로그인เธอปาโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงอย่างหัวเสีย ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงอย่างรวดเร็ว รู้สึกกระสับกระส่ายจนอยู่ไม่สุข
เขาหมายความว่ายังไงกันแน่ ที่ว่าลืมไปแล้วน่ะ! เขายังโกรธเธอเรื่องนั้นอยู่รึเปล่า หรือว่าเขาพยายามจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาตัดใจจากเธอไปแล้วจริง ๆ และพยายามจะบอกให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีความหวังอะไรกับเขาอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นเหรอ
เธอครางออกมาอย่างหงุดหงิดขณะเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปยังห้องครัว และก็ได้ยินเสียงฉู่ลี่เหยียนกับกู้หยุนเฟิงกำลังกระซิบกระซาบและทำอะไรต่อมิอะไรกุ๊กกิ๊กกันอยู่ในห้องนั่งเล่น อารมณ์หึงหวงและน้อยใจมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันที
“ไปหาห้องส่วนตัวทำอะไรกันไปเลยไป!” เธอตะโกนเสียงดังเข้าไปในห้องนั่งเล่นอย่างฉุนเฉียว รู้สึกหงุดหงิดและโมโหคนทั้งสองคนนั้นขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“จื่อหาน?” เสียงฉู่ลี่เหยียนฟังดูประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเพื่อนรักลุกจากโซฟาแล้วรีบเดินเข้ามาในครัวอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรไปรึเปล่าจ๊ะเพื่อนรัก”
“ฉันไม่เป็นไรสักหน่อย แค่กำลังสงสัยอยู่น่ะสิว่าทำไมพวกเธอถึงได้คิดว่าการมานั่งพลอดรักกันในห้องนั่งเล่นส่วนกลางของพวกเรามันเป็นเรื่องที่โอเคนักหรือไง” เธอพูดอย่างไม่สบอารมณ์ขณะเปิดตู้เย็นหาอะไรเย็น ๆ ดื่มให้ชื่นใจ “แฟนเธอน่ะไม่ใช่เศรษฐีระดับพันล้านหรือไงกันยะ ทำไมพวกเธอถึงต้องมาทำตัวเหมือนพวกวัยรุ่นคึกคะนองแอบมีอะไรกันในห้องนั่งเล่นของพวกเราอยู่ได้”
“เราไม่ได้กำลังพลอดรักกันสักหน่อยนะ” ฉู่ลี่เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แฝงไปด้วยความขบขัน “เรากำลังนั่งดูหนังกันอยู่ต่างหากล่ะ”
“แล้วทำไมฉันถึงได้ยินเสียงกระซิบกระซาบกับเสียงจ๊วบจ๊าบดังออกมาล่ะยะ”
“เธอได้ยินเสียงจูบด้วยเหรอ” ฉู่ลี่เหยียนเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างแปลกใจ “เมื่อกี้หยุนเฟิงเขาแค่ขอให้ฉันช่วยหยิบป๊อปคอร์นให้ แล้วฉันก็แค่บอกให้เขาไปหยิบเองก็เท่านั้นแหละ” เธออธิบายแล้วพิจารณาใบหน้าบูดบึ้งของเพื่อนอย่างละเอียด “นี่...เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่จื่อหาน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ”
“เปล่าสักหน่อย!” ซ่งจื่อหานเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยความอับอายที่เผลออาละวาดใส่เพื่อนไป “ขอโทษทีนะ พอดีฉัน...อารมณ์ไม่ค่อยดีนิดหน่อย”
“ไม่มีอะไรจะต้องขอโทษเลยสักนิด” ฉู่ลี่เหยียนยังคงยืนอยู่ที่เดิม กอดอกมองเพื่อนอย่างไม่ยอมแพ้ “เธอเสียใจเรื่องพี่เฮ่าชวนใช่ไหมล่ะ บอกความจริงฉันมานะ”
“เขามันก็แค่ไอ้คนงี่เง่าคนหนึ่งเท่านั้นแหละ!” ซ่งจื่อหานครางออกมาอีกครั้งขณะหยิบนมช็อกโกแลตเย็นเจี๊ยบออกมาจากตู้เย็น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมเขาถึงได้มีอิทธิพลกับความรู้สึกของฉันมากขนาดนี้ก็ไม่รู้!”
“ก็เพราะว่าเธอชอบเขายังไงล่ะยายบ๊อง” ฉู่ลี่เหยียนยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู
“อืม...ก็อาจจะจริงของเธอนะ” เธอรินนมใส่แก้วทรงสูงจนเกือบจะล้น แล้วก็เริ่มมองหาคุกกี้หรือขนมอะไรก็ได้ที่หวาน ๆ มากินคู่กัน ท้องไส้ของเธอในตอนนี้มันปั่นป่วนไปหมด และร่างกายก็กำลังต้องการน้ำตาลอย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
“ไม่เป็นไรหรอกน่าจื่อหาน” ลี่เหยียนพูดต่ออย่างใจเย็น “เขาก็แค่งี่เง่าไปหน่อยเท่านั้นแหละ เดี๋ยวพอเขาคิดได้ เขาก็จะลืมเรื่องจูบติงต๊องนั่นไปเองนั่นแหละน่า เชื่อฉันสิ”
“มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิลี่เหยียน” ซ่งจื่อหานพูดเสียงเบาหวิวขณะหยิบกล่องขนมปังกรอบแท่งยาวเคลือบช็อกโกแลตนมยี่ห้อดังนำเข้าจากต่างประเทศสุดโปรดสีม่วงพาสเทลออกมาจากตู้เก็บขนม มันเป็นของแพงระยับที่เธอจะซื้อให้รางวัลตัวเองเฉพาะในโอกาสพิเศษจริง ๆ เท่านั้น มันแพงกว่าคุกกี้ทั่วไปตามท้องตลาดหลายเท่าตัวนัก เพราะว่าเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ แต่เธอก็ชอบรสชาติของแท่งบิสกิตเคลือบช็อกโกแลตนมยี่ห้อนี้มากเป็นพิเศษจริงๆ มันคุ้มค่าที่จะยอมหมดตัวเพื่อมัน
“หมายความว่ายังไงกันแน่ ที่ว่ามันไม่ใช่แค่นั้นน่ะ” ฉู่ลี่เหยียนขยับมายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง พอเธอหันกลับไป ดวงตาสีนิลของเพื่อนรักก็กำลังจ้องมองมาอย่างจับผิด “หรือว่า...เธอไม่ได้มีอะไรกับแค่พี่เฮ่าหรานคนเดียวใช่ไหม!”
“อะไรนะ!” เสียงของเธอสูงขึ้นสามระดับ กรามแทบจะค้างเติ่งอยู่ตรงนั้น! “บ้าน่า! ไม่แน่นอนที่สุด! ฉันไม่ได้นอนกับพี่เฮ่าหรานแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์! เธอคิดเรื่องบ้า ๆ แบบนั้นออกมาได้ยังไงกัน!”
“ก็เธอทำตัวแปลก ๆ นี่นาช่วงนี้” ฉู่ลี่เหยียนขมวดคิ้วมุ่นยิ่งกว่าเดิม “หรือว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ฉันยังไม่รู้อีกใช่ไหมจื่อหาน บอกความลับของเธอมาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมกระไอของกู้หยุนเฟิงดังขึ้นจากทางเข้าประตูครัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย! “เอ่อ...คือ...ผมกดหยุดหนังเอาไว้แล้วนะครับ แต่ตอนนี้ผมกำลังสงสัยอยู่ว่า ผมควรจะรีบกลับไปเลยดีไหม” เขามองมาที่ซ่งจื่อหานสลับกับฉู่ลี่เหยียนอย่างพิจารณา “ดูเหมือนว่าพวกคุณสองคนคงจะต้องเปิดอกคุยกันยาวเลยนะครับคืนนี้”
“ขอบคุณมากค่ะ” ซ่งจื่อหานพยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้เขาอย่างอ่อนแรง
“ไม่นะ!” ฉู่ลี่เหยียนขมวดคิ้วแล้วหันไปมองเพื่อนรักอย่างเอาเรื่อง “คุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละค่ะ!”
“แน่ใจเหรอครับ” เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “ผมไม่ว่าอะไรเลยนะครับถ้าจะต้องกลับไปก่อน และดูเหมือนว่าจื่อหานเองก็คงอยากจะคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวจริง ๆ ด้วย” เขามองมาที่เธออีกครั้งอย่างมีความหมาย
ซ่งจื่อหานยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ หัวใจแทบจะหยุดเต้นไปในทันที เธอไม่กล้ามองหน้าฉู่ลี่เหยียนเลยสักนิด กลัวว่าเพื่อนรักจะใจอ่อนแล้วบอกให้กู้หยุนเฟิงอยู่ต่อ ซึ่งนั่นมันก็หมายความว่าเพื่อนเลือกเขาแทนที่จะเป็นเธออย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งมันไม่โอเคเลยสักนิดเดียว เธอคือเพื่อนสนิทที่สุดนะ เธอสมควรจะต้องได้เวลาของเพื่อนก่อนสิ ถ้าฉู่ลี่เหยียนเกิดบอกให้เขาอยู่ต่อจริง ๆ ล่ะก็ เธอคงจะต้องเสียใจมาก ๆ ๆ ๆ อย่างแน่นอน!
“คืนนี้เราไม่เล่นไพ่นกกระจอกกันแล้วนะ” ฉู่ลี่เหยียนเอ่ยขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งพร้อมหน้ากันรอบโต๊ะอาหารเย็นที่บ้านของพ่อแม่เธอ หญิงสาวจงใจพูดประโยคนี้กับฉู่เฮ่าชวนโดยตรง เขาจึงแกล้งทำหน้าเบ้ใส่เธออย่างหมั่นไส้“ก็ได้ แล้วเธออยากจะเล่นอะไรแทนล่ะ” เขาตอบรับ พลางแอบจับมือของซ่งจื่อหานไว้ใต้โต๊ะอย่างแนบเนียน“ฉันยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ” ฉู่ลี่เหยียนตอบอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันไปมองทางเจิ้งลี่ซา “แล้วคุณล่ะคะ อยากจะเล่นอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า”“ใคร...ใครเหรอคะ ฉันเหรอคะ” เจิ้งลี่ซาหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยอย่างประหม่า “ฉัน...ฉันแค่ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มาอยู่ที่นี่ด้วย ประหลาดใจอยู่เหมือนกันนะคะที่ได้รับเชิญมาในวันนี้” เธอมองมาทางซ่งจื่อหานอย่างเกรงใจ “ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าคุณจะรู้สึกยังไงที่ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยน่ะค่ะ”“โอ้! ฉันไม่เป็นอะไรเลยค่ะ!” ซ่งจื่อหานหัวเราะออกมาเบา ๆ “คุณเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะคะ แล้วคุณก็นิสัยดีกับฉันเสมอด้วย ฉันดีใจมากเลยค่ะที่คุณมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ลี่เหยียนกับฉันก็กำลังต้องการผู้หญิงอีกสักคนมาเข้ากลุ่มอยู่พอดีเลยค่ะ”“แหม...ขอบ
“แล้ว...เธอรู้สึกเซอร์ไพรส์บ้างไหมล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นขณะที่กำลังนั่งรอให้ศิลปินวงเปิดได้เริ่มทำการแสดงซ่งจื่อหานหัวเราะออกมาเบา ๆ “ที่พี่อุตส่าห์ลงทุนพาฉันบินมาถึงเซี่ยงไฮ้ในเดตแรกอย่างเป็นทางการของพวกเราน่ะเหรอคะ ก็ต้องเซอร์ไพรส์สิคะ นี่มันเป็นเดตแรกที่ดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีมาในชีวิตเลยนะคะ ฉันไม่แน่ใจเลยจริง ๆ นะว่าต่อจากนี้ไปจะมีผู้ชายคนอื่นคนไหนที่สามารถจะทำเดตแรกให้มันยอดเยี่ยมไปกว่านี้ได้อีกน่ะ”“ฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะไม่มีผู้ชายคนอื่นคนไหนที่จะมีโอกาสได้ทำอย่างนั้นหรอกนะ” เขาพูดจบก็หันหน้าหนีไปทางอื่นในทันทีหัวใจของหญิงสาวแทบจะระเบิดออกมาจากอกด้วยความตื่นเต้นยินดีกับคำพูดของเขาเมื่อครู่นี้ เธอตกใจระคนดีใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูกนี่เขา...นี่เขาแทบจะขอเธอแต่งงานอยู่แล้วนะ!อืมมม...ก็อาจจะไม่ใช่เชิงนั้นเสียทีเดียวหรอก เธออยากจะรีบส่งข้อความไปหาฉู่ลี่เหยียนเพื่อนรักเสียเดี๋ยวนี้เลยจริง ๆ แล้วก็อยากจะถามว่าเพื่อนของเธอจะคิดยังไงกับความคิดเห็นของพี่ชายตัวเองเมื่อกี้นี้บ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่าในตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสักเ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะคะว่าพี่จะยอมลงทุนพาฉันบินมาถึงเซี่ยงไฮ้เพื่อจะมาดูคอนเสิร์ตของเซวียจือเชียนในวันเกิดของฉันโดยเฉพาะ” ซ่งจื่อหานมองใบหน้าคมคายของฉู่เฮ่าชวนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจระคนตื้นตันใจอย่างสุดซึ้ง “พี่น่ารักมากเลยค่ะ น่ารักที่สุดในโลกเลย”“ก็แค่...ลี่เหยียนเขารู้สึกแย่น่ะ ที่ต้องพลาดฉลองวันเกิดของเธอในปีนี้ แล้วยัยนั่นก็เลยคิดว่านี่คงจะเป็นความคิดที่ดี” ฉู่เฮ่าชวนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่แววตากลับทอประกายขี้เล่นใช่สิ...ลี่เหยียนติดไปทริปท่องยุโรปกับนายกู้หยุนเฟิงสุดหล่อของหล่อน เลยไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดกับฉันเหมือนอย่างทุกปี“ถ้าอย่างนั้นที่พี่พาฉันมาที่นี่ก็เพราะว่าทำตามคำสั่งของลี่เหยียนอย่างนั้นเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเสียงแผ่ว พยายามจะซ่อนความผิดหวังเล็ก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจเอาไว้“ที่ฉันอุตส่าห์บินพาเธอมาตั้งไกลถึงที่นี่ เพียงเพราะว่ายัยน้องสาวตัวแสบของฉันรู้สึกแย่อย่างนั้นเหรอ” ฉู่เฮ่าชวนเอ่ยถามกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก “แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ หืมมม...จื่อหาน”“ฉัน...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ” เธอเม้มริม
เธอเผลอหัวเราะออกมาอย่างสุดจะกลั้นเมื่อเห็นว่ามีสายวิดีโอคอลเรียกเข้าจากฉู่เฮ่าชวนปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ในทันที“ฉันบอกว่า ‘อาจจะ’ นะคะ ไม่ใช่ ‘ใช่’ เสียหน่อย!” เธอหัวเราะคิกคักออกมาอย่างอารมณ์ดีขณะกดรับสาย“ฉันอยากเห็นเธอ” ดวงตาคมกริบมองตรงเข้ามาในหน้าจอโทรศัพท์ และเธอก็บอกได้เลยว่าเขากำลังพยายามจะมองให้เห็นว่าเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอย่างที่เพิ่งจะบอกเขาไปจริง ๆ หรือไม่ “แต่...ฉันมองเธอไม่ค่อยเห็นชัดเลยแฮะ” เขาครางออกมาอย่างขัดใจ“พี่มองไม่เห็นหน้าฉันเหรอคะ”“ฉันเห็นหน้าสวย ๆ ของเธอชัดเจนเลยล่ะ แต่ไม่เห็นอย่างอื่นเลยสักนิด”“แล้วพี่อยากจะเห็นอะไรของฉันอีกล่ะคะ”“อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ” เขาหัวเราะร่วนออกมาอย่างอารมณ์ดี “และก็...ทุกสิ่งทุกอย่างเลยด้วย!”“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ฉันได้เห็นพี่บ้างสิคะ” เธอลื่นตัวลงนอนแผ่บนเตียงกว้างตามเดิม แล้วเอนหลังพิงหัวเตียงอย่างสบายอารมณ์“ก็ได้ ตามใจเธอเลย”เขาลดกล้องโทรศัพท์มือถือลงต่ำ แล้วก็โชว์ให้เธอได้เห็นแก่นกายร้อนระอุที่กำลังแข็งขืนชูชันขึ้นอย่างท้าทาย ซึ่งถูกกอบกุมไว้ด้วยมือขวาของ
“ฉันเข้าใจความรู้สึกเธอนะ มันก็คงจะยากอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ที่จะต้องนอนกับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันความสัมพันธ์ของเราได้อย่างชัดเจนจริง ๆ น่ะ”ซ่งจื่อหานถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ถ้าให้พูดกันตามตรงเลยนะ ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงใจง่ายราคาถูกอยู่หน่อย ๆ เลยล่ะ” หญิงสาวถอดเสื้อยืดตัวเก่าออก แล้วดึงเสื้อครอปสีน้ำเงินกรมท่าตัวใหม่มาสวมใส่แทน “ฉันหมายถึง...อย่าเข้าใจฉันผิดนะ...ฉันสนุกกับเซ็กซ์ที่ได้ทำกับพี่เฮ่าชวนมากจริง ๆ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองไร้ค่าเหมือนกัน แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนั้น ฉันเคยคิดมาตลอดนะว่า ถ้าผู้ชายสามารถจะมีเซ็กซ์กับใครก็ได้ตอนที่ยังไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจัง ฉันก็ควรจะทำแบบนั้นได้เหมือนกันกับเขาสิ แต่มันก็แค่...รู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ เท่านั้นเอง”“ฉันว่าที่เธอรู้สึกแบบนั้นมันก็เป็นเพราะว่าเธออยากจะคบกับพี่เฮ่าชวนมาก ๆ ต่างหากล่ะ ดังนั้นตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในช่วงครึ่ง ๆ กลาง ๆ ของความสัมพันธ์ยังไงล่ะ”“ใช่” ซ่งจื่อหานพยักหน้ารับขณะดึงกางเกงยีนส์ตัวเก่งขึ้นมาสวมใส่ “ฉั
“ฉันจะไปฆ่ากู้หยุนเฟิงทิ้งเสียเดี๋ยวนี้เลย! เขากล้าคิดแผนการบ้า ๆ นี่ แล้วก็ยังไม่ยอมปริปากบอกอะไรฉันเลยสักคำเดียว!” ฉู่ลี่เหยียนอุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด หลังจากที่ซ่งจื่อหานเพิ่งจะเล่าเรื่องราวค่ำคืนอันเร่าร้อนของเธอกับฉู่เฮ่าชวนให้ฟังจนจบ“มันบ้ามาก ๆ เลยเนอะ ใช่ไหมล่ะ” ซ่งจื่อหานยิ้มกว้างให้เพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี ในที่สุดเธอกับพี่เฮ่าชวนก็ได้เปิดอกคุยกันอย่างซื่อสัตย์จริงใจเสียที จนเธอไม่สามารถจะปิดบังความตื่นเต้นยินดีที่เอ่อล้นอยู่ในใจเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้ว“อืมมม ฉันว่ามันยิ่งกว่าคำว่าบ้าเสียอีกนะ” ลี่เหยียนทรุดตัวลงนั่งบนเตียงนอนของซ่งจื่อหาน ก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมาอย่างอดไม่ได้ “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ นะ ว่าพี่เฮ่าชวนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้กับเธอน่ะ ฉันรู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มีทางเลยที่พี่ชายฉันจะเป็นพวกชอบควบคุมบังคับใครต่อใครได้จริง ๆ น่ะ”“อืมมม แต่บางทีเขาอาจจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ได้นะ เชื่อฉันสิ” ซ่งจื่อหานแกล้งทำเป็นตัวสั่นระริกอย่างหวาดกลัว “เธอควรจะได้เห็นกับตาตัวเองจริง ๆ นะ ตอนที่เขาจับฉันพาดลงบนเข่าของเขาน่ะ”“ต้องยอมรับตามตรงเลยนะ







