ฉันนอนสั่นไปทั้งตัวอยู่บนที่นอน ถึงอยากจะร้องขอให้คนมาช่วยเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ เพราะคนตรงหน้าของฉันคือลูกชายของคุณท่าน
มือหนาเริ่มลูบไล้ไปตามเรียวขาของฉัน ดวงตาคู่นั้นของคนตรงหน้าฉันมันชั่งน่ากลัวจนฉันไม่กล้าที่จะขยับตัวไปไหน
“อยากให้ฉันถอดให้เธอ หรือเธอจะถอดเอง” น้ำเสียง เรียบๆ ของเขาเอายถามฉัน “อย่าทำแบบนี้ได้มั้ยฉันขอร้องเราไม่รู้จักกัน ฉันเป็นภรรยาของพ่อคุณ...” “แล้วไง!! ฉันไม่สนผู้หญิงอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มาเรียกร้องอะไร” “.....” ทำไมเขาถึงโหดร้ายแบบนี้กัน “แก้ผ้าของเธอออกซะ ฉันอยากเห็นเธอตอนไม่ใส่อะไรมากกว่า” ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะ ค่อยๆ ปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละ ชิ้นๆ ตามคำสั่งของเขา “สวย ร่างกายของเธอมันสวยมาก จริงๆ แสนดี” เขานั่งจ้องฉันตาไม่กระพริบโดยไม่คิดเลยว่าฉันก็อายเป็นเหมือนกัน ฉันมองชายตรงหน้าที่ฉันไม่เคยรู้จัก ฉันรู้แค่ว่าเขาคือคนที่ข่มขืนฉันในวันแต่งงาน และเขาคือลูกชายของคุณท่าน ทำไมกัน ทำไมเขาถึงได้กระทำกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีทางสู้ขนาดนี้ หมับ! มือหนาคว้ามาดึงแขนฉันก่อนจะผลักฉันลงไปที่เตียง ตอนนี้ร่างกายของฉันมันเปลือยเปล่า ฉันหนีบขาของตัวเองเอาไว้แน่น “ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยินห้องเก็บเสียง” พูดจบเขาก็จับเรียวขาของฉันขึ้นข้างหนึ่ง ตอนแรกฉันขัดขืนแต่ก็สู้แรงผู้ชายตัวโตอย่างเขาไม่ไหว มือหนาของเขาจับตรงข้อเท้าของฉันจากนั้นก็ยกขึ้น ก่อนที่เขาจะก้มใบหน้าลงมา เขาใช้ปลายจมูกไล้เกลี่ยขึ้นมา เรื่อยๆ แถมยังกัดตรงขาอ่อนของฉันด้วย มันเจ็บแต่ฉันไม่ได้ร้องท้วงอะไรได้แต่เก็บอาการเอาไว้ ตอนนี้ฉันอยากให้เขารีบทำและรีบออกไปจากห้องนี้สักที “อ๊ะ ทะ ทำอะไร อื้อซี๊ด” ฉันหลุดเสียงครางออกมาอย่างห้ามตัวเองไม่ได้ เมื่อคนตรงหน้า จู่ๆ ก็ซุกใบหน้าลงมาตรงหว่างขาของฉัน ก่อนที่เขาจะเอาปลายลิ้นเลียตวัดขึ้นลง ช้าๆ ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งพร้อมกับบิดกายไปมา ความรู้สึกมันแปลกใหม่ ฉันไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้ ทำไมมันถึงรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วท้องน้อย “น้ำเธอหวานดีหนิ” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูด ก่อนที่จะซุกใบหน้าลงไปทำแบบนั้นต่อ “พะ พอแล้ว อย่าทำ ซี๊ด” ฉันร้องห้ามเขาและพยายามดันเขาออก แต่กลับรวบมือของฉันเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวของเขาก่อนที่จะละเลงลิ้นรัว “อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊างง ซี๊ดด” ถึงปากจะห้ามไม่ให้เขาทำ แค่ฉันกลับแอ่นกายรับสัมผัสจากเขาอย่างร่วมมือ มันน่าอายจริงๆ“ไม่ไหวแล้ว ซี๊ด” เขาพูดออกมาเสียงแหบพร่า ก่อนที่จะลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างเร่งรีบ
จากนั้นเขาก็มานอนข้างๆตัวฉัน ฉันรีบขยับหนีเขาอัตโนมัติทันที “ลุกขึ้น” เขาออกคำสั่งให้ฉันลุกขึ้น ฉันดันตัวลุกขึ้นนั่งตามที่เขาสั่งอย่างว่าง่าย เพราะมาถึงขนาดนี้แล้ว “ขึ้นมา” เขาออกคำสั่งอีกครั้ง มือหนาของเขารูดท่อนเอ็นของตัวเองขึ้นลงเบาๆ “ขะ ขึ้นไปทำไม” “อย่าถามมาก ฉันสั่งให้ทำ” เขาพูดเสียงแข็งและดูท่าจะไม่พอใจฉันสักเท่าไหร่ ฉัน ค่อยๆ เม้มริมฝีปากบางเข้าหากันแน่น ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนตัวของเขาตามที่เขาสั่ง ท่อนเอ็นลำใหญ่มันเสียดสีกับกันของฉันไปมา “นั่งยองๆสิ” ฉันที่ไม่มีทางเลือกต้องทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง เมื่อฉันนั่งยองๆตามที่เขาบอกแล้ว เขาก็จับท่อนเอ็นมาจ่อตรงร่องแคบของฉัน “อร้ายย จะ เจ็บๆ” ฉันร้องออกมาเสียงหลง เมื่อเขากระแทกเอวขึ้นมา ทำให้ท่อนเอ็นของเขามันมุดเข้าไปในร่องแคบของฉันจนมิดด้าม ความรู้สึกมันเหมือนกับว่าตรงนั้นของฉันมันฉีกขาด ฉันตรงตัวไม่อยู่ถึงกับต้องล้มฟุบลงไปทับแพงอกของคนตัวโต ตัวฉันมันสั่นไปทั้งตัวเลยตอนนี้ ทำไมมันถึงเจ็บขนาดนี้ “อ๊า อย่าสำออย ลุกขึ้นนั่งแล้วจัดการมันสะ ซี๊ด” “จะ จัดการอะไร” “หึ แบบนี้ไง อ๊าซี๊ดด” ตรับ ตรับ ตรับ ตรับ มือหนาทั้งสองข้างของเขาจับก้นของฉันเอาไว้ก่อนจะกระแทกเอวสอบขึ้นมา รัวๆ ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ “อ๊า ตอดโครตถี่ ซี๊ด” “ยะ หยุดก่อน อะ อร้ายย” สิ้นสุดคำพูดของฉันคนใจร้ายอย่างเขาก็กระแทกเอวสวนขึ้นมาแรงๆสามสี่ที ทำเอาฉันจุกจนพูดไม่ออก “ทำ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำอีก” เขาดันตัวฉันให้นั่งตรงนั้นของฉันกับเขายังเชื่อมต่อกันอยู่ เขาเอามือทั้งสองข้างมาจับสะโพกของฉันเอาไว้ “ทำสิ” “ฉะ ฉันทำไม่เป็น” “ผ่านมาตั้งเท่าไหร่ อย่ามาทำตัวเหมือนไม่เคย” “ฉะ ฉันทำไม่เป็น จริงๆ” ฉันบอกอีกครั้ง ฉันไม่เคยผ่านอะไรมามากมายแบบที่เขาคิด เขาคือคนแรกของฉัน คนตรงหน้าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะพลิกตัวให้ร่างฉันไปอยู่ใต้ร่างของเขา จากนั้นเขาก็สับสะโพกรัวๆ เขาเอามือมาขยำหน้าอกของฉันแรงมากๆฉันเจ็บราวกับว่าหน้าอกของฉันมันจะหลุดติดมือของเขาออกไปอย่างไงอย่างงั้น ตรับ ตรับ ตรับ ตรับ ~ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่วห้อง เขาทำแรงมากจนน้ำตาฉันมันไหลออกมาเพราะความเจ็บปวด ฉันได้แต่ภาวนาขอให้หลุดพ้นจากบทกามในครัังนี้เร็วๆ “อ๊าซี๊ด ทำไมไม่คราง ครางออกมาสิ อื้มมม” “.....” ฉันเบือนหน้าหนีไปทางอื่น หมับ!! “อื้อ...” ฉันร้องท้วงเมื่อ จู่ๆ เขาก็คว้ามาบีบแก้มของฉันแรงๆให้หันไปมองเขา “ฉันสั่งให้เธอครางแสนดี ซี๊ดอ๊า~” ฉันเม้มปากแน่นไม่ยอมทำตามที่เขาสั่ง เขาแสดงสีหน้าที่ไม่พอใจฉันชัดเจน จากนั้นเขาก็หยัดตัวขึ้นจับขาของฉันอ้าออกกว้างๆ ก่อนจะกระแทกท่อนเอ็นเขามาในร่องแคบของฉันแรงๆ มันจุกจนแทบอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ หลังจากที่เขาทำอย่างว่าจนสมใจของเขาแล้วเขาก็จัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเอง ส่วนฉันก็นอนขดตัวบนที่นอนเพราะมันรู้สึกเจ็บไปทั่วท้องน้อยจากการกระทำของเขา เนื้อตัวของฉันคงจะเต็มไปด้วยรอยช้ำจากการกระทำที่ดิบเถื่อนของเขา “อะ อย่า พะ พอแล้ว ฉันกลัวแล้ว ฮึก...” ฉันร้องไห้ออกมา ก่อนจะถอยหนีเมื่อคนตรงหน้าเอามือมาจับใบหน้าของฉัน “หึ!! ทีกับพ่อฉันเธอไม่เห็นจะกลัว” เขาก้มหน้าล้วงกระเป๋ากางเกงของตัวเอง ก่อนจะหยิบกระเป๋าเงินออกมา เขาหยิบเงินออกมาจำนวนมาก จากนั้นเขาก็ปาเงินในมืออัดใส่หน้าของฉัน เงินแบงค์พันกระจัดกระจายเต็มไปทั่วที่นอน “เก็บเอาไปสิ ของชอบไม่ใช่รึไง หึ!!”@โรงพยาบาลฉันปวดท้องตั้งแต่เช้า จนตอนนี้ปาเข้าไปหกโมงเย็นแล้วยังไม่คลอดเลย อาการปวดท้องมันเริ่มปวดหนักขึ้น เรื่อยๆ มันแน่นไปหมดเลยตอนนี้ “ปวดมากท้องมากเลยใช่มั้ย” คุณโชนจับมือฉันเอาไว้ตลอด เขาไม่ปล่อยมือฉันเลยถ้าไม่จำเป็น “ปะ ปวดค่ะ ปะ ปวดมาก” เขาเฝ้าถามฉันตลอดว่าเจ็บท้องมากมั้ย หมอก็มาเช็คปากมดลูกเป็นระยะๆแต่ก็ยังไม่ถึงเวลาคลอด คุณพ่อกับคุณณอณจะที่โรงพยาบาลช่วงบ่าย แต่ฉันยังไม่คลอดทั้งสองคนเลยกลับไปก่อน เอิงเอยก็มาด้วยนะ เธอตัดใจจากคุณโชนได้แล้ว และบอกว่าจะมาใหม่ตอนฉันคลอดแล้ว “อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็คลอด” คุณโชนบีบมือของฉันแน่น แววตาของเขามันเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “ขอบคุณนะคะ ที่ลางานมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน” “เมียกำลังจะคลอดเธอจะให้ฉันมีกะจิตกะใจไปทำงานได้ลงคอรึไง” คุณโชนพูดค้อนฉัน ตอนนี้รู้สึกว่าลูกเริ่มถีบแรงขึ้น เรื่อยๆ และมันทำให้ฉันเจ็บจนตัวเกร็ง มันใกล้แล้วใล่มั้ย อีกนิดเดียวเท่านั้น ฉันก็จะได้เจอหน้าลูกชายของฉันแล้ว... @ห้องคลอด “เบ่งค่ะคุณแม่ อื๊ดดดดดด ~” “อื๊ดดดดดดด ~” “หายใจเข้าออก ลึกๆ แล้วเบ่งอีกนะคะคุณแม่” “คุณพ่อช่วยคุณแม่เบ่งด้วยนะคะ” “หนึ่ง สอง อื๊ดดดดดดด
-ณ ดาดฟ้าของโรงแรมหรูใจกลางเมือง ฉันกำลังนั่งกินมื้อค่ำที่สุดแสนจะโรแมนติกกับคุณโชนสามีของฉัน “อาหารไม่อร่อยหรอคะ ?” ฉันเห็นคุณโชนเอาช้อน เขี่ยๆ จานข้าวสักพักแล้วแหละแต่ก็ไม่ยอมกินสักที “ไม่หรอก ฉันแค่รู้สึกอยากจะอ้วก” “ฉันอุตส่าห์เป็นคนท้อง แท้ๆ ทำไมคุณถึงมาแพ้ท้องแทนฉันได้นะ” “เธอไม่แพ้ก็ดีแล้ว ถ้าท้องอยู่แล้วต้อบมาแพ้ท้องหนักอีกฉันจะได้ไปทำงานรึไง” “ทำไมละคะ ?”“เมียทั้งคนฉันจะไม่ห่วงได้ไง” ดินเนอร์ครั้งนี้มันเป็นอะไรที่เรียบง่าย เราคุยกันปกติเหมือนที่คุยกันทุกวัน ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้หรอก เพราะยังไงเราก็เป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่จำเป็นหวานใส่กันตลอดเวลา อีกอย่างเขาก็ไม่ค่อยจะหวานกับฉันเท่าไหร่หรอกนะคุณโชนน่ะ เพราะเขาเขินจนทำตัวไม่ถูก“อย่าลืมนะคะว่าพรุ่งนี้ต้องซักผ้าล้างจานที่ตัวเองกินเอาไว้เมื่อวานด้วย” ฉันบอกคุณโชนในขณะที่เรากำลังนั่งรถกลับบ้านกัน “รู้แล้วครับคุณเมีย พูดกรอกหูตั้งแต่ขาไปยันขากลับ กลัวได้ทำเองรึไง” ฉันฝึกเขาเอาไว้น่ะ ให้หัดทำอะไรด้วยตัวเองเพราะเวลาฉันคลอดลูกคุณโชนจะได้ทำเป็น อีกอย่างพวกเสื้อผ้าลูกฉันไม่อยากให้คนอื่นซักเพราะเป็นเสื้อผ้าเด็กยิ่งต้อ
เช้า...วันนี้ฉันกับคุณโชนตื่นกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมของรอใส่บาตรเพื่อเป็นสิริมงคลต่อการเริ่มใช้ชีวิตคู่ในฐานะสามีภรรยาของเรา หลังจากใส่บาตรเสร็จคุณโชนก็เตรียมตัวออกไปบริษัท แต่เขานะสิจะเอาฉันไปด้วยให้ได้เลย งอแงเหมือนเด็กนั่งหน้าบึ้งไม่พูดไม่จาเพราะฉันไม่ยอมไปบริษัทกับเขาด้วย “คุณโชน คุณจะมางอนเหมือนเด็กแบบนี้ไม่ได้นะคะ” “ก็ไปด้วยกันสิ แค่นั้นก็จบ” เขาพูดทั้งที่ยังนั่งหันหลังให้ฉันอยู่ “ฉันอยากอยู่บ้านมากกว่านี่คะ ไปที่บริษัทมันน่าเบื่อ...” “ฉันน่าเบื่อใช่มั้ย” ฉันถึงกับถอนหายใจออกมา ยาวๆ ดูเขาสิ ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยนะ คิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะเชียว “เราพึ่งแต่งงานกันเมื่อวานเองนะ คุณอยากจะเซ็นใบหย่าแล้วหรอคะ” ฉันยืนกอดอกมองแผ่นหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของตัวเอง พอคุณโชนได้ยืนคำพูดของฉันเมื่อกี้เขาก็หันควับมามองหน้าฉันตาเขียวปั๊ดทันที “แค่นี้ถึงกับขู่จะหย่าเลยหรอวะแสนดี !!” “ก็คุณพูดไม่รู้เรื่อง” “คิดว่าฉันจะเซ็นใบหย่าให้เธอหรือไง ไม่มีทาง” “ไปทำงานได้แล้วค่ะ” ฉันขี้เกียจจะทะเลาะแล้ว อยากจะพักผ่อนช่วงนี้เหนื่อยง่ายอยากจะนอนตลอดเวลาเลย “
— งานมงคลสมรส “พอใส่ชุดเจ้าสาวแล้วสวยมากเลยนะคะ ^_^” ช่างแต่งหน้าเอ่ยชมฉันเมื่อเห็นฉันเดินออกมาจากห้องแต่งตัว ฉันยิ้มตอบกลับไปด้วยความเขินอาย ฉันมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกบานใหญ่ น้ำตามันก็พลอยจะไหลออกมาให้ได้ ฉันไม่เคยวาดฝันว่าตัวเองจะได้ใส่ชุดเจ้าสาวราคา แพงๆ ไม่เคยวาดฝันว่าจะมีงานแต่งที่ใหญ่โตอลังการ ค่าสินสอดหลายสิบล้าน ฉันอยากให้แม่อยู่กับฉันในตอนนี้ด้วยจัง อยากให้แม่ได้มาเห็นลูกสาวคนนี้ในวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต ตอนนี้แม่คงจะกำลังมองฉันจากบนสวรรค์ หลังจากที่คุณโชนขอฉันแต่งงาน เราก็ไปบอกคุณท่าน คุณท่านเป็นคนจัดการหาฤกษ์แต่งให้และก็ได้ฤกษ์อีกสองอาทิตย์ ทำเอาพวกเราหัวหมุนกันทุกคนแทบไม่ได้พักผ่อนฉันแอบหวั่นใจอยู่นะว่าคนที่มาในงานเขาจะไม่แปลกใจหรอที่ก่อนหน้านี้ฉันแต่งงานกับคุณท่าน พอมาวันนี้ฉันกลับแต่งงานกับลูกของคุณท่านซะงั้น แต่คุณท่านก็บอกฉันว่าไม่ต้องคิดมากเพราะว่าคุณท่านแก้ข่าวให้แล้ว พิธีกรแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่น ทุกคนในงานต่างพากันยิ้มมีความสุข พิธีจัดขึ้นแค่ช่วงเช้า หลังจากเสร็จพิธีแต่งงานแล้วฉันกับคุณโชนก็ถูกส่งตัวเข้าหอ — ภายในห้อง “เธอไม่รู้สึกตื่นเต้นบ้าง
ร่างของฉันถูกคุณโชนอุ้มเข้าไปในห้องนอน เขาวางฉันลงบนเตียงอย่างเบามือจากนั้นก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากจูบฉัน “อื้ม...” เสียงทุ้มนุ่มของคุณโชนครางออกมาในลำคออย่างพึงพอใจ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นเอาแต่หลับตารับรสจูบสัมผัสที่หอมหวานนั้นของคุณโชน ไม่บ่อยหนักที่เขาจะนุ่มนวลแบบครั้งนี้ เหมือนเขากำลังเอาใจฉันอยู่ เราทั้งคู่ดูดดื่มกับรสจูบได้สักพัก เป็นคุณโชนที่ถอนจูบออกแล้วก็จ้องมองลึกเข้ามาในดวงตาของฉัน “เธอกำลังทำให้ฉันหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้นนะแสนดีรู้ตัวมั้ย หื้ม...” คุณโชนพูดพรางเอานิ้วเกลี่ยไปมาบนริมฝีปากของฉัน เบาๆ “แต่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” “นั่นสิ ทำไมฉันถึงหลงเธอขนาดนี้กัน” พูดจบเขาก็ก้มหน้าลงมาซุกซอกคอของฉัน ตึกตัก ตึกตัก! เสียงหัวใจของฉันมันเต้นรัวกับคำหวานที่คุณโชนพูดออกมาบอกฉัน มันไม่เคยจะชินเลยสักครั้ง คงจะเป็นเพราะฉันชินกับคุณโชนคนที่ ดิบ เถื่อน ชอบทำร้ายจิตใจฉัน พอเขาเปลี่ยนไปฉันถึงกับใจเต้นรัวทุกครั้งที่เขาพูดคำหวานแบบนี้ “อื้อ อย่าทำให้มันเป็นรอยสิ” ฉันท้วงคนที่กำลังซุกไซร้ซอกคอของฉันอยู่ตอนนี้ เพราะเขากำลังดูดเม้มทำรอยไว้หลายจุดเลย “อยากแสดงความเป็นเจ้าของ ฉันผิด
“ถ้าฉันเป็นโรคอะไรร้ายแรง จริงๆ เธอให้อภัยฉันได้มั้ย ?” เขามองหน้าฉันแววตามีความหวัง เอายังไงดีล่ะฉันจะตอบไปว่ายังไงดี “เกลียดฉันมากขนาดนั้นเลยรึไงถึงเอาแต่เงียบ” “แล้วฉันสมควรที่จะเกลียดคุณมั้ยละคะ” ฉันย้อนถามเขา และครั้งนี้เป็นคุณโชนที่เป็นฝ่ายเงียบซะเอง “ขอโทษ....” “....” “ฉันรู้ว่าคำว่าขอโทษพูดไปมันก็เป็นแค่เพียงลมปาก มันลบสิ่งที่ฉันเคยทำไว้กับเธอไม่ได้” “....” “แต่ฉันพร้อมที่จะดูแลเธอ ชดใช้ในสิ่งที่ฉันเคยทำพลาดไป มันไม่น่าให้อภัยฉันรู้ ฉันก็แค่อยากให้เธอเปิดใจ อึก อึก....” “คะ คุณโชน...!!” ฉันรีบประคองตัวเขาเอาไว้ เขาจะอ้วกอีกแล้ว นี่มันอะไรกันฉันจะร้องไห้แล้วนะ “แสนดี...” “พอแล้วค่ะ ไม่ต้องพูดแล้วไปหาหมอก่อน” “ให้อภัยฉันได้มั้ย....” “....” ฉันเม้มปากแน่น ฉันไม่เคยใจแข็งกับเขาได้เลย จริงๆ “อึก ตะ ตอบหน่อย อึก อ้วก...” “คะ คุณโชน ค่ะโอเคฉันให้อภัยคุณแล้วไปโรงพยาบาลกันนะ” สุดท้ายฉันก็ใจอ่อนให้เขา ฉันคิดดูแล้ว ถ้าครั้งนี้ฉันตัดสินใจพลาด มันจะไม่มีครั้งต่อไปอีก “พูดจริงๆนะ เธอให้อภัยฉันแล้ว” คุณโชนยิ้มให้ฉัน ใบหน้าของเขาซีดเผือดเหมือนคนไม่มีเลือดฝาดบนใบหน้าเลย “ค่ะ