“รู้ตัวอะไรคะ” ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนวุ่นวายใจไปหมด“ว่าผมอ่านใจได้แล้วผมก็มีตาอยู่ข้างหลังน่ะสิครับ” ในที่สุดเขาก็ปล่อยเธอแล้วก็ก้าวถอยหลัง “ถึงแม้ว่าผมจะไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าจะให้แน่ใจ”“แน่ใจอะไรคะ คุณหมายถึงเช็กอีกครั้งว่าวันนี้คุณใช้น้ำหอมอะไรเหรอคะ”“ไม่ครับ” เขายิ้ม ดวงตาของเขามืดครึ้ม “นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากจะเช็ก”“แล้วคุณอยากจะเช็กอะไรล่ะคะ”“ว่าคุณใส่กางเกงในรึเปล่าน่ะสิครับ แน่นอน”“คนทุเรศ” เธอพูดแล้วก็หันกลับไป คิดว่าความคิดที่ว่าไม่ต้องใส่กางเกงในมันควรจะทำให้เขาประหลาดใจเสียอีก เธอคิดว่าเขาจะตกใจที่เธอมาทำงานแบบนั้น“ผมเป็นคนขอคุณเอง ผมไม่คิดว่าคุณจะทำมันจริง ๆ หรอกนะ” เขามาอยู่ข้างหลังเธอแล้วเธอก็รู้สึกได้ถึงมือของเขาที่เลื่อนขึ้นมาเหนือเสื้อเชิ้ตของเธอแล้วก็กอบกุมหน้าอกของเธอ“คุณจะทำอะไรคะ” เธอพูดโดยไม่ขยับ มือของเขาอุ่นร้อนขณะที่นิ้วของเขาไล้วนที่ยอดอกที่แล้วก็กอบกุมหน้าอกของเธออย่างแน่นหนาในฝ่ามือของเขา“ก็ดูสิว่าคุณโนบราด้วยรึเปล่า”“ฉันไม่ได้โนบราค่ะ” เธอพูดแล้วเธอก็รู้สึกได้ว่ายอดอกของตัวเองแข็งขึ้นมากับสัมผัสของเขา“น่าเสียดายจัง” เขาครางออกมา ลมหายใจอุ่นร้อนรินร
หญิงสาวยิ้มกริ่มกับตัวเองขณะที่สีหน้าที่ตกใจของฉู่เฮ่าหรานกลายเป็นสับสนและงุนงง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเปลี่ยนจากการขุ่นเคืองและเขินอายเล็กน้อยไปเป็นมั่นใจและก้าวร้าวในครึ่งวินาที เขาคงจะกำลังสงสัยว่าเธอมีบุคลิกภาพที่แตกแยกอะไรบางอย่างรึเปล่า เธอยังสงสัยด้วยซ้ำไปว่ามันมาจากไหน ที่จริงแล้ว นั่นมันเรื่องโกหก เธอรู้ว่ามันมาจากไหน มันมาจากส่วนลึกข้างในตัวเธอ มันมาจากส่วนของตัวตนที่เธอหวังว่าตัวเองจะกล้าพอที่จะปล่อยออกมาบ่อยขึ้น เธอคือผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ยอมให้ใครมาดูถูก แต่บางครั้งเธอก็ไม่กล้าพอที่จะพูดออกมา“ใช่ครับ คุณเป็นอย่างนั้น” ฉู่เฮ่าหรานพยักหน้าหลังจากผ่านไปสองสามวินาที “เซ็กซี่ ผมหมายถึง ไม่ใช่ยัยตัวแสบ” เขาพูดตะกุกตะกักเล็กน้อยแล้วเธออยากจะถามเขาว่าเธอทำให้เขาตกใจรึเปล่า บางทีเขาอาจจะไม่รู้จักผู้หญิงดีเท่าที่เขาคิดว่าตัวเองรู้จักก็ได้ บางทีน้องสาวของเขา ฉู่ลี่เหยียนกับเพื่อนสนิทของหล่อน ซ่งจื่อหาน อาจจะไม่มีด้านนี้ในบุคลิกภาพของพวกหล่อน“ถ้าอย่างนั้นเราก็พร้อมจะทำงานกันแล้วสินะคะ”เจิ้งลี่ซาแกล้งปลดกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตของตัวเองแล้วก็เสยผมกลับไปอย่างสบาย ๆ เธอรักการ
ผู้หญิงบางคนเกิดมาพร้อมกับเสน่ห์ทางเพศ พวกหล่อนเป็นเจ้าของอำนาจเหนือผู้ชายและก็อวดมันอย่างเปิดเผย มีผู้หญิงบางคนที่รู้ดีว่าไม่มีอุปสรรคใดที่จะขวางกั้นการปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ชายได้ ไม่ว่าจะไซส์ไหน เชื้อชาติไหน ศาสนาไหนก็ได้ ไม่มีเรื่องไหนสำคัญเลยเมื่อมันเกี่ยวกับเสน่ห์ทางเพศ ถ้าเป็นผู้หญิงที่มั่นใจและรู้วิธีที่จะใช้ในสิ่งที่ตัวเองมี พวกหล่อนเหล่านั้นก็สามารถจะปลุกเร้าอารมณ์ของผู้ชายคนไหนก็ได้ น่าเสียดายที่เจิ้งลี่ซาไม่ใช่หนึ่งในผู้หญิงเหล่านั้นเธอรู้ดีว่าตัวเองมีเสน่ห์ แต่เธอก็รู้ดีเหมือนกันว่าตัวเองไม่ใช่ฟ่านปิงปิงหรือตี๋ลี่เร่อปา เธอไม่ได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วดูเหมือนนางฟ้ามาโปรด เธอยังไม่มีผู้ชายมากินอาหารจากฝ่ามือของเธอแล้วเธอก็เคยพยายามมาแล้วมากกว่าสองสามครั้งที่จะยั่วผู้ชายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ มันก็แค่ไม่เคยได้ผลดีสำหรับเธอเลย ไม่ใช่ตอนมัธยมปลายตอนที่เธอไล่ตามผู้ชายในทีมบาสเกตบอล ที่มายอมรับว่าเขาดันเป็นเกย์ไปเสียอย่างนั้น ไม่ใช่ตอนมหาวิทยาลัยตอนที่เธอพยายามจะจูบกับผู้ชายคนหนึ่ง ก็ยอมรับนะว่าได้จูบกันแล้วก็คิดว่ามันน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ถ้าเขาไม่จู่ ๆ ก็จำได้ว่าเธอเป็นนักศึกษาใ
“แกคุยกับเขาเรื่องฟัดกันเหรอ” ดวงตาของเพื่อนเบิกกว้างแล้วเจิ้งลี่ซาก็สงสัยว่าเพื่อนจะเขียนหนังสือที่ลามกได้ยังไงถ้าตกใจกับเรื่องคุยในชีวิตประจำวันขนาดนี้“ใช่ เขาคุยกับฉันเรื่องนั้น ฉันบอกเขาว่าฉันชอบคำว่า ‘ร่วมรัก’ หรือ ‘มีอะไรกัน’ มากกว่า...แหม ฉันก็ทำนองนั้นแหละ”หลินซีขมวดคิ้ว “อย่าบอกนะว่าแกบอกเขาไปแบบนั้นจริง ๆ อะ ลี่ซา!”“อืม ทำไมล่ะ”หลินซีส่ายหน้า “แกฟังดูเหมือนพวกนางเอกเจ้าน้ำตาในละครน้ำเน่าเลย นั่นมันไม่ใช่วิธีที่แกจะเล่นเกมกับตัวพ่อหรอกนะ”“ฉันไม่ได้เล่นเกมกับเขา แกก็รู้แผนของฉันดีนี่ อ่อยสบาย ๆ เต้นยั่ว ทำให้เขาอับอายแล้วก็จากไป”“แต่แกสามารถจะทำให้เรื่องนี้มันน่าตื่นเต้นกว่านี้อีกได้นะ” หลินซีหัวเราะคิกคัก “แกสามารถจะทำให้เขาได้ลิ้มรสยาของตัวเองได้จริง ๆ นะ ดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าแกพร้อมจะให้เขาฟัดอยู่แล้วนี่นา”“แกก็คิดอย่างนั้นใช่ไหมล่ะ” เธอพูดแล้วก็เม้มปาก “เขาคิดว่าเพียงเพราะว่าฉันนอนกับเขาง่าย ๆ ครั้งหนึ่ง มันก็จะเกิดขึ้นอีก เขาถึงกับบอกให้ฉันไม่ต้องใส่กางเกงในไปทำงานพรุ่งนี้ด้วยนะ”“เอาเลย!” หลินซีหัวเราะคิกคัก“อะไรนะ”“เอาเลยไง!” หลินซีพยักหน้าอย่างรู้ดี “สิ่งสุดท
“สวัสดีค่ะ เจิ้งลี่ซาพูดค่ะ” เธอแกล้งดัดเสียงให้ดูไม่ใส่ใจ“คุณอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงของฉู่เฮ่าหรานฟังดูหงุดหงิดอย่างไม่ปิดบัง“ขอโทษนะคะ คุณว่าอะไรนะคะ” เธอถามอย่างสับสน เกิดอะไรขึ้นกับคำว่า ‘สวัสดี’ และมารยาทพื้นฐานอื่น ๆ ล่ะ“คุณอยู่ที่ไหน เจิ้งลี่ซา” น้ำเสียงของเขาเรียบสนิทจนน่ากลัว เธอขมวดคิ้วใส่โทรศัพท์ เขากำลังพูดเรื่องอะไรกันแน่ แล้วยังจะมาทำท่าทีแบบนี้อีก“ก็...กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาค่ะ” เธอพูดแล้วก็นั่งตัวตรง “ทำไมคะ”“ไม่มีที่อื่นที่คุณควรจะไปอยู่ตอนนี้เหรอ”“เอ่อ...บนเตียงเหรอคะ” เธอถามอย่างสับสน“คุณไม่ได้อ่านสัญญาจ้างงานเหรอ” ฉู่เฮ่าหรานถามอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นขบขันในทันที“ฉันพลาดอะไรไปเหรอคะ” เธอพูดอย่างใคร่รู้แล้วกรามของเธอก็อ้าค้างเมื่อนึกถึงสิ่งที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา “คุณคงไม่ได้จะบอกว่าการนอนกับคุณเป็นส่วนหนึ่งของงานใช่ไหมคะ”“นอนกับผมมันจะแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาถาม น้ำเสียงหยอกเย้า “ผมก็นึกว่านั่นจะเป็นสิทธิพิเศษเสียอีก”“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ” น้ำเสียงของเธอแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจขณะที่หัวใจเต้นระรัว เขาจริงจังอยู่รึเปล่า“ก็ดีแล้วนะที่ผมไม่ได้ขออย่าง
“แล้วทำไมแกจะจับปลาสองมือไม่ได้ล่ะ ฉันหมายถึง...แกก็ยอมรับว่าเขาเด็ดเรื่องบนเตียงไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ไปสนุกกับเขาสักหน่อยในอาทิตย์นี้ แล้วพอถึงวันเสาร์ก็จัดเต็ม เต้นยั่วให้เขาคลั่งไปเลย แล้วก็เชิดใส่ เดินออกจากชีวิตของเขาไป ทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นไอ้โง่ที่สุดในสามโลก”“แกหมายถึงให้ฉันเล่นเกมกับเขาเหรอ”“ใช่เลย” เพื่อนพยักหน้าขณะที่ตักไอศกรีมเข้าปากมากขึ้น “เล่นเกมกับตัวพ่อ”“ฟังดูเหมือนชื่อหนังเลยนะ” เธอหัวเราะคิกคัก “หรือว่าเป็นหนังสือที่น้ำเน่ามาก ๆ”“ฉันว่าฉันน่าจะเขียนเรื่องนั้นแทนหนังสือเล่มปัจจุบันของฉันนะ” ดวงตาของหลินซีเป็นประกาย “ฉันจะมีพระเอกชื่อฉู่เฮ่าหราน ตัวสูง ผมสีนิลขลับ หุ่นดี ดวงตาสีดำเข้มลุ่มลึก แล้วเขาก็จะไปเจอกับนางเอกแสนซื่อชื่อเจิ้งลี่ซา แล้วเขาก็จะพยายามจะเล่นเกมกับหล่อน แต่หล่อนก็จะต่อต้านแล้วก็...”“แกพูดผิดไปอย่างหนึ่งนะ” เธอพูดตัดบทเพื่อน ก่อนที่จะโดดลงจากโซฟาแล้วก็เดินไปที่ห้องครัวเพื่อดูว่ามีขนมอะไรให้กินบ้าง การเห็นเพื่อนกินไอศกรีมทำให้เธอหิวขึ้นมา“อะไร?” หลินซีขมวดคิ้ว“ไม่มีทางที่เจิ้งลี่ซาจะต่อต้านหรอกน่า” เธอหัวเราะ “ไม่ใช่ถ้าเขาตัวสูง ผมสีนิล แล้วก็เ