั่นเอง“ดึกแล้วทำไมยังไม่พากันนอนอีกครับ พี่เกรย์น้องกรรฐ์”ของขวัญถามน้องชายทั้งสองคนที่กำลังกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอคนละฝั่ง พร้อมกับทิ้งตัวลงนอนบนเตียงใหญ่ด้วยรอยยิ้มทั้งคู่ ก่อนที่เกรย์จะตบหมอนของพี่สาวเบา ๆ ของขวัญก็ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ น้องชายทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่เกรย์ชวนน้องกรรฐ์มานอนเป็นเพื่อนพี่ขวัญครับ”คำตอบของน้องชายคนเล็กทำเอาของขวัญถึงกับเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่ที่เธอขึ้นชั้นมัธยม สองแฝดก็ไม่เคยมานอนกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าพอโตขึ้นเป็นหนุ่มแล้วเขินเธอหรือเปล่า ทั้งคู่ถึงไม่ยอมมานอนด้วยกันเหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ“เกรย์ไม่อยากให้พี่ขวัญต้องนอนเหงาคนเดียวครับ อย่างน้อย ๆ มีน้องกรรฐ์กับเกรย์มานอนด้วยคืนนี้จะได้นอนหลับฝันดี”ประโยคที่แฝงไปด้วยความห่วงใยจากน้องชายคนโต ทำเอาของขวัญถึงกับน้ำตารื้นด้วยความซาบซึ้งใจกับค
5 ปีผ่านไปห้องเรียน“โอเคค่ะทุกคน วันนี้คุณครูก็ขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ พรุ่งนี้เจอกันใหม่ อย่าลืมเอาการบ้านไปส่งคุณครูด้วยนะคะ ใครช้าได้ออกมาแก้โจทย์ให้เพื่อน ๆ ดูแน่ ๆ”เมื่อคุณครูสาวกล่าวจบและเก็บของออกจากห้องเรียนไปแล้วพี่เกรย์กับน้องกรรฐ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันก็รีบเก็บสมุดหนังสือลงใต้โต๊ะเรียนทันที ก่อนที่สองพี่น้องจะหันมาพยักหน้าอย่างรู้กัน พร้อมกับลุกขึ้นเตรียมที่จะเดินออกไปจากห้องเรียนเพื่อไปทานมื้อเที่ยงที่โรงอาหารแต่ยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะเดินไปถึงหน้าห้องเรียน เด็กหญิงน้ำหวานกับเด็กหญิงลูกพีช เพื่อนร่วมห้องที่แอบชอบสองแฝดก็รีบวิ่งมายืนดักหน้าทั้งสองหนุ่มทันที ทำเอาสองพี่น้องรีบกระโดดถอยหลัง ราวกับว่าสองสาวตรงหน้า คือตัวเชื้อโรคที่ทั้งสองคนไม่อยากอยู่ใกล้อย่างไรอย่างนั้น“เกรย์ กรรฐ์วันนี้ไปกินข้าวกับพวกเรานะ”น้ำหวานเอ่ยปากชวนสองหนุ่มด้วยรอยยิ้ม แต่สองแฝดกลับส่ายหน้าไปมาพร้อม ๆ กันราวกับนัดหมาย ทำเอารอยยิ้มของเด็กหญิงน้ำหวานค่อย ๆ จางหายไปจากใบหน้าสวยหวานของเด็กหญิงวัยสิบขวบ เมื่อเพื่อนชายที่เธอแอบชอบมาตลอดปฏิเสธที่จะไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน“แต่พวกเราสองคนชวนกรรฐ์กับเกรย์ท
โรงพยาบาล Nวันหยุดสุดสัปดาห์กองทัพจูงมือลูกชายทั้งสองคนมาตามทางเดินของโรงพยาบาลของครอบครัว เนื่องจากวันนี้เขากับเจ้าขาต้องออกงานสังคม จึงพาลูกชายทั้งสองคนมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาล เพราะพอถึงวันหยุดทีไรพี่เกรย์มักจะชอบมาขลุกอยู่ที่นี่ เพื่อดูคุณทวดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่เสมอ ส่วนน้องกรรฐ์ส่วนใหญ่แล้วจะชอบไปเล่นกับคุณปู่คุณย่า แต่วันนี้น้องชายฝาแฝดกลับอยากมาหาคุณทวดที่โรงพยาบาลกับพี่ชายมากกว่าที่จะไปเล่นกับคุณปู่คุณย่าที่บ้านใหญ่“’งื้อ เลือดเต็มเลยอะ พี่เกรย์น้องกรรฐ์กลัว”แฝดน้องยกมือขึ้นปิดตาก่อนจะโผเข้ากอดพี่ชายที่เดินจูงมือกันมาด้วยความกลัว เพราะเด็กชายตัวน้อยนั้นไม่ชอบเลือดเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าบางครั้งจะหกล้มจนได้เลือด เจ้าคนเล็กของบ้านก็จะไม่ยอมมองแผลของตนเองเลย ในขณะที่แฝดพี่ยกมือขึ้นกอดน้องชายเอาไว้หลวม ๆ ทำเอาคุณพ่อยิ้มออกมาน้อย ๆ กับความรักของสองพี่น้อง ที่พี่เกรย์นั้นมักจะเป็นที่พึ่งพิงให้น้องชายเสมอ“ไม่เห็นน่ากลัวเลยน้องกรรฐ์ มันก็แค่เลือดเอง”เกรย์บอกน้องชายเมื่อรถเข็นเตียงพยาบาลวิ่งผ่านไปแล้ว ก่อนที่น้องกรรฐ์จะค่อย ๆ หันหน้ากลับมาแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้บิดาที่กำลัง
เวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ จากเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเติบโตขึ้นเป็นเด็กชายตัวน้อยวัยห้าขวบที่บุคลิกของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยที่พี่เกรย์นั้นนิ่งมากขึ้นไม่ซุกซน เป็นเด็กว่านอนสอนง่ายในขณะที่น้องกรรฐ์นั้นดื้อและซนจนกองทัพกับเจ้าขาถึงกับกุมขมับแทบจะทุกวัน“อะ เราให้”เด็กชายกรรฐ์ยื่นอมยิ้มรสโปรดให้กับชมพูเพื่อนสาวต่างห้องที่น้องกรรฐ์แอบปลื้มอยู่ในระหว่างที่รอบิดากับมารดามารับหลังเลิกเรียน ชมพูมองอมยิ้มของเพื่อนต่างห้องที่ยื่นมาให้เธอ พร้อมกับรอยยิ้มที่สาวน้อยมองว่าน่ารักมาก ก่อนที่ชมพูจะยื่นมือไปหยิบอมยิ้มมาจากมือของกรรฐ์“ขอบใจนะ”เด็กหญิงชมพูเอ่ยขอบคุณเพื่อนต่างห้องก่อนที่เด็กน้อยจะเปิดกระเป๋านักเรียนและเก็บอมยิ้มเอาไว้ในนั้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มขอบคุณเพื่อนต่างห้องอีกครั้ง “ถ้าชมพูชอบกรรฐ์จะเอามาฝากทุกวันเลย”เด็กชายกรรฐ์บอกเพื่อนตัวเล็กด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่มือเล็กของ ๆ พี่เกรย์จะบิดเข้าที่หูของน้องชายทำเอาน้องกรรฐ์ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ เพราะแรงบิดของพี่ชายนั้นไม่ใช่เบา ๆ เลยสักนิด ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเกือบทุกวันที่น้องกรรฐ์หนีพี่ชายมาเต๊าะสาว ๆ ในระหว่างที