Masukบัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธ
ศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหาร
ศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง
“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว
ศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขา
ศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว
“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะให้บัวบังกชเป็นคนเสิร์ฟกาแฟให้ท่านประธาน และทำหน้าที่เอาแฟ้มเข้ามาให้เซ็นนะคะ” ศิรินุชรายงานเขา
“อืม ผมรับทราบครับ” ประธานหนุ่มวัยสามสิบห้าบอกแล้วมองดูการแต่งกายของบัวบงกชก็อดชื่นชมไม่ได้ ที่เธอแต่งตัวเรียบร้อยกว่าที่เขาคิด
“ตั้งใจทำงานนะคุณบัวบงกช ผมหวังว่าคุณจะได้รับความรู้จากคุณสิรินุชมากกว่าการชงกาแฟ” ศรายุทธพูดกับเธออย่างเป็นทางการกึ่งแซวเล็กน้อย
“ค่ะ” บัวบงกชรับปากแล้วก้มหน้าอย่างนอบน้อมแล้วเดินตามศิรินุชออกไป
“ไม่ต้องกลัว ท่านประธานใจดี” ศิรินุชบอกเมื่อเดินออกมา
“ปกติท่านทำหน้าขรึมแบบนี้ตลอดเลยหรือเปล่าคะ” บัวบงกชแกล้งถาม
“ก็เป็นปกติของท่าน แต่วันนี้ท่านถือว่าอารมณ์ดีนะ มีแซวหนูด้วย” ศิรินุชบอกแล้วยิ้มให้บัวบงกชอย่างเอ็นดู
*********************
บัวบงกชนำกาแฟเข้าไปให้ศรายุทธในขณะที่เขากำลังตรวจงานอยู่ พอเห็นว่าเป็นบัวบงกชที่เดินเข้ามา เขาก็บอกให้เธอวางถาดกาแฟไว้ให้ห่างจากกองเอกสาร แล้วเรียกเธอให้เข้าไปหาเขา
“กลับไปอย่าเพิ่งเปลี่ยนชุดนะ ขอชุดนี้” ศรายุทธบอกเธอ
“ท่านประธานจะเครมเด็กฝึกงานหรือคะ” บัวบงกชพูดด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวน
“คืนนี้ฉันจัดเธอหนักแน่ๆ บัว” เขาบอกเธอพลางดึงบัวบงกชมานั่งตักแล้วหอมอย่างหมั่นเขี้ยว
“บัวยอมแล้วค่ะ ไม่อยากเดินขาสั่นมาทำงาน” เธอบอกเขาแล้วก้มลงจูบที่ติ่งหูของเขาก่อนจะดันตัวลุกขึ้น
“บัวต้องออกไปแล้วนะคะ” เธอบอกแล้วเดินออกไป
ศรายุทธมองตามอย่างเสียดาย เขาอยากจับเธอกดลงกับโต๊ะทำงานตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะชุดนักศึกษานั่นแท้ๆ จำได้ว่าเธอเคยใช้ชุดนี้อยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นมันทำที่บ้านก็ไม่เท่าไร แต่บรรยากาศที่ทำงานมันดูน่าตื่นเต้นกว่า และอยากลองดูสักครั้งเพื่อเป็นสีสันกับชีวิต ว่าประธานหนุ่มกับนักศึกษาฝึกงานบนโต๊ะทำงาน มันคงมีความสุขน่าดู
ศรายุทธหาโอกาสอยู่นานจนในที่สุดวันหนึ่งเขาก็ได้โอกาส เมื่อศิรินุชลาพักร้อน และมอบหมายงานให้บัวบงกชทำด้วยความสบายใจ เพราะบัวบงกชพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำงานแทนเธอได้อย่างดีเยี่ยม
บัวบงกชเอากาแฟเข้ามาเสิร์ฟให้ศรายุทธแล้วเขาก็สั่งให้เธอล็อกห้องเอาไว้
“ท่านประธานคิดจะทำอะไรคะ” เธอถามเขาอย่างรู้ทัน
ศรายุทธยิ้ม ถอดสูทตัวนอกวางเอาไว้ แล้วดึงบัวบงกชมาจูบในทันที
เขาถลกกระโปรงเธอให้ขึ้นมากองที่เอวแล้วอุ้มเธอนั่งที่โต๊ะทำงานของเขา เกี่ยวกางเกงชั้นในลายลูกไม้สีขาวนั้นออก แล้วรูดซิบกางเกงเขางัดแท่งลำนั้นออกมาแล้วจัดการยืนสอดใส่กับเธอคาโต๊ะทำงานทันที
บัวบงกชกอดคอเขาแล้วจูบแลกลิ้น ยอมให้เขาทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา ศรายุทธซอยเข้าออกอยู่อย่างนั้น ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเธอออกสองเม็ดแล้วดูดเนินอกทำรอยเอาไว้อย่างอดไม่ได้
เขาจับเธอลงมาจากโต๊ะแล้วให้ยืนค้ำยันโต๊ะเอาไว้ ปลดกางเกงลงมากองไว้ที่เข่า เพื่อให้กระแทกได้ถนัดขึ้น แล้วยืนประกบจากด้านหลัง จัดการสอดใส่เข้าไปจนมิดด้าม แล้วซอยสะโพกเข้าหาเธอถี่ๆ ด้วยความตื่นเต้นท้าทายกับเซ็กส์ในห้องทำงานกับนักศึกษาฝีกงานที่เป็นสมบัติของเขา
บัวบงกชถึงเส้นชัยไปในที่สุด เขาเอาแท่งลำออกมาแล้วกดไหล่บัวบงกชให้คุกเข่าลง ดูดเลียแท่งลำของเขาแล้วปล่อยน้ำเข้าไปในปากเธอ แล้วสั่งให้เธอกลืนมันเข้าไปให้หมด
บัวบงกชทำตามอย่างว่าง่าย เธอดูดเลียน้ำรักจนหมดแล้วเลียทำความสะอาดแท่งลำนั้นให้เขาจนสะอาด ก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ นึกรังเกียจตัวเองที่ต้องยอมเขาอย่างนี้ แต่ก็ต้องอดทน เพราะในเมื่อเธอเลือกทางเดินนี้ตั้งแต่แรก ก็ควรทำให้มันเต็มที่ แล้วพยายามทำความเข้าใจรสนิยมเรื่องเซ็กส์ว่าแต่ละคนก็มีรสนิยมที่แตกต่างกันไป เธอไม่ถือว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแปลกอะไร
*********************
สินีนาถที่พยายามหาทางเข้าหาพี่เขยของตัวเอง เธอก็ยังไม่สบโอกาส เพราะศรายุทธกลับบ้านไม่เป็นเวลา แล้วบางคืนยังค้างที่อื่นอีก ทำเอาสินีนาถแทบคลั่ง กลัวว่าเขากำลังติดเด็กที่ร้านไหนสักร้านแล้วกลัวว่าจะเสียเขาให้คนอื่นไป
สินีนาถเคยคิดที่จะตัดสินใจไปรอเขาที่ห้องนอนของเขา เธอจะทอดกายให้เขาเพื่อว่าศรายุทธนั้นจะยังปฏิเสธเธออยู่ไหม แต่ลองคิดดูแล้ว ถ้าเขาปฏิเสธมันจะเป็นการหักหน้าเธอมาก และจะมองหน้ากันไม่ติดไปอีกนานและเธอก็คงไม่สามารถอยู่บ้านหลังนี้ต่อไปได้ เลยล้มเลิกความคิดนั้นไป แล้วพยายามหาวิธีที่จะทำให้เขาหลงเสน่ห์เธอ
“นางเอกต้องมีคนมาจีบ พระเอกถึงจะเห็นค่า” สินีนาถได้ยินคนรับใช้พูดถึงเรื่องละครหลังข่าวเธอก็คิดออกทันทีว่าจะทำอย่างไรให้ศรายุทธสนใจ
สินีนาถเลยติดต่อให้เพื่อนเก่าสมัยเรียนติดต่อผู้ชายดีๆ สักคนเพื่อให้เข้ามาจีบเธอ และเลือกผู้ชายคนหนึ่งที่เพื่อนๆ แนะนำมา ซึ่งก็เป็นคนที่สินีนาถรู้จัก และรู้ว่าเขานั้นแอบชอบเธอมานาน และมันเข้าทางของเธอทันที เพราะเธอต้องการคนที่แสดงความรู้สึกกับเธออย่างสมจริงที่สุดเพื่อตบตาศรายุทธ
อินทัชคือตัวเลือกของสินีนาถ เธอจำได้ว่าเขาคือหนุ่มตี๋ลูกชายเจ้าของร้านอาหารจีนย่านเยาวราช มีฐานะอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ด้วยความเฉิ่มและอ่อนหัดของเขา จึงคงยังไม่มีแฟนจนถึงทุกวันนี้ และสานต่อกิจการร้านอาหารของครอบครัวจนไม่มีเวลาสนใจใคร
เพื่อนของสินีนาถเอาแบอร์ติดต่อของเธอให้กับเขา แล้วบอกให้เขาตามจีบเธอเพราะตอนนี้สินีนาถกำลังเปิดโอกาสให้ใครสักคนอยู่พอดี เขารับโอกาสนั้นไว้แล้วเขาก็เริ่มโทรหาสินีนาถเพื่อทำการหว่านเสน่ห์ โดยไม่รู้ว่ากำลังจะตกเป็นเครื่องมือของสินีนาถ
“ผมเป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันกับนาถ แต่อยู่คนละสาขา ไม่รู้นาถจะจำผมได้หรือเปล่า” เขาพยายามฟื้นความหลังให้เธอนึกถึงเขา สินีนาถรู้ดีว่าเขาคือหนุ่มตี๋จอมเฉิ่มคนนั้น แต่เธอก็ทำเป็นว่ายังจำเขาไม่ได้ เพื่อเล่นให้สมบทบาท
“ขอโทษนะคะ นาถเรียนจบมานานแล้ว ไม่มั่นใจจะว่าจำคุณได้” เธอบอกเขา
“งั้นผมขอนัดเจอคุณนาถได้หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ
“ค่ะ แต่นาถไม่สะดวกออกไปข้างนอกนะคะ นาถต้องขออนุญาตพี่เขยก่อนว่าจะสามารถนัดคุณมาที่บ้านได้หรือเปล่า” สินีนาถบอกเขาไป
“งั้นผมจะรอคำตอบนะครับ ระหว่างนี้ขอโทรคุยกับคุณนาถทุกวันได้หรือเปล่า” เขาถามเธอด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
“ยินดีค่ะ” สินีนาถบอกแล้ววางสายไป พร้อมกับรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ของเธอ
*********************
ศรายุทธกลับถึงบ้านก็เป็นเวลาดึกแล้ว ช่วงนี้เขาเขาไม่เห็นสินีนาถมารอต้อนรับเขากลับบ้านเหมือนอย่างเคยก็รู้สึกสบายใจขึ้น ที่อย่างน้อยก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจมากเหมือนอย่างเคยหลังจากที่สินีนาถพูดเปิดใจกับเขาตอนนั้น เขายอมรับว่ายิ่งอยากกลับบ้านให้น้อยลง เพราะลำบากใจที่จะเจอเธอแล้วต้องคอยทำเหมือนว่าไม่รับรู้อะไร ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอคิดอย่างไรสินีนาถขออนุญาตให้มีเพื่อนผู้ชายมาหาเธอที่บ้าน นั่นเป็นการดีที่จะทำให้เธอได้เปิดใจให้คนอื่นบ้าง เขายินดีสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ลึกๆ ในใจอยากให้เธอรีบแต่งงานแล้วย้ายออกไปด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ใช่ญาติของเขาโดยตรง และพ่อแม่ของศรายุทธเองก็เคยเตือนเรื่องนี้กับเขาแล้วว่ามันไม่เหมาะสมแต่ติดตรงที่ว่าสิริพิชญ์ฝากให้เขาดูแลสินีนาถ เธอถึงยังอยู่ที่นี่ได้ในฐานะน้องสาวของสิริพิชญ์ เพราะศรายุทธไม่อยากเสียคำพูดที่ให้ไว้กับอดีตภรรยาของเขา“พี่ยุทธเพิ่งมาหรือคะ” สินีนาถถามขึ้นขณะเดินลงบันได“อืม แล้วนาถลงมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ” ศรายุทธถามเธอ“นาถลงมาอุ่นนมดื่มค่ะ พอดีนอนไม่ค่อยหลับ” สินีนาถบอกแล้วยิ้มให้เขา ก่อนจะขอตัวไปที่ห้องครัวศรายุทธมองตามแล้วถอนหายใจอย
บัวบงกชที่นอนคิดมากทั้งคืนเพราะศรายุทธไม่พอใจเธอก็มาทำงานตามปกติ เธอหันซ้ายหันขวากลัวว่าจะเจอผู้ชายคนนั้นอีก เพราะศิรินุชบอกว่าเธอให้ฝ่ายบุคคลแจ้งเตือนเขาไปแล้วว่าไม่ให้ทำเรื่องอย่างนั้นอีก บัวบงกชเลยกลัวว่าเขาจะโกรธแล้วยิ่งหาเรื่องเธอบัวบงกชก้าวเข้าไปในลิฟต์ ประตูกำลังจะปิดแต่ก็มีมือมาขวางเอาไว้ก่อน ประตูเลยเปิดออกอีกครั้ง เป็นชายหนุ่มคนเมื่อวานอย่างที่เธอกลัว“พี่ไปด้วยคนสิครับ” เขาบอกแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และดูไม่เป็นมิตรสำหรับบัวบงกชเขากดปิดลิฟต์แล้วก็มีมือใครบางคนมาขวางเอาไว้อีกรอบ เป็นศรายุทธที่ขวางประตูลิฟต์นั้น เขาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะมาแอบดักรอเธอขึ้นลิฟต์ และพอเจอพนักงานหนุ่มจอมตื้อแอบรอเธออยู่ก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งแทบทนไม่ไหว แต่ถ้าจะรังแกพนักงานตัวเล็กๆ ก็คงดูไม่ดีอย่างที่บัวบงกชบอก เขาเลยต้องอดทนและทำตัวให้นิ่ง“ผมไปด้วยคนสิ” เขาพูดเสียงเรียบ แล้วก้าวเข้าไปในลิฟต์บัวบงกชดีใจที่อย่างน้อยก็มีศรายุทธอยู่ในลิฟต์ด้วย ถึงจะกังวลเรื่องที่เขากำลังโกรธเธออยู่ แต่ก็อุ่นใจที่เขาอยู่ตรงนี้“วันนี้ท่านประธานมาเช้าจังเลยนะคะ” บัวบงกชพูดกับเขา“พอดีอยากลองเข้างานเช้าดู เผื่อว่าจะได้เห็
ตลอดระยะที่บัวบงกชมาฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธ ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีใครสนใจเธอเลย แต่เพราะเธอทำงานอยู่หน้าห้องของศรายุทธจึงไม่มีใครกล้าแวะเวียนเข้ามาจีบ เพราะชั้นที่บัวบงกชอยู่นั้นมีแต่ระดับผู้บริหารนั่งอยู่ทั้งนั้นดังนั้นเวลาที่บัวบงกชเดินเข้ามาในบริษัทและกำลังขึ้นลิฟต์เท่านั้นที่เป็นนาทีทองของคนที่สนใจเธอ“สวัสดีครับ” เสียงทักทายดังขึ้นขณะที่บัวบงกชอยู่ในลิฟต์กับเขาเพียงลำพัง“สวัสดีค่ะ” บัวบงกชตอบกลับและยิ้มให้ตามมารยาท เธอไม่เคยสังเกตเลยว่าชายหนุ่มนั้นแอบสนใจตั้งแต่วันแรกที่เธอมาทำงานแล้ว“ชื่อน้องบัวใช่หรือเปล่าครับ” เขาถามเธอ“ค่ะ” บัวบงกชตอบตามมารยาท ในใจลุ้นอยากให้ประตูลิฟต์รีบเปิดเพราะไม่อยากสนทนากับเขานานๆ เกรงว่าศรายุทธรู้แล้วจะไม่พอใจเธอเข้าตอนนี้ทางบ้านของเธอกำลังเดือดร้อนหนัก จากที่เคยคิดว่าจะไม่ขอเงินจากเขา แต่ว่าก็ไม่สามารถทำได้แล้วในตอนนี้ และเธอต้องทำตัวดีให้มากๆ ไม่ให้เขาต้องไม่พอใจเธอ“น้องบัวมีแฟนหรือยังครับ” เขาถามเธอตรงๆ เป็นนัยให้รู้ว่าอยากจะจีบเธอ“มีแล้วค่ะ” บัวบงกชโกหกออกไป ประตูลิฟต์เปิดออกชั้นที่ชายคนนั้นกด แต่เขาก็กดปิดประตู ไม่สนใจว่าจะเข้าทำงานทันเวลาหร
บัวกงกชมารายงานตัวกับฝ่ายบุคคลของเลิศประจักษ์กรุ๊ปแล้วถูกส่งตัวให้ไปหาเลขานุการของศรายุทธศิรินุชคือสาวใหญ่วัยสี่สิบห้าปีที่เป็นเลขานุการของศรายุทธที่ทำงานกับเขามาตั้งแต่บิดาของเขายังไม่วางมือจากตำแหน่งประธานบริหารศิรินุชพอใจที่บัวบงกชใส่กระโปรงนักศึกษาที่ไม่รัดรูปและยาวคลุมเข่า ซึ่งหาได้ยากในสมัยนี้ เธอสอนวิธีจัดตารางงาน วิธีการดูตารางเวลานัดหมาย และขั้นตอนการนำเอกสารไปให้ศรายุทธเซ็น รวมถึงวิธีชงกาแฟให้ศรายุทธด้วยว่าเขาดื่มกาแฟประเภทไหน และควรเสิร์ฟเวลาไหนบ้าง“ท่านประธานปกติจะเข้างานไม่เกินเก้าโมงเช้า กาแฟถ้วยแรกเสิร์ฟตอนสิบเอ็ดโมง บ่ายสอง กับสี่โมงเย็นตามลำดับ” ศิรินุชอธิบายกับบัวบงกช เธอพยักหน้าเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็วศรายุทธเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน เขามองหน้าบัวบงกชด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมและเป็นทางการกว่าปกติ แล้วพยักหน้าทักทายศิรินุชเบาๆ ก่อนจะเข้าห้องไปกับผู้ติดตาม เพื่อคุยธุระของเขาศิรินุชรอจนผู้ติดตามของศรายุทธออกมาจากห้อง เธอก็เคาะห้องสามที ก่อนจะเปิดประตูพาบัวบงกชไปแนะนำตัว“ท่านประธานคะ นี่บัวบงกช เป็นเด็กฝึกงานที่จะมาฝึกงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาค่ะ ดิฉันจะใ
ศรายุทธมองสินีนาถที่นั่งพิงหัวเตียง เอาผ้าห่มปิดหน้าด้วยความเขินอาย แล้วกำลังนึกหาคำพูดอะไรสักอย่างในสถานการณ์อย่างนี้“ดีขึ้นหรือยัง” เขาถามเธอ“ค่ะ ดีขึ้นแล้ว” เธอตอบเขาเสียงเบา แกล้งหลบตาเขาด้วยความเขินอาย“เมื่อกี๊นาถคงเพ้อเพราะพิษไข้ งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่ให้คนมานอนเป็นเพื่อนนะ เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้พาไปหาหมอทัน” ศรายุทธบอกด้วยความห่วงใย“แล้วนาถตกบันได้ด้วยนี่ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” ศรายุทธถามต่อเมื่อเห็นว่าสินีนาถไม่ได้พูดอะไร“นาถตกบันได้ด้วยหรือคะ แต่ว่าไม่ได้เจ็บตรงไหนเลย คงไม่เป็นอะไรมั้งคะ” สินีนาถบอกยังไม่เลิกทำน้ำเสียงว่าเธอเขินอายเขา“งั้นพี่ไปตามเด็กมาอยู่เป็นเพื่อนนะ” ศรายุทธบอกแล้วทำท่าจะลุกออกไป“พี่ยุทธคะ ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ยุทธคงรู้แล้วว่านาถคิดอย่างไรกับพี่ยุทธ” สินีนาถเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น หลังจากที่ศรายุทธพยายามที่จะไม่พูดถึงมันเขานิ่งเงียบไป แล้วนั่งลงที่เดิม เพื่อฟังสิ่งที่สินีนาถจะพูด“นาถรักพี่ยุทธค่ะ รักมานานแล้ว และนาถก็บอกตรงๆ เลยนะคะ ว่านาถอยากให้พี่ยุทธรักนาถตอบบ้าง นาถอยากดูแลพี่ยุทธเหมือที่พี่พิชญ์ดูแล อยากทำให้พี่ยุทธมีความสุขเหมือนที่พี่พิชญ์
ศรายุทธให้คนที่ไว้ใจได้เอารถไปส่งให้บัวบงกชที่บ้าน เขาสั่งให้เรื่องนี้เป็นความลับสูงสุดไม่ให้คนของเขาบอกเรื่องบัวบงกชให้ใครรู้ โดยเฉพาะสินีนาถเพราะไม่อยากให้เธอคิดมากและเป็นกังวล เพราะจิตใจผู้หญิงยากที่จะเข้าใจอาจนำพาเรื่องร้ายมาในภายหลังได้ บัวบงกชรับรถจากคนของศรายุทธมาเธอก็ยิ่งรู้สึกติดหนี้บุญคุณเขามากขึ้นเรื่อยๆ คิดว่ายิ่งเอากับเขามากเท่าไร เธอก็จะหลุดจากเขาได้ยากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตั้งใจว่าจะขอเขาเท่าที่ต้องใช้จ่ายจริงๆ และไม่ฟุ่มเฟือย เพื่อตอนที่เธอไปจากเขาจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก ถึงจะใช้ร่างกายเข้าแลก แต่ความสุขสบายที่เธอได้รับนั้นมันมากเกินกว่าคนที่ตัดสินใจทำอาชีพอย่างเธอจะได้รับ บัวบงกชขับรถไปที่มหาวิทยาลัยแล้วจอดไว้ที่คณะอื่นเพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็น เธอทำเรื่องยื่นฝึกงานที่บริษัทของศรายุทธตามที่เขาบอก โดยมีเพื่อนบางคนเห็นเธอลงชื่อบริษัทเลิศประจักษ์เป็นอันดับแรกต่างก็เตือนเธอว่าที่นี่ไม่รับนักศึกษาฝึกงาน เพราะงานที่นั่นมีความลับสูง เสี่ยงให้คนภายนอกล่วงรู้ข้อมูลไม่ได้ บัวบงกชอ่านหนังสือติวสอบกับเพื่อนๆ จนถึงช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ เธอก็ขอตัวกลับเพราะไม่มีเรียนต่อ แล้วเดินแยกไปขึ







