로그인ฉู่เฮ่าชวน: สวัสดี จื่อหาน
นั่นคือทั้งหมดที่ฉู่เฮ่าชวน เทพบุตรสุดหล่อในดวงใจของเธอตอบกลับมา! แค่สามคำ! สามคำสั้น ๆ! แต่ซ่งจื่อหานกลับรู้สึกดีใจราวกับถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งซ้อนกันสิบใบ! ดีใจจนอยากจะวิ่งแก้บนสักสิบรอบ! เธอยิ้มแป้นเหมือนคนบ้า ขณะจ้องหน้าจอโทรศัพท์ราวกับมันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์!
เขาตอบเธอแล้ว! เขาไม่ได้เกลียดเธอ! เขาไม่ได้บล็อกเธอ! พระเจ้า! ขอบคุณสวรรค์!
ความคิดแรกที่พุ่งเข้ามาในหัวคือ...รูปโปรไฟล์! เธอรีบเปิดไปที่หน้าโปรไฟล์วีแชทของตัวเองเพื่อตรวจสอบว่าตั้งรูปอะไรเอาไว้เป็นหน้าเป็นตา แล้วก็แทบอยากจะร้องกรี๊ดออกมาเป็นภาษากรีกโบราณเมื่อเห็นตัวเองกำลังยิ้มแป้นแฉ่งเหมือนคนสติไม่สมประกอบ! ผมสีน้ำตาลยาวปานกลางที่อุตส่าห์ไดร์มาอย่างดีก็ดูยุ่งเหยิงเหมือนรังนกกระจอก! ดวงตาก็หรี่ลงเหมือนคนอดนอนมาสามวันสามคืน!
ไม่นะ! นี่ไม่ใช่รูปที่เธออยากให้ฉู่เฮ่าชวนจ้องมองในขณะที่เขากำลังพิมพ์ข้อความตอบเธอกลับมาเลยสักนิดเดียว! เขาต้องคิดว่าเธอเป็นยัยเพิ้งแน่ ๆ!
ซ่งจื่อหาน: พี่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ
เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วปานจรวด! ใช่ ๆ ๆ เธอรู้ว่าไม่ควรจะส่งข้อความไปก่อกวนเขาอีกแล้ว! เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่ากระตือรือร้นอยากจะคุยกับเธอมากมายอะไรเลยในการตอบกลับเมื่อกี้! แต่เธอไม่สนแล้ว! ไม่สนอะไรทั้งนั้น! ความจริงที่ว่าเขาอุตส่าห์ตอบกลับมา...แค่นั้นมันก็ดีเกินพอแล้วสำหรับหัวใจดวงน้อยๆ ของเธอในตอนนี้!
ฉู่เฮ่าชวน: เพิ่งจะห้าทุ่มเอง ยังไม่ถึงเวลาผับปิดซะหน่อย
เธอเหลือบตามองข้อความตอบกลับของเขาอย่างหมั่นไส้! ทำอย่างกับว่าฉันเป็นพวกขาเที่ยวกลางคืนอย่างนั้นแหละ!
ซ่งจื่อหาน: ฉันไม่ได้ไปดื่มเหล้าเข้าผับทุกคืนนี่คะ! จะได้รู้เวลาน่ะ
เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างหัวเสีย บ้าที่สุด! ทำไมเธอต้องทำตัวเหมือนเด็กขี้งอนด้วยนะ!
ฉู่เฮ่าชวน: ก็แค่สองสามครั้งต่อสัปดาห์เองไม่ใช่เหรอ? หรือจะไปเฉพาะตอนที่ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนนั่นว่างล่ะ
ซ่งจื่อหาน: ฮ่าฮ่า! ตลกมากเลยค่ะ!
เธอทำหน้ายู่ใส่หน้าจอโทรศัพท์ หนุ่มหน้าอ่อนที่เขาเหน็บแนมถึงก็คือหนุ่มโฮสต์หน้าใสวัยละอ่อนที่เธอเคยจ้างมาแกล้งทำเป็นแฟนของเธอกับฉู่ลี่เหยียนเพื่อจะทำให้พ่อหนุ่มกู้หยุนเฟิงเกิดอาการหึงหวงจนอกแตกตายนั่นเอง ตอนที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนยังไม่ค่อยจะลงตัวราบรื่นดีนัก มันไม่ได้ผลเท่าไหร่หรอกนะเอาจริง ๆ แล้ว และไอ้หนุ่มสองคนนั้นก็ทำให้ใครต่อใครเชื่อไม่ได้เลยสักนิดเดียวว่าพวกเขาเป็นแฟนของพวกเธอจริง ๆ น่ะ บทบาทนักแสดงยอดเยี่ยมแห่งปีคงต้องยกให้พวกเธอสองคนไปเลย
ฉู่เฮ่าชวน: แล้วเธอทำอะไรอยู่ถึงยังไม่ยอมหลับยอมนอน กำลังวางแผนสร้างเรื่องเดือดร้อนปวดหัวให้ใครอยู่อีกรึเปล่าล่ะ หืม?
หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะเมื่ออ่านข้อความล่าสุดของเขา! เขา...เขาพยายามจะจีบเธออยู่เหรอ? หรือว่าเธอแค่คิดไปเองคนเดียวอีกแล้ว?
ซ่งจื่อหาน: เรื่องเดือดร้อน...แบบไหนล่ะคะ
เธอรีบพิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว นิ้วแทบจะพันกัน
ฉู่เฮ่าชวน: ก็แล้วแต่ว่าเธออยากจะบอกแบบไหนให้ฉันฟังล่ะ
ซ่งจื่อหาน: พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่คะ ฉันงงไปหมดแล้วนะ
ฉู่เฮ่าชวน: เปล่านี่ ก็แค่ล้อเล่นเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย
ล้อเล่นงั้นเหรอ! เขาทำเหมือนเรื่องนี้เป็นเรื่องตลกงั้นเหรอ!
ซ่งจื่อหาน: อ้อ...โอเคค่ะ แล้วพี่กำลังทำอะไรอยู่เหรอคะตอนนี้?
ฉู่เฮ่าชวน: กำลังจะนอนแล้วล่ะ พอดีพรุ่งนี้มีประชุมสำคัญที่ต้องพรีเซนต์งานแต่เช้าเลย
ซ่งจื่อหาน: อ้อ ค่ะ
ความผิดหวังถาโถมเข้ามาในหัวใจอย่างจัง คืนนี้คงจะไม่ใช่คืนที่ฉู่เฮ่าชวนจะมาคุกเข่าสารภาพรักกับเธอใต้แสงจันทร์สินะ ฝันไปเถอะยัยจื่อหาน!
ฉู่เฮ่าชวน: ฝันดีนะ จื่อหาน อย่าคิดทำอะไรแผลง ๆ ให้มันมากนักล่ะ เข้าใจไหม
ซ่งจื่อหาน: นั่น...มันอาจจะยากหน่อยนะคะพี่ ก็คนมันสวยเลือกได้นี่นา
ฉู่เฮ่าชวน: ฉันรู้ดีเลยล่ะ :)
ซ่งจื่อหาน: หมายความว่ายังไงกันคะ ที่ว่าพี่รู้น่ะ
ฉู่เฮ่าชวน: แล้วเธอคิดว่ามันหมายความว่ายังไงล่ะ? หืม?
ซ่งจื่อหาน: ฉันไม่ใช่เด็กอายุ 16 อีกต่อไปแล้วนะคะ ที่จะมาเล่นเกมเดาใจอะไรแบบนี้
ฉู่เฮ่าชวน: ดีใจจังที่ได้ยินแบบนั้น
ซ่งจื่อหาน: เรื่องคืนนั้น...มันเป็นความผิดพลาดจริง ๆ นะคะ!
เธอโกหก! โกหกคำโต! มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยสักนิดเดียว! มันเป็นความตั้งใจล้วน ๆ!
ฉู่เฮ่าชวน: ฉันรู้ เธอบอกฉันไปแล้วรอบหนึ่งไม่ใช่เหรอ
ซ่งจื่อหาน: ตอนนั้นฉันสับสนน่ะค่ะ ว่าเตียงใครเป็นเตียงใคร มันมืดมากเลยมองไม่เห็น!
ฉู่เฮ่าชวน: แน่ใจนะว่าสับสนจริง ๆ น่ะ
ซ่งจื่อหาน: หมายความว่ายังไงกันคะ แน่ใจเรื่องอะไร
ฉู่เฮ่าชวน: ฝันดีนะ
ซ่งจื่อหาน: เราควรจะคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังสักครั้งนะคะพี่เฮ่าชวน ฉันไม่อยากให้พี่มาคิดอะไรที่พี่ไม่ควรจะคิดเลยจริง ๆ นะ
ฉู่เฮ่าชวน: มันก็นานมามากแล้วนะจื่อหาน ฉันน่ะ...ลืมมันไปหมดแล้วล่ะ
ลืมไปแล้วงั้นเหรอ!
ซ่งจื่อหาน: ก็ได้ค่ะ ฝันดีเช่นกันค่ะ
“คืนนี้เราไม่เล่นไพ่นกกระจอกกันแล้วนะ” ฉู่ลี่เหยียนเอ่ยขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งพร้อมหน้ากันรอบโต๊ะอาหารเย็นที่บ้านของพ่อแม่เธอ หญิงสาวจงใจพูดประโยคนี้กับฉู่เฮ่าชวนโดยตรง เขาจึงแกล้งทำหน้าเบ้ใส่เธออย่างหมั่นไส้“ก็ได้ แล้วเธออยากจะเล่นอะไรแทนล่ะ” เขาตอบรับ พลางแอบจับมือของซ่งจื่อหานไว้ใต้โต๊ะอย่างแนบเนียน“ฉันยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ” ฉู่ลี่เหยียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปมองทางเจิ้งลี่ซา “แล้วคุณล่ะคะ อยากจะเล่นอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า”“ใคร...ใครเหรอคะ ฉันเหรอคะ” เจิ้งลี่ซาหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างประหม่า “ฉัน...ฉันแค่ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วย ประหลาดใจอยู่เหมือนกันนะคะที่ได้รับเชิญมาในวันนี้” เธอมองมาทางซ่งจื่อหานอย่างเกรงใจ “ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าคุณจะรู้สึกยังไงที่ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยน่ะค่ะ”“โอ้! ฉันไม่เป็นอะไรเลยค่ะ!” ซ่งจื่อหานหัวเราะออกมาเบา ๆ “คุณเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะคะ แล้วคุณก็นิสัยดีกับฉันเสมอด้วย ฉันดีใจมากเลยค่ะที่คุณมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ลี่เหยียนกับฉันก็กำลังต้องการผู้หญิงอีกสักคนมาเข้ากลุ่มอยู่พอดีเลยค่ะ”“แหม...ขอบ
“แล้ว...เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์บ้างไหมล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังนั่งรอให้ศิลปินวงเปิดได้เริ่มทำการแสดงซ่งจื่อหานหัวเราะออกมาเบา ๆ “ที่พี่อุตส่าห์ลงทุนพาฉันบินมาถึงเซี่ยงไฮ้ในเดตแรกอย่างเป็นทางการของพวกเราน่ะเหรอคะ ก็ต้องเซอร์ไพรส์สิคะ นี่มันเป็นเดตแรกที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมาในชีวิตเลยนะคะ ฉันไม่แน่ใจเลยจริง ๆ นะว่าต่อจากนี้ไปจะมีผู้ชายคนอื่นคนไหนที่สามารถจะทำเดตแรกให้มันยอดเยี่ยมไปกว่านี้ได้อีกน่ะ”“ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะไม่มีผู้ชายคนอื่นคนไหนที่จะมีโอกาสได้ทำอย่างนั้นหรอกนะ” เขาพูดจบก็หันหน้าหนีไปทางอื่นในทันทีหัวใจของหญิงสาวแทบจะระเบิดออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้นยินดีกับคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้ เธอตกใจระคนดีใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกนี่เขา...นี่เขาแทบจะขอเธอแต่งงานอยู่แล้วนะ!อืมมม...ก็อาจจะไม่ใช่เชิงนั้นเสียทีเดียวหรอก เธออยากจะรีบส่งข้อความไปหาฉู่ลี่เหยียนเพื่อนรักเสียเดี๋ยวนี้เลยจริง ๆ แล้วก็อยากจะถามว่าเพื่อนของเธอจะคิดยังไงกับความคิดเห็นของพี่ชายตัวเองเมื่อกี้นี้บ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่าในตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสักเ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะคะว่าพี่จะยอมลงทุนพาฉันบินมาถึงเซี่ยงไฮ้เพื่อจะมาดูคอนเสิร์ตของเซวียจือเชียนในวันเกิดของฉันโดยเฉพาะ” ซ่งจื่อหานมองใบหน้าคมคายของฉู่เฮ่าชวนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนตื้นตันใจอย่างสุดซึ้ง “พี่น่ารักมากเลยค่ะ น่ารักที่สุดในโลกเลย”“ก็แค่...ลี่เหยียนเขารู้สึกแย่น่ะ ที่ต้องพลาดฉลองวันเกิดของเธอในปีนี้ แล้วยัยนั่นก็เลยคิดว่านี่คงจะเป็นความคิดที่ดี” ฉู่เฮ่าชวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แววตากลับทอประกายขี้เล่นใช่สิ...ลี่เหยียนติดไปทริปท่องยุโรปกับนายกู้หยุนเฟิงสุดหล่อของหล่อน เลยไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดกับฉันเหมือนอย่างทุกปี“ถ้าอย่างนั้นที่พี่พาฉันมาที่นี่ก็เพราะว่าทำตามคำสั่งของลี่เหยียนอย่างนั้นเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่ว พยายามจะซ่อนความผิดหวังเล็ก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจเอาไว้“ที่ฉันอุตส่าห์บินพาเธอมาตั้งไกลถึงที่นี่ เพียงเพราะว่ายัยน้องสาวตัวแสบของฉันรู้สึกแย่อย่างนั้นเหรอ” ฉู่เฮ่าชวนเอ่ยถามกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ หืมมม...จื่อหาน”“ฉัน...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอเม้มริม
เธอเผลอหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้นเมื่อเห็นว่ามีสายวิดีโอคอลเรียกเข้าจากฉู่เฮ่าชวนปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ในทันที“ฉันบอกว่า ‘อาจจะ’ นะคะ ไม่ใช่ ‘ใช่’ เสียหน่อย!” เธอหัวเราะคิกคักออกมาอย่างอารมณ์ดีขณะกดรับสาย“ฉันอยากเห็นเธอ” ดวงตาคมกริบมองตรงเข้ามาในหน้าจอโทรศัพท์ และเธอก็บอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามจะมองให้เห็นว่าเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างที่เพิ่งจะบอกเขาไปจริง ๆ หรือไม่ “แต่...ฉันมองเธอไม่ค่อยเห็นชัดเลยแฮะ” เขาครางออกมาอย่างขัดใจ“พี่มองไม่เห็นหน้าฉันเหรอคะ”“ฉันเห็นหน้าสวย ๆ ของเธอชัดเจนเลยล่ะ แต่ไม่เห็นอย่างอื่นเลยสักนิด”“แล้วพี่อยากจะเห็นอะไรของฉันอีกล่ะคะ”“อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” เขาหัวเราะร่วนออกมาอย่างอารมณ์ดี “และก็...ทุกสิ่งทุกอย่างเลยด้วย!”“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ฉันได้เห็นพี่บ้างสิคะ” เธอลื่นตัวลงนอนแผ่บนเตียงกว้างตามเดิม แล้วเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างสบายอารมณ์“ก็ได้ ตามใจเธอเลย”เขาลดกล้องโทรศัพท์มือถือลงต่ำ แล้วก็โชว์ให้เธอได้เห็นแก่นกายร้อนระอุที่กำลังแข็งขืนชูชันขึ้นอย่างท้าทาย ซึ่งถูกกอบกุมไว้ด้วยมือขวาของ
“ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ มันก็คงจะยากอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ที่จะต้องนอนกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันความสัมพันธ์ของเราได้อย่างชัดเจนจริง ๆ น่ะ”ซ่งจื่อหานถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ถ้าให้พูดกันตามตรงเลยนะ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงใจง่ายราคาถูกอยู่หน่อย ๆ เลยล่ะ” หญิงสาวถอดเสื้อยืดตัวเก่าออก แล้วดึงเสื้อครอปสีน้ำเงินกรมท่าตัวใหม่มาสวมใส่แทน “ฉันหมายถึง...อย่าเข้าใจฉันผิดนะ...ฉันสนุกกับเซ็กซ์ที่ได้ทำกับพี่เฮ่าชวนมากจริง ๆ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่าเหมือนกัน แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนั้น ฉันเคยคิดมาตลอดนะว่า ถ้าผู้ชายสามารถจะมีเซ็กซ์กับใครก็ได้ตอนที่ยังไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจัง ฉันก็ควรจะทำแบบนั้นได้เหมือนกันกับเขาสิ แต่มันก็แค่...รู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ เท่านั้นเอง”“ฉันว่าที่เธอรู้สึกแบบนั้นมันก็เป็นเพราะว่าเธออยากจะคบกับพี่เฮ่าชวนมาก ๆ ต่างหากล่ะ ดังนั้นตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในช่วงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของความสัมพันธ์ยังไงล่ะ”“ใช่” ซ่งจื่อหานพยักหน้ารับขณะดึงกางเกงยีนส์ตัวเก่งขึ้นมาสวมใส่ “ฉั
“ฉันจะไปฆ่ากู้หยุนเฟิงทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เลย! เขากล้าคิดแผนการบ้า ๆ นี่ แล้วก็ยังไม่ยอมปริปากบอกอะไรฉันเลยสักคำเดียว!” ฉู่ลี่เหยียนอุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด หลังจากที่ซ่งจื่อหานเพิ่งจะเล่าเรื่องราวค่ำคืนอันเร่าร้อนของเธอกับฉู่เฮ่าชวนให้ฟังจนจบ“มันบ้ามาก ๆ เลยเนอะ ใช่ไหมล่ะ” ซ่งจื่อหานยิ้มกว้างให้เพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี ในที่สุดเธอกับพี่เฮ่าชวนก็ได้เปิดอกคุยกันอย่างซื่อสัตย์จริงใจเสียที จนเธอไม่สามารถจะปิดบังความตื่นเต้นยินดีที่เอ่อล้นอยู่ในใจเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว“อืมมม ฉันว่ามันยิ่งกว่าคำว่าบ้าเสียอีกนะ” ลี่เหยียนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนของซ่งจื่อหาน ก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะ ว่าพี่เฮ่าชวนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเธอน่ะ ฉันรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเลยที่พี่ชายฉันจะเป็นพวกชอบควบคุมบังคับใครต่อใครได้จริง ๆ น่ะ”“อืมมม แต่บางทีเขาอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้นะ เชื่อฉันสิ” ซ่งจื่อหานแกล้งทำเป็นตัวสั่นระริกอย่างหวาดกลัว “เธอควรจะได้เห็นกับตาตัวเองจริง ๆ นะ ตอนที่เขาจับฉันพาดลงบนเข่าของเขาน่ะ”“ต้องยอมรับตามตรงเลยนะ