Masukตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้น
ดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ
“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง
“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว
“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ
“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้า
ตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ
“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ
“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหรือไม่ และไม่สนใจคำตอบของเธอ
“เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ชั้นบน” เขาบอกแล้วยืนยิ้มมองหน้าเธออยู่อย่างนั้น บัวบงกชนิ่ง ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก เพราะกลัวเป็นการให้ความหวังกับเขา
พอใกล้จะถึงชั้นบนสุดเธอก็เตรียมก้าวออกจากลิฟต์ แล้วเขาก็คว้ามือเธอเอาไว้ บัวบงกชสะบัดมือออกแต่เขาก็ดึงดันจะคุยกับเธอก่อน
“ปล่อยนะคะ” เธอบอกเขาเสียงแข็ง
“น้องบัวยังไม่ให้เบอร์พี่เลย” เขาบอกเธอแล้วไม่ยอมปล่อยมือเธอ
พอประตูลิฟต์เปิดออกเขาก็เลยยอมปล่อยมือเธอ แล้วส่งยิ้มให้เธออย่างไม่ยอมแพ้ มั่นใจในความหล่อของเขาว่าบัวบงกชคงเล่นตัวได้ไม่นาน
“แล้วเจอกันนะครับ” เขาบอกขณะที่บัวบงกชเดินออกจากลิฟต์ไป บัวบงกชเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอที่อยู่ข้างๆ ศิรินุชแล้วทำหน้าเป็นกังวล
“เป็นอะไรไป ดูทำหน้าเข้า” ศิรินุชถามด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นบัวบงกชทำสีหน้าแบบนี้เลย
“บัวถูกพี่คนหนึ่งจีบในลิฟต์ค่ะ เขาจับมือบัวด้วย น่ากลัวมากเลยค่ะ” บัวบงกชตัดสินใจเล่าให้ศิรินุชฟัง
“ตายจริง ใครนะช่างกล้าแบบนี้” ศิรินุชพูดอย่างไม่พอใจ
“บัวไม่รู้จะทำอย่างไรค่ะ กลัวเจอเขาอีก แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย กลัวจะมีปัญหาแล้วไม่ผ่านฝึกงานด้วยค่ะ” บัวบงกชบอกแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างเป็นกังวล
“เดี๋ยวเรื่องนี้พี่จะจัดการอย่างเงียบๆ เอง ไว้ใจได้ จะไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นกับบัวเด็ดขาด” ศิรินุชรับปาก แล้วเดินลงลิฟต์ไปโดยไม่บอกบัวบงกชว่าจะไปไหน
ศิรินุชลงไปขอดูกล้องวงจรปิดในลิฟต์ที่ห้องรักษาความปลอดภัย แล้วก็พบว่าที่บัวบงกชพูดเป็นเรื่องจริง แล้วใช้โทรศัพท์อัดคลิปนั้นไว้เป็นหลักฐาน แล้วเดินขึ้นลิฟต์เพื่อที่จะไปฝ่ายบุคคล แล้วบังเอิญว่าศรายุทธก็เดินมาขึ้นลิฟต์พร้อมเธอพอดี
“จะไปไหนครับ” ศรายุทธถามเมื่อเห็นว่าเลขานุการวัยกลางคนกดชั้นอื่นที่ไม่ใช่ชั้นเดียวกับเขา
“จะไปคุยกับฝ่ายบุคคลค่ะ” เธอบอกนายจ้างหนุ่มแล้วยิ้มให้อย่างเกรงใจ
“มีเรื่องอะไรครับ ถึงต้องไปด้วยตัวเองแบบนี้” ศรายุทธถามอย่างสนใจ เพราะปกติไม่ใช้หน้าที่ของศิรินุชที่ต้องทำอะไรอย่างนี้
“เอ่อ เกิดเรื่องกับน้องบัวนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ดิฉันเอาอยู่ค่ะ” ศิรินุชบอก
“เรื่องอะไรครับ” ศรายุทธถามอย่างสนใจ แต่คุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“เรื่องชู้สาวค่ะ ขอตัวนะคะ” ศิรินุชบอกสั้นๆ แล้วรีบเดินออกจากลิฟต์เมื่อถึงชั้นที่ต้องการ เพื่อไปจัดการเรื่องนี้ให้จบ ทิ้งให้ประธานหนุ่มว่าเกิดอะไรขึ้น และบัวบงกชมีเรื่องชู้สาวกับใคร
ศรายุทธร้อนใจอยากให้ลิฟต์ไปถึงชั้นบนเร็วๆ เพื่อถามบัวบงกชว่าเกิดอะไรขึ้น พอประตูลิฟต์เปิดเขาก็รีบก้าวยาวๆ ตรงไปที่โต๊ะหน้าห้องของเขา แล้วมองบัวบงกชด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
“เข้าไปพบผมที่ห้อง เดี๋ยวนี้” ศรายุทธบอกเสียงดัง ใช้สรรพนามทานตัวอย่างเป็นทางการ แล้วเดินนำหน้าบัวบงกชเข้าไปในห้อง
บัวบงกชตามเขาเข้าไปด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกังวลใจ ไม่รู้ว่าเขาไปกินรังแตนที่ไหนมา
“มีอะไรจะบอกฉันไหม” เขาถามเธอเสียงเครียด
“ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอบอกเขา
“ไม่มีอะไรแล้วทำไมเลขาของฉันถึงต้องไปที่แผนกบุคคล” ศรายุทธถามเสียงเครียด
“เอ่อ คือ..บัวโดนพนักงานของที่นี่ตามจีบค่ะ บัวเล่าให้พี่นุชฟัง เธอเลยบอกว่าจะไปจัดการให้” บัวบงกชเล่าให้เขาฟังคร่าวๆ
“จีบยังไง” ศรายุทธถามเสียงเครียด มองหน้าบัวบงกชด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ฉันถามก็ตอบมาสิ” ศรายุทธตะคอกเมื่อเห็นว่าเธอเงียบไป
“เขาพยายามชวนคุย ขอเบอร์ แล้วก็จับมือบัวค่ะ” บัวบงกชบอกความจริงเขา ดีกว่าให้เขารู้เองแล้วมาต่อว่าเธอในภายหลัง
“ฉันจะไล่มันออก” ศรายุทธบอกเสียงเครียด
“อย่าให้เรื่องใหญ่เลยนะคะ” บัวบงกชบอก ดีใจลึกๆ ที่เขาหวงเธอ
“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับคนของฉัน” เขาพูดเสียงเข้ม
“แต่ไม่มีใครรู้นี่ค่ะ ว่าบัวเป็นคนของคุณ อีกอย่างถ้าคุณทำอย่างนั้นทุกคนก็จะสงสัยว่าทำไมคุณถึงปกป้องนักศึกษาฝึกงานอย่างบัว บัวเป็นแค่เมียเก็บไม่ใช่หรือยังไงคะ คุณไม่อยากให้ใครรู้ว่าเรามีสัมพันธ์กัน ถ้าคุณทำอย่างนั้นทุกคนก็จะสงสัย และพาลหาว่าคุณเป็นผู้ใหญ่ รังแกเด็กที่ไล่พนักงานคนนั้นออก” บัวบงกชอธิบายเหตุผลให้เขาใจเย็นลง ศรายุทธมองหน้าเธอด้วยความโมโห
“วันนี้ฉันไม่ไปหานะ” เขาพูดเสียงเครียดแล้วโบกมือให้บัวบงกชออกจากห้องไป เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องโกรธขนาดนี้ ในเมื่อเธอก็เป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งของเขา
*********************
ศรายุทธกลับบ้านไปในตอนเย็น สินีนาถดีใจที่เขากลับมาทันเวลาอาหารเย็น และบอกให้คนเตรียมอาหารไว้เผื่อเขาอีกที่ แล้วไปนั่งคุยกับเขาที่ห้องทำงาน เริ่มแผนการทำให้เขานึกหึงหวงเธอ
“พี่ยุทธคะ คือนาถมีเรื่องจะขออนุญาตค่ะ” สินีนาถบอกเขาเสียงเหมือนว่าเกรงใจ
“ว่ามาสิ” ศรายุทธบอกเสียงเรียบ
“คือว่านาถกำลังคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เขาอยากเจอนาถ แต่ว่านาถไม่อยากออกไปเจอเขาข้างนอกกลัวว่ามันจะไม่งาม เลยอยากขออนุญาตพี่ยุทธ ให้เขามาหานาถที่นี่ได้หรือเปล่าคะ” สินีนาถบอกเขา
ศรายุทธที่กำลังคิดเรื่องที่มีคนมายุ่งกับบัวบงกชอยู่ พอสินีนาถมาขอให้ผู้ชายมาหาถึงบ้านเขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด
“เขาเป็นคนดีหรือเปล่า รู้จักเขาดีแค่ไหน แล้วทำงานอะไร” ศรายุทธถามสินีนาถเพราะว่าเขาห่วงเธอกลัวโดนผู้ชายหลอก
“เป็นเพื่อนคณะเดียวกันกับนาถค่ะ พอดีเขาโทรมาจีบนาถ นาถเลยอยากลองเปิดโอกาสเจอคนใหม่ๆ ดูบ้าง เผื่อจะทำให้ลืมใครบางคนได้บ้าง” สินีนาถพูดเสียงเศร้า ให้เขารู้ว่ากำลังตัดใจจากเขา
“งั้นก็ให้มาเจอที่นี่แหละ ดีแล้วไม่ต้องออกไปข้างนอก” ศรายุทธบอกแล้วทำสีหน้าเคร่งเครียด สินีนาถไหว้ขอบคุณ แล้วขอตัวออกไปดูความเรียบร้อยของโต๊ะอาหาร
สักพักเธอก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้งเพื่อบอกเขาว่าโต๊ะอาหารพร้อมแล้ว และได้ยินเขาคุยโทรศัพท์ก็เล่นเอาเธอยิ้มแก้มปริ
“ไปสืบมาว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ฉันไม่อยากให้มันมายุ่งกับคนของฉัน สืบเงียบๆ นะ อย่าให้ใครรู้ แล้วรีบมารายงานฉันด่วน” ศรายุทธพูดโทรศัพท์กับคนของเขาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด
สินีนาถพอใจที่ได้ยินเขาเรียกเธอว่า ‘คนของเขา’ มันเป็นคำน้ำเน่าที่แสนโรแมนติก และทำให้รู้สึกดีเป็นอย่างมาก อีกทั้งท่าทางหงุดหงิดของเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอาการอย่างนี้มันเรียกว่า ‘หึง’ อย่างชัดเจน
‘ปากบอกว่าไม่สนใจนาถ ที่แท้ก็แอบหึงนาถอย่างนี้ นาถจะทำให้พี่ยุทธหึงนาถจนทนไม่ไหวแล้วต้องมาสารภาพรักกับนาถด้วยตัวเองในที่สุด’ สินีนาถคิดเข้าข้างตัวเองอย่างมีความหวัง
*********************
ศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคยหลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไรสินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสมแต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัวศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย
บัวบงกชที่นอนคิดมากทั้งคืนเพราะศรายุทธไม่พอใจเธอก็มาทำงานตามปกติ เธอหันซ้ายหันขวากลัวว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นอีก เพราะศิรินุชบอกว่าเธอให้ฝ่ายบุคคลแจ้งเตือนเขาไปแล้วว่าไม่ให้ทำเรื่องอย่างนั้นอีก บัวบงกชเลยกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วยิ่งหาเรื่องเธอบัวบงกชก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูกำลังจะปิดแต่ก็มีมือมาขวางเอาไว้ก่อน ประตูเลยเปิดออกอีกครั้ง เป็นชายหนุ่มคนเมื่อวานอย่างที่เธอกลัว“พี่ไปด้วยคนสิครับ” เขาบอกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และดูไม่เป็นมิตรสำหรับบัวบงกชเขากดปิดลิฟต์แล้วก็มีมือใครบางคนมาขวางเอาไว้อีกรอบ เป็นศรายุทธที่ขวางประตูลิฟต์นั้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาแอบดักรอเธอขึ้นลิฟต์ และพอเจอพนักงานหนุ่มจอมตื้อแอบรอเธออยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งแทบทนไม่ไหว แต่ถ้าจะรังแกพนักงานตัวเล็กๆ ก็คงดูไม่ดีอย่างที่บัวบงกชบอก เขาเลยต้องอดทนและทำตัวให้นิ่ง“ผมไปด้วยคนสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์บัวบงกชดีใจที่อย่างน้อยก็มีศรายุทธอยู่ในลิฟต์ด้วย ถึงจะกังวลเรื่องที่เขากำลังโกรธเธออยู่ แต่ก็อุ่นใจที่เขาอยู่ตรงนี้“วันนี้ท่านประธานมาเช้าจังเลยนะคะ” บัวบงกชพูดกับเขา“พอดีอยากลองเข้างานเช้าดู เผื่อว่าจะได้เห็
ตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้นดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้าตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหร
บัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหารศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขาศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะใ
ศรายุทธมองสินีนาถที่นั่งพิงหัวเตียง เอาผ้าห่มปิดหน้าด้วยความเขินอาย แล้วกำลังนึกหาคำพูดอะไรสักอย่างในสถานการณ์อย่างนี้“ดีขึ้นหรือยัง” เขาถามเธอ“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว” เธอตอบเขาเสียงเบา แกล้งหลบตาเขาด้วยความเขินอาย“เมื่อกี๊นาถคงเพ้อเพราะพิษไข้ งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่ให้คนมานอนเป็นเพื่อนนะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พาไปหาหมอทัน” ศรายุทธบอกด้วยความห่วงใย“แล้วนาถตกบันได้ด้วยนี่ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ศรายุทธถามต่อเมื่อเห็นว่าสินีนาถไม่ได้พูดอะไร“นาถตกบันได้ด้วยหรือคะ แต่ว่าไม่ได้เจ็บตรงไหนเลย คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ” สินีนาถบอกยังไม่เลิกทำน้ำเสียงว่าเธอเขินอายเขา“งั้นพี่ไปตามเด็กมาอยู่เป็นเพื่อนนะ” ศรายุทธบอกแล้วทำท่าจะลุกออกไป“พี่ยุทธคะ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ยุทธคงรู้แล้วว่านาถคิดอย่างไรกับพี่ยุทธ” สินีนาถเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น หลังจากที่ศรายุทธพยายามที่จะไม่พูดถึงมันเขานิ่งเงียบไป แล้วนั่งลงที่เดิม เพื่อฟังสิ่งที่สินีนาถจะพูด“นาถรักพี่ยุทธค่ะ รักมานานแล้ว และนาถก็บอกตรงๆ เลยนะคะ ว่านาถอยากให้พี่ยุทธรักนาถตอบบ้าง นาถอยากดูแลพี่ยุทธเหมือที่พี่พิชญ์ดูแล อยากทำให้พี่ยุทธมีความสุขเหมือนที่พี่พิชญ์
ศรายุทธให้คนที่ไว้ใจได้เอารถไปส่งให้บัวบงกชที่บ้าน เขาสั่งให้เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุดไม่ให้คนของเขาบอกเรื่องบัวบงกชให้ใครรู้ โดยเฉพาะสินีนาถเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากและเป็นกังวล เพราะจิตใจผู้หญิงยากที่จะเข้าใจอาจนำพาเรื่องร้ายมาในภายหลังได้ บัวบงกชรับรถจากคนของศรายุทธมาเธอก็ยิ่งรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขามากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายิ่งเอากับเขามากเท่าไร เธอก็จะหลุดจากเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะขอเขาเท่าที่ต้องใช้จ่ายจริงๆ และไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อตอนที่เธอไปจากเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก ถึงจะใช้ร่างกายเข้าแลก แต่ความสุขสบายที่เธอได้รับนั้นมันมากเกินกว่าคนที่ตัดสินใจทำอาชีพอย่างเธอจะได้รับ บัวบงกชขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแล้วจอดไว้ที่คณะอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็น เธอทำเรื่องยื่นฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธตามที่เขาบอก โดยมีเพื่อนบางคนเห็นเธอลงชื่อบริษัทเลิศประจักษ์เป็นอันดับแรกต่างก็เตือนเธอว่าที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงาน เพราะงานที่นั่นมีความลับสูง เสี่ยงให้คนภายนอกล่วงรู้ข้อมูลไม่ได้ บัวบงกชอ่านหนังสือติวสอบกับเพื่อนๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เธอก็ขอตัวกลับเพราะไม่มีเรียนต่อ แล้วเดินแยกไปขึ







