แชร์

ตอนที่ 11 จรรยาบรรณ

ผู้เขียน: ฝ้ายสีคราม
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-30 08:49:17

ห้องประชุมทีมแพทย์ ในโรงพยาบาลเอสทีฮอตปิตอล บรรยากาศเคร่งเครียดและต่างก็ให้ความสำคัญกับหัวข้อในวันนี้

ภาพ MRI สมองของคนไข้ถูกฉายขึ้นบนจอ LED ขนาดใหญ่ หลายคนจดบันทึก บางคนเริ่มออกความเห็นเสียงเบาๆ

ศัลยแพทย์ประสาทวิทยา พญ.มาริสา กำลังอธิบายถึงจุดเสี่ยงของเนื้องอกขนาดเล็กใกล้เส้นประสาทควบคุมการเคลื่อนไหวใบหน้า

“ในตำแหน่งนี้ หากมีอาการบวมหลังผ่าตัด คนไข้จะมีโอกาสกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงสูงถึง 20% แม้จะเป็นแค่ชั่วคราวก็ตามค่ะ” เธอพูดเสียงหนักแน่น ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอีกฝั่งของโต๊ะ

นายแพทย์ภีมวัชนั่งพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งถือปากกา เขาไม่ได้จดอะไร เพียงแต่มองภาพสมองบนหน้าจอด้วยสายตานิ่งลึก

ในตอนนั้นผู้อำนวยการโรงพยาบาลเอ่ยขึ้น

“เคสนี้คนไข้สำคัญมาก เป็นนักแสดงระดับประเทศ ทีมผู้จัดการของเขาและญาติต้องการความมั่นใจว่า หลังผ่าตัดจะไม่มีผลกระทบต่อการใช้ใบหน้าและการแสดงเลย”

สิ้นประโยคนั้นก็ตามมาด้วยความเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร

ทุกคนหันมามองเขา ศัลยแพทย์ที่ขึ้นชื่อว่ามีฝีมือที่สุดในทีม และมีประสบการณ์กับเคสซับซ้อน

ภีมวัชวางปากกาลงบนโต๊ะ สายตานิ่งเฉียบก่อนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบชัด

“ผมเข้าใจดีว่าคนไข้เป็นบุคคลสาธารณะ และอาชีพของเขาต้องใช้ใบหน้าในการทำงาน แต่ในฐานะแพทย์ ผมไม่สามารถ ‘รับรอง’ อะไรได้ทั้งนั้น” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“แต่ว่า...” ผู้อำนวยการทำท่าจะพูดแทรก แต่เขาก็ไม่หยุด

“แม้จะเป็นเคสที่เราควบคุมได้ทั้งหมดในทางเทคนิค แต่การผ่าตัดคือการแทรกแซงการทำงานของร่างกายโดยตรง ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ 100%” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ก่อนจะกล่าวต่อ

“ดังนั้น ถ้าคุณต้องการใครสักคนที่กล้ารับประกันผลหลังผ่าตัดว่า ทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ ผมไม่ใช่คนคนนั้น” เขาหยุดสบตากับผู้อำนวยการ

ทั้งห้องเงียบกริบ

พญ.มาริสาก้มหน้ากลั้นยิ้ม  เธอคุ้นเคยกับน้ำเสียงเด็ดขาดนี้ดี ในขณะที่ผู้อำนวยการถอนหายใจแล้วพยักหน้าเบาๆ

“เข้าใจครับหมอภีม งั้นเราจะเรียกทีมผู้จัดการเข้ามารับฟังตรงๆ อีกที”

ภีมวัชพยักหน้าช้าๆ ก่อนลุกขึ้นอย่างไม่รีบร้อน

“ขออนุญาตครับ ผมมีเคสผ่าตัดอีกคิวช่วงบ่าย”

พูดจบแล้วเขาก็เดินออกจากห้องประชุม ทิ้งไว้เพียงความเงียบ และความจริงที่ไม่มีใครกล้าพูดนอกจากเขา

หมอไม่ได้มีเพื่อรักษา “ความคาดหวัง” ของญาติคนไข้ เขาแค่รักษา “ชีวิต” และผลที่ตามมาก็ขึ้นกับสภาพร่างกายของแต่ละคน ไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่าจะหายสนิท

ที่ห้องพักแพทย์ ประตูถูกเคาะเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวคนหนึ่งจะเปิดเข้ามาโดยไม่รอคำอนุญาต

เธออยู่ในชุดยูนิฟอร์มพยาบาล แต่รูปร่างสะดุดตา ทรงผมม้วนลอนอ่อนๆ อย่างตั้งใจแต่ง ใบหน้าสวยจัดชวนมองจนไม่เหมือนพยาบาลเวรทั่วไป

“อาจารย์หมอภีมคะ” เสียงหวานเอื้อนเอ่ย พร้อมกับถาดกาแฟในมือ

“คุณเป็นใคร” ชายหนุ่มที่นั่งอ่านแฟ้มผู้ป่วยอยู่หลังโต๊ะเงยหน้าขึ้น คิ้วขมวดเล็กน้อย

“พลอยค่ะ ทำงานอยู่แผนกอายุรกรรม” เธอยิ้มหวาน ดวงตากลมโตเป็นประกาย

“พลอยเห็นหมอทำงานหนักเลยอยากเอากาแฟมาฝากค่ะ ซื้อเองเลยนะคะ ไม่ใช่จากเครื่องกด”

“ผมไม่ได้สั่งกาแฟ” เขาเลื่อนสายตาไปที่ถ้วยกาแฟ

“ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าเป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากใจ” เธอทำท่าจะวางแก้วลงบนโต๊ะ แต่เขายกมือขึ้นห้ามไว้ก่อน

“เอากลับไปเถอะครับ”

เธอชะงัก แล้วมองเขาด้วยแววตาที่น้อยใจ

“ผมก็ไม่รับอาหารหรือเครื่องดื่มจากคนนอกทีม” น้ำเสียงของเขาเรียบ เฉียบ และเยือกเย็นจนบรรยากาศเหมือนอุณหภูมิลดลงทันที พยาบาลสาวยิ้มเก้อ แต่ยังไม่ยอมถอย

“พลอยแค่ชื่นชมอาจารย์น่ะค่ะ ไม่ได้คิดเรื่องชู้สาวนะคะ พลอยเป็นแฟนคลับของอาจารย์ค่ะ” เธอพยายามอธิบาย

“ขอโทษนะคะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง

ณัชชาเดินเข้ามาในห้อง สวมชุดกราวน์สีขาวทับเสื้อเชิ้ตสีชมพูด้านใน ใบหน้าเรียบเฉียบ

“คุณกำลังอยู่ในห้องพักของหัวหน้าศัลยแพทย์ ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาโดยไม่มีเหตุจำเป็น”

พยาบาลพลอยหน้าเจื่อน แต่ยังพยายามรักษายิ้มไว้

“แค่เอากาแฟมาฝากเฉยๆ ค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะ...” เธอพูดไม่ทันจบบ ณัชชาก็เดินเข้ามาหยุดข้างโต๊ะ ทำท่าคล้ายจะหยิบแฟ้มบนโต๊ะ

แต่สายตากลับจ้องอีกฝ่ายตรงๆ

“งั้นก็เลือกค่ะ จะออกจากห้องนี้ หรือจะออกจากโรงพยาบาล”

พยาบาลสาวหุบยิ้มทันที สีหน้าตื่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับ

เมื่อประตูปิดลง ณัชชาหันไปมองภีมวัชที่นั่งนิ่งเช่นเดิม

“คราวนี้แค่แฟนคลับ”

“ผมแค่ไม่ชอบคนบุกรุกและวุ่นวายในเวลาพักของผม” เขาพูดขณะกลับไปอ่านเอกสารเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ณัชชาเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้ถามต่อ เพียงแค่ยิ้มบางๆ เธอเองก็ไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกอะไรมากไปกว่านี้ เพราะกลัวเป็นอย่างพยาบาลสาวๆ ที่ถูกเขาปฏิเสธจนบางคนถึงขั้นลาออกหนีอายเลยก็มี

************************

ฝ้ายสีคราม

สปอยล์เนื้อเรื่อง..... แรกๆ พระเอกเรายังคงหยอกน้องเล่นๆอยู่นะคะ แต่ความแซ่บมันจะเกิดหลังแต่งงานกันค่ะ น่าจะประมาณตอนที่ 60+ ขึ้นไป ใครรอฉากหนุบหนับ NC ห้ามพลาดนะคะ

| 1
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 130 ตอนจบ

    เช้าวันใหม่ อิงลดาค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธออยู่ในอ้อมกอดอุ่นของสามีที่ยังคงหลับสนิท แขนแข็งแรงของเขาโอบรอบเอวเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าจะสูญเสียเธอไปอิงลดายิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน พลางมองใบหน้าหล่อเหลาในระยะใกล้ ใต้แววตาปิดสนิทนั้นคือความอ่อนล้า เธอรู้ดีว่าเมื่อคืนเขาอดกลั้นเพียงใด เพื่อให้เธอได้พักผ่อนอย่างเต็มที่“น่าเอ็นดูจัง” เธอพึมพำเบาๆ ราวกับบ่น แต่แฝงไว้ด้วยความรักเธอไม่อยากให้เขาทรมานอีกต่อไป จึงขยับตัวเข้าไปใกล้มากขึ้น ปลายจมูกแตะเบาๆ ที่แก้มเขา ก่อนจะกดจูบอุ่นไล้ไปตามกรอบหน้า จากนั้นริมฝีปากอ่อนหวานก็จรดลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบาภีมวัชขยับตัวเล็กน้อย ลมหายใจสะดุดไปชั่วขณะ ก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆ เปิดขึ้นเผยให้เห็นดวงตาคมที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและร้อนแรง“ลักหลับพี่เหรอ” เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยออกมา พลางยกมือมาประคองใบหน้าเธอไว้ อิงลดายิ้มเขิน ใบหน้าขึ้นสีจัดแต่ก็ไม่ปฏิเสธ เธอก้มลงจูบเขาอีกครั้ง คราวนี้ยาวนานกว่าเดิม คล้ายเป็นการยอมรับอย่างเงียบๆภีมวัชถอนหายใจแผ่วๆ ดวงตาทอแววปรารถนา แต่ก็มีความกังวลอยู่ในใจว่าภรรยาจะเป้นอันตราย“หมอไม่ได้บอกว่าห้ามนี่คะ อีกอย่างพี่ภีมก็เป็นหมอ

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 129 งานฉลองสมรส

    เมื่อแขกผู้ใหญ่ทยอยกลับ เหลือเพียงบรรดาเพื่อนฝูง ญาติสนิท และเพื่อนร่วมงานใกล้ชิด บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงเปลี่ยนจากความเป็นทางการมาเป็นความครึกครื้นสนุกสนาน ดนตรีถูกปรับให้เร้าใจขึ้น แสงไฟหลากสีสาดไปทั่วฟลอร์ราวกับเปลี่ยนเป็นคลับหรูอิงลดาเปลี่ยนเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สั้นระยิบระยับ โชว์เรียวขาสวยพอประมาณ ข้างกายคือภีมวัชที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนพับกับกางเกงเข้ารูป ดูหนุ่มเท่แต่ก็ยังคงความสุขุม“ชุดนี้พี่ไม่โอเค โป๊ไป”“ครั้งเดียวในชีวิต ไม่สวยเหรอคะ”“สวยสิ เจ้าสาวสวยเกินไปแล้วคืนนี้” ภีมวัชก้มกระซิบที่ข้างหู ทำเอาอิงลดาหน้าแดงจัด ก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วกระซิบข้างหูของศัลยแพทย์หนุ่ม“ชุดนี้ ฉีกง่ายนะคะ ข้างในเป็นตาข่าย อิงกะจะให้พี่ภีมได้ฉีกมันคืนนี้”เขายิ้มกว้าง แววตาเต็มไปด้วยความพอใจ รู้ว่าภรรยาตั้งใจยั่ว แต่เธอท้องอยู่เขาจะกล้าลงมือหรือหมอหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย ดึงเธอขึ้นไปกลางฟลอร์เต้นรำ จังหวะดนตรีสนุกๆ ดังขึ้น เพื่อนๆ ก็ตบมือเชียร์กันสนั่น“วู้! หมอภีม เต้นเป็นด้วยเหรอนั่น” เพื่อนหมอชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา หมอนุ่นยืนหัวเราะพลางยกแก้วไวน์ “ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่เราเห็นในห้องผ่าต

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 128 สายเกินคว้า

    สินีรัตน์ไม่พูดอะไรทันที แต่หยิบซองสีน้ำตาลจากมือ เดินเข้าไปหาเขา ก่อนจะโยนใส่หน้าเขาเต็มแรงจนเอกสารข้างในกระจายเกลื่อนพื้น“นี่คือสิ่งที่คุณอยากได้ไม่ใช่เหรอ เอกสารฟ้องหย่า” น้ำเสียงเธอเย็นชา จ้องมองเขาอย่างไม่เหลือเศษเสี้ยวความรักในแววตา “แล้วคุณเคยบอกเองว่าไม่อยากมีลูก ไล่ให้ฉันไปทำแท้ง วันนี้คุณคงสมใจแล้ว เด็กไม่อยู่แล้ว ชีวิตคู่ก็ไม่มีเหลืออีกต่อไป”ภาณุยกมือสั่นๆ จะเอื้อมไปหาเธอ “สินี ผม…”เขายังพูดไม่จบ สายตาเย็นเฉียบของเธอตัดคำพูดเขาทันที ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักกลับกลายเป็นเย็นชาและเกลียดชัง“อย่าเรียกชื่อฉันด้วยน้ำเสียงแบบนั้นอีก ตั้งแต่วันนี้ไป เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว” เธอกล่าวชัดถ้อยชัดคำ เธอหันหลังกลับ เดินเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองแม้เพียงเสี้ยววินาที ทิ้งเขาไว้กับกองเอกสารบนพื้น และแก้มที่ยังแสบร้อนจากรอยตบประตูบ้านปิดลง เหมือนตอกย้ำความจริงว่าเขาได้สูญเสียเธอไปตลอดกาลแล้วเขายืนนิ่งอยู่หน้าบ้านราวกับถูกถอนวิญญาณออกไปทั้งร่าง สายตายังคงจับจ้องไปที่ประตูซึ่งไม่มีทางเปิดออกมาให้เขาได้เห็นใบหน้าของเธออีกคนขับรถที่ยืนรออยู่ใกล้ๆ มองนายหนุ่มด้วยความลังเล ก่อ

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 127 ความจริงที่ไม่อยากยอมรับ

    เสียงรถที่แล่นผ่านหน้าบ้านสวนออกไปทำให้ภาณุชะงัก เขาจำได้ทันทีว่ารถคันนั้นเป็นของครอบครัวสินีรัตน์ หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น เขารีบรุดเข้าไปในบ้าน เห็นบิดาและมารดานั่งอยู่ในห้องรับแขก บรรยากาศเงียบกดดันจนเขาไม่กล้าเอ่ยทัก สองสามีภรรยามองตรงไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะปรายตาใส่ลูกชายที่เพิ่งกลับถึงบ้าน“สินีล่ะครับ อยู่ข้างบนหรือเปล่า” เขาถาม แต่ไม่ได้รับคำตอบ ก่อนจะรีบก้าวขึ้นบันไดเมื่อรู้ว่าคงไม่ได้รับคำตอบง่ายๆเมื่อเปิดประตูห้องนอนออก ภาพที่เห็นทำให้เลือดในกายเย็นวาบ ห้องโล่งผิดปกติ ตู้เสื้อผ้าแทบว่างเปล่า เครื่องสำอางและของใช้ส่วนตัวไม่มีเหลือแม้ชิ้นเดียว ราวกับเจ้าของห้องไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน“ไม่จริง” เขาพึมพำ ก่อนหันหลังวิ่งลงมา หยุดยืนตรงหน้ามารดาที่นั่งเงียบอยู่ “แม่ ของของสินีหายไปหมด แม่รู้ใช่ไหมว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น”นงนาถถอนหายใจยาว สีหน้าเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “เมื่อกี้พ่อแม่ของหนูสินีเพิ่งมาเก็บของส่วนที่เหลือไป”“ส่วนที่เหลือ… หมายความว่าอะไรครับแม่” ภาณุถามเสียงแผ่วเหมือนไม่อยากได้คำตอบ“ก็หมายความว่าก่อนหน้านี้หนูสินีเก็บของกลับไปเกือบหมดแล้ว วันนี้เขาเพิ่งมาเอาที่เหลือให้เ

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 126 ไม่น้อยหน้า

    ทันทีที่รถตู้แล่นเข้าสู่กรุงเทพฯ และแวะพักที่บ้านเพียงไม่นาน ดาริกาก็จะออกไปตรวจดูสถานที่จัดงานฉลองแต่งงานในวันพรุ่งนี้ทันที“แม่จะไปดูห้องจัดเลี้ยง แม่อยากให้แน่ใจว่างานทุกอย่างพร้อม” ดาริกาพูดขณะก้าวลงจากรถ สีหน้ามีร่องรอยความกังวลชัดเจนภีมวัชเดินเคียงข้างภรรยา เอื้อมมือกุมมืออิงลดาเบาๆ พลางเหลือบตามองมารดา“นี่ก็เย็นมากแล้วนะครับ แม่ก็อย่ากังวลเกินไปเลยครับ ออแกไนเซอร์มืออาชีพทั้งนั้น เขาคงไม่พลาดเรื่องใหญ่แบบนี้หรอก”“แม่ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ หรอกลูก” ดาริกาส่ายหน้าอย่างเคร่งเครียด งานที่เชียงใหม่จัดอลังการเกินคาด งานที่กรุงเทพเธอจะไม่ให้ลูกสะใภ้น้อยหน้า“งานใหญ่ทั้งที แขกผู้ใหญ่ในวงสังคมจะมาร่วมเยอะมาก ถ้ามีอะไรผิดพลาดนิดเดียว คนเขาก็จะเอาไปพูดต่อกัน อีกอย่างแม่อยากให้อิงมีความสุขที่สุด”“เพิ่งมาถึง พักก่อนเถอะครับ” พิทักษ์กล่าวด้วยความกังวล อารีย์เองก็มองด้วยแววตาที่ร้องขอ แต่ดาริกาก็กังวลใจ เพราะเธอเป็นแม่งานในครั้งนี้“ถ้าคุณแม่ไม่สบายใจ งั้นเราก็ไปดูด้วยกันเถอะค่ะ” อิงลดาหันมามองสามีแล้วอมยิ้ม ก่อนจะหันไปบอกบุพการีของตน“คุณพ่อคุณแม่ก็พักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวอิงกับพี่ภีมไปดูห้องจัดง

  • กลรักคุณหมอแสนร้าย   ตอนที่ 125 อ้อมกอดที่อบอุ่น

    อิงลดานั่งอยู่บนเตียงในชุดนอนผ้าฝ้ายสีอ่อน ผมยาวสยายลงมาปรกบ่า ใบหน้าปราศจากเครื่องสำอาง เธอเอนตัวพิงหมอนกอดหมอนข้างเอาไว้เหมือนจะกันตัวเองจากใครบางคนที่กำลังยืนกอดอกจ้องอยู่“พี่ภีมจะยืนมองอีกนานไหมคะ” เธอเอ่ยเสียงเบา แต่แววตาหวานที่เหลือบมองทำให้ภีมวัชยิ่งรู้สึกใจเต้นแรง“พี่รอเวลานี้มาทั้งวันแล้วนะอิง อยากกอดเมียจะแย่” เขาเดินเข้ามาใกล้ เตียงส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ เมื่อเขาทิ้งตัวลงนั่งข้างเธอ“อิงรู้นะคะว่าพี่ไม่ได้แค่อยากกอดหรอก”เขาหัวเราะชอบใจก้มลงมองตาเธอใกล้ๆ “พี่สัญญาว่าจะดูแลอิง และดูแลลูกของเราให้ดีที่สุด ถึงจะห้ามใจไม่อยู่แต่พี่ก็จะพยายามหักห้ามใจไม่ให้เป็นอันตรายกับลูก” เขาพูดซึ้งแต่แฝงไปด้วยการพูดทีเล่นทีจริงอิงลดายิ้ม ดวงตาคลอด้วยน้ำใสๆ เพราะความซาบซึ้ง เธอเอียงหัวพิงไหล่สามีเบาๆ ภีมวัชกอดเธอแน่นขึ้น ก่อนที่เขาจะโน้มหน้าลงจูบหน้าผากเธออย่างแผ่วเบา แทนคำสัญญาที่ไม่ต้องเอ่ยเป็นถ้อยคำใดๆ“พักเถอะ วันนี้เราเหนื่อยกันมามากแล้วพี่ไม่แกล้งแล้ว” เขากระซิบ พลางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างเธอ “อิงรู้ว่าพี่ภีมไม่ได้แกล้งหรอก พี่น่ะหื่นจริง แต่ช่วงนี้อิงขอนะคะอิงเหนื่อยมากจริงๆ” “รู้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status